โฮสต์สาวพลิกอดีตกับระบบสุดเทพ – ตอนที่ 9 โทรศัพท์

โฮสต์สาวพลิกอดีตกับระบบสุดเทพ

ตอนที่ 9 โทรศัพท์

“แกเป็นหมาของกู้ซีจิ่น เลิกมาเกาะแกะฉันได้แล้ว” กู้ซีเฉียววางเจ้าสุนัขไว้ที่นอกหน้าประตู ชี้นิ้วไปที่จมูกยาวพลางกล่าว

เจ้าสุนัขไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในห้อง มันจึงใช้เท้าหน้าตะกุยประตูอย่างไม่ยอมแพ้

กู้ซีเฉียวนั่งอยู่ในห้องเนิ่นนาน เมื่อเห็นว่าเจ้าสุนัขไม่มีวี่แววว่าจะลดละจึงยอมเปิดประตูให้มันเข้ามาอย่างไม่เต็มใจ เจ้าสุนัขรี่เข้ามาอ้อน

หญิงสาวนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะ ส่วนเจ้าสุนัขก็นั่งเล่นกับตัวเอง ทั้งคู่ดูสบายใจต่อกัน

ไม่ทราบว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด ก่อนที่จะมีคนมาเคาะประตู เขาเรียกเสียงดังจนกู้ซีเฉียวต้องจำใจวางปากกาและลุกไปเปิดให้ ด้านนอกคือสาวรับใช้วัยกลางคน ทันทีที่เห็นหน้ากู้ซีเฉียว เธอก็โยนเสื้อผ้ากองหนึ่งใส่หน้าเด็กสาว พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “คุณหนูกู้ เสื้อของคุณ!”

กู้ซีเฉียวเงยหน้า เอียงศีรษะเล็กน้อยมองหน้าสาวรับใช้ สาวรับใช้คนนี้มีหน้าที่ดูแลงานเล็กๆ น้อยๆ ในบ้าน ไม่ใช่คนรับใช้คนเก่าคนแก่ แต่ถึงอย่างนั้น ขนาดดคนรับใช้ตัวเล็กๆ ยังกล้าขึ้นเสียงกับเธอ

รอยยิ้มที่มุมปากประกอบกับแววตาสดใสบนใบหน้าสวยทำให้เธอดูไร้เดียงสา ไร้พิษภัย

เด็กสาวจากหมู่บ้านในชนบทห่างไกลมาสู่เมืองที่สุดแสนจะเจริญหูเจริญตา กู้ซีเฉียวรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ที่ของเธอ เธอใช้เวลาปรับตัวนานทีเดียวกว่าจะคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ ยังโชคดีที่ต่อหน้าซูหว่านเอ๋อร์มิได้ร้ายกาจกับเธอนัก

คนภายนอกเชิดชูว่าคุณนายกู้เป็นคนใจกว้าง เลี้ยงดูลูกนอกสมรสอย่างดีโดยมิได้ขาดตกบกพร่อง

เมื่อชาติที่แล้ว กู้ซีเฉียวเองก็คิดเช่นนั้น ในเรื่องอาหารการกินและข้าวของเครื่องใช้ ซูหว่านเอ๋อร์จัดเตรียมให้เธอไม่เคยขาด หนำซ้ำยังหลงคิดว่าหากเธอพยายามมากพอ สุดท้ายซูหว่านเอ๋อร์อาจยอมรับเธอ แต่ถึงอย่างไรเธอก็คือคนที่เข้ามาทำลายความสุขของครอบครัวคนอื่น ฉะนั้นเธอจึงเลือกที่จะอดทนไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

แต่คนใจร้าย ต่อให้ทำดีด้วยเพียงใด เขาก็ไม่เห็นค่า มิหนำซ้ำ เขายังคิดว่านั่นคือสิ่งที่เธอควรทำ!

จู่ๆ เด็กสาวก็ยิ้มกว้าง เธอโน้มตัวเข้าไปกระซิบข้างหูสาวรับใช้ด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “ไม่ว่ายังไงฉันก็คือสายเลือดแท้ๆ ของตระกูลกู้ที่คุณปู่เป็นคนพากลับมา ส่วนเธอเป็นเพียงคนรับใช้ หากไม่อยากทำงานที่นี่ต่อแล้ว ฉันจะไปบอกคุณปู่ให้ก็ได้แล้วมาดูกันว่าคนที่ต้องหอบผ้าหอบผ่อนออกจากบ้านนี้คือฉันหรือเธอ!”

ครั้นกล่าวจบก็กระแทกประตู

คนรับใช้ยืนตะลึงกับเสียงบานประตูที่กระแทกใส่หน้า เธอโกรธจนไฟแทบลุก

นังตัวดี!

นี่คงคิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญล่ะสิท่า!

แต่เมื่อคิดถึงสิ่งที่กู้ซีเฉียวกล่าวเมื่อครู่ สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

ทุกวันนี้ คนรับใช้อยู่ได้ก็เพราะนายจ้าง ถึงอย่างไรเจ้าของเรือนกู้ก็ยังเป็นคุณปู่กู้ ซูหว่านเอ๋อร์ไม่มีสิทธิ์ควบคุมเรื่องเหล่านี้ คุณปู่กู้เป็นคนพากู้ซีเฉียวกลับมา ถึงแม้จะมิได้ถึงขั้นรักใคร่เอ็นดู และไม่ได้อยู่ในสายตาของคนตระกูลกู้ แต่ถึงอย่างนั้นคุณหนูกู้ที่ถูกรับรองโดยคุณปู่ก็มิใช่บุคคลที่คนรับใช้อย่างเธอจะต่อกรด้วยได้ นอกจากนี้คุณปู่กู้ยังให้ความสำคัญเรื่องสายเลือด ฉะนั้นแล้วพวกเธอจะไม่สนใจกู้ซีเฉียวเลยก็คงไม่ได้

เมื่อคนรับใช้คิดได้ดังนั้น เลือดฝาดบนใบหน้าก็หายวาบไป คลื่นความกลัวก่อตัวขึ้นในใจ

แต่หากมิใช่เพราะการชักนำของคุณนายของบ้าน คนรับใช้เหล่านี้คงไม่กล้าดูแคลนคุณหนูผู้ไม่ได้รับความโปรดปรานคนนี้

เธอยืนมองประตูที่ปิดพลางใคร่ครวญ คุณหนูรองดูไม่ใช่พวกหญิงเขลาเบาปัญญาอย่างที่เขาลือกัน เธอคงไม่ได้คิดแผนการชั่วร้ายอยู่ใช่หรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง แผนของเธอคงจะแยบยลน่าดู คนรับใช้อย่างเธอเห็นเรื่องพรรค์นี้ในตระกูลคนรวยมานักต่อนัก เธอเข้าใจแทบจะในทันที พยายามคิดอย่างถี่ถ้วน เปิดฉากสงครามเย็นไปแล้วก็แล้วไป แต่ต่อจากนี้เลิกยุ่งกับคุณหนูรองจะดีกว่า

สาวรับใช้เดินไหล่ห่อกลับไปที่ห้อง

กู้ซีเฉียวหยิบชุดนักเรียนที่จะใส่ในวันพรุ่งนี้มาเตรียมไว้ เก็บหนังสือ เตรียมของใช้สำหรับวันพรุ่งนี้แล้วจึงเข้านอน

เจ้าสุนัขนอนอยู่ที่พื้นข้างเตียงของเธอ

เรียวแสงสลัวสาดส่องผ่านเข้ามาทางช่องผ้าม่าน เธอค่อยๆ ลืมตา ในใจยังคงว้าวุ่น เธอนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมาก่อนจะลุกขึ้นควานหาโทรศัพท์ในลิ้นชัก เปิดดูนั่นนี่อยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงเข้าแอปพลิเคชันเศรษฐกิจและการเงินก่อนจะหยุดชะงัก

ด้วยความสามารถของเธอ การหาเงินไม่ใช่เรื่องยาก ว่าแต่เธอควรเริ่มจากตรงไหน

หุ้น? สัญญาซื้อขายล่วงหน้า? หรือว่าสินค้าในสต๊อก?

แน่นอนว่าเธอไม่เคยมีความคิดจะแย่งชิงตำแหน่งผู้สืบทอดกิจการของกู้ซีจิ่น ทรัพย์สมบัติของตระกูลกู้ไม่เคยอยู่ในสายตาของเธอและแทนที่จะคาดหวังความเห็นอกเห็นใจเล็กๆ น้อยๆ จากคนในตระกูลกู้ สู้เธอเลี้ยงสุนัขสักตัวยังดูใกล้ความจริงมากกว่า

ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าเมื่อชาติก่อนเธอช่วยตระกูลกู้แล้วอย่างไร ชาตินี้หากไม่มีเธอสักคน ไม่รู้ว่าตระกูลกู้จะหาใครมาช่วย

ระบบวิเคราะห์ความรู้สึกของหญิงสาวและเริ่มคุยโวอีกครั้ง [ระบบจะมอบหมายภารกิจมากขึ้น เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และการเป็นมหาเศรษฐีของคุณจะไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป!]

เธอเลิกคิ้ว “เหอะ พูดอย่างกับตัวเองผลิตเงินได้”

[…งั้นคุณมีแผนจะทำอะไร]

“ฉันมีแผนก็แล้วกัน”

การหลอกโฮสต์ไม่ใช่เรื่องง่าย ระบบนั่งยองอยู่ในมุมมืดและใช้นิ้วเขี่ยพื้นเป็นวงกลมอย่างเงียบงัน

ในความมืด แสงไฟจากหน้าจอโทรศัพท์สว่างโร่ กู้ซีเฉียวหรี่ตามองพบว่าเป็นข้อความจากเจียงซูเสวียน

พี่เจียง: สะดวกรับโทรศัพท์ไหม

กู้ซีเฉียวกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียง อ่านข้อความนั้นซ้ำไปมาหลายครั้งเพื่อยืนยันว่าตัวเองไม่ได้อ่านพลาด เธอสวมรองเท้าแตะ เดินไปที่ข้างหน้าต่าง เปิดม่าน ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกดปุ่มสัญญาสีเขียวบนหน้าจอ

เสียงโทรศัพท์ดังต่อเนื่องชั่วครู่ก่อนปลายสายจะรับ

เสียงทุ้มต่ำดังลอยมาจากในโทรศัพท์ เสียงทรงเสน่ห์ลดทอนความเย็นชาในน้ำเสียง ถึงแม้ไม่ได้ฟังดูอบอุ่นแต่กลับทำให้กู้ซีเฉียวรู้สึกสบายใจ เธอตัดสาย ยืนนิ่งอยู่ที่ข้างหน้าต่างพักหนึ่งก่อนจะกลับไปที่เตียง และไม่นานก็ผล็อยหลับไป

ในอีกด้านหนึ่ง เจียงซูเสวียนยืนอยู่ข้างหน้าต่าง แสงจางสาดลงบนร่างของชายหนุ่มสะท้อนเป็นประกายสีเงิน งดงามหาใดเปรียบ

นิ้วมือคีบบุหรี่ที่ยังคงติดไฟ แสงเปลวไฟริบหรี่ดูกระจ่างชัดยามค่ำคืนมืดมิด

เพียงไม่นาน โทรศัพท์ในมือก็ส่งเสียงอีกครั้ง เจียงซูเสวียนดับบุหรี่ลงบนชามแก้วก่อนจะยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู เบอร์นั้นเป็นของอินเซ่าหยวน คุณชายจากตระกูลอิน

“พี่เจียง ผมคิดว่าพี่ไปถึงเมืองหลวงแล้วซะอีก มิน่าล่ะผมโทรฯไปที่นั่นตั้งหลายรอบ พวกเขาก็บอกว่าพี่ยังไม่มา” อินเซ่าหยวนดูไม่ค่อยเป็นการเป็นงาน แต่เมื่อสนทนากับเจียงซูเสวียน เขาจะเคารพนบนอบเสียยิ่งกว่าคุยกับผู้อาวุโสในบ้านของตัวเองเสียอีก

เขาเป็นเพื่อนร่วมมหา’ลัยกับเจียงซูเสวียน การพบกันของทั้งคู่ฟังดูไม่ต่างจากละคร

อินเซ่าหยวนเป็นพวกผู้มีอิทธิพลในเมืองเอ็นที่ชอบทำตัวใหญ่โตจนเคยตัว ครั้งแรกเมื่อไปถึงเมืองหลวงก็มิวายติดนิสัยเก่า ดันไปมีเรื่องกับลูกคนรวยที่นั่น ด้วยความคึกคะนองของวัยรุ่น เขาหลงคิดว่าไม่มีใครกล้าแตะต้องคนระดับเขา แต่ในคืนนั้นเขาถูกคนใช้มีดทำร้ายในตรอกเล็กๆ แห่งหนึ่ง โชคดีที่เจียงซูเสวียนเดินผ่านมาพอดีจึงช่วยเขาไว้ได้ทัน

ที่สำคัญกว่านั้นคือ พวกลูกคนรวยพวกนั้นเห็นเจียงซูเสวียนราวกับเป็นหนูที่เห็นแมว ทำตัวว่านอนสอนง่ายในชั่วพริบตา

ดังนั้น อินเซ่าหยวนจึงนับถือเจียงซูเสวียนเป็นไอดอล

นอกจากนี้ยังมีอีกเหตุการณ์หนึ่งคือ ชายหนึ่งคนกวาดล้างอันธพาลนับสิบจนกลายเป็นผงธุลี นั่นยิ่งทำให้ปู่ของเขาสงสัยว่าเขาได้ลาภลอยมาจากไหนถึงได้เป็นเพื่อนกับเจียงซูเสวียน

“สืบเรื่องคฤหาสน์ตระกูลกู้ได้แล้วรึ”

น้ำเสียงเย็นเยียบทำให้อินเซ่าหยวนชะงักไป “ได้ พูดตามตรงก็คือ เรื่องนี้ผมแทบจะไม่ต้องสืบ คนที่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์ซานเหอก็คือตระกูลกู้ แค่ได้ยินก็รู้ทันทีว่าหมายถึงตระกูลไหน แต่ว่าผมได้ส่งคนไปสืบรายละเอียดเพิ่มเติมมาแล้ว ส่งไปที่อีเมลของพี่แล้ว พี่ลองอ่านดู คนพวกนี้เป็นแค่ตระกูลเล็กๆ หากพวกเขาขัดหูขัดตาพี่ ขอแค่พี่บอกมา ผมมีวิธีร้อยแปดพันเก้าที่จะจัดการกับคนพวกนี้…”

“ขอบใจ”

“ไม่ต้องเกรงใจขอรับ การได้ทำเพื่อนายท่านถือเป็นเกียรติของผู้น้อยเป็นล้นพ้น ผู้น้อยไม่กล้า…”

เจียงซูเสวียนตัดสายโดยไม่ทันรอให้ปลายสายกล่าวจบ เขาก้าวเท้าเดินขึ้นไปชั้นบน

ฝีเท้าแต่ละก้าวมั่นคง

เขาเข้าไปดูอีเมลที่อินเซ่าหยวนส่งมา เดิมทีตั้งใจจะอ่าน แต่กลับหันไปเห็นเอกสารชุดหนึ่งที่เคยหายไปวางอยู่บนโต๊ะ รูม่านตาของชายหนุ่มจึงหรี่แคบเล็กน้อย

โฮสต์สาวพลิกอดีตกับระบบสุดเทพ

โฮสต์สาวพลิกอดีตกับระบบสุดเทพ

Status: Ongoing
ชาติก่อนเธอเผาตัวตายเพราะถูกทรยศ ชาตินี้เธอย้อนกลับมาเพื่อเขียนอดีตของตนใหม่อีกครั้ง! นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีที่นางเอกมีระบบสุดเทพที่ทำได้ทุกอย่าง!กู้ซีเฉียว ลูกนอกสมรสไร้ค่าจากบ้านนอก ส่วนเกินในสายตาของคนในตระกูลจวบจนวาระสุดท้ายเธอก็ยังเป็นเช่นนั้น ไร้ซึ่งศักดิ์ศรีใดๆแต่ชาตินี้เธอจะเขียนอนาคตของตนขึ้นใหม่จะไม่มีเด็กสาวน่าสมเพชไร้ความสามารถคนเดิมอีกต่อไป มีเพียงหญิงสาวผู้เป็นอัจฉริยะรอบด้าน!เพราะสิ่งที่เธอนำกลับมาด้วยหลังความตายไม่ใช่เพียงพรสวรรค์ดั้งเดิมแต่เป็น ‘ระบบ’ สุดโกงที่จะช่วยแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้เพียงแลกแต้มคะแนนสะสม!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท