พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” – ตอนที่ 36

ตอนที่ 36

บทที่4ตอนที่6

 

 

「……ทำไมกันล่ะ?」

 

 

「ทำไมงั้นเหรอ? ยังตัดใจเรื่องลิซ่าไม่ได้อีกเหรอไง」

 

 

เคนทำหน้าบิดเบี้ยวราวกับบอกว่าลิซ่าเป็นของเขาแล้ว

 

 

「เออใช่แล้วไง ลิซ่าน่ะเป็นนักเรียนสุดโดดเด่นและใครๆก็ต่างเฝ้ามอง การที่มีแกคอยถ่วงแข้งถ่วงขานี่ก็ไม่ต่างกับทำให้เธอหยุดก้าวหน้า เพราะงั้นการเขี่ยแกทิ้งที่เป็นส่วนเกินของเธอไปมันก็ดีสำหรับตัวเธอแล้วไม่ใช่รึไงกัน?」

 

 

ร่างกายของโนโซมุสั่นสะท้านเพราะคำพูดอันแสนทำร้ายจิตใจนั่น

 

 

จิตใจและร่างกายต่างแข็งทื่อไปหมดเพราะความจริงที่ว่าเพื่อนสนิทของเขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้ผมต้องเผชิญกับเหตุการณ์ต่างๆนาๆมากมาย และดูเหมือนเขาจะไม่ได้สำนึกผิดแม้แต่น้อย

 

 

「ก็ดีที่แกสังเกตเห็นจนได้ จะได้เลิกเล่นละครตบตานี่เสียที」

 

 

เคนพูดเช่นนั้นพร้อมกับดึงดาบยาวออกมาและร่ายเวทย์เสริมพลังกายให้กับตัวเอง

 

 

「ข้าก็คิดว่าเธอคงจะตัดใจจากแกได้แล้ว แต่สภาพที่ข้าเห็นเมื่อวานมันไม่ใช่เลยสักนิดเธอยังมีใจให้แกอยู่ เพราะงั้นกำจัดแกที่เป็นส่วนเกินไปซะก็สิ้นเรื่อง」

 

 

 

เมื่อเขาพูดเช่นนั้นเคนก็พุ่งเข้าหาพร้อมกับฟันดาบยาวมาที่เขาทันที

 

 

「หนอยยยยยยยยยยยย!!」

 

 

โนโซมุดึงดาบออกมาจากเอวและเข้าปะทะกับเคนทันที อย่างไรก็ตามโนโซมุที่ตอบสนองช้าไปก้าวก็ต้องกระเด็นถอยหลังไป

 

 

เคนรีบตามโนโซมุมาทันทีและฟันดาบยาวมาอย่างกับพายุคลั่ง

 

 

ความสามารถของแรงค์ A นั่นเป็นที่แน่นอน

 

 

ไม่มีการใช้พลังโดยเปล่าประโยชน์ พลังที่ไหลพล่านนั่นกำลังถาโถมเข้ามา

 

 

ดาบของเขานั้นมีพลังโจมตีรุนแรงเปรียบได้ดั่งกระแสน้ำไหลเชี่ยวท่ามกลางลำธารที่นิ่งสงบ

 

 

การเคลื่อนไหวตอบสนองของโนโวมุนั้นช้ากว่าที่เคย ทำให้เขาตัวกระเด็น

 

 

ไม่มีความโอนอ่อนเหมือนกับตอนที่ฝึกด้วยการใช้ดาบสำหรับฝึก

 

 

ตอนนี้โนโซมุไม่มีสมาธิในการต่อสู้เลย

 

 

ความสมดุลระหว่างสติและร่างกายนั้นหายไป มีเพียงประสบการณ์จริงที่ร่างกายได้รับเป็นแรงขับเคลื่อนอยู่เท่านั้น

 

 

「ฮ่าฮ่าฮ่า! เป็นอะไรไปละโนโซมุ! คิดว่าหน้าตาแบบแกเหมาะที่ควรจะได้สาวงามแบบนั้นไปกินเหรอวะ? ตลกวะ!!」

 

 

ยังไงก็ตามมันก็เป็นยังงั้นได้ไม่นาน

 

 

เคนเยาะเย้ยโนโซมุด้วยท่าทางน่ารังเกียจและเริ่มร่ายเวทย์

 

 

โนโซมุพยายามขัดการร่ายเวทย์ของเคน แต่ว่าตอนนี้เขาไม่มีสมาธิจึงโดนเคนเล่นงานอย่างง่ายดาย จนเผลอเปิดช่องว่างละเคนก็ร่ายเวทย์เสร็จพอดี

 

 

มวลน้ำขนาดเล็กถูกก่อขึ้นภายในมือของเคน โนโซมุรู้สึกกังวลกับมวลน้ำขนาดเล็กตรงหน้าจนขนลุก

 

 

“น้ำพุทยาน”

 

 

เวทย์ที่เปิดการโจมตีด้วยน้ำด้วยการบีบอัดจนแน่นและทิ่มแทงศัตรู

 

 

ดูเหมือนว่ามวลน้ำมันขนาดเท่ากำปั้น แต่เป็นเวทย์ที่รุนแรงอย่างมาก

 

 

เวทย์นี่จะแปรเปลี่ยนไปตามพลังเวทย์ที่บีบอัดเข้าไป ถ้าบีบอัดจนมากก็สามารถแทงทะลุได้แม้กระทั่งแผ่นเหล็ก

 

 

มวลน้ำที่เคนสร้างขึ้นเป็นแบบหลังและหากโดนมันตรงๆก็ทะลุร่างเหมือนกระดาษ

 

 

เคนปล่อยมวลน้ำนั่นออกมาโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย น้ำที่ถูกบีบอัดพุ่งเข้าหาโนโซมุ

 

 

โนโซมุพยายามเอี้ยวตัวหลบมวลน้ำนั่น แต่เคนก็ดักไว้แล้ว

 

 

「อั่ก!!」

 

 

กระแสน้ำที่ปล่อยไปข้างหน้ากระจายออกมันปิดกั้นมุมมองของโนโซมุ

 

 

「ฮะ!!」

 

 

ดาบยาวฟันทะลุกระแสน้ำที่ฟุ้งกระจายและเข้าหาโนโซมุ

 

 

ดาบนั่นถูกเร่งความเร็วขึ้นและเหวี่ยงตรงเข้าโนโซมุในคราวเดียว

 

 

อย่างไรก็ตามโนโซมุกันมันไว้ได้

 

 

แทนที่จะกันตรงๆและเบี่ยงวิถีของดาบแทน

 

 

ในขณะเดียวกันก็ใช้มือข้างหนึ่งเพื่อวางติดกันพื้นเพื่อประคองร่างเอาไว้ และใช้เท้าอีกข้างเพื่อต้านแรงเสียดทาน

 

 

ผมใช้ประโยชน์จากแรงนั่นในการหมุนตัวขึ้นและตะวัดดาบเข้าหาเคน

 

 

อย่างไรก็ตามโนโซมุรีบหยุดดาบทันทีเมื่อเห็นร่างๆหนึ่ง

 

 

「เอะ!ลิซ่า!?」

 

 

สิ่งที่เข้ามาในดวงตาคือใบหน้าของเพื่อนสมัยเด็กที่เขาชอบ

 

 

ทันใดนั้นใบหน้านั่นก็เปลี่ยนกลับมาเป็นเคนอีกครั้ง

 

 

ด้วยเหตุนั้นเลยทำให้พลาดอย่างแรง

 

 

ดาบยาวของเคนตวัดขึ้นและพยายามฟันโนโซมุ

 

 

โนโซมุรีบยกดาบขึ้นมากันอย่างเร่งรีบ แต่ไม่สามารถป้องกันได้และดาบยาวนั่นก็ฟันเข้าที่ไหล่ของโนโซมุ

 

 

「อั่กกกกกกกก!!!」

 

 

โนโซมุกลิ้งไปบนพื้นพร้อมกับดาบของเขา

 

 

เคนเห็นก็ยิ้มด้วยรอยยิ้มอันน่ารังเกียจ

 

 

สายตาของเคนที่มีรอยยิ้มชวนน่าขนลุก ซ้อนทับกับใบหน้าของลิซ่า

 

 

「ย๊ากกกกห์!」

 

 

อย่างไรก็ตามไม่ว่าภาพตรงหน้าจะเป็นอะไรก็ตามแต่โนโซมุก็รู้สึกบาดเจ็บที่ไหล่แสดงว่านี่คือความจริงไม่ใช่ภาพหลอน

 

 

และความเจ็บปวดหลังจากที่โดนดาบนั่นกดลงมาเรื่อยๆมันยิ่งทำให้สติของโนโซมุกลับคืนมาและพยายามทำความเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบัน

 

 

อย่างน้อยนั่นก็ไม่ใช่เวทมนตร์ เวทมนตร์มันจะต้องมีการเปิดใช้งาน แต่สิ่งที่โนโซมุสัมผัสได้คือ “การแทงทะลุ”มาตรงๆ

 

 

นอกจากนี้หากใช้คิก็ต้องสัมผัสได้

 

 

ความเป็นไปได้ที่เหลืออยู่……。

 

 

「อย่าบอกนะว่า…………นั่นคือความสามารถของนาย?」

 

 

「ใช่แล้ว ความสามารถของข้า“หน้ากากน้ำสะท้อนใจ”ก็ตรงตามที่เห็นละนะ」

 

 

“หน้ากากน้ำสะท้อนใจ(水鏡の心仮面)”

 

 

ความสามารถที่จะใช้น้ำเปลี่ยนรูปลักษณ์ของบุคคลที่ใช้งานความสามารถกลายเป็นเหมือนดั่งกระจกเงาบุคลิกของผู้คน

 

 

มันเป็นความสามารถสุดหายากที่สามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ได้อย่างสมบูรณ์ซึ่งแตกต่าง จากยันต์ปลอมแปลงเป็นอย่างมาก และมันเป็นความสามารถที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์

 

 

เคนสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นใครก็ได้ด้วยความสามารถนี้

 

 

「เพราะงั้นลิซ่าก็เลยเชื่อเรื่องของผมโดยสนิทใจ……」

 

 

「เออ ต้องขอบคุณความสามารถนี้เลยล่ะ」

 

 

แล้วเคนก็บอกเล่าความจริงทุกอย่าง

 

 

“หน้ากากน้ำสะท้อนใจ”เขาใช้มันเปลี่ยนเป็นโนโซมุและทำการแสดงให้ลิซ่าเห็นว่าตัวผมกำลังอยู่กับหญิงอื่น นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอเริ่มเชื่อในข่าวลือนั่น

 

 

ตอนแรกเธอก็บอกว่า “ไม่ใช่แบบนั้นแน่ๆ” แต่เธอก็ได้เห็นฉากพลอดรักของเคน(โนโซมุ)กับหญิงอื่นจนเธอเชื่อว่านั่นคือความจริง

 

 

และเคนก็แสดงแบบนั้นให้เห็นอีกต่อหลายครั้งจนลิซ่าปลักใจเชื่อและเข้ามาหาผมเพื่อบอกเลิก

 

 

โดยปกติแล้วการนอกใจไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางโรงเรียนหรอก แต่ว่าเธอเป็นที่จับตามองก็เลยกลายเป็นข่าวลือหนาหู

 

 

บางครั้งตัวตนของผู้หญิงที่มาแสดงละครคู่กับเคนเป็นใครก็ไม่แน่ชัด แม้แต่ตอนแรกคนรอบข้างก็มีข้อสงสัย แต่หลังจากลิซ่าเข้าไปบอกเลิกและตบหน้าโนโซมุทุกคนก็ปลักใจเชื่อตามๆกันไปหมด

 

 

ลิซ่าเองก็ไม่รู้เกี่ยวกับความสามารถนี้เลยแม้แต่น้อย เคนค่อยๆพัฒนา “หน้ากากน้ำสะท้อนใจ” เรื่อยมาและจนกระทั่งโนโซมุจับได้ ก็มีแค่โนโซมุที่รู้เรื่องความสามารถในตอนนี้เพราะเขาคิดจะกำจัดโนโซมุทิ้งอยู่แล้ว

 

 

การกระทำของเคนมันไม่เหมือนเมื่อก่อนเลยสักนิด

 

 

ใบหน้าของเขากลับภาคภูมิใจและกล้าพูดเรื่องเลวทรามได้อย่างภาคภูมินั่น มันแสดงให้เห็นถึงความหึงหวงและต้องการแย่งชิงอย่างชัดเจน

 

 

「โนโซมุ ตลอดมาน่ะข้าไม่เคยเปลี่ยนมุมมองที่มองแกหรอกนะ ตลอดมาข้าเฝ้าดูแกมาตลอด แต่หลังจากเห็นความต่ำตมของแกแล้ว แกมันไม่สมควรที่จะอยู่ข้างๆลิซ่าเลยสักนิด!!」

 

 

ในขณะนั้นเองเคนก็เริ่มเข้าใกล้โนโซมุอย่างช้าๆตัวเขาที่อดกลั้นมาตลอดและเปิดเผยจิตใจด้านมืดของตัวเอง

 

 

「นอกจากนี้ข้าเป็นคนแรกที่ได้พบกับเธอ ดังนั้นข้าก็ควรจะได้เธอมาเป็นของข้า!!」

 

 

「ย๊ากกห์อั่ก!!」

 

 

เคนเตะเข้าไปที่ท้องของโนโซมุเมื่อพูดเช่นนั้น โนโซมุได้แต่บิดตัวไปด้วยความเจ็บปวด

 

 

แน่นอนว่าเคนเป็นคนแรกที่ได้พบกับลิซ่า

 

 

โนโซมุก็พบกับเคนหลังจากที่เขารู้จักเธอได้ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็เริ่มคุยกับลิซ่า

 

 

เคนที่ชอบลิซ่าอยู่แล้วก็ทำได้แค่มองอยู่ห่างๆในตอนนั้น

 

 

「แต่ว่าไม่มีโอกาสสำหรับแกอีกต่อไปแล้ว ข่าวลือมันไปไกลเกินกว่าจะแก้ไขได้ ลาก่อน โนโซมุ ตอนนี้ข้าต้องไปหาเธอแล้ว เชิญแกคลานอยู่ตรงนี้ไปเหอะ」

 

 

พูดเช่นนั้นเคนก็หันหลังกลับเข้าเมือง โนโซมุไม่สามารถขยับตัวได้

 

 

นี่มันกรณีที่เลวร้ายสุดๆไปเลย อย่างที่คิด ไม่อยากจะเชื่อเรื่องตรงหน้าเลย หัวใจของผมตอนนี้มันแข็งยากเกินจะละลาย

 

 

โนโซมุพึมพำอยู่ในใจราวกับตุ๊กตาล้มลุกว่า “โกหกใช่ไหม ไม่จริงสินะ” และยังคงปฏิเสธต่อไป แต่ไหล่ของเขาที่เจ็บปวดนั่นก็เป็นตัวบอกว่านี่คือความจริง

 

 

ในที่สุดความมืดของค่ำคืนก็เข้ามาปกคลุมพื้นที่และห่อหุ้มตัวของโนโซมุอย่างสมบูรณ์

 

 

◇◆◇

 

 

เมื่อเคนกลับมาที่เมือง เขาก็เจอเธอที่กลางสวนสาธารณะ ใบหน้าของเขาที่เอาชนะศัตรูหัวใจได้มันเต็มเปี่ยมด้วยรอยยิ้มกว่าที่เคย

 

 

(เยสเข้! ทำได้แล้วโว้ย!! ด้วยสิ่งนี้เธอคงจะไม่กลับไปหามันอีกแน่!!)

 

 

หัวใจของเขานั้นเต็มไปด้วยความสุขและดูเหมือนว่าจะกระโดดโลดเต้นได้ตลอดเวลา

 

 

แต่ก่อนต้องมาจับตาดูมันอยู่ตลอดแต่ตอนนี้ไม่จำเป็น

 

 

การปรากฏตัวของหมอนั่นและทำให้เธอตกหลุมรักตัวเอง มันเเป็นเรื่องที่อภัยไม่ได้ในที่สุดก็สามารถกำจัดศัตรูหัวใจออกไปได้สักทีย้อนกลับไปถึงวันวานเก่าๆ

 

 

ตอนนี้คือช่วงเวลาของข้าหาใช่ของมันไม่ ตัวมันไม่เหลือที่พึ่งใดอีกแล้ว ข้าเอาชนะมันได้อย่างหมดจด

 

 

◇◆◇

 

「…………เคนเป็นอะไรไปงั้นเหรอ?」

 

「เปล่าหรอก ไม่มีอะไร」

 

 

ลิซ่าที่เดินอยู่ข้างๆเคนถามเคนด้วยความกังวล แต่เขาก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้มราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

 

รอยยิ้มนั่นมันกำลังเยียวยาจิตใจของฉัน

 

 

รอยยิ้มที่ดูหลอกลวงมานานหลายปี แต่ตอนนี้มันดูต่างออกไปราวกับ “เอาชนะหมอนั่นได้แล้ว” มันเป็นรอยยิ้มที่แตกต่างออกมา

 

「……เพราะงั้น(…………เกิดอะไรขึ้นกันแน่?)」

 

ลิซ่ารู้สึกไม่สบายใจนิดหน่อยกับรอยยิ้มของเคน แต่เธอคิดว่าคงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรก็เลยเดินไปด้วยท่าทางมีความสุข

 

◇◆◇

 

 

ทั้งสองคนเดินเคียงข้างกันบนถนนสายหลัก ลิซ่าที่เป็นสาวสวยผมสีแดงจนผู้คนที่เดินผ่านไปมาต้องเหลียวมอง

 

 

แค่คิดว่าได้ผูกขาดร่างกายอันแสนทรงเสน่ห์นี่ไว้ตัวคนเดียว ก็เหมือนกับเอาชนะเจ้านั่นได้แล้ว ตัวข้าในตอนนี้เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด

 

ในสมัยก่อนก็เคยเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน

 

 

เล่นด้วยกันบ่อยๆ

 

 

แม้ว่าจะชอบผู้หญิงคนเดียวกันแต่ตอนเด็กก็ไม่เข้าใจความรู้สึกเช่นความรัก

 

 

ช่วงเวลาที่ลิซ่าทำตัวเหมือนทอมบอยและเล่นสนุกกับหมอนั่น และหมอนั่นก็ทะเลาะกับนายพลกากิด้วย

 

 

อย่างไรก็ตามลิซ่านั่นจัดการนายพลกากิให้ส่วนเคนและโนโซมุก็เฝ้าดูสถานการณ์

 

 

ลิซ่านั้นไม่ได้เหนือนายพลกากิเลยแม้แต่น้อย แต่ทั้งสองก็แสดงการต่อสู้อันน่าทึ่งให้เห็น

 

 

บางครั้งพวกเราก็เล่นกันหนักเกินไปจนผู้ใหญ่โกรธเอา แต่ก็รู้สึกชอบที่ได้อยู่ด้วยกันสามคน

 

อย่างไรก็ตามความรู้สึกอันแน่วแน่ของโนโซมุที่แสดงให้เห็นต่อลิซ่ามันเป็นอุปสรรคสำหรับเคน

 

 

โนโซมุเริ่มคบกับลิซ่า มันทำให้ข้าเกลียดพวกเขามากจนข้าหึงสุดๆ

 

 

อย่างไรก็ตามลิซ่าเองก็ต้องการมันข้าทำอะไรไม่ได้ๆแต่มองทั้งสองที่มีความสุขร่วมกัน

 

 

แต่ว่าทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหลังได้เข้าสถาบันโซลมินาติ

 

 

ความสามารถของโนโซมุมันตกต่ำ แต่ตัวข้ากลับดีขึ้นเรื่อยๆ “พันธนาการ”ของมันทำให้มันลงไปถึงจุดต่ำสุด

 

 

และเมื่อความสามารถของข้าปรากฏขึ้นในที่สุดก็ได้เวลาชำระแค้น

 

“คนที่ควรได้อยู่กับลิซ่าเป็นข้า ไม่ใช่แกโนโซมุ”

 

เมื่อคิดเช่นนั้นก็ไม่สามารถอดกลั้นตัวเองได้อีกต่อไป

 

 

เขากำจัดโนโซมุทิ้งและรับลิซ่ามาเป็นคู่ครองและเล่นละครแสดงให้มันอิจฉายิ่งกว่าเดิม

 

 

เขาทำตามแผนเรื่อยมา แต่แผนก็ต้องมาหยุดลง ณ วันนี้

 

(ด้วยสิ่งนี้! ทุกๆอย่างก็จบลง!! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!!)

 

เขาหัวเราะออกมาด้วยความสุข อย่างไรก็ตามตัวเขาที่คลั่งไคล้ไปกับความรักมากเกินไปไม่ได้สังเกตเห็น ว่าตัวเขาไม่สามารถไปแทนโนโซมุได้เลย

 

 

◇◆◇

 

 

ในป่าที่ปกคลุมไปด้วยความมืดมีเงาร่างหนึ่งที่กำลังเดินเข้าไปยังส่วนลึกของป่าในขณะที่สัตว์อสูรส่วนใหญ่ต่างกำลังอดกลั้นและเฝ้ารอไม่เคลื่อนไหว แสงจันทร์สอดส่องทอดผ่านระหว่างต้นไม้

 

ตัวเขา โนโซมุ เบลาตี้ ก็เข้าป่ามาก่อนที่จะรู้สึกตัวเสียอีก

 

เมื่อต่องเผชิญหน้ากับความจริงของเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด เขาเดินเข้าป่าไปด้วยความผิดหวังด้วยท่าทางอันโซเซ

 

 

ไม่รู้เหตุใดการก้าวย่างของเขากลับมุ่งหน้าไปที่กระท่อมของชิโนะโดยไม่รู้ตัว

 

◇◆◇

 

「เฮอะ เฮอะ นี่มันอะไรกัน?……」

 

ตอนนี้ตัวผมก็ตระหนักได้ว่ากำลังจะไปที่ไหน เสียงอันแผ่วเบาแล่นออกจากปากของผม ผมกำลังมุ่งหน้าไปสถานที่ๆอาจารย์เคยอาศัยอยู่ ไม่ได้มุ่งหน้าไปหาไอริส

 

 

(……ตัวผมเนี่ยมันช่วยอะไรไม่ได้จริงๆเลยสินะ……)

 

 

“หนี”โนโซมุได้เอาแต่หัวเราะเยาะตัวเองที่ทำได้แค่นั้น “ตัวผมกำลังหนีไปยังที่ๆใช้ความทรงจำร่วมกับอาจารย์ ผมกำลังเหยียบย่ำมันอีกครั้ง” เขาคิดเกี่ยวกับตัวเองที่กำลังจะตาย

 

“ตัวเจ้าก็เหมือนนกอินทรีย์ โดนจงอยและกรงเล็บหักมาไม่รู้แล้วกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง”

 

คำพูดชวนให้คิดของชิโนะย้อนเข้ามาในหัวของผม เมื่อคิดย้อนไปแล้วเธอคงรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าใครที่ทำให้เขาเป็นเช่นนี้

 

 

「…………อาจารย์ พวกเรานี่คล้ายกันเกินไปรึเปล่าครับ……」

 

 

ถูกหักหลังโดยเพื่อนมนุษย์ที่เชื่อใจและกัน ถูกขโมยคนรัก ทั้งชิโนะและโนโซมุผู้หนีความจริง

 

 

เธอหนีมาจากประเทศอันไกลโพ้นและโนโซมุก็หันหลังให้กับความเป็นจริงที่อยู่ตรงหน้าและเชื่อในสิ่งที่ตัวเองอยากจะเชื่อเท่านั้น

 

 

วิธีการนั้นแตกต่างกัน แต่ว่าก็ยังคง “หนี”เหมือนเดิม

 

 

โนโซมุคิดว่าเขาหนีความจริงกลัวที่เผชิญหน้ากับลิซ่า แต่นั่นยังมีอีกหลายสิ่ง ที่โนโซมุนั้นไม่ได้รู้ตัว

 

◇◆◇

 

(จะเป็นยังไงก็ช่างมันสิ…………)

 

หัวใจของโนโซมุที่เปรียบเสมือนขั้วน้ำแข็ง เขาสลัดทุกอย่างทิ้งไปทั้งหมดและขอไม่คิดอะไรอีกต่อไปแล้วทั้งเรื่องของลิซ่าหรืออนาคตก็ตามที

 

 

ความกลัวที่มีต่อเทียแมทที่กลืนกินตัวเอง ความอัดอั้นทั้งหมดที่เก็บมาจนถึงตอนนี้

 

 

หัวใจของเขาว่างเปล่าโดยสมบูรณ์ ถูกควบคุมไปตามอารมณ์เหล่านั้นเพื่อทำลายความตึงเครียดที่มีทั้งหมดออกไป

 

◇◆◇

 

 

(อาจารย์ครับ ท่านเป็นคนบอกเองสินะครับว่าไม่ควรละสายตาจากสิ่งที่หนีอยู่……)

 

คำพูดสุดท้ายที่ชิโนะทิ้งท้ายเอาไว้ผุดขึ้นมาในหัว

 

“แม้ว่าเจ้าจะหนีไปมากแค่ไหน แต่อย่าได้ละทิ้งความเป็นจริงที่ว่าเจ้ากำลังหนีจากความเป็นจริงเหล่านี้อยู่”

 

เมื่อมองย้อนกลับไปแล้วตัวเธอน่าจะรู้ทุกอย่างและทิ้งคำพูดนี้เอาไว้เพื่อให้เป็นข้อคิด

 

 

ถ้าโนโซมุเริ่มยอมรับความจริงเขาก็จะรู้ในไม่ช้าว่าคือเคน และเคนเองก็มีข้อได้เปรียบซึ่งใช้ประโยชน์จากจิตใจอันแสนบอบช้ำของเขาเป็นตัวเล่นงานเขาอีก

 

ชิโนะไม่ต้องการให้โนโซมุตีตัวออกห่างจากเรื่องนั้น

 

 

นั่นคือเหตุผลที่ว่าคำพูดนั่นเป็นเหมือนคำเตือนครั้งสุดท้ายก่อนเธอจะสิ้นลม

 

อย่างไรก็ตามคำพูดของชิโนะนั้นยากเกินเข้าใจสำหรับโนโซมุที่เครียดมากในตอนนั้น

 

 

เขาเอนหลังพิงต้นไม้พร้อมกับนั่งลงบนพื้น

 

 

โนโซมุกอดเข่าและก้มหน้า

 

(…………ไม่อยากจะคิดอะไรอีกต่อไปแล้ว……)

 

โนโซมุละทิ้งความคิดทั้งหมด จิตใจและร่างกายของเขาทนไม่ไหวอีกต่อไปเขาปล่อยตัวเองไปกับความมืดมิด

 

 

◇◆◇

 

 

ไม่รู้ว่าผมนั่งอยู่ตรงนี้มานานแค่ไหนแล้ว โนโซมุเงยหน้าขึ้นพร้อมกับได้ยินเสียงบางอย่าง

 

 

มีบางอย่างจากส่วนลึกของป่ากำลังเข้ามาใกล้ ไม่ใช่แค่หนึ่งหรือสอง

 

 

โนโซมุค่อยๆลุกขึ้นยืนและจ้องมองไปเช่นนั้นก็พบกับแแววตาคู่หนึ่งลอยอยู่ท่ามกลางความมืดมิด

 

 

 

สัตว์สี่ขาที่ปกคลุมไปด้วยขนสีดำปรากฏตัวขึ้นทีละตัวๆ จำนวนประมาณ 15 ตัว

 

 

สัตว์อสูรนี่โนโซมุรู้จักกันดี นั่นคือฝูงหมาป่า พวกมันเข้ามาและล้อมโนโซมุไว้

 

 

「อะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…………」

 

โนโซมุหัวเราะออกมาอย่างแผ่วเบา

 

 

มีบางอย่างสีดำเสียดแทงเข้าไปในจิตใจของโนโซมุราวกับย้อมโนโซมุด้วยความมืดมิด มันกลืนกินจิตวิญญาณของโนโซมุที่แห้งเหือดไปในพริบตาและกระตุ้นจิตใจให้กลับมาลุกโชนอีกครั้ง

 

 

เปลวไฟแห่งจิตวิญญาณเริ่มลุกไหม้ ที่ครั้งหนึ่งโดนเพื่อนสนิทที่สุดหักหลัง เปลวไฟที่กำลังลุกโหมกระหน่ำเริ่มย้อมจิตใจของเขาด้วยความโกลาหล มันปลดปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเก็บมาจนถึงตอนนี้

 

 

โนโซมุจ้องมองไปที่สัตว์อสูรหมาป่าแววตาของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

 

 

ดวงตาที่มีเปลวไฟลุกโชนท่ามกลางอกและปากที่ตะโกนก้อง

 

 

“ถ้าไม่ฆ่าก็จะถูกฆ่า สุดท้ายก็ต้องฆ่ากันอยู่ดี”โนโซมุหันไปมองพวกมันด้วยความคิดเช่นนั้น

 

(เออ……………ขอแค่ตอนนี้!ขอให้ตัวผมได้อาละวาด จะฆ่าทุกอย่างไม่ให้เหลือเลย!!!)

 

จิตใจอันแสนวุ่นวายแม้แต่ตัวเขาเองในตอนนี้ก็ไม่เข้าใจมัน

 

ความเกลียดชัง ความโกรธ หรือ ความเศร้า?

 

ตอนนี้ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่ารู้สึกแบบไหนอยู่กันแน่ แต่แน่นอนตอนนี้ตัวผมขับเคลื่อนไปด้วยความรู้สึกอันแสนคลุมเครือ

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยนำบางส่วนมาจากนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

บทนำ

สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

เรื่องย่อ

สถาบันโซลมินาติ สถานที่ๆคนหนุ่มสาวจากทั่วทุกดินแดนจะมารวมตัวกันเพื่อต่อยอดความฝันและความหวังของตัวเอง ความทะเยอทะยาน สำหรับคนที่ไม่มีอะไรดีสักด้านนั้นจะถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามถูกปฏิบัติแบบไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมโดยสมบูรณ์

เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่ชั้นอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ข้า โนโซมุ เบลาตี้ ซึ่งอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนในช่วงพักกลางวัน

ข้ามาที่นี่เมื่อสองปีก่อน ออกมาจากบ้านเกิดกับเพื่อนสมัยเด็กสองคนเพื่อมายังที่แห่งนี้

คนแรกคือ เคน โนทิส เป็นเพื่อนที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ ลิซ่า เฮาวน์

สาวสวยผู้มีผมหางม้าสีแดง

เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตและเป็นคนรักของข้า

เธอเป็นคนที่เอาชนะคนอื่นได้เสมอ เธอเป็นเหมือนดั่งตัวร้ายที่คอยต่อต้านกับหัวหน้าหมู่บ้าน

ข้าพบกับเธอก็เมื่อตอนอายุ 8 ขวบ ตอนที่ข้ากำลังตกปลาในแม่น้ำใกล้หมู่บ้าน

「อะ เอ่อ อืม ว่างหรือเปล่า?」

เป็นตอนนั้นเองที่เธอเข้ามาพูดกับข้า

ผมสีแดงตัดสั้น ท่าทางที่ดูมั่นใจ ใบหน้าของข้าค่อยๆร้อนรุ่ม…ข้าตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น

พ่อแม่ของเธออาศัยอยู่ในดินแดนที่ห่างไกลออกไป แต่เมื่อพ่อของเธอเสียชีวิตระหว่างเดินทาง เธอจึงตัดสินใจที่จะตั้งถิ่นฐานที่บ้านเกิดของข้า

ตอนเธอยังเด็กมักจะเป็นเด็กที่ซุกซนและอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ข้าก็ไม่ได้รังเกียจอะไร และเธอไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ

แล้วก็เด็กที่ทำให้เธอผิดหวังมากที่สุดก็คือนายพลกาคิกับผมด้วยเหตุผลบางอย่าง

เมื่อสามปีก่อนข้าสารภาพรักกับเธอเพราะว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

รักแรกที่ข้าชอบมาตลอด

เธอตกใจมากกับการสารภาพรักที่กระทันหันของข้า แต่เธอก็ยอมรับข้าและร้องไห้ทั้งน้ำตา

ตอนนั้นเองข้าจึงตัดสินใจที่จะไปสถาบันโซลมินาติกับเธอเพื่อสนับสนุนความฝันของเธอให้เป็นจริง

มันเป็นแรงบัลดาลใจให้ข้า ความฝันของเธอที่บอกข้าตอนยังเด็ก

「ฉันน่ะอยากจะเห็นโลกที่หลากหลายเหมือนกับคุณพ่อ」

ข้ารู้ว่าเธออยากออกไปท่องโลกกว้างเพราะเธอได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นมาจากมารดาของเธอ

ตอนนั้นเองเป็นตอนที่ข้าตัดสินใจไปที่สถาบันโซลมินาติ

หากคนที่ตัวเองรักอยากทำความฝันให้เป็นจริง ข้าก็ควรจะสนับสนุน

ด้วยคำพูดเช่นนั้นข้าตัดสินใจว่าจะสนับสนุนเธอตลอดมา

เธอกอดข้าทั้งน้ำตาพร้อมกับบอกว่า「ขอบคุณนะ……ฉันดีใจจริงๆ」

ท่ามกลางการหลับกลางวันของข้าก็ได้ยินเสียงระฆังที่ส่งเสียงบอกเวลาว่าหมดเวลาพักกลางวันแล้ว

ข้าลุกขึ้นพร้อมกับบิดตัวด้วยความขี้เกียจพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังห้องเรียน

ถูกบังคับให้ไสหัวไปก็ตั้งหลายครั้ง ตัวข้าที่ไม่สามารถทำคำปฏิญาณนั่นได้

ชั้นเรียนของข้าคือ ชั้นเรียนที่สอง ระดับ 10 เป็นห้องที่ต่ำที่สุดในบรรดาชั้นเรียนที่สอง

ในหมู่พวกนั้นข้าเป็นคนที่อยู่ต่ำสุดเรียกได้ว่าเป็นพวกที่ห่วยของโครตห่วย

เมื่อข้าเข้ามาในชั้นเรียนก็โดนต้อนรับด้วยการหัวเราะเยาะเย้ยเป็นเรื่องปกติ

「ยังจะโผล่หัวมาอีกนะ ไอชั้นต่ำ」

「เมื่อไรมันจะหายๆไปสักทีวะ」

「หวังว่าจะลาออกไปไวๆน้า~」

เสียงที่ดูไร้หัวใจเหล่านั้นเสียดแทงเข้ามาในจิตใจของข้า ข้าทำได้แต่เมินต่อไปและนั่งลงบนเก้าอี้

เมื่อข้านั่งลงก็มีนักเรียนสามคนเข้ามาทางข้า

「แกจะมาทำไม ในเมื่อแกมาที่นี่มันก็ไร้ความหมายอยู่ดีไม่ใช่เหรอไงวะ ไอ้เศษเดนเอ้ย」

มาร์ที่ตัวค่อนข้างใหญ่พูดข่มขู่ข้า

「ยอมแพ้ไปสักทีเหอะวะแกไม่คิดว่ามันเสียเวลาชีวิตบ้างเหรอวะ」

「แกโดนแกล้งขนาดนี้ก็เหมาะกับแกดีนี่ เหมาะสมกับเศษสวะอย่างแก」

พวกนั้นก็ยังคงกรนด่าข้าไม่หยุด

「ช่ายๆ โดนเด็กผู้หญิงหัวแดงที่ท่าทางเหมือนเจ้าหญิงนั่นทิ้งแล้ว ไม่มีอะไรให้แกได้ฝันอีกต่อไปแล้วล่ะ」

พวกนั้นทั้งสามคนยังยืนหัวเราะและพยายามยั่วโมโหข้า ไม่มีใครคิดจะห้ามพวกมัน ในท้ายที่สุดพวกมันก็ไม่ยอมหยุดจนกระทั่งอาจารย์ประจำชั้นเข้ามาในห้อง

ใช่แล้วล่ะ ข้าถูกลิซ่าทิ้ง เธอน่ะเป็นนักเรียนห้อง 1 เลยนะ

ทันทีที่เธอทิ้งข้าไปหลังจากกล่าวลาไม่กี่คำ เธอก็ไม่เคยกลับมาพบข้าอีกเลย

ข้าไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ตั้งแต่นั้นมาเธอก็มองข้าเหมือนเศษสวะ

เป็นเพราะข้าเอาแต่สร้างปัญหายังงั้นเหรอ

ลิซ่าเป็นผู้หญิงที่ถูกขนานนามว่า “เจ้าหญิงผมแดง” เพราะหน้าตาและความสามารถ

ในทางกลับกันตัวข้าที่ไม่มีอะไรดีเด่นหน้าตาบ้านๆ

ตลอดช่วงที่ข้าคบกับเธอ เธอมักจะโดนรังควาญอยู่เสมอ บางทีการที่ข้าโดนทิ้งก็เพราะสร้างความยุ่งยากให้เธออยู่เสมอก็ได้

ข้านั้นไร้ซึ่งเพื่อนและกลายเป็นหมาหัวเน่า

ถึงกระนั้นข้าก็พยายามอยากหนักไม่ละเลยสิ่งต่างๆตามหน้าที่ของตน

สักวันหนึ่งถ้าข้าสามารถรักษาคำสาบานที่ให้ไว้ได้ละก็……….ข้าคิดเช่นนั้น

ในขณะเดียวกันนั้นเองเธอก็ไปคบกับเพื่อนสมัยเด็กที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

เธอดูมีความสุขราวกับเธอรักเขาจริงๆ

ในการฝึกซ้อมเป็นคู่พวกเธอสองคนเข้าขากันได้ดีมาก ข้าไม่มีที่ยืนเคียงข้าเธอเลย

ชั่วโมงที่สอง ในช่วงบ่าย

「เฮ้ออ!」

ด้านข้างของดาบจำลองนั่นถูกขว้างมาจากเครื่องยิงดาบจำลอง

เมื่อดาบจำลองที่ถูกยิงมาถูกปากลับไปและแทงเข้าไปที่คอของตุ๊กตา กลไกนั่นก็จะหยุดทำงานลง

หลังจากคาบบรรยายนี่ก็เป็นภาคฝึกปฏิบัติ

นอกจากสนามฝึกซ้อมแล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น สนามทดลองเวทมนตร์ในสถาบันแห่งนี้และนักเรียนที่สามารถศึกษาเรียนรู้ความสามารถของตนตามสถานที่ต่างๆ

สนามฝึกถูกแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่เพื่อให้นักเรียกจากหลายๆชั้นมาเรียนที่เดียวกันได้

วันนี้เป็นการฝึกการต่อสู้ระหว่างบุคคลและแต่ละคนก็จะได้ต่อสู้กับหุ่นยนต์ที่มีดาบจำลองเป็นคู่ซ้อมทำการต่อสู้แบบอิสระ โดยใส่พลังเวทย์เข้าไปเพื่อให้หุ่นยนต์นั้นทำงาน

อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์สำหรับพวกห้อง 10 นั้นมีคุณภาพแย่และเคลื่อนไหวได้แค่บางส่วน

「อืม ต่อไปจะเป็นการต่อสู้เป็นคู่ เลือกคู่หูได้ตามใจชอบ~」

เมื่ออาจารย์อันริ วาร์ อาจารย์ประจำชั้นของพวกห้อง 10 เรียกออกมา หุ่นยนต์ก็หยุดทำงาน ดังนั้นทุกๆคนก็หยุดและรอการจับคู่

อาจารย์อันริมีผมหยักสีน้ำตาล ดวงตาที่ดูสมวัยและใบหน้าที่ออกไปทางดูดีอย่างมาก

อย่างไรก็ตามอาจารย์คนนี้เป็นบุคคลที่ไม่เหมาะกับโรงเรียนแห่งคุณธรรมแห่งนี้เลยเพราะเขาชอบพูดและทำท่าทางแปลกๆราวกับคนบ้า

เรียกได้ว่าคนที่รับผิดชอบนักเรียนห้อง 10 ถูกโยนมาแบบทิ้งขว้างเลยก็ได้

อย่างไรก็ตามการที่เขาสามารถมาเป็นอาจารย์ได้ก็คงมีความสามารถพอตัว

ในที่สุดการจับคู่ก็ถูกตัดสินและแต่ละฝ่ายต่างเริ่มจำลองการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ของตัวเอง แต่ว่าคู่ต่อสู้ของข้าดันเป็น……。

「เอ่อ สำหรับแกแล้ว น่าเสียดายหน่อยนะ」

เป็นมาร์นั่นเองที่กรนด่าข้าเมื่อตอนบ่าย

「มาเริ่มกันเลยดีกว่า เพราะว่าเศษสวะอย่างแกจะทำให้ชั้นเสียเวลา」

มาร์ดึงดาบใหญ่ออกมาจากด้านหลัง

มาร์เป็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมา ความสามารถของเขานั่นของจริง ถึงอย่างนั้นก็ยังได้มาอยู่ในห้องห้อง 10 เช่นนี้เพราะชื่อเสียงแย่ๆนั่นละ

ผมเองก็ดึงดาบจำลองออกมาด้วยเช่นกัน

อาวุธของข้าเป็นดาบที่มาจากทางเกาะตะวันออก เรียกกันว่าคาตานะ เป็นดาบที่มีความคมเป็นอย่างมาก กล่าวได้ว่ามันสามารถตัดทุกอย่าไงได้หากใช้ได้อย่างชำนาญ

ยังไงก็ตาม มันใช้เทคนิตชั้นสูงและความหายากของมันเลยไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนัก

มันเป็นอาวุธที่เหมาะกับข้าที่สุด สำหรับข้าที่ไร้ซึ่งพลัง

「ถ้าอย่างงั้นละก็ เริ่มได้~~~」

การต่อสู้นั่นเต็มไปด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยจากท่าทางของอาจารย์อันริ

「โฮ่ย่าาาาาาาาาาาห์」

มาร์เหวี่ยงดาบใหญ่พร้อมตะโกนก้อง

ผมป้องกันการโจมตีด้วยคาตานะ

ดาบของมาร์ถูกเบี่ยงวิธีและมันก็ฟาดลงทีพื้น

「ฮ่าๆ!」

ก้าวเข้าไปหลังจากมาร์เปิดช่องว่างเล็งไปที่ต้นคอและพยายามจะเอาสันดาบทุบ

「สายไปละโว้ย!」

มาร์เอาถุงมือที่แขนปกป้องดาบของผมไว้ ดาบเลียนแบบที่ไม่มีความคมของดาบดั้งเดิมเหลืออยู่ก็ถูกป้องกันด้วยถุงมือนั่น

มาร์รุดหน้าเข้ามาพร้อมกับยกถุงมือขึ้นป้องกันการโจมตี แต่ข้าก็ก้มลงเพื่อหลบการโจมตี

ข้าพยายามจะโจมตีไปอีกรอบ แต่มาร์นั้นเหวี่ยงดาบใหญ่มาด้วยมือข้างเดียว

ข้าถูกบังคับให้ถอยและกลับไปตั้งหลักใหม่

มาร์ที่ฟาดดาบใหญ่จนพื้นแตกกระจายพยายามมองระหว่างข้าและดาบใหญ่ของมันเอง……。

「อยากโดนหั่นเป็นชิ้นๆเหรอไงวะ」

มาร์พูดเช่นนั้นพร้อมกับรังสีกดดันที่เพิ่มมากขึ้น

“คิ”

เป็นสกิลของทางฝั่งตะวันออกที่จะเพิ่มพลังให้แก่ผู้ใช้งานให้เหนือขีดจำกัดยิ่งขึ้นไป

มาร์พุ่งเข้ามาในคราวเดียว ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นั่นละคือผลลัพธ์จากการใช้ คิ

ราวกับจะจับเหยื่อตรงหน้าฟาดดาบใหญ่นั่นลงมาในทีเดียว

ข้าเองก็ใช้ “คิ”เช่นกันเพื่อหลบการโจมตีของดาบใหญ่นั่น เสียงของเหล็กดังกระทบกันสนั่นหู

「เหอะ!ลังเลอยู่งั้นเหรอ」

มาร์ที่รู้สึกหงุดหงิดนั่นดูมีท่าทีลังเลจึงไม่สามารถจะตัดสินใจจบการโจมตีในทีเดียวได้

เขาดึงดาบใหญ่ที่จมลงไปบนพื้นและเริ่มที่จะฟันมันมาอีกครั้ง

เขาฟาดฟันดาบใหญ่ไปรอบๆด้วยเรี่ยวแรงอันมหาศาลจาก “คิ”

เสียงของเหล็กปะทะกันดังสนั่นไปทั่วบ่งบอกถึงการต่อสู้อันดุเดือด แต่ว่ามีฝ่ายเดียวที่ได้เปรียบ

การเสริมพลังกายของมาร์มีพละกำลังมากกว่าข้า แต่ผลของการเสริมพลังกายของข้าเองก็ได้ผลเพียงครึ่งเดียวด้วยความสามารถของข้า

มาร์มันเป็นคนเก่งแต่เพราะทำแต่เรื่องแย่ๆเลยได้มาอยู่ในห้อง 10

ในทางตรงกันข้ามแม้หมอนั่นจะมีความสามารถสูง แต่มาร์มันกลับพอใจที่จะกดขี่คนที่ต่ำกว่านั่นมันโครตจะแย่

เทคนิคดาบชั้นสูงของมาร์ไม่สามารถใช้จัดการกับโนโซมุตามปกติได้ แต่ว่าพลังกายของโนโซมุที่ได้รับการเสริมแบบครึ่งๆกลางๆมันก็พอเป็นไปได้

พลังที่ได้มานั่นทำให้พอฟัดพอเหวี่ยงกับดาบของโจรสลัดเท่านั้นเอง

「แหลกไปซะเหอะมึง!!」

บางทีอาจจะเป็นเพราะข้าโดนกดดันจนถูกบดขยี้ในพริบตา แต่ว่าข้าก็กันการโจมตีนั่นได้ยิ่งทำให้มาร์มันหงุดหงิดจนพละกำลังมันเพิ่มมากขึ้นไปอีก

「เหอะ คิดว่าจะบดขยี้ข้าได้ง่ายๆงั้นเหรอ!」

ข้ากัดฟันแน่นเพื่อที่จะไม่เดินไปตามเกมส์ของศัตรู

แม้ว่าพลังในการโจมตีจะเพิ่มขึ้น แต่การโจมตีของมันก็ซ้ำซากและจำเจ ทำให้รับมือได้ไม่ยากเย็น

อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถสวนกลับได้ทำได้เพียงแค่ยื้อเท่านั้น

และถ้าโต้กลับไม่ได้ผลมันก็รู้ๆกันอยู่

ในที่สุดก็มาถึงขีดจำกัด

ข้าไม่สามารถรับการโจมตีของมาร์ได้อีกต่อไป การป้องกันของข้าถูกทำลายลงและไม่มีเวลามาตั้งท่าใหม่ ตอนนั้นเองทีข้าถูกดาบใหญ่นั่นฟาดเข้ามากระแทกกับคาตานะของข้าจนกระเด็น

「จะเหนียวได้สักแค่ไหนกันเชียววะ!」

รูปร่างของข้าบิดเบี้ยวเพราะการโจมตีนั่น ข้าตัวกระเด็นจนตัวไปกระแทกกับกำแพงของสนามฝึกซ้อม

ผลกระทบนั่นทำให้ข้าหายใจติดขัดและการมองเห็นของข้าก็มืดดับลง

「เป็นแค่เศษสวะแท้ๆ แต่ยังกล้าขัดขืน โดนดีไปซะเหอะมึง」

ข้าหมดสติไปพรัอมกับคำพูดของมาร์

「โอ้ยยยย เจ็บแหะ!」

ข้าลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับสติที่พร่ามัวลุกขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดไปทั้งตัว

ข้าก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องพยาบาล

「เอ้าๆ รู้สึกตัวแล้วไม่ใช่เหรอไงเนี่ย?」

ผู้หญิงสวมชุดโค้ทสีขาวพร้อมกับใส่แว่นนั่นกำลังทำงานอยู่บนโต๊ะพยาบาล

ชื่อของเธอคือนอร์น อัลทิน่า เป็นหมอประจำโรงเรียนที่สวยเอามากๆ

เธอเดินมาทางนี้และขยับนิ้วมาตรงหน้าผมเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกาย

「อืมม ดูจากสภาพแล้วสติยังคงดีอยู่ แล้วรู้สึกปวดตรงไหนบ้างรึเปล่า?」

「ข้าปวดหลังนิดหน่อยและหัวเองก็ยังคงมึนๆ แต่ว่าไม่มีตรงไหนผิดปกติแล้วล่ะ」

「อืมมเข้าใจแล้ว ฉันทายาไปที่หลังของนายแล้วล่ะ แต่ถ้ารู้สึกเจ็บหรือปวดตรงไหนก็มาได้ตลอดเวลานะ มันจะดีกว่านะที่มาหาฉันมากกว่าที่จะทนเจ็บกับบาดแผลนั่น」


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

  1. Antimanga พูดว่า:

    ไอเคน แม่งอย่างเหี้ย เลวบริสุทธ์ กูอยากจะฆ่ามันจริงๆ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท