ตอนที่ 73 งานเลี้ยงก่อนแยกย้าย
คนปลายสายที่โทรเข้ามาคือคนที่บรรดาผู้บริหารหลานเฉินอยากเจอแต่ไม่เคยได้เจอ หลังจากที่วางสาย ผู้บริหารคนนั้นก็มองมาที่อินเซ่าหยวนด้วยสายตาเคารพเทิดทูน “คุณชายอิน ที่แท้คุณก็ได้ซอฟต์แวร์ของจิ่วเทียนมาไว้ในมือแต่แรกแล้วนี่เอง เมื่อครู่กรรมการมู่โทรมาติดต่อว่าจะมอบซอฟต์แวร์กับอุปกรณ์ต่างๆ ให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย”
อินเซ่าหยวนผู้ได้รับการเคารพเทิดทูนงุนงงเล็กน้อย “…”
ขณะนี้เขาตระหนักรู้ได้แล้วว่าที่ผู้บริหารพูดไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เขาเก็บท่าทีไม่ใส่ใจ หางตาเฉียงขึ้นเล็กน้อย “งั้นที่พวกคุณบอกว่าซอฟต์แวร์ของพวกเขาสุดยอด ไม่ใช่ว่าล้อผมเล่นน่ะสิ”
“ในตลาดตีมูลค่าไว้ประมาณนี้จริงๆ ครับ เรื่องนี้คนในวงการต่างก็รู้ๆ กัน” ผู้บริหารระดับสูงยิ้มจนเอ๋อไปแล้ว ซอฟต์แวร์ของบริษัทจิ่วเทียนเน็ตเวิร์คเชียวนะ ตั้งสามตัวแน่ะ ไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกดีใจที่มีในตอนนี้ได้อย่างไร “คุณชายเซ่าอย่าเพิ่งไปนะครับ เดี๋ยวซอฟต์แวร์ก็จะมาส่งแล้ว ถึงตอนนั้นพวกเราจะให้ทีมผู้เชี่ยวชาญสาธิตให้คุณดู”
อินเซ่าหยวนหยิบมือถือขึ้นมา รอคอยอย่างอดทนเป็นครั้งแรก
ทั้งสองบริษัทอยู่ในศูนย์กลางธุรกิจเดียวกัน ไม่ห่างไกลกันมาก ดังนั้นไม่นานซอฟต์แวร์ก็มาส่งถึงบริษัท ผู้เชี่ยวชาญไอทีของบริษัทได้ถูกเรียกตัวมาช่วยกันดู แม้แต่อินเซ่าหยวนก็แวบไปดูอยู่ครู่หนึ่ง
เขาไม่รู้เรื่องพวกโค้ดระบบต่างๆ แต่เมื่อช่างเทคนิคได้มาติดตั้งจนเรียบร้อย ทันใดนั้นภาพโฆษณาแบนๆ ก็ปรากฏขึ้นมาเป็นรูปทรงสามมิติหลากสี ช่างเทคนิคถึงกับอุทานออกมาด้วยความดีใจ “ผมยังไม่ได้ทำความเข้าใจซอฟต์แวร์นี้ทั้งหมดจึงยังแสดงผลได้แค่นี้ ด้านในซอฟต์แวร์นี้มหัศจรรย์มาก ขอเวลาให้ผมศึกษาอีกสักสองสามวันแล้วผมจะสร้างภาพโฆษณาที่เจ๋งที่สุดในโลกให้ทุกคนได้ดูเองครับ!”
อินเซ่าหยวนไม่ค่อยเข้าใจของพวกนี้เท่าใดนัก แต่เมื่อเห็นความตื่นเต้นยากจะควบคุมของช่างเทคนิคเหล่านี้ เขาก็ซ่อนความไม่อยากเชื่อไว้ในใจ บริษัทจิ่วเทียนส่งซอฟต์แวร์มาให้ ปัญหาแก้ไขได้เรียบร้อยแล้ว บรรดาผู้บริหารไม่รั้งตัวเขาไว้อีกต่อไป อินเซ่าหยวนถึงเดินกลับออกมาจากตึกหลานเฉินอย่างงงๆ
จริงๆ แล้ว ที่เขาคบค้าสมาคมกับกู้ซีเฉียวไม่ใช่เพื่อหวังผลอะไร หนึ่งเพราะสาวน้อยคนนี้หน้าตาสะสวย นิสัยเข้ากับเขาได้ สองเพราะเจียงซูเสวียนดูแลเธอดีเหลือเกิน เขาจึงตามน้ำรับเธอคนนี้เป็นน้องสาวของตัวเอง
ในสายตาของคนอื่นๆ คงคิดว่ากู้ซีเฉียวเอาเปรียบเขา แต่ไม่แน่ว่าคนที่เอาเปรียบจริงๆ อาจจะเป็นเขาก็ได้
อินเซ่าหยวนปฏิเสธนัดสาวงามคนหนึ่งอย่างอารมณ์ดี โทรศัพท์หากู้ซีเฉียวเพื่อนัดเธอออกมากินข้าว
ตอนที่กู้ซีเฉียวรับสายเธออยู่ที่ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ พอคุยธุระกับมู่จงเสร็จเธอก็มาที่นี่ เมื่อได้ยินอินเซ่าหยวนเอ่ยปากเชิญ เธอก็กุมขมับอย่างช่วยไม่ได้ “วันนี้ดูท่าจะไม่ได้ ฉันมีธุระกับเซียวอวิ๋น ไว้คราวหน้านะ เดี๋ยวฉันเลี้ยงนายเอง”
เธอเพิ่งเคยมาร้านอินเตอร์เน็ตเป็นครั้งแรกในสองชาติภพ กู้ซีเฉียวรู้สึกชอบมาก
อันที่จริงเธออยากจะตรงกลับบ้านเลยทันที แต่อู่หงเหวินโทรเรียกเธอให้มาหาเขาที่ร้านอินเตอร์เน็ต ที่ทำให้เธอไม่เข้าใจก็คือคนอย่างเซียวอวิ๋นก็มาในที่แบบนี้ด้วย
เธอแสดงบัตรประชาชนด้วยความรู้สึกสับสน กู้ซีเฉียวจ่ายเงินค่าเข้า สอดส่ายสายตามองหาหนึ่งรอบ ไม่นานก็มองเห็นอู่หงเหวินและเซียวอวิ๋น พวกเขาไม่ได้เหมาห้องไว้เพียงมานั่งตรงมุมหนึ่งในโถงใหญ่แถมใส่หูฟังไว้จนเธอเดินเข้าไปใกล้ก็ยังไม่รู้ตัว
เมื่อพวกเขาเห็นกู้ซีเฉียวมา อู่หงเหวินก็ลุกขึ้นให้เธอนั่งแทน “เธอคงจะไม่รำคาญเสียงดังหรอกเนอะ ฉันคิดว่ามาร้านอินเตอร์เน็ตทั้งที ต้องมานั่งที่โถงเล่นถึงจะสะใจ”
เห็นท่าทีไม่ได้รังเกียจอะไรของกู้ซีเฉียว อู่หงเหวินก็ยิ้มออกมา “ฉันจะสอนเธอเล่นเกมนี้ของจิ่วเทียน เกมนี้ขนาดเซียวอวิ๋นเล่นแล้วยังเลิกไม่ได้เลย”
ได้ยินดังนั้นความรู้สึกของกู้ซีเฉียวก็ยิ่งซับซ้อนขึ้นไปอีก
แม้ว่าเกมออนไลน์นี้เป็นฝีมือของเธอเอง แต่เธอไม่เคยลงเล่นจริงจังแบบนี้มาก่อน
“กดเข้าไป ป้อนชื่อ แบบเป็นชื่อในเกม” อู่หงเหวินลงมือสอนกู้ซีเฉียวเล่นเกมทีละขั้นตอน เขากลัวว่าเธอไม่เข้าใจเลยอธิบายอย่างชัดเจน
กู้ซีเฉียวตั้งใจพิมพ์ชื่อสมมติของตนเข้าไปสี่คำว่า อี้กู้เชียนเหนียน
“คุณได้เข้าสู่ชุมชนมือใหม่ กรุณากดเอ็นพีซีเพื่อรับภารกิจเริ่มต้น รออีกสักครู่ เราจะเปิดรหัสเพื่อพาคุณเข้าไป” อู่หงเหวินเบียดไล่ให้เด็กที่นั่งข้างๆ ย้ายที่ไปพลางลงทะเบียนบัญชีของตนในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเขา และสอนกู้ซีเฉียวเล่นเกม พลางเอ่ยปากชมเกมนี้ไม่หยุด “ไม่รู้ว่าใครเป็นคนคิดค้นเกมนี้นะ ไม่ว่าจะเป็นเสียง กราฟฟิก ความเร็ว ฟีเจอร์ต่างๆ หรือกระทั่งลำดับความยากก็ออกแบบมาได้ตรงใจฉันเป๊ะเลย หลายครั้งที่ฉันเล่นเกมนี้แล้วรู้สึกเหมือนกับว่ามันไม่ใช่เกม แต่มันคือชีวิตจริงๆ”
“ฉันเข้าใจมาตลอดว่าเกมแบบนี้มีแต่เมืองนอกจะพัฒนาขึ้นมาได้ คิดไม่ถึงว่าคนจีนอย่างเราๆ จะทำได้ก่อน ฉันพอจะวาดฝันเห็นเกมจิ่วเทียนนี้เบียดขึ้นไปเป็นเบอร์หนึ่งของโลกได้เลยล่ะ” อู่หงเหวินพูดด้วยความตื่นเต้น พล่ามเรื่องนี้ไม่หยุด
สำหรับสิ่งที่เขาพูด กู้ซีเฉียวฟังด้วยรอยยิ้มจาง ๆ เครื่องหน้าของเธอสวยงาม คิ้วตางดงามดั่งภาพวาด สายตาที่จริงจังจดจ่อของเธอดูอ่อนโยนเหลือเกิน
อู่หงเหวินยิ่งพูดยิ่งมันส์
กู้ซีเฉียวอาจจะมีความสามารถในด้านต่างๆ มากมาย แต่ความสามารถในการเล่นเกมออนไลน์จัดอยู่ในเกณฑ์บ้านๆ ไม่ได้แย่มากแต่ก็ไม่ได้เก่งมาก เธอยังสู้ฝีมือเซียวอวิ๋นไม่ได้ แต่เธอก็ไม่ได้ชอบเล่นเกมออนไลน์สักเท่าไหร่ หากแต่เจ้าระบบกลับชื่นชอบเกมนี้เป็นอย่างมาก กู้ซีเฉียวเลยปล่อยให้เจ้าระบบเล่นแทนไป
ในฐานะที่ระบบก็เป็นเครือข่ายเสมือนที่ทรงพลังที่สุด มันได้ให้กำเนิดปัญญาของตน แม้กระทั่งไฟร์วอลล์ของทั้งโลกก็ไร้ประโยชน์ต่อหน้ามัน กับแค่เล่นเกมออนไลน์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
“อ้อ เกือบลืมไปเลย” เซียวอวิ๋นที่เล่นอยู่หน้าคอมเด้งหันขวับมาทางกู้ซีเฉียว “เมื่อวานหัวหน้าห้องบอกให้ฉันเรียกเธอไปงานเลี้ยงอำลาด้วย ตอนนี้กี่โมงแล้ว ตายแล้วลืมไปเลย”
อู่หงเหวินเหลือบมองที่คอมพิวเตอร์ “สี่โมงยี่สิบห้านาทีแล้ว”
“หัวหน้าห้องนัดให้เราไปเจอกันก่อนห้าโมง ยังดียังไม่เลยเวลา” เซียวอวิ๋นโล่งใจไปเปราะหนึ่ง
พรุ่งนี้เป็นวันประกาศผลคะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยซึ่งถึงตอนนั้นบางคนอาจจะดีใจบางคนอาจจะเสียใจกับผลคะแนนสอบ ดังนั้นนักเรียนส่วนใหญ่จึงเลือกวันก่อนประกาศคะแนนมาเลี้ยงฉลองเรียนจบกันเสียก่อน หัวหน้าห้องของพวกเขาจึงเลือกเอาวันก่อนหน้าหนึ่งวันมาเป็นวันเลี้ยงอำลา หากแต่หัวหน้าห้องติดต่อกู้ซีเฉียวไม่ได้ เลยได้แต่กำชับผ่านเซียวอวิ๋นให้พากู้ซีเฉียวมาด้วยให้ได้
สถานที่นัดรวมตัวกันก็คือสถานบันเทิงที่พอใช้ได้แห่งหนึ่ง เซียวอวิ๋นมองจากไกลๆ ก็ตกใจเล็กน้อย “คิดไม่ถึงว่าหัวหน้าห้องของพวกเราจะรวยขนาดนี้”
“จุดโฟกัสของเธอนี่แปลกเสมอเลยนะ” กู้ซีเฉียวหัวเราะน้อยๆ เธอมองเห็นหัวหน้าห้องยืนอยู่ตรงประตูแล้ว “คนที่รวยที่สุดในชั้นนี้น่าจะเป็นเธอไม่ใช่เหรอ”
เซียวอวิ๋นลอบมองค้อนไปที่กู้ซีเฉียว “ไม่ เธอต่างหาก”
กู้ซีเฉียวได้แต่เอามือลูบจมูกไม่พูดอะไรอีก หัวหน้าห้องเห็นเธอทั้งสองคนแล้ว “สองสาวสวยมาถึงกันแล้ว หากยังไม่มาอีกยัยพวกนี้ต้องรุมทึ้งฉันแน่ๆ!”
ตอนที่พวกเธอทั้งสองตามหัวหน้าห้องเข้าไปในห้องส่วนตัวก็พบว่าคนอื่นๆ มากันพร้อมหน้าแล้ว เมื่อเห็นหัวหน้าห้องพาสองสาวเข้ามา เด็กหนุ่มก็เข้าไปตบบ่าหัวหน้าห้องเบาๆ “หัวหน้าห้องนี่ใช้ได้เลยนะ ขอชนก่อนสักสามแก้ว”
หัวหน้าห้องโดนมอมเหล้าทีเดียวสามแก้วรวด
“สาวสวย” ผู้คนเหล่านั้นต่างไล่ทักทายกู้ซีเฉียว พวกเขาแบ่งออกเป็นสองโต๊ะก่อนจะให้กู้ซีเฉียวนั่งอยู่ที่โต๊ะหลัก เซียวอวิ๋นก็พลอยฟ้าพลอยฝนได้นั่งที่โต๊ะนั้นไปด้วย
“ทุกคนรู้ว่าฉันเกือบล้มเลิกการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเพราะเรื่องครอบครัว ฉันเก่งไปทางวิชาคณิตศาสตร์ ตอนที่ฉันใกล้จะหมดหวังยังดีที่มีเสี่ยวกู้และพวกเธอ ทำให้การสอบครั้งนี้ฉันทำได้มากกว่าการสอบทั่วไปซะด้วยซ้ำ ขอบคุณเธอนะ และขอบคุณทุกคนจริงๆ” หญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงข้ามกู้ซีเฉียวลุกขึ้นมายกแก้วเหล้าขอบคุณเธอ หญิงสาวพูดไปขอบตาก็เริ่มแดง
หลายคนต่างบอกให้เธอยอมแพ้ แต่ยังดีที่คนในห้องทั้งหมดเป็นกำลังใจให้เธอฝ่าฟันมาได้
“ไม่พูดอะไรมากแล้ว เสี่ยวกู้ ฉันขอชนแก้วขอบคุณเธอ” คนที่อยู่โต๊ะข้างๆ พากันมาห้อมล้อม พวกเขารู้ดีว่าพวกเขาผ่านการสอบครั้งนี้มาได้เพราะกู้ซีเฉียว เป็นเพราะเธอทำให้พวกเขาข้ามผ่านอุปสรรคจนสร้างปาฏิหาริย์มาได้
จนกระทั่งตอนที่ทำข้อสอบจำลองครั้งสุดท้าย คะแนนเฉลี่ยของห้องพุ่งทะยานขึ้นไปจนทำเอาครูหัวหน้าชั้นที่ไม่ชอบพวกเขามาตลอดถึงกับตาโตอ้าปากค้าง
พวกเขาเชื่อว่า เมื่อคะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยออกมาก็คงไม่ต่างจากตอนทำข้อสอบจำลองมากนัก
นี่คือความมั่นใจและเป็นความมั่นใจที่กู้ซีเฉียวสร้างให้กับพวกเขา!