ตอนที่ 45 กลางดึก
ภายในห้องรับแขก เหลือเพียงกู้จู่ฮุยและซูหว่านเอ๋อร์ที่ยังคงยืนนิ่งพร้อมใบหน้าซีดเซียว
“ฉันอุตส่าห์บอกหลายครั้งแล้วว่าถ้ามีเรื่องอะไรให้ถามพี่ชายฉัน แล้วดูตอนนี้ คุณพ่อผิดหวังขนาดนี้ แล้วคุณยังคิดว่าคุณพ่อจะยกบริษัทกู้ให้คุณดูแลงั้นหรือ” หลังจากเงียบอยู่นาน ซูหว่านเอ๋อร์ก็เอ่ยขึ้น
กู้จู่ฮุยทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา มองมาที่หญิงสาว นัยน์ตาสีเข้มส่อแววเย้ยหยันพลางเอ่ยเสียงเรียบ “ยังไงตอนนี้คุณพ่อก็กลับมาแล้ว ฉันมีทางออกอยู่แล้วน่า”
ให้ไปถามความเห็นคนตระกูลซูงั้นเหรอ คิดว่าเขาโง่จนมองไม่ออกหรือว่าพวกนั้นกำลังคิดอะไร!
ที่ชั้นบน เมื่อกู้ซีเฉียวกลับขึ้นไปในห้องแล้ว เธอก็หยิบใบงานออกมาทำตามปกติ ผ่านไปเพียงครู่หนึ่งจู่ๆ ก็รู้สึกว่ามีวัตถุบางอย่างมาคลอเคลียอยู่ที่ขากางเกงของเธอ เธอก้มลงไปมองก็สบตาเข้ากับดวงตาเป็นประกายสดใส
เมื่อเจ้าก้อนขนเห็นว่ากู้ซีเฉียวสังเกตเห็นมันแล้ว มันจึงทำหน้าตาน่าสงสาร นอนเกลือกกลิ้งแกล้งตายอยู่บนพื้น
เสียงครางหงิงๆ ทำให้ใจของหญิงสาวอ่อนยวบ แม้จะรู้ว่ามันแกล้งทำ แต่เธอก็ก้มลงไปอุ้มมันขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ เมื่อเห็นปุยขนสีขาวเริ่มนิ่ง เธอจึงขยุ้มหัวมัน “ตัวเล็กขนาดนี้ คนที่นี่เขาไม่ให้อาหารแกเหรอ”
เมื่อได้ยินเสียงใสแสนคุ้นเคย เจ้าสุนัขก็เห่าเสียงดัง
กู้ซีเฉียวหยุดแกล้ง เปิดกระเป๋าควานหาของอยู่พักหนึ่งก่อนจะหยิบแฮมกับนมกล่องออกมา
เจ้าสุนัขรีบกินด้วยความหิวโหย แต่เห็นได้ชัดว่ามันยังไม่อิ่ม ดวงตาเป็นประกายยังคงจ้องมองเธออย่างเฝ้ารอ
แม้กู้ซีจิ่นจะเป็นคนเก็บสุนัขจรจัดตัวนี้กลับมาเลี้ยง แต่เธอกลับไปเคยดูดำดูดีมันเลย มันเป็นเพียงสุนัขตัวสีขาวธรรมดาที่ไม่มีลักษณะเด่นใดๆ คนรับใช้ส่วนใหญ่ในบ้านจึงไม่ชอบมัน หากอารมณ์ดีก็จะเทอาหารเหลือให้มัน ส่วนอาหารสุนัขที่ซื้อมาเก็บไว้สำหรับสุนัขโลเชนของซูหว่านเอ๋อร์เท่านั้น
“แกเป็นหมาของกู้ซีจิ่น ฉันไม่ชอบแกสักนิด” กู้ซีเฉียวชูมันขึ้นกลางอากาศพลางกล่าวด้วยใบหน้าไร้อารมณ์
อุ้งเท้าของมันนิ่งค้างเพียงครู่เดียวก่อนจะพยายามกวักให้ดูน่ารัก
กู้ซีเฉียวเลิกเล่นกับเจ้าสุนัข เธอเองก็ยังไม่ได้ทานมื้อเย็น หิวจนไส้กิ่ว หญิงสาวนั่งลงบนเตียงและเข้าสู่พื้นที่เสมือนจริง เมื่ออยู่ในนี้ เธอใช้เวลาเพียงไม่นานในการสงบจิตใจ หลังจากจัดการภารกิจประจำวันเสร็จแล้วเธอก็ฝึกวิทยายุทธ์โบราณต่อทันที
“เสินรักษาสมดุลของคุนกงส่วนล่าง ลมปราณที่แท้จริงจึงเคลื่อนไหว”
ขั้นตอนที่สองของการฝึกวิทยายุทธ์โบราณคือการชักนำลมปราณ คุนกงหมายถึงตำแหน่งตันเถียน[1] เปิดช่องว่าง พลังลมปราณที่แท้จริงจึงจะเกิดขึ้น
ในพื้นที่เสมือนจริงไม่มีวัน ไม่มีคืน แม้กู้ซีเฉียวจะใช้เวลาไปแล้วกว่าสองเดือน แต่เธอก็ยังไปไม่ถึงขึ้นนี้ ราวกับว่ามีบางสิ่งบางอย่างขาดหายไป แต่กลับไม่รู้ว่ายังขาดสิ่งใด หากทำเช่นเดิมต่อไปเรื่อยๆ ก็ดูเหมือนว่าจะไม่พัฒนาไปมากกว่านี้ เธอจึงออกมาแต่โดยดี
เจ้าสุนัขนอนหมอบอยู่ข้างเตียง กู้ซีเฉียวลูบหน้าผากพลางหัวเราะแผ่วเบา “นี่ ถ้าฉันจะไปจากที่นี่ตอนนี้ แกจะไปด้วยหรือเปล่า ถ้าจะไปให้เห่าโฮ่งหนึ่งที”
“โฮ่ง~”
พูดยังไม่ทันจบประโยค เจ้าสุนัขที่ก็เห่าโฮ่งหนหนึ่งพร้อมส่ายหางดุกดิก
เจ้าสุนัขแสนรู้ มิฉะนั้นมันคงไม่พยายามเรียกร้องความสนใจจากกู้ซีเฉียว “ตกลงแล้วนะว่าออกไปต้องไม่ดื้อ อย่าคิดนะว่าฉันไม่รู้ว่าแกแอบไปฉี่ใส่เตียงแล้วโยนความผิดให้เจ้าโชเลนตัวนั้น”
แววตาสุกใสของเจ้าสุนัขมองมาที่หญิงสาว มันทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะเห่าโฮ่งออกมาอีกครั้ง
กู้ซีเฉียวอุ้มมันใส่กระเป๋าเป้ของเธอ “ห้ามส่งเสียงเด็ดขาด”
ระบบแสดงตัวในที่สุด [เฉียวเหม่ยเหริน แน่ใจหรือไม่ว่าจะใช้คะแนนสิบคะแนนเพื่อซื้อไอเทมล่องหน]
“ซื้อเลย”
[ติ๊ง! ซื้อไอเทมล่องหนสำเร็จ สามารถล่องหนได้เป็นเวลาครึ่งชั่วโมง]
แทบจะในทันที ร่างของกู้ซีเฉียวค่อยๆ เลือนรางจนแปลงสภาพเป็นโปร่งใส ไอเทมล่องหนอาจฟังดูยิ่งใหญ่ แต่ความจริงแล้วเป็นการแปลงสภาพให้กลายเป็นลำแสง ถึงจะนับว่าเป็นการ ‘ล่องหน’
กู้ซีเฉียวผลักหน้าต่างและกระโดดลงไป ด้วยทักษะวิทยายุทธ์โบราณของเธอตอนนี้ การกระโดดจากชั้นสองไม่ได้นับว่ายากเย็น ฝีเท้าจรดลงบนพื้นแผ่วเบา
ขณะนั้นใกล้จะสี่ทุ่ม คนรับใช้ในคฤหาสน์กู้ยังคงทำงานอยู่ แต่ไม่มีใครเห็นเธอ เดิมทีกู้ซีเฉียวตั้งใจจะตรงออกไปเลย แต่เมื่อคิดดูอีกที เธอปีนขึ้นไปที่ระเบียงห้องของกู้ซีจิ่นเพื่อดูคนในห้อง
สีหน้าของกู้ซีจิ่นย่ำแย่กว่าซูหว่านเอ๋อร์หลายเท่า เธอนั่งอยู่ที่เตียง ส่วนซูหว่านเอ๋อร์กำลังป้อนข้าวเธอ
“แม่คะ…” กู้ซีจิ่นไม่ยอมกิน เธอมองหน้าผู้เป็นมารดาแล้วร้องไห้ นี่เพิ่งผ่านไปเพียงไม่กี่วัน กู้ซีจิ่นที่เคยงดงามเมื่อไม่กี่วันก่อนกลับดูแหลกสลายไร้เรี่ยวแรง
ซูหว่านเอ๋อร์ปวดใจเกินบรรยาย เธอรีบโอบกอดบุตรสาว เธอเกลียดกู้ซีเฉียวเข้ากระดูกดำ “อาจิ่น แม่รู้ว่าลูกกำลังลำบาก แม่จะหาทางให้ลูกกลับมามีชีวิตสดใสอีกครั้งให้ได้ อีกไม่กี่วันคุณปู่จะส่งพวกลูกไปอยู่ที่อเมริกา ถึงเวลานั้นแม่จะสั่งให้คนเก็บมัน ที่นั่นออกจะวุ่นวาย ฉะนั้นเรามีโอกาสลงมือ”
การจะทำให้คนๆ หนึ่งสูญหายที่ต่างประเทศเป็นเรื่องง่าย จากที่เห็นท่าทีของคุณปู่กู้ ต่อให้กู้ซีเฉียวหายไปสักคน เขาคงไม่สนใจอะไร ฉะนั้นหากเธอตายไปจะมีใครสนใจอย่างนั้นหรือ
กู้ซีจิ่นยังร้องไห้ไม่หยุด ส่วนซูหว่านเอ๋อร์ก็ยังคงปลอบ พร้อมยืนกรานว่าจะลากตัวกู้ซีเฉียวมาชดใช้ให้ได้
ฟังสองแม่ลูกคุยกันเพียงไม่กี่นาที กู้ซีเฉียวก็ไม่คิดจะฟังต่อ เธอมองซูหว่านเอ๋อร์ที่กำลังก้มหน้าปลอบกู้ซีจิ่น หัวเราะแผ่วเบาก่อนจะหันหลังกระโดดลงไป
แม้สิ่งที่กู้ซีจิ่นทำจะชัดเจนปานนั้น แต่ซูหว่านเอ๋อร์ก็ยังเชื่อลูกสาวตัวเอง นี่คงเป็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไขระหว่างแม่ลูกสินะ สาเหตุที่ซูหว่านเอ๋อร์ไม่ชอบเธอเป็นเพราะกู้ซีจิ่นล้วนๆ
กู้ซีเฉียวยกมุมปากเล็กน้อย คราวนี้เธอไม่รู้สึกอาลัยอาวรณ์บ้านหลังนี้อีกแล้ว เธอหยิบเจ้าสุนัขออกมาจากกระเป๋าเป้ ชูมันขึ้นตรงหน้า “แกชื่ออะไร ไม่บอกเหรอ งั้นฉันตั้งให้ใหม่…อืม งั้นชื่อ ฮาฮา ก็แล้วกัน”
เธอพูดพลางหยอกเจ้าสุนัขไปด้วย “ในเมื่อไม่มีใครต้องการแก และก็ไม่มีใครต้องการฉัน ก็แสดงว่าชะตาคงให้พวกเราอยู่ด้วยกัน”
หากครั้งหน้าเธอทะเลาะกับกู้ซีจิ่นอีก กู้ซีจิ่นจะมีซูหว่านเอ๋อร์คอยปกป้อง ส่วนเธอก็มีเจ้าสุนัขตัวนี้คอยปกป้อง เพียงแต่กู้ซีจิ่นเป็นคนเก็บเจ้าสุนัขตัวนี้กลับมาแล้วมันจะกล้ากัดกู้ซีจิ่นหรือเปล่า
กู้ซีเฉียวลูบคางมองฮาฮาพลางคิด
ตอนกลางคืน ลมพัดเย็นเยือก ชุดที่เธอสวมมาเมื่อเช้าเป็นชุดกระโปรงที่เซียวอวิ๋นซื้อให้ ดูสวยทว่าไม่ทนความหนาว กู้ซีเฉียวลูบแขนที่ขนลุกเกรียวของตัวเอง ช่างเป็นเสื้อผ้าที่ไร้ประโยชน์จริง
ทางที่เธอเดินผ่านค่อนข้างเปลี่ยว บางเส้นไม่มีไฟส่องสว่าง แสงสลัวดูลึกลับน่าหวั่นใจ ทว่าหญิงสาวกลับไร้วี่แววของความกลัว
ด้านหลังมีแสงไฟสาดตรงมา กู้ซีเฉียวรีบเอี้ยวตัวหลบไปด้านข้าง เสียงเบรกดังสนั่นทำลายความเงียบยามค่ำคืนไปสิ้น รถยนต์สีดำคันงามจอดนิ่งอยู่ตรงหน้าเธอ กระจกฝั่งคนขับลดต่ำ เผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลา
อินเซ่าหยวนแตะหน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองกู้ซีเฉียว เขาหันหน้าจอมือถือไปทางหญิงสาว “ดูเวลาสิ นี่มันตีหนึ่งแล้ว คุณหนูรองตระกูลกู้มาทำอะไรอยู่แถวนี้”
กู้ซีเฉียวเงยหน้า ดวงตาสีเข้มสดใส ท่าทางของเธอดูสบายๆ มุมริมฝีปากสีจางยกขึ้นเล็กน้อย “เดินเล่น”
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง รถยนต์ก็แล่นมาจอดที่วิลล่า ด้านในวิลล่าเปิดไฟสว่างโร่ ประตูยังคงเปิดกว้าง เพราะอินเซ่าหยวนแจ้งเจียงซูเสวียนไว้ก่อนแล้ว
กู้ซีเฉียวเดินเข้าไปด้านใน ในขณะนั้นเจียงซูเสวียนกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โซฟา ใบหน้าคมคายเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรง เขาสวมชุดอยู่บ้านตัวหลวมโพรก ดูสบายๆ และดุดันน้อยกว่าตอนกลางวัน
[1] ตำแหน่งตันเถียน ในลัทธิเต๋าได้กำหนดตำแหน่งตันเถียนในร่างกายไว้ 3 แห่ง ได้แก่ ตันเถียนบนซึ่งอยู่บริเวณหว่างคิ้ว ตันเถียนกลางอยู่บริเวณใต้หัวใจ และตันเถียนล่างอยู่บริเวณใต้สะดือ