ตอนที่ 5 บ้าน
อันที่จริงคิ้วของเธอโค้งขึ้นเล็กน้อย หน้าผากเอิบอิ่มมนสวย ตาคิ้วซื่อตรง ริมฝีปากอวบอิ่ม ยามยิ้มจะปรากฏลักยิ้มจางๆ บุคคลที่มีใบหน้าเช่นนี้มักเป็นลักษณะของผู้ทรงศีล ร่ำรวยด้วยโชคลาภ อีกทั้งยังเป็นผู้มีคุณธรรมเปี่ยมล้น เพียงแต่ไม่รู้ว่าทำไมการกลับชาติมาเกิดของเธอคราวนี้กลับแสดงผลว่า…จะไม่ตายดี
เจียงซูเสวียนขมวดคิ้วเล็กน้อย ใคร่ครวญคำว่า ‘ไม่ตายดี’ อย่างไรเงียบงัน
การที่เขาพาเธอกลับมาที่บ้านมิใช่เพราะนึกสนใจในตัวเธอ เพียงแต่เขารู้สึกว่าแม้เธอจะกลับชาติมาเกิด แต่เขาเอาแต่คิดว่าเดิมทีเธอไม่ควรเป็นแบบนี้ ฉะนั้นเขาจึงอยากหาคำตอบ
กู้ซีเฉียวไม่รู้ว่าเจียงซูเสวียนกำลังคิดอะไร เขาโยนคำถามมามากมาย ส่วนเธอก็ตอบไปตามเรื่อง
เจียงซูเสวียนเฝ้ามองหญิงสาวที่พยายามตอบคำถามอย่างระมัดระวัง แต่เมื่อแววตาใสแจ๋วมองมาที่เขาเป็นครั้งคราว หัวใจของชายหนุ่มก็อ่อนยวบ เธอยังเป็นเด็ก เขาคิด
เพียงแต่แววตาของเธอกลับไม่มีความลังเลเลยสักนิด
จำต้องบอกว่ากู้ซีเฉียวเป็นเด็กที่ทำให้ใครเห็นเป็นต้องหลงเสน่ห์ เธอหน้าตาดี แววตาดึงดูดน่าหลงใหล อีกทั้งยังดูเฉลียวฉลาด ป้าจางรู้สึกซาบซึ้งต่อเด็กคนนี้เพราะตำรับยาชุดนั้น และตอนนี้ก็เอ็นดูเธอเป็นที่สุด
แค่สองวัน ป้าจางก็เห็นเด็กคนนี้เป็นเหมือนลูกสาวของตัวเองไปเสียแล้ว
……
นานแล้วที่หญิงสาวไม่ได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม เช้าวันถัดมากู้ซีเฉียวถูกปลุกให้ตื่นด้วยแสงจ้ายามเช้า ขนตายาวสั่นไหวก่อนจะลืมตา แสงเย็นเยียบแวบผ่านแววตาสุกใส เธอกวาดตามองไปรอบห้อง แล้วความดุดันในแววตาก็ค่อยๆ จางลง
ป้าจางเปิดม่านและหันมาส่งยิ้มให้พร้อมกล่าว “อรุณสวัสดิ์ คุณหนูกู้ รีบอาบน้ำอาบท่าแล้วลงไปทานมื้อเช้าเร็วเข้า คุณเจียงคอยอยู่ข้างล่างนานแล้ว”
กู้ซีเฉียวเลิกคิ้ว เนิ่นนานกว่าเธอจะตระหนักได้ว่าประโยคเมื่อครู่คือ ‘อรุณสวัสดิ์’
นานมากแล้วจริงๆ ที่เธอไม่ได้นอนหลับสบายเช่นนี้ เมื่อชาติที่แล้ว การนอนหลับของเธอถูกตีตราว่าเป็นนิสัยเกียจคร้าน ส่วนตอนที่อยู่ในพื้นที่เสมือนจริง จิตวิญญาณของเธอก็ไม่ต้องการการพักผ่อน ฉะนั้นการได้นอนหลับอย่างสงบโดยไม่มีสิ่งใดรบกวนจึงเป็นสิ่งที่เธอไม่กล้าฝันถึง
เจียงซูเสวียนนั่งอยู่ที่โต๊ะพร้อมแล็ปท็อปในมือ เมื่อเห็นเด็กสาวเดินลงมา เขาก็วางแล็ปท็อปก่อนจะหันไปส่งสัญญาณให้คนนำอาหารเช้าเข้ามา
[ติ๊ง! มอบหมายภารกิจทำความดีประจำวัน: บุคคลเป้าหมาย เจียงซูเสวียนถูกแฮ็กเกอร์ก่อกวนเมื่อคืน ข้อมูลลับชุดหนึ่งถูกโจรกรรมไป โฮสต์จะต้องช่วยนำข้อมูลลับชุดนั้นกลับมา หากภารกิจสำเร็จจะได้รับคะแนนสะสม 10 คะแนน!]
“ฉันทำไม่เป็น” กู้ซีเฉียวงุนงงในขณะที่กำลังถือชาม เธอใช้เวลาสักพักว่าจะตระหนักได้ว่าเมื่อครู่เป็นเสียงของระบบ
ระบบเกลือกกลิ้งไปมาในห้วงอากาศพลางกล่าวอย่างเต็มภาคภูมิ [ระบบของเราเป็นระบบเสมือนจริงที่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุดในโลก แฮ็กเกอร์ ข้อมูลลับหรือสรรพสิ่งที่เกี่ยวข้องล้วนแล้วแต่เป็นงานง่ายสำหรับระบบทั้งสิ้น!]
[จริงซิ เฉียวเหม่ยเหริน ฉันมีโพสต์ในเวยปั๋วให้คุณดู]
ในทันที เบื้องหน้าของกู้ซีเฉียวก็ปรากฏจอโปร่งใสซึ่งแสดงหน้าเว็บไซต์เวยปั๋ว บนหน้าจออัดแน่นไปด้วยข้อความมากมายพร้อมรูปภาพ จอแสดงผลเลื่อนขึ้นลงเองอัตโนมัติ กู้ซีเฉียวปราดมองตาม และเห็นภาพกู้ซีจิ่นในชุดขาดรุ่งริ่ง บัญชีที่โพสต์รูปเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นสำนักข่าวออนไลน์ชื่อดังทั้งสิ้น ด้านล่างมีผู้คนคอมเมนต์เป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นถ้อยคำเย็นชากล่าวร้ายของผู้ที่ผ่านเข้ามาเห็น
กู้ซีเฉียวมองดูอยู่ครู่หนึ่งแล้วอารมณ์ของเธอก็ดีขึ้นมาเฉยๆ เธอพยายามหลุบตา แต่ถึงอย่างนั้นกลับซ่อนรอยยิ้มเปี่ยมสุขในแววตาไว้ไม่มิด
คงเป็นภาพหลุดจากงานเลี้ยง แม้ว่าในรูปจะเบลอหน้า แต่ถึงอย่างไรก็มีคนไม่น้อยที่ทราบเรื่องนี้ กู้ซีจิ่นคงขายหน้าน่าดู ตอนนี้คงได้กลายเป็นข่าวประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ไปแล้ว
นกยูงถูกถอนขน ป่านนี้กู้ซีจิ่นคงคลั่งตายไปแล้ว!
เจียงซูเสวียนชำเลืองมองเห็นแววตาสดใสกับรอยยิ้มบนหน้าแฉล้ม เขาชะงักไปเล็กน้อย แค่กินข้าวเช้า ต้องทำท่าดีอกดีใจขนาดนั้นเชียวหรือ เพียงแต่ว่าการได้เห็นเธอกินอย่างมีความสุขก็ยิ่งทำให้คนที่นั่งกินข้างๆ มีความสุขไปด้วย
หลังมื้ออาหาร กู้ซีเฉียวแอบเข้าไปในห้องหนังสือได้อย่างปลอดภัยภายใต้การช่วยเหลือของระบบ
เธอหยิบคอมพิวเตอร์ออกมาเพื่อให้ระบบวิเคราะห์ข้อมูล ไม่นานเกินรอก็กู้ข้อมูลชุดนั้นคืนได้สำเร็จ เธอได้รับสิบคะแนนอย่างง่ายดาย
ทันทีที่หมดหน้าที่ เธอก็เดินลงไปชั้นล่าง วางแล็ปท็อปที่เจียงซูเสวียนให้เธอใช้ไว้บนตักก่อนจะเข้าเว็บไซต์เศรษฐกิจ ป้าจางเดินมาดู กราฟสีแดงเขียวบนจอ ทว่าไม่เข้าใจ
แต่เจียงซูเสวียนเข้าใจในทันที “เธออยากซื้อหลักทรัพย์เหรอ”
กู้ซีเฉียวได้ยินเสียงของเขาจึงรีบปิดจอแล็ปท็อป เธอเงยหน้าขึ้นพลางกล่าว “พี่เจียง วันนี้ฉันจะกลับบ้าน”
“วันนี้?” เจียงซูเสวียนที่นั่งอ่านนิตยสารบนโซฟาได้ยินดังนั้นก็กวาดสายตาเย็นชามาทางหญิงสาว
“อื้อ…เพราะพรุ่งนี้ต้องไปเรียนแล้ว” เธอต้องกลับไปที่ตระกูลกู้อยู่แล้ว กู้ซีเฉียวคำนวณเวลา กลับไปวันนี้น่าจะดีที่สุด
วันที่ 4 เดือนพฤษภาคม คนตระกูลซย่าจะมาเยี่ยมที่บ้าน
ซูหว่านเอ๋อร์เอ็นดูซย่าจื่อจวิ้นผู้เป็นว่าที่ลูกเขยเป็นที่สุด ฉะนั้นหากพวกเขามา ซูหว่านเอ๋อร์คงตื่นเต้นจนไม่มีเวลามาสนใจเธอ หรือลงโทษที่เธอไม่กลับบ้าน อย่างมากที่สุดซูหว่านเอ๋อร์แค่ต้องไปรายงานให้กู้จู่ฮุยทราบว่าเธอกลับมาแล้ว
หากเป็นกู้ซีเฉียวคนเก่า เธอคงพยายามทำให้พวกเขารู้สึกพอใจ เธอได้แต่หวังว่าจะได้รับความรักจากกู้จู่ฮุยผู้เป็นพ่อ แค่นิดเดียวก็ยังดี แต่ทว่าตอนนี้เธอไม่ต้องการมันอีกแล้ว
อีกอย่างพรุ่งนี้เธอจะต้องไปโรงเรียน หนังสือเรียนทั้งหมดยังอยู่ที่บ้าน ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ต้องกลับไป
เมื่อคิดได้ดังนี้ การกลับบ้านวันนี้จึงเหมาะที่สุดแล้ว
เจียงซูเสวียนมองใบหน้าที่ยังซูบผอมของเธอ ใจหนึ่งก็อยากจะปฏิเสธ แต่คนจะกลับบ้าน เขามีสิทธิ์อะไรไปห้ามไม่ให้เธอกลับ
ชายหนุ่มไม่คิดจะรั้งตัวเด็กสาว เขาลุกขึ้น เปลี่ยนเสื้อผ้าและหยิบกุญแจรถ “ไปเถอะ”
“บ้านอยู่ไหน” เจียงซูเสวียนสตาร์ทรถพร้อมถาม
กู้ซีเฉียวเงียบไปชั่วอึดใจ “คฤหาสน์ซานเหอซอยสิบหก”
คำตอบนั้นทำให้เจียงซูเสวียนมองไปที่เธอด้วยสายตาเหนือความคาดหมาย คฤหาสน์ซานเหอเป็นที่ดินที่มีราคาสูงในเมืองนี้ คนที่อาศัยอยู่ที่นั่นล้วนแล้วแต่เป็นคนที่มีหน้ามีตาของเมืองเอ็น แม้เขาจะไม่ใช่คนเมืองนี้ แต่เขาก็พอได้ยินเรื่องนี้ผ่านหูมาบ้าง
ไม่นานก็มาถึงที่หมาย
“ฉันให้คนไปซื้อมือถือเครื่องนี้มาใหม่ ในนี้มีเบอร์ของฉันอยู่ มีเรื่องอะไรก็แค่โทรมา” ขณะที่จอดรถ เจียงซูเสวียนหยิบกล่องใบเล็กที่ห่อบรรจุภัณฑ์อย่างประณีตออกมา สองวันที่ผ่านมาเขาเริ่มจะรู้จักนิสัยของเธอ เขารู้ว่าเธอเป็นพวกไม่ชอบรับน้ำใจจากคนอื่นและเป็นพวกไม่ชอบพูดอะไรให้มากความ ฉะนั้นเขาจึงถือวิสาสะยัดกล่องนั้นใส่ไว้ในมือ
กู้ซีเฉียวเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า เมื่อวานเขาถามเบอร์โทรศัพท์ของเธอหลายครั้ง แต่เธอตอบไปว่า เธอไม่มีโทรศัพท์ และไม่คิดว่าวันนี้เขาจะซื้อมาให้
เธอมองกล่องสีชมพูในมือ ในสมองว่างเปล่าขาวโพลน
เฮ้อ เขาคงไม่ได้คิดว่าเธอเข้าหาเขาเพราะหวังเงินหรอกใช่หรือไม่
เธอรู้สึกปวดศีรษะเล็กน้อย กู้ซีเฉียวใช้สองนิ้วนวดที่ขมับพลางชำเลืองไปทางเจียงซูเสวียนด้วยแววตาปฏิเสธชัดเจน สาเหตุที่เธอไม่ซื้อโทรศัพท์เพราะเธอไม่ใครให้ติดต่อ มิใช่ว่าเธอไม่มีเงินซื้อ แต่ถ้าปฏิเสธไปจะดูแย่หรือเปล่า
เจียงซูเสวียนเห็นท่าทีเหม่อลอยก็รู้ทันทีว่าเธอกำลังใช้ความคิด เขายิ้มจางๆ “ใช้ไปก่อน คิดเสียว่าเป็นของขวัญที่เราได้พบกัน”
กู้ซีเฉียวลงจากรถ ถือกล่องไว้ในมือและเงยหน้า
ร่างของชายหนุ่มสูงโปร่ง เธอจึงต้องเงยศีรษะยามที่มองหน้าเขา “พี่เจียง ขอบคุณค่ะ”
ใบหน้างามจับตาของหญิงสาวเปล่งประกายระยิบระยับภายใต้แสงแดด เธองามหมดจดไร้ตำหนิ เรือนผมดำสลวยแผ่ยาวด้านหลัง ปอยผมบางๆ พลิ้วไหวไปตามแรงลมตวัดเป็นเส้นโค้งขับเน้นให้ผิวของเธอยิ่งดูขาวราวสีของหิมะ
ถัดลงมาเป็นแขนขาเรียวเล็กที่ขาวบาดตาไม่แพ้กัน เจียงซูเสวียนมองดูพลางคิดว่า หากเขาออกแรงเพียงนิดหน่อย กระดูกของเธอคงหักเป็นแน่