ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? – ตอนที่ 398 (ตอนพิเศษ) ระบบตัวน้อย

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ตอนที่ 398 (ตอนพิเศษ) ระบบตัวน้อย

ตอนที่ 398 (ตอนพิเศษ) ระบบตัวน้อย

ข้ามีชื่อว่ามู่ถง ทว่าคนอื่นๆ ต่างชอบเรียกข้าว่าถงจื่อ(ระบบ)

เช่นเดียวกับชื่อของข้า ข้าเป็นระบบที่มาจากโลกระบบ และข้ายังมีชื่อที่เท่มากอีกชื่อหนึ่ง คือระบบปลาเค็ม

หากพวกเจ้าต้องการเห็นเรื่องราวความรักของข้า มันคงเป็นไปไม่ได้ เพราะด้วยอายุของข้าในโลกของระบบแล้วถือว่ายังเด็กอยู่ การยุยงผู้เยาว์ให้มีความรักถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย

แม้ข้าจะแยกตัวออกจากห้วงจิตสำนึกได้สำเร็จ และปรับตัวให้เข้ากับการเจริญเติบโตทางกายภาพของร่างกายมนุษย์ได้แล้ว แต่โดยเนื้อแท้ข้าก็ยังเป็นทารกคนหนึ่ง ท่านพ่อกฏแห่งสวรรค์ของข้าไม่ปล่อยให้ข้ามีความรักหรอก

ในโลกระบบของเรา ทุกระบบที่ได้รับการฝึกอบรมต้องหาโฮสต์ และทำภารกิจตามเป้าหมายให้สำเร็จ

ตอนข้าอายุได้ห้าขวบ หากใช้วิธีแปลงอายุในโลกมนุษย์ ก็คือตอนที่อายุได้ห้าร้อยปี ก็เรียนจบจากโรงเรียน และเริ่มสั่งสมประสบการณ์ชีวิต

ข้าเป็นองค์หญิงน้อยแห่งโลกระบบ พ่อข้าเป็นผู้ดูแลโลกระบบทั้งหมด ดังนั้นเขาจึงมีสิทธิ์ใช้เส้นสาย พ่อกฏแห่งสวรรค์แทบรอไม่ไหวที่จะช่วยข้าใช้เส้น และทุ่มเทอย่างสุดกำลังให้ข้าได้กลายเป็นปลาเค็ม

ผลที่ได้ก็ไม่ทำให้เขาผิดหวัง ข้าเลือกโฮสต์คนแรกในชีวิตได้ดีมาก และโฮสต์ก็เลี้ยงข้าให้กลายเป็นปลาเค็มจริงๆ

นางทำอาหารเก่งมาก การติดตามนางทำให้ข้ากินอิ่มท้องทุกวัน อีกทั้งนางยังใจกว้างมาก ซื้อเสื้อผ้าสวยๆ และอาหารอร่อยๆ ให้ข้าด้วย

ข้าคิดว่า ข้าเป็นระบบที่มีความสุขที่สุดแล้ว

ข้าใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากในทุกๆ วัน มีอาหารอร่อยๆ กิน มีพี่ๆ น้องๆ มีโฮสต์ที่คอยตามใจข้า และยังได้ตามโฮสต์ไปจัดการเรื่องต่างๆ ได้ด้วย

ข้าไม่ใช่คนเรียบร้อยโดยกำเนิด ชอบนินทา ชอบจัดการเรื่องต่างๆ ทุกครั้งที่ตามโฮสต์ไปทำการใหญ่ ล้วนรู้สึกได้ถึงความสำเร็จ

แม้ข้าจะมีความสุขในทุกๆ วัน แต่ความจริงแล้วข้ามีความกังวลอย่างหนึ่งอยู่ในใจมาตลอด

ข้าที่มีฐานะเป็นระบบได้ถูกกำหนดให้เป็นอมตะ เมื่อใดก็ตามที่โฮสต์ตนจบชีวิตลง นั่นคือข้าได้เสร็จสิ้นภารกิจแล้ว และถึงเวลาที่ข้าต้องกลับไปยังโลกระบบ

จากนั้น ข้าก็จะหาโฮสต์คนต่อไป และเริ่มภารกิจใหม่

ตามประสบการณ์ที่สอนสืบทอดกันมาในโลกระบบ เมื่อพวกเขาถึงวัยเกษียณ พวกเขาได้ผูกกับโฮสต์มากกว่าสี่หมื่นแปดพันคน ตอนนี้เมื่อย้อนนึกถึงอดีต พวกเขาจำชื่อและรูปลักษณ์ของโฮสต์คนแรกที่ผูกกันไม่ได้แล้ว

มีเพียงฐานข้อมูลเย็นบนโลกระบบเท่านั้นที่บันทึกประวัติภารกิจที่ผ่านมาของพวกเขาไว้

ข้าไม่รู้ว่าระบบคนอื่นจะคิดอย่างไร แต่ข้ารู้สึกเศร้ามากเมื่อได้ยินเรื่องนี้

ข้าไม่อยากลืมโฮสต์ของข้า และไม่ต้องการวุ่นวายไปตลอดชีวิตเหมือนพวกเขา เมื่อถึงวัยเกษียณ ก็จะได้รับข้อมูลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

จากเวลาผันผ่านไปเป็นวันๆ โฮสต์ของข้าก็แก่ตัวลง บนหน้ามีริ้วรอย มีผมขาวงอกออกมา กำลังวังชาก็ย่ำแย่ลงทุกวัน และได้เข้าสู่การนับถอยหลังของชีวิตแล้ว

ข้าอยากให้เวลาเดินช้าลงอีกนิด แบบนี้ข้าจะได้อยู่กับนางตลอดเวลา แต่ข้าไม่สามารถควบคุมสิ่งนี้ได้ แม้แต่ท่านพ่อกฏแห่งสวรรค์ของข้าก็ช่วยข้าในครั้งนี้ไม่ได้

โฮสต์รักกับพ่อมู่มาทั้งชีวิต แม้แก่เฒ่าก็ยังเป็นเช่นนั้น พวกเขาพักอยู่บนภูเขาเล็กๆ ดูพระอาทิตย์ขึ้นตกด้วยกันทุกวัน และให้อาหารเป็ดไก่ด้วยกัน…

อายุพวกเขายิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ และรู้ว่าตัวเองมีเวลาไม่มากแล้ว พวกเขาจึงหวงแหนเวลาที่ใช้ร่วมกัน

พวกเขาสัญญากันว่า ไม่ว่าใครจะไปก่อน อีกคนจะตามไปโดยไม่ลังเล ใช้ชีวิตและตายไปด้วยกัน

สองเฒ่าในตอนเด็กไม่กลัวฟ้ากลัวดิน พอแก่ตัวก็ชอบไปสวดมนต์ไหว้พระ ซึ่งที่ไหว้ล้วนแต่เป็นเทพเจ้าที่ดูแลเรื่องการแต่งงาน และหวังว่าในชาติหน้าพวกเขาจะได้พบกันอีก

ปีนี้พ่อมู่อายุเก้าสิบห้าปี โฮสต์อายุแปดสิบเก้าปี สองเฒ่ายามเดินตัวสั่นงกงัน ฟันหลุดไปหมดแล้ว ยามยิ้มออกมาดูน่ารักมาก

ร่างกายของพวกเขาย่ำแย่ลงทุกวัน เมื่อก่อนตื่นนอนทุกเช้าจูงมือกันไปเดินเล่น แต่ตอนนี้ทำได้เพียงนั่งอยู่ในลานดูหลานๆ เล่นกันได้เท่านั้น

แม้พวกเขาจะมีความสุขมาก แต่ข้ากลับกังวลมากขึ้นทุกวัน

เหตุใดชีวิตของมนุษย์จึงสั้นนัก? มันสั้นมากจนระบบอย่างเราอายุยังไม่ถึงหนึ่งปี พวกเขาก็จากไปแล้ว

โฮสต์รู้ว่าข้าเศร้า นางจึงปลอบข้าว่า นางมีความสุขมากในชีวิตนี้ แม้นางจะจากไปในวินาทีถัดไป นางก็ไม่เสียใจเลย

แต่ข้ากลับนึกเสียใจ เสียใจถึงขั้นหวังว่าอายุขัยของข้าจะสั้นลงสักนิด แบบนี้ ตอนนางจากไป ข้าก็จะหายไปด้วย จะได้ไม่ต้องเจ็บปวดกับการจากลา

หลังจากฉลองวันเกิดครบรอบเก้าสิบปีของโฮสต์ พ่อมู่ก็ป่วยหนัก หลังจากนั้นก็ลุกจากเตียงไม่ได้ และโฮสต์เองก็ล้มป่วยตาม

พวกเราพี่น้องกับพวกหัวไชเท้าตัวน้อยเฝ้าอยู่ข้างเตียงสองเฒ่า และสัมผัสได้ว่าลมหายใจของพวกเขาแผ่วลงเรื่อยๆ จึงพากันร้องไห้ปานจะขาดใจ

แม้ผู้เฒ่าทั้งสองจะล้มหมอนนอนเสื่อ แต่ก็ยังมีรอยยิ้มในดวงตา พวกเขามัดมือด้วยกันแน่นด้วยเชือกสีแดงที่ได้มาจากวัดเยว่เหล่า(เฒ่าจันทรา) เพื่ออธิษฐานให้พวกเขาได้อยู่ด้วยกันอีกในชาติหน้า

ข้าเองก็หวังว่าจะมีการเกิดใหม่ในโลกมนุษย์ แบบนี้ข้าจะได้อยู่กับโฮสต์ไปตลอดชีวิต

พอถึงเทศกาลชีซี ผู้เฒ่าทั้งสองก็จากไป แม้พวกเขาจะจากไปอย่างสงบ ทว่าพวกเราพี่น้องยังรู้สึกเสียใจอย่างมาก

เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์เป็นหญิงแกร่งคนหนึ่ง ไม่หลั่งน้ำตาง่ายๆ นางในเวลานั้นคือหญิงชราอายุเจ็ดสิบสี่ปีแล้ว แต่ก็ยังร้องไห้เหมือนเด็ก

นางว่า นางไม่มีพ่อแม่แล้ว

ใช่ ข้าก็ไม่มีท่านโฮสต์อีกต่อไป

ไท่ซางหวงกับไท่โฮ่วสวรรคต ทั่วทั้งอาณาจักรต่างก็โศกเศร้า พวกพี่น้องฝังผู้เฒ่าทั้งสองไว้ในโลงเดียวกัน เพื่อเติมเต็มความปรารถนาอันสูงสุดในช่วงชีวิตของพวกเขา

หลังจากส่งโฮสต์จากไปแล้ว ข้าก็ควรจากไปด้วยเช่นกัน ข้าต้องการกลับไปยังโลกระบบ เพื่อเดินทางของข้าต่อไป

พวกพี่น้องเพิ่งอำลาพ่อแม่ไปได้ไม่ทันไร ตอนนี้ข้าก็จะจากไปอีกแล้ว บรรยากาศจึงหม่นหมองลง

แต่พวกเขารู้ว่าข้าต้องกลับไปยังโลกของข้า แม้จะอาลัยอาวรณ์แค่ไหน ก็ทำได้เพียงส่งข้าไปพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้า

วันที่ข้าจากไป ข้าใช้คะแนนในบัญชีจนหมด หลังจากสะสมมาหลายปี คะแนนของข้าได้ใช้หมดไปนานแล้ว

ข้าทิ้งของทุกอย่างที่พวกเขาสามารถใช้ได้ไว้ และมอบของขวัญให้กับกลุ่มหัวไชเท้าน้อยที่ชอบมาเล่นรอบตัวข้า

คงเพราะข้าที่ภายนอกดูเหมือนหญิงชรา ทว่าในใจยังเป็นเด็กอยู่ ลูกๆ หลานๆ ของพวกพี่น้องจึงชอบเล่นกับข้า และข้ายังช่วยพวกเขาเลี้ยงเด็กรุ่นเล่ารุ่นเล่าด้วย

เพียงแต่เด็กที่ข้าเลี้ยงมาไม่มีคนไหนไม่ซนเลย และต้องลำบากพวกพี่น้องที่ต้องถือไม้เรียวมาสอนพวกเขาตลอดทั้งวัน

ข้าอำลาทุกคน และกลับไปยังโลกระบบ

วินาทีที่ข้ากลับมายังโลกระบบ ข้าก็เปลี่ยนจากหญิงชรามาเป็นเด็กน้อยทันที ข้าในตอนนี้ หากคิดตามอายุของโลกระบบแล้ว ก็เพิ่งมีอายุแค่หกขวบเอง

ข้าทอดถอนใจกับใจลอยเล็กน้อย ในโลกมนุษย์นั่นคือทั้งชีวิตของข้าเลยนะ แต่สำหรับโลกระบบ มันเป็นเพียงการดีดนิ้วครั้งหนึ่ง เติบโตขึ้นเพียงปีเดียวเท่านั้น

……

ร้อยปีต่อมา ข้าแก่ขึ้นอีกหนึ่งปี คราวนี้ ข้าต้องหาโฮสต์คนใหม่อีกครั้ง

ครานี้โลกที่ข้าอยู่คือสมัยปัจจุบัน และโฮสต์คือเจ้าก้อนแป้งตัวน้อย

วิลล่าขนาดใหญ่หรูหรา พร้อมสวนด้านหลัง

เจ้าก้อนแป้งที่เพิ่งอายุสี่ขวบถือจอบน้อย พยายามขุดอยู่ในสวนหลังบ้าน ขั้นแรกพรวนดินก่อน แล้วขึ้นแปลงเป็นแถวและขุดหลุม ก่อนโรยเมล็ดพืชในถุงเล็กๆ ที่แขวนอยู่บนตัวเข้าไปในหลุม

หลังจากหว่านเมล็ดแล้วก็กลบดิน จากนั้นถือบัวรดน้ำขนาดเล็กรดน้ำเมล็ดที่ปลูกใหม่

หญิงแสนสวยที่อยู่ข้างหลังมีรอยยิ้มเต็มเปี่ยมในดวงตา และส่งแก้วนมสีชมพูขนาดเล็กให้เจ้าก้อนแป้ง เอ่ยอย่างใจดีว่า “ลูกของเราเก่งจริงๆ ปลูกผักเป็นแล้ว มา ดื่มนมก่อน ดื่มเสร็จแล้วค่อยปลูกใหม่”

เจ้าก้อนแป้งเช็ดหน้าผากน้อยด้วยมืออวบอ้วนของตัวเอง ก่อนยิ้มแฉ่งเผยฟันขาวซี่น้อยออกมา เอ่ยด้วยเสียงเจื้อยแจ้ว ทว่ากลับดูเหมือนผู้ใหญ่ตัวน้อย “หน้าหลังเทศกาลเช็งเม้ง จะเริ่มปลูกถั่วกับแตงนะคะ”

“คุณย่า ตอนนี้หนูกำลังปลูกฟักทองกับถั่วเขียว อีกไม่กี่เดือนเราก็จะเก็บมันมากินได้แล้ว!”

หญิงชราตกใจเล็กน้อย เมื่อสองสามวันก่อนหลานสาวของนางล้มป่วย หลังจากตื่นมาก็โวยวายจะซื้อจอบ ซื้อปุ๋ย เมล็ดพืช แถมยังจะขุดทั้งสวนหลังบ้านเพื่อปลูกผักอีกด้วย!

นางไม่ได้สนใจมากนัก คิดว่าเด็กต้องการเล่น จึงส่งคนไปซื้อของตามที่นางต้องการจำนวนมาก ไม่คิดเลยว่าเด็กน้อยจะปลูกผักขึ้นมาจริงๆ

……

ข้ามองเจ้าก้อนแป้งที่วุ่นอยู่ในสวน ราวกับได้เห็นอดีต เมื่อก่อน นางก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน ชอบแบกจอบขุดดินไปทั่ว

ในที่สุดท่านก็มาแล้ว!

ข้าแอบเข้าไปในร่างกายเล็กๆ และเริ่มผูกระบบเหมือนเมื่อก่อน

[ติ๊งติ๊งติ๊ง]

[ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ผูกระบบปลาเค็ม! ]

เสียงของข้าสั่นด้วยความตื่นเต้น เจ้าก้อนแป้งที่ง่วนอยู่กับการขุดดินก็หยุดชะงักด้วยสีหน้าตกใจ ในดวงตากลมโตสั่นระริก

“ระบบ?”

เธอถาม

ข้าหัวเราะ ทว่าน้ำตากลับไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ “ข้าเอง!”

สิบสองปีต่อมา โฮสต์อายุได้สิบหกปี และเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่หนึ่ง ส่วนข้าใช้เวลาสิบสองปีไปกับเธออย่างมีความสุข

ในวันเปิดเทอมวันแรกโฮสต์ได้พบกับเพื่อนร่วมโต๊ะคนใหม่ของเธอ เป็นเด็กหนุ่มอายุสิบหกสิบเจ็ดปี เต็มไปด้วยความเยาว์วัยและความเป็นเด็ก เห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนของโฮสต์ ราวกับว่าเขาอยู่ด้วยกันมาแล้ว

เขาว่า “ยัยท่อนไม้”

ใบหน้าของโฮสต์เต็มไปด้วยน้ำตา ตื่นเต้นจนเสียงขาดหายไป คนที่คิดถึงทั้งกลางวันกลางคืนกลับปรากฏตัวต่อหน้าในตอนนี้

เพราะตื่นเต้นเกินไป เธอจึงกระโดดขึ้นไปกอดคอเขา ขาหนีบเข้าที่เอว ร้องไห้อย่างหนัก

ดังนั้น ในวันแรกของการใช้ชีวิตในโรงเรียนมัธยมปลาย โฮสต์ที่รักของข้ากับคนที่เธอกลับมาพบกันอีกครั้งหลังจากผ่านไปนานถูกเรียกตัวไปที่สำนักงานการเมืองและการศึกษาเนื่องจากการกระทำของพวกเขา

ต่างฝ่ายต่างถูกเรียกพบผู้ปกครอง และถูกคุณครูตำหนิติเตือน แบบนี้นับว่าเรียกผู้ปกครองมาอำพรางกลายๆ สินะ

จบตอนของระบบตัวน้อย!

และจบบริบูรณ์

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

จะร้องไห้เลยค่ะ ตอนที่ระบบต้องจากโฮสต์แล้วกลับสู่โลกระบบเหมือนเดิม มันช่างเหมือนกับความรู้สึกของผู้แปลตอนนี้เลยที่แปลนิยายเรื่องหนึ่งจบแล้วก็ต้องอำลาแล้วไปต่อนิยายอีกเรื่องหนึ่ง ชีวิตก็เป็นอย่างนี้แหละค่ะ มีพบก็ต้องมีจาก แต่สิ่งที่ยังไม่จากไปไหนคือความทรงจำระหว่างที่ได้อยู่ด้วยกัน ผู้แปลจะดีใจและขอบคุณมากนะคะหากรับรู้ว่าผู้อ่านมีความสุขกับผลงานเรื่องนี้ ขอบคุณผู้อ่านที่สนับสนุนนิยายเรื่องนี้มาตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ จากตอนแรกที่สาปแช่ง+แซะพี่มู่ไปด้วยกันจนกระทั่งยินดีกับความเปลี่ยนแปลงของพี่แกไปด้วยกัน จากคอยลุ้นว่าอาเยี่ยนจะใช้ชีวิตในโลกใหม่อย่างไรจนกระทั่งลุ้นว่าจะปลูกผักทำกิจการอะไรเพิ่มอีกบ้าง มันเป็นความทรงจำที่มีค่าในช่วงเวลาหนึ่งที่ได้แปลนิยายจริงๆ ค่ะ

หากผู้อ่านมีเรื่องไหนอยากนำเสนอก็ทิ้งข้อเสนอแนะไว้ได้เลยนะคะ ผู้แปลรับทุกแนว แต่ขออย่าให้มีประเด็นอ่อนไหวอย่างเช่นข่มขืนทำร้ายร่างกายจิตใจแล้วกลับมารักกัน รักต่างวัยที่ฝ่ายหนึ่งยังเป็นผู้เยาว์ไม่บรรลุนิติภาวะ ความรักในสายเลือดเดียวกัน หรือประเด็นอื่นที่สร้างความเดือดร้อนแตกแยกในสังคมก็พอค่ะ

แล้วเจอกันในเรื่องใหม่นะคะ

ไหหม่า(海馬)

ตอนต่อไป

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

Status: Ongoing
หลังตกภูเขาตายก็ได้มาเกิดใหม่ในร่างชายาอ๋องผู้ถูกเนรเทศที่กำลังคลอดบุตร​ แถมได้อยู่ในบ้านอันรกร้างมีแค่ที่ดินเปล่าๆ​ ผืนหนึ่งและระบบตัวช่วยชาวสวนที่จ้องแต่จะหักแต้มหากขี้เกียจ ต่อจากนี้ฉันจะทำยังไงดี?เรื่องย่อ: หลังพลัดตกภูเขาลงมาตาย​ วิญญาณของเฉียวเยี่ยนก็ได้มาเข้าร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอดบุตร​อย่างไม่ทันตั้งตัว​ พอตั้งตัวได้ก็ต้องปวดหัวกับเรื่องที่พบเจอ​ ได้แก่…​ 1.ตนเป็นชายาอ๋องที่มีความผิดฐานบังคับจิตใจสามีจนถูกเนรเทศ​มาอยู่ในบ้านโกโรโกโสแห่งนี้​ 2.ตนมีลูกกับเขาผู้นั้นแล้ว​ และยังเป็นลูกแฝด​ชายหญิง 3.ตนมีระบบปลาเค็มคอยเป็นผู้ช่วยในภารกิจต่างๆ​ ติดตัวมาด้วย​ แต่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าหนี้นอกระบบมากกว่า​ ถ้าไม่ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวก็จะโดนหักแต้มเฉียวเยี่ยนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องงัดวิชาความรู้ทั้งหมดมาใช้ในการทำสวน​ หาเลี้ยงลูก​ สร้างฐานะให้ตัวเอง… ลำพังตัวข้าคนเดียวก็ทำได้โดยไม่ต้องพึ่งสามีอ๋องโบ้ผู้นั้นกระมัง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท