พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” – ตอนที่ 68

ตอนที่ 68

Ch.68 – บทที่ 5 ตอนที่ 15

Provider : รินคะน้า

 

บทที่5ตอนที่15

 

 

อันริ ・วาร์ อาจารย์ประจำชั้น ห้อง 10 ของปี 3 ที่โนโซมุและเหล่าผองเพื่อนสังกัดอยู่ เธอเปรียบดั่งผู้มีพระคุณของโนโซมุที่ช่วยโนโซมุไว้หลายต่อหลายครั้ง หากไม่มีเธอโนโซมุคงเป็นหมาหัวเน่าคนเดียวในสถาบันนี้แล้ว สำหรับโนโซมุเธอมีความสำคัญพอๆกับชิโนะผู้สอนวิชาดาบให้กับเขา

 

 

เธอยืนต่อหน้าโนโซมุ เธอที่มักจะยิ้มอยู่เสมอ แต่โนโซมุเองไม่สามารถลดการป้องกันลงได้เลย

 

 

 

 

อันริบอกว่า ตัวเองเป็นเป้าหมายพิเศษ ก็หมายความว่าเธอเป็นศัตรูกับพวกเขานั่นเอง

 

 

อันที่จริงหน้าอกของเธอก็มีจี้ห้อยคอเหมือนกันว่าเป็นผู้ที่เข้าร่วมฝึกพิเศษนี้ด้วย

 

 

(โนโซมุคุง……)

 

 

(อยู่นิ่งๆ ถ้าขยับตัวแปลกๆละก็เสร็จเธอแน่……)

 

 

โนโซมุบอกให้หยุดนิ่ง จิตวิญญาณที่ซ่อนอยู่ภายใต้รอยยิ้มนั่นคือของจริง แต่ในขณะเดียวกันเราก็ไม่เคยเห็นเธอต่อสู้เลยแม้แต่น้อย แต่การที่เธอมาเป็นอาจารย์พวกเราได้ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ โนโซมุมักจะเห็นเธอคอยดูแลชั้นเรียนอยู่บ่อยๆ

 

 

「……อันริรู้เหรอว่าเราอยู่ที่นี่?」

 

 

「อาาา~~、ไม่รู้หรอก~~。งานของฉันคือบอสแมพที่เดินไปทั่วละน้า~。แน่นอนถึงจะเห็นสภาพดูเล่นๆแบบนี้แต่ฉันก็เอาจริงน้า~~」

 

 

เธอหยิบจี้ออกมา มันเยอะมากกว่า 20 คนเสียอีก อันริพูดด้วยท่าทางสบายๆแต่เท่าที่เห็นไม่มีใครช่วยเธอแม้แต่น้อยแสดงว่าเธอเอาชนะนักเรียนมากกว่า 20 คนด้วยตัวคนเดียว

 

 

จินและผองเพื่อนเองต่างตกตะลึงกับความจริงตรงหน้า แม้ว่าพวกเขาจะเอาชนะศัตรูได้ 5 คน แต่ศัตรูตรงหน้าแข็งแกร่งกว่าพวกเขาถึง 4 เท่า

 

 

「……ก็หมายความว่าอันริเองก็เป็นเป้าหมายที่ต้องกำจัดด้วยสินะครับ?」

 

 

「……อืมก็แบบนั้นล่ะนะ แต่ว่าพยายามจะไม่ทำให้เจ็บมากละกันน้า……ขอโทษด้วยเน้อ~」

 

 

อันริขอโทษแม้จะทำตามหน้าที่ก็ตาม แต่เธอก็บอกสิ่งที่ตัวเองต้องทำให้กับพวกเราฟัง

 

 

หลังจากยืนยันเป้าหมายแล้ว โนโซมุก็ตัดสินใจทันทีว่าจะทำเช่นไร

 

 

「จิน! เดร็ก! แฮมเรีย! หนีให้เร็วที่สุดเลย!!」

 

 

โนโซมุหยิบระเบิดควันและ”หินแฝดบอกลาง”ออกจากกระเป๋าและกระแทกมันลงกับพื้น ควันเองกระจายไปทั่วพื้นที่และหินที่กลิ้งไปบนพื้นก็เรืองแสงสีแดง

 

 

โนโซมุใช้กับดักที่มีไปจนหมดแล้ว ยิ่งกว่านั้น หากโดนพบก่อนที่จะสู้กันนั่นก็คือการสู้ตัวต่อตัวเพราะเธอรอให้พวกนี้มาแต่แรก

 

 

โนโซมุไม่รู้ว่าเธอจัดการนักเรียนมากกว่า 20 คนได้ยังไง แต่อย่างไรก็ตาม เธอเป็นตัวอันตรายที่ไม่ควรสู้แบบตัวต่อตัว ยิ่งไปกว่านั้นเธอไม่ใช่ศัตรูคนเดียวในป่าแห่งนี้ อย่างน้องวันนี้ก็ต้องรอด

 

 

「รีบเลยทั้งสามคน!!」

 

 

「เข้าใจแล้ว!」「อะ อาาา!」「อะ อืม!」

 

 

โนโซมุและเพื่อนๆพยายามรักษาระยะห่าง แต่ในขณะนั้นก็มีเสียงลมผ่านหูโนโซมุ

 

 

「อะ!!」

 

 

โนโซมุรู้สึกว่ามีลางสังหรณ์ไม่ดีจากเสียงลมเมื่อสักครู่ เมื่อผมกระโดดไปด้านหลังและกลิ้งลงกับพื้น พื้นดินที่อยู่ก็ยุบไปทันที  มันกระเด็นออกไปพร้อมกับเสียงระเบิด

 

 

「อา…หลบได้งั้นเหรอเนี่ย แต่ว่าคราวหน้าล่ะ~~」

 

 

「คิย๊าาาาา!」「อ๊ากกกกก!!」

 

 

เมื่ออันริสะบัดแขนสองครั้งติดต่อกัน เสียงกรีดร้องของเดร็กและแฮมเรียก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงระเบิดและทั้งสองก็ล้มลง

 

 

จินรีบไปหาทั้งสองทันทีและพยายามให้พวกเขาลุกขึ้น แต่อันริยกแขนพร้อมจะโจมตีจินและพรรคพวก

 

 

「อันริ!!」

 

 

โนโซมุเสริมพลังกายและพุ่งเข้าหาอันริ ศัตรูมีความสามารถมากกว่าผมมาก แต่ว่าจะชดเชยส่วนต่างให้มากที่สุดอย่างไรก็ตามอันริเล็งไปที่โนโซมุทันทีที่ก้าวเข้าหาเธอ

 

 

「ชิ~!!」

 

 

โนโซมุรู้สึกเสียวสันหลังวาบทันทีที่เธอยกแขนขึ้นและในขณะเดียวกันร่างกายเขาก็รู้สึกร้อนรน ทันทีที่พบเห็นมันมีบางอย่างสีดำผุดขึ้นมาปลายสายตา ผมถีบพื้นและรีบถอยออกด้านข้างทันที

 

 

โชคดีที่เขาไหวตัวทันพื้นที่ตรงนั้นเกิดระเบิดทันทีและโนโวมุไม่ได้รับบาดเจ็ฐ ดูเหมือนว่าผมจะหลบมันได้

 

 

「จิน! ทั้งสองคนเป็นไงบ้าง!」

 

 

「ไม่เป็นไร! ยังไม่ถูกตัดสิทธิ์!!」

 

 

เดร็กและแฮมเรียยังปลอดภัยดีอย่างไรก็ตามฝั่งนี้ยังคงเสียเปรียบ เดร็กและแฮมเรียจับมือกันบางทีคงจะแขนหักและมีเลือดไหลด้วย

 

 

จินหยิบโพชั่นออกมาและราดบนแขนของพวกเขา ยาปิดบาดแผลของทั้งสองคน แต่โนโซมุยังคงรับการโจมตีของอันริต่อไป

 

 

(บ้าเอ้ย! ก็เห็นอยู่หรอกว่าเธอใช้อะไรบางอย่างโจมตี แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไรเนี่ยสิ!)

 

 

ทุกครั้งที่อันริสะบัดแขนจะมีบางอย่างพุ่งเข้ามา มันเร็วมากจนโนโซมุมองไม่ออก

 

 

โนโซมุพยายามอ่านการเคลื่อนไหวของอันริและเส้นทางเงาที่บดบังการโจมตีนั่น

 

 

โนโซมุเดาะลิ้นและพยายามคิดว่าจะเอาชนะสถานการณ์ในตอนนี้ยังไง

 

 

「ฟูหวาาาา~~、โนโซมุคุงน่าทึ่งอ่า~。มีนักเรียนไม่กี่คนเลยนะที่สามารถหลบการโจมตีของเค้าได้~」

 

 

อันริชมเชยเขา แต่โนโซมุไม่มีเวลามาฟังเธอ ระยะเวลาการโจมตีของเธอมันรวดเร็วมาก และถ้าโดนเธอโจมตีเข้าสภาพไม่สวยแน่

 

 

โนโซมุพยายามเล็งไปที่การโจมตีของเธอเพื่อดูว่าเธอใช้อะไรโจมตีกันแน่ เงานั่นเร็วมากจนเขามองไม่เห็น

 

 

อย่างไรก็ตามโนโซมุที่มีสมาธิสูงเป็นพิเศษ สมาธิของเขาเร่งได้แม้กระทั่งความคิดและสามารถเห็นสิ่งรอบข้างได้ช้าลง

 

 

ขณะที่โนโซมุจ้องมองไปยังแขนของอันริ การเคลื่อนไหวของเงามันก็เริ่มที่จะชัดเจนมากขึ้น

 

 

(ดูเหมือนจะเป็นแท่งเหล็ก แถมยังดูยืดหยุ่นอีกด้วย……)

 

 

โนโซมุระบุขณะที่หลบการโจมตีไปด้วย ในที่สุดอันริก็สะบัดแขนอีกรอบ และในขณะเดียวกันเงาก็มาโจมตีด้านข้างราวกับจะบีบเขาไปทางอื่น

 

 

「ตรงนี้สินะ!!」

 

 

โนโซมุก้มและนอนลงกับพื้น ในขณะเดียวกันก็อาฝักดาบขึ้นในวงโคจรของเงานั่น ทันใดนั้นเองก็มีอย่างพันรอบฝักพร้อมกับเสียงลม

 

 

โนโซมุคว้าสิ่งที่พันรอบๆฝักเขาก่อนที่อันริจะลงมือ

 

 

「……อาาาา」

 

 

「……อาจารย์อันรินี่คืออาวุธของคุณสินะครับ」

 

 

อันริเปล่งเสียงด้วยท่าทางหงุดหงิดนิดหน่อย บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าไม่คิดว่าจะโดนจับไต๋ได้

 

 

โนโซมุคว้าแส้สีดำ บางทีเหตุผลที่เป็นสีดำเพราะอยู่ในป่าทึบ

 

 

「สุดยอดดดดดดดด~~~! โนโซมุคุงจับได้ด้วยล่ะ~~」

 

 

「……ผมเห็นแส้นั่นกำลังเคลื่อนไหวในอากาศ ดังนั้นมันเกี่ยวกับจังหวะที่อาจารย์เคลื่อนไหวด้วยและมันก็เคลื่อนไหวตามเงาทึบของป่า พูดตามตรงก็แอบสงสัยเหมือนกันว่าอาจารย์แกว่งแขนเล่นๆรึเปล่า」

 

 

โนโซมุยังแอบคิดในใจว่าเธอทำท่าหลอกๆแต่ถ้าใส่พลังเวทย์หรือคิลงไปก็คงโดนจับได้แน่ๆล่ะ

 

 

อย่างไรก็ตาม โนโซมุไม่รู้สึกถึงพลังเวทย์หรือคิแม้แต่น้อย ในตัวแส้ที่เคลื่อนไหว ผมสัมผัสมันไม่ได้เลย แต่ว่าถ้าหลบต่อไปเรื่อยๆ ก็จะมีแต่เข้าทางฝั่งนั้น ดังนั้นต้องชิงลงมือ โชคดีที่ผมรับการโจมตีได้ ก็เลยยึดจุดแข็งของอันริมาได้

 

 

「วิเศษมากเลยล่ะน้าที่มองมันออกด้วยล่ะ~。ยังไงก็ตามที่นี่เป็นที่ฝึกน้า~、แล้วมันก็เป็นพื้นที่มืดด้วย แส้เองก็น่าจะมองเห็นได้ยากแล้วแท้ๆ~~」

 

 

โนโซมุคงไม่เห็นการโจมตีหากไม่ได้ฝึกกับชิโนะ ใบมีดที่เหวี่ยงด้วยความเร็วแสง เร็วกว่าของอันริเสียแทบยังอยู่ในระยะใกล้มันแทบจะหลบได้ยากมาก วิชาดาบสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามอิสระ โนโซมุที่ฝึกจนเลือดตาแทบกระเด็นจนสามารถเอามาใช้ได้จริง หากพลาดแม้แต่นิดเดียวก็เจ็บตัว

 

 

เรียกได้ว่าตอนปิดเทอมฝึกหนักโครตแถมแรงกดดันมหาศาล

 

 

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในตอนนี้ยังไม่ดีขึ้นเพียงเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายใช้อาวุธอะไร ก่อนหน้านี้ อันริยังไม่เป็นที่รู้จักในการต่อสู้ แถมยังมีคนเจ็บอีก

 

 

(จะพูดก็ยังไงอยู่……。พูดได้ว่าเข้าทางอันริเต็มๆเลยพื้นที่แห่งนี้ ยังไงก็ตามผมต้องทำอะไรสักอย่างกับสองคนที่อยู่ด้านหลัง……)

 

 

เดร็กและแฮมเรียพยายามจะลุกขึ้นด้วยความช่วยเหลือของจิน ชุดเครื่องแบบที่อันริโจมตีใส่แค่ขาดนิดหน่อย แต่เลือดหยุดไหลแล้ว

 

 

โพชั่นของจินดูเหมือนจะได้ผลดี แต่ว่าน่าสงสัยจริงๆจะกันการโจมตีของศัตรูตรงหน้าได้ยังไง

 

 

อย่างไรก็ตามอันริไม่ลามือง่ายๆแน่

 

 

(เมื่อพูดถึงเรื่องนั้นแล้ว มีทางเดียวที่จะพลิกสถานการณ์ได้ ผมรู้สึกว่าเหมือนเคยทำมาก่อน แต่ก็ไม่มั่นใจ……ช่วยไม่ได้ล่ะนะ)

 

 

「จิน! พาทั้งสองไปที่จุดนัดพบก่อนเลย!!」

 

 

「เอ๊ะ!?」

 

 

「นายทำได้น่าเดี๋ยวผมจะรับมืออาจารย์อันริเอง! ไปที่จุดนัดพบและไปตามมาร์กับคนอื่นๆมา!!」

 

 

โนโซมุบอกจินให้พาคนเจ็บหนีไปจากที่นี่และไปเรียกพวกมาร์มา แต่ในขณะเดียวกันมันอาจจะดูยาก

 

 

เพื่อต่อสู้กับอันริแล้วกับมาร์ต้องไปเจอมาร์ที่จุดนัดพบก่อนผมเองก็ปลีกตัวไปไม่ได้ ได้แต่รอจินพามาร์มาที่นี่

 

 

อย่างไรก็ตาม เอาตามตรง เป็นเรื่องยากที่จะรับมืออันริพร้อมกับไปที่จุดนัดพบ

 

 

ดังนั้นก็เลยให้จินไปตามมาร์มาจะเป็นการดีที่สุด ผมกำลังหาทางให้อันริออกห่างจากพวกเขาให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้

 

 

ไม่มีความมั่นใจเลยจริงๆและไม่มั่นใจว่าจะต้านไว้จนกว่ามาร์จะมาถึงได้ไหม การสู้ไปพร้อมกับหนีไปเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ความน่าจะเป็นก็ไม่ใช่ศูนย์

 

 

ดูเหมือนจินจะกังวลอยู่ครู่หนึ่ง แต่เพราะอาจจะเชื่อในคำพูดของโนโซมุเลยพาพวกนั้นหายเข้าไปในป่า

 

 

「โนโซมุคุง ดีแล้วเหรอ~。ยิ่งต่อสู้ด้วยกันมากเท่าไรโอกาสชนะจะเยอะกว่าน้า~」

 

 

「ศัตรูของพวกผมไม่ใช่แค่อาจารย์คนเดียวนะครับ คราบใดที่มีคนเจ็บพวกเราก็ต้องให้ความสำคัญกับพวกเขาก่อน ความเจ็บปวดจากการโดนแส้ฟาดมันรุนแรงและยาวนานครับ แต่ไม่มีปัญหาหรอกหากได้เวทย์ฟื้นฟู อาจารย์เองก็คิดว่าจะโจมตีทั้งสามคนที่หนีไปสินะครับ?」

 

 

「อืม~。แต่โนโซมุคงเต็มใจที่จะเข้าหาเค้าเลยสิน้าา~?ด้วยแส้ของเค้าโนโซมุคุงก็จะมาหยุดเค้าก่อนที่จะไปหาจินใช่มั้ยล่าาา~~~」

 

 

อืม ถูกแล้วล่ะเป็นการอยากที่จะเอาชนะด้วยการโจมตีครั้งเดียวใส่อันริที่ใช้อาวุธระยะไกล แส้เป็นอาวุธที่สร้างความเจ็บปวดทางกายและจิตใจของฝ่ายตรงข้าม หากอันริฟาดจินในตอนนี้ ดาบของโนโซมุก็คงจะกันการโจมตีนั่นไว้

 

 

อันริไม่เคยประเมินโนโซมุต่ำเลย ในแง่นั้น สำหรับโนโซมุแล้วก็ถือว่าประสบความสำเร็จ อย่างน้อยก็ดึงความสนใจของเธอมาหาผมได้

 

 

(ความสามารถของอันริคือโจมตีระยะไกล ไม่จำเป็นต้องโค่นเธอ แต่ไม่สามารถปล่อยให้เธอไล่ตามจินไปได้ พอพูดแบบนั้นแล้ว จำเป็นต้องล่อเธองั้นเหรอเนี่ย……)

 

 

เมื่อโนโซมุสรุปได้เช่นนั้น เขาก็จ้องมองร่างของอันริ

 

 

「บ้าเอ้ย!」

 

 

แส้ที่โนโซมุจับไว้มันเริ่มขยับและคราวนี้มันจะพยายามพันแพนเขา โนโซมุพยายามสลัดแส้ออกโดยปล่อยแส้ออกไปจากมือ

 

 

อันริโจมตีทันทีเมื่อแส้ถูกปล่อย โนโซมุใช้งาน “ก้าวพริบตา”และรีบวิ่งจากด้านหน้าไปหาเธอ เขาพยายามทำตัวให้เด่นที่สุดเพื่อดึงดูดความสนใจ

 

 

อันริสะบัดแขนอีกครั้ง และแส้สีดำก็ลอยไปตามวิถีที่เธอเหวี่ยงมัน

 

 

โนโซมุปรับใช้ “ก้าวพริบตา” เป็น “ก้าวพริบตา -ดาบเริงระบำ-”และพยายามบิดร่างกายเล็กน้อยเพื่อให้ไหลไปทางด้านข้าง แส้ของอันริไหลย้อนกลับและคว้าขมัยของโนโซมุเอาไว้ และโนโซมุเองก็พุ่งเข้าหาเธอ

 

 

อย่างไรก็ตาม อย่างที่อันริหวังไว้เธอบิดข้อมือกลับ แส้ที่อยู่ด้านหลังโนโซมุก็ลอยขึ้นและโจมตีเขาจากด้านหลัง

 

 

「อั่ก!!」

 

 

โนโซมุบิดร่างกายอีกครั้งเพื่อหลบการโจมตีและหันตัวเองไปทางขวา 90 องศา แต่ว่าแส้ที่โจมตีเข้าขมับของเขาก็ฟาดลงพื้นที่อยู่ก่อนหน้านี้

 

 

「หวาาาาาาาาา~! หลบได้อีกแล้ว! สุดยอดดดดด~」

 

 

อันริเอามือปิดปากด้วยท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย ยังไงก็ตามเธอดึงแส้กลับไปและฟาดใส่โนโซมุที่กำลังเข้าหาเธอ

 

 

โนโซมมุหลบโดยใช้แส้ที่อยู่ด้านหน้าเป็นเกราะป้องกันต้นไม้ตรงหน้า แส้ที่ถูกปัดออกไปฟาดกับต้นไม้และกระเด็นออกไป

 

 

「ย่าห์~。ย่าห์~~」

 

 

เสียงของอันริที่หลอกล่อมันสวนทางกับทิศทางที่เธอฟาดแส้ และแส้นั่นเองก็มีพลังเพิ่มมากขึ้นและเร็วมากขึ้น

 

 

โนโซมุใช้ต้นไม้แถวนั้นเป็นเกราะกำบังและวิ่งต่อไปเป็นวงกลมในขณะที่หาทางจับแส้ของอันริ แต่ว่าไม่สามารถทำได้ ความสามารถและระยะเวลาโจมตีมันต่างกันเกินไป อันริพยายามโจมตีโนโซมุอย่างเต็มที่

 

 

ในที่สุดการโจมตีของเธอก็เล็งไปที่พื้นด้านหน้าเขา เช่นเดียวกับที่เขาคิดไว้

 

 

การต่อสู้ระหว่างทั้งสองดำเนินไปชั่วขณะหนึ่ง แต่โนโซมุซึ่งวิ่งรอบๆอันริก็เปลี่ยนทิศทาง ผมบุกเข้าทางด้านหน้าเธอ

 

 

「อืม สุดท้ายก็บุกเข้าหาเค้าเลยเหรอเนี่ย~」

 

 

อันริรู้อยู่แล้วว่าโนโซมุถนัดการต่อสู้ระยะประชิดเท่านั้น เธอเข้าใจดีที่โนโซมุต้องทำแบบนี้และเธอฟาดแส้ขณะที่โนโซมุพยายามเข้าใกล้

 

 

แส้ซึ่งเคลื่อนไหวตามวิถีที่เธอสะบัดมือไปอย่างแม่นยำ เล็งไปที่โนโซมุที่ค่อยเข้าหาพุ่มไม้

 

 

โนโซมุพยายามใช้ต้นไม้รอบๆให้เป็นประโยชน์และเคลื่อนไหวซับซ้อนไปมา แต่แส้ของอันริก็จับเท้าเขาได้อย่างแม่นยำและดินที่ปลิวไปนั้นก็ทำให้โนโซมุเคลื่อนไหวช้าลง

 

 

โนโซมุที่ต้องชะลอตัวลงทำให้อันริมีโอกาสโจมตีอีกครั้งและเธอก็ไม่ปล่อยให้พลาด คราวนี้เธอเล็งไปกลางลำตัวโนโวมุ

 

 

「แต่ว่าน้าโนโซมุคุง~。ท้ายที่สุดแล้วก็นะ……?」

 

 

ขณะที่แส้ดูเหมือนจะจับร่างของเขาได้ ก็มีเสียงระเบิดดังก้องรอบตัวเธอ

 

 

ในสายตาของเธอเขาเห็นโนโซมุหลบแส้ด้วยครึ่งตัวบน จากนั้นที่เท้าของเขาก็เกิดเสียงระเบิดและพุ่งเข้าหาเธอ

 

 

อันที่จริงเสียงระเบิดก่อนหน้านี้ไม่ใช่เสียงแส้ที่ฟาดโดนเขา ลักษณะที่แท้จริงคือมวลลมที่ปล่อยออกมาจากด้านหลังของโนโซมุ

 

 

เมื่อเขาจัดการกับแส้ของอันริ เขาได้กดหลังไว้เพื่อไม่ให้เธอมองเห็นและทันทีที่เธอฟาดแส้เขาก็ปล่อยมันออกมา ในเวลาเดียวกันเขาก้มต่ำลงและเร่งความเร็วพุ่งมาทางนี้

 

 

อันริที่คิดว่าจะจับโนโซมุได้แล้ว ทำให้ตอบสนองช้ากว่าที่ควร โนโซมุเองก็เข้ามาใกล้อีกไม่กี่ก้าว และดูเหมือนเธอจะเอาแส้กลับมาไม่ได้แล้ว

 

 

「ฮ่ากหหหหหหหห์!!」

 

 

โนโซมุปล่อยดาบที่อันพลังคิเอาไว้แน่นและดาบนั่นก็ฟาดเข้าที่ไหล่ของอันริที่ถือแส้อย่างแม่นยำ

 

 

「อะอร๊า~~~งงงงงงงง!」

 

 

อย่างไรก็ตามในขณะที่ดาบของโนโซมุเหมือนจะโดนอันริ อันริก็ตะโกนเสียงดังออกมา

 

 

「เอ๋?」

 

 

วินาทีถัดมาคือสายตาที่จับจ้องเขาและน้ำเสียงที่ชวนทำให้…ออกจากปากเธอ

 

 

อันริเปิดกระโปรงด้วยมือที่ไม่ได้ถือแส้

 

 

สิ่งที่พุ่งเข้ามาในดวงตาของโนโซมุคือผิวขาวนวลหลังกระโปรงที่พลิ้วไหวในอากาศ ขาเรียวและกางเกงในสีชมพู และมีแท่งเหล็กสีดำตัดกับผิวสีขาว พูดไว้ใต้ขาที่อวบอิ่ม

 

 

มันคือแท่งเหล็กดำยาวประมาณ 30 เซ็น? เมื่อดูจากขอบและที่จับแล้ว เห็นได้ชัดมันใช้สำหรับฟาดด้วยความเจ็บปวด อันริหยิบแท่งเหล็กนั่นด้วยมืออีกข้างหนึ่งและเหวี่ยงมันทันที

 

 

「เห้ย!?」

 

 

ใบมีดและแท่งเหล็กสีดำเข้าห่ำหั่นกัน ใบมีดของโนโซมุไปไม่ถึงอันริและถูกแท่งเหล็กนั่นกันเอาไว้

 

 

「อร๊าาาาา มันอันตรายไม่ใช่เหรอไงค้า~~」

 

 

อันริส่งเสียงแปลกๆออกมาในที่แบบนี้

 

 

 

 

แม้ว่าอันริจะรับดาบของเขาได้ด้วยมือเดียว แต่ว่าแท่งเหล็กดำนั่นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร

 

 

「อร๊าาาาาาา~!!」

 

 

อันริพยายามกดดันโนโซมุด้วยน้ำเสียงบูดบึ้ง โนโวมุพยายามจะต้านทานเจ้าแท่งเหล็กดำนั่นที่กดดันเข้ามา แต่เขาก็ไม่สามารถกันมันได้และโดนกดดันอยู่ฝ่ายเดียว

 

 

「บ้าเอ้ย!!」

 

 

โนโซมุคิดว่าเขาไม่สามารถวัดพลังกับเธอได้และใช้ความโค้งงอของดาบปัดแรงกระแทกของแท่งเหล็กแล้วฟาดใส่เธออีกครั้ง ยังไงก็ตามอันริก็กันเอาไว้ได้และสวนกลับอย่างรวดเร็ว

 

 

โนโซมุยังคงโจมตีต่อไป แต่ทั้งหมดก็โดนแท่งเหล็กสีดำป้องกันไว้ได้ แท่งเหล็กเล็กๆที่สั้นกว่าดาบของโนโซมุ เธอควบคุมมันได้อย่างดีและไม่ยอมให้ดาบเล็ดลอดไปได้แม้แต่น้อย

 

 

「อาร่าอาร่า~~!」

 

 

ขณะที่อันริก้มลงเธอเตะไปที่ขาของโนโซมุ ขาอ่อนสีขาวนวลที่มองเห็นผ่านใต้กระโปรงอันสั้นมันโจมตีเข้ามาใส่โนโซมุจนทำให้เขาเผลอจ้องมัน

 

 

「อุหวาาาาาา!!」

 

 

โชคดีที่โนโซมุหมอบลงและหลบลูกเตะของเธอได้ แต่เธอก็ยังเอาแท่งเหล็กนั่นโจมตีใส่โนโซมุ

 

 

โนโซมุพยายามจะหลบไปอยู่ด้านข้างอันริโดนหันร่างของเขาขณะกันเหล็กสีดำไปด้วย แต่เธอก็เตะมาอีกครั้ง

 

 

「อั่ก!!」

 

 

คราวนี้โดนเต็มๆ โนโซมุวางฝักดาบระหว่างตัวเองกับเธอแต่เขาก็หยุดไม่ได้และปลิวไป

 

 

「บ้าเอ้ย!!」

 

 

โนโซมุกระโดดถอยหลังออกไป

 

 

เมื่อโนโซมุหลบออกจากจุดนั้น แส้ของอันริก็ฟาดลงเพื่อไล่ตามเขา

 

 

「อาร่าอาร่า ตรงนั้นนะจ้ะ~~」

 

 

อันริเล็งไปตอนที่โนโซมุถอยหลังและก็ฟาดไปตรงที่ๆเขากำลังลงจอด โนโซมุยกดาบขึ้นพยายามจะตัดแส้ของเธอ แต่ไม่ง่ายเลยที่จะตัดแส้ที่ยืดหยุ่นพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง

 

 

หากไม่ทำให้ดี ขาก็จะเสร็จเธอแน่ๆ และคราวนั้นละนรกเลย

 

 

อย่างไรก็ตามตอนที่โนโซมุลงจอดลมก็พัดมา

 

 

「อุหวาาาาาาาา!!」

 

 

ลมกรรโชกแรงพัดร่างของเขาไปและแส้ของอันริก็โจมตีโนโซมุไม่โดนและลอยฟ้าไป

 

 

「อาร่าอาร่า~!!」

 

 

ทันใดนั้นโนโซมุก็ไม่สามารถนิ่งเฉยได้ แต่สุดท้ายก็ลงจอดด้วยการหน้าจูบพื้น ใบหน้าของโนโซมุบิดเบี้ยวเพราะความขมที่ปาก

 

 

「แค่ก! แค่ก! บ้าอะไรฟะเนี่ย!?」

 

 

โนโวมุเห็นลมพัดมาทางเขาดินเข้าไปในปาก และเห็นชายหญิงสองคนในชุดนักเรียนกำลังวิ่งมา

 

 

「ค่อยยังชั่ว ปลอดภัยดีสินะ」

 

 

「เฮ้อ เหมือนจะทันเวลาสินะ」

 

 

ชายและหญิงในเครื่องแบบคือเดร็กและแฮมเรียที่ควรจะโดนจินลากไป โนโซมุจ้องมองทั้งสองคนที่ไม่น่าจะมาที่นี่ได้

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยนำบางส่วนมาจากนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

บทนำ

สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

เรื่องย่อ

สถาบันโซลมินาติ สถานที่ๆคนหนุ่มสาวจากทั่วทุกดินแดนจะมารวมตัวกันเพื่อต่อยอดความฝันและความหวังของตัวเอง ความทะเยอทะยาน สำหรับคนที่ไม่มีอะไรดีสักด้านนั้นจะถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามถูกปฏิบัติแบบไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมโดยสมบูรณ์

เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่ชั้นอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ข้า โนโซมุ เบลาตี้ ซึ่งอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนในช่วงพักกลางวัน

ข้ามาที่นี่เมื่อสองปีก่อน ออกมาจากบ้านเกิดกับเพื่อนสมัยเด็กสองคนเพื่อมายังที่แห่งนี้

คนแรกคือ เคน โนทิส เป็นเพื่อนที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ ลิซ่า เฮาวน์

สาวสวยผู้มีผมหางม้าสีแดง

เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตและเป็นคนรักของข้า

เธอเป็นคนที่เอาชนะคนอื่นได้เสมอ เธอเป็นเหมือนดั่งตัวร้ายที่คอยต่อต้านกับหัวหน้าหมู่บ้าน

ข้าพบกับเธอก็เมื่อตอนอายุ 8 ขวบ ตอนที่ข้ากำลังตกปลาในแม่น้ำใกล้หมู่บ้าน

「อะ เอ่อ อืม ว่างหรือเปล่า?」

เป็นตอนนั้นเองที่เธอเข้ามาพูดกับข้า

ผมสีแดงตัดสั้น ท่าทางที่ดูมั่นใจ ใบหน้าของข้าค่อยๆร้อนรุ่ม…ข้าตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น

พ่อแม่ของเธออาศัยอยู่ในดินแดนที่ห่างไกลออกไป แต่เมื่อพ่อของเธอเสียชีวิตระหว่างเดินทาง เธอจึงตัดสินใจที่จะตั้งถิ่นฐานที่บ้านเกิดของข้า

ตอนเธอยังเด็กมักจะเป็นเด็กที่ซุกซนและอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ข้าก็ไม่ได้รังเกียจอะไร และเธอไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ

แล้วก็เด็กที่ทำให้เธอผิดหวังมากที่สุดก็คือนายพลกาคิกับผมด้วยเหตุผลบางอย่าง

เมื่อสามปีก่อนข้าสารภาพรักกับเธอเพราะว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

รักแรกที่ข้าชอบมาตลอด

เธอตกใจมากกับการสารภาพรักที่กระทันหันของข้า แต่เธอก็ยอมรับข้าและร้องไห้ทั้งน้ำตา

ตอนนั้นเองข้าจึงตัดสินใจที่จะไปสถาบันโซลมินาติกับเธอเพื่อสนับสนุนความฝันของเธอให้เป็นจริง

มันเป็นแรงบัลดาลใจให้ข้า ความฝันของเธอที่บอกข้าตอนยังเด็ก

「ฉันน่ะอยากจะเห็นโลกที่หลากหลายเหมือนกับคุณพ่อ」

ข้ารู้ว่าเธออยากออกไปท่องโลกกว้างเพราะเธอได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นมาจากมารดาของเธอ

ตอนนั้นเองเป็นตอนที่ข้าตัดสินใจไปที่สถาบันโซลมินาติ

หากคนที่ตัวเองรักอยากทำความฝันให้เป็นจริง ข้าก็ควรจะสนับสนุน

ด้วยคำพูดเช่นนั้นข้าตัดสินใจว่าจะสนับสนุนเธอตลอดมา

เธอกอดข้าทั้งน้ำตาพร้อมกับบอกว่า「ขอบคุณนะ……ฉันดีใจจริงๆ」

ท่ามกลางการหลับกลางวันของข้าก็ได้ยินเสียงระฆังที่ส่งเสียงบอกเวลาว่าหมดเวลาพักกลางวันแล้ว

ข้าลุกขึ้นพร้อมกับบิดตัวด้วยความขี้เกียจพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังห้องเรียน

ถูกบังคับให้ไสหัวไปก็ตั้งหลายครั้ง ตัวข้าที่ไม่สามารถทำคำปฏิญาณนั่นได้

ชั้นเรียนของข้าคือ ชั้นเรียนที่สอง ระดับ 10 เป็นห้องที่ต่ำที่สุดในบรรดาชั้นเรียนที่สอง

ในหมู่พวกนั้นข้าเป็นคนที่อยู่ต่ำสุดเรียกได้ว่าเป็นพวกที่ห่วยของโครตห่วย

เมื่อข้าเข้ามาในชั้นเรียนก็โดนต้อนรับด้วยการหัวเราะเยาะเย้ยเป็นเรื่องปกติ

「ยังจะโผล่หัวมาอีกนะ ไอชั้นต่ำ」

「เมื่อไรมันจะหายๆไปสักทีวะ」

「หวังว่าจะลาออกไปไวๆน้า~」

เสียงที่ดูไร้หัวใจเหล่านั้นเสียดแทงเข้ามาในจิตใจของข้า ข้าทำได้แต่เมินต่อไปและนั่งลงบนเก้าอี้

เมื่อข้านั่งลงก็มีนักเรียนสามคนเข้ามาทางข้า

「แกจะมาทำไม ในเมื่อแกมาที่นี่มันก็ไร้ความหมายอยู่ดีไม่ใช่เหรอไงวะ ไอ้เศษเดนเอ้ย」

มาร์ที่ตัวค่อนข้างใหญ่พูดข่มขู่ข้า

「ยอมแพ้ไปสักทีเหอะวะแกไม่คิดว่ามันเสียเวลาชีวิตบ้างเหรอวะ」

「แกโดนแกล้งขนาดนี้ก็เหมาะกับแกดีนี่ เหมาะสมกับเศษสวะอย่างแก」

พวกนั้นก็ยังคงกรนด่าข้าไม่หยุด

「ช่ายๆ โดนเด็กผู้หญิงหัวแดงที่ท่าทางเหมือนเจ้าหญิงนั่นทิ้งแล้ว ไม่มีอะไรให้แกได้ฝันอีกต่อไปแล้วล่ะ」

พวกนั้นทั้งสามคนยังยืนหัวเราะและพยายามยั่วโมโหข้า ไม่มีใครคิดจะห้ามพวกมัน ในท้ายที่สุดพวกมันก็ไม่ยอมหยุดจนกระทั่งอาจารย์ประจำชั้นเข้ามาในห้อง

ใช่แล้วล่ะ ข้าถูกลิซ่าทิ้ง เธอน่ะเป็นนักเรียนห้อง 1 เลยนะ

ทันทีที่เธอทิ้งข้าไปหลังจากกล่าวลาไม่กี่คำ เธอก็ไม่เคยกลับมาพบข้าอีกเลย

ข้าไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ตั้งแต่นั้นมาเธอก็มองข้าเหมือนเศษสวะ

เป็นเพราะข้าเอาแต่สร้างปัญหายังงั้นเหรอ

ลิซ่าเป็นผู้หญิงที่ถูกขนานนามว่า “เจ้าหญิงผมแดง” เพราะหน้าตาและความสามารถ

ในทางกลับกันตัวข้าที่ไม่มีอะไรดีเด่นหน้าตาบ้านๆ

ตลอดช่วงที่ข้าคบกับเธอ เธอมักจะโดนรังควาญอยู่เสมอ บางทีการที่ข้าโดนทิ้งก็เพราะสร้างความยุ่งยากให้เธออยู่เสมอก็ได้

ข้านั้นไร้ซึ่งเพื่อนและกลายเป็นหมาหัวเน่า

ถึงกระนั้นข้าก็พยายามอยากหนักไม่ละเลยสิ่งต่างๆตามหน้าที่ของตน

สักวันหนึ่งถ้าข้าสามารถรักษาคำสาบานที่ให้ไว้ได้ละก็……….ข้าคิดเช่นนั้น

ในขณะเดียวกันนั้นเองเธอก็ไปคบกับเพื่อนสมัยเด็กที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

เธอดูมีความสุขราวกับเธอรักเขาจริงๆ

ในการฝึกซ้อมเป็นคู่พวกเธอสองคนเข้าขากันได้ดีมาก ข้าไม่มีที่ยืนเคียงข้าเธอเลย

ชั่วโมงที่สอง ในช่วงบ่าย

「เฮ้ออ!」

ด้านข้างของดาบจำลองนั่นถูกขว้างมาจากเครื่องยิงดาบจำลอง

เมื่อดาบจำลองที่ถูกยิงมาถูกปากลับไปและแทงเข้าไปที่คอของตุ๊กตา กลไกนั่นก็จะหยุดทำงานลง

หลังจากคาบบรรยายนี่ก็เป็นภาคฝึกปฏิบัติ

นอกจากสนามฝึกซ้อมแล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น สนามทดลองเวทมนตร์ในสถาบันแห่งนี้และนักเรียนที่สามารถศึกษาเรียนรู้ความสามารถของตนตามสถานที่ต่างๆ

สนามฝึกถูกแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่เพื่อให้นักเรียกจากหลายๆชั้นมาเรียนที่เดียวกันได้

วันนี้เป็นการฝึกการต่อสู้ระหว่างบุคคลและแต่ละคนก็จะได้ต่อสู้กับหุ่นยนต์ที่มีดาบจำลองเป็นคู่ซ้อมทำการต่อสู้แบบอิสระ โดยใส่พลังเวทย์เข้าไปเพื่อให้หุ่นยนต์นั้นทำงาน

อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์สำหรับพวกห้อง 10 นั้นมีคุณภาพแย่และเคลื่อนไหวได้แค่บางส่วน

「อืม ต่อไปจะเป็นการต่อสู้เป็นคู่ เลือกคู่หูได้ตามใจชอบ~」

เมื่ออาจารย์อันริ วาร์ อาจารย์ประจำชั้นของพวกห้อง 10 เรียกออกมา หุ่นยนต์ก็หยุดทำงาน ดังนั้นทุกๆคนก็หยุดและรอการจับคู่

อาจารย์อันริมีผมหยักสีน้ำตาล ดวงตาที่ดูสมวัยและใบหน้าที่ออกไปทางดูดีอย่างมาก

อย่างไรก็ตามอาจารย์คนนี้เป็นบุคคลที่ไม่เหมาะกับโรงเรียนแห่งคุณธรรมแห่งนี้เลยเพราะเขาชอบพูดและทำท่าทางแปลกๆราวกับคนบ้า

เรียกได้ว่าคนที่รับผิดชอบนักเรียนห้อง 10 ถูกโยนมาแบบทิ้งขว้างเลยก็ได้

อย่างไรก็ตามการที่เขาสามารถมาเป็นอาจารย์ได้ก็คงมีความสามารถพอตัว

ในที่สุดการจับคู่ก็ถูกตัดสินและแต่ละฝ่ายต่างเริ่มจำลองการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ของตัวเอง แต่ว่าคู่ต่อสู้ของข้าดันเป็น……。

「เอ่อ สำหรับแกแล้ว น่าเสียดายหน่อยนะ」

เป็นมาร์นั่นเองที่กรนด่าข้าเมื่อตอนบ่าย

「มาเริ่มกันเลยดีกว่า เพราะว่าเศษสวะอย่างแกจะทำให้ชั้นเสียเวลา」

มาร์ดึงดาบใหญ่ออกมาจากด้านหลัง

มาร์เป็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมา ความสามารถของเขานั่นของจริง ถึงอย่างนั้นก็ยังได้มาอยู่ในห้องห้อง 10 เช่นนี้เพราะชื่อเสียงแย่ๆนั่นละ

ผมเองก็ดึงดาบจำลองออกมาด้วยเช่นกัน

อาวุธของข้าเป็นดาบที่มาจากทางเกาะตะวันออก เรียกกันว่าคาตานะ เป็นดาบที่มีความคมเป็นอย่างมาก กล่าวได้ว่ามันสามารถตัดทุกอย่าไงได้หากใช้ได้อย่างชำนาญ

ยังไงก็ตาม มันใช้เทคนิตชั้นสูงและความหายากของมันเลยไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนัก

มันเป็นอาวุธที่เหมาะกับข้าที่สุด สำหรับข้าที่ไร้ซึ่งพลัง

「ถ้าอย่างงั้นละก็ เริ่มได้~~~」

การต่อสู้นั่นเต็มไปด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยจากท่าทางของอาจารย์อันริ

「โฮ่ย่าาาาาาาาาาาห์」

มาร์เหวี่ยงดาบใหญ่พร้อมตะโกนก้อง

ผมป้องกันการโจมตีด้วยคาตานะ

ดาบของมาร์ถูกเบี่ยงวิธีและมันก็ฟาดลงทีพื้น

「ฮ่าๆ!」

ก้าวเข้าไปหลังจากมาร์เปิดช่องว่างเล็งไปที่ต้นคอและพยายามจะเอาสันดาบทุบ

「สายไปละโว้ย!」

มาร์เอาถุงมือที่แขนปกป้องดาบของผมไว้ ดาบเลียนแบบที่ไม่มีความคมของดาบดั้งเดิมเหลืออยู่ก็ถูกป้องกันด้วยถุงมือนั่น

มาร์รุดหน้าเข้ามาพร้อมกับยกถุงมือขึ้นป้องกันการโจมตี แต่ข้าก็ก้มลงเพื่อหลบการโจมตี

ข้าพยายามจะโจมตีไปอีกรอบ แต่มาร์นั้นเหวี่ยงดาบใหญ่มาด้วยมือข้างเดียว

ข้าถูกบังคับให้ถอยและกลับไปตั้งหลักใหม่

มาร์ที่ฟาดดาบใหญ่จนพื้นแตกกระจายพยายามมองระหว่างข้าและดาบใหญ่ของมันเอง……。

「อยากโดนหั่นเป็นชิ้นๆเหรอไงวะ」

มาร์พูดเช่นนั้นพร้อมกับรังสีกดดันที่เพิ่มมากขึ้น

“คิ”

เป็นสกิลของทางฝั่งตะวันออกที่จะเพิ่มพลังให้แก่ผู้ใช้งานให้เหนือขีดจำกัดยิ่งขึ้นไป

มาร์พุ่งเข้ามาในคราวเดียว ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นั่นละคือผลลัพธ์จากการใช้ คิ

ราวกับจะจับเหยื่อตรงหน้าฟาดดาบใหญ่นั่นลงมาในทีเดียว

ข้าเองก็ใช้ “คิ”เช่นกันเพื่อหลบการโจมตีของดาบใหญ่นั่น เสียงของเหล็กดังกระทบกันสนั่นหู

「เหอะ!ลังเลอยู่งั้นเหรอ」

มาร์ที่รู้สึกหงุดหงิดนั่นดูมีท่าทีลังเลจึงไม่สามารถจะตัดสินใจจบการโจมตีในทีเดียวได้

เขาดึงดาบใหญ่ที่จมลงไปบนพื้นและเริ่มที่จะฟันมันมาอีกครั้ง

เขาฟาดฟันดาบใหญ่ไปรอบๆด้วยเรี่ยวแรงอันมหาศาลจาก “คิ”

เสียงของเหล็กปะทะกันดังสนั่นไปทั่วบ่งบอกถึงการต่อสู้อันดุเดือด แต่ว่ามีฝ่ายเดียวที่ได้เปรียบ

การเสริมพลังกายของมาร์มีพละกำลังมากกว่าข้า แต่ผลของการเสริมพลังกายของข้าเองก็ได้ผลเพียงครึ่งเดียวด้วยความสามารถของข้า

มาร์มันเป็นคนเก่งแต่เพราะทำแต่เรื่องแย่ๆเลยได้มาอยู่ในห้อง 10

ในทางตรงกันข้ามแม้หมอนั่นจะมีความสามารถสูง แต่มาร์มันกลับพอใจที่จะกดขี่คนที่ต่ำกว่านั่นมันโครตจะแย่

เทคนิคดาบชั้นสูงของมาร์ไม่สามารถใช้จัดการกับโนโซมุตามปกติได้ แต่ว่าพลังกายของโนโซมุที่ได้รับการเสริมแบบครึ่งๆกลางๆมันก็พอเป็นไปได้

พลังที่ได้มานั่นทำให้พอฟัดพอเหวี่ยงกับดาบของโจรสลัดเท่านั้นเอง

「แหลกไปซะเหอะมึง!!」

บางทีอาจจะเป็นเพราะข้าโดนกดดันจนถูกบดขยี้ในพริบตา แต่ว่าข้าก็กันการโจมตีนั่นได้ยิ่งทำให้มาร์มันหงุดหงิดจนพละกำลังมันเพิ่มมากขึ้นไปอีก

「เหอะ คิดว่าจะบดขยี้ข้าได้ง่ายๆงั้นเหรอ!」

ข้ากัดฟันแน่นเพื่อที่จะไม่เดินไปตามเกมส์ของศัตรู

แม้ว่าพลังในการโจมตีจะเพิ่มขึ้น แต่การโจมตีของมันก็ซ้ำซากและจำเจ ทำให้รับมือได้ไม่ยากเย็น

อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถสวนกลับได้ทำได้เพียงแค่ยื้อเท่านั้น

และถ้าโต้กลับไม่ได้ผลมันก็รู้ๆกันอยู่

ในที่สุดก็มาถึงขีดจำกัด

ข้าไม่สามารถรับการโจมตีของมาร์ได้อีกต่อไป การป้องกันของข้าถูกทำลายลงและไม่มีเวลามาตั้งท่าใหม่ ตอนนั้นเองทีข้าถูกดาบใหญ่นั่นฟาดเข้ามากระแทกกับคาตานะของข้าจนกระเด็น

「จะเหนียวได้สักแค่ไหนกันเชียววะ!」

รูปร่างของข้าบิดเบี้ยวเพราะการโจมตีนั่น ข้าตัวกระเด็นจนตัวไปกระแทกกับกำแพงของสนามฝึกซ้อม

ผลกระทบนั่นทำให้ข้าหายใจติดขัดและการมองเห็นของข้าก็มืดดับลง

「เป็นแค่เศษสวะแท้ๆ แต่ยังกล้าขัดขืน โดนดีไปซะเหอะมึง」

ข้าหมดสติไปพรัอมกับคำพูดของมาร์

「โอ้ยยยย เจ็บแหะ!」

ข้าลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับสติที่พร่ามัวลุกขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดไปทั้งตัว

ข้าก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องพยาบาล

「เอ้าๆ รู้สึกตัวแล้วไม่ใช่เหรอไงเนี่ย?」

ผู้หญิงสวมชุดโค้ทสีขาวพร้อมกับใส่แว่นนั่นกำลังทำงานอยู่บนโต๊ะพยาบาล

ชื่อของเธอคือนอร์น อัลทิน่า เป็นหมอประจำโรงเรียนที่สวยเอามากๆ

เธอเดินมาทางนี้และขยับนิ้วมาตรงหน้าผมเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกาย

「อืมม ดูจากสภาพแล้วสติยังคงดีอยู่ แล้วรู้สึกปวดตรงไหนบ้างรึเปล่า?」

「ข้าปวดหลังนิดหน่อยและหัวเองก็ยังคงมึนๆ แต่ว่าไม่มีตรงไหนผิดปกติแล้วล่ะ」

「อืมมเข้าใจแล้ว ฉันทายาไปที่หลังของนายแล้วล่ะ แต่ถ้ารู้สึกเจ็บหรือปวดตรงไหนก็มาได้ตลอดเวลานะ มันจะดีกว่านะที่มาหาฉันมากกว่าที่จะทนเจ็บกับบาดแผลนั่น」


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท