พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” – ตอนที่ 71

ตอนที่ 71

บทที่5ตอนที่18

 

 

「อะ!」

 

 

ไอริสตอบสนองต่อเสียงที่ได้ยินทันทีจากพุ่มไม้ทางด้านหลัง

 

 

เธอสร้างกระสุนเวทย์ขึ้นมา 3 นัดและยิงไปที่พุ่มไม้นั่น

 

 

กระสุนเวทย์ที่ถูกปล่อยออกไปหายไปในส่วนลึกของพุ่มไม้และเกิดเสียงระเบิดดังขึ้น ในเวลาเดียวกันก็มีเงาพุ่งเข้าใส่ไอริส

 

 

「ย๊ากกกกกห์!」

 

 

ไอริสชักดาบออกมาอย่างรวดเร็วและรับมือกับเงาที่พยายามโจมตีเธอ เธอปรับเปลี่ยนท่าทางและรับดาบไว้ได้

 

 

「บ้าเอ้ย!กันได้งั้นเหรอเนี่ย!」

 

 

「ลิซ่าคุงงั้นเหรอ!」

 

 

เงาที่พุ่งเข้ามาคือลิซ่า ・เฮาวด์ นักเรียนห้องเดียวกันนั่นเอง

 

 

ไอริสพยายามโจมตีใส่ลิซ่าที่บุกเข้ามาก่อน แต่ลิซ่าเองก็หลบดาบด้วยการหมุนและใช้ดาบของเธอปัดไปด้านข้าง

 

 

「อืม!」

 

 

ลิซ่าปัดดาบของไอริสออกไปและเธอก็ไม่เข้ามาอีก

 

 

ไอริสได้แต่สงสัยแต่ทันใดนั้นเองก็มีหอกน้ำแข็งจากพุ่มไม้

 

 

「! อย่างที่คิดมีกำลังเสริมสินะ……」

 

 

แม้จะมีหอกน้ำแข็งพุ่งเข้ามาต่อหน้าฉันก็ตาม แต่ท่าทางของฉันก็ไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย

 

 

กระแสพลังเวทย์ที่ถูกปลดปล่อยจากทางด้านหลังของไอริส พลังเวทย์จำนวนมากที่ถูกแปรเปลี่ยนเป็นเปลวเพลิงก่อตัวเป็นลูกไฟขนาดใหญ่ในขณะที่ยังเขาแผดเผาต่อไป

 

 

「ไอ! จะลุยแล้วนะ!」

 

 

เสียงของเพื่อนสนิทของฉัน ฉันพยักหน้าตอบโดยไม่ลังเล

 

 

เวทย์ที่ทิม่าใช้คือเวทย์ “ภัยพิบัติแห่งลางร้าย”

 

 

พลังเวทย์ที่ถูกแปรเปลี่ยนให้เป็นเปลวเพลิงถูกเร่งให้เผาไหม้อย่างลุกโชน มันเป็นเวทย์ขั้นสูงที่มีคุณสมบัติหลายอย่างและเป็นเวทย์ที่ทรงพลังเป็นอย่างมากหากถูกใช้โดยทิม่าแล้วละก็

 

 

วินาทีถัดมาลูกไฟถูกปล่อยออกไป มวลของเปลวไฟที่ผ่านหน้าไอริสไปกลืนหอกน้ำแข็งที่เข้าใกล้เธอและหอกน้ำแข็งมลายหายไปทันที

 

 

นอกจากนี้ลูกไฟที่ถูกยิงไปยังคงพุ่งตรงไปทางพุ่มไม้

 

 

「โอ๊ตโต๊ะ!」

 

 

「อุหวาาาา!!」

 

 

เคนและคามิลล่าที่ซ่อนตัวอยู่รีบโผล่ออกมา

 

 

วินาทีถัดมาเวทย์นั่นก็เข้าปะทะกับพุ่มไม้จนกลายเป็นเถ้าถ่าน

 

 

「ตามคาดเลยนะทิม่าซังและไอริสซังเนี่ยเอาชนะไม่ได้ง่ายๆเลย」

 

 

เคนพึมพำเช่นนั้นราวกับประทับใจกับทั้งสอง

 

 

ลิซ่าและผองเพื่อนที่ได้ยินเสียงการต่อสู้ก็มาแอบซุ่มอยู่ก่อนแล้ว แต่ไอริสดันเจอตัวซะก่อน

 

 

แต่พวกเขาเองก็ไม่ได้ชิงลงมือถึงขนาดนั้น

 

 

เคนป้องกันกระสุนเวทย์ของไอริสที่ถูกปล่อยออกมา และลิซ่าเองก็พุ่งเข้าไประหว่างช่องว่างนั่นเอง คามิลล่าเองก็หวังจะจัดการไอริสด้วยหอกน้ำแข็ง

 

 

แต่ไอริสและทิม่าก็ไม่สามารถจัดการได้ง่ายๆ ทิม่าร่ายเวทย์ขณะที่ไอริสคอยอยู่แนวหน้ารับมือกับลิซ่าเพื่อต่อกรกับแม่มดเนวี่ และทิม่าเองก็หวังที่จะกำจัดคามิลล่าทิ้งไปด้วย

 

 

ดูเหมือนว่าเวทย์ของทิม่าจะจัดการเคนและคามิลล่าไม่ได้

 

 

「…………」

 

 

「…………」

 

 

ทั้งสองฝ่ายยังคงนิ่งไม่ไหวติ่ง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทั้งสองปาร์ตี้ต่างเป็นปาร์ตี้ที่อยู่ระดับท็อปของตารางการต่อสู้ของพวกเขาจะเป็นการตัดสินว่าใครจะไปอยู่บนจุดสูงสุดทีเดียว

 

 

ไอริสชี้ดาบของเธอไปทางลิซ่าและเคน ฝั่งโน้นเองก็ตั้งท่าพร้อม

 

 

พลังเวทย์จำนวนมากถูกระเบิดออกมาจากร่างของทิม่าอีกครั้ง คามิลล่าเองก็เริ่มร่ายเวทย์

 

 

วินาทีถัดมาไอริส ลิซ่า เคนก็พุ่งเข้าหากัน

 

 

◇◆◇

 

 

เมื่อไอริสและทิม่ากำลังเผชิญหน้ากับลิซ่า ทางฝั่งของโนโซมุที่อยู่ทางด้านเหนือของพื้นที่ฝึกเองก็เช่นกัน

 

 

หลังจากชนะอันริมาได้พวกเขาก็กลับมาที่ตำแหน่งนัดพบ

 

 

 

「……โนโซมุคุง คิดจะทำอะไรต่อไปยังงั้นเหรอ?」

 

จินถามโนโซมุ

 

「……อืมนั่นสินะ พูดตามตรง พวกวิธีใช้กับดักและการโจมตีแบบเดิมๆจะได้ผลมากนักในการกอบโกยคะแนน」

 

หลายฝ่ายถูกตัดสิทธิ์ไปในตอนเช้าแล้ว จำนวนปาร์ตี้เองก็ลดลงไปมาก ฝ่ายที่รอดก็หาทางเพิ่มคะแนนตัวเองกันอย่างเต็มที่ หลังจากจัดการอันริไปแล้วก็คงเหลือแต่พวกระดับท็อปทั้งนั้นแล้วล่ะ

 

 

เมื่อแพ้ไปแล้วก็จะเสียคะแนนทั้งหมดที่มี ดังนั้นหากเลือกเอาชีวิตรอดเพื่อรักษาคะแนนไว้ก็ไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวมากมาย

 

 

อย่างไรก็ตามคะแนนที่ได้รับในครั้งเดียวนั้นจะเพิ่มขึ้นและเปลี่ยนอันดับง่ายๆในการต่อสู้เพียงครั้งเดียว พวกงานง่ายๆน่ะน่าจะโดนฝ่ายอื่นแย่งกันไปหมดแล้ว ดังนั้นหากอยากได้อันดับสูงๆก็ต้องหาคะแนนและรักษาอันดับต่อไป

 

 

 

「……อืมถ้างั้นก็มีแต่ต้องสู้กับพวกระดับสูงไม่ใช่เหรอ……」

 

แฮมเรียบ่นเช่นนั้น ทอมมี่และคามี่เองก็ไม่สบายใจเหมือนกัน

 

「……ก็ขึ้นอยู่กับคู่ต่อสู้ละนะ ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีโอกาสชนะสักหน่อย」

 

「จริงเหรอ!?」

 

แฮมเรียตกใจกับคำพูดของโนโซมุที่บอกว่ามีโอกาสชนะ

 

「มาร์และคนอื่นๆเองก็มารวมทีมกันแล้ว เดร็กถูกตัดสิทธิ์ไปและจำนวนคนของเราลดไปหนึ่งคน แต่สมาชิกคนอื่นๆยังต่อสู้ได้ไม่มีปัญหา สำหรับปาร์ตี้อื่นอาจจะไม่ได้โชคดีเท่าเราแล้วเสียคนไปเยอะกว่าพวกเราก็ได้นะ ผมคิดว่าน่าจะเอาชนะพวกเขาได้อยู่ แต่ว่า?」

 

แน่นอนเดร็กถูกตัดสิทธิ์ไปแล้ว แต่ปาร์ตี้อื่นเองก็น่าจะโดนสาหัสพอๆกัน ในสถานการณ์ที่พลิกผันไปอย่างรวดเร็ว สถานการณ์มันเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

 

เมื่อได้ยินคำพูดของโนโซมุ แฮมเรียก็ลูบอกของเธออย่างโล่งใจ ดูเหมือนว่าเธอจะไว้ใจโนโซมุจากการต่อสู้ครั้งก่อน

 

 

อย่างไรก็ตามทอมมี่และคามี่เองยังคงต่อต้านอยู่ แน่นอนว่าเห็นพวกโนโซมุจัดการอันริได้ แต่ยังไงพวกเขาก็ยังไม่เชื่อมั่นในตัวโนโซมุ ก็เลยถามความเห็นออกไป

 

 

บรรยากาศชวนอึดอัดเกิดขึ้นระหว่างโนโซมุและทอมมี่

 

「……ทุกคน ไหนๆก็มารวมตัวกันแล้วไม่ลองเสี่ยงสักหน่อยละ?」

 

「จิน……」

 

เป็นจินเองที่พยายามสลัดบรรยากาศแสนอึดอัดออกไป

 

「บอกตามตรงผมเองก็กังวล แต่อย่างน้อยพวกเราก็มาอยู่จุดนี้ได้ แค่นั้นก็น่าจะเป็นหลักฐานอันเพียงพอสำหรับพวกเราและโนโซมุแล้วใช่ไหมล่ะ ว่าพวกเราประสานงานกันได้ค่อนข้างดีเลยว่าไหม?」

 

「นั่นสินะ พวกเราเองก็ขาดพวกมาร์ไปไม่ได้เหมือนกันนี่เนอะ……」

 

แน่นอนว่าสิ่งที่จินพูดนั้นถูกต้อง เป็นเรื่องยากสำหรับโนโซมุที่มีพลังค่อนข้างจะจำกัด แม้แต่ในการฝึกวันนี้เอง ที่ควรจะใช้พลังได้เต็มที่แท้ๆ แต่โนโซมุก็ใช้เพียงแค่วิชาดาบ กับดักและยุทธ์วิธีที่ฝึกฝนมาตลอด อย่างไรก็ตามด้วยความช่วยเหลือของจิน เดร็กและแฮมเรียทำให้พวกเราผ่านพ้นมาได้

 

 

พลังของโนโซมุและตัวจินเองเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

 

「เห็นไหมล่ะ? มาไกลตั้งขนาดนี้แล้วจะไม่ลุยต่องั้นเหรอ? พวกเราห้อง 10 ต่อสู้มาจนถึงขนาดนี้ ดิ้นรนมามากมายขนาดนี้ หากพูดถึงเดร็กแล้ว อาจารย์ที่เห็นความพยายามของพวกเราก็น่าจะเข้าใจแน่นอน……」

 

สิ่งที่จินพูดอาจจะดูไร้เหตุผลไปหน่อย แต่อย่างน้อยมันก็สร้างความประทับใจให้พวกเขาได้

 

「……นั่นสินะ แล้วจะลุยกันไหมล่ะ!」

 

「ใช่แล้วล่ะ นี่เป็นโอกาสอันดีที่พวกเราจะได้ตอบแทนเลยนะ!」

 

บางทีอาจจะเพราะได้รับแรงบันดาลใจจากจิน ใบหน้าของทอมมี่และคามี่ก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

เมื่อพิจารณาถึงผลลัพธ์แล้ว ก็อาจจะผ่านไปได้ด้วยดีโดยไม่มีปัญหาใดๆ แต่ตอนนี้พวกเขาที่ถูกกดขี่มาโดยตลอดได้เวลาโต้กลับแล้วล่ะ

 

「…………」

 

ในขณะเดียวกันโนโซมุสังเกตเห็นมาร์มีใบหน้าผิดปกติ เขาเอามือเท้าคางและพยายามคิดอะไรบางอย่างในขณะที่จ้องไปที่ดาบใหญ่ไปด้วย และหลังจากจ้องไปที่จินและคนอื่นๆ ก็เหลือบเห็นโนโซมุและดาบของเขา

 

「? มาร์ เป็นอะไรไปงั้นเหรอ?」

 

「……เปล่า ไม่มีอะไร」

 

ดูเหมือนว่าจะเหม่อลอยน่าดู แต่มาร์ก็บอกปัดและเบือนหน้าหนี

 

「……เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ท่าทางดูแปลกๆนะ?」

 

「นายนี่นะ…ไม่มีอะไรหรอกน่า ข้าสบายดี……」

 

โนโซมุกังวลเกี่ยวกับมาร์ที่พยายามใช้เทคนิคผสานและเริ่มฝึกอย่างไร้เหตุผลซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เขาเองก็รู้สึกผิดเหมือนกันที่ตัวเองเป็นดราก้อน สเลเยอร์ ผมไม่สามารถก้าวต่อไปได้เพราะความกังวล ปากของผมไม่กล้าพูดมันออกไป แม้ว่าจะรู้ตัวว่าตัวเองจะกำลังหนีอยู่

 

 

อย่างไรก็ตามมาร์เองก็รู้สึกหงุดหงิดที่โนโซมุเก็บงำความลับไว้ตัวคนเดียว การฝึกของเขาก็ไม่ได้ดีขึ้นและยังไม่ได้รับความไว้วางใจจากตัวโนโซมุอีก

 

 

สำหรับเขาแล้ว เพื่อนที่ตัวตนเท่เทียมกัน เขาคิดกับโนโซมุแบบนั้นแต่โนโซมุดันคิดต่างออกไป

 

 

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะคิดมากแค่ไหน ความจริงที่ว่าเกิดกำแพงขึ้นระหว่างพวกเขาก็ยังคงชัดเจน

 

「…………」

 

「…………」

 

ความเงียบเกิดขึ้นระหว่างทั้งสอง แม้ว่าทั้งคู่จะห่วงใยกันแต่ก็ไม่ได้มีความไว้วางใจซึ่งกันและกัน

 

「เน่ โนโซมุคุงมีบางอย่างกำลังมา……」

 

เสียงของจินดังก้องระหว่างสองคน โนโซมุรีบหันไปจ้อง

 

「อาาา อะไรงั้นเหรอ?」

 

โนโซมุตอบกลับอย่างเร่งรีบ แต่ถึงแม้จะโล่งใจเล็กน้อยกับบรรยากาศตรงหน้า มาร์เองก็เงียบแต่ว่าความขุ่นเคืองระหว่างทั้งสองก็ยังไม่หายไป

 

「สำหรับตอนนี้เราต้องการทำเท่าที่ทำได้ มาไกลถึงขนาดนี้แล้วก็ต้องสู้ให้สุด」

 

「งั้นเหรอ…เข้าใจแล้ว」

 

จินและเพื่อนๆประกาศกร้าวเช่นนั้น พวกเขาตั้งเป้าให้สูงขึ้นไปอีก สมาชิกทุกคนต่างพยักหน้า

โนโซมุเองก็แสร้งทำตัวสงบนิ่ง พยายามไม่ให้จินและเหล่าพรรคพวกต้องคิดมาก แต่ว่าความขุ่นเคืองระหว่างโนโซมุกับมาร์เองก็ยังไม่หายไป

 

「นั่นสินะ ตอนนี้ก็ต้อง…………หืมมมมมมมม!!」

 

โนโซมุพยายามพูดขณะที่กำลังหาข้ออ้างเบี่ยงเบนความสนใจจากมาร์ แต่ก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างมาจากด้านหลังและเยอะด้วย

สีหน้าของโนโซมุตึงเครียดทันที หากพิจารณาจากการฝึกนี้ จะเห็นได้ว่าศัตรูจะเล่นทุกแง่โดยไม่สนวิธีการ

 

「……โนโซมุคุง?」

 

「? โนโซมุ เกิดอะไรขึ้น…อ่าเข้าใจแล้วล่ะ……」

 

จู่ๆมาร์และจินก็หันไปมองโนโซมุที่ท่าทีเปลี่ยนไป แต่มาร์เองก็สังเกตเห็นสีหน้าของเขาก็เข้าใจได้ในทันที มาร์ยืนถัดจากโนโซมุและถือดาบใหญ่ขึ้นมา

 

「อะ!! ทุกคน! ระวังตัวไว้ด้วย!」

 

เมื่อโนโซมุและมาร์เองก็พร้อมที่จะต่อสู้ จินและเพื่อนๆของเขาเองก็ตระหนักได้ว่ามีศัตรูอยู่ใกล้ๆและก่อตัวกันเป็นขบวน

ในที่สุดพุ่มไม้ตรงหน้าก็สั่นไหวและมีนักเรียนสามคนโผล่ออกมา

 

「……อะไรกัน ตามกลิ่นมางั้นเหรอเนี่ย แสดงว่ามองหาโอกาสตลอดเลยสินะไอ้ชั้นต่ำเอ้ย……」

 

เด็กชายเผ่าหมาป่าสีเงินพูดเช่นนั้นพร้อมกับหูและหางสีเงิน เควิน・อาร์ดินัลและพรรคพวก

ข้างหลังมีผู้ชายถือดาบและหญิงสาวถือหอก น่าจะเป็นทั้งคู่ที่เป็นเด็กห้อง 1

 

「แหม่ แม้แต่สหายเองก็ยังชวนจะอ้วกเสมอเหมือนเคยเลยนะ…อืมรอดมาได้จนถึงตอนนี้ประทับในฝีเท้าพวกแกจริงๆวะ!」

 

เควินหัวเราะเยาะเย้ยพวกโนโซมุ พวกผู้ติดตามเองก็หัวเราะตาม

ระยะการมองเห็นของโนโซมุมองเห็นได้ชัดมากขึ้น มีใบหน้าโกรธจัดของมาร์ปรากฏอยู่ จินและเพื่อนๆต่างแสดงใบหน้าบิดเบี้ยวอาจเป็นเพราะศัตรูตรงหน้า

 

「……แล้วนายละ? เห็นได้ชัดเลยนี่หว่าว่าคนหายไปเยอะเลยนะ」

 

โนโซมุตอกกลับไปเช่นนั้น

เห็นได้ชัดว่าปาร์ตี้ของเควินคนหายไปเยอะมาก หากเทียบกับตอนเริ่มฝึก

โนโซมุไม่รู้ แต่เควินและเพื่อนๆของเขาเองก็เอาชนะเป้าหมายพิเศษมาได้ แต่ในขณะนั้นเองเพื่อนอีกสามคนก็ต้องโดนตัดสิทธิ์ไป หลังจากนั้นอีกคนก็จากไปจำนวนหายไปกว่าครึ่งหนึ่ง

 

「……ไม่ต้องกังวลไปหรอกไอ๊กร๊วก ขยะแบบพวกแกมือเดียวก็พอแล้ว」

 

บางทีเพราะโกรธจัดเลยพูดออกมาด้วยคำพูดงี่เง่าออกมา

 

 

แม้ว่าจะโดนยั่วยุได้ง่าย แต่ก็เป็นแรงค์ A ความสามารถในการกดดันนั้นค่อนข้างต่างกันเลย

 

 

อย่างไรก็ตาม โนโซมุไม่ได้สั่นสะท้านอะไรกับท่าทีเช่นนั้น เดิมทีคู่ต่อสู้ของเขาน่ากลัวกว่านี้เยอะ ทั้งชิโนะ ทั้งรูกาโต้……。

 

 

ดังนั้นโนโซมุรู้สึกว่าศัตรูตรงหน้านั้นเฉยๆมาก

 

 

โนโซมุเหลือบมองจินและพรรคพวกที่อยู่ด้านหลัง ทอมมี่และคามี่ต่างเกร็งเพราะความเครียด แต่จินและแฮมเรียยังคงผ่อนคลายอยู่ โดยเฉพาะแฮมเรียดูผ่อนคลายจนเกินไป

 

 

 

「ชิ! หน้าอย่างแกไอ้คนหน้าห่วยแบบแกทำไมถึงโดนไอริสตามตื้อวะ ข้าที่ทั้งเก่งกว่าและเหนือกว่าทุกด้านทำไมกันวะ……」

 

เควินรู้สึกหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิมหลังจากเห็นโนโซมุและเพื่อนๆ

 

「พวกแกอยู่ไปก็เกะกะวะรีบๆหายไปจากสายตาตรูสักที โดนบดขยี้ไปซะเถอะมึง……」

 

เควินไม่ได้ใช้โชคในการเอาชนะศัตรู อาวุธของเขาคือหมัดและร่างกายของเขา มีสนับมือติดอยู่กับมือทั้งสองข้าง กำปั้นทั้งสองชนกันจนเกิดเสียงดังสนั่น จากนั้นก็ตั้งท่าเตรียมพร้อม

ข้างหลังเควินมีผู้ชายถือดาบและผู้หญิงถือหอกกำลังร่ายเวทย์

 

「…………」

 

โนโซมุยกดาบขึ้นมา มุ่งความสนใจไปที่เควินและศัตรูทางด้านหลัง เขายื่นดาบเล็งไปด้านหน้า

 

 

ถัดจากเขามีมาร์ที่ถือดาบใหญ่และอัดคมดาบวายุไว้ในดาบ

 

 

จิน ทอมมี่ และ คามี่กำลังร่ายเวทย์ร่วมกับแฮมเรีย ซึ่งถือเป็นแนวหลังของโนโซมุ

 

 

 

「แต่ถึงแม้ว่าจะพยายามยังไงผลลัพธ์มันก็ชัดเจนไม่ใช่เหรอวะ หากแกไม่เข้าใกล้ไอริสและตีตัวออกห่างจากเธอ เดี๋ยวตรูจะไว้ชีวิตให้」

 

เควินที่หลงไอริสเข้าเต็มเปา ไม่ชอบโนโซมุที่อยู่ใกล้เธอมากที่สุด

 

 

เควินคิดว่าโนโซมุมันโง่ที่ทิ้งผู้หญิงดีๆอย่างลิซ่าไป และถึงแม้ว่าเขาจะไม่คิดว่าตัวเองจะมีอำนาจมากมายอะไรแต่เขาคิดว่าอย่างน้อยกับไอ้หนอนแมลงพรรคนี้จะสามารถบดขยี้มันจนพอใจเลย

 

「…………」

 

ในทางกลับกันโนโซมุยังคงนิ่งเงียบ คำพูดของเควินไม่ได้เข้าหูเขาเลยแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตามเขายังจดจ้องทุกการเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม

 

 

เควินตระหนักได้ว่าโนโซมุมันไม่เดินไปตามเกมส์ก็โกรธจัดและปลดปล่อยคิออกมาเต็มที่ คิที่ถูกปลดปล่อยออกมากลายเป็นลมกรรโชกแรง

 

 

ครู่ต่อมาทางด้านหลังก็มีพวกที่ร่ายเวทย์ บอลเพลิงและคมมีดวายุลอยมาทางฝั่งโนโซมุ

 

 

ในทางกลับกันจินและคนอื่นๆก็เปิดใช้งานเวทย์ จินและทอมมี่ยิงกระสุนเพลิงส่วนแฮมเรียและคามี่เองก็ยิงหอกน้ำแข็ง

 

 

กระสุนเพลิงและคมดาบวายุเข้าประทะกันหอกน้ำแข็งและบอลเพลิงพุ่งเข้าหากันจนเกิดการระเบิดไปรอบๆ

 

 

 

「เดี๋ยวก่อน เวทย์มนตร์ของสองคนนั่น!」

 

「ชิ! ห้อง 1 งั้นเหรอ!」

 

ผลลัพธ์ที่ได้คือเสมอกัน

 

 

อย่างไรก็ตามอีกฝ่ายไม่รีรอ เควินพุ่งผ่านหมอกควันที่พวยพุ่งเข้ามา ความเร็วของเขาเร็วกว่าไอริสอย่างมาก

 

「เดี๋ยวจะแสดงให้เห็นเองถึงความแตกต่าง! ไอ้สวะเอ้ย!!」

 

โนโซมุใช้ก้าวพริบตาเพื่อสะกัดกั้นเควินที่พุ่งเข้ามา

 

 

เควินขมวดคิ้วที่โนโซมุมาขัด หลังจากโดนขัดเช่นนั้นเขาพยายามต่อยเข้าไปที่โนโซมุด้วยแรงอันเหลือล้น

 

 

ถัดจากหมัดของเควินแล้วเขาหยิบดาบออกมาด้วย โนโซมุเองก็ใช้ก้าวพริบตา ดาบเริงระบำกันหมัดและดาบที่ใกล้เข้ามา

 

「อั่ก!!」

 

พวกเขาฟันผ่านกันไป ไหล่ของโนโซมุกลายเป็นแผลเบิกกว้าง ดาบของเควินที่เสริมพลังมันหนักกว่าที่คาดไว้จึงกันได้ไม่หมด

 

 

อย่างไรก็ตามโนโซมุพุ่งไปด้านหลังเควินด้วยก้าวพริบตา และพยายามฟันดาบไปที่ๆไร้การป้องกัน

 

「ฮ่าาาาาาาาห์!!」

 

อย่างไรก็ตามคมดาบของโนโซมุไปไม่ถึงร่างของเควิน

 

 

เควินกระโดดออกไปและเตะดาบของโนโซมุ นอกจากนี้เขาหมุนตัวและพยายามจะเอาเท้าฟาดหัวของโนโซมุ

 

「ยังไม่หมดแค่นี้หรอกนะ!!」

 

「ชิ!!」

 

อย่างไรก็ตามมาร์พุ่งเข้าหาเควินด้วยคมดาบวายุ เควินจับดาบของมาร์และเหวี่ยงไปทางด้านหลัง

 

 

อย่างไรก็ตามเควินกระโดดหมุนตัวและหล่นลงมาตามปกติและพุ่งเข้าหาโนโซมุต่อ

 

 

โนโซมุและคนอื่นๆเองก็ต่างวิ่ง โนโซมุ มาร์และเควินต่างวิ่งสวนกันไป

 

 

สมาชิกคนอื่นๆก็ยิงเวทย์ใส่กัน

 

 

เมื่อไอริสและคนอื่นๆเริ่มสู้กับลิซ่า ทางฝั่งโนโซมุเองก็กำลังสู้อยู่เช่นกัน

 

 

◇◆◇

 

 

เมื่อพวกโนโซมุเริ่มสู้ สถานที่แห่งนั้นที่เงียบก็มีเสียงดังครึกครื้นอย่างกับจัดงานปาร์ตี้

 

「…………」

 

ในความมืดที่มืดมิด ในห้วงเหวอันไร้ซึ่งแสงสว่างของตะวันและจันทรา มีเพียงแสงประดุจหิ้งห้อยที่ส่องสว่างในที่ต่างๆราวกับแสงดาวยามค่ำคืน

 

 

รอบบริเวณนั้นมีเงามากมายที่เกินความสูงของบุคคลธรรมดาทั่วไปอยู่ หมอนั่นอยู่ ณ ตรงนั้น

 

 

ขณะที่มันกำลังผ่อนคลาย เงาของภูเขาก็เริ่มสั่นไหว

 

 

มันที่หลับไหลมาอย่างยาวนาน

 

 

นอน นอน และก็นอน พูดตรงๆไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหลับไปนานมากแค่ไหนแล้ว

 

「คุรุรูรูรู……」

 

มันหลับจนกว่าจะถึงเวลานั้น และเมื่อถึงเวลานั้น มันจะเริ่มเคลื่อนไหว ต้องการอะไรยังงั้นน่ะเหรอ เพื่อตอบสนองความอยากของตัวมันเอง

 

 

ด้วยเหตุผลเพียงแค่นั้น มันยังคงหลับต่อไป ความอยากและความต้องการภายในตัวของข้า มันไม่ใช่ตัวข้าอีกต่อไปแล้ว……。

 

พอดีต้องดูอาการประมาณ 7 วันหลังจากฉีดวัคซีน +มีเรียนวันอาทิตย์เลยไม่ได้ลงมาตลอด 1 สัปดาห์กว่าๆเลยครับ แต่ว่ากลับมาแล้วนะครับ ;w;

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยนำบางส่วนมาจากนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

บทนำ

สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

เรื่องย่อ

สถาบันโซลมินาติ สถานที่ๆคนหนุ่มสาวจากทั่วทุกดินแดนจะมารวมตัวกันเพื่อต่อยอดความฝันและความหวังของตัวเอง ความทะเยอทะยาน สำหรับคนที่ไม่มีอะไรดีสักด้านนั้นจะถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามถูกปฏิบัติแบบไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมโดยสมบูรณ์

เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่ชั้นอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ข้า โนโซมุ เบลาตี้ ซึ่งอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนในช่วงพักกลางวัน

ข้ามาที่นี่เมื่อสองปีก่อน ออกมาจากบ้านเกิดกับเพื่อนสมัยเด็กสองคนเพื่อมายังที่แห่งนี้

คนแรกคือ เคน โนทิส เป็นเพื่อนที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ ลิซ่า เฮาวน์

สาวสวยผู้มีผมหางม้าสีแดง

เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตและเป็นคนรักของข้า

เธอเป็นคนที่เอาชนะคนอื่นได้เสมอ เธอเป็นเหมือนดั่งตัวร้ายที่คอยต่อต้านกับหัวหน้าหมู่บ้าน

ข้าพบกับเธอก็เมื่อตอนอายุ 8 ขวบ ตอนที่ข้ากำลังตกปลาในแม่น้ำใกล้หมู่บ้าน

「อะ เอ่อ อืม ว่างหรือเปล่า?」

เป็นตอนนั้นเองที่เธอเข้ามาพูดกับข้า

ผมสีแดงตัดสั้น ท่าทางที่ดูมั่นใจ ใบหน้าของข้าค่อยๆร้อนรุ่ม…ข้าตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น

พ่อแม่ของเธออาศัยอยู่ในดินแดนที่ห่างไกลออกไป แต่เมื่อพ่อของเธอเสียชีวิตระหว่างเดินทาง เธอจึงตัดสินใจที่จะตั้งถิ่นฐานที่บ้านเกิดของข้า

ตอนเธอยังเด็กมักจะเป็นเด็กที่ซุกซนและอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ข้าก็ไม่ได้รังเกียจอะไร และเธอไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ

แล้วก็เด็กที่ทำให้เธอผิดหวังมากที่สุดก็คือนายพลกาคิกับผมด้วยเหตุผลบางอย่าง

เมื่อสามปีก่อนข้าสารภาพรักกับเธอเพราะว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

รักแรกที่ข้าชอบมาตลอด

เธอตกใจมากกับการสารภาพรักที่กระทันหันของข้า แต่เธอก็ยอมรับข้าและร้องไห้ทั้งน้ำตา

ตอนนั้นเองข้าจึงตัดสินใจที่จะไปสถาบันโซลมินาติกับเธอเพื่อสนับสนุนความฝันของเธอให้เป็นจริง

มันเป็นแรงบัลดาลใจให้ข้า ความฝันของเธอที่บอกข้าตอนยังเด็ก

「ฉันน่ะอยากจะเห็นโลกที่หลากหลายเหมือนกับคุณพ่อ」

ข้ารู้ว่าเธออยากออกไปท่องโลกกว้างเพราะเธอได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นมาจากมารดาของเธอ

ตอนนั้นเองเป็นตอนที่ข้าตัดสินใจไปที่สถาบันโซลมินาติ

หากคนที่ตัวเองรักอยากทำความฝันให้เป็นจริง ข้าก็ควรจะสนับสนุน

ด้วยคำพูดเช่นนั้นข้าตัดสินใจว่าจะสนับสนุนเธอตลอดมา

เธอกอดข้าทั้งน้ำตาพร้อมกับบอกว่า「ขอบคุณนะ……ฉันดีใจจริงๆ」

ท่ามกลางการหลับกลางวันของข้าก็ได้ยินเสียงระฆังที่ส่งเสียงบอกเวลาว่าหมดเวลาพักกลางวันแล้ว

ข้าลุกขึ้นพร้อมกับบิดตัวด้วยความขี้เกียจพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังห้องเรียน

ถูกบังคับให้ไสหัวไปก็ตั้งหลายครั้ง ตัวข้าที่ไม่สามารถทำคำปฏิญาณนั่นได้

ชั้นเรียนของข้าคือ ชั้นเรียนที่สอง ระดับ 10 เป็นห้องที่ต่ำที่สุดในบรรดาชั้นเรียนที่สอง

ในหมู่พวกนั้นข้าเป็นคนที่อยู่ต่ำสุดเรียกได้ว่าเป็นพวกที่ห่วยของโครตห่วย

เมื่อข้าเข้ามาในชั้นเรียนก็โดนต้อนรับด้วยการหัวเราะเยาะเย้ยเป็นเรื่องปกติ

「ยังจะโผล่หัวมาอีกนะ ไอชั้นต่ำ」

「เมื่อไรมันจะหายๆไปสักทีวะ」

「หวังว่าจะลาออกไปไวๆน้า~」

เสียงที่ดูไร้หัวใจเหล่านั้นเสียดแทงเข้ามาในจิตใจของข้า ข้าทำได้แต่เมินต่อไปและนั่งลงบนเก้าอี้

เมื่อข้านั่งลงก็มีนักเรียนสามคนเข้ามาทางข้า

「แกจะมาทำไม ในเมื่อแกมาที่นี่มันก็ไร้ความหมายอยู่ดีไม่ใช่เหรอไงวะ ไอ้เศษเดนเอ้ย」

มาร์ที่ตัวค่อนข้างใหญ่พูดข่มขู่ข้า

「ยอมแพ้ไปสักทีเหอะวะแกไม่คิดว่ามันเสียเวลาชีวิตบ้างเหรอวะ」

「แกโดนแกล้งขนาดนี้ก็เหมาะกับแกดีนี่ เหมาะสมกับเศษสวะอย่างแก」

พวกนั้นก็ยังคงกรนด่าข้าไม่หยุด

「ช่ายๆ โดนเด็กผู้หญิงหัวแดงที่ท่าทางเหมือนเจ้าหญิงนั่นทิ้งแล้ว ไม่มีอะไรให้แกได้ฝันอีกต่อไปแล้วล่ะ」

พวกนั้นทั้งสามคนยังยืนหัวเราะและพยายามยั่วโมโหข้า ไม่มีใครคิดจะห้ามพวกมัน ในท้ายที่สุดพวกมันก็ไม่ยอมหยุดจนกระทั่งอาจารย์ประจำชั้นเข้ามาในห้อง

ใช่แล้วล่ะ ข้าถูกลิซ่าทิ้ง เธอน่ะเป็นนักเรียนห้อง 1 เลยนะ

ทันทีที่เธอทิ้งข้าไปหลังจากกล่าวลาไม่กี่คำ เธอก็ไม่เคยกลับมาพบข้าอีกเลย

ข้าไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ตั้งแต่นั้นมาเธอก็มองข้าเหมือนเศษสวะ

เป็นเพราะข้าเอาแต่สร้างปัญหายังงั้นเหรอ

ลิซ่าเป็นผู้หญิงที่ถูกขนานนามว่า “เจ้าหญิงผมแดง” เพราะหน้าตาและความสามารถ

ในทางกลับกันตัวข้าที่ไม่มีอะไรดีเด่นหน้าตาบ้านๆ

ตลอดช่วงที่ข้าคบกับเธอ เธอมักจะโดนรังควาญอยู่เสมอ บางทีการที่ข้าโดนทิ้งก็เพราะสร้างความยุ่งยากให้เธออยู่เสมอก็ได้

ข้านั้นไร้ซึ่งเพื่อนและกลายเป็นหมาหัวเน่า

ถึงกระนั้นข้าก็พยายามอยากหนักไม่ละเลยสิ่งต่างๆตามหน้าที่ของตน

สักวันหนึ่งถ้าข้าสามารถรักษาคำสาบานที่ให้ไว้ได้ละก็……….ข้าคิดเช่นนั้น

ในขณะเดียวกันนั้นเองเธอก็ไปคบกับเพื่อนสมัยเด็กที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

เธอดูมีความสุขราวกับเธอรักเขาจริงๆ

ในการฝึกซ้อมเป็นคู่พวกเธอสองคนเข้าขากันได้ดีมาก ข้าไม่มีที่ยืนเคียงข้าเธอเลย

ชั่วโมงที่สอง ในช่วงบ่าย

「เฮ้ออ!」

ด้านข้างของดาบจำลองนั่นถูกขว้างมาจากเครื่องยิงดาบจำลอง

เมื่อดาบจำลองที่ถูกยิงมาถูกปากลับไปและแทงเข้าไปที่คอของตุ๊กตา กลไกนั่นก็จะหยุดทำงานลง

หลังจากคาบบรรยายนี่ก็เป็นภาคฝึกปฏิบัติ

นอกจากสนามฝึกซ้อมแล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น สนามทดลองเวทมนตร์ในสถาบันแห่งนี้และนักเรียนที่สามารถศึกษาเรียนรู้ความสามารถของตนตามสถานที่ต่างๆ

สนามฝึกถูกแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่เพื่อให้นักเรียกจากหลายๆชั้นมาเรียนที่เดียวกันได้

วันนี้เป็นการฝึกการต่อสู้ระหว่างบุคคลและแต่ละคนก็จะได้ต่อสู้กับหุ่นยนต์ที่มีดาบจำลองเป็นคู่ซ้อมทำการต่อสู้แบบอิสระ โดยใส่พลังเวทย์เข้าไปเพื่อให้หุ่นยนต์นั้นทำงาน

อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์สำหรับพวกห้อง 10 นั้นมีคุณภาพแย่และเคลื่อนไหวได้แค่บางส่วน

「อืม ต่อไปจะเป็นการต่อสู้เป็นคู่ เลือกคู่หูได้ตามใจชอบ~」

เมื่ออาจารย์อันริ วาร์ อาจารย์ประจำชั้นของพวกห้อง 10 เรียกออกมา หุ่นยนต์ก็หยุดทำงาน ดังนั้นทุกๆคนก็หยุดและรอการจับคู่

อาจารย์อันริมีผมหยักสีน้ำตาล ดวงตาที่ดูสมวัยและใบหน้าที่ออกไปทางดูดีอย่างมาก

อย่างไรก็ตามอาจารย์คนนี้เป็นบุคคลที่ไม่เหมาะกับโรงเรียนแห่งคุณธรรมแห่งนี้เลยเพราะเขาชอบพูดและทำท่าทางแปลกๆราวกับคนบ้า

เรียกได้ว่าคนที่รับผิดชอบนักเรียนห้อง 10 ถูกโยนมาแบบทิ้งขว้างเลยก็ได้

อย่างไรก็ตามการที่เขาสามารถมาเป็นอาจารย์ได้ก็คงมีความสามารถพอตัว

ในที่สุดการจับคู่ก็ถูกตัดสินและแต่ละฝ่ายต่างเริ่มจำลองการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ของตัวเอง แต่ว่าคู่ต่อสู้ของข้าดันเป็น……。

「เอ่อ สำหรับแกแล้ว น่าเสียดายหน่อยนะ」

เป็นมาร์นั่นเองที่กรนด่าข้าเมื่อตอนบ่าย

「มาเริ่มกันเลยดีกว่า เพราะว่าเศษสวะอย่างแกจะทำให้ชั้นเสียเวลา」

มาร์ดึงดาบใหญ่ออกมาจากด้านหลัง

มาร์เป็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมา ความสามารถของเขานั่นของจริง ถึงอย่างนั้นก็ยังได้มาอยู่ในห้องห้อง 10 เช่นนี้เพราะชื่อเสียงแย่ๆนั่นละ

ผมเองก็ดึงดาบจำลองออกมาด้วยเช่นกัน

อาวุธของข้าเป็นดาบที่มาจากทางเกาะตะวันออก เรียกกันว่าคาตานะ เป็นดาบที่มีความคมเป็นอย่างมาก กล่าวได้ว่ามันสามารถตัดทุกอย่าไงได้หากใช้ได้อย่างชำนาญ

ยังไงก็ตาม มันใช้เทคนิตชั้นสูงและความหายากของมันเลยไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนัก

มันเป็นอาวุธที่เหมาะกับข้าที่สุด สำหรับข้าที่ไร้ซึ่งพลัง

「ถ้าอย่างงั้นละก็ เริ่มได้~~~」

การต่อสู้นั่นเต็มไปด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยจากท่าทางของอาจารย์อันริ

「โฮ่ย่าาาาาาาาาาาห์」

มาร์เหวี่ยงดาบใหญ่พร้อมตะโกนก้อง

ผมป้องกันการโจมตีด้วยคาตานะ

ดาบของมาร์ถูกเบี่ยงวิธีและมันก็ฟาดลงทีพื้น

「ฮ่าๆ!」

ก้าวเข้าไปหลังจากมาร์เปิดช่องว่างเล็งไปที่ต้นคอและพยายามจะเอาสันดาบทุบ

「สายไปละโว้ย!」

มาร์เอาถุงมือที่แขนปกป้องดาบของผมไว้ ดาบเลียนแบบที่ไม่มีความคมของดาบดั้งเดิมเหลืออยู่ก็ถูกป้องกันด้วยถุงมือนั่น

มาร์รุดหน้าเข้ามาพร้อมกับยกถุงมือขึ้นป้องกันการโจมตี แต่ข้าก็ก้มลงเพื่อหลบการโจมตี

ข้าพยายามจะโจมตีไปอีกรอบ แต่มาร์นั้นเหวี่ยงดาบใหญ่มาด้วยมือข้างเดียว

ข้าถูกบังคับให้ถอยและกลับไปตั้งหลักใหม่

มาร์ที่ฟาดดาบใหญ่จนพื้นแตกกระจายพยายามมองระหว่างข้าและดาบใหญ่ของมันเอง……。

「อยากโดนหั่นเป็นชิ้นๆเหรอไงวะ」

มาร์พูดเช่นนั้นพร้อมกับรังสีกดดันที่เพิ่มมากขึ้น

“คิ”

เป็นสกิลของทางฝั่งตะวันออกที่จะเพิ่มพลังให้แก่ผู้ใช้งานให้เหนือขีดจำกัดยิ่งขึ้นไป

มาร์พุ่งเข้ามาในคราวเดียว ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นั่นละคือผลลัพธ์จากการใช้ คิ

ราวกับจะจับเหยื่อตรงหน้าฟาดดาบใหญ่นั่นลงมาในทีเดียว

ข้าเองก็ใช้ “คิ”เช่นกันเพื่อหลบการโจมตีของดาบใหญ่นั่น เสียงของเหล็กดังกระทบกันสนั่นหู

「เหอะ!ลังเลอยู่งั้นเหรอ」

มาร์ที่รู้สึกหงุดหงิดนั่นดูมีท่าทีลังเลจึงไม่สามารถจะตัดสินใจจบการโจมตีในทีเดียวได้

เขาดึงดาบใหญ่ที่จมลงไปบนพื้นและเริ่มที่จะฟันมันมาอีกครั้ง

เขาฟาดฟันดาบใหญ่ไปรอบๆด้วยเรี่ยวแรงอันมหาศาลจาก “คิ”

เสียงของเหล็กปะทะกันดังสนั่นไปทั่วบ่งบอกถึงการต่อสู้อันดุเดือด แต่ว่ามีฝ่ายเดียวที่ได้เปรียบ

การเสริมพลังกายของมาร์มีพละกำลังมากกว่าข้า แต่ผลของการเสริมพลังกายของข้าเองก็ได้ผลเพียงครึ่งเดียวด้วยความสามารถของข้า

มาร์มันเป็นคนเก่งแต่เพราะทำแต่เรื่องแย่ๆเลยได้มาอยู่ในห้อง 10

ในทางตรงกันข้ามแม้หมอนั่นจะมีความสามารถสูง แต่มาร์มันกลับพอใจที่จะกดขี่คนที่ต่ำกว่านั่นมันโครตจะแย่

เทคนิคดาบชั้นสูงของมาร์ไม่สามารถใช้จัดการกับโนโซมุตามปกติได้ แต่ว่าพลังกายของโนโซมุที่ได้รับการเสริมแบบครึ่งๆกลางๆมันก็พอเป็นไปได้

พลังที่ได้มานั่นทำให้พอฟัดพอเหวี่ยงกับดาบของโจรสลัดเท่านั้นเอง

「แหลกไปซะเหอะมึง!!」

บางทีอาจจะเป็นเพราะข้าโดนกดดันจนถูกบดขยี้ในพริบตา แต่ว่าข้าก็กันการโจมตีนั่นได้ยิ่งทำให้มาร์มันหงุดหงิดจนพละกำลังมันเพิ่มมากขึ้นไปอีก

「เหอะ คิดว่าจะบดขยี้ข้าได้ง่ายๆงั้นเหรอ!」

ข้ากัดฟันแน่นเพื่อที่จะไม่เดินไปตามเกมส์ของศัตรู

แม้ว่าพลังในการโจมตีจะเพิ่มขึ้น แต่การโจมตีของมันก็ซ้ำซากและจำเจ ทำให้รับมือได้ไม่ยากเย็น

อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถสวนกลับได้ทำได้เพียงแค่ยื้อเท่านั้น

และถ้าโต้กลับไม่ได้ผลมันก็รู้ๆกันอยู่

ในที่สุดก็มาถึงขีดจำกัด

ข้าไม่สามารถรับการโจมตีของมาร์ได้อีกต่อไป การป้องกันของข้าถูกทำลายลงและไม่มีเวลามาตั้งท่าใหม่ ตอนนั้นเองทีข้าถูกดาบใหญ่นั่นฟาดเข้ามากระแทกกับคาตานะของข้าจนกระเด็น

「จะเหนียวได้สักแค่ไหนกันเชียววะ!」

รูปร่างของข้าบิดเบี้ยวเพราะการโจมตีนั่น ข้าตัวกระเด็นจนตัวไปกระแทกกับกำแพงของสนามฝึกซ้อม

ผลกระทบนั่นทำให้ข้าหายใจติดขัดและการมองเห็นของข้าก็มืดดับลง

「เป็นแค่เศษสวะแท้ๆ แต่ยังกล้าขัดขืน โดนดีไปซะเหอะมึง」

ข้าหมดสติไปพรัอมกับคำพูดของมาร์

「โอ้ยยยย เจ็บแหะ!」

ข้าลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับสติที่พร่ามัวลุกขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดไปทั้งตัว

ข้าก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องพยาบาล

「เอ้าๆ รู้สึกตัวแล้วไม่ใช่เหรอไงเนี่ย?」

ผู้หญิงสวมชุดโค้ทสีขาวพร้อมกับใส่แว่นนั่นกำลังทำงานอยู่บนโต๊ะพยาบาล

ชื่อของเธอคือนอร์น อัลทิน่า เป็นหมอประจำโรงเรียนที่สวยเอามากๆ

เธอเดินมาทางนี้และขยับนิ้วมาตรงหน้าผมเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกาย

「อืมม ดูจากสภาพแล้วสติยังคงดีอยู่ แล้วรู้สึกปวดตรงไหนบ้างรึเปล่า?」

「ข้าปวดหลังนิดหน่อยและหัวเองก็ยังคงมึนๆ แต่ว่าไม่มีตรงไหนผิดปกติแล้วล่ะ」

「อืมมเข้าใจแล้ว ฉันทายาไปที่หลังของนายแล้วล่ะ แต่ถ้ารู้สึกเจ็บหรือปวดตรงไหนก็มาได้ตลอดเวลานะ มันจะดีกว่านะที่มาหาฉันมากกว่าที่จะทนเจ็บกับบาดแผลนั่น」


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท