โฮสต์สาวพลิกอดีตกับระบบสุดเทพ – ตอนที่ 81 ตระกูลคนมีรถ

โฮสต์สาวพลิกอดีตกับระบบสุดเทพ

ตอนที่ 81 ตระกูลคนมีรถ

ขณะที่กู้จู่ฮุยกลับมาถึงก็เห็นสีหน้าของปู่กู้ที่ไม่สู้ดีเลยอดแปลกใจไม่ได้ “พ่อ พ่อเรียกผมให้รีบกลับมาทำไม ผมอุตส่าห์ลำบากลำบนกว่าจะนัดผู้จัดการของตระกูลอินได้แท้ๆ”

“เรียกแกกลับมาทำไมงั้นเหรอ” ปู่กู้หยิบแก้วในมือขว้างใส่เขาแรงๆ “แกรู้ไหมว่าแกทำอะไรลงไป อนาคตตระกูลกู้พังเพราะมือแกแล้ว! ไอ้ลูกเวร! ไอ้ลูกเวร!”

“พ่อ! พ่ออย่าโกรธไป!” กู้จู่ฮุยไม่กล้าหลบ เขาปล่อยให้พ่อตนระบายความอัดอั้นออกมา “นี่มันเรื่องอะไรกันอีกครับ”

ปู่กู้ส่งสัญญาณให้พ่อบ้านหยิบหนังสือพิมพ์ให้เขาอ่าน

กู้จู่ฮุยอ่านแล้วก็ตกใจเป็นอย่างมาก เขาคิดว่าแค่กู้ซีเฉียวที่เขารู้จักก็ถือว่าเธอโดดเด่นมากแล้ว แต่เธอยังเก่งกาจมากกว่าที่เขาคิดไปมากนัก

“แกไปบอกกับกู้ซีเฉียวซะว่าพวกเราส่งอาจิ่นไปเมืองนอกแล้ว และสัญญาว่าจะไม่รับตัวอาจิ่นกลับมาอีกตลอดไป ขอเพียงกู้ซีเฉียวยอมกลับมา เธอจะกลายเป็นผู้สืบทอดอันดับหนึ่งของตระกูลเรา!” คุณปู่กู้มองกู้จู่ฮุย “ขอเพียงเธอยอมกลับมา ไม่ว่าเธอจะขออะไรพวกเราก็จะตกลงทั้งหมด!”

แต่ไหนแต่ไรมาปู่กู้เป็นคนพูดคำไหนคำนั้น กู้จู่ฮุยก็ไม่กล้าทัดทาน เพียงแต่ในใจรู้สึกอึดอัด เขาเองก็เสียดายที่เสียคนที่มีพรสวรรค์เช่นนี้ไป แต่จะยกตระกูลกู้ให้เธองั้นหรือ นี่มันจะไม่ดูไร้สาระเกินไปหน่อยหรือ

ต่อให้กู้ซีเฉียวกลับมาแล้วอย่างไร เธอไม่เคยคลุกคลีกับงานบริษัท อีกทั้งประสบการณ์ย่อมสู้เขาไม่ได้ ดังนั้นพ่อของเขาดูจะเลอะเทอะไปใหญ่แล้ว

อีกทั้งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ขัดแย้งกันอยู่ตอนนี้ เธอยังจะยอมกลับมาหรือ

“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าแกคิดอะไรอยู่นะ” ปู่กู้เคาะโต๊ะแรงๆ “สายตาของฉันไม่เคยมองพลาด”

กู้จู่ฮุยไม่รู้จะทำเช่นไรเลยได้แต่ลองติดต่อไปที่กู้ซีเฉียว แต่ไม่รู้ว่าจะหาวิธีติดต่ออย่างไรขณะนั้นผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ก็เอ่ยแนะ “คุณกู้ คุณหนูรองอาจจะกลับไปที่โรงเรียนก็ได้นะครับ”

กู้จู่ฮุยพยักหน้า สั่งให้คนขับไปส่งเขาที่อีจง บรรดานักเรียนที่ยืนอยู่รอบๆ อีจงมีจำนวนไม่น้อย เขารออยู่พักหนึ่งจนเห็นกู้ซีเฉียวที่อยู่ท่ามกลางฝูงชน เธอกำลังยืนอยู่กับเพื่อนร่วมห้องอีกสองคน

เมื่อเห็นคนหนุ่มในชุดสูทรองเท้าหนังที่มาจากไหนไม่รู้กำลังเดินเข้ามา อู่หงเหวินรีบยืนขวางตรงหน้าของกู้ซีเฉียวทันที

ผู้ช่วยของกู้จู่ฮุยรีบโบกมืออย่างรวดเร็ว “คุณหนูรอง คุณกู้รอคุณอยู่ที่ด้านหน้าโรงเรียนครับ”

กู้ซีเฉียวชำเลืองมองเขา รอยยิ้มบนริมฝีปากของเธอดูจางลง พูดตามตรงคนที่เธอไม่อยากพบเจอมากที่สุดในตอนนี้ก็คือคนของตระกูลกู้ เธอคิดว่าครั้งที่แล้วเธอพูดไว้ชัดเจนแล้ว “พวกเธอรอฉันเดี๋ยวนะ เดี๋ยวฉันรีบกลับมา”

เมื่อเห็นกู้ซีเฉียว กู้จู่ฮุยก็รีบปรับสีหน้าให้อ่อนลง เขาเอ่ยปากชื่นชมยินดีกับผลคะแนนของเธอ แล้วเอ่ยความตั้งใจที่มาหาเธอในครั้งนี้ “ปู่ของเธอบอกไว้ ขอเพียงเธอยอมกลับไปตระกูลกู้เขาจะให้เธอเป็นผู้รับผิดชอบตระกูลกู้ทั้งหมด”

หลังพูดจบเขาก็สังเกตท่าทีของกู้ซีเฉียว ตระกูลกู้เองก็เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงในแวดวงนี้ ธุรกิจนี้ไม่ว่าจะเสนอมอบให้ใครทุกคนต่างย่อมสนใจ ต่อให้เป็นเขา ปู่กู้ก็ไม่คิดจะมอบอำนาจการบริหารตระกูลกู้ทั้งหมดให้เขาเช่นนี้ เดิมทีเขาคิดเองว่าเมื่อกู้ซีเฉียวได้ยินเช่นนี้แล้วคงตกใจอ้าปากค้าง แต่คิดไม่ถึงว่าสีหน้าของเธอกลับดูไม่เปลี่ยนแปลงเลยสักนิด

เธอรู้หรือไม่ว่าตระกูลกู้มีกิจการเท่าไหร่

“หนูไม่เคยอยากได้ตระกูลกู้” กู้ซีเฉียวหัวเราะเบาๆ “คุณกู้คะ หนูได้บอกไปชัดเจนตั้งแต่ครั้งที่แล้ว หวังว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่คุณจะมาหาหนู”

เธอยิ้มอยู่ แต่ดวงตาดำขลับไม่ได้มีรอยยิ้มเลยสักนิด

กู้จู่ฮุยมองดแผ่นหลังของเธอที่เดินจากไป ทันใดนั้นก็คิดไปถึงเอกสารที่เธอทิ้งไว้ให้เมื่อครั้งก่อน ใบหน้าของเขาปรากฏความหวาดกลัว เขาเกรงว่าหากไปทำให้เธอโกรธบรรดาหลักฐานการติดสินบนเหล่านั้นจะถูกส่งไปให้สำนักงานการค้าและอุตสาหกรรมหรือไม่ เมื่อคิดถึงจุดนี้เขาก็ไม่กล้าอยู่นาน ก่อนจะรีบให้คนขับพาเขากลับไปที่บริษัท

คนมีความสามารถสำคัญก็จริง แต่ตระกูลกู้สำคัญยิ่งกว่า

ได้แต่ตำหนิเขาเองที่ไม่ฉวยโอกาสไว้ก่อน กู้จู่ฮุยก็เสียดายมาก แต่ในใจลึกๆ ก็รู้สึกโล่งใจ หากกู้ซีเฉียวรับปากแล้วมาสืบทอดกิจการตระกูลกู้ เช่นนั้นเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?

เมื่อกลับมาบ้านและบอกกับปู่กู้ ปู่กู้นั่งนิ่งอยู่นานก่อนจะถอนหายใจยาวๆ ออกมา

ตอนนี้เขายอมแพ้ตัดใจอย่างสิ้นเชิง ตัวของเขาแก่ลงไปมากเทียบกับชายชราที่ยังมีกำลังวังชาสมัยก่อนไม่ได้อีกแล้ว

กู้จู่ฮุยจากไปแล้ว แต่อารมณ์ของกู้ซีเฉียวก็ยังไม่ดีขึ้น เธอปฏิเสธนัดของอู่หงเหวิน “วันนี้ฉันเหนื่อยนิดหน่อย อยากจะกลับไปพักสักหน่อย ไว้วันหลังค่อยไปเล่นที่บ้านนายนะ”

“เธอไม่เป็นไรจริงๆ ใช่ไหม” อู่หงเหวินมองสีหน้าเธอพลันขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาจะกลับไปหารือกับพ่อเขาเสียหน่อยแล้วว่ามีวิธีไหนที่จะจัดการกับตระกูลกู้ได้อีก

“ไม่เป็นไร ฉันไปก่อนนะ” กู้ซีเฉียวมองเห็นรถของอินเซ่าหยวน ก็โบกมือให้พวกเขาสองคนแล้วเดินออกไป

ทันใดนั้นอู่หงเหวินก็ทำหน้าจริงจังมองไปที่เซียวอวิ๋น “ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันจะเข้าคณะเศรษฐศาสตร์และการบริหารจัดการ มหาวิทยาลัยเอ”

ด้วยผลคะแนนของเขา การจะยื่นสมัครเข้าเรียนคณะเศรษฐศาสตร์และการบริหารจัดการ มหาวิทยาลัยเอไม่ใช่ปัญหา แต่เซียวอวิ๋นกลับขมวดคิ้ว “เมื่อวานนายบอกว่าจะเรียนพลศึกษาไม่ใช่เหรอ”

“มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นฉันถึงจะสืบทอดตำแหน่งของพ่อได้อย่างสง่างามเปิดเผย มีเพียงได้อำนาจมาไว้ในกำมือของฉันเท่านั้นถึงจะได้ทำตามใจปรารถนาได้” อู่หงเหวินรู้ดีว่าต่อให้พ่อของเขารับปากจะช่วยจัดการตระกูลกู้ แต่พ่อเขาก็ไม่ได้ใส่ใจขนาดนั้น เรื่องแบบนี้คงมีแต่เขาที่ต้องลงมือเอง

นี่เป็นครั้งแรกที่เขามีใจอยากจะพยายามเป็นผู้สืบทอดธุรกิจที่มีคุณสมบัติเหมาะสม

อีกอย่างแม้แต่เซียวอวิ๋นในตอนนี้เธอก็เริ่มตั้งใจฝึกฝนแล้ว เขาจะล้าหลังได้อย่างไร

อินเซ่าหยวนนั่งอยู่ในรถ เอามือวางไว้บนกระจกรถ หรี่ดวงตาดอกท้อของตนยิ้มมองไปที่กู้ซีเฉียว

กู้ซีเฉียวขี้เกียจจะสนใจเขา เธอเปิดประตูหลังแล้วนั่งลง

“โธ่เอ๊ย เธอต้องทำทีรังเกียจฉันขนาดนี้เลยเหรอ” อินเซ่าหยวนทำหน้างอหลายครั้ง ทนไม่ไหวถึงกับต้องเอามือก่ายหน้าผาก “ที่นั่งข้างคนขับก็มีแต่ไม่นั่ง ทำไมต้องไปนั่งตัวลีบด้านหลังด้วย”

“สบายใจ” กู้ซีเฉียวชำเลืองมองเขาทำตัวสบายๆ

“ให้ตายเถอะ ครั้งหน้าฉันจะขับรถแบบมีแค่สองที่นั่งมา ดูสิว่าเธอจะไปนั่งตรงกระโปรงรถเลยไหม” อินเซ่าหยวนสตาร์ทรถ ยังไม่พอใจที่กู้ซีเฉียวไปนั่งที่นั่งด้านหลัง “ถ้าเธอกล้าไปนั่งจริงๆ ฉันจะยอมให้เธอเลย”

กู้ซีเฉียวหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา “นายก็ลองดูสักครั้งสิ ตอนนั้นก็จะรู้เอง”

แม้แต่สงครามน้ำลายเขาก็ยังสู้เธอไม่ได้ อินเซ่าหยวนเลิกคิ้ว “ฉันพูดสู้เธอไม่ได้ เดี๋ยวจะพาเธอไปดูรถ เมื่อคืนเพิ่งมาถึงโชว์รูม ว่าแต่เธอมีใบขับขี่หรือยัง”

“…. ยัง” กู้ซีเฉียวพูดแต่ไม่ได้เงยหน้ามองเขา

“เคยขับรถไหม” อินเซ่าหยวนเหลือบมองมาทางกระจกหลังด้วยท่าทีประหลาดใจ

“รถแทรกเตอร์นับไหมล่ะ?”

“…”

รถที่อินเซ่าหยวนให้เธอนั้นเป็นรถที่สั่งนำเข้าพิเศษจากต่างประเทศ และเพิ่งผ่านการตรวจสอบเรียบร้อยเมื่อไม่กี่วันก่อน และเพื่อจะส่งมาเป็นของขวัญแสดงความยินดีเรื่องความสำเร็จของการสอบเข้ามหาวิทยาลัยทันเวลา เขาจึงตั้งใจสั่งให้คนเอากุญแจส่งมาทางเครื่องบินมาให้ก่อน แต่รถคันนั้นส่งมาช้าไปหนึ่งวันเนื่องจากปัญหาเรื่องการขนส่ง

รถคันนี้จอดไว้ที่ร้านโฟร์เอสวันนี้อินเซ่าหยวนตั้งใจพากู้ซีเฉียวไปรับรถ

“เดิมทีฉันตั้งใจจะส่งไปที่วิลลาตระกูลอิน แต่คิดไปถึงกลุ่มทหารยามที่ยืนเฝ้าอยู่รอบบ้านก็ล้มเลิกความคิดนี้ไป คนพวกนั้นมือไม้หนัก ถ้าทำรถพังคงจะแย่มาก” อินเซ่าหยวนพากู้ซีเฉียวเดินวนดูอยู่หลายรอบอย่างชำนาญกับรถลัมโบร์กินีสีชมพูดูโฉบเฉี่ยว

ดีไซน์ทุกมุมของตัวรถ เค้าโครงลายเส้น ส่วนโค้งเว้า และรูปทรงที่ดุดันสำหรับการจู่โจมสะท้อนความแข็งแกร่งบึกบึน ทำให้คนเกิดความหลงใหลอย่างแรงกล้า จุดที่พิเศษที่สุดของคันนี้คือเป็นรถสองประตู สองที่นั่ง ประตูเปิดปีกนก

สีชมพูกับรถที่ดูทรงอำนาจ ดีไซน์ออกมาได้โดยไม่ทำให้ความรู้สึกขัดกันเลยสักนิด

กู้ซีเฉียวที่ไม่ได้มีความสนใจด้านรถยนต์ก็ยังอดชื่นชมรถคันนี้ไม่ได้ว่าดีเสียจริง

อินเซ่าหยวนเดินไปที่ประตูรถ “เธอเอากุญแจมาด้วยไหม”

กู้ซีเฉียวเอากุญแจใส่ไว้ในกระเป๋าไว้ก่อนแล้ว เมื่อได้ยินเขาถามเธอจึงแสร้งควานหาจากกระเป๋าเพียงแวบเดียวกุญแจก็ปรากฏขึ้นในมือของเธอ

“ขึ้นรถสิ ฉันพาเธอไปขับรถเล่น” อินเซ่าหยวนยื่นมือรับกุญแจที่กู้ซีเฉียวหยิบออกมา จากนั้นก็พลิกตัวกลับขึ้นรถ กวักมือเรียกเธอ “เธอลองเรียนขับรถสักสองวันก่อน พอขับชำนาญแล้วค่อยขับออกไป เดี๋ยวฉันให้คนมาช่วยทำใบขับขี่ให้เธอ”

กู้ซีเฉียวเม้มริมฝีปากบางซีด เธอเหลือบมองอินเซ่าหยวนแต่ไม่เข้าไปนั่งในรถ

โฮสต์สาวพลิกอดีตกับระบบสุดเทพ

โฮสต์สาวพลิกอดีตกับระบบสุดเทพ

Status: Ongoing
ชาติก่อนเธอเผาตัวตายเพราะถูกทรยศ ชาตินี้เธอย้อนกลับมาเพื่อเขียนอดีตของตนใหม่อีกครั้ง! นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีที่นางเอกมีระบบสุดเทพที่ทำได้ทุกอย่าง!กู้ซีเฉียว ลูกนอกสมรสไร้ค่าจากบ้านนอก ส่วนเกินในสายตาของคนในตระกูลจวบจนวาระสุดท้ายเธอก็ยังเป็นเช่นนั้น ไร้ซึ่งศักดิ์ศรีใดๆแต่ชาตินี้เธอจะเขียนอนาคตของตนขึ้นใหม่จะไม่มีเด็กสาวน่าสมเพชไร้ความสามารถคนเดิมอีกต่อไป มีเพียงหญิงสาวผู้เป็นอัจฉริยะรอบด้าน!เพราะสิ่งที่เธอนำกลับมาด้วยหลังความตายไม่ใช่เพียงพรสวรรค์ดั้งเดิมแต่เป็น ‘ระบบ’ สุดโกงที่จะช่วยแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้เพียงแลกแต้มคะแนนสะสม!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท