โฮสต์สาวพลิกอดีตกับระบบสุดเทพ – ตอนที่ 37 ห้องคู่ขนาน

โฮสต์สาวพลิกอดีตกับระบบสุดเทพ

ตอนที่ 37 ห้องคู่ขนาน

นี่เป็นการสอบจำลองครั้งสุดท้ายของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่หกโรงเรียนอีจง ในทุกปีคะแนนการสอบเข้ามหาวิทยาลัยและคะแนนการสอบจำลองครั้งสุดท้ายแทบจะไม่ต่างกัน ดังนั้นครูประจำชั้นจึงเน้นย้ำความสำคัญของการสอบครั้งนี้ ส่วนตัวนักเรียนชั้นมัธยมหกเองก็ตื่นเต้นและประหม่าไม่แพ้กัน

ในช่วงเวลาเช่นนี้ครูประจำชั้นแทบทุกห้องกำลังร่ายเรื่องกฎระเบียบการสอบ มีเพียงห้องเดียวที่บรรยากาศในห้องกลับแลดูผ่อนคลายกว่าปกติ ครูประจำชั้นลงไปนั่งรวมอยู่กับกลุ่มนักเรียนในห้องด้วยท่าทีเกียจคร้าน ในขณะที่เด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่งยืนจดสูตรอยู่บนกระดาน

“เอาล่ะ การสอบจำลองวันนี้ ขอให้ทุกคนทำตามที่เราฝึกกันมา ไม่ต้องกดดันตัวเองจนเกินไป ช่วงที่ผ่านมาพวกเธอตั้งใจเป็นอย่างดี ขอให้รักษาระดับแบบนี้ต่อไป บางทีตลอดยี่สิบวันที่ผ่านมา คะแนนอาจจะเพิ่มสักสิบคะแนนก็เป็นได้” ครั้นกู้ซีเฉียวจดสูตรบนกระดานเรียบร้อยแล้ว ครูประจำชั้นก็เยื้องย่างขึ้นไปกล่าวบนโพเดียม ในชั่วอึดใจ เขาก็หรี่ตา น้ำเสียงพลันอ่อนโยน “เจ้าอ้วนซือ อร่อยไหม”

นักเรียนชายเจ้าเนื้อที่นั่งอยู่กลางห้องเงยหน้าฉับพลัน ยืดหลังตั้งตรงอยู่ในท่าเคร่งขรึม แล้วทั้งห้องก็ระเบิดหัวเราะออกมา เพื่อนนักเรียนที่นั่งอยู่โต๊ะติดกันบอกให้เด็กหนุ่มเช็ดคราบน้ำมันที่ปากด้วยท่าทีเก้อเขิน

กู้ซีเฉียวกุมศีรษะพลางหัวเราะ บรรยากาศในห้องผ่อนคลาย ไม่กดดันเคร่งเครียดเหมือนห้องเรียนอื่นๆ

[เอ้อร์เฉียว คุณนี่สปอร์ตจริงๆ!] ระบบนั่งขัดสมาธิพร้อมยกมือกุมอกอยู่ในพื้นที่เสมือนจริง โฮสต์ผู้แสนตึ๋งหนืดกลับยอมสละคะแนนจำนวนมากเพื่อแลกเปลี่ยนกับ “พื้นที่เสมือนจริงอัจฉริยะ” เป็นเวลายี่สิบวัน ตราบใดที่นักเรียนอยู่ในพื้นที่ห้องคู่ขนาน ความจำและระบบความคิดของพวกเขาจะดีขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน…นอกจากนี้ยังมีเนื้อหาที่เธอสรุป คะแนนของนักเรียนในห้องจึงพัฒนาแบบก้าวกระโดด!

เรื่องอื่น ระบบไม่ได้สนใจ สิ่งที่ระบบสนใจและหวงแหนมีแค่คะแนนสะสมเท่านั้น!

“ช่างเถอะ หากมีคะแนนเมื่อไหร่ ฉันจะอัปเกรดให้ก็แล้วกัน” กู้ซีเฉียวหมุนปากกาในมือ

ความพิเศษของห้องคู่ขนานทำให้นักเรียนคนอื่นๆ ที่มาสอบในห้องนี้รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย ต่างก็รู้สึกว่าห้องปกคลุมด้วยมนต์ขลัง

ลำดับเลขที่นั่งสอบจำลองเหมือนกันกับลำดับที่ใช้ในการสอบครั้งก่อน ผู้สอบหนึ่งคนต่อหนึ่งโต๊ะ ลำพังห้องเรียนมัธยมมีพื้นที่ไม่พอ โรงเรียนจึงอนุญาตให้ใช้ห้องบรรยายในอาคารเรียนรวมเป็นสนามสอบ

การสอบกินเวลาสองวันครึ่ง เวลาที่เหลือเป็นการศึกษาด้วยตัวเอง

วิชาสุดท้ายคือวิชาภาษาอังกฤษ กู้ซีเฉียวส่งกระดาษข้อสอบก่อนจะหมดเวลา เธอออกไปคอยเซียวอวิ๋นอยู่ที่ทางออกหน้าอาคารเรียนรวม เซียวอวิ๋นเรียนที่ต่างประเทศตั้งแต่เล็กจนโต ภาษาอังกฤษของเธอจึงดีกว่าคนทั่วไปหลายเท่าตัว แต่ถึงอย่างนั้น ความเร็วในการทำข้อสอบของเธอก็ยังสู้กู้ซีเฉียวไม่ได้

ในขณะนั้นคนอื่นๆ ยังอยู่ในห้องสอบ ทางเดินโล่งโจ้ง คนแรกที่ออกมาไม่ใช่เซียวอวิ๋น แต่เป็นลั่วเหวินหลั่ง

เขาแบกเป้สีดำ สวมหมวกแก๊ป ปีกหมวกด้านหน้าถูกกดต่ำ ชายหนุ่มเดินก้มหน้า เห็นเพียงเรือนร่างได้รูปที่อยู่ในอาการเศร้าหมอง

กู้ซีเฉียวที่กำลังขายหุ้นในโทรศัพท์ไม่ทันสังเกตเห็นชายหนุ่ม ลั่วเหวินหลั่งเดินก้มหน้ามาจนถึงทางออก เขาเงยหน้าขึ้นตามความรู้สึกและเห็นกู้ซีเฉียวที่กำลังยืนเล่นโทรศัพท์มือถือ ฝีเท้าของชายหนุ่มพลันชะงักไป “กู้ซีเฉียว?”

เขาถอดหมวก คิ้วเรียวเลิกขึ้นเล็กน้อย ความเศร้าหมองที่อวลไอรอบตัวเมื่อครู่พลันหายไป ตอนนี้เหลือเพียงเด็กหนุ่มรูปงามผู้เปล่งประกายราวกับแสงอาทิตย์ แม้เทียบกับอู่หงเหวิน ความหล่อเหลาของเขาก็มิได้ดูยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

“หืม?” กู้ซีเฉียวใช้ช่วงเวลานี้เข้าไปเล่นหุ้นระยะสั้น กำไรในพอร์ตที่เติบโตอย่างมหาศาลทำให้เธออารมณ์ดี ครั้นได้ยินเสียงใครบางคนขานเรียกชื่อเธอ หญิงสาวจึงหันไปมอง ลั่วเหวินหลั่งก้าวยาวเข้ามาใกล้

“ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง” ลั่วเหวินหลั่งทราบดีว่าช่วงนี้กู้ซีเฉียวต้องรับศึกหนัก ถึงเขาจะช่วยพูดไปสองสามประโยคในสัมภาษณ์ แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นเพียงเสียงเล็กๆ คงช่วยอะไรได้ไม่มาก อีกอย่างทุกวันเขาสาละวนอยู่แต่กับงานพาร์ทไทม์จึงไม่รู้ว่าเรื่องดำเนินไปถึงไหนแล้ว เมื่อมีโอกาสได้เจอกู้ซีเฉียวจึงถามไถ่

“ดีสุดๆ ไป ฉันจะพานายไปเลี้ยงชานม” กู้ซีเฉียวมองตรงไปข้างหน้า แต่ยังไม่เห็นเงาของเซียวอวิ๋น จึงคิดว่าคงต้องใช้เวลาอีกสักพักจึงเดินออกไปรอข้างนอกกับลั่วเหวินหลั่ง

เดิมทีลั่วเหวินหลั่งตั้งใจจะปฏิเสธ แต่เมื่อเห็นใบหน้าของหญิงสาวกลับปฏิเสธไม่ออกเลยสักคำเดียว แม้ภายนอกกู้ซีเฉียวจะดูเย็นชา ทว่าใบหน้าแฉล้มและบุคลิกบางอย่างของเธอกลับทำให้คนไม่กล้าปฏิเสธ ชายหนุ่มทำได้เพียงยืนมองหญิงสาวยัดแก้วชานมใส่มือของเขา

เขาดื่มไปหนึ่งอึก รสชาติแปลกพิกล กินน้ำเปล่ายังอร่อยกว่า นี่ราคาตั้งสิบหยวน แพงบรม

ชายหนุ่มเผลอดูดปาก

ทั้งคู่ยืนดื่มชานมอยู่ที่ข้างประตูร้าน ลั่วเหวินหลั่งชำเลืองมองเห็นว่ามีคนสองคนจากที่ไกลๆ กำลังเดินมาทางนี้ ชายหนุ่มสวมหมวกอีกครั้ง “ฉันต้องไปทำงานแล้ว ไว้เจอกัน!”

อู่หงเหวินอุ้มลูกบาสวิ่งมาทางหญิงสาว สายตาของเขาทันเห็นเงาร่างนั้นก่อนจะหายวับไป เขาถามด้วยความรู้สึกประหลาดใจ “เมื่อกี้ลั่วเหวินหลั่งไม่ใช่เหรอ ฉันเพิ่งเคยเห็นเขาหยุดคุยกับคนอื่นเป็นครั้งแรกเลย”

“นายรู้หรือเปล่าว่าทำไมเขาถึงได้สู้ชีวิตขนาดนั้น” กู้ซีเฉียวถอนสายตากลับมา

“ทำไมเหรอ” เซียวอวิ๋นสงสัยเหมือนกัน อัจฉริยะอย่างลั่วเหวินหลั่งมีคนรวยๆ อยากลงทุนกับเขาอยู่แล้ว แต่ที่แปลกคือไม่เคยได้ยินว่ามีใครสนับสนุนด้านทุนทรัพย์ของเขาเลย

กู้ซีเฉียวถอนหายใจเล็กน้อย “สำหรับคนเก่งแต่ไร้ทรัพย์ ต้นทุนเดียวที่พวกเขามีคือเวลา”

ต่อให้สูญเสียทุกอย่างไป สิ่งที่พวกเขายังเหลืออยู่คือเวลา ชีวิตของเธอเพิ่งจะเริ่ม เธอใช้เวลามากมายเพื่อเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง

การสอบเสร็จสิ้นลงแล้ว ช่วงบ่าย โรงเรียนอนุญาตให้นักเรียนชั้นมัธยมหกได้พัก เพราะอีกยี่สิบวันหลังจากนี้จะไม่มีวันหยุดอีกแล้ว ช่วงเวลายามบ่ายที่แสนล้ำค่า เซียวอวิ๋นและกู้ซีเฉียวเลือกไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้า อู่หงเหวินไม่ขอร่วมวง เขาหิ้วลูกบาสไปหาคนเล่นด้วย

ความจริงแล้ว การมาที่นี่เป็นความต้องการของเซียวอวิ๋น เธอชี้นิ้วไปที่ชุดกระโปรงสีขาวลายดอกบนหุ่นพลางถาม “ชุดนี้ดูเป็นยังไง”

กู้ซีเฉียวมองตาม “แบบสวยดี แต่ไม่เหมาะกับเธอเท่าไหร่”

“งั้นเอาชุดนี้แหละ” เซียวอวิ๋นไม่ได้สนใจความเห็นของอีกฝ่าย แค่ได้ยินเพื่อนสาวบอกว่าสวยก็เรียกพนักงานขายมาทันที “เอาไซส์ที่เล็กที่สุดค่ะ”

กู้ซีเฉียวไม่ได้ใส่ใจ เธอกวาดตามองไปด้านนอก ฝั่งตรงข้ามมีคนยืนอออยู่ข้างๆ บันไดเลื่อน มีทั้งเสียงกรีดร้องของบรรดาผู้ใหญ่และเสียงร้องไห้ของเด็ก

[ติ๊ง! มอบหมายภารกิจประจำวัน: รีบไปช่วยเด็กผู้หญิงที่ถูกจับเป็นตัวประกันที่ดาดฟ้า! หากภารกิจสำเร็จ จะได้รับรางวัล: 10 คะแนน!]

[มอบหมายภารกิจภาคบังคับ: ทำให้อารมณ์ของคนร้ายสงบลง หยุดยั้งการระเบิดห้าง! หากภารกิจสำเร็จ ได้รับรางวัล: 299 คะแนน! หากล้มเหลวจะได้รับโทษ: ห้ามพูดสิบวัน!]

กู้ซีเฉียวมองจอโปร่งใสที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า มันคือแผนผังของห้างสรรพสินค้า ลูกศรสีแดงหันหัวไปทางด้านซ้าย

เมื่อเซียวอวิ๋นเห็นว่าอยู่ๆ เพื่อนของตัวเองก็วิ่งออกไป เธอจึงวิ่งตามโดยที่ไม่ได้สนใจเสื้อผ้า

ชายฉกรรจ์ยืนอยู่บนขอบดาดฟ้า ผมเผ้ายุ่งเหยิง ดวงตาแดงก่ำ เห็นได้ชัดว่ากำลังคลุ้มคลั่ง ดูเหมือนว่าชายฉกรรจ์กำลังโต้เถียงกับคนอื่นๆ อย่างดุเดือด เด็กผู้หญิงที่ถูกจับเป็นตัวประกันอายุไม่น่าจะเกินสามสี่ขวบ ปากของเด็กน้อยยังอมลูกกวาด เด็กน้อยกะพริบตา ท่าทางไร้เดียงสา

ด้านหน้ามีกลุ่มวัยรุ่นหลายคน หัวหน้าวัยรุ่นกลุ่มนั้นสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ใบหน้าคมคายหล่อเหลา ทันทีที่ได้ยินเสียง การเจรจากับคนร้ายก็หยุดชะงัก เขาหันหน้ามา แววตาเย็นเยียบมองปราดมาทางด้านหลัง ทันทีที่เห็นร่างของกู้ซีเฉียว เขาก็กุมหน้าผากอย่างอดไม่ได้

โฮสต์สาวพลิกอดีตกับระบบสุดเทพ

โฮสต์สาวพลิกอดีตกับระบบสุดเทพ

Status: Ongoing
ชาติก่อนเธอเผาตัวตายเพราะถูกทรยศ ชาตินี้เธอย้อนกลับมาเพื่อเขียนอดีตของตนใหม่อีกครั้ง! นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีที่นางเอกมีระบบสุดเทพที่ทำได้ทุกอย่าง!กู้ซีเฉียว ลูกนอกสมรสไร้ค่าจากบ้านนอก ส่วนเกินในสายตาของคนในตระกูลจวบจนวาระสุดท้ายเธอก็ยังเป็นเช่นนั้น ไร้ซึ่งศักดิ์ศรีใดๆแต่ชาตินี้เธอจะเขียนอนาคตของตนขึ้นใหม่จะไม่มีเด็กสาวน่าสมเพชไร้ความสามารถคนเดิมอีกต่อไป มีเพียงหญิงสาวผู้เป็นอัจฉริยะรอบด้าน!เพราะสิ่งที่เธอนำกลับมาด้วยหลังความตายไม่ใช่เพียงพรสวรรค์ดั้งเดิมแต่เป็น ‘ระบบ’ สุดโกงที่จะช่วยแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้เพียงแลกแต้มคะแนนสะสม!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท