พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” – ตอนที่ 44

ตอนที่ 44

บทที่4ตอนที่14

 

「ถึงงั้นก็เถอะน้าเอะอะโวยวายกันแต่เช้าเลย~~」

 

 

มิมุรุเริ่มพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นหน้าประตูหลักของสถาบันเมื่อเช้า

 

 

หลังจากจบโฮมรูมคาบเช้า เรากำลังมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ฝึกซ้อมสำหรับภาคเรียนปฏิบัติ

 

 

พวกเรากำลังพูดถึงการทะเลาะกันของเควินห้อง 1 กับเคนห้อง 10 ที่หน้าประตูหลักตอนเช้า

 

 

ตอนแรกทางฝั่งเควินเป็นคนหาเรื่องก่อนและได้เข้าไปพัวผันกับ “หมอนั่น” ซึ่งอยู่ข้างๆเธอ

 

 

“เขา”

 

 

ชายหนุ่มที่อยู่จุดต่ำสุดของสถาบันที่กำลังเดินไปในเมืองด้วยสภาพเปื้อนเลือดเปื้อนโคลนยาวค่ำคืน เพราะเขาป่าไปคนเดียว เมื่อนึกถึงเขาทีไรก็หงุดหงิดทุกที

 

 

เดิมทีก็ค่อนข้างเกลียดหมอนั่นเพราะข่าวลือนั่นเอง แต่ยิ่งเกลียดเขามากกว่าเดิมเพราะเรื่องเมื่อวานเพราะทำตัวเองแท้ๆ

 

 

ตัวฉันที่กำลังจะตายเพราะทำเรื่องที่ไม่สมควรทำเมื่อสิบปีก่อนมันไหลมาซ้อนทับกับตัวเขา

 

 

ป่าฟอสซิลที่เราอาศัยอยู่เรียกได้ว่าเป็นป่าที่มั่งคั่งมากที่สุดในทวีป

 

 

10ปีก่อนการรุกรานป่าเราเป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์อย่างมาก

 

 

สัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่าที่คอยค้ำจุนป่าเหล่านั้น ภายใต้กระแสน้ำอันยิ่งใหญ่พวกนั้นก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

 

 

ครอบครัวฉันอยู่กัน 4 คน พ่อแม่และน้องสาวของฉัน

 

 

ในป่าที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา พ่อแม่ที่แสนอ่อนโยน น้องสาวที่น่ารักและเอลฟ์ด้วยกันเองต่างก็ใช้ชีวิตกันอย่างสงบสุขและความสุขเหล่านั้นไม่สามารถมีอะไรมาแทนได้เลย

 

 

อย่างไรก็ตามทุกสิ่งอย่างกลับ ถูกขโมยไป

 

 

บ้านของฉันและทั่วทั้งป่าต่างถูกห้อมล้อมด้วยเปลวเพลิง เพื่อนของฉันต่างถูกไฟคลอกตายและชีวิตของเหล่าป่าไม้ต่างล้มหายตายจาก

 

 

สัตว์อสูรปรากฏตัวต่อหน้าฉัน สัตว์ร้ายที่เป็นเหมือนคำสาปมรณาเป็นตัวตนอันแสนโสโครกที่สุดในชีวิต

 

 

ตัวฉันที่อยู่ต่อหน้าสัตว์อสูรตัวหน้า…………。

 

 

「ซีน่า!!」

 

 

「……อาาาาาาาาาาา」

 

 

「เป็นอะไรไป? อยู่ๆก็เงียบไป พวกเรามาถึงสนามซ้อมแล้วนะ」

 

 

เมื่อสังเกตรอบๆก็พบว่ามาถึงสนามซ้อมแล้ว รอบตัวฉัน เพื่อนร่วมชั้นก็เริ่มยืดกล้ามเนื้อเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้แบบกลุ่มและเช็คความสามารถของแต่ละคน

 

 

ฉันส่ายหัวและสลัดภาพในความทรงจำที่ย้อนกลับมา

 

 

ดูเหมือนว่าเขาจะทำให้ฉันนึกถึงวันเก่าๆ เพราะความเลิ่นเลอของเขาแท้ๆ

 

 

「……ขอโทษนะมิมุรุไม่เป็นไรหรอก。……ก็แค่เหนื่อยนิดหน่อย」

 

 

「……งั้นเหรอ? ถ้างั้นก็ดี……อย่าฝืนตัวเองมากเกินไปนะ?」

 

 

มิมุรุมองมาทางนี้ด้วยความกังวล มิมุรุมักจะสังเกตคนรอบข้างเก่ง ทำให้เธอเป็นคนที่อ่านบรรยากาศออกและเข้าหาได้ง่าย

 

 

ฉันไม่เคยเล่าถึงอดีตของตัวเองเลย

 

 

บางครั้งที่นึกถึงตัวฉันก็มักจะจมลงไปกับห้วงความคิดเหล่านั้น พวกเขาก็กังวลกับฉันแต่ว่าฉันไม่อยากจะพูดถึงมันจริงๆและฉันก็ไม่อยากจะนึกถึงความทรงจำแบบนั้นเลย ไม่อยากจะพูดถึงมันด้วย

 

 

「อืมเข้าใจแล้วล่ะ มิมุรุ ยังไงก็เรื่องเข้าป่าเมื่อวาน ฉันเองก็จะไปด้วย「เอ่อคือว่า?」……คุณคือ……」

 

 

จู่ๆฉันก็ถูกเรียก และเมื่อหันไปมองก็พบว่ามีนักเรียนชายคนหนึ่งคือ ฟีโอ ริซิสซ่าส์ ห้องเดียวกัน

 

 

「ก็รู้หรอกนะว่ามันไม่ดี~。ที่มาขัดจังหวะกำลังคุยกัน แต่ข้าน้อยมีเรื่องอยากจะถามจะได้ไหม?」

 

 

「ก็ได้อยู่หรอก………ว่าแต่มีอะไรงั้นเหรอ」

 

 

ฉันไม่เข้าใจเลยทำไมฟีโอถึงเข้าหาฉัน นักเรียนคนนี้ปกติมักจะขี้เกียจและไม่ค่อยยุ่งกับฉันสักเท่าไร ถึงยังงั้นเขาก็ทำแต่ในสิ่งที่ตัวเองสนใจ

 

 

ระหว่างเรียน เขาก็มักจะมองนอกหน้าต่างราวกับไม่สนใจอะไรเลยและฉันไม่รู้สึกถึงความจริงจังในการตั้งใจเรียนของเขาเลยแม้แต่น้อย

 

 

ฉันไม่ได้คิดอะไรกับเขามากนัก และฉันกับอาจารย์เองก็พยายามเตือนเขาบ่อยครั้ง แต่ว่าทำยังไงก็ไม่ดีขึ้นเลย

 

 

ถึงกระนั้นเขาเองก็มีความสามารสูงและข้อสอบเองก็ได้คะแนนดี ดังนั้นเขาถึงได้มาอยู่ในห้อง 2 ถ้าหากเขามีแรงจูงใจมากกว่านี้เขาอาจจะไปถึงห้อง 1 เลยก็ได้

 

 

บางครั้งฉันก็คิดว่าเขาเป็นคนเจ้าปัญหา แต่เขาไม่เคยคุยกับฉัน

 

 

อย่างไรก็ตาม เขาเริ่มพูดอย่างรวดเร็วไม่สนจิตใจอะไรเลย

 

 

「อันที่จริงนี่ก็เช้าแล้ว……ตอนเกิดความวุ่นวายที่เกิดขึ้นหน้าประตูหลัก ตอนนั้นเธออยู่ที่นั่นด้วยสินะ?」

 

 

「อือ แล้วทำไมเหรอ?」

 

 

「จริงๆแล้ว ข้าน้อยก็อยู่ที่นั่นด้วย อยากจะถามเกี่ยวกับเรื่องของ โนโซมุ・เบลาตี้หน่อยน่ะ」

 

 

โนโซมุ・เบลาตี้

 

 

พอได้ยืนชื่อนั้นหัวใจก็เต้นรัวอีกครั้ง

 

 

ไม่น่าแปลกใจ เพราะเห็นเขาที่ไรก็ทำให้นึกถึงวันวานเก่าๆ

 

 

 

 

「……ทำไมถึงมาถามเรื่องเขากับฉันล่ะ?」

 

 

「ไม่หรอก ข้าน้อยคิดว่าบางทีเธอน่าจะรู้อะไรเกี่ยวกับเขาเพราะตอนนั้นเธอเองก็ดูเป็นห่วงเขาใช่ไหมล่ะ」

 

 

“ฉันเป็นห่วง”

 

 

เมื่อได้ยินคำนั้นหัวใจฉันก็เต้นแรง

 

 

แน่นอนในตอนนั้นฉันเป็นห่วงเขาจริงๆ ตอนที่เห็นสภาพเขาเช่นนั้น ฉันโกรธกับพฤติกรรมบ้าๆอย่างเอาชีวิตตัวเองไปทิ้งที่สุด

 

 

แต่อันที่จริงความโกรธเหล่านั้นก็หายไปเพราะคำพูดสุดท้ายเมื่อวานที่เขาทิ้งไว้

 

 

คำพูดของเขาที่เขาพูดกับฉันเมื่อวานนี้

 

 

“ประมาณว่า ไม่มีใครช่วยนายได้เพราะนายเลือกที่จะทิ้งลิซ่าเอง”

 

 

ทันทีที่ฉันพูดแบบนั้นกับเขาท่าทีก็เปลี่ยนไป

 

 

จิตสังหารถูกปลดปล่อยออกมาจากสายตาของเขา มันทำให้ฉันถึงกับต้องแข็งทื่อขยับไม่ได้ไปชั่วขณะ และวินาทีต่อมาก็โดนเขามาคว้าคอเสื้อไว้

 

 

ใบหน้าของเขาในตอนนั้นมีความโกรธมากมายแสดงอยู่ จนฉันไม่สามารถพูดอะไรได้เลย

 

 

“เอ่อ!!! …………ขอโทษ……………”

 

 

แต่ว่าก็อยู่แบบนั้นชั่วขณะ

 

 

เขาปล่อยมือออกจากคอเสื้อของฉันและกล่าวขอโทษและขอบคุณฉัน พร้อมกับเดินออกจากห้อง

 

 

ในเวลานั้นคำพูดที่เขาออกจากห้องไปแล้วพึมพำออกมายังคงอยู่ในหูของฉัน

 

 

“……ผมไม่ได้ทำอย่างนั้น…………”

 

 

คำพูดนั่นมันทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดที่หน้าอกขึ้นมาทันที

 

 

คำพูดนั่นยังคงติดอยู่ในใจของฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดมากๆ

 

 

「……ก็ไม่นี่ เขาไม่ใช่เพื่อนของฉันสักหน่อย……ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขา……」

 

 

(โดยทั่วไปคงจะบอกได้ยากหากพาผู้ชายเข้าหอพักหญิงกลางดึก……)

 

 

…………สัมผัสอะไรไม่ได้เลย……。

 

 

ในใจบอกกับตัวเองแบบนั้นอยู่หลายครั้ง ฉันพยายามทำหน้านิ่งราวกับไม่คิดอะไร เลยตอบคำถามของฟีโอไปด้วยท่าทีสงบ แต่สุดท้ายเขาก็ตอบฉันจนทำให้ตัวฉันต้องสั่นสะท้าน

 

 

ดูเหมือนว่าฟีโอจะสนใจตัวเขาด้วยเหตุผลบางอย่าง หากเขาสนใจสิ่งใดเข้าเขาจะต้องรู้ให้ถึงที่สุดของที่สุด……。

 

 

「…………งั้นเหรอ ขอโทษละกันน้า~。จู่ๆก็ได้ยินเสียงแปลกๆขึ้นมาน่ะ」

 

 

「……เอ๊ะ?」

 

 

อย่างไรก็ตามฝั่งฉันที่แทบจะทรมานจากการกดดัน แต่ฟีโอดันตอบกลับด้วยท่าทางนิ่งๆและถอยกลับไป ฟีโอรีบหันหลังและเดินจากไป

 

 

「……อะไรกันละนั่น?」

 

 

「……อาาาา」

 

 

「อ้ออีกอย่างซีน่า เรื่องเข้าป่าน่ะ เรื่องเข้าป่าที่ซีน่าอยากจะได้ยินอะน้า?」

 

 

「อืมใช่เรื่องเข้าป่า เมื่อวานนี้ ไม่ได้ถามเลย」

 

 

「ก็ตกลงว่าจะไปวันนี้น่ะ ตอนนี้ทอมเองก็เตรียมของที่ต้องการไว้อยู่ด้วยนะ พรุ่งนี้เองก็เป็นวันหยุดด้วยและคิดว่าจะไปรับหลังเลิกเรียน โอเคไหม?」

 

 

「…อืม โอเค」

 

 

พรุ่งนี้วันหยุด เข้าป่าได้แน่นอน ที่รวบรวมวัตถุดิบเหมือนจะอยู่ใกล้ทางเข้าป่า แต่ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องที่ว่าไซคลอปส์โดนจัดการแล้ว และเมื่อพิจารณาจากเรื่องวานมันก็ช่วยไม่ได้

 

 

เรื่องราวจบลงแล้ว แต่สิ่งที่ฟีโอทำก่อนหน้านี้นั่น

 

 

ดูเหมือนฉันไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่เขาดูเหมือนจะได้ของเล่นชิ้นใหม่ และพยายามสนุกกับของเล่นชิ้นนั้นอยู่

 

 

(หวังว่าจะไม่ทำอะไรแปลกๆนะ……)

 

 

ฉันกังวลเกี่ยวกับความรู้สึกภายในอกคู่นี้ ฉันไม่รู้ว่าความรู้สึกนี่มันคืออะไร แต่ว่าก็ได้แต่ปล่อยมันไป

 

 

◇◆◇

 

 

「เวรเอ้ย! ไอ้หมาเวรนั่น!!」

 

 

เรากำลังเดินไปที่ห้องเรียนเพื่อเข้าโฮมรูมคาบเช้า ข้าไม่ได้โกรธเรื่องที่เกิดความวุ่นวายที่ประตูหลัก

 

 

「……นาาาา ใจเย็นได้แล้วนะ?」

 

 

「ทำไมล่ะ! โดนดูถูกเลยนะ! ทำไมถึงได้ทำเหมือนเป็นเรื่องปกติ!!ไม่คิดจะโกรธเลยรึไง?!」

 

 

「……เอ่อก็แค่ไม่สบายใจ。……แต่นายก็ช่วยออกรับแทนผมแล้วนี่」

 

 

「เอะ……」

 

 

「แต่ว่า……ยังไงก็ขอบคุณนะ……」

 

 

「อะอืม!」

 

 

เขาขอบคุณข้า

 

 

เขาหันหลังให้โนโซมุเพราะเขินอายและรีบเดินไปยังห้องเรียนอย่างรวดเร็ว

 

 

ความโกรธของข้าหายไปหลังจากได้รับคำขอบคุณจากเขา

 

 

「………………」

 

 

「………………」

 

 

เดินต่อไปเงียบๆสักพัก

 

 

เมื่อวานข้าจำได้ว่าพวกเราต่างก็พูดคุยกับไอริสและพองเพื่อน

 

 

ความต่างชั้นที่โนโซมุได้รับ และข่าวลือนั่นก็บรรยายซะเกินจริงเสียมากทำให้ชายที่อยู่ตรงหน้าข้าต้องโดนสายตาแบบนั้นจับจ้องแทบทุกวัน

 

 

เกิดอะไรขึ้นกับโนโซมุกันแน่ ทำไมถึงได้เลิกกัน

 

 

ลองคิดดูแล้ว ข้าเองก็ไม่รู้จักโนโซมุมาก่อนจนกระทั่งก่อนขึ้นปี 2

 

 

จากช่วงเวลาในตอนนั้น ข้าสังเกตได้ว่ามีกำแพงแปลกๆขวางกั้นข้ากับโนโซมุ และในใจข้าก็มีความรู้สึกแปลกๆปะปนอยู่

 

 

นอกจากนี้สภาพของเขาในวันนี้ก็แปลกเอามากๆ ดูเหมือนว่ากำลังทำในสิ่งที่น่าเหลือเชื่อลงไป

 

 

ดูเหมือนว่าไอริสและคนอื่นๆเองก็รู้สึกเช่นเดียวกัน แต่สุดท้ายพวกเราก็ไม่สามารถข้ามผ่านกำแพงที่ขวางกั้นเรากับโนโซมุได้ และยิ่งเพราะเจ้าหมานั่นเลยทำให้คุยด้วยยากไปใหญ่

 

 

「…………เน่ โนโซมุ แกน่ะ……」

 

 

อาจเป็นเพราะต้องการขจัดความขุ่นมัวในใจหรือเพราะต้องการทำลายกำแพงที่ขวางกั้นพวกเราเอาไว้ ปากของข้าพยายามจะถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อสองปีที่แล้ว

 

 

(นี่ข้าจะบังคับให้โนโซมุต้องเล่าเรื่องราวอันแสนเจ็บปวดงั้นเหรอ?)

 

 

「เอ๊ะ!!」

 

 

ทันทีที่พยายามจะพูด คำพูดของทิม่าก็เข้ามาในใจข้า ข้ารีบกลืนคำพูดลงไปทันที

 

 

ข้ายังจำได้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนสมัยเด็กของเขาที่โรงแรมของข้า

 

 

ตามเรื่องราวที่ได้ยินจากอิน่า ลิซ่า เพื่อนสมัยเด็กของเขา ตบหน้าโนโซมุด้วยความเกลียดชังราวกับว่าไม่เคยเป็นคนรักกันมาก่อน

 

 

(อย่างน้อยเราก็ไม่ใช่คู่กรณี ควรจะรอจนกว่าโนโซมุอยากจะพูดเองดีกว่าค่ะ)

 

 

「…………มีอะไรเหรอมาร์?」

 

 

โนโซมุพูดกับข้า แต่ข้าก็พูดอะไรไม่ออก

 

 

ก็อย่างที่ทิม่าพูด แม้ว่าจะได้ยินเรื่องราวจากอิน่า ข้าก็เข้าใจได้ว่าเรื่องที่โนโซมุปกปิดเอาไว้เขาไม่อยากจะพูดถึงมัน และเหนือสิ่งอื่นใดให้เจ้าตัวเป็นคนพูดจะดีที่สุด

 

 

「……เปล่า ไม่มีอะไร」

 

 

「……?」

 

 

ข้าเดินผ่านโนโซมุที่กำลังทำท่าทางโกรธนิดหน่อยและเดินไปที่ห้องเรียน ข้ารู้สึกว่าราวกับว่าจิตใจของข้าได้เติบโตขึ้นเล็กน้อย

 

 

◇◆◇

 

 

ณ ปี 3 ห้อง 1

 

 

นักเรียนที่นี่ไม่ได้ถูกย้ายไปในคาบเรียนแรก พวกเขาต่างนั่งรอจนกว่าอาจารย์จะมาถึง

 

ชายหญิงคู่หนึ่งกำลังคุยกัน รอยยิ้มที่แสดงถึงความสุขแม้มองจากด้านข้างก็รู้สึกว่าสนิทกันแค่ไหน

 

คนสองคนเป็นคนที่ทุกคนต่างรู้จัก

 

 

หนึ่งคือสาวสวยผมสีแดงและรอยยิ้มอันมีเสน่ห์ ลิซ่า・ เฮาวด์

 

 

อีกคนเป็นหนุ่มผมบลอนด์ คนรักของลิซ่าในปัจจุบันและมีแรงค์ A เช่นเดียวกับลิซ่า เคน・โนทิส

 

 

「ลิซ่า วันหยุดนี้ ไปย่านการค้ากันไหม?」

 

「อืม แต่ว่า……ก็ดีเหมือนกันนะ? วันนี้เองก็อารมณ์ดีแต่เช้าเชียวนะ……」

 

เคนชวนลิซ่าไปเดท

 

 

เขาแสดงรอยยิ้มอ่อนโยนตามปกติ แต่ดูเหมือนว่าลิซ่าจะยิ้มแห้งๆ

 

 

「เมื่อวานความกังวลอันแสนยาวนานถูกสลัดทิ้งไปแล้ว ก็เพราะว่าแบบนั้นละมั้ง」

 

เขาแสดงรอยยิ้มบิดเบี้ยวเล็กน้อย

 

(ในที่สุดก็จัดการโนโซมุได้แล้ว และแน่ใจว่าหมอนั่นมันต้องตายไปแล้ว……)

 

เคนยิ้มแป้นหลังจากศัตรูหัวใจอย่างโนโซมุถูกจัดการไป

 

 

แต่การปลดปล่อยเหล่านั้นก็ไม่ได้หมายความว่าด้านมืดของเขาจะหายไป

 

 

 

จริงอยู่ที่ใบหน้าของเขาตอนนี้ดูอารมณ์ดีและเมื่อมองจากด้านข้างก็มีรอยยิ้มน่าดึงดูดเพราะเอาชนะเพื่อนสมัยเด็กได้ เพื่อนสมัยเด็กที่เป็นศัตรูหัวใจมานานหลายปี มันทำให้เขามีด้านมืดเกิดขึ้นมาในจิตใจ

 

 

「งั้นเหรอ……」

 

「?? ลิซ่า มีอะไรงั้นเหรอ?」

 

「เอ่อ ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่คิดอะไรไปเรื่อยน่ะ……」

 

 

อย่างไรก็ตามรอยยิ้มของเขาปกติมักจะเป็นรอยยิ้มที่มีซึ่งความเกลียดและบิดเบี้ยวนั้นแปรเปลี่ยนไปตามการแสดงออกของเขาซึ่งคอยหลอกล่อสิ่งรอบตัวมาตลอดหลายปี รวมทั้งหลอกลวงเพื่อนรักและเพื่อนสนิทด้วย

ไม่หรอก เธอคนนี้ไม่มีวันหันหลังกลับ

 

 

(ตอนนี้ไม่มีอุปสรรคอีกต่อไปมีแค่ข้าที่ได้อยู่ข้างลิซ่า……)

 

 

เคน ยังไม่ได้สังเกตเห็นเลย รอยยิ้มของเขาที่หลอกลวงคนรอบข้างนั้นต่างจากเมื่อก่อน รอยยิ้มในตอนนี้มันเริ่มบิดเบี้ยวเพราะตัวเขาที่เปลี่ยนแปลงไป

 

 

ลิซ่าเองก็ยังไม่สังเกตเห็น ความจริงที่ว่าเธอหนีความจริง นั่นก็เป็นสิ่งที่สร้างความกังวลให้กับตัวเธอเองเหมือนกัน

 

 

พวกเขาไม่ได้สังเกตซึ่งกันและกัน เกียร์ของความบ้าคลั่งเริ่มที่ขับเคลื่อนไปอย่างช้าๆ

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยนำบางส่วนมาจากนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

บทนำ

สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

เรื่องย่อ

สถาบันโซลมินาติ สถานที่ๆคนหนุ่มสาวจากทั่วทุกดินแดนจะมารวมตัวกันเพื่อต่อยอดความฝันและความหวังของตัวเอง ความทะเยอทะยาน สำหรับคนที่ไม่มีอะไรดีสักด้านนั้นจะถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามถูกปฏิบัติแบบไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมโดยสมบูรณ์

เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่ชั้นอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ข้า โนโซมุ เบลาตี้ ซึ่งอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนในช่วงพักกลางวัน

ข้ามาที่นี่เมื่อสองปีก่อน ออกมาจากบ้านเกิดกับเพื่อนสมัยเด็กสองคนเพื่อมายังที่แห่งนี้

คนแรกคือ เคน โนทิส เป็นเพื่อนที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ ลิซ่า เฮาวน์

สาวสวยผู้มีผมหางม้าสีแดง

เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตและเป็นคนรักของข้า

เธอเป็นคนที่เอาชนะคนอื่นได้เสมอ เธอเป็นเหมือนดั่งตัวร้ายที่คอยต่อต้านกับหัวหน้าหมู่บ้าน

ข้าพบกับเธอก็เมื่อตอนอายุ 8 ขวบ ตอนที่ข้ากำลังตกปลาในแม่น้ำใกล้หมู่บ้าน

「อะ เอ่อ อืม ว่างหรือเปล่า?」

เป็นตอนนั้นเองที่เธอเข้ามาพูดกับข้า

ผมสีแดงตัดสั้น ท่าทางที่ดูมั่นใจ ใบหน้าของข้าค่อยๆร้อนรุ่ม…ข้าตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น

พ่อแม่ของเธออาศัยอยู่ในดินแดนที่ห่างไกลออกไป แต่เมื่อพ่อของเธอเสียชีวิตระหว่างเดินทาง เธอจึงตัดสินใจที่จะตั้งถิ่นฐานที่บ้านเกิดของข้า

ตอนเธอยังเด็กมักจะเป็นเด็กที่ซุกซนและอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ข้าก็ไม่ได้รังเกียจอะไร และเธอไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ

แล้วก็เด็กที่ทำให้เธอผิดหวังมากที่สุดก็คือนายพลกาคิกับผมด้วยเหตุผลบางอย่าง

เมื่อสามปีก่อนข้าสารภาพรักกับเธอเพราะว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

รักแรกที่ข้าชอบมาตลอด

เธอตกใจมากกับการสารภาพรักที่กระทันหันของข้า แต่เธอก็ยอมรับข้าและร้องไห้ทั้งน้ำตา

ตอนนั้นเองข้าจึงตัดสินใจที่จะไปสถาบันโซลมินาติกับเธอเพื่อสนับสนุนความฝันของเธอให้เป็นจริง

มันเป็นแรงบัลดาลใจให้ข้า ความฝันของเธอที่บอกข้าตอนยังเด็ก

「ฉันน่ะอยากจะเห็นโลกที่หลากหลายเหมือนกับคุณพ่อ」

ข้ารู้ว่าเธออยากออกไปท่องโลกกว้างเพราะเธอได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นมาจากมารดาของเธอ

ตอนนั้นเองเป็นตอนที่ข้าตัดสินใจไปที่สถาบันโซลมินาติ

หากคนที่ตัวเองรักอยากทำความฝันให้เป็นจริง ข้าก็ควรจะสนับสนุน

ด้วยคำพูดเช่นนั้นข้าตัดสินใจว่าจะสนับสนุนเธอตลอดมา

เธอกอดข้าทั้งน้ำตาพร้อมกับบอกว่า「ขอบคุณนะ……ฉันดีใจจริงๆ」

ท่ามกลางการหลับกลางวันของข้าก็ได้ยินเสียงระฆังที่ส่งเสียงบอกเวลาว่าหมดเวลาพักกลางวันแล้ว

ข้าลุกขึ้นพร้อมกับบิดตัวด้วยความขี้เกียจพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังห้องเรียน

ถูกบังคับให้ไสหัวไปก็ตั้งหลายครั้ง ตัวข้าที่ไม่สามารถทำคำปฏิญาณนั่นได้

ชั้นเรียนของข้าคือ ชั้นเรียนที่สอง ระดับ 10 เป็นห้องที่ต่ำที่สุดในบรรดาชั้นเรียนที่สอง

ในหมู่พวกนั้นข้าเป็นคนที่อยู่ต่ำสุดเรียกได้ว่าเป็นพวกที่ห่วยของโครตห่วย

เมื่อข้าเข้ามาในชั้นเรียนก็โดนต้อนรับด้วยการหัวเราะเยาะเย้ยเป็นเรื่องปกติ

「ยังจะโผล่หัวมาอีกนะ ไอชั้นต่ำ」

「เมื่อไรมันจะหายๆไปสักทีวะ」

「หวังว่าจะลาออกไปไวๆน้า~」

เสียงที่ดูไร้หัวใจเหล่านั้นเสียดแทงเข้ามาในจิตใจของข้า ข้าทำได้แต่เมินต่อไปและนั่งลงบนเก้าอี้

เมื่อข้านั่งลงก็มีนักเรียนสามคนเข้ามาทางข้า

「แกจะมาทำไม ในเมื่อแกมาที่นี่มันก็ไร้ความหมายอยู่ดีไม่ใช่เหรอไงวะ ไอ้เศษเดนเอ้ย」

มาร์ที่ตัวค่อนข้างใหญ่พูดข่มขู่ข้า

「ยอมแพ้ไปสักทีเหอะวะแกไม่คิดว่ามันเสียเวลาชีวิตบ้างเหรอวะ」

「แกโดนแกล้งขนาดนี้ก็เหมาะกับแกดีนี่ เหมาะสมกับเศษสวะอย่างแก」

พวกนั้นก็ยังคงกรนด่าข้าไม่หยุด

「ช่ายๆ โดนเด็กผู้หญิงหัวแดงที่ท่าทางเหมือนเจ้าหญิงนั่นทิ้งแล้ว ไม่มีอะไรให้แกได้ฝันอีกต่อไปแล้วล่ะ」

พวกนั้นทั้งสามคนยังยืนหัวเราะและพยายามยั่วโมโหข้า ไม่มีใครคิดจะห้ามพวกมัน ในท้ายที่สุดพวกมันก็ไม่ยอมหยุดจนกระทั่งอาจารย์ประจำชั้นเข้ามาในห้อง

ใช่แล้วล่ะ ข้าถูกลิซ่าทิ้ง เธอน่ะเป็นนักเรียนห้อง 1 เลยนะ

ทันทีที่เธอทิ้งข้าไปหลังจากกล่าวลาไม่กี่คำ เธอก็ไม่เคยกลับมาพบข้าอีกเลย

ข้าไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ตั้งแต่นั้นมาเธอก็มองข้าเหมือนเศษสวะ

เป็นเพราะข้าเอาแต่สร้างปัญหายังงั้นเหรอ

ลิซ่าเป็นผู้หญิงที่ถูกขนานนามว่า “เจ้าหญิงผมแดง” เพราะหน้าตาและความสามารถ

ในทางกลับกันตัวข้าที่ไม่มีอะไรดีเด่นหน้าตาบ้านๆ

ตลอดช่วงที่ข้าคบกับเธอ เธอมักจะโดนรังควาญอยู่เสมอ บางทีการที่ข้าโดนทิ้งก็เพราะสร้างความยุ่งยากให้เธออยู่เสมอก็ได้

ข้านั้นไร้ซึ่งเพื่อนและกลายเป็นหมาหัวเน่า

ถึงกระนั้นข้าก็พยายามอยากหนักไม่ละเลยสิ่งต่างๆตามหน้าที่ของตน

สักวันหนึ่งถ้าข้าสามารถรักษาคำสาบานที่ให้ไว้ได้ละก็……….ข้าคิดเช่นนั้น

ในขณะเดียวกันนั้นเองเธอก็ไปคบกับเพื่อนสมัยเด็กที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

เธอดูมีความสุขราวกับเธอรักเขาจริงๆ

ในการฝึกซ้อมเป็นคู่พวกเธอสองคนเข้าขากันได้ดีมาก ข้าไม่มีที่ยืนเคียงข้าเธอเลย

ชั่วโมงที่สอง ในช่วงบ่าย

「เฮ้ออ!」

ด้านข้างของดาบจำลองนั่นถูกขว้างมาจากเครื่องยิงดาบจำลอง

เมื่อดาบจำลองที่ถูกยิงมาถูกปากลับไปและแทงเข้าไปที่คอของตุ๊กตา กลไกนั่นก็จะหยุดทำงานลง

หลังจากคาบบรรยายนี่ก็เป็นภาคฝึกปฏิบัติ

นอกจากสนามฝึกซ้อมแล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น สนามทดลองเวทมนตร์ในสถาบันแห่งนี้และนักเรียนที่สามารถศึกษาเรียนรู้ความสามารถของตนตามสถานที่ต่างๆ

สนามฝึกถูกแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่เพื่อให้นักเรียกจากหลายๆชั้นมาเรียนที่เดียวกันได้

วันนี้เป็นการฝึกการต่อสู้ระหว่างบุคคลและแต่ละคนก็จะได้ต่อสู้กับหุ่นยนต์ที่มีดาบจำลองเป็นคู่ซ้อมทำการต่อสู้แบบอิสระ โดยใส่พลังเวทย์เข้าไปเพื่อให้หุ่นยนต์นั้นทำงาน

อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์สำหรับพวกห้อง 10 นั้นมีคุณภาพแย่และเคลื่อนไหวได้แค่บางส่วน

「อืม ต่อไปจะเป็นการต่อสู้เป็นคู่ เลือกคู่หูได้ตามใจชอบ~」

เมื่ออาจารย์อันริ วาร์ อาจารย์ประจำชั้นของพวกห้อง 10 เรียกออกมา หุ่นยนต์ก็หยุดทำงาน ดังนั้นทุกๆคนก็หยุดและรอการจับคู่

อาจารย์อันริมีผมหยักสีน้ำตาล ดวงตาที่ดูสมวัยและใบหน้าที่ออกไปทางดูดีอย่างมาก

อย่างไรก็ตามอาจารย์คนนี้เป็นบุคคลที่ไม่เหมาะกับโรงเรียนแห่งคุณธรรมแห่งนี้เลยเพราะเขาชอบพูดและทำท่าทางแปลกๆราวกับคนบ้า

เรียกได้ว่าคนที่รับผิดชอบนักเรียนห้อง 10 ถูกโยนมาแบบทิ้งขว้างเลยก็ได้

อย่างไรก็ตามการที่เขาสามารถมาเป็นอาจารย์ได้ก็คงมีความสามารถพอตัว

ในที่สุดการจับคู่ก็ถูกตัดสินและแต่ละฝ่ายต่างเริ่มจำลองการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ของตัวเอง แต่ว่าคู่ต่อสู้ของข้าดันเป็น……。

「เอ่อ สำหรับแกแล้ว น่าเสียดายหน่อยนะ」

เป็นมาร์นั่นเองที่กรนด่าข้าเมื่อตอนบ่าย

「มาเริ่มกันเลยดีกว่า เพราะว่าเศษสวะอย่างแกจะทำให้ชั้นเสียเวลา」

มาร์ดึงดาบใหญ่ออกมาจากด้านหลัง

มาร์เป็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมา ความสามารถของเขานั่นของจริง ถึงอย่างนั้นก็ยังได้มาอยู่ในห้องห้อง 10 เช่นนี้เพราะชื่อเสียงแย่ๆนั่นละ

ผมเองก็ดึงดาบจำลองออกมาด้วยเช่นกัน

อาวุธของข้าเป็นดาบที่มาจากทางเกาะตะวันออก เรียกกันว่าคาตานะ เป็นดาบที่มีความคมเป็นอย่างมาก กล่าวได้ว่ามันสามารถตัดทุกอย่าไงได้หากใช้ได้อย่างชำนาญ

ยังไงก็ตาม มันใช้เทคนิตชั้นสูงและความหายากของมันเลยไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนัก

มันเป็นอาวุธที่เหมาะกับข้าที่สุด สำหรับข้าที่ไร้ซึ่งพลัง

「ถ้าอย่างงั้นละก็ เริ่มได้~~~」

การต่อสู้นั่นเต็มไปด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยจากท่าทางของอาจารย์อันริ

「โฮ่ย่าาาาาาาาาาาห์」

มาร์เหวี่ยงดาบใหญ่พร้อมตะโกนก้อง

ผมป้องกันการโจมตีด้วยคาตานะ

ดาบของมาร์ถูกเบี่ยงวิธีและมันก็ฟาดลงทีพื้น

「ฮ่าๆ!」

ก้าวเข้าไปหลังจากมาร์เปิดช่องว่างเล็งไปที่ต้นคอและพยายามจะเอาสันดาบทุบ

「สายไปละโว้ย!」

มาร์เอาถุงมือที่แขนปกป้องดาบของผมไว้ ดาบเลียนแบบที่ไม่มีความคมของดาบดั้งเดิมเหลืออยู่ก็ถูกป้องกันด้วยถุงมือนั่น

มาร์รุดหน้าเข้ามาพร้อมกับยกถุงมือขึ้นป้องกันการโจมตี แต่ข้าก็ก้มลงเพื่อหลบการโจมตี

ข้าพยายามจะโจมตีไปอีกรอบ แต่มาร์นั้นเหวี่ยงดาบใหญ่มาด้วยมือข้างเดียว

ข้าถูกบังคับให้ถอยและกลับไปตั้งหลักใหม่

มาร์ที่ฟาดดาบใหญ่จนพื้นแตกกระจายพยายามมองระหว่างข้าและดาบใหญ่ของมันเอง……。

「อยากโดนหั่นเป็นชิ้นๆเหรอไงวะ」

มาร์พูดเช่นนั้นพร้อมกับรังสีกดดันที่เพิ่มมากขึ้น

“คิ”

เป็นสกิลของทางฝั่งตะวันออกที่จะเพิ่มพลังให้แก่ผู้ใช้งานให้เหนือขีดจำกัดยิ่งขึ้นไป

มาร์พุ่งเข้ามาในคราวเดียว ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นั่นละคือผลลัพธ์จากการใช้ คิ

ราวกับจะจับเหยื่อตรงหน้าฟาดดาบใหญ่นั่นลงมาในทีเดียว

ข้าเองก็ใช้ “คิ”เช่นกันเพื่อหลบการโจมตีของดาบใหญ่นั่น เสียงของเหล็กดังกระทบกันสนั่นหู

「เหอะ!ลังเลอยู่งั้นเหรอ」

มาร์ที่รู้สึกหงุดหงิดนั่นดูมีท่าทีลังเลจึงไม่สามารถจะตัดสินใจจบการโจมตีในทีเดียวได้

เขาดึงดาบใหญ่ที่จมลงไปบนพื้นและเริ่มที่จะฟันมันมาอีกครั้ง

เขาฟาดฟันดาบใหญ่ไปรอบๆด้วยเรี่ยวแรงอันมหาศาลจาก “คิ”

เสียงของเหล็กปะทะกันดังสนั่นไปทั่วบ่งบอกถึงการต่อสู้อันดุเดือด แต่ว่ามีฝ่ายเดียวที่ได้เปรียบ

การเสริมพลังกายของมาร์มีพละกำลังมากกว่าข้า แต่ผลของการเสริมพลังกายของข้าเองก็ได้ผลเพียงครึ่งเดียวด้วยความสามารถของข้า

มาร์มันเป็นคนเก่งแต่เพราะทำแต่เรื่องแย่ๆเลยได้มาอยู่ในห้อง 10

ในทางตรงกันข้ามแม้หมอนั่นจะมีความสามารถสูง แต่มาร์มันกลับพอใจที่จะกดขี่คนที่ต่ำกว่านั่นมันโครตจะแย่

เทคนิคดาบชั้นสูงของมาร์ไม่สามารถใช้จัดการกับโนโซมุตามปกติได้ แต่ว่าพลังกายของโนโซมุที่ได้รับการเสริมแบบครึ่งๆกลางๆมันก็พอเป็นไปได้

พลังที่ได้มานั่นทำให้พอฟัดพอเหวี่ยงกับดาบของโจรสลัดเท่านั้นเอง

「แหลกไปซะเหอะมึง!!」

บางทีอาจจะเป็นเพราะข้าโดนกดดันจนถูกบดขยี้ในพริบตา แต่ว่าข้าก็กันการโจมตีนั่นได้ยิ่งทำให้มาร์มันหงุดหงิดจนพละกำลังมันเพิ่มมากขึ้นไปอีก

「เหอะ คิดว่าจะบดขยี้ข้าได้ง่ายๆงั้นเหรอ!」

ข้ากัดฟันแน่นเพื่อที่จะไม่เดินไปตามเกมส์ของศัตรู

แม้ว่าพลังในการโจมตีจะเพิ่มขึ้น แต่การโจมตีของมันก็ซ้ำซากและจำเจ ทำให้รับมือได้ไม่ยากเย็น

อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถสวนกลับได้ทำได้เพียงแค่ยื้อเท่านั้น

และถ้าโต้กลับไม่ได้ผลมันก็รู้ๆกันอยู่

ในที่สุดก็มาถึงขีดจำกัด

ข้าไม่สามารถรับการโจมตีของมาร์ได้อีกต่อไป การป้องกันของข้าถูกทำลายลงและไม่มีเวลามาตั้งท่าใหม่ ตอนนั้นเองทีข้าถูกดาบใหญ่นั่นฟาดเข้ามากระแทกกับคาตานะของข้าจนกระเด็น

「จะเหนียวได้สักแค่ไหนกันเชียววะ!」

รูปร่างของข้าบิดเบี้ยวเพราะการโจมตีนั่น ข้าตัวกระเด็นจนตัวไปกระแทกกับกำแพงของสนามฝึกซ้อม

ผลกระทบนั่นทำให้ข้าหายใจติดขัดและการมองเห็นของข้าก็มืดดับลง

「เป็นแค่เศษสวะแท้ๆ แต่ยังกล้าขัดขืน โดนดีไปซะเหอะมึง」

ข้าหมดสติไปพรัอมกับคำพูดของมาร์

「โอ้ยยยย เจ็บแหะ!」

ข้าลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับสติที่พร่ามัวลุกขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดไปทั้งตัว

ข้าก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องพยาบาล

「เอ้าๆ รู้สึกตัวแล้วไม่ใช่เหรอไงเนี่ย?」

ผู้หญิงสวมชุดโค้ทสีขาวพร้อมกับใส่แว่นนั่นกำลังทำงานอยู่บนโต๊ะพยาบาล

ชื่อของเธอคือนอร์น อัลทิน่า เป็นหมอประจำโรงเรียนที่สวยเอามากๆ

เธอเดินมาทางนี้และขยับนิ้วมาตรงหน้าผมเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกาย

「อืมม ดูจากสภาพแล้วสติยังคงดีอยู่ แล้วรู้สึกปวดตรงไหนบ้างรึเปล่า?」

「ข้าปวดหลังนิดหน่อยและหัวเองก็ยังคงมึนๆ แต่ว่าไม่มีตรงไหนผิดปกติแล้วล่ะ」

「อืมมเข้าใจแล้ว ฉันทายาไปที่หลังของนายแล้วล่ะ แต่ถ้ารู้สึกเจ็บหรือปวดตรงไหนก็มาได้ตลอดเวลานะ มันจะดีกว่านะที่มาหาฉันมากกว่าที่จะทนเจ็บกับบาดแผลนั่น」


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท