ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? – ตอนที่ 351 อี้จื่อจิ้นสิ้นชีพ

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ตอนที่ 351 อี้จื่อจิ้นสิ้นชีพ

ตอนที่ 351 อี้จื่อจิ้นสิ้นชีพ

อย่าประมาทพลังของสตรีโดยเด็ดขาด เมื่อชีวิตอยู่ในเหตุการณ์ระหว่างความเป็นความตาย มันก็มักจะกระตุ้นศักยภาพของคนในการเอาตัวรอดได้

แม้อี้จื่อจิ้นจะถูกแทงที่บั้นเอว ทว่านางในตอนนี้มีเพียงความคิดเดียวในหัว คือต้องมีชีวิตรอดไปให้ได้!

นางตะเกียกตะกายลุกขึ้นจากพื้นอย่างบ้าคลั่ง ไม่ว่ามือคว้าอะไรได้ ก็หยิบขว้างใส่มู่เจ๋อจิ่นอย่างไม่คิดชีวิต

จานฝนหมึก ม้านั่ง หนังสือล้วนปลิวว่อนไปทั่ว และไม่นาน ห้องตำราก็มีสภาพพังยับเยิน

มู่เจ๋อจิ่นไม่คิดว่าสตรีคนนี้จะบ้าคลั่งได้ถึงเพียงนี้ เขาเอี้ยวหลบของที่ลอยบินมาไม่หยุด แต่ไม่ทันระวัง เลยโดนม้านั่งที่นางเขวี้ยงมา

เขาโซเซล้มลงกับพื้น กระบี่ในมือลื่นหลุดไปด้านข้าง นัยน์ตาอี้จื่อจิ้นสั่นระริก คลานเข้าไปจะหยิบกระบี่

ในเวลานี้เองมู่เจ๋อจิ่นก็รู้เจตนาของนาง จึงคลานไปที่กระบี่ด้วยเช่นกัน

อี้จื่อจิ้นอยู่ห่างจากกระบี่ค่อนข้างมาก สุดท้ายก็ช้ากว่ามู่เจ๋อจิ่นไปหนึ่งก้าว ถูกเขาแย่งกระบี่ไปก่อน

ขาของมู่เจ๋อจิ่นเจ็บปวดมากจากการโดนกระแทก เขาฝืนทนความเจ็บปวดยืนขึ้น แทงกระบี่ไปที่อี้จื่อจิ้นอีกครั้ง

ครานี้อี้จื่อจิ้นไม่ได้หลบ เดิมทีนางถูกแทงที่บั้นเอวอยู่แล้ว และเสียเลือดไปมาก ประกอบกับตกใจหวาดกลัวเมื่อครู่ ทั้งยังปวดหน่วงตรงท้องด้วย นางไร้เรี่ยวแรงที่จะต่อต้านไปนานแล้ว

กระบี่แวววาวแทงเข้าหานาง นัยน์ตานางเปี่ยมล้นด้วยความเกลียดชัง ก่อนจะแข็งใจใช้แรงเฮือกสุดท้ายโถมตัวเข้าใส่มู่เจ๋อจิ่น

กระบี่ทะลุผ่านไหล่ของนาง ในขณะที่กรงเล็บนางยึดไหล่ของมู่เจ๋อจิ่นไว้แน่น และกัดเข้าที่ลำคอเขา

นางกัดขย้ำอย่างสุดชีวิตจนแทบกัดเนื้อของเขาหลุดออกมา ในปากเต็มไปด้วยเลือดคาวแดงฉาน

“อ๊าก!”

มู่เจ๋อจิ่นร้องด้วยความเจ็บปวด คว้าผมของนาง และพยายามกระชากหัวนางออกจากคอตัวเอง

ทว่าอี้จื่อจิ้นที่กำลังจะตายเป็นเหมือนผีดิบก็มิปาน แม้เขาจะกระชากผมนางจนหลุดออกมากำใหญ่ กระนั้นนางก็กัดคอเขาไม่ยอมปล่อย

มู่เจ๋อจิ่นโกรธเกรี้ยวมาก ยกเท้าถีบเข้าที่ท้องนาง คราวนี้อี้จื่อจิ้นไม่มีแรงอีกแล้ว นางล้มลงกับพื้น ตรงช่วงไหล่ เอวด้านหลังยังคงมีเลือดไหล กระโปรงช่วงล่างของนางก็ค่อยๆ ย้อมไปด้วยสีเลือด เด็กกำลังจะตายแล้ว

บนใบหน้านางยังคงเปื้อนไปด้วยเลือดของมู่เจ๋อจิ่น ดวงตาคู่นั้นจ้องตรงไปที่เขา และหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ฮ่าๆๆ มู่เจ๋อจิ่น ต่อให้ข้าจะเป็นผี ข้าก็ไม่ปล่อยเจ้าไปหรอก เจ้าต้องไม่ตายดีแน่!”

หลังจากพูดจบ นางก็ไร้ลมหายใจ ทว่าดวงตาคู่นั้นยังคงเบิกกว้าง ตายตาไม่หลับ

มู่เจ๋อจิ่นกุมคอที่มีเลือดไหลของตัวเองไว้ ก่อนเตะอี้จื่อจิ้นอีกสองครั้งด้วยความแค้น จากนั้นหยิบเชิงเทียน และจุดไฟเผาห้องหนังสือ

ห้องหนังสือมีการราดน้ำมันไว้ก่อนแล้ว หลังจากถูกจุดไฟ ไฟก็ลามขยายไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานทั้งห้องหนังสือก็เกิดไฟลุกท่วมขึ้นมา

ไฟโหมลุกไหม้ห้องหนังสือ เช่นเดียวกับลานด้านหน้าที่โกลาหลวุ่นวาย

มู่ฉินเจินนำคนเข้าไปในตำหนักอ๋องรุ่ย ทว่ามู่เจ๋อจิ่นได้เตรียมการไว้ก่อนแล้ว เขาแอบให้คนมาดักซุ่มโจมตี และตั้งเป็นด่านกลไว้มากมาย เมื่อพวกมู่ฉินเจินเข้ามาในลานบ้าน ก็ต้องเข้าปะทะกับอีกฝ่าย

ครานี้มู่เจ๋อจิ่นเดิมพันทุกอย่างที่มี แสดงไพ่ไม้ตายของตัวเองออกมา คนที่แอบซุ่มโจมตีต่างก็มีวรยุทธ์ล้ำเลิศ คนของทั้งสองฝ่ายสู้กันอย่างสูสี

หลังหลบห่าลูกธนูห่าแล้วห่าเล่า คนของมู่ฉินเจินก็จับศัตรูได้สำเร็จ แต่เมื่อเข้าไปถึงห้องหนังสือ ไฟได้ลุกท่วมหมดแล้ว จนกระทั่งพวกเขาดับไฟเสร็จ ก็พบเพียงศพที่ไหม้เกรียมร่างหนึ่งเท่านั้น

มู่ฉินเจินมองศพที่เห็นได้ชัดว่าเป็นสตรีด้วยท่าทางเคร่งขรึม ก่อนสั่งลูกน้อง “รีบปิดประตูเมืองทุกแห่ง ตรวจสอบทุกคนที่ผ่านไปมาอย่างเคร่งครัด!”

ในห้องหนังสือแห่งนี้ต้องมีทางลับแน่ มู่เจ๋อจิ่นหลบหนีออกจากทางลับไปแล้ว!

จากการที่พวกเขาพบเข้ากับการซุ่มโจมตีเมื่อมาถึงตำหนักอ๋องรุ่ย มู่เจ๋อจิ่นได้เตรียมพร้อมหลบหนีไปแล้ว นักฆ่าที่เข้ามาโจมตีตรงลานหน้าบ้านระลอกแล้วระลอกเล่า เป็นเพียงแค่การถ่วงเวลาให้เขา

และศพสตรีคนนี้ พิจารณาจากรูปร่างของนางแล้วก็เป็นหญิงมีครรภ์ ซึ่งน่าจะเป็นอี้จื่อจิ้น บนตัวนางยังมีบาดแผลจากคมกระบี่อย่างชัดเจน น่าจะตายก่อนถูกเผา

เขารู้สึกไม่เข้าใจเล็กน้อย เหตุใดมู่เจ๋อจิ่นถึงฆ่าคนที่กำลังตั้งท้องทายาทของเขาเอง?

ห้องหนังสือถูกลูกน้องที่มู่ฉินเจินพามาค้นหาอย่างละเอียด และเจอทางลับเข้าจริงๆ

แต่เมื่อพวกเขาเข้าไปตรวจสอบในทางลับ กลับพบว่ามันเต็มไปด้วยกับดัก หากไม่ระวังก็อาจโดนลูกศรที่ซ่อนอยู่เจาะทะลุได้

มู่ฉินเจินรื้อค้นตำหนักอ๋องรุ่ย และจับคนทั้งตำหนักขังไว้ในคุก ในเวลาเดียวกัน จวนอัครเสนาบดีก็ถูกปิดล้อม

หลังจากจัดการพวกนี้เสร็จ องค์รัชทายาทก็เข้าวังไปรายงานสถานการณ์แก่ชายชรา ครั้นชายชราได้ยินว่าลูกชายอกตัญญูของเขาเข้าร่วมกองกำลังชาวตงอิ๋งเพื่อยึดบัลลังก์เขา แถมยังจะยกดินแดนให้พวกตงอิ๋งด้วย ก็กริ้วมากจนเกือบทำลายห้องทรงอักษรทิ้ง!

มู่เจ๋อจิ่นหนีไปแล้ว จวนอัครเสนาบดีตกต่ำ แม้อัครเสนาบดีจะมีใจคิดโต้แย้งปกป้องตัวเอง ทว่าการหลบหนีของมู่เจ๋อจิ่นก็พิสูจน์ความผิดของเขาได้ ต่อให้เขาอธิบายแค่ไหนก็มีพิรุธ บางทีเขาควรสารภาพผิดอย่างตรงไปตรงมา อาจจะสามารถอ้อนวอนฝ่าบาทให้ลงโทษเบาลงได้

ในเวลานี้อัครเสนาบดียังไม่รู้ว่าลูกสาวของเขาและหลานชายในครรภ์ที่ยังไม่ได้ออกมาลืมตาดูโลกถูกมู่เจ๋อจิ่นสังหารไปหมดแล้ว และพวกเขายังถูกเผาจนเป็นศพไหม้เกรียมด้วย

ครอบครัวของอัครเสนาบดีถูกจับเข้าคุก มู่ฉินเจินสั่งให้คนนำศพอี้จื่อจิ้นไปวางไว้ตรงหน้าพวกเขา อัครเสนาบดีกับหลู่ซื่อมองศพไหม้เกรียมนั้นก็ซวนเซแทบจะเป็นลม

หลู่ซื่อกรีดร้องคร่ำครวญ ไม่อยากเชื่อเลยว่าลูกสาวนางจะกลายเป็นอย่างตอนนี้

“ไม่ใช่ นี่ไม่ใช่ลูกสาวข้า นางไม่ใช่จื่อจิ้น!”

แต่เมื่อนางเห็นต่างหูแก้วหลิวหลีคู่นั้นบนซากศพ นางก็หลอกตัวเองไม่ได้อีก ต่างหูคู่นี้เป็นเครื่องประดับที่ลูกสาวนางชอบที่สุด ซึ่งนางสวมมันเกือบตลอดเวลา

อัครเสนาบดีเองก็น้ำตาไหลเช่นกัน ตอนที่ถูกนำตัวเข้าคุก เขายังคิดว่า ท่านอ๋องรุ่ยน่าจะพาลูกสาวของเขาหนีไปด้วย ตราบใดที่ลูกในท้องของลูกสาวเขายังอยู่ สกุลอี้ของพวกเขาก็ยังมีความหวัง

แต่เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่า สัตว์ร้ายตัวนั้นจะโหดร้ายถึงขนาดฆ่าภรรยาและลูกของตัวเอง!

พวกเขาไม่รู้ว่าลูกในท้องของอี้จื่อจิ้นหาใช่ลูกของมู่เจ๋อจิ่น ยามนี้พวกเขาทั้งหมดจมอยู่ในความโศกเศร้าไม่รู้จบ และแทบอยากฉีกมู่เจ๋อจิ่นทั้งเป็น!

อ๋องรุ่ยผู้อ่อนแอ ขี้โรค ไร้ชื่อเสียงกลับมีใจคิดการก่อกบฏ เมื่อจวนอัครเสนาบดีที่มีฐานะสูงส่งดับพังลง พวกชาวตงอิ๋งก็ต้องการรุกรานเทียนลี่ของพวกเขา เพื่อผลัดแผ่นดิน…

ข่าวอันน่าตระหนกตกใจเหล่านี้แพร่กระจายไปทั่วประเทศ ไพร่ฟ้าเต็มไปด้วยความแค้นขุ่นเคือง อยากจะฆ่าพรรคพวกของอ๋องรุ่ยเสียให้สิ้น

ตอนนี้ทั่วทั้งอาณาจักรกำลังตามหามู่เจ๋อจิ่นที่หลบหนี รวมถึงจับกุมชาวตงอิ๋งที่ยังคงพเนจรอยู่ในเทียนลี่ พลันสถานการณ์ทั้งอาณาจักรก็ตึงเครียดขึ้นมาทันที

ฮ่องเต้เฒ่ามีคำสั่งให้เสริมการป้องกันตามแนวชายฝั่ง และส่งเอกอัครราชทูตไปตรวจสอบด่านศุลกากรต่างๆ หากพบว่ามีการทุจริตหรือละเมิดกฎหมาย ก็จัดการตามกฎหมายได้เลย

มู่เจ๋อจิ่นหลบหนีไปจนถึงตอนนี้ยังจับไม่ได้ มู่ฉินเจินคาดเดาว่าในเมื่อเขาสมรู้ร่วมคิดกับคนตงอิ๋ง ก็น่าจะหลบหนีไปออกนอกเขตแดน จึงสั่งให้คนไปซุ่มโจมตีที่ด่านศุลกากร แต่กลับไม่พบคนเลย

เฉียวเยี่ยนรู้สึกเสียใจเล็กน้อย หลังจากสอบสวนอยู่นาน ในที่สุดก็มีข้อกล่าวหาชัดเจนที่จะลงโทษเขาได้แล้วจริงๆ แต่ไม่คิดเลยว่าปลาเจ้าเล่ห์ตัวนี้จะซ่อนตัวลึกขนาดนี้ แถมยังปล่อยให้เขาหนีไปได้อีก!

ผู้บงการหนีไปแล้ว แต่พรรคพวกของเขายังคงรออยู่ที่เดิมอย่างโง่เขลา โดยคิดว่าอย่างน้อยเจ้านายของพวกเขาจะแจ้งให้พวกเขาทราบ กลับไม่คิดเลยว่าเขาจะปล่อยให้พวกเขาเป็นแพะรับบาปโดยไม่คิดถึงอดีตร่วมกันเลยแม้แต่น้อย

การตายของลูกสาวอันเป็นที่รัก ส่งผลกระทบต่ออัครเสนาบดีอย่างมาก เขาจึงสารภาพทุกอย่างที่เขารู้ออกมาหมด และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดถูกจับกุมและนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

จะว่าไปก็สงสารคุณหนูอี้เหมือนกันนะ ไม่สมหวังสักอย่าง กระทั่งตายยังตายตาไม่หลับและตายแบบศพไม่สวย

ไหหม่า(海馬)

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

Status: Ongoing
หลังตกภูเขาตายก็ได้มาเกิดใหม่ในร่างชายาอ๋องผู้ถูกเนรเทศที่กำลังคลอดบุตร​ แถมได้อยู่ในบ้านอันรกร้างมีแค่ที่ดินเปล่าๆ​ ผืนหนึ่งและระบบตัวช่วยชาวสวนที่จ้องแต่จะหักแต้มหากขี้เกียจ ต่อจากนี้ฉันจะทำยังไงดี?เรื่องย่อ: หลังพลัดตกภูเขาลงมาตาย​ วิญญาณของเฉียวเยี่ยนก็ได้มาเข้าร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอดบุตร​อย่างไม่ทันตั้งตัว​ พอตั้งตัวได้ก็ต้องปวดหัวกับเรื่องที่พบเจอ​ ได้แก่…​ 1.ตนเป็นชายาอ๋องที่มีความผิดฐานบังคับจิตใจสามีจนถูกเนรเทศ​มาอยู่ในบ้านโกโรโกโสแห่งนี้​ 2.ตนมีลูกกับเขาผู้นั้นแล้ว​ และยังเป็นลูกแฝด​ชายหญิง 3.ตนมีระบบปลาเค็มคอยเป็นผู้ช่วยในภารกิจต่างๆ​ ติดตัวมาด้วย​ แต่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าหนี้นอกระบบมากกว่า​ ถ้าไม่ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวก็จะโดนหักแต้มเฉียวเยี่ยนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องงัดวิชาความรู้ทั้งหมดมาใช้ในการทำสวน​ หาเลี้ยงลูก​ สร้างฐานะให้ตัวเอง… ลำพังตัวข้าคนเดียวก็ทำได้โดยไม่ต้องพึ่งสามีอ๋องโบ้ผู้นั้นกระมัง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท