ตอนที่ 363 เตรียมจัดการปัญหา
ตอนที่ 363 เตรียมจัดการปัญหา
เฉียวเยี่ยนพาระบบตัวน้อยไปยังค่ายของทหารแคว้นเป่ย ซึ่งค่ายอยู่ห่างจากด่านหลานเยว่แค่ยี่สิบลี้ กล่าวได้ว่าเป็นการอวดดีอยู่พอสมควร
รอบค่ายทหารยังมีคนเลี้ยงสัตว์ท้องที่ใช้ชีวิตอยู่ สองสามวันมานี้มีทหารแคว้นเป่ยจับสตรีเข้าไปในค่าย บอกว่าให้ไปช่วยซักผ้าให้พวกทหารบวกกับทำงานอย่างอื่นด้านในด้วย
เฉียวเยี่ยนรู้สึกใจสั่นไหว คิดว่านี่เป็นโอกาสของตัวเอง นางสามารถพาระบบตัวน้อยปะปนเข้าไปได้ อีกทั้งสภาพในตอนนี้ของพวกนาง เกรงว่าชายเหล่านั้นในค่ายคงทำไม่ลงหรอก
ทหารแคว้นเป่ยกลุ่มเล็กกลุ่มหนึ่งกำลังจับลูกสาวของชายแก่เลี้ยงสัตว์คนหนึ่ง ชายแก่ร้องไห้หลั่งน้ำตาอย่างเจ็บปวด แม้จะถูกถีบไปหลายหนก็ยังปกป้องลูกสาวไว้ไม่ปล่อยมือ
ทว่าเขาคนเดียวมิอาจสู้คนกลุ่มหนึ่งได้ ครู่เดียวลูกสาวก็ถูกแย่งตัวไป เด็กสาวที่ดูมีอายุราวสิบเจ็ดสิบแปดก็ต่อต้านสุดกำลัง ดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง กัดทหารแคว้นเป่ยที่มาจับนางไปทีหนึ่ง ทำให้ทหารที่อยู่ข้างๆ คว้าหินมาทุบศีรษะนาง
เมื่อศีรษะโดนหินทุบ เลือดแดงสดก็ไหลอาบออกมา คนก็ล้มหมดสติไป ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย
ชายชราพุ่งเข้าไปกอดลูกสาวไว้พลางร้องไห้โฮเสียงดัง แต่พวกทหารแคว้นเป่ยต่างก่นด่าด้วยสีหน้ารังเกียจ
พวกเขาออกมาจับคน หนึ่งคือเพื่อให้พวกนางทำงานให้ อีกอย่างย่อมเป็นการนำมาปรนนิบัติพวกเขา
แม้พวกเขาจะจับคนของเทียนลี่มาเป็นตัวประกันไม่น้อย ทว่าท่านแม่ทัพกลับไม่ให้พวกเขาแตะต้อง พวกเขาจึงทำได้เพียงออกมาจับคนร่วมชาติไปแทน
ครั้นเฉียวเยี่ยนมองทหารแคว้นเป่ยกลุ่มนี้ที่เหมือนสัตว์เดรัจฉาน ในใจก็หนาวเยือกขึ้นมาเป็นระลอกๆ แม้แต่คนร่วมชาติก็ไม่เว้น ช่างเลือดเย็นยิ่งนัก
นางให้ระบบตัวน้อยทำการตรวจสอบเด็กสาวที่หมดสติไป ก็พบว่ายังมีชีวิตอยู่ เพียงแค่หมดสติไปก็เท่านั้น
ทหารแคว้นเป่ยกลุ่มนี้เห็นเลือดไหลอาบหน้าคน ก็ไม่พานางไปอีก และจากไปพร้อมกับก่นด่า
เฉียวเยี่ยนกับระบบตัวน้อยเหลือบมองกัน และเข้าใจกันโดยปริยาย เดินไปทางกลุ่มทหารแคว้นเป่ยที่จากไป
เฉียวเยี่ยนยังคงแสร้งทำเป็นใบ้ ทำทีเป็นหดหัว สายตาหลุกหลิกเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ส่วนระบบตัวน้อยหาหัวหน้าทหาร เปิดปากน้อยเริ่มเอ่ยอย่างน่าสงสารอีกครั้ง “ท่านแม่ทัพ ขอท่านพาเราเข้าไปในค่ายทหารด้วยเถิด งานอะไรพวกเราก็ทำได้หมด ขอแค่ให้ข้าวกินก็เพียงพอแล้ว”
เฉียวเยี่ยนกับระบบตัวน้อยหมอบอยู่หน้าพวกเขา ก้มศีรษะติดพื้น พวกทหารแคว้นเหนือจึงไม่เห็นรูปร่างหน้าตาพวกนาง
ไม่คิดเลยว่าจะยังมีคนเสนอหน้ามาหาถึงที่!
พวกทหารแคว้นเป่ยต่างตื่นเต้นยินดี รูปร่างสองแม่ลูกนี้ดูจะไม่เลวเลย คนเล็กแม้จะอายุน้อยไปหน่อย ทว่ายิ่งเด็กก็ยิ่งนุ่ม!
หัวหน้ากลุ่มที่นำหน้าสุดเผยยิ้มกริ่มออกมา และเอ่ยสั่ง “เงยหน้าขึ้น!”
เฉียวเยี่ยนกับระบบตัวน้อยเงยหน้าขึ้นมาอย่างเชื่อฟัง และจ้องมองชายเหล่านั้นอย่างหวาดกลัวและน่าสงสาร
วินาทีที่สบตากัน พวกทหารแคว้นเป่ยต่างเงียบไป และมีคนหนึ่งไม่ระวังเผลอสำลักน้ำลายตัวเองจนหน้าดำหน้าแดง
นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย?
หน้าตาทุเรศทุรังเกินไปหน่อยแล้ว!
คนสองคนที่เหมือนจะดูดีไฉนถึงมีปานบนหน้าได้ ทั้งดำทั้งม่วง เห็นแล้วน่าขยะแขยงจริงๆ
หัวหน้ากลุ่มนิ่งไปอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะได้สติกลับมา รอยยิ้มกริ่มก่อนหน้านี้หายไปทันที และแทนที่ด้วยความรังเกียจ
เหตุใดจึงมีคนน่าเกลียดถึงขนาดนี้ได้ ต่อให้ดับเทียนหรือคลุมหน้า ความงามกับความน่าเกลียดก็เป็นสิ่งเดียวกัน แค่นึกถึงใบหน้านี้ขึ้นมาก็หมดความอยากอาหาร แล้วจะเอาอะไรมาแข็ง!
เดิมทีหัวหน้ากลุ่มไม่อยากจะสนใจสองแม่ลูกคู่นี้ แต่เมื่อนึกว่าพวกเขายังจับคนมาได้ไม่พอ จึงทำได้เพียงกล้ำกลืนฝืนทนพาพวกนางกลับมาด้วย
ด้วยเหตุนี้ เฉียวเยี่ยนกับระบบตัวน้อยจึงเข้าไปในค่ายทหารแคว้นเป่ยได้สำเร็จหลังผ่านการซักประวัติมาแล้ว
เพียงแต่พวกนางได้เป็นแค่ทาสที่รับหน้าที่ซักผ้าให้ทหาร และได้อยู่แค่กับทาสคนอื่นในกระโจมหลังหนึ่งเท่านั้น ยากจะเข้าไปเขตชั้นในค่ายได้
วันแรกที่มาถึงค่ายทหาร เฉียวเยี่ยนกับระบบตัวน้อยก็เริ่มต้นการซักผ้าอัน ‘วิเศษ’ ของพวกนาง
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคนแคว้นเป่ยกินเนื้อวัวเนื้อแกะเป็นประจำหรือไม่ บนเสื้อผ้าถึงได้มีกลิ่นสาบและกลิ่นเหม็นเหงื่อ
เฉียวเยี่ยนกับระบบตัวน้อยซักผ้าไปด้วย สำรวจข้อมูลรอบๆ ไปด้วย
ระบบตัวน้อยสามารถสำรวจสถานการณ์ได้ในระยะรัศมีสองสามร้อยเมตร ขอแค่พวกนางวิ่งไปสองสามที่ ก็จะพอเข้าใจสถานการณ์คร่าวๆ ของค่ายทหารได้แล้ว
เนื่องจากรูปลักษณ์ภายนอกของทั้งสอง ‘ดีเกินไป’ ดังนั้นหลังจากเข้ามาในค่ายทหารก็ไม่มีใครสนใจพวกนาง ทั้งสองมีความสุขจนผ่อนคลาย เวลาส่วนใหญ่ก็ใช้จิตสื่อสารกัน ใช้ชีวิตจนกลายเป็นคนใบ้สองคน
หลังจากซักผ้ามาทั้งบ่าย จนถึงเวลารับประทานอาหาร สิ่งที่ทหารแคว้นเป่ยมอบให้พวกนางคือแป้งทอดที่ทั้งแห้งทั้งแข็ง เฉียวเยี่ยนกับระบบตัวน้อยไม่มีใครยอมกิน ต่างก็เก็บไว้ในมิติว่างของระบบตัวน้อย และถือโอกาสในตอนที่ปลอดคนหยิบอาหารที่เตรียมมาของตัวเองขึ้นมากิน
เวลานี้ ขนมอัดแท่งที่ปกติไม่ชอบกลับอร่อยกว่าแป้งทอดเย็นชืดนี้ไปไม่รู้ตั้งเท่าใด
ตอนกลางคืน คนในค่ายทหารเริ่มทยอยกันพักผ่อน มีเพียงหน่วยลาดตระเวนเท่านั้นที่ยังคงทำงานอยู่
เฉียวเยี่ยนกับระบบตัวน้อยก็กลับไปยังกระโจมของพวกนาง แต่ไม่คิดเลยว่าฟูกนอนของทั้งสองจะถูกยึดไปแล้ว
คนที่พักอยู่ด้วยกันกับพวกนางคือมนุษย์ป้าแคว้นเป่ยร่างอ้วนท้วมดูดุร้ายสี่คน บางทีอาจเห็นว่าเฉียวเยี่ยนกับระบบตัวน้อยหน้าตาอัปลักษณ์เกินไป ทั้งยังไม่พูดไม่จา ก็คิดว่าพวกนางรังแกได้ จึงไม่ให้พวกนางเข้ากระโจมไป
ความจริงกระโจมนี้เล็กเกินไป พวกนางพักกันอยู่สี่คนก็แน่นเต็มแล้ว เมื่อรวมพวกเฉียวเยี่ยนสองคนเข้าไปด้วยอีก แม้แต่ทางเดินก็จะไม่มีแล้ว
เฉียวเยี่ยนรู้สึกปิติยินดีมาก กำลังกลุ้มอยู่เลยว่าจะหลบเลี่ยนสายตาคนพวกนี้ไปจัดการเรื่องบางอย่างอย่างไร ก็ถูกไล่ออกมาพอดี
ทว่านางกับระบบตัวน้อยยังคงต้องแสร้งทำเป็นน่าสงสารต่อไป จึงแสดงท่าทางขี้ขลาดและหวาดกลัวออกมา อีกทั้งยังแสดงท่าทางไม่เต็มใจนัก ในที่สุดก็ถูกไล่ออกมากระโจมค่ายภายใต้การข่มขู่ของพวกท่านป้า
พวกนางยังไปฟ้องทหารที่ลาดตระเวนด้วย แต่เห็นได้ชัดว่าทหารแคว้นเป่ยพวกนี้ไม่อยากสนใจพวกนาง จึงปล่อยให้พวกนางแยกย้ายกันไป
เฉียวเยี่ยนกับระบบตัวน้อยกลายเป็นแมลงน่าสงสารที่ไม่มีที่หลับนอนได้สำเร็จ ขณะพวกป้าๆ กำลังหลงระเริงอย่างภูมิอกภูมิใจ เฉียวเยี่ยนกับระบบตัวน้อยก็มีสีหน้าเสียใจ ทว่าในใจกลับปีติยินดีอย่างมาก
เยี่ยมไปเลย! ขจัดปัญหาในการไปจัดการเรื่องบางอย่างในคืนนี้เรียบร้อยแล้ว!
เฉียวเยี่ยนพาระบบตัวน้อยไปหาที่พักผ่อนก่อน รอจวบจนครึ่งค่อนคืน ตอนที่คนและม้าต่างเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าแล้วพวกนางค่อยลงมือ
วันนี้ตอนที่ซักผ้านางได้ไปสำรวจดูบ้างแล้ว ตรงริมแม่น้ำมีก้อนหินใหญ่อยู่สองสามก้อนที่สามารถกันลมได้หากไปหลบอยู่เบื้องหลัง
ตอนนี้เป็นช่วงกลางเดือนเก้าแล้ว ตอนดึกของแคว้นเป่ยจึงมีอากาศหนาวเย็น ผ่านไปอีกสักประมาณครึ่งเดือนหิมะก็จะเริ่มตก ลมเหนือพัดหวีดหวิวกลางดึก โชยมาต้องผิวหน้าจนรู้สึกเย็นเยือก
เฉียวเยี่ยนกับระบบตัวน้อยสวมเสื้อผ้าอบอุ่น ติดแผ่นแปะความร้อน ใส่เครื่องแบบแคว้นเป่ยห่อหุ้มไว้ชั้นนอกสุด แล้วทับด้วยเสื้อขนแกะอีกหนึ่งชั้น
แม้ใส่เสื้อผ้าห่อหุ้มร่างกายจนกลมเป็นลูกบอล ทว่าพวกนางก็อบอุ่นมาก และโชคดีกว่าคนสวมเสื้อผ้าชั้นบางในกระโจมที่ตัวสั่นสะท้านเพราะความหนาวมากนัก
ตอนบ่ายวันนี้ทั้งสองต่างก็ได้กินไม่เต็มอิ่ม จึงถือโอกาสตอนนี้กินของเสริมกำลังให้แก่ร่างกาย
ริมแม่น้ำที่พวกนางอยู่ตอนนี้คือรอบนอกค่ายทหาร บางครั้งจะมีทหารคอยลาดตะเวนผ่านมา ทว่าพวกนางแอบซ่อนอยู่หลังก้อนหินใหญ่ที่ปิดบังได้มิดชิดมาก
จวบจนระบบตัวน้อยสัมผัสได้ว่ามีคนมา พวกนางก็จะเก็บของเข้าไว้ในมิติว่าง เพื่อรับประกันว่าคนอื่นจะไม่พบเห็นอะไร
ในมิติว่างของระบบตัวน้อยเต็มไปด้วยสัมภาระของพวกนาง รวมทั้งของกินต่างๆ ที่เตรียมไว้ หลังจากเลือกกล่องข้าวอุ่นได้เองมาสองกล่อง ทั้งสองก็กินอาหารเลิศรสกันอย่างมีความสุขท่ามกลางลมหนาว
หลังจากกินอิ่มดื่มพอแล้ว เฉียนเยี่ยนก็กอดระบบไว้ในอ้อมแขนจนหลับไป แม้จะไม่คุ้นเคยสถานที่ และมีอันตรายรอบด้าน กระนั้นขอแค่ได้อยู่ด้วยกันกับโฮสต์ ระบบตัวน้อยคิดว่ารู้สึกปลอดภัยมากๆ แล้ว
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
แฝงตัวในค่ายศัตรูได้แล้วจะทำอย่างไรต่อไปหนอ จะส่งข่าวให้ทางองค์รัชทายาทวิธีไหนดี
ไหหม่า(海馬)