พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” – ตอนที่ 83

ตอนที่ 83

สกิลคิทั้งหลาย(ของเหล่าตัวเอก)

 

 

โนโซมุ・เบลาตี้

 

 

แฟนท่อม(幻無)

 

 

การฟันดาบออกไปด้วยคิที่ถูกบีบอัดจนถึงขีดสุด ใช้ร่วมกับการชักดาบออกมาเท่านั้น

 

 

เมื่อรวมใบมีดที่ละเอียดมากๆและเร่งความเร็วของดาบมันเป็นเรื่องยากที่จะมองเห็นคมดาบที่ปล่อยออกไป

 

 

พลังในการตัดสูงมากและปริมาณพลังงานที่ใช้ไม่เยอะเมื่อเทียบกับพลังกาย

 

 

เป็นสกิลที่ช่วยชีวิตโนโซมุมาแล้วหลายครั้ง ถือว่าเป็นสกิลที่น่าไว้ใจเป็นที่สุด

 

 

แฟนท่อม-หวนคืน-(幻無-回帰-)

 

 

คมดาบที่ฟันออกไปด้วยดาบ และดาบนั้นจะฟันย้อนกลับมา

 

 

เนื่องจากมันอยู่ในแขนงเดียวกับแฟนท่อม ที่ปล่อยครั้งเดียวก็สามารถทำลายร่างของศัตรูได้ลึกมากยิ่งขึ้น

 

 

พลังของมันที่ปล่อยในครั้งเดียวเทียบเท่ากับแฟนท่อมทั่วไป

 

 

แฟนท่อม-บทสุดท้าย-(幻無-纏-)

 

 

ต่างจากแฟนท่อมทั่วไปที่จะยิงใบมีดออกไป มันเป็นสกิลที่อัดคิลงไปในดาบ

 

 

มันสามารถรักษาพลังตัดที่สูงส่งซึ่งเป็นลักษณะเด่นของแฟนท่อมได้เป็นระยะเวลานาน แต่ต้องใช้คิจำนวนมากและเทคนิคการควบคุมที่หนาแน่น

 

 

แน่นอนหากปลดปล่อยใบมีดที่แนบเอาไว้ สกิลจะถูกยกเลิกทันที

 

 

นอกจากนี้หากเสียสมาธิเพียงเสี้ยววิมันจะปล่อยออกเองตามธรรมชาติ

 

 

แฟนท่อม-ชั่วพริบตา-(幻無-閃-)

 

 

เป็นสกิลลึกลับสำหรับโนโซมุ

 

 

สมาธิและการควบคุมคิที่สูงซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของวิชาดาบที่เขาใช้เหนือสิ่งอื่นใดการควบคุมคิโดยใช้จิตใจต้องไม่ลังเล

 

 

เพื่อให้สอดคล้องกับการทำงานทั่วทั้งร่างกายของกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อที่เสริมพลังกายจะฉีดอัดอากาศให้ถึงขีดจำกัด

 

 

นอกจากนี้สามารถทำซ้ำโดยการเสริมความแข็งแกร่งเข้าไปและเชื่อมมันด้วยคิ สกิลนี้ถือเป็น “สกิลที่ดีที่สุดที่สามารถใช้ได้ในตอนนี้”

 

 

อย่างไรก็ตามมันเป็นดาบสองคม ซึ่งปฏิกริยาหลังเสริมความแข็งแกร่งจะสะท้อนเข้าตัว หากจิตใจและร่างกายถูกรบกวนเพียงเล็กน้อยจะถูกยกเลิกในทันที

 

 

ปัดฝุ่น(塵断)

 

 

ใบมีดที่ถูกปล่อยออกมาเพื่อตอบสนองต่อการฟันนั้นแยกออกเป็นเข็มนับไม่ถ้วนและระเบิดไปตามเส้นทางของวิถีดาบที่วาดไป ทำให้เกิดเทคนิคที่ตึงร่างกายของคู่ต่อสู้เอาไว้

 

 

ทะลวงแกนกลาง(芯穿ち)

 

 

เป็นสกิลผสมระหว่างปัดฝุ่นและแฟนท่อม

 

 

ใบมีดแฟนท่อมที่ถูกใส่เข้าไปในร่างของคู่ต่อสู้และเมื่อมันเจาะทะลุเข้าไปได้ ปัดฝุ่นจะทำงาน เป็นสกิลสุดอันตรายที่จะทำลายร่างการคู่ต่อสู้จากภายในด้วยใบมีดระเบิดมหาศาล

 

 

ขาดสะบั้น(破振打ち)

 

 

เทคนิคที่เจาะภายในร่างกายคู่ต่อสู้จากการกระแทกก้นฝักดาบใส่คู่ต่อสู้ขณะส่งดาบไปที่ฝัก

 

 

แม้ว่าจะสวมชุดเกราะหรืออะไรก็ตาม ก็ยากที่จะป้องกันเว้นแต่จะใช้บาเรียเวทย์ป้องกัน

 

 

 

 

ปืนใหญ่(発振)

 

 

เทคนิคคลื่นกระแทกแทรกซึมเข้าไปในร่างกายของคู่ต่อสู้โดยการกระแทกด้วยการบิดกล้ามเนื้อทั้งตัวขณะที่เข้าสัมผัสอย่างใกล้ชิด

 

 

มันจัดอยู่ในวิชา “ขาดสะบั้น” เป็นประเภทดาบเจาะเข้าภายใน แต่นี่เป็นวิชาของชาวยิวที่บริสุทธ์และไม่สนใจสิ่งใด

 

 

ระเบิดทำลายล้าง(滅光衝)

 

 

สกิล คิ ที่ฟาดหมัดลงไปที่พื้นเพื่อเทพลังคิลงไปและปล่อยพลังคิไปที่เท้าคู่ต่อสู้และพัดศัตรูขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกับบดขยี้พวกมัน

 

 

มีเอฟเฟคหลากหลายและพลังทำลายล้างสูงและเนื่องจากมีลักษณะเฉพาะที่อากาศไหลลงสู่พื้น จึงค่อนข้างยืดหยุ่นในการทำลายสิ่งรอบข้างหรือสามารถจำกัดเอฟเฟคให้มันแคบลงได้

 

 

อย่างไรก็ตามมันใช้พลังคิเป็นจำนวนมาก และหากโนโซมุไม่ได้ปลดพันธนาการใช้ทีเดียวหมดก๊อก

 

 

 

 

คลื่นแห่งชีวิต(輪廻回天)

 

 

สกิลหายากที่เรียกว่าเป็นพิธีกรรมของยิวยิตสู

 

 

ศิลปะการต่อสู้ที่เปิดใช้เป็นแบบพิธีกรรมใช้งานเวทย์เฉพาะที่โดยเริ่มการโจมตีโดยใช้รวมกับพิธีกรรมบางประเภท

 

 

เทคนิคนี้รวมพลังเวทย์ของสภาพแวดล้อมและยังคงร่ายเวทย์เสริมความแข็งแกร่งทางกายภาพกับผู้ร่าย

 

 

ยิ่งร่ายรำมากเท่าไรยิ่งมีพลังมากขึ้นเท่านั้น แต่เนื่องจากมันยึดติดกับ “ประเภท”จึงมีความเสียเปรียบหากโดนตรวจพบ

 

 

พัดใบบัว(扇帆蓮)

 

 

สกิลคิที่สร้างฟิลม์ทรงกลมที่ทำจากคิ มันเป็นไปตามวิถีดาบที่วาดเป็นวงกลม และจะจับการโจมตีของศัตรูเอาไว้

 

 

มันกันการโจมตีได้ทุกชนิดเพราะมีความยืดหยุ่น

 

 

อย่างไรก็ตามเพื่อรับพลังของศัตรูมาจำเป็นต้องใช้คิจำนวนหนึ่ง และเนื่องจากมันเป็นเหมือนกับฟิลม์จึงไม่ได้ผลกับสกิลที่มีการทะลวงสูง

 

 

นอกจากนี้เวลาในการรักษามันยังมีจำกัด กล่าวได้ว่าเป็นสกิลที่ใช้ตามสถานการณ์

 

 

ก้าวพริบตา-ดาบเริงระบำ-(瞬脚-曲舞-)

 

 

สกิลที่ใช้การบิดลำตัวจากไหล่ถึงเอวได้อย่างแม่นยำ เพื่อให้สามารถเคลื่อนไหวซับซ้อนได้บนขาของเขาที่วิ่งเป็นเส้นตรง

 

 

เป็นสกิลขั้นสูงที่ต้องใช้การเคลื่อนไหวละเอียดอ่อน และถึงแม้จะเปลี่ยนทิศทางได้อย่างอิสระโดยไม่ลดความเร็วลงเลย แต่ถ้าเสียการทรงตัว ก็กระแทกทิ่มพื้นได้

 

 

มาร์・ดิกเก้น

 

 

 

คมดาบวายุ(塵風刃)

 

 

พลังคิที่รวบรวมเป็นใบมีดสายลมที่สร้างขึ้นด้วยความระมัดระวัง

 

 

แม้ว่าจะป้องกันการโจมตีพิเศษได้ ใบมีดสายลมก็จะสับร่างของศัตรู

 

 

 

ค้อนสะบั้นปฐพี(裂塵鎚)

 

 

ใบมีดลมที่เปิดจากการใช้คมดาบวายุ

 

 

จะพัดพาคู่ต่อสู้ออกไปในขณะที่สับมันลงไป

 

 

อย่างไรก็ตามเมื่อใช้แล้ว จะไม่สามารถใช้งานได้อีกจนกว่าจะสร้างคมดาบวายุขึ้นมาใหม่

 

 

 

ฝ่ามือวายุ(風塊掌)

 

 

ก็เหมือนกับคมดาบวายุแต่ใช้ที่กำปั้นแทน

 

 

ด้วยการปรับแรงลม สามารถพัดพาคู่ต่อสู้ด้วยใบมีดลมที่ห่อหุ้มกำปั้นไม่เพียงใช้ได้แค่คิแต่ยังใช้เวทย์ผสานได้ด้วย

 

 

 

 

สกิลผสาน(魔気併用術)

 

 

สกิลที่เพิ่มประสิทธิภาพด้วยเวทย์และคิอย่างมากซึ่งเดิมเป็นขั้วพลังอันแตกต่าง

 

 

สามารถระเบิดพลังได้ชั่วขณะ แต่จำเป็นต้องใช้การควบคุมที่หนักแน่น

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยนำบางส่วนมาจากนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

บทนำ

สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

เรื่องย่อ

สถาบันโซลมินาติ สถานที่ๆคนหนุ่มสาวจากทั่วทุกดินแดนจะมารวมตัวกันเพื่อต่อยอดความฝันและความหวังของตัวเอง ความทะเยอทะยาน สำหรับคนที่ไม่มีอะไรดีสักด้านนั้นจะถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามถูกปฏิบัติแบบไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมโดยสมบูรณ์

เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่ชั้นอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ข้า โนโซมุ เบลาตี้ ซึ่งอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนในช่วงพักกลางวัน

ข้ามาที่นี่เมื่อสองปีก่อน ออกมาจากบ้านเกิดกับเพื่อนสมัยเด็กสองคนเพื่อมายังที่แห่งนี้

คนแรกคือ เคน โนทิส เป็นเพื่อนที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ ลิซ่า เฮาวน์

สาวสวยผู้มีผมหางม้าสีแดง

เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตและเป็นคนรักของข้า

เธอเป็นคนที่เอาชนะคนอื่นได้เสมอ เธอเป็นเหมือนดั่งตัวร้ายที่คอยต่อต้านกับหัวหน้าหมู่บ้าน

ข้าพบกับเธอก็เมื่อตอนอายุ 8 ขวบ ตอนที่ข้ากำลังตกปลาในแม่น้ำใกล้หมู่บ้าน

「อะ เอ่อ อืม ว่างหรือเปล่า?」

เป็นตอนนั้นเองที่เธอเข้ามาพูดกับข้า

ผมสีแดงตัดสั้น ท่าทางที่ดูมั่นใจ ใบหน้าของข้าค่อยๆร้อนรุ่ม…ข้าตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น

พ่อแม่ของเธออาศัยอยู่ในดินแดนที่ห่างไกลออกไป แต่เมื่อพ่อของเธอเสียชีวิตระหว่างเดินทาง เธอจึงตัดสินใจที่จะตั้งถิ่นฐานที่บ้านเกิดของข้า

ตอนเธอยังเด็กมักจะเป็นเด็กที่ซุกซนและอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ข้าก็ไม่ได้รังเกียจอะไร และเธอไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ

แล้วก็เด็กที่ทำให้เธอผิดหวังมากที่สุดก็คือนายพลกาคิกับผมด้วยเหตุผลบางอย่าง

เมื่อสามปีก่อนข้าสารภาพรักกับเธอเพราะว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

รักแรกที่ข้าชอบมาตลอด

เธอตกใจมากกับการสารภาพรักที่กระทันหันของข้า แต่เธอก็ยอมรับข้าและร้องไห้ทั้งน้ำตา

ตอนนั้นเองข้าจึงตัดสินใจที่จะไปสถาบันโซลมินาติกับเธอเพื่อสนับสนุนความฝันของเธอให้เป็นจริง

มันเป็นแรงบัลดาลใจให้ข้า ความฝันของเธอที่บอกข้าตอนยังเด็ก

「ฉันน่ะอยากจะเห็นโลกที่หลากหลายเหมือนกับคุณพ่อ」

ข้ารู้ว่าเธออยากออกไปท่องโลกกว้างเพราะเธอได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นมาจากมารดาของเธอ

ตอนนั้นเองเป็นตอนที่ข้าตัดสินใจไปที่สถาบันโซลมินาติ

หากคนที่ตัวเองรักอยากทำความฝันให้เป็นจริง ข้าก็ควรจะสนับสนุน

ด้วยคำพูดเช่นนั้นข้าตัดสินใจว่าจะสนับสนุนเธอตลอดมา

เธอกอดข้าทั้งน้ำตาพร้อมกับบอกว่า「ขอบคุณนะ……ฉันดีใจจริงๆ」

ท่ามกลางการหลับกลางวันของข้าก็ได้ยินเสียงระฆังที่ส่งเสียงบอกเวลาว่าหมดเวลาพักกลางวันแล้ว

ข้าลุกขึ้นพร้อมกับบิดตัวด้วยความขี้เกียจพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังห้องเรียน

ถูกบังคับให้ไสหัวไปก็ตั้งหลายครั้ง ตัวข้าที่ไม่สามารถทำคำปฏิญาณนั่นได้

ชั้นเรียนของข้าคือ ชั้นเรียนที่สอง ระดับ 10 เป็นห้องที่ต่ำที่สุดในบรรดาชั้นเรียนที่สอง

ในหมู่พวกนั้นข้าเป็นคนที่อยู่ต่ำสุดเรียกได้ว่าเป็นพวกที่ห่วยของโครตห่วย

เมื่อข้าเข้ามาในชั้นเรียนก็โดนต้อนรับด้วยการหัวเราะเยาะเย้ยเป็นเรื่องปกติ

「ยังจะโผล่หัวมาอีกนะ ไอชั้นต่ำ」

「เมื่อไรมันจะหายๆไปสักทีวะ」

「หวังว่าจะลาออกไปไวๆน้า~」

เสียงที่ดูไร้หัวใจเหล่านั้นเสียดแทงเข้ามาในจิตใจของข้า ข้าทำได้แต่เมินต่อไปและนั่งลงบนเก้าอี้

เมื่อข้านั่งลงก็มีนักเรียนสามคนเข้ามาทางข้า

「แกจะมาทำไม ในเมื่อแกมาที่นี่มันก็ไร้ความหมายอยู่ดีไม่ใช่เหรอไงวะ ไอ้เศษเดนเอ้ย」

มาร์ที่ตัวค่อนข้างใหญ่พูดข่มขู่ข้า

「ยอมแพ้ไปสักทีเหอะวะแกไม่คิดว่ามันเสียเวลาชีวิตบ้างเหรอวะ」

「แกโดนแกล้งขนาดนี้ก็เหมาะกับแกดีนี่ เหมาะสมกับเศษสวะอย่างแก」

พวกนั้นก็ยังคงกรนด่าข้าไม่หยุด

「ช่ายๆ โดนเด็กผู้หญิงหัวแดงที่ท่าทางเหมือนเจ้าหญิงนั่นทิ้งแล้ว ไม่มีอะไรให้แกได้ฝันอีกต่อไปแล้วล่ะ」

พวกนั้นทั้งสามคนยังยืนหัวเราะและพยายามยั่วโมโหข้า ไม่มีใครคิดจะห้ามพวกมัน ในท้ายที่สุดพวกมันก็ไม่ยอมหยุดจนกระทั่งอาจารย์ประจำชั้นเข้ามาในห้อง

ใช่แล้วล่ะ ข้าถูกลิซ่าทิ้ง เธอน่ะเป็นนักเรียนห้อง 1 เลยนะ

ทันทีที่เธอทิ้งข้าไปหลังจากกล่าวลาไม่กี่คำ เธอก็ไม่เคยกลับมาพบข้าอีกเลย

ข้าไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ตั้งแต่นั้นมาเธอก็มองข้าเหมือนเศษสวะ

เป็นเพราะข้าเอาแต่สร้างปัญหายังงั้นเหรอ

ลิซ่าเป็นผู้หญิงที่ถูกขนานนามว่า “เจ้าหญิงผมแดง” เพราะหน้าตาและความสามารถ

ในทางกลับกันตัวข้าที่ไม่มีอะไรดีเด่นหน้าตาบ้านๆ

ตลอดช่วงที่ข้าคบกับเธอ เธอมักจะโดนรังควาญอยู่เสมอ บางทีการที่ข้าโดนทิ้งก็เพราะสร้างความยุ่งยากให้เธออยู่เสมอก็ได้

ข้านั้นไร้ซึ่งเพื่อนและกลายเป็นหมาหัวเน่า

ถึงกระนั้นข้าก็พยายามอยากหนักไม่ละเลยสิ่งต่างๆตามหน้าที่ของตน

สักวันหนึ่งถ้าข้าสามารถรักษาคำสาบานที่ให้ไว้ได้ละก็……….ข้าคิดเช่นนั้น

ในขณะเดียวกันนั้นเองเธอก็ไปคบกับเพื่อนสมัยเด็กที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

เธอดูมีความสุขราวกับเธอรักเขาจริงๆ

ในการฝึกซ้อมเป็นคู่พวกเธอสองคนเข้าขากันได้ดีมาก ข้าไม่มีที่ยืนเคียงข้าเธอเลย

ชั่วโมงที่สอง ในช่วงบ่าย

「เฮ้ออ!」

ด้านข้างของดาบจำลองนั่นถูกขว้างมาจากเครื่องยิงดาบจำลอง

เมื่อดาบจำลองที่ถูกยิงมาถูกปากลับไปและแทงเข้าไปที่คอของตุ๊กตา กลไกนั่นก็จะหยุดทำงานลง

หลังจากคาบบรรยายนี่ก็เป็นภาคฝึกปฏิบัติ

นอกจากสนามฝึกซ้อมแล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น สนามทดลองเวทมนตร์ในสถาบันแห่งนี้และนักเรียนที่สามารถศึกษาเรียนรู้ความสามารถของตนตามสถานที่ต่างๆ

สนามฝึกถูกแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่เพื่อให้นักเรียกจากหลายๆชั้นมาเรียนที่เดียวกันได้

วันนี้เป็นการฝึกการต่อสู้ระหว่างบุคคลและแต่ละคนก็จะได้ต่อสู้กับหุ่นยนต์ที่มีดาบจำลองเป็นคู่ซ้อมทำการต่อสู้แบบอิสระ โดยใส่พลังเวทย์เข้าไปเพื่อให้หุ่นยนต์นั้นทำงาน

อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์สำหรับพวกห้อง 10 นั้นมีคุณภาพแย่และเคลื่อนไหวได้แค่บางส่วน

「อืม ต่อไปจะเป็นการต่อสู้เป็นคู่ เลือกคู่หูได้ตามใจชอบ~」

เมื่ออาจารย์อันริ วาร์ อาจารย์ประจำชั้นของพวกห้อง 10 เรียกออกมา หุ่นยนต์ก็หยุดทำงาน ดังนั้นทุกๆคนก็หยุดและรอการจับคู่

อาจารย์อันริมีผมหยักสีน้ำตาล ดวงตาที่ดูสมวัยและใบหน้าที่ออกไปทางดูดีอย่างมาก

อย่างไรก็ตามอาจารย์คนนี้เป็นบุคคลที่ไม่เหมาะกับโรงเรียนแห่งคุณธรรมแห่งนี้เลยเพราะเขาชอบพูดและทำท่าทางแปลกๆราวกับคนบ้า

เรียกได้ว่าคนที่รับผิดชอบนักเรียนห้อง 10 ถูกโยนมาแบบทิ้งขว้างเลยก็ได้

อย่างไรก็ตามการที่เขาสามารถมาเป็นอาจารย์ได้ก็คงมีความสามารถพอตัว

ในที่สุดการจับคู่ก็ถูกตัดสินและแต่ละฝ่ายต่างเริ่มจำลองการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ของตัวเอง แต่ว่าคู่ต่อสู้ของข้าดันเป็น……。

「เอ่อ สำหรับแกแล้ว น่าเสียดายหน่อยนะ」

เป็นมาร์นั่นเองที่กรนด่าข้าเมื่อตอนบ่าย

「มาเริ่มกันเลยดีกว่า เพราะว่าเศษสวะอย่างแกจะทำให้ชั้นเสียเวลา」

มาร์ดึงดาบใหญ่ออกมาจากด้านหลัง

มาร์เป็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมา ความสามารถของเขานั่นของจริง ถึงอย่างนั้นก็ยังได้มาอยู่ในห้องห้อง 10 เช่นนี้เพราะชื่อเสียงแย่ๆนั่นละ

ผมเองก็ดึงดาบจำลองออกมาด้วยเช่นกัน

อาวุธของข้าเป็นดาบที่มาจากทางเกาะตะวันออก เรียกกันว่าคาตานะ เป็นดาบที่มีความคมเป็นอย่างมาก กล่าวได้ว่ามันสามารถตัดทุกอย่าไงได้หากใช้ได้อย่างชำนาญ

ยังไงก็ตาม มันใช้เทคนิตชั้นสูงและความหายากของมันเลยไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนัก

มันเป็นอาวุธที่เหมาะกับข้าที่สุด สำหรับข้าที่ไร้ซึ่งพลัง

「ถ้าอย่างงั้นละก็ เริ่มได้~~~」

การต่อสู้นั่นเต็มไปด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยจากท่าทางของอาจารย์อันริ

「โฮ่ย่าาาาาาาาาาาห์」

มาร์เหวี่ยงดาบใหญ่พร้อมตะโกนก้อง

ผมป้องกันการโจมตีด้วยคาตานะ

ดาบของมาร์ถูกเบี่ยงวิธีและมันก็ฟาดลงทีพื้น

「ฮ่าๆ!」

ก้าวเข้าไปหลังจากมาร์เปิดช่องว่างเล็งไปที่ต้นคอและพยายามจะเอาสันดาบทุบ

「สายไปละโว้ย!」

มาร์เอาถุงมือที่แขนปกป้องดาบของผมไว้ ดาบเลียนแบบที่ไม่มีความคมของดาบดั้งเดิมเหลืออยู่ก็ถูกป้องกันด้วยถุงมือนั่น

มาร์รุดหน้าเข้ามาพร้อมกับยกถุงมือขึ้นป้องกันการโจมตี แต่ข้าก็ก้มลงเพื่อหลบการโจมตี

ข้าพยายามจะโจมตีไปอีกรอบ แต่มาร์นั้นเหวี่ยงดาบใหญ่มาด้วยมือข้างเดียว

ข้าถูกบังคับให้ถอยและกลับไปตั้งหลักใหม่

มาร์ที่ฟาดดาบใหญ่จนพื้นแตกกระจายพยายามมองระหว่างข้าและดาบใหญ่ของมันเอง……。

「อยากโดนหั่นเป็นชิ้นๆเหรอไงวะ」

มาร์พูดเช่นนั้นพร้อมกับรังสีกดดันที่เพิ่มมากขึ้น

“คิ”

เป็นสกิลของทางฝั่งตะวันออกที่จะเพิ่มพลังให้แก่ผู้ใช้งานให้เหนือขีดจำกัดยิ่งขึ้นไป

มาร์พุ่งเข้ามาในคราวเดียว ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นั่นละคือผลลัพธ์จากการใช้ คิ

ราวกับจะจับเหยื่อตรงหน้าฟาดดาบใหญ่นั่นลงมาในทีเดียว

ข้าเองก็ใช้ “คิ”เช่นกันเพื่อหลบการโจมตีของดาบใหญ่นั่น เสียงของเหล็กดังกระทบกันสนั่นหู

「เหอะ!ลังเลอยู่งั้นเหรอ」

มาร์ที่รู้สึกหงุดหงิดนั่นดูมีท่าทีลังเลจึงไม่สามารถจะตัดสินใจจบการโจมตีในทีเดียวได้

เขาดึงดาบใหญ่ที่จมลงไปบนพื้นและเริ่มที่จะฟันมันมาอีกครั้ง

เขาฟาดฟันดาบใหญ่ไปรอบๆด้วยเรี่ยวแรงอันมหาศาลจาก “คิ”

เสียงของเหล็กปะทะกันดังสนั่นไปทั่วบ่งบอกถึงการต่อสู้อันดุเดือด แต่ว่ามีฝ่ายเดียวที่ได้เปรียบ

การเสริมพลังกายของมาร์มีพละกำลังมากกว่าข้า แต่ผลของการเสริมพลังกายของข้าเองก็ได้ผลเพียงครึ่งเดียวด้วยความสามารถของข้า

มาร์มันเป็นคนเก่งแต่เพราะทำแต่เรื่องแย่ๆเลยได้มาอยู่ในห้อง 10

ในทางตรงกันข้ามแม้หมอนั่นจะมีความสามารถสูง แต่มาร์มันกลับพอใจที่จะกดขี่คนที่ต่ำกว่านั่นมันโครตจะแย่

เทคนิคดาบชั้นสูงของมาร์ไม่สามารถใช้จัดการกับโนโซมุตามปกติได้ แต่ว่าพลังกายของโนโซมุที่ได้รับการเสริมแบบครึ่งๆกลางๆมันก็พอเป็นไปได้

พลังที่ได้มานั่นทำให้พอฟัดพอเหวี่ยงกับดาบของโจรสลัดเท่านั้นเอง

「แหลกไปซะเหอะมึง!!」

บางทีอาจจะเป็นเพราะข้าโดนกดดันจนถูกบดขยี้ในพริบตา แต่ว่าข้าก็กันการโจมตีนั่นได้ยิ่งทำให้มาร์มันหงุดหงิดจนพละกำลังมันเพิ่มมากขึ้นไปอีก

「เหอะ คิดว่าจะบดขยี้ข้าได้ง่ายๆงั้นเหรอ!」

ข้ากัดฟันแน่นเพื่อที่จะไม่เดินไปตามเกมส์ของศัตรู

แม้ว่าพลังในการโจมตีจะเพิ่มขึ้น แต่การโจมตีของมันก็ซ้ำซากและจำเจ ทำให้รับมือได้ไม่ยากเย็น

อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถสวนกลับได้ทำได้เพียงแค่ยื้อเท่านั้น

และถ้าโต้กลับไม่ได้ผลมันก็รู้ๆกันอยู่

ในที่สุดก็มาถึงขีดจำกัด

ข้าไม่สามารถรับการโจมตีของมาร์ได้อีกต่อไป การป้องกันของข้าถูกทำลายลงและไม่มีเวลามาตั้งท่าใหม่ ตอนนั้นเองทีข้าถูกดาบใหญ่นั่นฟาดเข้ามากระแทกกับคาตานะของข้าจนกระเด็น

「จะเหนียวได้สักแค่ไหนกันเชียววะ!」

รูปร่างของข้าบิดเบี้ยวเพราะการโจมตีนั่น ข้าตัวกระเด็นจนตัวไปกระแทกกับกำแพงของสนามฝึกซ้อม

ผลกระทบนั่นทำให้ข้าหายใจติดขัดและการมองเห็นของข้าก็มืดดับลง

「เป็นแค่เศษสวะแท้ๆ แต่ยังกล้าขัดขืน โดนดีไปซะเหอะมึง」

ข้าหมดสติไปพรัอมกับคำพูดของมาร์

「โอ้ยยยย เจ็บแหะ!」

ข้าลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับสติที่พร่ามัวลุกขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดไปทั้งตัว

ข้าก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องพยาบาล

「เอ้าๆ รู้สึกตัวแล้วไม่ใช่เหรอไงเนี่ย?」

ผู้หญิงสวมชุดโค้ทสีขาวพร้อมกับใส่แว่นนั่นกำลังทำงานอยู่บนโต๊ะพยาบาล

ชื่อของเธอคือนอร์น อัลทิน่า เป็นหมอประจำโรงเรียนที่สวยเอามากๆ

เธอเดินมาทางนี้และขยับนิ้วมาตรงหน้าผมเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกาย

「อืมม ดูจากสภาพแล้วสติยังคงดีอยู่ แล้วรู้สึกปวดตรงไหนบ้างรึเปล่า?」

「ข้าปวดหลังนิดหน่อยและหัวเองก็ยังคงมึนๆ แต่ว่าไม่มีตรงไหนผิดปกติแล้วล่ะ」

「อืมมเข้าใจแล้ว ฉันทายาไปที่หลังของนายแล้วล่ะ แต่ถ้ารู้สึกเจ็บหรือปวดตรงไหนก็มาได้ตลอดเวลานะ มันจะดีกว่านะที่มาหาฉันมากกว่าที่จะทนเจ็บกับบาดแผลนั่น」


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท