โฮสต์สาวพลิกอดีตกับระบบสุดเทพ – ตอนที่ 39 เปลวเพลิง

โฮสต์สาวพลิกอดีตกับระบบสุดเทพ

ตอนที่ 39 เปลวเพลิง

[ติ๊ง! ภารกิจสำเร็จ ยินดีด้วย โฮสต์ได้รับ 309 คะแนน!]

[ติ๊ง! มอบหมายภารกิจเสริมความแข็งแกร่งแบบสุ่ม: บริษัทของมู่จงซึ่งเป็นบุคคลเป้าหมายล้มละลาย ช่วยกอบกู้และฟื้นฟูธุรกิจ หากภารกิจสำเร็จจะได้รับรางวัล: 500 คะแนน!]

มู่จงคือพ่อของเด็กผู้หญิงที่ถูกจับเป็นตัวประกันเมื่อครู่และตอนนี้กำลังกล่าวขอบคุณเธอไม่หยุดปาก

เมื่อได้ยินระบบกล่าวเช่นนั้น ดวงตาของกู้ซีเฉียวก็เป็นประกาย ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในหัว แต่ตอนนี้ยังไม่เหมาะจะพูดเรื่องอื่น เธอจึงขอเบอร์ติดต่อของมู่จงก่อนจะบอกให้สองพ่อลูกออกไปจากตรงนั้น

อาการป่วยของเด็กน้อยไม่อาจรอช้า มู่จงลังเลอยู่เพียงไม่นานก็จากไป ในตอนนี้เขาต้องไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด

“แม้เธอจะช่วยคนสำเร็จ แต่การทำแบบนั้นมันอันตรายเกินไป” อินเซ่าหยวนชี้นิ้วให้คนอื่นๆ จัดการสถานการณ์ตรงหน้า แต่เมื่อเห็นสีหน้าทองไม่รู้ร้อนของหญิงสาว เขาก็ได้แต่ลูบหน้าผากอย่างจนใจ “ฉันรู้ว่าเธอเก่ง แต่ว่า…”

กู้ซีเฉียวคร้านจะใส่ใจชายหนุ่ม เธอทำหูทวนลมและหันไปมองคนร้าย

หลังจากเรื่องนี้ อินเซ่าหยวนได้เรียนรู้อย่างหนึ่งคือห้ามดูถูกกู้ซีเฉียวเป็นอันขาด เด็กที่ถูกครอบครัวทอดทิ้งตั้งแต่อายุยังน้อยกลับมีทักษะประหลาดมากมาย เขาเคยสืบประวัติของเธอ ทว่าไม่พบเบาะแสใดๆ ซึ่งแน่ใจได้ว่าคนที่คอยสอนเธออยู่เบื้องหลังต้องเป็นคนที่แข็งแกร่งอย่างแน่นอน!

“ทุกคนถอยไป!” เสียงใสดังขึ้นกะทันหัน

กู้ซีเฉียวยืนอยู่ต่อหน้าคนร้าย สีหน้าตึงเครียด เธอยกมือบอกให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถอยออกไป หญิงสาวหรี่ตาลงเล็กน้อย “ระบบ เกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆ เขาถึงมีไฟไหม้ท่วมตัวแบบนั้น”

หรือว่าจะเป็นเปลวเพลิงสีน้ำเงิน

[ติ๊ง! ขอบเขตอำนาจของโฮสต์ไม่เพียงพอ!]

“บอกมาว่าไฟนี้ดับได้หรือเปล่า” กู้ซีเฉียวมองไปที่เปลวเพลิงที่กำลังลุกโชน ซีเมนต์บนพื้นเริ่มหลอมละลายทีละน้อย ในใจหวาดหวั่นเกินบรรยาย นี่มันไฟอะไรกันแน่

[ตามหลักแล้วไม่สามารถดับได้ เฉียวเหม่ยเหริน ระดับของคุณยังต่ำเกินไป…แต่อย่าเพิ่งท้อ การที่ฝึกฝนมาได้ถึงขั้นนี้ภายในช่วงเวลาเพียงไม่กี่เดือนก็นับว่าเก่งมากแล้ว!]

ยังไม่พอ ยังห่างไกล… มือทั้งสองของกู้ซีเฉียวกำแน่น

อินเซ่าหยวนลองขยับเข้าไปใกล้คนร้าย แต่เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงลิบ ทำให้เข้าไปใกล้ได้เพียงไม่นานก็ต้องถอยออกมา ส่วนกู้ซีเฉียวยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เก่า ชายหนุ่มเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ “นี่มันอะไร”

“ฉันก็ไม่รู้ รอพี่เจียงมา” กู้ซีเฉียวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ขณะที่ระบบตรวจพบเปลวไฟ มันได้แจ้งเตือนไปยังเจียงซูเสวียน

“เดี๋ยวนะ…เธอมั่นใจเหรอว่าพี่เขาจะมา” อินเซ่าหยวนขมวดคิ้ว “ตอนนี้เขากำลังยุ่ง ไม่น่าจะปลีกตัวมาได้…”

ยังไม่ทันสิ้นประโยค กู้ซีเฉียวก็หันไปมองอีกด้านหนึ่ง แสงแดดสีทองอาบลงมาบนร่างของเธอ แพขนตาที่ปรกลงมาเกิดเป็นวงเงา ริมฝีปปากสีเปลือกพีชเม้มลงเล็กน้อย งามสง่าราวต้องมนตร์ อินเซ่าหยวนชะงักนิ่งไป ก่อนจะมองตามไปทางนั้น

เงาร่างเยื้องกรายเข้ามาใกล้ โครงร่างสีครามอ่อนจางกระจ่างชัดขึ้นเรื่อยๆ มือข้างซ้ายถือเสื้อคลุมสีดำ ร่างสูงโปร่ง เครื่องหน้าคมชัดราวกับนักดาบ คิ้วและดวงตาเจือไปด้วยความเย็นชาและสูงศักดิ์

ฝีเท้าพลันหยุดนิ่ง แววตาล้ำลึกสอดส่ายไปรอบทิศ นัยน์ตาสีนิลเย็นเยือกเสียยิ่งกว่าความเย็นของน้ำแข็ง ใครก็ตามที่เห็นสายตาคู่นั้นเป็นต้องก้มศีรษะหลบตา

สายตาเคลื่อนไปหยุดอยู่ที่เปลวเพลิงแปลกประหลาด เจียงซูเสวียนมองไปที่อินเซ่าหยวน อินเซ่าหยวนเพิ่งจะได้สติ รีบส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยออกไปจากตรงนั้น

บนดาดฟ้าเหลือเพียงร่างคนที่ยังมีไฟท่วมตัวกับคนอีกสี่คน เจียงซูเสวียนเดินเข้าไปใกล้ๆ ยกมือขึ้นเล็กน้อย เปลวเพลิงไหววูบสองสามหนก่อนจะมอดไป กู้ซีเฉียวยืนอยู่ใกล้เขามากที่สุด เธอรับรู้ได้ถึงไอเย็นที่พุ่งมาปะทะร่าง เป็นความรู้สึกราวกับจิตวิญญาณของเธอกำลังถูกแช่แข็ง เท้าของหญิงสาวพลันก้าวถอยเล็กน้อย

สิ่งที่กู้ซีเฉียวไม่เห็นคือ หลังจากนั้นร่างของคนร้ายมีกลุ่มหมอกสีดำพวยพุ่งออกจากร่างกายก่อนจะจางหายไปกับอากาศ

ระบบในพื้นที่เสมือนจริงเผยสีหน้าคร่ำเคร่ง

อินเซ่าหยวนถอยห่างออกไปหลายก้าว สายตาจดจ้องไปที่ชั้นน้ำแข็งที่ห่อหุ้มร่างของคนร้ายด้วยความหวาดผวา

“พี่เจียง” รอจนอุณหภูมิเริ่มกลับมาเป็นปกติ เขาถึงค่อยๆ เดินเข้ามาหาเจียงซูเสวียน ก่อนหน้านี้เขาพยายามโทรฯ หาอีกฝ่ายหลายสายแต่โทรไม่ติด ดังนั้นเมื่อเห็นชายหนุ่มโผล่มาตอนนี้ เขาจึงได้แต่ยืนอึ้ง นี่คนอย่างคุณพี่เจียงว่างมาทำอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ

“จัดการที่เหลือต่อเองแล้วกัน” เจียงซูเสวียนมองไปที่เด็กหนุ่มด้วยใบหน้าเรียบเฉยก่อนจะหันไปหากู้ซีเฉียว “สอบเสร็จแล้วเหรอ”

เขาสูง 190 ส่วนกู้ซีเฉียวเขย่งจนสุดเท้ายังสูงแค่ 162 ทั้งคู่สูงห่างกันเกือบ 30 เซนติเมตร ทุกครั้งที่เจียงซูเสวียนคุยกับเธอ เขาจะค้อมตัวและโน้มศีรษะลงมาใกล้

หญิงสาวมองไปที่คนร้ายชั่วครู่ก่อนจะถอนหายใจแผ่วเบา “พักกลางวัน ตั้งแต่พรุ่งนี้จนถึงสอบเข้าจะไม่มีวันหยุดแล้ว ว่าแต่พี่มาถึงเร็วมากเลยนี่”

เด็กสาวเงยหน้าเล็กน้อย ขอบเส้นในตาสีขาวดำเนียนเรียบคมชัดราวกับบรรจงวาดด้วยปลายพู่กันแหลมเล็ก

เจียงซูเสวียนตอบรับสั้นๆ ก่อนจะส่งกุญแจรถให้หญิงสาว “รถจอดอยู่ข้างล่าง ลงไปรอฉันในรถ”

กู้ซีเฉียวตอบรับพลางรับกุญแจรถมาและลากเซียวอวิ๋นที่ยังยืนอึ้งให้เดินออกไป

เซียวอวิ๋นไม่ใช่พวกปากไม่มีหูรูด โดยปกติแล้วเธอมักจะขมวดคิ้วเล็กน้อย ใบหน้าเย็นชาแทบไม่เคยสื่ออารมณ์ใด ลักษณะท่าทางไม่ต่างอะไรจากหญิงสูงศักดิ์ แต่ทว่าตอนนี้เธอแอบชำเลืองมองกู้ซีเฉียวเป็นครั้งคราว อึกอักลังเลไม่ยอมพูด

กระทั่งกู้ซีเฉียวเริ่มทนไม่ไหว เธอชำเลืองมองไปที่เพื่อน “อยากจะถามอะไร”

“ฉันก็แค่สงสัย” เซียวอวิ๋นสอดมือเข้าไปกระเป๋า คิ้วยังคงขมวดมุ่น “ฉันไม่ค่อยรู้จักอินเซ่าหยวนเท่าไหร่ แต่เคยได้ยินพี่เล่าว่าเขาเป็นพวกไม่ปกติ มีดาราหญิงหลายคนตกเป็นของเล่นของเขา เบื้องหลังของตระกูลอิน…ออกจะซับซ้อน เธอระวังไว้หน่อยก็ดี”

เธอไม่ได้เอ่ยถึงเจียงซูเสวียน สาเหตุแรกคือเธอไม่รู้ว่าเจียงซูเสวียนเป็นใคร สาเหตุที่สองคือหากเทียบกับอินเซ่าหยวน เจียงซูเสวียนดูตรงไปตรงมากว่ามากและปกติแล้วกู้ซีเฉียวก็รอบคอบมากกว่าเธอ เธอเชื่อว่ากู้ซีเฉียวรู้ว่าควรทำเช่นไร

“ฉันเองก็ไม่ได้สนิทกับเขาหรอก แต่ถ้าเธอมีโอกาสก็ลองสังเกตใบหูของเขาดูสิ หูของเขามีเลือดฝาดชัดเจน รูหูกว้าง กลมมนไม่เหลี่ยมตามแบบฉบับหูกวาง คนประเภทนี้ให้ความสำคัญกับมิตรภาพเป็นที่สุด ไม่ใช่พวกมีวาระซ่อนเร้น…ฉะนั้น อย่ามองเขาในแง่ร้ายนักเลย” กู้ซีเฉียวเดินพลางอธิบายเกร็ดความรู้

เซียวอวิ้นมองมาที่หญิงสาวไม่เกริ่นกล่าว เมื่อกลับลงมาถึงชั้นสองก็จัดการซื้อชุดกระโปรงสีขาวลายดอกให้เรียบร้อย

ทันทีที่ออกมาจากประตูห้าง กู้ซีเฉียวเห็นรถบูกัตติจอดอยู่ที่ริมถนน เธอชำเลืองไปมองเซียวอวิ๋น เซียวอวิ๋นเข้าใจในทันที “โอเค คนขับรถของฉันก็มาถึงแล้วเหมือนกัน ตอนแรกวันนี้ว่าจะชวนเธอไปกินข้าวที่บ้าน แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้คงจะไม่สะดวกสินะ”

“ครั้งหน้าก็แล้วกัน” กู้ซีเฉียวส่งยิ้ม

เซียวอวิ๋นพยักหน้าก่อนจะยัดถุงที่ใส่ชุดกระโปรงสีขาวลายดอกใส่มือกู้ซีเฉียวแล้วจึงกระโดดขึ้นรถคันสีขาวที่มาจอดเทียบท่าข้างๆ

กู้ซีเฉียวมองถุงในมือ และเงยหน้ามองทิศที่รถคันสีขาวแล่นออกไป หญิงสาวพูดไม่ออก นี่ให้ฉันงั้นเหรอ

เธอยืนมีความสุขอยู่ตรงนั้นชั่วครู่ก่อนจะเดินไปเปิดรถของเจียงซูเสวียน และขึ้นไปนั่งตรงที่นั่งคนขับ คาดว่าอีกพักใหญ่เขาถึงจะกลับลงมา เธอจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาต่อสายไปหามู่จง เสียงรอสายดังไม่นานก็มีคนรับ

เมื่อรับสายของกู้ซีเฉียว มู่จงก็ประหลาดใจอย่างยิ่งยวด ทั้งคู่สนทนากันอยู่พักหนึ่ง ชายหนุ่มงุนงงไปหมด “คุณกู้ บริษัทของผมล้มละลายไปตั้งแต่เมื่อเดือนก่อน กระแสเงินสดไม่เพียงพอสำหรับอุ้มกิจการในแต่ละวัน อาการป่วยของถงถงก็รอไม่ได้ ผมเลยตั้งใจว่าจะเอาบริษัทไปจำนองกับธนาคาร”

โฮสต์สาวพลิกอดีตกับระบบสุดเทพ

โฮสต์สาวพลิกอดีตกับระบบสุดเทพ

Status: Ongoing
ชาติก่อนเธอเผาตัวตายเพราะถูกทรยศ ชาตินี้เธอย้อนกลับมาเพื่อเขียนอดีตของตนใหม่อีกครั้ง! นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีที่นางเอกมีระบบสุดเทพที่ทำได้ทุกอย่าง!กู้ซีเฉียว ลูกนอกสมรสไร้ค่าจากบ้านนอก ส่วนเกินในสายตาของคนในตระกูลจวบจนวาระสุดท้ายเธอก็ยังเป็นเช่นนั้น ไร้ซึ่งศักดิ์ศรีใดๆแต่ชาตินี้เธอจะเขียนอนาคตของตนขึ้นใหม่จะไม่มีเด็กสาวน่าสมเพชไร้ความสามารถคนเดิมอีกต่อไป มีเพียงหญิงสาวผู้เป็นอัจฉริยะรอบด้าน!เพราะสิ่งที่เธอนำกลับมาด้วยหลังความตายไม่ใช่เพียงพรสวรรค์ดั้งเดิมแต่เป็น ‘ระบบ’ สุดโกงที่จะช่วยแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้เพียงแลกแต้มคะแนนสะสม!

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท