ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? – ตอนที่ 393 (ตอนพิเศษ) เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ 1

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ตอนที่ 393 (ตอนพิเศษ) เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ 1

ตอนที่ 393 (ตอนพิเศษ) เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ 1

ข้าชื่อเฉียวจืออวี๋ มีชื่อเล่นว่าเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ ภายนอกดูเหมือนเด็กผู้หญิงอ่อนโยน ทว่าข้างในกลับแข็งแกร่ง

ตั้งแต่เด็ก ความปรารถนาของข้าคือการสวมชุดเกราะ และออกรบฆ่าศัตรู แต่น่าเสียดายที่สวรรค์ไม่ให้โอกาสนี้แก่ข้า

หลังจากที่ท่านพ่อขึ้นเป็นฮ่องเต้ ใต้หล้าก็สงบสุข ไม่มีประเทศไหนกล้ายั่วยุเรา ดังนั้นข้าที่มีวรยุทธ์จึงไม่ได้แสดงฝีมือเลย นี่ทำให้ข้ารู้สึกลำบากใจมาก

เมื่อข้ายังเด็กอ่อนโยนน่ารัก เป็นที่รักของชายหญิงคนแก่เด็ก เมื่อโตขึ้นยิ่งงดงามมีเสน่ห์ มีชายนับไม่ถ้วนคอยตามหลัง

สำหรับรูปลักษณ์ภายนอกของข้า ข้ามั่นใจมาก แต่เมื่อข้าอายุสิบเจ็ดสิบแปดปี พี่ๆ น้องๆ ข้างกายข้าต่างมีคนทยอยกันมาสู่ขอ มีเพียงข้าคนเดียวที่ไร้คนสอบถาม

แม้ข้าไม่อยากแต่งงาน แต่เรื่องที่ไม่มีใครมาสู่ขอ ทำให้ข้ารู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก

เราเป็นคนมีน้องเยอะ หากพวกเขารู้ว่าไม่มีใครต้องการพี่ของพวกเขา วันหน้าข้าจะสอนพวกเขาอย่างไร?

ข้ากลุ้มใจเป็นอย่างมาก จึงส่งน้องๆ ไปสอบถามข้อมูล

แต่เพิ่งสั่งไปได้ไม่ทันไร พวกน้องๆ ก็ตอบข้ามาแล้ว

พวกน้องๆ กลั้นหัวเราะ และมีท่าทางลังเล อยากจะพูดทว่าไม่กล้าพูด

ข้าโบกมืออย่างน่าเกรงขาม ให้พวกเขาได้กล่าวในสิ่งที่รู้ออกมาทุกอย่าง ข้าอยากเห็นนักว่าใครกล้ากีดกั้นการหาคู่ของข้าผู้นี้!

ข้ากำลังคิดว่าจะจัดการกับคนที่อยู่เบื้องหลังอย่างไร กลับได้ยินน้องชายเอ่ยว่า”พี่ใหญ่ ใช่ว่าไม่มีใครไม่อยากมาขอ แต่พวกเขาไม่กล้ากันต่างหาก!”

น้องชายอธิบายอย่างเนิ่นนาน หัวใจที่เดือดพล่านอยากเอาชนะคนก็สงบลง

ใช่แล้ว ข้าคือพี่อวี๋ที่ได้รับสมญานามว่าเป็นนางมารสีชมพูจากบรรดาผู้ดีในเมืองหลวง เคยจัดการพวกคุณชายลูกผู้ดีไปแล้วครึ่งหนึ่ง ใครจะกล้าแต่งงานกับข้า ไม่กลัวว่าจะถูกทุบตีหรือไร!

แม้ข้าจะเป็นสาวแกร่งคนหนึ่ง แต่สีโปรดของข้าก็ยังเป็นสีชมพู

กระโปรงตัวเล็กสีชมพูอ่อนบนเรือนร่างสวยงามมากเลยนะ ใครบัญญัติว่าคนหยาบกระด้างใส่สีชมพูไม่ได้? ฮึ่ม!

หลักการที่ว่ายิ่งใส่สีชมพู ยิ่งทุบตีคนดุร้ายมากขึ้น ทุกครั้งที่ข้าจัดการคน ต้องใส่กระโปรงสีชมพู นานวันเข้า สมญานามนางมารสีชมพูก็แพร่สะพัดออกไป

หลังจากรู้เรื่องนี้ ข้าก็แทะไก่ย่างอย่างเงียบๆ หลังจากกินเสร็จ ข้าก็คายปัญหาใหญ่นี้ออกมาเหมือนคายกระดูกไก่

ถุย! คนธรรมดาช่างไม่เข้าใจชื่นชมความงามกับความแข็งแกร่งของพี่สาวเอาเสียเลย!

สำหรับเรื่องที่ไม่มีใครมาขอข้าแต่งงาน หากเอ่ยถึงคนที่มีความสุขมากที่สุด ย่อมเป็นพ่อของข้า ผู้ที่หวังว่าข้าจะไม่แต่งงานออกไป และอยู่เคียงข้างท่านไปตลอดชีวิต

เมื่อพี่ชายอายุสิบแปดปีก็ออกเดินทางท่องเที่ยวอยู่ข้างนอก ข้าเองก็คิดเช่นกัน หากไม่สามารถเป็นแม่ทัพหญิงที่สง่างามได้ ไปเป็นนักท่องยุทธภพก็ไม่เลวเหมือนกัน

ด้วยเหตุนี้ข้าจึงขี่ม้า พกกระบี่เดินทางไปทั่วหล้าเพียงลำพัง

ข้าไม่อยากพาพลคุ้มกันไปด้วย เพราะฝีมือของพลคุ้มกันเทียบข้าไม่ได้ เมื่อเจออันตราย ไม่แน่อาจรอให้ข้าไปช่วยพวกเขาก็เป็นได้

ทว่าท่านพ่อกับท่านแม่เป็นห่วง จึงจัดพลคุ้มกันจำนวนมากติดตามข้าไปอย่างลับๆ แม้ข้าจะรู้ กลับทำได้แค่แสร้งทำเป็นไม่เห็น ด้วยไม่อยากให้พวกเขาเป็นห่วง

เมื่อก้าวเข้าสู่ยุทธภพ ข้ากลายเป็นนกที่มีอิสระ และพบเจอเรื่องราวหลายอย่างที่ข้าไม่สามารถสัมผัสได้ในเมืองหลวง

ตอนแรกที่ข้าเข้าไปในยุทธภพ บางคนเห็นข้ารังแกได้ง่าย กลับอยากปล้นข้า และลักพาตัวข้าไปเป็นเมียทาส

เมื่อข้าได้ยิน ดวงตาพลันสว่างทันที คิดๆ ดูแล้วก็ยังมีเรื่องดีๆ เช่นนี้อยู่อีก!

ด้วยเหตุนี้ ข้าจึงตามพวกเขาไปอย่างเชื่อฟัง

ข้าแค่อยากจะตามไปดูว่าหัวหน้าที่พวกโจรพวกนี้อวดนั้นเป็นคนเช่นไรกัน หากเก่งกาจอย่างที่ว่าจริงๆ และหน้าตาดีล่ะก็ ข้าจะลองคิดดูว่าจะรับเขาไปเป็นผัวทาส

อย่างไรเสียตอนยังเด็กเราสาบานว่าจะเป็นภรรยาที่ควบคุมบ้าน ดังนั้นจำต้องหาสามีดีๆ สองคนให้ตัวเอง?

แต่หลังจากที่ได้เห็นเจ้านายของพวกเขาแล้ว ข้าก็รู้สึกผิดหวัง ผิดหวังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จากนั้นก็ตามมาด้วยความโกรธ!

ผู้ชายรูปร่างเตี้ยอ้วนเหมือนหมีดำคนนี้คือหัวหน้าที่พวกเขาว่ากันว่ามีบุคลิกดีและมีความสามารถงั้นเหรอ?

ข้ารู้สึกว่าตัวเองถูกหลอก เพื่อสั่งสอนบทเรียนให้คนโกหกเหล่านี้ ข้าจึงทลายรังโจรของพวกเขา และกลายเป็นหัวหน้าโจรเสียเอง

พวกโจรร้องไห้อย่างขมขื่นหลังจากถูกข้าทุบตี แต่เพราะกำปั้นน้อยของข้า พวกเขาจึงไม่กล้าพูดออกไปแม้จะโมโหก็ตาม

ชื่อเสียงของข้าค่อยๆ แพร่สะพัดไปทั่วยุทธภพ ฉายานางมารสีชมพูปรากฏขึ้น อิทธิพลก็ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ

ทว่าคนที่ท่องอยู่ในยุทธภพ มีใครไม่สะบักสะบอมบ้าง ข้านางมารสีชมพูผู้ไม่เคยพ่ายแพ้มาก่อนกลับพบกับความพ่ายแพ้ย่อยยับที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์บนงานประลอง

ว่ากันว่าผู้นำยุทธภพคนเก่าจะเกษียณ จึงจัดงานประลองการต่อสู้ขึ้น เพื่อเลือกผู้นำยุทธภพคนใหม่

ข้าเป็นคนที่ชอบเข้าร่วมความสนุก สถานที่มีชีวิตชีวาเช่นนี้จะไม่มีข้าได้อย่างไร ด้วยเหตุนี้ข้าจึงลงสัมครเข้าร่วมงานประลองการต่อสู้ด้วย ไม่แน่ออกไปเล่นๆ อยู่ดีๆ ก็อาจได้เป็นผู้นำยุทธภพคนใหม่ก็ได้

ข้ามั่นใจในฝีมือของตัวเองมาก วันแข่งขัน ข้าตั้งใจเปลี่ยนชุดสีชมพูใหม่ เพื่อรับรองว่าข้าเป็นเด็กสีชมพูที่สุดในบรรดาคนที่อยู่ที่นั่น

หลังจากผ่านไปห้าด่านและสังหารไปหกคน ข้าก็มาถึงรอบสุดท้ายได้สำเร็จ คนที่หน้าตาดีจากนิกายต่างๆ ถูกข้าซัดจนถอยกลับไปหมด ฉายานางมารสีชมพูของข้าก็ยิ่งเลื่องชื่อลือชาขึ้น

ในรอบสุดท้าย ชายรูปร่างอ้วนถูกข้าซัดล้มลง ไม่มีใครกล้ามาท้าทายบนเวที ข้าดีใจอย่างมาก เมื่อรู้ว่าอีกไม่นานข้าจะกลายเป็นผู้นำยุทธภพที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์

ผู้นำเก่าให้ความสำคัญกับข้ามาก ยกย่องข้าว่าเป็นเด็กรุ่นที่น่าเกรงขาม และให้ป้ายผู้นำแก่ข้า ทว่าในเวลานี้เอง มีแขกที่ไม่คาดคิดปรากฏตัวขึ้นบนเวที

ภาพวันนั้นข้ายังจำได้ตลอดชีวิต ตอนนี้เมื่อนึกขึ้นมายังรู้สึกเข็ดฟัน!

ผู้นำเก่ากำลังจะประกาศว่าข้าจะรับตำแหน่งผู้นำยุทธภพคนต่อไป ทว่ากลับมีเสียงหนึ่งดังมาแต่ไกล “ช้าก่อน! เจ้าสำนักเราอยากประลองกับแม่นางผู้นี้!”

ข้ามองตามเสียงไป เห็นคนสี่คนใช้วิชาตัวเบาลอยอยู่เหนือน่านฟ้า พวกเขาแบกเกี้ยวที่คลุมด้วยผ้าโปร่งสีขาวไว้บนไหล่ ภายในเกี้ยวนั้นมีชายสวมหน้ากากนั่งอยู่

ข้าลอบสบถอยู่ในใจ ทว่าในใจกลับแอบจดจำวิธีปรากฏตัวอันยอดเยี่ยมนี้อย่างเงียบๆ วันหน้าข้าจะทำเกี้ยวสีชมพูฟูฟ่องให้ตัวเอง และให้พลคุ้มกันแบกข้าไป เพื่อสาดส่องแสงให้คนอื่นตาบอด

เกี้ยวทะยานลอยมาอยู่เหนือลานประลอง ชายที่อยู่ข้างในถือพัดไว้ในมือ และทะยานลงมาจากเกี้ยวเบาๆ ราวกับเทพเซียนลงมายังโลกมนุษย์

ต้องยอมรับว่า ภาพในตอนนั้นงดงามจริงๆ ผู้ชายชุดขาวคนหนึ่ง สวมหน้ากากสีเงินปิดตาปิดจมูก เผยให้เห็นแค่ริมฝีปากสวยงามกับคางได้รูปเท่านั้น

เขาสะบัดพัดอย่างช้าๆ ทุกการเคลื่อนไหวดูสบายๆ เส้นผมปลิวไสวไปตามสายลม ราวกับเวลาหยุดนิ่งในตอนนั้น

ข้านิ่งมองอยู่เนิ่นนาน อยากจะถอดหน้ากากที่ขวางกั้นนั้นออก ดูรูปร่างหน้าตาของเขา หากหน้าตาดีล่ะก็ เขาก็คือสามีอันดับหนึ่งของข้า

ผู้คนด้านล่างเวทีกำลังคุยซุบซิบกัน ข้าฟังคร่าวๆ ได้ว่าทุกคนกำลังเอ่ยถึงชายตรงหน้า

เจ้าสำนักเขาจันทร์กระจ่าง เทพเจ้าผู้ชั่วร้ายที่ไม่เคยเปิดเผยใบหน้าแท้จริง และเป็นบุคคนอีกประเภทหนึ่งในยุทธภพ

ฉายานี้ข้าเคยได้ยินตอนเข้ามาท่องในยุทธภพแรกๆ ว่ากันว่าฝีมือของเจ้าสำนักเขาจันทร์กระจ่างนั้นหยั่งลึกมิอาจคาดเดาได้ และตอนนี้ก็ไม่มีใครรู้ว่าฝีมือเขาอยู่ในระดับไหนแล้ว

ข้าลูกวัวแรกเกิดไม่กลัวเสือ จึงเชิดคางขึ้นอย่างภาคภูมิใจ สองมือเท้าเอว สบตากับเขา

แม้วิธีการปรากฏตัวของข้าจะเทียบเขาไม่ได้ ทว่ารังสีความน่าเกรงขามนั้นจะเป็นรองไม่ได้เด็ดขาด!

ข้าโบกมือให้เขา ตั้งใจทำน้ำเสียงให้เข้มขึ้น เพื่อให้ตัวเองดูสง่าผ่าเผยมากขึ้น “มาเลย!”

ข้าเตรียมพร้อม ทว่าชายตรงข้ามกลับยิ้ม และจนถึงทุกวันนี้ ข้าก็ยังไม่เข้าใจว่ารอยยิ้มของเขานั้นเป็นการเหยียดหยามหรือหยอกล้อกันแน่

ริมฝีปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย และสิ่งแรกที่เขาพูดกับข้าคือ “สหายตัวน้อย เจ้าเก่งมาก”

ต้องยอมรับว่า เสียงของเขาไพเราะมาก เย็นชาและน่าดึงดูด เหมือนว่าสามารถเมอมเมาผู้คนได้ ทว่าก็เหมือนปฏิเสธผู้คนให้อยู่ห่างออกไปหลายพันลี้

ข้าอารมณ์เสียมาก ข้าอายุสิบแปดแล้ว กลับถูกเรียกว่าสหายตัวน้อย ดังนั้นข้าจึงรีบส่งคืน “สหายเก่าแก่ เจ้ากล้ามาก!”

กล้าท้าทายตำแหน่งนางมารสีชมพูของข้า ถือว่ากล้ามากจริงๆ

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

เจ้าสำนักเขาจันทร์กระจ่างคนนี้ท่าทางหล่อนะคะ จะได้เป็นสามีอันดับหนึ่งของเจ้าปลาน้อยหรือเปล่า?

ไหหม่า(海馬)

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

Status: Ongoing
หลังตกภูเขาตายก็ได้มาเกิดใหม่ในร่างชายาอ๋องผู้ถูกเนรเทศที่กำลังคลอดบุตร​ แถมได้อยู่ในบ้านอันรกร้างมีแค่ที่ดินเปล่าๆ​ ผืนหนึ่งและระบบตัวช่วยชาวสวนที่จ้องแต่จะหักแต้มหากขี้เกียจ ต่อจากนี้ฉันจะทำยังไงดี?เรื่องย่อ: หลังพลัดตกภูเขาลงมาตาย​ วิญญาณของเฉียวเยี่ยนก็ได้มาเข้าร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอดบุตร​อย่างไม่ทันตั้งตัว​ พอตั้งตัวได้ก็ต้องปวดหัวกับเรื่องที่พบเจอ​ ได้แก่…​ 1.ตนเป็นชายาอ๋องที่มีความผิดฐานบังคับจิตใจสามีจนถูกเนรเทศ​มาอยู่ในบ้านโกโรโกโสแห่งนี้​ 2.ตนมีลูกกับเขาผู้นั้นแล้ว​ และยังเป็นลูกแฝด​ชายหญิง 3.ตนมีระบบปลาเค็มคอยเป็นผู้ช่วยในภารกิจต่างๆ​ ติดตัวมาด้วย​ แต่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าหนี้นอกระบบมากกว่า​ ถ้าไม่ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวก็จะโดนหักแต้มเฉียวเยี่ยนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องงัดวิชาความรู้ทั้งหมดมาใช้ในการทำสวน​ หาเลี้ยงลูก​ สร้างฐานะให้ตัวเอง… ลำพังตัวข้าคนเดียวก็ทำได้โดยไม่ต้องพึ่งสามีอ๋องโบ้ผู้นั้นกระมัง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน