ตอนที่ 387 ฮองเฮาเฉียวที่เห็นอกเห็นใจคนอื่น
ตอนที่ 387 ฮองเฮาเฉียวที่เห็นอกเห็นใจคนอื่น
เพียงแต่ไม่ว่าพวกคุณหนูร่ำรวยเหล่านี้จะพยายามชม้อยชม้ายชายตาให้ท่าอย่างไร ฝ่าบาทก็ไม่ชายตาแลพวกนางสักนิด
ฮองเฮาเฉียวพึงพอใจกับแรงงานฟรีที่ทำงานอย่างขยันขันแข็งเหล่านี้มาก ก่อนส่งสายตาให้ฝ่าบาทของนาง ฝ่าบาทเข้าใจในทันที เอ่ยตามที่เตรียมกันไว้ก่อนหน้านี้ด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “เราชอบฮองเฮาทำงานที่สุด มีความเป็นแบบอย่างของมารดาแห่งแผ่นดิน”
เฉียวเยี่ยนแสร้งตอบกลับด้วยสีหน้าเขินอาย ก่อนแสร้งตอบกลับอย่างออดอ้อน “ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ตรัสชม”
จากนั้น นางก็แกว่งจอบในมือจนเกิดเสียงลมหวีดหวิว ไม่นานก็ขุดมันเทศได้แปลงหนึ่ง
เมื่อได้ยินว่าฮองเฮาถูกชม ไฟริษยาของพวกคุณหนูร่ำรวยพลันลุกโชนขึ้นมาทันที สายตาล้วนเคลื่อนไปอยู่ที่เฉียวเยี่ยน สังเกตว่านางทำงานอย่างไร
ฮองเฮาไม่ได้โกหกพวกนางจริงๆ ฝ่าบาทชอบหญิงที่ทำงานคล่องแคล่ว
ด้วยเหตุฉะนี้ พวกคุณหนูน้อยใหญ่แสนสวยดุจดอกไม้ที่อยู่ในแปลงผักกว้างใหญ่นี้ก็เปลี่ยนท่าทางไป
คุณหนูสวมชุดกระโปรงยาวผู้นี้ถือจอบขุดมันเทศตามแบบเฉียวเยี่ยน ทว่าแขนเรียวเล็กบอบบางไม่มีแรงของนางจะขยับจอบเช่นนั้นได้อย่างไร
นางก้าวเดินตัวลอยแบบคนไร้เรี่ยวแรง เซไปเซมา ถือจอบด้วยมือสั่นเทา ก่อนไม่ทันระวังเหยียบชายกระโปรงยาวลากพื้นที่ตัวเองตั้งใจเลือกเข้าจนล้มหน้าคะมำ
เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ ระบบตัวน้อยกับเสี่ยวอันอันยุยงอยู่ด้านข้าง และแอบสอดรู้สอดเห็นอย่างสนุกสนาน
เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ “ข้าว่าแล้ว แขนขาเล็กบอบบางนี้ ช้าเร็วต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่”
ระบบตัวน้อย “มันเทศแปลงนี้ใช้น้ำมูลจากในห้องสุขามารดเชียวนะ ไม่รู้ว่ากลิ่นจะเป็นอย่างไรบ้าง”
เสี่ยวอันอัน “พื้นดินดำขลับนี้ดูท่าน่าจะรดปุ๋ยไปมาก”
คุณหนูที่ล้มหน้าคะม่ำคนนั้นตั้งแต่เติบโตมาเคยเสียหน้าเช่นนี้ที่ไหนกัน จึงอึ้งงันไปชั่วขณะว่าควรลุกขึ้นมา หรือฟุบอยู่ตรงนั้นต่อไปดี
นางรู้สึกหดหู่สิ้นหวัง สูญเสียกิริยาเช่นนี้ ความฝันในการเป็นสนมของนางคงจะจบสิ้นไปแล้วสินะ
เมื่อนึกถึงจุดจบของตัวเอง นางก็ร้องไห้กระซิกอย่างเศร้าสร้อยด้วยท่าทางน่าสงสารที่ใครเห็นเป็นต้องใจอ่อน พยายามกระตุ้นความเห็นอกเห็นใจของฝ่าบาท
ทว่าฝ่าบาทกลับไม่มีความเห็นอกเห็นใจ มีแต่ใจที่พร้อมจะกระทืบซ้ำด้วยสองเท้า
จากนั้นก็เห็นเพียงฝ่าบาทมีสีหน้ามืดมนลง เดินไปอยู่ด้านข้างคุณหนูที่ล้ม แล้วก้มตัวลง แววตาลึกลับจนไม่อาจคาดเดาอารมณ์ใดได้สักอย่าง
คุณหนูที่ฟุบอยู่กับพื้นเงยหน้าขึ้น ในปากยังมีดินดำติดอยู่ ร้องไห้จนน้ำตานองหน้า มองชายที่เดินเข้ามาหานางอย่างไม่อยากจะเชื่อ
หรือพระเจ้าจะได้ยินเสียงหัวใจของนาง นางจึงถูกฝ่าบาทชอบเข้าให้แล้ว?
เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็รู้สึกปีติยินดีอยู่ภายในใจ แย้มยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว เพียงแต่ในปากยังมีดินดำติดอยู่ ดูอย่างไรก็ขบขันนัก
พวกคุณหนูคนอื่นๆ ที่ดูความสนุกอยู่ข้างๆ ต่างมวนท้องไปหมด และคิดเหมือนเดียวกันว่าฝ่าบาทชอบคนที่ล้มไปแล้ว จึงครุ่นคิดในใจว่าอีกเดี๋ยวพวกนางจะแสร้งทำเป็นล้มไปดีหรือไม่
แต่ไม่รอให้พวกนางได้ตัดสินใจ ข้อเท็จจริงก็พลันฟาดใส่พวกนางกลางแสกหน้า
ฝ่าบาทจะสงสารหญิงที่ล้มได้อย่างไร เห็นๆ อยู่ว่าสงสารมันเทศที่หักเสียหายจากการถูกหญิงคนนั้นขุด รวมถึงเถามันเทศที่ถูกนางล้มทับด้วย
ฝ่าบาทเก็บมันเทศที่หักเป็นสองท่อนขึ้นมา แล้วค่อยๆ ลุกขึ้น แผ่รังสีเยือกเย็นโชยออกมาทั่วร่าง
“เจ้ารู้ไหมว่าสิ่งที่เจ้าทำหักมันคืออะไร? มันคือมันเทศที่เรากับฮองเฮาดูแลมาเองกับมือ! คือเสบียงอาหารที่เอาไว้หล่อเลี้ยงปากท้องทั่วทั้งใต้หล้า เรายังตัดใจทำหักไม่ได้ แต่เจ้ามาครั้งแรกกลับหักมันเทศของเราไปเยอะมาก!”
เมื่อเขาเอ่ยคำพูดนี้ออกมา พวกคุณหนูน้อยใหญ่ที่อยู่ตรงนั้นต่างตกตะลึง
สาวงามดุจดอกไม้ดุจหยกอย่างพวกนาง ยังเทียบกับก้อนขรุขระสกปรกนี้ไม่ได้?
แม้จะไม่ยอมเชื่อ แต่ความจริงก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าแล้ว พวกนางเทียบกับก้อนขรุขระสกปรกนั้นไม่ได้จริงๆ !
ฝ่าบาทโกรธเกรี้ยว เฉียวเยี่ยนที่เป็นฮองเฮาย่อมเข้าไปเอาอกเอาใจ (ยุยง)
นางเดินเข้าไปหามู่ฉินเจินอย่างนิ่มนวล และรับมันเทศในมือเขามา ก่อนเอ่ยโน้มน้าวด้วยสีหน้าเห็นอกเห็นใจ “ฝ่าบาท นี่ก็แค่มันเทศที่เราดูแลออกมาอย่างยากลำบาก ไม่ได้พักตลอดคืนตลอดวัน เหงื่อท่วมตัว เมื่อยเอวปวดหลังก็เท่านั้น หักไปแล้วก็ช่างมันเถิด ไม่โมโหนะ”
“หม่อมฉันเพิ่งสังเกตเห็น ไม่เพียงหักไม่กี่อัน ตรงนู้นก็หัก ตรงนี้ก็หัก หากพระองค์โมโห ก็ต้องโมโหมาก”
เฉียวเยี่ยนชี้มันเทศที่คุณหนูคนนั้นทำหักตรงจุดอื่นๆ อย่างเห็นอกเห็นใจ ตามคาด ฝ่าบาทของนางยิ่งปลดปล่อยไอเย็นรุนแรงออกมาอย่างให้ความร่วมมือ
พวกฮูหยินคุณหนูที่ได้ยินคำพูดนางเหล่านั้น ต่างก็พากันตกใจจนเหงื่อไหลโซมกาย
ท่านช่างพูดขนาดนี้ รบกวนช่วยพูดให้น้อยลงหน่อยเถิด พวกนางยังอยากมีชีวิตอยู่นะ!
มู่ฉินเจินจับผิดสตรีผู้สูงศักดิ์เหล่านี้ได้ ย่อมต้องรีบจัดการให้เร็วที่สุด จึงสั่งองครักษ์ที่คอยปรนนิบัติอยู่ด้านข้าง “โยนพวกนางออกไปจากวังของเรา ต่อไปห้ามก้าวเข้าประตูวังมาแม้แต่ครึ่งก้าว!”
แบบนี้ ก็นับว่าได้ทำลายความฝันในการเป็นสนมของพวกนางแล้ว
แม้เรื่องนี้เผยแพร่ออกไปแล้วพวกขุนนางเหล่านั้นจะคิดว่าเขาสร้างเรื่องไร้เหตุผล แต่กระนั้นใครให้เขาเป็นฮ่องเต้กัน
ยามฮ่องเต้พิโรธ ศพนับล้านย่อมก่อเกิด วันนี้พวกนางทำให้ฝ่าบาทมีสีพระพักตร์เปลี่ยนไป แต่พระองค์ก็ยังไม่ได้เอาชีวิตพวกนาง ดังนั้นพวกนางจึงต้องขอบคุณ
สตรีสูงศักดิ์กับพวกฮูหยินที่ขุดมันเทศหักเหล่านั้นต่างถูกองครักษ์ลากออกไปจากวัง แขกในงานเลี้ยงพลันลดลงไปหนึ่งในสามทันที
พวกฮูหยินคุณหนูที่เหลือต่างก็ขุดมันเทศอย่างระมัดระวังด้วยกายสั่นงกเงิน กลัวว่าคนที่จะถูกโยนทิ้งเป็นรายต่อไปคือพวกนาง ตอนนี้พวกนางเพียงแค่ภาวนาให้ฮองเฮารีบปล่อยตัวออกไป
แต่มันยังห่างจากงานเลี้ยงจบของเฉียวเยี่ยนมากเกินไป วันนี้นางเตรียมรายการมามากมายเพื่อทรมานหญิงสาวที่ไม่มีอะไรทำและอยากจับผู้ชายของคนอื่นพวกนี้ และต้องจับพวกนางให้ได้ทั้งหมด
หลังจากขุดมันเทศได้พักหนึ่งแล้ว เฉียวเยี่ยนก็เห็นคนเหล่านี้ระมัดระวังตัวจนความเร็วช้ากว่าหอยทากวิ่ง ขุดมันเทศเหมือนขุดค้นโบราณวัตถุทางโบราณคดีก็ไม่ปาน พลันรู้สึกไม่สนุกขึ้นมาทันที
ยังไม่ตื่นเต้นพอ ไม่สนุก เห็นทีต้องเปลี่ยนรายการแล้ว!
ด้วยเหตุนี้ ฮองเฮาเฉียวจึงเก็บจอบ และพาพวกหญิงสาวสตรีสูงศักดิ์เหล่านี้ไปที่แปลงถั่วแระ
พวกหญิงสาวรู้ตัวแล้วว่าวันนี้ถูกแกล้ง แต่เนื่องจากฝ่าบาทอยู่ด้วย พวกนางจึงไม่กล้าชักสีหน้าหรือเดินออกไปก่อน ทำได้เพียงทำตามอย่างเชื่อฟัง
เมื่อมาถึงแปลงถั่วแระ คนที่เคยเข้าร่วมงานประกวดผักที่ไท่ซางหวงจัดขึ้นก็ยังไม่เคยลืมว่าตนเก็บโดนตัวบุ้ง พลันความทรงจำอันยอดเยี่ยมก็ตื่นขึ้นทันที
เมื่อนึกถึงหนอนบุ้งตัวอ้วนขนปุยที่ขยับยุกยิกเหล่านั้น ขนทั่วร่างกายของพวกนางก็ตั้งชัน
หวงโฮ่วเหนียงเหนียงคงไม่ให้พวกนางเก็บถั่วหรอกใช่ไหม?
เฉียวเยี่ยนเห็นว่าหญิงเหล่านี้มีหน้าซีดเซียว ก็เอ่ยอย่างเห็นอกเห็นใจ “ไม่ต้องห่วง วันนี้ไม่ให้พวกเจ้าเก็บถั่วหรอก”
ได้ยินเช่นนี้ พวกฮูหยินต่างก็โล่งใจ ทว่าคำพูดต่อมาของเฉียวเยี่ยน กลับแทบจะทำให้พวกนางสิ้นใจ
เห็นเพียงเฉียวเยี่ยนให้นางข้าหลวงกับขันทีส่งเครื่องมือเก็บเกี่ยวมา แต่ละคนมีตะเกียบคนละคู่และขวดคนละขวด
“การขุดมันเทศนั้นลำบากเกินไป เปิ่นกงจึงอยากให้พวกเจ้าได้ทำงานสบายๆ จับแค่ตัวหนอนก็พอแล้ว ทำแบบนี้ ใช้ตะเกียบคีบมันยัดเข้าใส่ขวด ถึงตอนนั้นเอามาใช้ป้อนไก่”
เฉียวเยี่ยนพูดไปด้วย สาธิตให้พวกนางดูไปด้วย เดินเข้าไปในแปลงถั่วแระ หาหนอนบุ้งตัวหนึ่ง ใช้ตะเกียบคีบขึ้นมา และยกตะเกียบให้พวกคุณหนูฮูหยินเหล่านั้นดูหนอนที่ขยับยั้วเยี้ยไม่หยุด
ชั่ววินาทีที่ได้ยินว่าจับหนอน พวกคุณหนูฮูหยินบางคนก็ควบคุมสีหน้าขาวซีดไม่ได้แล้ว พากันตัวสั่นขึ้นมา
ช่วยด้วย เฉียวเยี่ยนมันเป็นปีศาจ!
คุณหนูบางคนถูกทางบ้านเลี้ยงอย่างตามใจ วันนี้ถูกหลอกมาขุดดิน ตอนนี้ยังมาจับหนอนอีก อารมณ์ก็พรั่งพรูขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
“หวงโฮ่วเหนียงเหนียง ในใบเทียบเชิญของพระองค์บอกว่าจะจัดงานเลี้ยงในวังวันนี้ และเชิญเหล่าสตรีให้มาเข้าร่วม แต่ยามนี้กลับจงใจทรมานเรา มันคือการล้างแค้นส่วนพระองค์เองใช่หรือไม่เพคะ?”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เห็นอกเห็นใจเหล่าคุณหนูพวกนี้จังเลยค่ะ ได้เปิดโลกจนหายคันหายอยากไปเลย
คิดจะแย่งฝ่าบาทน่ะเหรอฝันไปเถอะ เจอด่านทดสอบพวกนี้ก็ไม่รอดแล้ว
ไหหม่า(海馬)