ตอนที่ 15 สำรวจชีวิต
เรื่องที่อู่หงเหวินทำเมื่อเช้ากระจายไปทั่วโรงเรียนมัธยมอีจง และแน่นอนว่าเรื่องนี้ไปถึงหูกู้ซีจิ่นด้วย พักกลางวัน เธอถือถาดอาหารเดินไปนั่งข้างอู่หงเหวิน “ได้ข่าวมาว่าเมื่อเช้านายไปส่งจดหมายรักให้นักเรียนในห้องคู่ขนานงั้นเหรอ”
เด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆ อู่หงเหวินเห็นว่าคนที่เดินมาคือดาวเด่นของห้องอย่างกู้ซีจิ่นก็ส่งยิ้มเริงร่าพลางหลีกทางให้
“เปล่า” อู่หงเหวินก้มหน้าคีบอาหารในจาน เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากสนทนาต่อ แต่แล้วกลับเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง “จดหมายคราวนั้น หมายถึงจดหมายของกู้ซีเฉียวคราวนั้น ตอนที่เอาเธอมาให้ เขาได้พูดอะไรหรือเปล่า”
ใบหน้าของกู้ซีจิ่นแข็งค้าง เธอคิดไม่ถึงว่าจดหมายฉบับนั้นจะถูกเอ่ยถึงอีกครั้ง “เรื่องมันก็ตั้งสองอาทิตย์แล้ว ฉันจะจำได้ยังไง”
หญิงสาวกล่าวคลุมเครือ อู่หงเหวินชำเลืองดูท่าทางของหญิงสาว เขานิ่งเงียบก่อนจะหันไปจัดการอาหารในถาดจนเกลี้ยงแล้วลุกเดินหนีไป
เบื้องหลังชายหนุ่ม สีหน้าของกู้ซีจิ่นย่ำแย่ เล็บมือฝังจิกลงไปในฝ่ามือ
ทำไมอู่หงเหวินถึงได้หัวรั้นอย่างนี้นะ คนในห้องหัวกะทิต่างเข้าหาเธอ มีแค่อู่หงเหวินเท่านั้นที่ทำท่าทีเมินเฉย น่าหงุดหงิดชะมัด!
กู้ซีเฉียวนั่งทานมื้อกลางวันอยู่กลับเซียวอวิ๋น เซียวอวิ๋นเป็นคนเย็นชาและถือตัว ไม่ค่อยสุงสิงกับเพื่อนในห้อง ส่วนกู้ซีเฉียวก็ทำตัวล่องหน ไม่พูดคุยกับใคร แต่บัดนี้ทั้งคู่กลับเดินไปเข้าห้องน้ำด้วยกัน ไปกินข้าวด้วยกัน ทำเอาคนทั้งห้องยืนงงเป็นไก่ตาแตก
พักกลางวันกินเวลาสองชั่วโมง บ่ายสองโมงจึงจะเริ่มเรียนช่วงบ่าย กู้ซีเฉียวที่เพิ่งกลับมานั่งที่โต๊ะหยิบใบงานออกมา แต่ไม่นานเด็กนักเรียนชายคนหนึ่งก็เข้ามาบอกเธอว่าครูประจำชั้นเชิญให้เธอไปดื่มชาด้วย
“ระวังตัวด้วย ข่าวลือเมื่อเช้าคงไปถึงหูครูแล้ว” เซียวอวิ๋นเงยหน้าขึ้นจากกองหนังสือพลางกล่าวเตือนเสียงเย็น
กู้ซีเฉียวพยักหน้าก่อนจะยัดใบงานไว้ใต้กองหนังสือ “เข้าใจแล้ว”
เนื่องจากยังเป็นช่วงพักกลางวัน ในห้องพักครูจึงไม่มีครูคนอื่นอยู่เลย
เมื่อครูประจำชั้นเห็นกู้ซีเฉียวเดินเข้ามาก็วางปากกาแดงในมือ เขาบอกให้เธอปิดประตู และส่งสัญญาณให้เธอนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ครูประจำชั้นยกแก้วชาขึ้นมาละเลียดก่อนจะเริ่มพูด “นางเอกที่ตกเป็นข่าวเมื่อเช้าคือเธออย่างนั้นเหรอ”
กู้ซีเฉียวมองนิ่ง “เมื่อเช้าเกิดอะไรขึ้นหรือคะ พอดีหนูนั่งอ่านหนังสือเลยไม่ทันสังเกตค่ะ”
“แค่กๆ!” ครูประจำชั้นยังไม่ทันกลืนน้ำชาก็สำลักออกมาเสียก่อน
กู้ซีเฉียวมองด้วยสายตาเป็นกังวล
“อย่ามาล้อเล่นกับฉันน่า ครูประจำชั้นห้องหัวกะทิเขามาหาฉันถึงที่ เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของหนุ่มสาว ฉันคงทำอะไรไม่ได้ แต่ว่านี่ก็เป็นเดือนสุดท้ายของชั้นมอหกแล้ว เธออย่าคิดว่ายังเหลือเวลาอีกตั้งสามสิบเอ็ดวัน เวลาผ่านไปไวนะ รอให้การสอบเข้าผ่านพ้นไปก่อน ถึงเวลานั้นเธอจะสร้างเรื่องอะไร ครูก็ไม่สนใจแล้ว” ครูประจำชั้นกลอกตามองบน เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากจะเชื่อว่าข่าวลือนี้เกี่ยวข้องกับกู้ซีเฉียว
กู้ซีเฉียวปั้นหน้าจริงจังเฉกเช่นนักเรียนดีเด่น แววตาสดใสจดจ้องไปที่ครูประจำชั้น เมื่อสบเข้ากับแววตาใสซื่อ ก็แค่เด็ก ครูประจำชั้นลอบถอนหายใจ ล้มเลิกความคิดจะตำหนิต่อ
เขายืดหลังพลางกล่าวเสียงเข้ม “รู้จักฟังก์ชันสัดส่วนผกผันรึเปล่า”
“รู้จักค่ะ” เธอส่งยิ้มเล็กน้อย
ภาพของฟังก์ชันสัดส่วนผกผันเป็นของไฮเปอร์โบลาสมมาตรแบบเซนโทรโบลาที่มีจุดกำเนิดเป็นจุดศูนย์กลางของสมมาตร และแต่ละเส้นโค้งในแต่ละควอแดรนต์ในภาพจะอยู่ใกล้กับแกน X และแกน Y อย่างไม่มีที่สิ้นสุด แต่! จะ! ไม่! มี! วัน! ตัด! แกน! พิกัด!
เขาจึงโบกมืออย่างเกียจคร้าน “เอาเถอะ เธอกลับไปได้แล้ว”
เมื่อเห็นหลังของเด็กสาวพ้นลานสายตาไปแล้ว ครูประจำก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ หากเป็นเด็กนักเรียนคนอื่น เขาคงไม่ใส่ใจ แต่กู้ซีเฉียวไม่ใช่ เธอมีพรสวรรค์โดดเด่น มีระบบความคิดที่เฉียบแหลม หากไม่นับคะแนนภาษาอังกฤษที่เฉียดใกล้คำว่าต่ำเตี้ย นักเรียนอัจฉริยะในห้องหัวกะทิหลายคนยังสู้เธอไม่ได้
แต่ถึงแม้เธอจะสอบคะแนนภาษาอังกฤษได้ศูนย์คะแนน แต่จากความสามารถวิชาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยบีอาจจะงดเว้นกฎระเบียบและรับเธอเข้าเรียนก็เป็นได้ แล้วเหตุใดนักเรียนแบบนี้ถึงได้มาอยู่ห้องคู่ขนานกันนะ
แม้จะยังคิดไม่ตก แต่เขาก็ไม่เคยทอดทิ้งนักเรียนคนใด ส่วนอู่หงเหวิน เขาก็รู้จักดี เขาเป็นนักเรียนที่หัวหน้าคณะกรรมการโรงเรียนมักกล่าวเชิดชูในที่ประชุม ทั้งยังสั่งไม่ให้อาจารย์คนใดทำผิดต่อเขา ฉะนั้นเมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ คนที่ครูหัวหน้าแผนกจะเรียกหาคือกู้ซีเฉียว เพราะคนอ่อนแอย่อมรังแกได้ง่ายกว่า
แต่ในเมื่อเป็นนักเรียนของเขา เขาจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมารังแกเด็ดขาด! ครูประจำชั้นหรี่ตา
เมื่อกู้ซีเฉียวกลับมาที่ชั้นเรียน ทุกคนในห้องมองเธอเป็นตาเดียว เธอเดินกลับไปนั่งที่ด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ครูดุอะไรเธอรึเปล่า” เซียวอวิ๋นยื่นศีรษะมากระซิบถาม
เซียวอวิ๋นเป็นพวกเย็นชาถือตัว เธอแทบจะไม่ถามไถ่หรือแสดงความห่วงใย กู้ซีเฉียวหันข้างแล้วบอกเพียงว่าเธอไม่เป็นอะไร แต่เมื่อเห็นสีหน้าเย็นชาทว่าทรงสง่าของเธอ กู้ซีเฉียวก็ตระหนักได้ว่า ความจริงแล้วเพื่อนคนนี้ก็ไม่ได้เข้าถึงยากปานนั้น
เมื่อคิดได้ดังนี้ กู้ซีเฉียวก็นึกถึงคะแนนทักษะภาษาของซีอวิ๋นขึ้นมาทันที “ระบบ ในโรงเรียนนี้มีนักเรียนที่คะแนนไม่ดีตั้งเยอะแยะ แต่ทำไมถึงเลือกเซียวอวิ๋น”
[เฉียวเหม่ยเหริน ระบบมีหน้าที่เฟ้นหาบุคคลเป้าหมาย ระดับความคาดหวังของบุคคลเป้าหมายเป็นตัวกำหนดคะแนนสะสม เซียวอวิ๋นซึ่งเป็นบุคคลเป้าหมายมีความคาดหวังอันสูงส่งที่จะพัฒนาคะแนนวิชาทักษะภาษาให้อยู่ในเกณฑ์ดี ซึ่งความคาดหวังนี้อยู่ในระดับดาวขั้นสี่! ฉะนั้นระบบถึงได้เลือกเธอมาเป็นบุคคลเป้าหมายสำหรับภารกิจนี้]
“แล้วที่เคยพูดถึงไอเทม หมายถึงอะไร”
[ในที่สุดคุณก็คิดได้เสียที!]
ระบบตื่นเต้นเพียงชั่วครู่ เบื้องหน้าของกู้ซีเฉียวปรากฏชั้นวางเสมือน ด้านข้างจารึกอักขระสี่ตัวว่า “ร้านค้าระดับศูนย์” บนชั้นมีข้าวของเรียงรายพร้อมรายละเอียดการใช้งาน
[ฉันได้เลือกสรรยาให้โฮสต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้แก่ ยาเห็นธรรมและยาช่วยจำ ยานี้จะทำให้ความจำระยะยาวมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีสินค้าจำพวกคลังข้อมูลขนาดนาโน เชิญโฮสต์เลือกได้ตามสะดวก]
กู้ซีเฉียวกวาดตามองราคา 12 คะแนน 9 คะแนน 15 คะแนน… ไม่มีถูกกว่านี้แล้ว
“เรื่องนี้ไว้ค่อยว่ากันทีหลัง” เธอกล่าวหน้านิ่ง
[…] เมื่อไหร่โฮสต์จะเลิกนิสัยตึ๋งหนืดนี้สักที
หลังจากหมดคาบเรียนบ่าย อู่หงเหวินยืนขวางทางกู้ซีเฉียวอยู่บริเวณหน้าประตูห้อง เด็กนักเรียนชายในห้องขยิบตาให้อู่หงเหวินก่อนจะผิวปากเดินผ่านไป
กู้ซีเฉียวทำเป็นมองไม่เห็น เธอเดินอ้อมร่างของชายหนุ่ม
อู่หงเหวินเพียงยื่นแขนยาวๆ ของเขาก็ขวางทางเธอได้อย่างง่ายดาย
“มีไอเทมอะไรที่ทำให้เขาเห็นฉันแล้ววิ่งหนีแบบไม่คิดชีวิตบ้างหรือเปล่า” ตาคนนี้น่ารำคาญเสียจริง เธอช่วยแค่ครั้งเดียว แต่ทำไมรู้สึกเหมือนว่าตัวเองหาเหาใส่หัวกันนะ
[มีแน่นอน แต่ต้องใช้ 3 คะแนน] ระบบในพื้นที่เสมือนจริงกลอกตายกใหญ่
กู้ซีเฉียวเม้มปาก ทำประหนึ่งว่าตัวเองไม่ได้ถามคำถามนั้น สีหน้าของเธอเย็นชา อู่หงเหวินเห็นดังนั้นก็ถึงกับพูดไม่ออก เขาไม่รู้จะเริ่มอย่างไร และไม่รู้ว่าควรอธิบายอย่างไร ใบหน้าของเขาขึ้นสีแดงเรื่อขึ้นเรื่อยๆ
“ถอยไป”
ชายหนุ่มเกาหัว “โธ่ ฟังฉันก่อน…”
“ฉันบอกให้นายถอยไป” น้ำเสียงเย็นเยียบกว่าเก่า
สุดท้ายคนที่เข้ามาช่วยกู้ซีเฉียวเอาไว้คือครูประจำชั้น ทันทีที่นักเรียนไปแจ้ง เขาก็รุดมาที่ห้องเรียนอย่างไม่รอช้า และพบอู่หงเหวินที่กำลังยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องเรียนของพวกเขา
“กู้ซีเฉียว เธอกลับไปก่อน” ครูประจำชั้นกล่าวเสียงเข้ม ดันแว่นตาให้เข้าที่ก่อนจะหันไปส่งยิ้มร่าให้อู่หงเหวิน “นี่มันนักเรียนอู่จากห้องหัวกะทินี่นา ไปดื่มชากับครูสักแก้ว เราจะได้มาสำ…รวจ…ชี…วิตกัน”
อู่หงเหวินไม่คิดว่าครูประจำชั้นห้องคู่ขนาดจะโผล่มาตอนนี้ เขาอุตส่าห์ให้คนไปจับตาดูไว้ ว่าแต่ใครกันที่ไปบอกครู เขาตะลึงงันอยู่ครู่หนึ่งจึงค่อยได้สติกลับมา “วางใจได้ ฉันจะไม่ให้ครูประจำชั้นของนายทำอะไรนายหรอกน่า”
ทั้งคู่เดินไปไกลแล้ว
กู้ซีเฉียวกระตุกมุมปาก …คงต้องขอบคุณครูจริงๆ!
กว่ากู้ซีเฉียวจะออกจากประตูโรงเรียน รถตระกูลกู้ก็กลับไปแล้วตามคาด
กู้ซีเฉียวกะจะซื้อไอเทมที่สามารถพาตัวเองกลับบ้านได้ แต่เมื่อคิดถึงคะแนนที่ต้องเสียไปแล้วก็ตัดใจ