โฮสต์สาวพลิกอดีตกับระบบสุดเทพ – ตอนที่ 31 ปกป้อง

โฮสต์สาวพลิกอดีตกับระบบสุดเทพ

ตอนที่ 31 ปกป้อง

ตั้งแต่ถูกเจียงซูเสวียนเทศนาไปคราวนั้น กู้ซีเฉียวก็ไม่เคยเดินผ่านตรอกนั้นอีกเลย แต่วันนี้ระบบได้มอบหมายภารกิจให้เธอ เบื้องหน้าหญิงสาวมีจอโปร่งใสพร้อมลูกศรสีแดงชี้ไปทางตรอกนั้น

ตรงสุดถนน มีคนกำลังถูกล้อมไว้

คนที่ถูกล้อมเป็นเด็กวัยรุ่นคนหนึ่ง เขาสวมเสื้อยืดสีขาว ท่อนล่างเป็นกางเกงยีนที่ซักจนสีซีด ในมือถือท่อนไม้เปื้อนเลือดและกำลังออกแรงฟาดไปที่คนหัวโจก เขาไม่ได้มีพื้นฐานการต่อสู้ แค่เล็งแล้วออกแรงฟาด เห็นได้ชัดว่าเขาคงทะเลาะวิวาทอยู่บ่อยๆ เพราะฟาดเข้ากลางศีรษะของคู่ต่อสู้แทบทุกครั้ง เพียงแต่อีกฝ่ายมีมากกว่า และเด็กหนุ่มก็มีแผล ขาของเขาเลือดออกซึ่งคาดว่าน่าจะถูกแทงด้วยของมีคม

คนพวกนี้ดูไม่เหมือนอันธพาลที่อู่หงเหวินเจอคราวนั้น บนแขนและลำคอของพวกเขามีรอยสักน่าเกลียดน่ากลัว ดูเหมือนเป็นพวกแก๊งอันธพาลมืออาชีพ

เด็กคนนั้นไม่มีทางเอาชนะได้

กู้ซีเฉียวชั่งน้ำหนักดูแล้วคิดว่าวิชาแมวสามขาที่เธอฝึกมายังไม่เชี่ยวชาญพอ ฉะนั้นเธอจึงเลือกแลกสถานะปรมาจารย์ เธอที่กำลังอารมณ์เสียก็มีคนพวกนี้มาประเคนถึงที่พอดี…งั้นก็ไม่เกรงใจล่ะ

แม้ฝีมือคนเหล่านั้นจะร้ายกาจเพียงใดแต่ก็ไม่อาจสู้ฝีมือสถานะปรมาจารย์ของกู้ซีเฉียวได้ แค่เธอออกแรงนิดเดียว แขนของพวกเขาก็หักได้แล้ว

ในการต่อสู้เธอใช้เรี่ยวแรงเพียงสามในสิบส่วน เธอขยับตัวว่องไวท่ามกลางอันธพาลเหล่านั้น เพียงออกแรงตวัดมือ ร่างของคนพวกนั้นก็ลงไปกองกับพื้น

ความรู้สึกเหมือนกับ…พาสุนัขออกมาเดินเล่น

คนเหล่านั้นรู้สึกว่าตัวเองถูกล้อมอยู่ในกระจกใส พยายามหนีเท่าไหร่กลับรู้สึกเหมือนวิ่งชนกำแพงที่มองไม่เห็น พวกเขาทำได้เพียงทำหน้าเว้าวอนขอชีวิต กู้ซีเฉียวที่ระบายอารมณ์จนพอใจแล้ว โบกมือปล่อยพวกเขาไป

“ขอบพระคุณนายหญิงที่ไว้ชีวิตพวกเรา!” กลุ่มอันธพาลล้มลุกคลุกคลานไปตามพื้น ไม่เอาแล้ว ไม่ยุ่งกับไอ้เด็กนั่นแล้ว พระเจ้า เมื่อกี้ใช่คนรึเปล่า!

เธอกวาดตามองไปที่เด็กหนุ่มที่กำลังนั่งพักอยู่ในมุม

“ขอบคุณ” ลั่วเหวินหลั่งเกาะกำแพงเพื่อพยุงร่างของตัวเองให้ยืนขึ้นพร้อมใบหน้าเย็นชา

กู้ซีเฉียวมองไปที่เด็กหนุ่ม “ไม่เป็นไร”

เมื่อได้คะแนน เธอก็กลับหลังหันเดินไป

“ฉันอยู่ห้องหัวกะทิ ชื่อลั่วเหวินหลั่ง เราอยู่โรงเรียนเดียวกัน ฉันเคยเห็นเธอที่โรงอาหาร” ลั่วเหวินหลั่งเอาป้ายชื่อที่มีตราโรงเรียนออกมาจากกระเป๋าชูให้เธอดู

กู้ซีเฉียวมองดู ลั่ว เหวิน หลั่ง ทำไมชื่อนี้ฟังดูคุ้นเหลือเกิน “แล้ว?”

“เธอมีเงินหรือเปล่า” เด็กหนุ่มมองหญิงสาวแล้วส่งป้ายชื่อให้เธอ “ฉันจะคืนให้แน่ๆ นี่เป็นของมัดจำว่าฉันคือลั่วเหวินหลั่ง นักเรียนห้องหัวกะทิ” เขากล่าวย้ำ

ชายหนุ่มมองไปที่หญิงสาว มือข้างซ้ายเผลอกำแน่น แววตามัวซัวแลดูสิ้นหวัง ใครจะให้คนแปลกหน้ายืมเงินกันเล่า

เขาส่งยิ้มขมขื่น แสงสุดท้ายในใจหายวับไป

“อ้อ” กู้ซีเฉียวมองเขาโดยที่ไม่ได้กล่าวสิ่งใด เธอนั่งยองๆ ลงที่พื้น เปิดกระเป๋าเป้แล้วหยิบเงินปึกหนึ่งออกมา นั่นคือเงินที่เธอถอนออกมาคราวก่อนเพื่อที่จะซื้อของขวัญให้คุณปู่เซียว ก่อนจะล้วงกระเป๋ากางเกงทั้งด้านซ้ายและขวา ควานหาเศษเงินทอนที่ได้จากการซื้อนมเมื่อตอนเที่ยง “นายต้องการเท่าไหร่ ทั้งตัวฉันมีอยู่เท่านี้ ถ้าไม่พอ เราก็ไปหาตู้กดเงิน”

ระบบตรวจพบว่าความต้องการเงินของชายหนุ่มอยู่ในระดับห้า แต่ถึงอย่างนั้นระบบก็ไม่ได้มอบหมายภารกิจให้เธอ กู้ซีเฉียวไม่รู้ว่าระบบมีเกณฑ์ในการมอบหมายภารกิจอย่างไร แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังให้เขายืมเงิน

ไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกของการไม่เหลือใครเท่าเธออีกแล้ว

ลั่วเหวินหลั่งเงยหน้ามองหญิงสาวพักหนึ่งก่อนจะรับเงินไป นิ้วสั่นๆ ของเขานับเงินที่ละใบ 2528.5 หยวน เขาเอามือปิดตาพลางกล่าวเสียงแหบแห้ง “แค่นี้พอแล้ว”

“โอเค งั้นก็เอาไป” กู้ซีเฉียวล้วงหาขวดยาแล้วโยนให้ชายหนุ่ม “นี่ใช้รักษาแผลที่ขา ฉันไปล่ะ”

“ฉันไปส่ง” ลั่วเหวินหลั่งลุกขึ้น เดินตามหลังไป ตรอกนี้วุ่นวายแค่ไหน เขาทราบดี

“ไม่ต้อง” กู้ซีเฉียวชำลองมองไปที่แผลที่ยังมีเลือดไหลซึม

ลั่วเหวินหลั่งกลับไม่ฟังในสิ่งที่เธอพูด เดินตามหลังหญิงสาวไปเงียบๆ เด็กหนุ่มหน้าตาดีเดินก้มหน้า ริมฝีปากบางเม้มลงเล็กน้อย ไม่ทราบว่ากำลังคิดอะไร แต่เมื่อเดินมาถึงบริเวณปากทางเขาก็หยุดยืนดูหญิงสาวเดินไปจนลับตาแล้วจึงเดินไปตามทางของตัวเอง

เช้าวันถัดมาเป็นเหมือนเช่นทุกวัน เธอตื่นนอน ออกไปวิ่ง และกลับมาดื่มซุปที่ใส่ส่วนผสมประมาณร้อยชนิดให้ป้าจางดู

เธอเดินมาโรงเรียน เซียวอวิ๋นยืนคอยอยู่ที่หน้าประตูโรงเรียน ในช่วงเวลานั้นตรงทางเดินหลักยังมีคนไม่มากเท่าไหร่

กู้ซีเฉียวมองไปที่เซียวอวิ๋น คิ้วของอีกฝ่ายขมวดเล็กน้อย ท่าทางเหม่อลอย เธอจึงหยิบแอปเปิลออกมาจากกระเป๋า กัดคำหนึ่ง “อาของเธอคนนั้นมาเยี่ยมคุณปู่อีกแล้วล่ะสิ”

“ใช่น่ะสิ ต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ” เซียวอวิ๋นไม่ได้ถามว่าทำไมเธอถึงดูออก เธอหัวเราะ “ตอนแรกคุณปู่และพี่ชายฉันเชื่อใจเขามากๆ เขาได้หุ้นส่วนไปไม่น้อย แต่ว่าดูเหมือนเขาจะดูถูกความสามารถของตระกูลเซียวของพวกเราเกินไป”

กู้ซีเฉียวสงสัย “มั่นใจขนาดนั้นแล้วจะทำหน้าบึ้งทำไม”

“ฉัน…” เซียวอวิ๋นติดจะลังเล

เช้านี้เธอมาถึงก่อนกู้ซีเฉียว ทันทีที่ก้าวเข้าประตูโรงเรียนเธอก็ได้ยินเสียงซุบซิบเรื่องคนขโมยภาพ เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเรื่องใหญ่ แต่เธอเองก็ไม่ทราบความสัมพันธ์ระหว่างกู้ซีเฉียวและกู้ซีจิ่น อยากหาทางแก้ก็แก้ไม่ได้จึงทำได้เพียงรอให้กู้ซีเฉียวมาถึงก่อน แต่เมื่อเห็นหน้าอีกฝ่าย เธอกลับไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดอย่างไร

กู้ซีเฉียวพอจะเดาความคิดของอีกฝ่ายได้จากท่าทีลังเลของเซียวอวิ๋น เธอหยีตา “ไม่มีอะไรหรอก”

ด้านหน้ามีเด็กสาวสองคนที่กำลังต่อแถวซื้ออาหารเช้า เด็กสาวหยุดเดินและหันมาคุยเพื่อนของเธอ

เธอจงใจพูดเสียงดัง น้ำเสียงฟังดูถากถาง ความหมายที่จะสื่อคือ ทำไมตัวเองต้องมาอยู่โรงเรียนเดียวกันกับคนแบบนี้ โรงเรียนควรจะไล่คนแบบนี้ออกไป เรื่องนี้แพร่ไปถึงนอกโรงเรียนแล้ว ใครต่างก็รู้ว่าโซเชียลมีเดียมีอิทธิพลเพียงใด

นักเรียนเหล่านี้ไม่มีหลักฐาน ทุกคนแค่วิจารณ์เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ปล่อยข่าว แสดงความคิดเห็น และส่งสายตาแปลกๆ กดทับลงมาราวกับภูเขาขนาดมหึมา หากเป็นเด็กคนอื่นคงไม่กล้ามาโรงเรียน

บรรยากาศในห้องคู่ขนานกลับไม่ได้รับผลกระทบใดๆ พวกเขายังอยู่ภายใต้การดูแลของกู้ซีเฉียว คะแนนของนักเรียนให้ห้องดีขึ้น พวกเขาปฏิบัติกับเธอเฉกเช่นสมบัติล้ำค่าของห้อง ไม่มีใครเชื่อเลยว่าเธอเป็นคนเช่นนั้น เมื่อเห็นว่าในเว็บไซต์ของโรงเรียนมีคนกล่าวหาเธอเสียๆ หายๆ คนในห้องก็เลือดเดือดพร้อมปะทะทุกเมื่อ

บนเขามีดิน: [เจ้าของโพสต์ เล่าอะไรอีกแล้วเนี่ย หยุดมั่วได้แล้ว กู้ของฉันไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้น เชื่อสิ แยกย้ายกลับไปกินนมนอนได้แล้ว 555]

โต๊ะข้างหลังกู้… : [ฉันเรียนห้องเดียวกับนักเรียนกู้เธอเรียนเก่งแถมไม่หยิ่งพวกเรามีคำถามอะไรก็ไปถามเธอเจ้าของโพสต์คิดว่าคนประเสริฐที่ยอมไปซื้อโกเต๊กแทนเพื่อนจะเป็นคนขโมยภาพวาดอย่างนั้นเหรอฉันจะให้คะแนนโพสต์คุณแย่ๆ เลยคอยดู!] ╭(╯^╰)╮

ฉันเป็นคนพูดน้อย: [คอมเมนต์บนช่วยใส่เครื่องหมายวรรคตอนให้ที ฟิ้ว อ่านต่อกันทีเดียว แทบสิ้นลม!]

หมี่เสวียนเย่ว์: [เห็นด้วย ฉันก็อยู่ห้องคู่ขนาน เจ้าของโพสต์ ฉันแฮ็กคอมเป็นนะขอบอก ถ้ายังไม่ลบโพสต์ ฉันจะแฮ็กคอมคุณ และเอาภาพลับของคุณมาโพสต์แทนดีไหม]

บุปผาแดง: [นี่ใกล้จะสอบเข้ามหาลัยแล้ว ทุกคนขยันเพื่อที่จะได้คะแนนดีๆ ห้องหัวกะทิของพวกเธอก็คงไม่ต่างกันจริงมั้ย แต่พวกเธอกลับคิดว่าตัวเองสูงส่ง ดูถูกคนที่ด้อยกว่า ในห้องของพวกเรามีคนหนึ่งที่คอยช่วยติวให้พวกเรา ทั้งยังสรุปเนื้อหาสำหรับอ่านสอบ และคอยเป็นห่วงเป็นใยพวกเราเสมอ…พวกเราทุกคนรักเธอมาก แต่ได้ข่าวว่าวันนี้มีคนใส่ร้ายนักเรียนกู้ของพวกเราอย่างนั้นเหรอ ดี ฉันขอประกาศไว้ตรงนี้เลยว่า อย่ามารังแกคนห้องคู่ขนาน! ถ้าทำให้พวกเราโมโห ฉันจะทำให้พวกเธอไม่ได้สอบเข้าเลยคอยดู!]

ลาฝูลาข่าซือจี: [นักเรียนกู้เดินแบกภาพวาดนั้นทุกวัน ฉันเห็นเธอนั่งวาดรูปอยู่ที่ตึกศิลปะกับตา และยังเคยเอาน้ำไปให้เธอด้วย!] [รูปภาพ] [รูปภาพ] [รูปภาพ]

โฮสต์สาวพลิกอดีตกับระบบสุดเทพ

โฮสต์สาวพลิกอดีตกับระบบสุดเทพ

Status: Ongoing
ชาติก่อนเธอเผาตัวตายเพราะถูกทรยศ ชาตินี้เธอย้อนกลับมาเพื่อเขียนอดีตของตนใหม่อีกครั้ง! นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีที่นางเอกมีระบบสุดเทพที่ทำได้ทุกอย่าง!กู้ซีเฉียว ลูกนอกสมรสไร้ค่าจากบ้านนอก ส่วนเกินในสายตาของคนในตระกูลจวบจนวาระสุดท้ายเธอก็ยังเป็นเช่นนั้น ไร้ซึ่งศักดิ์ศรีใดๆแต่ชาตินี้เธอจะเขียนอนาคตของตนขึ้นใหม่จะไม่มีเด็กสาวน่าสมเพชไร้ความสามารถคนเดิมอีกต่อไป มีเพียงหญิงสาวผู้เป็นอัจฉริยะรอบด้าน!เพราะสิ่งที่เธอนำกลับมาด้วยหลังความตายไม่ใช่เพียงพรสวรรค์ดั้งเดิมแต่เป็น ‘ระบบ’ สุดโกงที่จะช่วยแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้เพียงแลกแต้มคะแนนสะสม!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท