ตอนที่ 29 ข่าวลือ
เช้าวันจันทร์ กู้ซีเฉียวรอให้ตลาดเปิดเพื่อดูหุ้นของตัวเอง ปรับตัวขึ้นได้ไม่เลว แค่ในช่วงเวลาสั้นๆ ก็เพิ่มมูลค่าขึ้นมาได้มากขนาดนี้ เธอจึงขายหุ้นระยะสั้นเพื่อพัฒนาการเติบโตของหุ้นระยะยาว
อันที่จริง การมีหุ้นที่มีศักยภาพสักตัวอยู่ในพอร์ตถือเป็นเรื่องดี แต่เธอมองว่าหุ้นเหล่านั้นยังต้องใช้เวลาพัฒนาอีกสองถึงสามปี ตอนนี้เธอจึงยังไม่ซื้อและเลือกซื้อเฉพาะ ‘หุ้นมหัศจรรย์’ ที่ไม่มีใครกล้าซื้อ เพราะเธอทราบดีว่าเบื้องหลังหุ้นเหล่านั้นมีเจ้ามือที่คนควบคุมอยู่ ฉะนั้นหุ้นมหัศจรรย์เหล่านี้ถึงได้ผันผวนสูง
เซียวอวิ๋นนั่นท่องกลอนอยู่ที่โต๊ะของตัวเอง หมดคาบเรียนเธอเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่เมื่อเดินกลับมา เธอกลับดูแปลกไป เดี๋ยวก็ท่องกลอนในสมุด เดี๋ยวก็นั่งสู้รบกับโจทย์เลขวิเคราะห์ เดี๋ยวก็อ่านหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ
ซึ่งดูไม่ใช่นิสัยของเธอเลยสักนิด
กู้ซีเฉียวเริ่มทนไม่ไหว เธอชำเลืองมองไปที่เซียวอวิ๋น “มีอะไรก็พูดมา เลิกยืนถูเก้าอี้ได้แล้ว เธอไม่ได้เป็นริดสีดวงสักหน่อย”
เซียวอวิ๋นชะงักไป
“คือฉันสงสัย” เซียวอวิ๋นนั่งลงพลางยื่นหน้าเข้ามากระซิบข้างหูกู้ซีเฉียว “เธอเป็นลูกนอกสมรสจริงๆ รึเปล่า”
เมื่อเห็นว่ามือของกู้ซีเฉียวนิ่งไป เซียวอวิ๋นจึงรีบกล่าวต่อ “ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น ฉันแค่อยากถามให้แน่ใจ ต่อให้เธอเป็นลูกนอกสมรสจริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ มันไม่ใช่ความผิดของเธอ แล้วฉันก็ไม่มีทางรังเกียจเธอด้วย จริงๆ นะ”
กู้ซีเฉียวหยิบใบงานวิชาคณิตศาสตร์ออกมาเตรียมสำหรับคาบเรียนถัดไป เธอหลุบตาซ่อนความรู้สึกก่อนจะตอบเสียงเรียบ “ใช่”
เซียวอวิ๋นเห็นรูปการณ์แล้วพอจะเดาคำตอบได้ ใช่ว่าเธอไม่เคยเห็นลูกนอกสมรสที่ไหน เพียงแต่เธอไม่เคยเห็นเด็กที่เป็นลูกนอกสมรสที่หน้าตาและบุคลิกโดดเด่นเช่นนี้มาก่อนก็เท่านั้น หากยกเรื่องความสามารถของเธอมาพูดยิ่งแล้วใหญ่ ถ้าจะบอกว่าเธอเป็นคุณหนูจากตระกูลดังอยู่ดูสมจริงมากกว่า คนแบบนี้น่ะหรือเป็นลูกนอกสมรส ใครจะเชื่อ!
แม้เธอจะยังสงสัย แต่เมื่อเห็นสีหน้าเย็นชาของกู้ซีเฉียว เซียวอวิ๋นก็ไม่คิดจะถามต่อ
พักกลางวัน ทั้งสองไปทานอาหารด้วยกัน ตลอดทางที่เดินไป เมื่อคนรอบข้างเห็นเด็กสาวทั้งสองก็มีเสียงซุบซิบดังลอยมาเป็นระยะ
โรงเรียนในยุคนี้ก็เป็นเช่นนี้ ข่าวเล่าอ้างที่ไม่สลักสำคัญสามารถกลายเป็นข่าวใหญ่ที่ทราบโดยทั่วกันในชั่วพริบตา หนำซ้ำยังถูกขยายให้ใหญ่เกินความจริงเสียด้วย
เซียวอวิ๋นปั้นหน้าเย็นชามองไปที่คนเหล่านั้น แววตาของหญิงสาวร้อนผ่าวประหนึ่งไฟจากคบเพลิง เมื่อเห็นสายตาเลิ่กลั่กเบนหนีไป เธอจึงหันไปกล่าวแก่กู้ซีเฉียว “พวกเราไปกินที่โรงอาหารเล็กกันดีไหม”
โรงอาหารเล็กเป็นโรงอาหารที่อร่อยที่สุดและราคาสูงที่สุดในบรรดาโรงอาหารทั้งหมดในโรงเรียนอีจง เด็กนักเรียนที่ครอบครัวมีฐานะดีเท่านั้นที่จะมาทานอาหารที่นั่น ส่วนพวกครูอาจารย์แทบจะไม่มาเหยียบที่นี่ เซียวอวิ๋นเห็นสายตาของคนเหล่านั้นถึงได้ชวนกู้ซีเฉียวไปที่นั่น
“ไม่ต้องหรอก” กู้ซีเฉียวเก็บโทรศัพท์มือถือ เธอยืนอยู่ใต้แสงอาทิตย์สาดส่อง ขับเน้นให้ผิวของเธอดูเปล่งปลั่งกว่าเดิม ริมฝีปากสีอ่อนเรียวบางยกขึ้นเล็กน้อย พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่รู้สึกรู้สม “ปากของคนอื่น เธอทำอะไรไม่ได้ หนีก็ไม่ได้ วางใจเถอะ ฉันหน้าหนามากนะ คำพูดพวกนั้นทำอะไรฉันไม่ได้หรอก”
คนในโรงอาหารมากกว่าปกติ ตอนที่พวกเธอไปถึง อู่หงเหวินคอยอยู่ที่นั่นแล้ว เขาไม่เพียงแต่จองโต๊ะไว้ให้ แต่ยังตักอาหารให้เรียบร้อยแล้วด้วย
เซียวอวิ๋นดึงกู้ซีเฉียวให้นั่งลงข้างชายหนุ่มก่อนจะหันไปพยักหน้าให้เขา “ลำบากนายแล้วล่ะ”
กู้ซีเฉียวไม่ได้ปฏิเสธ ทั้งสามนั่งกินอย่างไม่รีบร้อน สายตาของคนรอบข้างอาจหาญขึ้นเรื่อยๆ และเสียงซุบซิบก็ดังขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน
เซียวอวิ๋นโกรธขึ้ง กู้ซีเฉียวเป็นเพื่อนของเธอ อีกทั้งยังเป็นไอดอลในสายตาเธอด้วย ในเวลานี้เมื่อได้ยินเสียงคนรอบข้างซุบซิบให้ร้าย ความโกรธของเธอจึงปะทุหนัก เธอมองไปที่อู่หงเหวินที่นั่งกินเงียบๆ พลางกล่าวอย่างอดไม่ได้ “นายไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ”
“อะไร” อู่หงเหวินเงยหน้า
“คนกำลังพูดกันว่าเอ้อร์เฉียวเป็นลูกนอกสมรสน่ะซิ ทำไมนายถึงได้นิ่งขนาดนี้” เซียวอวิ๋นเลิกคิ้ว คนอย่างอู่หงเหวินคงไม่รังเกียจลูกนอกสมรสใช่หรือไม่
อู่หงเหวินเผลอมองไปที่กู้ซีเฉียว เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงกินอาหารในจานนิ่งๆ จึงเอ่ยว่า “ลูกนอกสมรสแล้วจะทำไม ความผิดนี้ เธอไม่ได้ก่อ เป็นความผิดของผู้ชายชั่วต่างหาก”
กู้ซีเฉียวจัดการผักในจานจนเกลี้ยง เธอวางตะเกียบคอยเซียวอวิ๋น ตอนจะจากไปก็หันไปมองอู่หงเหวินอีกครั้ง
ขณะที่เธอหันหน้ากลับไป ชายหนุ่มเห็นเพียงใบหน้าสวยด้านข้าง ผิวเนียนละเอียดไร้ที่ติ แววตาเปล่งประกาย เธอหรี่ตาเล็กน้อย แววตาสดใสคล้ายคลื่นน้ำ
อู่หงเหวินยังไม่วางตะเกียบ มือของเขานิ่งค้างกลางอากาศอยู่นาน จิตใจล่องลอย ช่วงที่ผ่านมาเขาตามติดกู้ซีเฉียว ฉะนั้นจึงพอเข้าใจนิสัยของหญิงสาว
เธอออกจะเย็นชา แต่ไม่ใช่ความเย็นชาอย่างที่เซียวอวิ๋นเป็น แต่เป็นความเย็นเยือกที่แผ่ซ่านออกมาจากส่วนลึกของกระดูก แม้ว่าภายนอกดูเป็นคนอบอุ่น แต่ทว่าในใจมีกำแพงก่อตัวแน่นหนา เธอเข้าถึงได้ยาก อู่หงเหวินจึงเตรียมตัวรับมือกับศึกครั้งนี้มาอย่างดี แต่กลายเป็นว่าตอนนี้เขารู้สึกเหมือนได้เห็นสายรุ้งหลังพายุฝนก็ไม่ปาน
ชายหนุ่มนิ่งคิดด้วยความงงงวย เป็นเพราะคำพูดปลอบใจของเขาอย่างนั้นหรือ
เมื่อคนรอบข้างเห็นว่าตัวละครหลักไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว เสียงถกเถียงก็ดังขึ้นกว่าเก่า วาจานั้นไม่ให้เกียรติบุคคลที่สามที่ถูกกล่าวถึงเลยสักนิด
อู่หงเหวินตีหน้านิ่ง ดวงตาสีนิลถูกปกคลุมไปด้วยเงาหม่น เขายืนขึ้น สอดส่ายสายตาไปรอบทิศก่อนจะโพล่งออกมา “หุบปาก!”
วาจาแสลงหูจากรอบข้างพลันหยุดลง แต่ถึงอย่างนั้นอารมณ์ของชายหนุ่มกลับไม่ได้ดีขึ้น ตามที่เขาเคยบอกไว้ เป็นลูกนอกสมรสแล้วจะทำไม เป็นความผิดของเธออย่างนั้นเหรอ มันเป็นความแค้นของพวกผู้ใหญ่ แต่ทำไมทุกคนถึงได้โยนความผิดครั้งนี้มาให้เธอ หากเลือกได้ ใครจะอยากเกิดเป็นลูกนอกสมรสกัน ในวัยของเธอ เธอควรเป็นที่รักของคนในครอบครัว แต่กลับกลายเป็นว่าถูกพุ่งเป้าอยู่ตลอดเวลา ความเฉยเมยของเธอยิ่งทำให้เขารู้สึกสงสาร เขาคิดเสมอว่าเธอไม่ควรมีชีวิตแบบนี้
อู่หงเหวินถือถาดกลับไปเก็บเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่จงหย่งซือเดินมาพอดี
ต่างฝ่ายต่างมองด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
เมื่อก่อนจงหย่งซือรู้สึกชื่นชมอู่หงเหวิน พวกเขาเป็นเพื่อนที่เรียนอยู่ในห้องหัวกะทิเหมือนกัน คนหนึ่งเป็นสุดยอดด้านกีฬา ส่วนอีกคนเป็นสุดยอดด้านภาพเขียนแบบจีน ทั้งคู่ต่างมีผลการเรียนที่ดีจึงนับว่าเป็นเลิศยิ่งกว่าคนที่สอบได้ที่หนึ่งทุกการสอบเป็นไหนๆ แต่ว่าตั้งแต่อู่หงเหวินเริ่มสนิทกับกู้ซีเฉียว จงหย่งซือก็ไม่ยุ่งกับเขาอีกเลย
อู่หงเหวินไม่ได้ใส่ใจ เขาเป็นพวกเจ้าอารมณ์ เขาปรายตามองจงหย่งซือที่เตี้ยกว่าก่อนจะเบนสายตาไปทางอื่นอย่างไม่ยี่หระ นั่นยิ่งทำให้จงหย่งซือโกรธจัด
จงหย่งซือวางถาด หน้าบึ้งตึงเดินจากไป กู้ซีจิ่นกำลังยืนรอเขาอยู่ที่ข้างประตูโรงอาหาร
เมื่อเห็นฉากนี้ ฝีเท้าของอู่หงเหวินก็หยุดชะงัก คิ้วของชายหนุ่มขมวดมุ่น หากกู้ซีเฉียวเป็นลูกนอกสมรสจริงๆ เธอมีความสัมพันธ์อะไรกับกู้ซีจิ่น
เมื่อสมองเริ่มจะบรรลุ อู่หงเหวินก็คอยต่อไปไม่ไหว เขาฉุกคิดเรื่องจดหมายสารภาพรักฉบับนั้น กู้ซีจิ่นเป็นคนนำมาให้เขาขณะที่อยู่ต่อหน้าคนทั้งห้อง แต่จู่ๆ กลับมีเพื่อนในห้องวิ่งมาแย่งไป เขาเองก็ไม่ได้ใส่ใจจึงไม่คิดจะไปแย่งคืนมา ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาชื่อของกู้ซีเฉียวก็โด่งดังไปทั่วโรงเรียน เสียงตามสายยังเอ่ยถึงเรื่องนี้ โชคดีที่ครูประจำชั้นพยายามช่วยเธอ เพียงแต่ว่าเรื่องนี้คงกระทบต่อความรู้สึกของเธออย่างใหญ่หลวง
ส่วนกู้ซีจิ่น เธอเป็นทายาทของตระกูลดัง หน้าตาสะสวย เธอดีและอ่อนโยนกับคนอื่น เขาไม่อยากสงสัยในตัวเธอ แต่ถึงอย่างนั้นก็ช่วยไม่ได้
อู่หงเหวินหรี่ตา เขาเอื้อมมือไปคว้าตัวเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่วิ่งผ่านหน้า “ไปสืบให้ฉันทีว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวที่บอกว่ากู้ซีเฉียวเป็นลูกนอกสมรส”