ตอนที่ 20 พบโดยบังเอิญ
“บุคคลอันตรายอะไร” กู้ซีเฉียวหรี่ตา
ในตรอกนี้ไม่เห็นมีใคร อากาศเย็นชื้นโบกโชยมาจากทางด้านหน้า ตรอกนั้นเงียบสงัด น่าพรั่นพรึง ประกอบกับสิ่งที่ระบบพูดเมื่อครู่ ทำให้หัวใจของเด็กสาวร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ขนแขนลุกพรึบอย่างพร้อมเพรียง
[ติ๊ง! ระดับของระบบในขณะนี้ไม่สามารถวิเคราะห์บุคคลตรงหน้าได้!]
กู้ซีเฉียวมุมปากกระตุก “แล้วเธอมีประโยชน์ตรงไหนเนี่ย”
[กู้ซีเฉียว คุณดูถูกฉันไม่หยุดเลยนะ! เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน ดูเหมือนว่ามีมิตรของคุณอยู่ในละแวกใกล้ๆ นี้ คุณต้องการตรวจสอบดูหรือไม่]
กู้ซีเฉียวยังไม่ทันตอบ เบื้องหน้าก็ปรากฏแผนที่โปร่งใส บนจอแผนที่มีจุดสองจุดกำลังเคลื่อนไหว จุดหนึ่งเป็นสีแดงเรืองแสง ส่วนอีกจุดเป็นสีเขียวเรืองแสง ชื่อที่ปรากฏบนจุดสีเขียวคือ…
เจียงซูเสวียน
จุดสีแดงเป็นตำแหน่งของบุคคลอันตราย ส่วนจุดสีเขียวเป็นตำแหน่งของมิตร ทั้งคู่อยู่ในซอยข้างๆ นี้
กู้ซีเฉียวกำลังพิจารณาว่าจุดทั้งสองอยู่ห่างจากตำแหน่งของเธอเท่าไหร่ แต่จู่ๆ จุดสีแดงก็หายไปจากแผนที่ เธอยังไม่ทันได้มองชัดแล้วทันใดนั้นเองมันก็ไปโผล่อยู่อีกซอยหนึ่ง! ช่วงเวลาแค่พริบตา คนคนนี้เดินทะลุผ่านกำแพงมาแล้วสามซอย
เคลื่อนที่พริบตา? หญิงสาวอ้าปากค้าง
“ไม่มีคนมารับเธออีกแล้วเหรอ” เสียงเย็นดังขึ้นข้างหู ลมหายใจอุ่นปะทะเข้าที่ข้างแก้มทำให้กู้ซีเฉียวสะดุ้งพลันหลุดออกจากภวังค์ เธอเงยหน้ามองใบหน้าคุ้นเคย กรอบหน้าได้รูปเด่นชัดใต้เงามืด
เขามาตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อวินาทีก่อนหน้านี้เขายังอยู่ซอยข้างๆ อยู่เลย
โห สุดยอดขนาดนี้เลย?!
กู้ซีเฉียวผงะไปชั่วอึดใจก่อนจะซ่อนสีหน้าตกตะลึง เธอลอบมองชายหนุ่ม แสร้งเผยสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย “พี่เจียง?”
[เฉียวเหม่ยเหริน รัชดาลัยอยู่นะ]
เจียงซูเสวียนก้มศีรษะลงมามองหญิงสาว เขาขยับหน้าเข้ามาใกล้ คิ้วสวยขมวดมุ่น เขาเม้มปากจนเป็นเส้นตรง เขาเป็นเช่นนี้มานานแล้ว ใบหน้านิ่งไม่ยิ้มแย้ม ยิ่งขมวดคิ้ว ยิ่งให้ความรู้สึกเย็นชา
ตั้งแต่ถูกผูกติดไว้กับระบบ ประสาทสัมผัสทั้งห้าของกู้ซีเฉียวจึงไวกว่าก่อนมาก เธอรับรูปได้ถึงความเย็นที่ปกคลุมร่างเจียงซูเสวียน เช่นเดียวกับแรงกดดันบางอย่างที่ไม่อาจอธิบาย แม้เขาจะพยายามควบคุมมันแล้ว แต่ก็ต้องยอมรับว่าความรู้สึกเช่นนั้นยังมิได้หายไปไหน
“ออกไปกับฉันก่อนก็แล้วกัน” ใคร่ครวญอยู่ไม่นาน เจียงซูเสวียนก็เอื้อมมือมาหยิบกระเป๋าออกจากไหล่ของกู้ซีเฉียวไปถือไว้ในมือ
หนังสือหลายเล่มและเอกสารทบทวนบทเรียนของชั้นมัธยมหกอีกเป็นปึกทำให้กระเป๋าของหญิงสาวหนักเอาเรื่อง แต่เมื่อชายหนุ่มนำไปถือกลับดูไร้น้ำหนักเสียอย่างนั้น
“ตรงนี้มันวุ่นวาย” กู้ซีเฉียวเดินตามหลังเจียงซูเสวียนประมาณครึ่งก้าว เขากวาดสายตาเย็นเยียบมองไปรอบทิศก่อนจะชะลอฝีเท้าให้เท่ากับจังหวะก้าวเดินของหญิงสาว “เป็นเด็กผู้หญิงเลิกเรียนแล้วก็ควรรีบกลับบ้าน อย่ามัวเถลไถล”
เสียงของเขาติดตำหนิเล็กน้อย แต่ทว่ากู้ซีเฉียวกลับมิได้รู้สึกแย่ เธอตอบรับสั้นๆ อย่างว่าง่าย “อือ”
ครั้นกล่าวจบ ในหัวมีภาพฉากเมื่อครู่ฉายซ้ำอีกครั้ง อืม เมื่อกี้มันเคลื่อนที่พริบตาได้จริงๆ ใช่ไหม
วันนี้ไม่เถียงเหรอ เจียงซูเสวียนเหลือบมองไปที่หญิงสาว
พ้นโค้งมาก็จะเห็นรถบูกัตติของเจียงซูเสวียนที่ติดเครื่องจอดอยู่ รถนั้นจอดอยู่ตรงปากทาง ข้างๆ มีชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งยืนพิง ทันทีที่เขาเห็นเจียงซูเสวียน ร่างนั้นก็รีบเดินเข้ามาหา
“พี่…” อินเซ่าหยวนเตรียมจะอ้าปากก็เห็นว่ามีใครอีกคนข้างหลังเจียงซูเสวียน เสียงถึงได้ขาดห้วงไป เขาเดินอ้อมไปพลางคลี่ยิ้ม “พี่เจียง พี่เข้าไปแล้วกลับมาพร้อมเด็กสาวอ่ะนะ!”
เจียงซูเสวียนชำเลืองมองทว่ามิได้ใส่ใจ เขาก้มหน้าไปมองกู้ซีเฉียว “เธอขึ้นไปรอฉันบนรถก่อน เดี๋ยวจัดการธุระเสร็จเมื่อไหร่ ฉันจะรีบกลับมา”
กู้ซีเฉียวรับกระเป๋าของตัวเองมา พยักหน้าเงียบงัน
เจียงซูเสวียนไม่วางใจจึงกำชับให้อินเซ่าหยวนเฝ้าเธอไว้ ก่อนที่ตัวเองจะกลับหลังหันเดินเข้าไปในตรอก
ร่างสูงโปร่งหายเข้าไปในความมืด
อินเซ่าหยวนเห็นว่าเจียงซูเสวียนเดินไปไกลแล้วจึงหันหน้ากลับมามองกู้ซีเฉียวอย่างพินิจพิเคราะห์ แสงไฟบริเวณปากทางไม่ได้สว่างนัก เขามองกู้ซีเฉียวที่ยืนหลบอยู่ด้านหนึ่ง รอยยิ้มที่ส่งให้เจียงซูเสวียนเมื่อครู่หายไปจากใบหน้าของเด็กสาวทันทีที่เขาเดินจากไป จากด้านข้างเขาจึงเห็นเพียงใบหน้าเรียวบางกับขนตายาวเรียงหนา ผิวพรรณนวลขาว ผ่องใส เป็นลักษณาการงดงามที่ยากเกินจะพรรณนา
ใบหน้าสวยนี้แลดูคุ้นตา ใบหน้าเช่นนี้ต่อให้เคยเห็นแค่ครั้งเดียวก็คงไม่มีทางลืม อินเซ่าหยวนพลันหรี่ตา แววตาเฉี่ยวสอดส่ายจนทั่ว “เธอคือลูกสาวนอกสมรสของตระกูลกู้?”
กู้ซีเฉียวตัวแข็ง มือที่จับกระดานวาดรูปเกร็งแน่น เธอขบริมฝีปาก ไม่คิดจะตอบคำถามนั้น
แต่ทว่าอินเซ่าหยวนไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้น เขาขยับเข้ามาใกล้กู้ซีเฉียว กระตุกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าเปื้อนยิ้มเยาะเย้ย “ในฐานะลูกนอกสมรส เธอกลับมาที่ตระกูลกู้เพราะมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ จะแย่งสมบัติของพี่สาวอย่างนั้นหรือ แต่ว่า เธอจะแย่งพี่สาวได้จริงๆ เหรอ แค่ได้เงินสักก้อนไปใช้ชีวิตอย่างสุขสงบก็นับว่าไม่เลวแล้ว อย่าไปละโมบโลภมากของของคนอื่นเลยดีกว่าจริงไหม”
กู้ซีเฉียวได้ฟังคำพูดเช่นนั้นในชาติที่แล้วมามากแล้ว ฉะนั้นการได้ฟังตอนนี้อีกครั้งจึงมิได้รู้สึกอะไร
เธอค่อยๆ เงยหน้ามองอินเซ่าหยวน “นายแซ่ยาวเหรอ”
เมื่อกล่าวจบ เธอไม่รอให้อีกฝ่ายตอบ เปิดประตูรถแล้วขึ้นไปนั่งที่เบาะหลัง
อินเซ่าหยวนผงะนิ่งไปนานกว่าจะได้สติ เจ้าเด็กคนนี้มาหาว่าเขาปากยื่นปากยาวชอบซุบซิบนินทางั้นเหรอ หน็อยแน่! ใจเขาอยากจะลากตัวเด็กสาวออกมาสั่งสอน แต่เมื่อเห็นแววตาสดใสที่กำลังมองมาที่เขา ขาของชายหนุ่มกลับก้าวไม่ออก
ชายหนุ่มจุดบุหรี่ยืนพิงอยู่ที่หน้ารถ
แววตาบริสุทธิ์สุกใสเช่นนั้นทำให้เขาไม่กล้าถือสาเอาความ เขานึกถึงข่าวลือที่กำลังแพร่กระจายไปทั่วในขณะนี้
ตระกูลกู้มีทายาทแค่สองคน ทายาทโดยชอบธรรมแสนล้ำค่าคือกู้ซีจิ่น การไปเสาะหาเด็กอีกคนจากชนบทกลับมาไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นลูกนอกสมรสก็ว่าแย่แล้ว ได้ยินมาว่านิสัยก็ไม่ใคร่จะดี หลงในชื่อเสียงจนทอดทิ้งแม่บุญธรรมของตัวเอง ขนาดคนมีชื่อเสียงอย่างอินเซ่าหยวนยังเคยได้ยินเรื่องนี้ผ่านหูมาบ้าง
ประกอบกับที่เจียงซูเสวียนให้เขาไปสืบเรื่องตระกูลกู้เมื่อไม่กี่วันก่อน หนำซ้ำยังกำชับให้เขาค้นข้อมูลเกี่ยวกับคุณหนูรองโดยเฉพาะ
แต่เมื่อเขาได้เห็นเธอในยามนี้กลับอดสงสัยไม่ได้
ครั้นสูบบุหรี่จนหมดมวน อินเซ่าหยวนกลับไม่มีโอกาสที่จะสนทนากับกู้ซีเฉียวต่อ เพราะเพียงไม่นานเจียงซูเสวียนก็กลับออกมาแล้ว
เขาเดินไปเปิดประตูหลัง
อินเซ่าหยวนโบกมือค้างอยู่กลางอากาศอย่างเก้กัง เจียงซูเสวียนกลับไม่มีทีท่าว่าจะสนใจ เด็กหนุ่มได้แต่ยอมรับชะตา เดินไปนั่งตรงที่นั่งคนขับอย่างไม่มีทางเลือก สตาร์ทรถแล้วขับออกไป
“ไปที่วิลล่า” ครั้นขึ้นรถมาแล้ว เจียงซูเสวียนไม่เปิดโอกาสให้อินเซ่าหยวนพูดเลยสักนิด
ดังนั้นอินเซ่าหยวนจึงทำได้เพียงเก็บความรู้สึกคับข้องไว้ในใจตลอดทางและขับรถมุ่งหน้าไปยังที่พักชั่วคราวของเจียงซูเสวียน เมื่อถึงจุดหมาย ลูกพี่ไม่ได้บอกให้เขาอยู่ต่อ หนำซ้ำยังทิ้งเขาไว้ที่นอกประตู เด็กหนุ่มยืนมองเจียงซูเสวียนถือกระเป๋านักเรียนของกู้ซีเฉียวเดินนำเข้าไปในบ้านพัก แววตาเฉี่ยวพยายามครุ่นคิด
“ป้าจาง ฝากเตรียมอาหารเย็นเพิ่มอีกสองอย่าง” เจียงซูเสวียนกำชับป้าจางที่มารอต้อนรับ
ป้าจางยิ้มร่าพลางรับของในมือกู้ซีเฉียวไปถือ ก่อนจะมองที่เด็กสาวอย่างถี่ถ้วน เมื่อเห็นว่าสีหน้าของเธอดีขึ้นมากแล้ว หญิงวัยกลางคนก็เผยสีหน้าเบาใจ “คุณหนูกู้ เชิญขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อน อีกเดี๋ยวอาหารเย็นก็พร้อมแล้ว”
กู้ซีเฉียวมองไปที่เจียงซูเสวียน เธอยืนนิ่ง
เขาไม่ควรจะพาเธอไปส่งบ้านก่อนหรอกเหรอ