พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” – ตอนที่ 67

ตอนที่ 67

Ch.67 – บทที่ 5 ตอนที่ 14

Provider : รินคะน้า

 

บทที่5ตอนที่14

 

ข้า ทอมมี่ และคามี่เดินไปในป่าที่มืดสลัว งานที่โนโซมุบอกมาคือการเก็บดอกไม้เรจิน่า

 

 

ดอกเรจิน่าใช้เป็นวัตถุดิบทำโพชั่นและการผสมน้ำหวานของดอกไม้นี้กับน้ำยาจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ยาเป็นอย่างมาก

 

 

อย่างไรก็ตามน้ำหวานมันอยู่ได้ไม่นานและจะเสื่อมสภาพภายในสองสามวันหลังจากเก็บมันขึ้นมา

 

 

ไม่ว่าประสิทธิภาพแค่ไหน แต่โนโซมุก็คิดมาถี่ถ้วนแล้วว่าดอกไม้นี่มันพกพาได้ง่ายเลยต้องการคนที่มีความคล่องตัวสูงในการทำงาน

 

 

「……นี่ หมอนั่นจะยังสบายดีไหมนะ?」

 

 

「……ก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน…แต่ก็ช่วยไม่ได้จินเขาบอกไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำแบบนี้……」

 

 

「……ไม่เป็นไรหรอกน่า มีข้าอยู่ด้วยเลยนะส่วนทางนั้นก็มีเจ้านั่นอยู่ด้วย」

 

 

ทอมมี่และคามี่บ่นออกมาด้วยความเป็นห่วง แต่ว่าข้าก็ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงปนโมโหนิดหน่อย

 

 

ทั้งสองคนมองหน้ากันแล้วทำท่างง สำหรับข้าแล้วเห็นแล้วหน้าหงุดหงิดเป็นบ้า

 

 

「ส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะพวกแกที่มาขอร้องเองไม่ใช่เหรอไงกัน ตอนนี้ก็ช่วยร่วมมือกันหน่อยได้ไหม? คุณผู้นำ」

 

 

「「เอ๊ะ!!」」

 

 

ผู้นำของเขาคือจินใช่มะ คามี่และทอมจ้องมองมาทางข้าอาจเป็นเพราะคิดว่าข้าเยาะเย้ย พวกเขามองมาที่ข้าด้วยสายตาที่น่ารำคาญ

 

 

 

 

「หืมมมม นี่มีความภาคภูมิใจเหลืออยู่บ้างไหมนิ……」

 

 

「……นั่นสินะอย่าทำตัวโง่ไปหน่อยเลยน่า เราไม่ได้เก่งเท่ามาร์สักหน่อยนะ แต่เราก็ยังมีความภาคภูมิใจที่ได้เข้าเรียนที่นี่……」

 

 

「เออ! ดูเหมือนพวกแกจะเชื่อใจหมอนั่นน่าดูเลยนี่หว่า หมอนั่นแสดงอะไรให้เห็นยังงั้นรึ? พอกลับถึงบ้านก็พูดอะไรไม่ออกเลยรึไง」

 

 

ทอมมี่และคามี่เองพยายามแหย่ข้า แต่ว่าไม่เป็นไรหรอกยังไงก็ต้องทำงานร่วมกัน

 

 

「พูดอะไรน่ะ น่าจะเห็นความสามารถของหมอนั่นในการต่อสู้ครั้งล่าสุดแล้วนะ ทั้งข้าแล้วก็โนโซมุก็เอาชนะพวกแกมาได้ พวกแกนี่เก่งจริงปะเนี่ย?」

 

 

 

 

ข้าเองก็ยั่วโมโหพวกนั้นกลับ

 

 

「ก็เอาสิ ถ้าอยากจะเห็นนักละก็ ลองเข้ามาดูหน่อยไหมละ!」

 

 

คามี่ประกาศออกมาอย่างแน่วหแน่และทอมมี่เองก็จับตามองข้า แต่ว่าพวกเราก็เริ่มเดินกันไปอีกครั้ง

 

 

ข้าเหลือบมองทั้งสองคน ทั้งสองคนดูมีอาการหงุดหงิดกว่าเดิม แต่ดูเหมือนว่าขวัญกำลังใจเองก็สูงขึ้นแล้วเช่นกัน ดูเหมือนว่าจะคิดถูกนะที่ไปยั่วโมโหพวกนั้น

 

 

(พอจะหวังได้หน่อยมั้ง)

 

 

ข้าพอใจกับการแสดงออกของพวกเขา และยังคงมุ่งหน้าต่อไปข้าคิดว่าโนโซมุเป็นผู้ชายที่ไม่มีความกล้าเลยจนกระทั่งไม่นานมานี้……。

 

 

เมื่อข้านึกถึงหมอนั่นคำถามต่างๆมากมายก็วนเวียนอยู่ในหัวข้า

 

 

(……หมอนั่นปิดบังอะไรอยู่กันแน่?)

 

 

สิ่งที่โนโซมุปิดบังมาตลอด ข้าไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ซ่อนบางสิ่งไว้อย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้บางครั้งเขาเองก็มีท่าทีแปลกๆ และชอบพูดเสมอว่าไม่เป็นไร แต่ว่าดูยังไงก็มีอะไรปิดบังอยู่

 

 

เมื่อข้าจำได้ว่าข้าอยากจะรู้มากทิม่าก็บอกให้ข้ารอจนกว่าเขาจะพูดด้วยตัวเอง

 

 

「……เอ๋?」

 

 

เมื่อคิดถึงเกี่ยวกับมันข้าก็เริ่มวิตกกังวลแบบแปลกๆ ด้วยเหตุผลบางอย่างทำไมถึงต้องกลัวที่จะเปิดเผยขนาดนั้นด้วย? มันเป็นสิ่งที่พูดออกมาไม่ได้ขนาดนั้นเชียวเหรอ?……。

 

 

ตรงกันข้ามกับความคิดของข้า ความหงุดหงิดและความกังวลใจไม่เคยหายไปและก็กำหมัดอยู่ตลอดเวลา

 

 

เมื่อเดินมาประมาณ 10 นาที แสงก็เริ่มส่องมาที่หน้าของข้า บางทีปลายทางอาจเป็นที่โล่ง เมื่อข้าหยุดและหมอบลงและสั่งให้คนข้างหลังซ่อนตัว

 

 

เมื่อมองดูสถานที่ๆแสงส่องลงมาแล้วมีต้นไม้ใหญ้ล้มลงอยู่และดอกไม้เรจิน่าเบ่งบานอยู่ข้างๆ บางทีการล้มลงของต้นไม้ต้นใหญ่นั่นก็เลยทำให้แสงสาดส่องไปทั่วบริเวณแถบนั้น

 

 

แสงที่ส่องผ่านช่องว่างของใบไม้ ดอกไม้เหล่านั้นน่าจะเบ่งบานด้วยแสงอันน้อยนิด

 

 

「……เจอแล้ว แถมมีโบนัสด้วยนะ」

 

 

แต่ไม่ใช่แค่ดอกไม้เรจิน่าที่พบ เห็นนักเรียนประมาณ 4 คนอยู่ข้างๆ บางทีพวกนั้นก็มาเก็บดอกเรจิน่าเหมือนกับเรา

 

 

「……แล้วจะเอายังไง?」

 

 

「……ตัดสินใจแล้วไม่ใช่เหรอ。……จะเริ่มให้เอง」

 

 

คามี่ถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ โนโซมุที่เคยบอกว่าอาละวาดให้เต็มที่แล้วเอาคะแนนมา

 

 

ไม่ใช่ว่าไม่กังวลหรอกนะว่าโนโซมุมันซ่อนอะไรเอาไว้ และความไม่พอใจที่ไม่ได้รู้เรื่องเหล่านั้นมันก็มากขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้ข้าเองก็อยากจะอาละวาดเหมือนกัน

 

 

อย่างไรก็ตามข้าจะเอาตัวรอดจากการฝึกนี่และแข็งแกร่งขึ้นให้ได้คอยดู

 

 

◇◆◇

 

 

เมื่อมาร์และเพื่อนๆพบดอกไม้เรจิน่านั้น โนโซมุและเหล่าผองเพื่อนยังคงสร้างกับดักรอบๆต่อไป เนื่องด้วยข้อจำกัดด้านเวลา ก็เลยทำได้แต่สิ่งง่ายๆ ยังมีจำนวนไม่แน่นอนนัก

 

「ฮะ แบบนี้งั้นเหรอ」

 

ในที่สุดหลังจากวางกับดักเสร็จโนโซมุก็ถอนหายใจออกมา นอกจากนี้ยังมีพวกจินที่อยู่รอบๆที่กำลังเหงื่อแตกพลั่ก

 

「ขอบคุณที่เหนื่อยนะทุกคน」

 

แฮมเรียยื่นขวดน้ำให้โนโซมุที่ทำกับดักและเปิดกล่องข้าวให้กับพวกเขา เหล่าโนโซมุและคนอื่นๆก็กำลังดื่มน้ำเพราะร่างกายที่เสียน้ำไปเยอะพอสมควร

 

「……แต่ว่ากับดักแบบนี้จะไหวเหรอ?」

 

เดร็กบ่นอย่างกังวลขณะมองกับดักที่วางไว้มากมาย แต่ก็ไม่ค่อยดีนักมีหลายอันที่พบเห็นได้ง่าย

 

「ช่วยไม่ได้นี่น่า เราไม่มีเวลามาทำมันแบบละเอียด แล้วกับดักอื่นๆก็เป็นเหมือนของหวานที่ถูกทำให้เนียนที่สุดอะแหละ」

 

「……กล่าวคือใช้กับดักซ้อนกับดักสินะ?」

 

โนโซมุพยักหน้ารับคำพูดของเดร็ก กับดักทั้งหมดไม่ได้ใช้สำหรับจัดการศัตรูอย่างเดียวแต่มีไว้ถ่วงเวลา กักขังพวกเขา และแจ้งเตือนพวกโนโซมุ และมีกับดักอีกมากมายที่ทำไว้หลากหลาย โนโซมุที่มีความได้เปรียบเรื่องพื้นที่และกับดักก็วางกับดักไว้เยอะพอสมควรเพราะไม่รู้ว่าศัตรูจะมาไกลแค่ไหน

 

โนโซมุและเพื่อนๆ วางแผนเพื่อหนทางชนะและโนโซมุเองก็คิดว่าไม่สามารถเอาชนะด้วยกับดักซุ่ยๆแบบนี้ได้หรอก เขาเองก็เป็นนักดาบ กับดักมันก็แค่เอาไว้ถ่วงเวลา

 

「ถึงอย่างงั้นก็ตาม ดูเหมือนว่าจะคุ้นเคยกับการทำกับดักมากเลยนะ ทำไมดูคุ้นเคยจังเลยอะ?」

 

จินถามขณะจ้องมองโนโซมุ สิ่งที่เห็นคือความสนใจในตัวโนโซมุอย่างแท้จริง

 

「อ๋อ? อาจจะเป็นเพราะผมอาศัยอยู่ในป่าคนเดียวบ่อยๆน่ะ?เพราะผมเองก็อยู่ที่นี่และถูกสอนไว้ว่าให้ล่าพวกสัตว์อสูรและคอยหยุดพวกสัตว์อสูรไม่ให้ไปป่วนเมือง」

 

「「「เออออออออออออออออออออออ๋!!」」」

 

จินและทั้งสามคนต่างตกใจกับเรื่องที่โนโซมุพูด จากมุมมองของพวกเขาแล้วการเข้าป่าคนเดียวมันเหมือนกับการฆ่าตัวตาย

 

「แต่ว่า สำหรับโนโซมุคุงแล้วคงไม่สามารถรับคำขอเข้าป่าได้ไม่ใช่เหรอ……」

 

แฮมเรียถามออกมาด้วยท่าทีกังวล พูดให้ถูกคือ “แรงค์ต่ำขนาดนี้ กลับเข้าป่ามาเนี่ยนะ” บางทีเพราะอาจจะสนใจในตัวโนโซมุขึ้นมาก็เลยถามออกมา

 

「อืม ถ้าจะพูดให้ถูกผมเข้าป่ามาโดยไม่ได้รับคำขอต่างหาก พอเจอสัตว์อสูรก็แทบจะหนีโดยทันที……」

 

โนโซมุตอบคำถามด้วยรอยยิ้มอันขมขื่นกับความกังวลของเธอ อย่างไรก็ตาม เขายังจำการฝึกวิ่งมาราธอนทั้งคืนที่ชิโนะให้เขาหนีจากพวกสัตว์อสูรได้เป็นอย่างดี เหงื่อเย็นๆไหลผ่านหน้าของเขา

 

「……งั้นเหรอ พอจะเข้าใจเหตุผลที่โนโซมุแข็งแกร่งขึ้นมาบ้างแล้วล่ะ เพราะสามารถตะลอนไปทั่วป่าแบบนี้ได้ ก็เลยสามารถสู้ในการต่อสู้จำลองได้ดี แน่นอน หากเราโดยพวกสัตว์อสูรไล่ตามยังไงก็ต้องหนีนะ พวกเราไม่มีมาตราการรับมือสำหรับพวกมันด้วย……」

 

「อาาา แน่นอน……」

 

โนโซมุหัวเราะแห้งๆให้กับจินขณะที่เขาพยักหน้า จากการวิ่งที่โนโซมุโดนชิโนะสั่งทำให้เขาเจอแต่เรื่องแย่ๆมากมายในป่านี้ ฮะฮะ

 

(พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ตอนนั้นก็ถูกส่งให้ไปหาของป่าตอนกลางคืนเพราะเครื่องเคียงมันไม่พอ……。พอมาคิดดูแล้วมันไร้เหตุผลชะมัดเลยแหะ……。)

 

ในเวลานั้นอาหารเย็นมีไม่พอและโดนไล่ให้ไปหาของกินมาเพิ่มประมาณว่า “เครื่องเคียงไม่พอ ไปหามาดิ๊” โนโซมุโดนโยนเข้าไปในป่าพร้อมกับเจอก็อบลินที่กำลังหาอาหารพอดี ก็โดนก็อบลินหลายตัวไล่ตามราวกับว่าเป็นอาหารเย็นของมัน

โนโซมุที่เกือบตายในตอนนั้น ก็ได้อาจารย์มาช่วยไว้ และอาจารย์ก็ถามว่าจะกินตัวไหนดี โนโซมุก็ได้แต่ส่ายหัวไปมา

 

「ฮะฮะฮะ……」

 

「โนโซมุคุง! มีอะไรอยากจะถามหน่อยน่ะ……」

 

โนโซมุหัวเราะแห้งๆออกมาด้วยใบหน้าซีดเซียว จินและเพื่อนๆที่รู้สึกเย็นวาบกับสถานการณ์ตรงหน้า ก็หยุดและพยายามเปลี่ยนเรื่องคุย แต่ว่าในเวลานั้นก็มีเสียงดังจากด้านหลังพุ่มไม้

 

「อะ!!」

 

โนโซมุลุกขึ้นทันทีแล้วถือดาบพร้อมกับเตรียมที่จะฟันทันที จินและเพื่อนๆที่เห็นท่าทีเขาเปลี่ยนไปก็เตรียมตัวตามทันที

ในที่สุดเสียงดังก้องดังขึ้น และร่างหลายร่างก็ปรากฏขึ้นจากส่วนลึกของพุ่มหญ้า

 

「ในที่สุดก็เจอสักที」

 

สิ่งที่ปรากฏก็คือปาร์ตี้ที่ไล่ตามโนโซมุตั้งแต่ตอนแรกเป็นปาร์ตี้ของนักเรียนห้อง 4 มีนักเรียนชายคนหนึ่งถือขวานสองมือในตอนต้น น่าจะเป็นหัวหน้าของฝ่ายนั้นและมีเด็กผู้ชายถือดาบและผู้หญิงถือหอกทางด้านหลังและมีชายหญิง อีก 2 คน ถือคทา

 

「ตามที่คาดไว้พวกแกนี่ทำได้แค่หนีสินะ。……เอ๊ะ? ไม่มีมาร์งั้นเหรอ?」

 

หัวหน้าศัตรูสงสัยเพราะไม่เห็นมาร์แม้ว่าพวกเขาจะคิดว่าพวกเราอยู่ในระดับต่ำแต่พวกนั้นก็ระแวงมาร์เป็นพิเศษ แต่ว่าเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ ดังนั้นโนโซมุจึงเป็นที่น่าจะแกร่งที่สุด

 

(จิน……)

 

โนโซมุให้คำแนะนำกับเขาว่าให้ใช้กับดักที่สร้างขึ้นเนี่ยละ

 

「……มาห่วงไอคนที่มันไม่อยู่แล้วจะได้อะไร ข้างหน้าก็มีศัตรูอยู่ ลุยเข้าไปสิ」

 

หัวหน้าศัตรูชี้มาทางนี้ โนโซมุหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋า

 

「เอาล่ะ!!」

 

ฝ่ายตรงข้ามเริ่มเคลื่อนไหว แนวหน้าเริ่มมาปิดช่องว่างทันทีและกองหลังเริ่มร่ายเวทย์

 

「เดร็ก! แฮมเรีย!」

 

「อะอืม!」「เข้าใจแล้ว!」

 

จินให้คำแนะนำแก่ทั้งสอง ด้วยสัญญาณของเขา ทั้งสองหันหลังกลับและหายเข้าไปในป่า ในเวลาเดียวกัน โนโซมุก็โยนสิ่งที่อยู่ในมือไปทางแนวหน้าของศัตรู

มันคือระเบิดแสงและระเบิดเสียงที่ถูกขว้างออกไป เป็นอุปกรณ์ประจำตัวก็ว่าได้ ระเบิดแสงที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามมองไม่เห็น และระเบิดเสียงที่ทำให้อีกฝ่ายหูดับชั่วคราว บางกรณีก็ทำให้หมดสติได้เลยนะ

อย่างไรก็ตามอีกฝ่ายก็เป็นนักเรียนของสถาบันโซลมินาติ คงพยายามลดความเสียหายให้น้อยที่สุด ถึงกระนั้นก็ยังต้อนพวกนั้นได้อยู่

 

「จิน! จะดึงแล้วนะ!!」

 

「เข้าใจแล้ว!!」

 

「ฮ่า!อย่าปล่อยมือเชียวนะ!!」

 

โนโซมุและคนอื่นๆรีบเข้าไปในป่าลึกระหว่างนั้นพวกนั้นก็ไล่ตามโนโซมุมาอีก โนโซมุยังคงวิ่งต่อไป

เมื่อฝ่ายศัตรูไล่ก้าวตามมาถึงพวกโนโซมุ

 

「โอ้ววววววว!」「คิย๊าาาาาาาา!!」

 

ทั้งสองคนที่อยู่ข้างหน้าก็กรีดร้องและล้มลงทันที เมื่อมองไปที่เท้าก็พบกับเชือกที่ซ่อนอยู่ใต้หญ้า

 

「ทำอะไรกันแน่วะเนี่ย!」

 

หัวหน้าของฝั่งนั่นกระโดดข้ามทั้งสองคนที่ล้มลงและพยายามวิ่งไปข้างหน้าแต่คราวนี้ก็โดนหญ้ามัดเอาไว้ ในขณะเดียวกันโนโซมุก็รักษาระยะห่าง พวกเขาวิ่งตรงไปที่ฐานและฟังเสียงโกรธที่มาจากด้านหลัง

◇◆◇

พวกโนโซมุวิ่งกลับไปที่ฐานและเดร็กที่กลับมาก่อนหน้านี้ก็กำลังรอพวกโนโซมุ

 

「อ่า มาแล้วเหรอ!」

 

「โฮ่ย จิน! โนโซมุ!」

 

เดร็กที่กลับมาฐานก่อนหน้านี้เห็นพวกโนโซมุกลับมาก็ทักทาย

 

「ขอโทษนะที่ทำให้รอ」

 

「ตอนแรกคิดว่าจะโดนจับได้ซะแล้ว ก็เลยมาที่นี่ก่อน!」

 

โนโซมุที่สร้างรูปแบบป้องกันโดยใช้ตัวเองและจินเป็นตัวล่อ ให้ เดร็กและแฮมเรียอยู่ด้านหลัง

 

「……นี่ โนโซมุ จะไม่เป็นไรใช่ไหม?」

 

เดร็กพูดขึ้นด้วยความไม่สบายใจ ฝ่ายที่เราเผชิญหน้านั้นเขาบอกว่าน่าจะเป็นคู่ต่อสู้ที่เหมือนกับพวกตัวเองอย่างแน่นอน และเขาก็วางแผนที่จะเอาชนะล่วงหน้าไว้แล้วด้วย แต่ถึงยังงั้นก็ยังกังวล

 

 

แต่ว่านั่นดูไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไร พวกเขาไม่เคยร่วมมือกับโนโซมุ ไม่ว่าจะดูถูกความสามารถเขามากแค่ไหน แต่ว่าเราจะไว้ใจเขาได้จริงเหรอในการต่อสู้เป็นทีมเช่นนี้น่ะ

 

 

เพื่อให้บุคคลเชื่อในตัวเองจำเป็นต้องแสดงฝีมือในสถานการณ์ที่แท้จริงและใช้เวลาอยู่ร่วมกัน แต่ว่าสำหรับโนโซมุที่ขาดโอกาสและเวลาที่จะได้ใช้ร่วมกับคนอื่น ทำให้พวกเขาไม่ค่อยไว้วางใจโนโซมุเท่าไรนัก

 

 

ดังนั้นพวกเขาเลยกังวลว่าการกระทำของโนโซมุเนี่ยคิดไตร่ตรองดีแล้วจริงๆเหรอ

 

「……นี่ เดร็ก เราเองก็อยู่จุดต่ำสุดของสถาบันอยู่แล้ว ไม่มีทางที่จะเอาชีวิตรอดในสถาบันโซลมินาติด้วยความสามารถของเราเองในปัจจุบันหรอกนะ นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันไปขอความช่วยเหลือจากมาร์และโนโซมุ。……นายก็น่าจะดูออกนะการตัดสินใจของเขาน่ะ?」

 

ในเวลานั้นจินก็เตือนความจำเดร็ก จินที่เป็นผู้นำของทีมอาจจะสร้างความไว้วางใจให้ได้บ้าง เดร็กพยักหน้าต่อคำพูดของจิน

 

「เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรามาไกลขนาดไหนแล้ว ถ้าหากมีแค่พวกเราที่ไม่วางแผนดีๆมีหวังเราจบเห่ตั้งแต่ตอนที่ตะลุมบอลแถวด้านหน้าในช่วงแรกๆแล้วละ」

 

「ก็อาจจะเป็นแบบนั้นล่ะนะ……」

 

เดร็กเห็นด้วยกับคำพูดของจินด้วยน้ำเสียงหงอยๆ หลายฝ่ายที่กระโจนเข้าหากันตั้งแต่เริ่มดังนั้นมันกลายเป็นการตะลุมบอล ถ้าหยุดอยู่ตรงนั้นก็อาจจะโดนจัดการในพริบตาแล้วก็ได้

 

「แน่นอน พวกเราก็ยังวางใจเขาไม่ได้ในทันทีหรอก แต่ผมเองก็ดูว่าเขาแบ่งบทบาทของแต่ละคนออกมาได้ดีเลยนะ แผนการที่เขาคิดมันก็ค่อนข้างเข้าท่าสำหรับพวกเราในตอนนี้ ตอนแรกก็คิดแบบว่าจะไปรอดรึเปล่านะ? ยังไงผมเองก็เป็นคนตัดสินใจไปขอความช่วยเหลือจากพวกเขาเองเพราะฉะนั้นจะเชื่อใจผมที่เชื่อใจในตัวพวกเขาได้รึเปล่าล่ะ?」

 

「……เข้าใจแล้ว ขอโทษด้วยนะที่พูดอะไรแปลกๆโนโซมุ พวกเราเองก็ค่อนข้างจะกังวลกับการฝึกนิดหน่อย……」

 

「ไม่หรอกครับ จะกังวลก็ไม่แปลกเลย เพราะอยู่ๆก็ได้คนที่ไม่คุ้นหน้าคุ้นตา ไม่เคยร่วมงานกันแต่เป็นคนสั่งการแบบนี้」

 

เดร็กขอโทษโนโซมุและจินเองก็ขอโทษด้วย มีข่าวลือกันว่าโนโซมุต้องสอบเพิ่มถึง 3 ครั้งเพื่อให้สอบเลื่อนชั้น นอกจากนี้โนโซมุเองก็เจียมตัวเองดีกับคนรอบข้าง ดังนั้นเขาก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเจอคนแบบเดร็กจำนวนไม่น้อย

 

 

สาเหตุหลักก็เพราะว่าเขาโดดเดี่ยวมาโดยตลอด

 

 

โนโซมุเข้าป่าคนเดียว ฝึกคนเดียว และอยู่อย่างโดดเดี่ยวมาโดยตลอด ความสามารถในการตัดสินใจของเขาที่โดนเด่นมาเพราะจากประสบการณ์ฝึกกับชิโนะและสู้กับสัตว์อสูร แต่ว่าการจะสร้างความไว้วางใจให้เพื่อนร่วมชั้นมันยากเพราะนี่ขึ้นมา ปี 3 แล้ว เขาไม่เคยเข้าหาเพื่อนร่วมชั้นเลยตลอด 2 ปี ที่ผ่านมา พอมาปี 3 ก็เป็นการสู้แบบกลุ่มโนโซมุเองก็ไม่มีใครจะร่วมด้วย ก็เลยกลายเป็นเหมือนส่วนเกิน

 

(……ช่วยไม่ได้นี่นะ ผมหันหลังให้กับสิ่งรอบตัวมาโดยตลอด ผมยึดมั่นในตัวเองอยู่คนเดียว)

 

โนโซมุถอนหายใจและหัวเราะแห้งๆออกมา เหลือบมองไปทางจินที่อยู่ข้างๆ แม้ว่าเขาจะพิจารณาจากการที่เราได้สู้กัน แต่ว่าความสามารถของตัวเขาเองนั้นค่อนข้างต่ำกว่าคนทั่วไป แต่สำหรับผมแล้วผมมีความได้เปรียบทางด้านพื้นที่และการต่อสู้ระยะประชิด

 

 

แต่โนโซมุก็ยังคิดว่าพวกเขาก็ยังคงดีกว่าตัวเองในแง่ของผู้นำ จินใช้ความคิดทั้งหมดและยอมยืมพลังของผมเพื่อเอาชีวิตรอดต่อสถานการณ์แสนเลวร้าย ความรู้สึกที่ต้องแบกรับมันต้องยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน ยิ่งตอนที่เขากล่อมเดร็กแล้วก็เป็นผู้นำที่ดีพอสมควรเลย

 

「……อาา? มีอะไรงั้นเหรอ?」

 

จินสังเกตเห็นโนโซมุที่จ้องเขาและถามเขาด้วยท่าทางสงสัย

 

「ไม่มีอะไรหรอก….ผมคิดว่าวันนี้ผมแค่เป็นผู้นำใช่ไหมล่ะ และผมเองก็ต้องพาทุกๆคนให้รอดผ่านพ้นในวันนี้ไปให้ได้……」

 

โนโซมุมองดูแฮมเรียและเดร็กที่อยู่ด้านหลัง บางทีพวกเขายังคงกังวลและเกร็ง แต่ก็ไม่ได้กระวนกระวายขนาดนั้น บางทีคำพูดของจินเองก็คงได้ผล

 

「……ผมคิดว่านายเก่งขึ้นจริงๆนะ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะใช้ชีวิตอยู่ในป่าเพียงลำพัง แต่ผมจำได้เลยตอนที่นายต่อสู้กับมาร์ มาร์ก็ยอมรับในตัวนาย ผมต้องขอโทษด้วยนะ แต่ผมไม่มีพลังพอที่จะเทียบเคียงที่จะสู้กับมาร์ได้เลย……」

 

จินยิ้มเล็กน้อยหลังจากพูดเช่นนั้น น่าแปลกที่การแสดงออกของทั้งสองคนเหมือนๆกัน

โนโซมุก้าวต่อไปไม่ได้เพราะมีความลับที่ซ่อนไว้กับสหาย จินเองก็ทุกข์ทรมานจากการที่ตัวเองไร้ซึ่งพลังมีเพียงแต่อำนาจในการออกคำสั่ง แม้ว่าจะดูแตกต่างกันในเรื่องที่กังวล แต่ทั้งสองก็มีความคิดคล้ายๆกัน ว่าตัวพวกเขาเองก็ต่างไร้ความสามารถในหลายๆด้าน

 

ในขณะนั้นเองโนโซมุรู้สึกได้ว่ามีสัญญาณหลายชีวิตเข้าใกล้มาจากด้านหน้า ในเวลาเดียวกันตาข่ายป้องกันที่โนโซมุทำทิ้งไว้มันก็ถูกทำลาย

 

「……โนโซมุคุง」

 

「……จะมาแล้วนะ」

 

ในเวลาเดียวกันกลุ่มศัตรูก็โผล่มาจากส่วนลึกของพุ่มไม้ มีเสื้อผ้าขาดๆและใบหน้าสกปรกไปทั่วทั้งตัวดูเหมือนว่าจะดิ้นรนกับกับดักของพวกโนโซมุน่าดู

 

「ฮะฮะ เจอแล้ว……」

 

หัวหน้าของฝ่ายนั้นจ้องมองโนโซมุพร้อมกับถอนหายใจ

 

 

เมื่อวางกับดักเสร็จแล้วโนโซมุก็จดจ่ออยู่กับเวลาที่จะมาถึงจุดประสงค์ของเขาคือความอ่อนล้าทางกายภาพและจิตใจของอีกฝ่าย ดังนั้นหากศัตรูติดกับเขาก็จะปล่อยทิ้งไว้ และหากเขาเห็นกับดักที่เห็นได้ง่ายก็จะรู้ว่ามีกับดักและทำให้ระแวงจนถึงขีดสุดจนสภาพกายและใจเหนื่อยล้า

 

「ยกโทษให้ไม่ได้จะขยี้ให้แหลกไปเลย……」

 

หัวหน้าฝั่งนั้นหยิบขวานสองมือออกมาด้วยความโกรธและเริ่มปล่อยพลังออกมาทั่วร่าง สมาชิกคนอื่นๆเองก็เริ่มใช้พลังของตัวเอง ผมมั่นใจเลยว่าพวกเขาคงหัวเสียน่าดูเลยละที่ติดกับดักง่ายๆ

 

「……จิน」

 

「อืม รู้แล้วล่ะ……」

 

จินพยักหน้ารับคำพูดของโนโซมุ นี่คือการยืนยันครั้งสุดท้าย กลยุทธ์ที่วางมาจนถึงตอนนี้ และการดำเนินงานตลอดที่ผ่านมา มันทำให้มีโอกาสชนะอย่างแน่นอน แต่ถ้าพลาดก็จะเสียเปรียบ ในกรณีเลวร้ายที่สุดก็คงถูกกำจัดทิ้ง โนโซมุเองก็ไม่สามารถปลด “พันธนาการ”ได้ และเนื่องจากนี่เป็นการฝึก เขาจึงใช้วิชาดาบไม่ได้เช่นกัน ดังนั้นทีมของเขาขาดพลังในการทำลายฝ่ายตรงข้าม

 

「บดแม่งไม่ให้เหลือซากเลยโว้ย!!」

 

ด้วยคำสั่งนี้ ฝั่งโน้นก็บุกเข้ามา โนโซมุและจินเองก็เสริมพลังกายและบุกไปด้านหน้า……。

 

「「หนอย!?」」

 

「เอ๊ะ!?」

 

ฝ่ายศัตรูตกใจโนโซมุและจินวิ่งมายังแนวหน้า แต่จู่ๆก็แยกออกจากกัน ในอัตรานี้ทางฝั่งแนวหลังจะไม่มีใครกันพวกแฮมเรียและเดร็กเลย

อย่างไรก็ตามตอนนั้นเองโนโซมุก็ตะโกน

 

「เดร็ก!!」

 

「โอ้!!」

 

เดร็กถือหอกและเตะหินที่อยู่ใต้เท้าเขา หินลอยมาและดึงอะไรบางอย่างลงจากนั้นเชือกก็โผล่มาแถวๆเท้าของศัตรูและเชื่อกจับนวนมากก็จับแนวหน้าของศัตรูไว้หมด

 

「อะไรกันวะเนี่ย!?」

 

เชือกที่ยืดออกมายึดรอบศัตรูคล้ายกับกรงขัง และพวกเขาก็ติดอยู่ในนั้นกับดักนี้เป็นกับดักเดียวกับที่เขาใช้กับอสูรสีดำ

 

 

ในกลยุทธ์ของโนโซมุ โนโซมุและจินจะวิ่งเข้าหาคู่ต่อสู้และหยุดฝ่ายตรงข้ามด้วยกับดัก และเอาชนะกองหลัง อย่างในตอนนี้

 

 

ตอนที่แนวหน้าโดนหยุดไว้โนโซมุและจินเองก็เข้าโจมตีกองหลังของศัตรู

 

「ไอ้เวรเอ้ย!!」

 

กองหลังพยายามจะตัดเชือกที่พันอยู่ อย่างไรก็ตามก็มีลมแรงๆพัดมาทำให้ไม่สามารถตัดเชือกได้

 

「อะไรอีกวะเนี่ย!?」

 

เมื่อมองไปทางต้นทางมีเดร็กและแฮมเรียที่ขัดขวางการเคลื่อนไหวของแนวหน้าเพื่อซื้อเวลาให้โนโซมุจัดการกองหลัง

ในขณะนั้นเองก็ใช้เวทย์ลม “วายุเริงระบำ”ขัดขวางคู่ต่อสู้ไม่ให้ตัดเชือก มันไม่มีพลังรุนแรงมากนักแต่มันก็ช่วงพัดพาเชือกให้ยืดและดึงดูดความสนใจของแนวหน้าได้

 

 

「บ้าเอ้ย!!」

 

「ไอหมอนี่!!」

 

กองหลังสองคนพยายามรัวเวทย์ใส่โนโซมุและจิน อย่างไรก็ตามมันเป็นกระสุนเวทย์ธรรมดา โนโซมุเองก็ใช้ “ก้าวพริบตา -ดาบเริงระบำ-”หลบการโจมตีเหล่านั้น

 

หากในเวลานี้ศัตรูยิงเวทย์แบบกระสุนนัดเดียวตู้มใหญ่พวกโนโซมุคงจะปลิวไปแล้ว และฝ่ายนั้นอาจจะหนีออกมาได้สำเร็จ

 

 

อย่างไรก็ตามกับดักที่สร้างมาจำนวนมากก็ทำให้อีกฝ่ายคิดไม่ถึงและได้แต่กังวลเพราะระแวงกับดักจนหลอนแล้ว และหัวหน้าทีมเองก็สูญเสียสมาธิและขาดอำนาจในการสั่งการทำให้ทีมทำงานไม่เป็นระบบ

 

「ย๊าาาา!!」

 

「เทเฮะ!!」

 

โนโซมุฟันด้วยความเร็วสูงและจินเองก็ใช้ดาบนั่นแทงทะลุแขนเด็กผู้ชายและดาบของโนโซมุก็กระแทกเข้าที่ท้องของผู้หญิงพร้อมกับฝัก

 

 

กองหลังของศัตรูโดนจัดการในพริบตา และจี้ก็เรืองแสงสีแดงเป็นการตัดสิทธิ์ทั้งสองคน

 

「อุกโอวววววววววววววววว!!」

 

หัวหน้าศัตรูค่อยๆใช้ขวานสองมือตัดเชือกออกมา สามคนที่ได้อิสระแล้วก็พุ่งไปที่แฮมเรียและเดร็กราวกับจะบอกว่า “ตาพวกแกบ้าง”

โนโซมุและจินถอยหลังกลับทันที อย่างไรก็ตามศัตรูอยู่ใกล้กับเดร็กเลยไปถึงก่อนพวกเขา

 

「แหลกไปซะเหอะ! ไอ้พวกชั้นต่ำเอ้ย!!」

 

「โอววววววววววววว!!」

 

หัวหน้าศัตรูกวัดแกว่งขวานสองมือแล้วกระแทกมันลงไปที่เดร็ก เดร็กรับด้วยการใช้หอกในมือ แต่คู่ต่อสู้นั้นแรงเยอะกว่าทำให้เดร็กเข่าทรุด ถึงกระนั้นเขาก็กันการโจมตีไม่ให้โดนแฮมเรีย

 

「อั่กกกก!!」

 

「ย๊ากกกกกกกกกห์!!」

 

「หยุดอยู่แค่นั้นแหละ!」「คิดจะทำอะไรกันหะ! พวกแก!!」

 

เดร็กกำลังกันการโจมตีอย่างสิ้นหวังในขณะที่ดาบของคู่ต่อสู้กำลังใกล้เข้ามา แต่ว่าตอนนั้นเองแฮมเรียก็ใช้เวทย์ “วายุเริงระบำ”อีกครั้งมวลลมพัดศัตรูและเดร็กปลิวไป

 

「บ้าเอ้ย!」

 

「อุโอวววววววว!!」

 

ทั้งชายถือหอกและถือดาบก็โดนลมพัดไปเดร็กและหัวหน้าฝั่งนั้นก็ปลิวด้วยเช่นกันและหยุดอยู่ครู่หนึ่ง

อย่างไรก็ตามแฮมเรียลดพลังเวทย์ที่ใช้ลงไปแล้ว หากใช้เวทย์ตามปกติมันแรงจนจะทำให้โดนตัดสิทธิ์ได้เลย เดิมทีแล้วมันมีไว้สำหรับถ่วงเวลา

 

「ทันเวลาพอดีเลยนะ!」

 

「เดร็ก ขอบคุณที่ทำงานหนักนะ!」

 

โนโซมุและจินที่มาจากด้านหลังเข้าโจมตีผู้ใช้หอกและดาบพร้อมๆกัน ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

 

「หนอยแน่ไอ้พวกชั้นต่ำ!!」

 

「อั่ก!!」

 

หัวหน้าศัตรูที่ปลิวไปพุ่งเข้าหาโนโซมุ พลังเต็มเปี่ยมไปทั่วทั้งร่างจนร่างกายส่องแสงเป็นกระกาย

 

「ฟู่!」

 

โนโซมุถอนหายใจและวิ่งเข้าหาเขา ทั้งคู่กระโจนเข้าใส่กัน ในที่สุดโนโซมุก็เข้ามาอยู่ในระยะโจมตีของฝ่ายตรงข้าม ฝ่ายนั้นเหวี่ยงขวานลงมา

 

 

ตึง ! ขวานสองมือตัดผ่านบรรยากาศ โนโซมุหมุนตัวและฟาดดาบของเขาจากด้านบนลงขวานสองมือนั่น จากนั้นก็หมุนตัวอีกครั้งไปด้านข้างเพื่อลดแรงเหวี่ยงของขวานสองมือเช่นเดียวกับที่ทำกับไซคลอปส์

 

 

(TN: ใครนึกภาพไม่ออกประมาณว่าเซคิโระ กระโดดเคาน์เตอร์สายฟ้าท่านอิชชินอะ)

 

 

 

「なっ!! ぐあ!!」

 

ขวานสองมือโดนกดลงพื้นด้วยน้ำเสียงตกใจ ทำให้ดินและทรายบริเวณโดยรอบพุ่งขึ้นมา โนโซมุฟันไปที่แขนของหัวหน้าศัตรูและฟันด้ามของขวานจนหัก

 

 

ในเวลาเดียวกันหมอนั่นก็ส่งเสียงร้องด้วยความทรมาน จากนั้นเขาก็ฟาดดาบไปที่ท้องของศัตรู

 

「อ่อก……」

 

หัวหน้าฝั่งโน้นหยุดเคลื่อนไหวไปครู่หนึ่ง สดท้ายก็ล้มลงกับพื้นและหยุดเคลื่อนไหว และจี้ก็ส่องแสงสีแดง

 

 

「ฟู่……」

 

โนโซมุที่เห็นแสงบนจี้ เขาก็ถอนหายใจ กล้ามเนื้อที่เกร็งเองก็ผ่อนคลาย

 

「ฮาาาา~。โนโซมุคุง ขอบคุณที่เหนื่อยยาก」

 

จินคุยกับโนโซมุที่กำลังเก็บดาบ สีหน้าของเขาดูสดใสอาจเป็นเพราะผ่อนคลายแล้วเช่นกัน

 

「ทำได้แล้วววว!!」

 

「สุดยอด! พวกเราชนะจริงๆด้วยล่ะ!!」

 

เดร็กและแฮมเรียรีบไปหาพวกโนโซมุด้วยความตื่นเต้น

 

「โนโซมุ ขอบคุณนะ แล้วก็……ไม่คิดเลยนะว่ากับดักมันจะทำงานได้ดีขนาดนี้……」

 

「อ่า ไม่หรอก จริงๆแล้วก็เดิมพันพอสมควรเลยแต่ก็ดีใจนะที่รอดมาได้」

 

เดร็กโค้งคำนับโนโซมุ อย่างไรก็ตามใบหน้าของเขาดูมีความสุขและน้ำตาก็ไหลออกมา

 

 

ที่เราเอาชนะคู่ต่อสู้ได้อาจจะทำให้พวกเรามีความสุขจริงๆนั่นล่ะ แฮมเรียเองก็ร้องไห้เหมือนกันและจินเองก็แกล้งทำท่าทีสงบนิ่ง

 

「โนโซมุคุง วันนี้วันเดียวก็จริง แต่ว่าขอบคุณนะ……」

 

จินเอื้อมมือไปหาโนโซมุด้วยรอยยิ้ม ทั้งเดร็กและแฮมเรียต่างยิ้มออกมา

 

 

โนโซมุจับมือที่ยื่นออกมาและพวกเขาก็ยังคงยิ้มให้กับโนโซมุ

 

「อาาาาาา」

 

โนโซมุจับมือ และจินเองก็ยิ้มมาทางนี้ โนโซมุเองก็สบายใจได้หน่อยหนึ่ง อย่างไรก็ตามโนโซมุรู้สึกว่ามีคนกำลังจ้องมาทางนี้จนเสียวสันหลังวาบ

 

「อะ!!」

 

โนโซมุส่งเสียงและตั้งท่าทันทีจินและเพื่อนๆเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พวกเขาเห็นท่าทีของโนโซมุที่เปลี่ยนไปก็รีบเตรียมตัวพร้อมทันที

 

「อาาาาาาา~、โนโซมุคุงล่ะ~~。ว่าไงงงงงงงงงงง~~!」

 

ผู้หญิงคนนั้นโผล่ออกมาจากพุ่มไม้ด้วยน้ำเสียงที่ดูผ่อนคลาย ผมหยักศกสีน้ำตาลและเสียงอันแสนคุ้นเคย เธอโบกมือให้กับพวกโนโซมุเหมือนเด็กๆ เป็นคนๆหนึ่งที่พบหน้ากันแทบทุกวัน

 

「อาจารย์อันริงั้นเหรอ หรือว่า……」

 

บทพูดคำเดียวของโนโซมุก็ไขข้อสงสัยของทุกคนได้ในทันที

 

「อืม ก็แบบว่าน่ะ~、เป็นหนึ่งในเป้าหมายพิเศษของแบบฝึกพิเศษนี่ไงล่ะเนอะ~~」

 

อันริ・ วาร์ อาจารย์ประจำชั้น ปี 3 ห้อง 10  เธอเป็นเป้าหมายพิเศษในการฝึกพิเศษวันนี้

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยนำบางส่วนมาจากนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

บทนำ

สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

เรื่องย่อ

สถาบันโซลมินาติ สถานที่ๆคนหนุ่มสาวจากทั่วทุกดินแดนจะมารวมตัวกันเพื่อต่อยอดความฝันและความหวังของตัวเอง ความทะเยอทะยาน สำหรับคนที่ไม่มีอะไรดีสักด้านนั้นจะถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามถูกปฏิบัติแบบไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมโดยสมบูรณ์

เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่ชั้นอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ข้า โนโซมุ เบลาตี้ ซึ่งอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนในช่วงพักกลางวัน

ข้ามาที่นี่เมื่อสองปีก่อน ออกมาจากบ้านเกิดกับเพื่อนสมัยเด็กสองคนเพื่อมายังที่แห่งนี้

คนแรกคือ เคน โนทิส เป็นเพื่อนที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ ลิซ่า เฮาวน์

สาวสวยผู้มีผมหางม้าสีแดง

เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตและเป็นคนรักของข้า

เธอเป็นคนที่เอาชนะคนอื่นได้เสมอ เธอเป็นเหมือนดั่งตัวร้ายที่คอยต่อต้านกับหัวหน้าหมู่บ้าน

ข้าพบกับเธอก็เมื่อตอนอายุ 8 ขวบ ตอนที่ข้ากำลังตกปลาในแม่น้ำใกล้หมู่บ้าน

「อะ เอ่อ อืม ว่างหรือเปล่า?」

เป็นตอนนั้นเองที่เธอเข้ามาพูดกับข้า

ผมสีแดงตัดสั้น ท่าทางที่ดูมั่นใจ ใบหน้าของข้าค่อยๆร้อนรุ่ม…ข้าตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น

พ่อแม่ของเธออาศัยอยู่ในดินแดนที่ห่างไกลออกไป แต่เมื่อพ่อของเธอเสียชีวิตระหว่างเดินทาง เธอจึงตัดสินใจที่จะตั้งถิ่นฐานที่บ้านเกิดของข้า

ตอนเธอยังเด็กมักจะเป็นเด็กที่ซุกซนและอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ข้าก็ไม่ได้รังเกียจอะไร และเธอไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ

แล้วก็เด็กที่ทำให้เธอผิดหวังมากที่สุดก็คือนายพลกาคิกับผมด้วยเหตุผลบางอย่าง

เมื่อสามปีก่อนข้าสารภาพรักกับเธอเพราะว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

รักแรกที่ข้าชอบมาตลอด

เธอตกใจมากกับการสารภาพรักที่กระทันหันของข้า แต่เธอก็ยอมรับข้าและร้องไห้ทั้งน้ำตา

ตอนนั้นเองข้าจึงตัดสินใจที่จะไปสถาบันโซลมินาติกับเธอเพื่อสนับสนุนความฝันของเธอให้เป็นจริง

มันเป็นแรงบัลดาลใจให้ข้า ความฝันของเธอที่บอกข้าตอนยังเด็ก

「ฉันน่ะอยากจะเห็นโลกที่หลากหลายเหมือนกับคุณพ่อ」

ข้ารู้ว่าเธออยากออกไปท่องโลกกว้างเพราะเธอได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นมาจากมารดาของเธอ

ตอนนั้นเองเป็นตอนที่ข้าตัดสินใจไปที่สถาบันโซลมินาติ

หากคนที่ตัวเองรักอยากทำความฝันให้เป็นจริง ข้าก็ควรจะสนับสนุน

ด้วยคำพูดเช่นนั้นข้าตัดสินใจว่าจะสนับสนุนเธอตลอดมา

เธอกอดข้าทั้งน้ำตาพร้อมกับบอกว่า「ขอบคุณนะ……ฉันดีใจจริงๆ」

ท่ามกลางการหลับกลางวันของข้าก็ได้ยินเสียงระฆังที่ส่งเสียงบอกเวลาว่าหมดเวลาพักกลางวันแล้ว

ข้าลุกขึ้นพร้อมกับบิดตัวด้วยความขี้เกียจพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังห้องเรียน

ถูกบังคับให้ไสหัวไปก็ตั้งหลายครั้ง ตัวข้าที่ไม่สามารถทำคำปฏิญาณนั่นได้

ชั้นเรียนของข้าคือ ชั้นเรียนที่สอง ระดับ 10 เป็นห้องที่ต่ำที่สุดในบรรดาชั้นเรียนที่สอง

ในหมู่พวกนั้นข้าเป็นคนที่อยู่ต่ำสุดเรียกได้ว่าเป็นพวกที่ห่วยของโครตห่วย

เมื่อข้าเข้ามาในชั้นเรียนก็โดนต้อนรับด้วยการหัวเราะเยาะเย้ยเป็นเรื่องปกติ

「ยังจะโผล่หัวมาอีกนะ ไอชั้นต่ำ」

「เมื่อไรมันจะหายๆไปสักทีวะ」

「หวังว่าจะลาออกไปไวๆน้า~」

เสียงที่ดูไร้หัวใจเหล่านั้นเสียดแทงเข้ามาในจิตใจของข้า ข้าทำได้แต่เมินต่อไปและนั่งลงบนเก้าอี้

เมื่อข้านั่งลงก็มีนักเรียนสามคนเข้ามาทางข้า

「แกจะมาทำไม ในเมื่อแกมาที่นี่มันก็ไร้ความหมายอยู่ดีไม่ใช่เหรอไงวะ ไอ้เศษเดนเอ้ย」

มาร์ที่ตัวค่อนข้างใหญ่พูดข่มขู่ข้า

「ยอมแพ้ไปสักทีเหอะวะแกไม่คิดว่ามันเสียเวลาชีวิตบ้างเหรอวะ」

「แกโดนแกล้งขนาดนี้ก็เหมาะกับแกดีนี่ เหมาะสมกับเศษสวะอย่างแก」

พวกนั้นก็ยังคงกรนด่าข้าไม่หยุด

「ช่ายๆ โดนเด็กผู้หญิงหัวแดงที่ท่าทางเหมือนเจ้าหญิงนั่นทิ้งแล้ว ไม่มีอะไรให้แกได้ฝันอีกต่อไปแล้วล่ะ」

พวกนั้นทั้งสามคนยังยืนหัวเราะและพยายามยั่วโมโหข้า ไม่มีใครคิดจะห้ามพวกมัน ในท้ายที่สุดพวกมันก็ไม่ยอมหยุดจนกระทั่งอาจารย์ประจำชั้นเข้ามาในห้อง

ใช่แล้วล่ะ ข้าถูกลิซ่าทิ้ง เธอน่ะเป็นนักเรียนห้อง 1 เลยนะ

ทันทีที่เธอทิ้งข้าไปหลังจากกล่าวลาไม่กี่คำ เธอก็ไม่เคยกลับมาพบข้าอีกเลย

ข้าไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ตั้งแต่นั้นมาเธอก็มองข้าเหมือนเศษสวะ

เป็นเพราะข้าเอาแต่สร้างปัญหายังงั้นเหรอ

ลิซ่าเป็นผู้หญิงที่ถูกขนานนามว่า “เจ้าหญิงผมแดง” เพราะหน้าตาและความสามารถ

ในทางกลับกันตัวข้าที่ไม่มีอะไรดีเด่นหน้าตาบ้านๆ

ตลอดช่วงที่ข้าคบกับเธอ เธอมักจะโดนรังควาญอยู่เสมอ บางทีการที่ข้าโดนทิ้งก็เพราะสร้างความยุ่งยากให้เธออยู่เสมอก็ได้

ข้านั้นไร้ซึ่งเพื่อนและกลายเป็นหมาหัวเน่า

ถึงกระนั้นข้าก็พยายามอยากหนักไม่ละเลยสิ่งต่างๆตามหน้าที่ของตน

สักวันหนึ่งถ้าข้าสามารถรักษาคำสาบานที่ให้ไว้ได้ละก็……….ข้าคิดเช่นนั้น

ในขณะเดียวกันนั้นเองเธอก็ไปคบกับเพื่อนสมัยเด็กที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

เธอดูมีความสุขราวกับเธอรักเขาจริงๆ

ในการฝึกซ้อมเป็นคู่พวกเธอสองคนเข้าขากันได้ดีมาก ข้าไม่มีที่ยืนเคียงข้าเธอเลย

ชั่วโมงที่สอง ในช่วงบ่าย

「เฮ้ออ!」

ด้านข้างของดาบจำลองนั่นถูกขว้างมาจากเครื่องยิงดาบจำลอง

เมื่อดาบจำลองที่ถูกยิงมาถูกปากลับไปและแทงเข้าไปที่คอของตุ๊กตา กลไกนั่นก็จะหยุดทำงานลง

หลังจากคาบบรรยายนี่ก็เป็นภาคฝึกปฏิบัติ

นอกจากสนามฝึกซ้อมแล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น สนามทดลองเวทมนตร์ในสถาบันแห่งนี้และนักเรียนที่สามารถศึกษาเรียนรู้ความสามารถของตนตามสถานที่ต่างๆ

สนามฝึกถูกแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่เพื่อให้นักเรียกจากหลายๆชั้นมาเรียนที่เดียวกันได้

วันนี้เป็นการฝึกการต่อสู้ระหว่างบุคคลและแต่ละคนก็จะได้ต่อสู้กับหุ่นยนต์ที่มีดาบจำลองเป็นคู่ซ้อมทำการต่อสู้แบบอิสระ โดยใส่พลังเวทย์เข้าไปเพื่อให้หุ่นยนต์นั้นทำงาน

อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์สำหรับพวกห้อง 10 นั้นมีคุณภาพแย่และเคลื่อนไหวได้แค่บางส่วน

「อืม ต่อไปจะเป็นการต่อสู้เป็นคู่ เลือกคู่หูได้ตามใจชอบ~」

เมื่ออาจารย์อันริ วาร์ อาจารย์ประจำชั้นของพวกห้อง 10 เรียกออกมา หุ่นยนต์ก็หยุดทำงาน ดังนั้นทุกๆคนก็หยุดและรอการจับคู่

อาจารย์อันริมีผมหยักสีน้ำตาล ดวงตาที่ดูสมวัยและใบหน้าที่ออกไปทางดูดีอย่างมาก

อย่างไรก็ตามอาจารย์คนนี้เป็นบุคคลที่ไม่เหมาะกับโรงเรียนแห่งคุณธรรมแห่งนี้เลยเพราะเขาชอบพูดและทำท่าทางแปลกๆราวกับคนบ้า

เรียกได้ว่าคนที่รับผิดชอบนักเรียนห้อง 10 ถูกโยนมาแบบทิ้งขว้างเลยก็ได้

อย่างไรก็ตามการที่เขาสามารถมาเป็นอาจารย์ได้ก็คงมีความสามารถพอตัว

ในที่สุดการจับคู่ก็ถูกตัดสินและแต่ละฝ่ายต่างเริ่มจำลองการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ของตัวเอง แต่ว่าคู่ต่อสู้ของข้าดันเป็น……。

「เอ่อ สำหรับแกแล้ว น่าเสียดายหน่อยนะ」

เป็นมาร์นั่นเองที่กรนด่าข้าเมื่อตอนบ่าย

「มาเริ่มกันเลยดีกว่า เพราะว่าเศษสวะอย่างแกจะทำให้ชั้นเสียเวลา」

มาร์ดึงดาบใหญ่ออกมาจากด้านหลัง

มาร์เป็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมา ความสามารถของเขานั่นของจริง ถึงอย่างนั้นก็ยังได้มาอยู่ในห้องห้อง 10 เช่นนี้เพราะชื่อเสียงแย่ๆนั่นละ

ผมเองก็ดึงดาบจำลองออกมาด้วยเช่นกัน

อาวุธของข้าเป็นดาบที่มาจากทางเกาะตะวันออก เรียกกันว่าคาตานะ เป็นดาบที่มีความคมเป็นอย่างมาก กล่าวได้ว่ามันสามารถตัดทุกอย่าไงได้หากใช้ได้อย่างชำนาญ

ยังไงก็ตาม มันใช้เทคนิตชั้นสูงและความหายากของมันเลยไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนัก

มันเป็นอาวุธที่เหมาะกับข้าที่สุด สำหรับข้าที่ไร้ซึ่งพลัง

「ถ้าอย่างงั้นละก็ เริ่มได้~~~」

การต่อสู้นั่นเต็มไปด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยจากท่าทางของอาจารย์อันริ

「โฮ่ย่าาาาาาาาาาาห์」

มาร์เหวี่ยงดาบใหญ่พร้อมตะโกนก้อง

ผมป้องกันการโจมตีด้วยคาตานะ

ดาบของมาร์ถูกเบี่ยงวิธีและมันก็ฟาดลงทีพื้น

「ฮ่าๆ!」

ก้าวเข้าไปหลังจากมาร์เปิดช่องว่างเล็งไปที่ต้นคอและพยายามจะเอาสันดาบทุบ

「สายไปละโว้ย!」

มาร์เอาถุงมือที่แขนปกป้องดาบของผมไว้ ดาบเลียนแบบที่ไม่มีความคมของดาบดั้งเดิมเหลืออยู่ก็ถูกป้องกันด้วยถุงมือนั่น

มาร์รุดหน้าเข้ามาพร้อมกับยกถุงมือขึ้นป้องกันการโจมตี แต่ข้าก็ก้มลงเพื่อหลบการโจมตี

ข้าพยายามจะโจมตีไปอีกรอบ แต่มาร์นั้นเหวี่ยงดาบใหญ่มาด้วยมือข้างเดียว

ข้าถูกบังคับให้ถอยและกลับไปตั้งหลักใหม่

มาร์ที่ฟาดดาบใหญ่จนพื้นแตกกระจายพยายามมองระหว่างข้าและดาบใหญ่ของมันเอง……。

「อยากโดนหั่นเป็นชิ้นๆเหรอไงวะ」

มาร์พูดเช่นนั้นพร้อมกับรังสีกดดันที่เพิ่มมากขึ้น

“คิ”

เป็นสกิลของทางฝั่งตะวันออกที่จะเพิ่มพลังให้แก่ผู้ใช้งานให้เหนือขีดจำกัดยิ่งขึ้นไป

มาร์พุ่งเข้ามาในคราวเดียว ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นั่นละคือผลลัพธ์จากการใช้ คิ

ราวกับจะจับเหยื่อตรงหน้าฟาดดาบใหญ่นั่นลงมาในทีเดียว

ข้าเองก็ใช้ “คิ”เช่นกันเพื่อหลบการโจมตีของดาบใหญ่นั่น เสียงของเหล็กดังกระทบกันสนั่นหู

「เหอะ!ลังเลอยู่งั้นเหรอ」

มาร์ที่รู้สึกหงุดหงิดนั่นดูมีท่าทีลังเลจึงไม่สามารถจะตัดสินใจจบการโจมตีในทีเดียวได้

เขาดึงดาบใหญ่ที่จมลงไปบนพื้นและเริ่มที่จะฟันมันมาอีกครั้ง

เขาฟาดฟันดาบใหญ่ไปรอบๆด้วยเรี่ยวแรงอันมหาศาลจาก “คิ”

เสียงของเหล็กปะทะกันดังสนั่นไปทั่วบ่งบอกถึงการต่อสู้อันดุเดือด แต่ว่ามีฝ่ายเดียวที่ได้เปรียบ

การเสริมพลังกายของมาร์มีพละกำลังมากกว่าข้า แต่ผลของการเสริมพลังกายของข้าเองก็ได้ผลเพียงครึ่งเดียวด้วยความสามารถของข้า

มาร์มันเป็นคนเก่งแต่เพราะทำแต่เรื่องแย่ๆเลยได้มาอยู่ในห้อง 10

ในทางตรงกันข้ามแม้หมอนั่นจะมีความสามารถสูง แต่มาร์มันกลับพอใจที่จะกดขี่คนที่ต่ำกว่านั่นมันโครตจะแย่

เทคนิคดาบชั้นสูงของมาร์ไม่สามารถใช้จัดการกับโนโซมุตามปกติได้ แต่ว่าพลังกายของโนโซมุที่ได้รับการเสริมแบบครึ่งๆกลางๆมันก็พอเป็นไปได้

พลังที่ได้มานั่นทำให้พอฟัดพอเหวี่ยงกับดาบของโจรสลัดเท่านั้นเอง

「แหลกไปซะเหอะมึง!!」

บางทีอาจจะเป็นเพราะข้าโดนกดดันจนถูกบดขยี้ในพริบตา แต่ว่าข้าก็กันการโจมตีนั่นได้ยิ่งทำให้มาร์มันหงุดหงิดจนพละกำลังมันเพิ่มมากขึ้นไปอีก

「เหอะ คิดว่าจะบดขยี้ข้าได้ง่ายๆงั้นเหรอ!」

ข้ากัดฟันแน่นเพื่อที่จะไม่เดินไปตามเกมส์ของศัตรู

แม้ว่าพลังในการโจมตีจะเพิ่มขึ้น แต่การโจมตีของมันก็ซ้ำซากและจำเจ ทำให้รับมือได้ไม่ยากเย็น

อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถสวนกลับได้ทำได้เพียงแค่ยื้อเท่านั้น

และถ้าโต้กลับไม่ได้ผลมันก็รู้ๆกันอยู่

ในที่สุดก็มาถึงขีดจำกัด

ข้าไม่สามารถรับการโจมตีของมาร์ได้อีกต่อไป การป้องกันของข้าถูกทำลายลงและไม่มีเวลามาตั้งท่าใหม่ ตอนนั้นเองทีข้าถูกดาบใหญ่นั่นฟาดเข้ามากระแทกกับคาตานะของข้าจนกระเด็น

「จะเหนียวได้สักแค่ไหนกันเชียววะ!」

รูปร่างของข้าบิดเบี้ยวเพราะการโจมตีนั่น ข้าตัวกระเด็นจนตัวไปกระแทกกับกำแพงของสนามฝึกซ้อม

ผลกระทบนั่นทำให้ข้าหายใจติดขัดและการมองเห็นของข้าก็มืดดับลง

「เป็นแค่เศษสวะแท้ๆ แต่ยังกล้าขัดขืน โดนดีไปซะเหอะมึง」

ข้าหมดสติไปพรัอมกับคำพูดของมาร์

「โอ้ยยยย เจ็บแหะ!」

ข้าลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับสติที่พร่ามัวลุกขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดไปทั้งตัว

ข้าก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องพยาบาล

「เอ้าๆ รู้สึกตัวแล้วไม่ใช่เหรอไงเนี่ย?」

ผู้หญิงสวมชุดโค้ทสีขาวพร้อมกับใส่แว่นนั่นกำลังทำงานอยู่บนโต๊ะพยาบาล

ชื่อของเธอคือนอร์น อัลทิน่า เป็นหมอประจำโรงเรียนที่สวยเอามากๆ

เธอเดินมาทางนี้และขยับนิ้วมาตรงหน้าผมเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกาย

「อืมม ดูจากสภาพแล้วสติยังคงดีอยู่ แล้วรู้สึกปวดตรงไหนบ้างรึเปล่า?」

「ข้าปวดหลังนิดหน่อยและหัวเองก็ยังคงมึนๆ แต่ว่าไม่มีตรงไหนผิดปกติแล้วล่ะ」

「อืมมเข้าใจแล้ว ฉันทายาไปที่หลังของนายแล้วล่ะ แต่ถ้ารู้สึกเจ็บหรือปวดตรงไหนก็มาได้ตลอดเวลานะ มันจะดีกว่านะที่มาหาฉันมากกว่าที่จะทนเจ็บกับบาดแผลนั่น」


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท