โฮสต์สาวพลิกอดีตกับระบบสุดเทพ – ตอนที่ 72 เทคโนโลยีที่เจ๋งที่สุดในประวัติศาสตร์

โฮสต์สาวพลิกอดีตกับระบบสุดเทพ

ตอนที่ 72 เทคโนโลยีที่เจ๋งที่สุดในประวัติศาสตร์

“ถ้าเป็นพนักงานบริษัทเราจริงก็ไม่แย่นะ” พนักงานชายใส่แว่นของบริษัทกล่าวขึ้น “ผู้หญิงสวยขนาดนี้ หายากอยู่นะ”

“เด็กขนาดนี้ก็ได้เข้ามาแล้ว หรือว่าผู้หญิงคนนั้นกับกรรมการมู่…” พนักงานหญิงที่กำลังเคาะแป้นพิมพ์อยู่เงยหน้าขึ้น พลางส่งสายตามองเพื่อนร่วมงานแนวจะสื่อว่า ‘พวกเธอก็รู้ๆ กันอยู่‘ ให้

“บ้าน่า เมื่อกี้เธอไม่เห็นท่าทีของกรรมการมู่ที่ดูเกรงอกเกรงใจผู้หญิงคนนั้นเหรอ ถ้าให้ฉันเดานะ เธอคนนั้นอาจจะเป็นบุคคลระดับสูงก็ได้นะ ไม่ใช่ว่ามีข่าวลือว่าบริษัทของเรามีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลอินหรอกเหรอ ไม่แน่นะว่าผู้หญิงคนนั้นอาจจะมาจากตระกูลอินก็ได้” พนักงานอีกคนเอ่ยปากคาดเดา

“บริษัทเราเนี่ยนะจะเกี่ยวข้องกับตระกูลอิน ฝันไปเถอะ” ผู้หญิงคนนั้นทำท่าดูถูก

ในสายตาของพวกเขา ตระกูลอินเป็นสิ่งที่ห่างไกลเกินเอื้อม ตระกูลนี้เป็นดั่งจักรพรรดิของเมืองเอ็น เคยมีคนแอบดูบ้านของตระกูลอินในระยะไกล แต่ยังไม่ทันจะได้ถ่ายภาพใดๆ ก็ถูกเจ้าหน้าพิเศษไล่ออกไปเสียก่อน

ตระกูลผู้ยิ่งใหญ่ที่เหล่าตำรวจคุ้มกันอยู่ทุกวันทุกคืนจะมาเกี่ยวข้องกับบริษัทเล็กๆ เช่นนี้ได้อย่างไร เลอะเทอะกันไปใหญ่แล้ว

“จะบอกว่าเลอะเทอะได้ยังไง! พวกเธอรู้ไหมว่าวันที่ฉลองเปิดกิจการ ตระกูลอินไม่เพียงแต่ส่งกระเช้าดอกไม้มาร่วมแสดงความยินดี แม้แต่คุณชายน้อยแห่งตระกูลอินก็มาด้วยตัวเอง ไม่งั้นเธอคิดว่าบริษัทเล็กๆ ของพวกเราจะได้รับการช่วยเหลือจากหัวหน้ากรมการค้าขนาดนี้เหรอ” พนักงานหญิงอีกคนเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้

“คุณชายอิน คุณชายคนเล็กของตระกูลอินคนนั้นน่ะหรือ” จุดสนใจของสาวๆ เริ่มเปลี่ยน “ได้ยินมาว่าเขาเปลี่ยนผู้หญิงไวเหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า หลายวันก่อนยังมีข่าวลือกับนางเอกคนสวยคนนั้น แต่น่าเสียดายที่หนังสือพิมพ์ไม่กล้าลงรูปเขา”

“แม้แต่หาในเน็ตก็เจอแค่ ‘งดแสดงผลเพราะละเมิดกฎหมาย’ เซ็งเป็ด”

“โห พวกเธอถึงขนาดเอาไปเสิร์ชหาเลยเหรอ จะว่าไปก็ใช่อยู่นะ คนแบบเขาต่างจากพวกเราลิบลับ…”

“เวลาทำงานยังว่างพอจะมาพูดคุยเรื่องไร้สาระอีกเหรอ อยากจะโดนหักเงินโบนัสกันใช่ไหม” หวังปัวได้ยินเข้าก็ละมือจากงานที่ทำอยู่พลางเดินตรงมาที่ออฟฟิศเพื่อตักเตือนพนักงานเหล่านี้

พนักงานเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นลูกน้องของหวังปัว พวกเธอมีความสามารถสูงและหวั่นเกรงหวังปัว พอได้ยินเขาพูดดังนั้นก็วงแตกรีบหยุดปากทันที

ในออฟฟิศ กู้ซีเฉียวกำลังนั่งอ่านสรุปผลงานบริษัท เธอพลิกเอกสารไปมาอย่างรวดเร็ว อ่านจบในไม่กี่อึดใจ จากนั้นก็หยิบเอาแผนธุรกิจล่าสุดขึ้นมาพลิกดูอยู่พักหนึ่ง

หลังจากที่พลิกอ่านจนจบเธอก็ครุ่นคิดอีกครู่ ชี้จุดบกพร่องต่างๆ ให้มู่จงฟัง ก่อนจะแก้ข้อผิดพลาดที่ค่อนข้างชัดเจนสองสามข้อ

มู่จงจดบันทึกประเด็นสำคัญ ในตอนแรกที่เห็นความเร็วตอนพลิกหน้ากระดาษเขาก็คิดว่ากู้ซีเฉียวคงจะแค่เปิดอ่านผ่านๆ แต่ที่ไหนได้เธอตั้งใจและทำความเข้าใจในทุกๆ หน้า แถมยังสามารถออกไอเดียเกี่ยวกับแผนการใหม่ได้ด้วย โดยแผนการใหม่นี้พวกเขานั่งคิดกันมาสองวัน คิดจนหัวแทบแตกก็คิดไม่ออก แต่เธอมองแค่แวบเดียวก็คิดได้แล้วงั้นหรือ

มู่จงมองกู้ซีเฉียวอย่างตกตะลึง ปีศาจตนนี้มาจากที่ไหนกันแน่นะ

เขาคิดไม่ถึงแน่นอนว่าเธอจะเป็นผู้มีพลังจิตแกร่งกล้าเพียงกวาดตามองก็อ่านหนังสือได้นับสิบบรรทัด

ทันทีที่หวังปัวเข้ามาในห้องก็รีบถามกู้ซีเฉียวว่าเธอได้นำเอาซอฟต์แวร์ที่จะให้เขาศึกษามาด้วยหรือไม่ เธอพยักหน้ารับ “นี่คือซอฟต์แวร์เทคโนโลยีขั้นสูงที่ฉันให้หลานเฉิน คุณลองก๊อปปี้แล้วไปศึกษาดู คุณอามู่ช่วยไปติดต่อผู้จัดการของหลานเฉินให้ฉันหน่อยนะคะ”

[เฉียวเหม่ยเหริน พูดตามจริงนะ ถ้ารอพึ่งวิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีบนโลกของพวกเธอ ฉันเกรงว่าต่อให้ผ่านไปยี่สิบปีก็อาจจะคิดค้นซอฟต์แวร์ทั้งสามอันนี้ออกมาไม่ได้ การใช้สามร้อยคะแนนมาแลกกับซอฟต์แวร์สามอันนี้ในตอนนี้ฉันว่าคุ้มสุดๆ ไปเลยล่ะ] ระบบที่อยู่ในพื้นที่เสมือนจริงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเป็นกังวล สามร้อยคะแนนแลกกับซอฟต์แวร์สามระบบฟังดูอาจจะแพงมาก แต่มันสามารถทำให้บริษัทใหม่ของเธอได้รับประโยชน์สูงสุดได้ ดังนั้นเพื่ออนาคตที่ดีของกู้ซีเฉียว ระบบถึงต้องอดทนไว้ …

ซอฟต์แวร์ที่กู้ซีเฉียวหยิบออกมาขั้นสูงแค่ไหนมู่จงไม่รู้ แต่พอเขาเห็นราคาเปิดประมูลก็พอจะรู้ได้ว่ามูลค่าของซอฟต์แวร์นี้ไม่เบาแน่ๆ ดังนั้นเมื่อได้ยินว่าเธอจะยกซอฟต์แวร์นี้ให้กับบริษัทหลานเฉินโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เขาก็ค่อนข้างปวดใจ อยู่ๆ ก็เหมือนโปรยเงินเฉียดสิบล้านออกไปจากมือเสียอย่างนั้น

ในสมองของเขานึกภาพในวันที่เปิดบริษัทวันนั้น อินเซ่าหยวนเป็นคนนำกระเช้ามาร่วมแสดงความยินดีด้วยตัวเขาเอง เพื่อสานสัมพันธ์เช่นนี้ หากต้องแลกด้วยซอฟต์แวร์สองสามอันก็คงไม่เป็นไรใช่ไหม

แต่ไม่รู้ทำไมยังรู้สึกว่าบริษัทขาดทุนอยู่เลย!

มู่จงยังคงลงเลใจ แต่ก็ให้ผู้ช่วยของเขาไปติดต่อผู้บริหารระดับสูงของหลานเฉิน

ส่วนหวังปัวก็นำเอาซอฟต์แวร์ที่กู้ซีเฉียวให้เขาไว้เมื่อครู่มาทำการคัดลอก เขาเพิ่งเปิดคอมพิวเตอร์ อักษรหนึ่งบรรทัดก็เด้งขึ้นมาในกล่องโต้ตอบบนหน้าเดสก์ท็อป

[เธอเป็นคนสร้างซอฟต์แวร์นี้เองเหรอ จาก:X]

หวังปัวตกใจจนขยี้ตาตัวเองหลายครั้ง คนที่ส่งข้อความนี้มาเป็นแฮกเกอร์เลื่องชื่อในวงการ ในวงการนี้พวกเทพๆ จะทำตัวลึกลับเป็นเทพมังกรเห็นหัวไม่เห็นหาง เมื่อก่อนเขาทำได้เพียงแหงนหน้ามองภูเขาลูกใหญ่เท่านั้น แต่ใครจะคาดคิดว่าขณะนี้เทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่จะพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงเช่นนี้ หวังปัวรู้สึกราวกับตัวเองกำลังฝันไปและพิมพ์ตอบก๊อกแก๊กๆ ด้วยสติเลื่อนลอย

[คุณคือเทพเอ็กซ์ตัวจริงเหรอเนี่ย ผมศรัทธาในตัวคุณมานานมากแล้ว]

อีกด้านหนึ่งของมหาสมุทรแอตแลนติก เด็กหนุ่มรูปหล่อผมดำดวงตาดำขลับกำลังมองดูข้อความที่ตอบกลับมาทีละบรรทัดและซอฟต์แวร์ใหม่อีกสองสามตัว แววตาก็พลันเป็นประกายลุกโชน

ผ่านไปสักพัก เขาก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้น ดวงตาแดงก่ำ สุดท้ายแล้วความพยายามที่จะแฮกซอฟต์แวร์อันใหม่นี้ของเขาก็ไม่เป็นผล

หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงไม่เชื่อว่าจะมีซอฟต์แวร์ไหนที่คนอย่างเขาจะแคร็กไม่ได้ แต่มาวันนี้ความจริงก็ปรากฎต่อหน้าเขาแล้ว นั่นทำให้เขาทั้งตื่นเต้นและประหลาดใจ เห็นทีคงถึงเวลาแล้วที่เขาจะกลับไปที่เมืองเอ็นอีกครั้ง

แวดวงไฮโซในเมืองเอ็นต่างก็รู้ดีว่าหลานเฉินเป็นของใคร แม้จะมีคนพูดว่าทหารและการเมืองไม่ควรข้องเกี่ยวกับธุรกิจ แต่เมื่ออินเซ่าหยวนจะเปิดบริษัทเอ็นเตอร์เมนต์ก็ไม่มีใครกล้าทักท้วงอะไร แม้กระทั่งคุณปู่แห่งตระกูลอินยังไม่ทักท้วงแล้วจะมีใครกล้าห้ามปรามเขาได้

แต่ไรมาอินเซ่าหยวนไม่ได้ใส่ใจบริหารบริษัทนี้เท่าไหร่นัก เดิมทีเขาก็ไม่ได้มีพรสวรรค์ที่จะบริหารธุรกิจเป็นทุนเดิม อีกทั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเขาอยู่แต่ในเมืองหลวงตี้ตูเลยไม่ค่อยได้ใส่ใจกิจการของหลานเฉินสักเท่าไหร่

ยังดีที่เหล่าคณะผู้บริหารของหลานเฉินสามารถควบคุมสถานการณ์โดยรวมได้ อินเซ่าหยวนคนนี้ถึงแม้จะโง่แต่มีเงินเยอะ คนอื่นๆ ต่างก็ให้เกียรติเขามิเช่นนั้นป่านนี้บริษัทลุ่มๆ ดอนๆ เช่นนี้มีหรือจะยังอยู่ต่อได้

ทันทีที่ผู้บริหารระดับสูงมีโอกาสพบตัวอินเซ่าหยวนก็รีบพาตัวเขามาที่ห้องประชุมใหญ่ทันที อินเซ่าหยวนพอจะรู้ว่าตัวเองไม่ควรทำตัวเช่นนี้จึงทำทีเคร่งขรึมยอมรับและนั่งฟังนิ่งๆ ในห้องประชุม เหล่าบรรดาทีมผู้บริหารเห็นเขามีท่าทีเช่นนั้นก็โล่งใจไปเปราะหนึ่ง

ไม่ใช่ว่าพวกเขาบ้าดีเดือดหรอกนะ หากคุณชายท่านนี้ไม่อยากมาประชุมจริงๆ ไม่ว่าใครก็คงบังคับเขาไม่ได้

ที่พวกเขาเชิญอินเซ่าหยวนมาร่วมประชุมในวันนี้ก็เพราะ ‘บริษัทจิ่วเทียนเน็ตเวิร์ค’ ที่กำลังเป็นที่พูดถึงอยู่ทั้งเมืองในขณะนี้ บริษัทที่เพิ่งเปิดใหม่นี้กำลังผลักดันซอฟต์แวร์ตัวใหม่สองสามตัวเข้ามาในตลาดประมูล คนในตลาดประมูลต่างประเมินมูลค่ากันว่าซอฟต์แวร์ตัวนี้สามารถประมูลขายได้สูงสุดถึงสี่ล้าน

เมื่อข่าวนี้แพร่ออกไปก็ทำเอาคนในวงการแตกตื่น แถมมูลค่าบริษัทจิ่วเทียนก็สูงขึ้นจนทำลายสถิติใหม่ด้วย

แต่สิ่งที่บริษัทหลานเฉินกังวลก็คือคู่แข่งของบริษัทประมูลซอฟต์แวร์ไปได้ตัวหนึ่ง ตอนนี้พวกเขายังปิดปากเงียบ เขายังไม่รู้ว่าเป็นซอฟต์แวร์อะไร เพียงแต่รู้ว่าในตอนนี้พื้นที่สื่อโฆษณาของพวกเขามีมากขึ้นกว่าเดิมมากจนแทบจะกลบหลานเฉินไปแล้วเลยทำให้บรรดาผู้บริหารของหลานเฉินก้นร้อนนั่งไม่ติด

หลังจากที่ทุกคนได้หารือกัน พวกเขาก็คิดว่าอินเซ่าหยวนน่าจะพอรู้จักกับคนในจิ่วเทียนอยู่บ้าง เลยอยากจะให้อินเซ่าหยวนไปช่วยถามว่าจิ่วเทียนจะยินดีขายซอฟต์แวร์อีกตัวให้หลานเฉินหรือไม่

เมื่อรู้ว่าพวกเขาตามหาตนเพราะเรื่องนี้ อินเซ่าหยวนก็ไม่ค่อยอยากเชื่อสักเท่าใดนัก ถึงกับคิดว่าผู้บริหารระดับสูงคนนี้กำลังพูดเล่นกับตน “ความหมายของพวกคุณก็คือบริษัทจิ่วเทียนเน็ตเวิร์คนั่นเก่งกาจขนาดนั้นเลยจริงๆ เหรอ ดีกว่ากล้องไมโครสำหรับการทหารที่ผมซื้อมาตั้งแพงจากประเทศเอ็มไหม”

“ใช่เลยครับ” ผู้บริหารตอบด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “แต่คนที่ชื่อมู่จงจากจิ่วเทียนค่อนข้างเล่นตัว ผมพยายามติดต่อเขาหลายครั้ง แต่เขาก็ยังไม่ยอมตกลงขาย พวกเราเลยคิดถึงคุณขึ้นมา พวกเราจะแพ้คู่แข่งแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด”

อินเซ่าหยวนพิงพนักเก้าอี้ หรี่ตาพลางไถโทรศัพท์เล่นไปมา เห็นได้ชัดว่าไม่สนใจฟังคำพูดของผู้บริหารเลย

คนอย่างเขาย่อมไม่มีทางรู้ว่าเทคโนโลยีไมโครซอฟต์นั้นมีความสำคัญขนาดไหน

เหล่าผู้บริหารเห็นเขาเป็นดังนี้ก็ร้อนรนมาก ยังดีที่มีเสียงโทรศัพท์ดังแทรกขึ้นมาก่อน ทันทีที่ผู้บริหารเห็นชื่อปลายสายก็มีท่าทีดีใจและรีบรับสายนั้นทันที

โฮสต์สาวพลิกอดีตกับระบบสุดเทพ

โฮสต์สาวพลิกอดีตกับระบบสุดเทพ

Status: Ongoing
ชาติก่อนเธอเผาตัวตายเพราะถูกทรยศ ชาตินี้เธอย้อนกลับมาเพื่อเขียนอดีตของตนใหม่อีกครั้ง! นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีที่นางเอกมีระบบสุดเทพที่ทำได้ทุกอย่าง!กู้ซีเฉียว ลูกนอกสมรสไร้ค่าจากบ้านนอก ส่วนเกินในสายตาของคนในตระกูลจวบจนวาระสุดท้ายเธอก็ยังเป็นเช่นนั้น ไร้ซึ่งศักดิ์ศรีใดๆแต่ชาตินี้เธอจะเขียนอนาคตของตนขึ้นใหม่จะไม่มีเด็กสาวน่าสมเพชไร้ความสามารถคนเดิมอีกต่อไป มีเพียงหญิงสาวผู้เป็นอัจฉริยะรอบด้าน!เพราะสิ่งที่เธอนำกลับมาด้วยหลังความตายไม่ใช่เพียงพรสวรรค์ดั้งเดิมแต่เป็น ‘ระบบ’ สุดโกงที่จะช่วยแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้เพียงแลกแต้มคะแนนสะสม!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท