พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” – ตอนที่ 73

ตอนที่ 73

บทที่5ตอนที่20

 

 

ห้าฝ่ายที่เอาชนะเป้าหมายพิเศษได้ในการทดสอบครั้งนี้มารวมตัว ณ ที่แห่งเดียวกัน ผลที่ตามมาทำให้เกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ทางส่วนเหนือของพื้นที่การฝึก

 

 

「ฮ่าหหหหหหหหหหห์!」

 

 

「ย๊ากกกกกกกกกกกห์!」

 

 

「คามิลล่า!สนับสนุนด้วย!」

 

 

「เข้าใจแล้วทั้งสองคนเอาชนะให้ได้นะ!」

 

 

ลิซ่าพยายามพุ่งเข้าหาทิม่าโดยใช้ความสามารถแม่มดเนวี่ เคนกับคามิลล่าก็สนับสนุนเธอ

 

 

อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะต้องใช้เวลาจัดการกับไอริสที่สู้อย่างเต็มที่ ทิม่าเองก็ใช้เวทย์อันทรงพลังจัดการกับพวกลิซ่าและคนอื่นๆ ด้วยความร่วมมืออันน่าทึ่ง

 

 

◇◆◇

 

 

「ทอมมี่! ไหวป่าว!?」

 

「อาา มากกว่านั้นก็เหอะนะ!」

 

「รู้แล้วล่ะน่า! ยังไงก็ต้องทำอะไรสักอย่างกับซีน่า..บ้าเอ้ย! มิมุรุอย่าขวางกันเดะ!!」

 

「น่า น่า ใจเย็นหน่อยสิจ้ะ! ถ้ามาร์เป็นอิสระในตอนนี้ พวกเขาก็แย่กันพอดีสิ!」

 

มาร์ ทอมมี่ และ แฮมเรีย ถูกซีน่า มิมุรุ และทอมเข้ามารบกวน มิมุรุคอยป่วนส่วนซีน่าและทอมช่วยสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง

 

 

อย่างไรก็ตาม เวทย์และลูกศรเหล่านั้นที่ปล่อยออกมาไม่โดนมิมุรุเลยแม้แต่น้อย ความแม่นยำนั้นสูงมาก เช่นเดียวกับไอริสที่ร่วมมือกับทิม่า

 

 

จินและคามี่ที่อยู่ใกล้กับมาร์และคนอื่นๆต่อสู้กับนักเรียนหญิงที่ถือหอกฟื้นตัวขึ้นมา

 

「หนอย! อย่าได้ใจเกินไปสิวะ! เป็นแค่เศษสวะแท้ๆ!」

 

「ก็เพราะแบบนั้นยังไงเล่า!」

 

ก่อนที่ซีน่าจะมาสอดแทรกระหว่างพวกเขา พวกเขารุมโจมตีจนฝ่ายนั้นจนมุมจนกระทั่งโดนแทรกทำให้นักเรียนหญิงคนนี้ฟื้นตัวเข้ามาได้ จนการต่อสู้กลับมาเสมอกันอีกครั้ง

 

มาร์กัดฟันแน่นขณะที่มองไปทางจินและเพื่อนๆ

 

「บ้าเอ้ย! ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็……」

 

มาร์เริ่มรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นไปเรื่อยๆ

 

(จะเอายังไง! ข้ากับโนโซมุเองก็วุ่นพอตัวแล้ว! จินกับคามี่ก็เหมือนกัน!)

 

สถานการณ์ปัจจุบันยังคงอยู่ในความสมดุลที่ไม่มั่นคงนัก ไม่สามารถขยับไปช่วยใครได้หากเดินพลาดแม้แต่นิดเดียวเกมส์เปลี่ยนแน่ๆ เพราะแบบนั้นมาร์เลยยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นไปอีก

 

(จะต้องแยกออกจากโนโซมุงั้นเหรอ?ไม่ถ้าไปช่วยโนโซมุจินและพวกที่เหลือได้ไม่รอดแน่……ไม่ใช่สิ พวกนั้นเองก็ไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น)

 

ไม่ใช่แค่เควินและมาร์ที่ไม่พอใจกับสถานการณ์ในตอนนี้

 

(บ้าเอ้ย แล้วควรจะทำยังไงดีวะเนี่ย ใช่แล้ว ถ้าแบบนั้นละก็……)

 

สิ่งที่เข้ามาในหัวของมาร์ก็คือ “เทคนิคผสาน”ที่เขาฝึกมา

เขาโดนทิม่าสั่งห้ามเพราะยังใช้ได้ไม่สมบูรณ์ดีและมันไม่ค่อยเสถียรเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้มันช่วยไม่ได้แล้ว

 

(โนโซมุก็บอกว่าอย่าใช้ แต่ว่าเคยทำได้มาแล้วครั้งหนึ่ง เพราะฉะนั้นมันจะต้องทำได้อีกรอบสิฟะ!)

 

แม้ว่าจะเป็นการต่อสู้จำลอง แต่มาร์ก็เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้อย่างดี เขาเชื่อว่าการตัดสินใจของเขานั้นถูกต้อง เขาจึงเริ่มถ่ายเทพลังทั้งสองลงในดาบใหญ่

 

 

เมื่อมาร์และพรรคพวกต้องดิ้นรนในสถานการณ์อันแสนวุ่นวาย เควินเองก็ยังสับสนกับสถานการณ์อันแสนปวดหัว

 

「อาาาโมววววววววว! อดทนหน่อยสิฟะ ฟีโอ!」

 

「อย่ามาพูดบ้าๆน่าโนโซมุ! นี่มันเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ประมือกันอีกรอบ! เควิน!!」

 

「หุบปากน่า! ข้าหงุดหงิดแกมานานแล้วโว้ยยทำตัวน่ารำคาญชิบหาย! จะบดขยี้พวกแกทั้งสองคนไปพร้อมกับสถานที่แห่งนี้ไปเลยโว้ย!!」

 

เควินโจมตีฟีโอที่พยายามไล่ล่าโนโซมุ ฟีโอเหวี่ยงไม้กระบองเข้าไปที่หมัดของเควิน แต่เควินก็เข้ามารับกระบองและพุ่งเข้าไปต่อยโนโซมุ

 

(บ้าไรฟะเนี่ย! สถานการณ์โครตจะแย่……)

 

โนโซมุเองก็เริ่มหมดความอดทน ปาร์ตี้ของโนโซมุที่ได้เปรียบจนมาถึงตอนนี้กลับกลายเป็นพลิกกลับกันไปหมดแล้ว สถานการณ์ในตอนนี้ทั้งศัตรูและมิตรปะปนกันไปทั่ว กลยุทธ์ที่วางมามันพังไปหมด ซึ่งนี่มันก็เสี่ยงต่อการรอดของทีมด้วย

 

 

กล่าวอีกนัยหนึ่ง หากสนามรบเปลี่ยนไปตามที่เป็นอยู่ ฝ่ายที่จะแพ้มากที่สุดก็คือพวกโนโซมุเอง

 

 

อันที่จริงโนโซมุต้องใช้คิเพื่อจัดการกับฟีโอและเควิน

 

(ถ้ามันนานเกินไปแย่แน่ๆ…จะไม่ไหวก่อนเพราะหมดแรง)

 

โนโซมุมีแนวโน้มที่จะโดนจัดการมากที่สุดในหมู่ทั้งสามคน

เขาชำเลืองมองสถานการณ์รอบๆแต่ก็มีการต่อสู้ทุกหนแห่ง และทุกคนก็ต่างวุ่นวายกันเต็มไปหมด กล่าวอีกนัยหนึ่งมันกลายเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ไปหมดแล้ว

 

(ถ้าแบบนี้ละก็ต้องเดิมพันกับเทคนิคของมาร์แล้วล่ะ……)

 

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ปัจจุบันที่ฟีโอและเควินไม่ได้เข้าไปยุ่งกับมาร์ถือว่าดีอยู่

 

(……ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้เสียหน่อย……)

 

ความคิดนั้นลอยเข้ามาในหัวของโนโซมุ อย่างไรก็ตามโนโซมุรีบใช้วิธีนั้นทันที

 

 

อย่างแรกถ้าโดนจัดการก็ถูกตัดสิทธิ์ มันจะสามารถนำความพ่ายแพ้ของพรรคพวกได้เลยในสถานการณ์เช่นนี้

 

 

ประการที่สองคืออันตรายของวิชาคิที่โนโซมุใช้ เพราะมันเป็นอันตรายต่อบุคคลธรรมดาเป็นอย่างมาก มันมีพลังในการทำลายล้างสูงที่สามารถสังหารหมู่ได้เลย อีกทั้ง แฟนท่อมยังอันตรายเกินไป

 

「เหม่ออะไรอยู่กันหะ!!」

 

「บ้าเอ้ย!!」

 

เควินเข้าโจมตีตรงจุดบอดของโนโซมุซึ่งกำลังดูภาพรวม เขาบิดตัวและหลีกเลี่ยงการโจมตีนั่น แต่หมัดนั่นก็เฉี่ยวแก้มของโนโซมุ ไม่ว่ายังไงก็ตาม หากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ต่อไปโนโซมุแพ้แน่ๆ

 

 

(……ต้องเดิมพันแล้ว…ช่วยไม่ได้ละนะ….ไม่จำเป็นต้องฟันให้โดนร่างก็พอ แค่เล็งไปที่จี้เท่านั้นเอง)

 

ถ้าฟันโดยตรงไม่ได้ก็ทำทางอ้อมแทนก็พอ โชคดีที่เป้าหมายนั่นเป็นแค่สิ่งของ

เมื่อโนโซมุตัดสินใจได้ก็พยายามส่งคิไปที่ดาบ แต่ว่าจู่ๆก็เกิดลมกรรโชกแรงขึ้น

 

 

「อะไรวะนั่น!?」

 

การต่อสู้ของพวกโนโซมุหยุดลงและหันไปมองทิศทางของลม ลมพัดมารวมกันตรงตัวของมาร์ ยิ่งกว่านั้นมันแรงกว่าที่เขาเคยใช้กว่าครั้งใดๆ

 

 

หากสังเกตดีๆจะมีพลังเวทย์และคิไหลเวียนอยู่รอบๆดาบของเขา มันมีสัญลักษณ์ต่างกันอย่างชัดเจน

 

 

ไม่ต้องสงสัยเลยพลังคิและพลังเวทย์ที่มาร์ใช้พร้อมกันในการต่อสู้จำลองครั้งนั้น ลมหมุนวนด้วยความสามารถของมาร์ รวบรวมแรงดาบไว้ที่ดาบใหญ่นั่นด้วยโมเมนตั้มมหาศาล

 

 

 

「โอววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว!!」

 

「นั่นมัน……」

 

「มาร์คุง!」

 

โนโซมุลังเลเพราะเห็นพลังของมันที่ดูรุนแรงเป็นอย่างมาก แต่ว่าโนโซมุนั้นตัวสั่นในความหมายที่ต่างออกไป พลังที่มีแต่พลังมันขาดการควบคุมมันจะทำให้เกิดความโกลาหลอย่างแน่นอน

 

 

บางทีเพราะมาร์ตัดสินใจใช้เทคนิคนี้เพราะสถานการณ์ที่มันช่วยไม่ได้แล้ว

 

 

ทิม่าเองก็รู้สึกถึงอันตรายเช่นกัน มาร์ME่ตะโกนก้องและหันปลายดาบไปทางที่โนโซมุอยู่

 

 

 

「โนโซมุ!! หลบให้ดีนะโว้ย!!」

 

「เดี๋ยวก่อนสิฟะ!!」

 

ในเวลาเดียวกันโนโซมุก็รีบหนีไปอย่างรวดเร็วตามคำสั่งของมาร์ ลมที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรงพัดผ่านไป

 

 

สายลมที่พัดมาพร้อมกับพลังคิ “ค้อนสะบั้นปฐพี”และพลังเวทย์ที่ร่ายเวทย์”อุโมงค์ลมแห่งความหิวกระหาย”ที่ผสมผสานกันนั้นกลายเป็นคลื่นเกลียวลูกใหญ่พัดผ่านพื้นที่แห่งนั้น

 

 

 

「หวาาาาาาาาา!!」

 

「เห้ย!นั่นมันอะไรกันวะ!!」

 

เควินและฟีโอพยายามจะหลบกระแสลมอันมหึมาที่พุ่งเข้ามา อย่างไรก็ตามทั้งสองโดนกระแสลมนั่นกลืนกินไปในทีเดียว

 

「บ้าเอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!」

 

ทั้งสองคนปลิวไปพร้อมกับแรงลมนั่น แต่มุมมมองของโนโซมุเขาเห็นซีน่าเล็งไปที่มาร์ซึ่งไร้การป้องกันอยู่ เขาเลือกที่จะไปช่วยมาร์ทันที

 

 

เขาปล่อยคมดาบมายาไปฟันต้นไม้ตรงที่ด้านหลังซีน่าและทอมต้นไม้เหล่านั้นล้มทับซีน่าและก็ทอม

 

 

 

「เดี๋ยว! เดี๋ยวก่อนสิ!!」

 

「ทอม! วิ่งเร็ว!!」

 

ทอมและซีน่ารีบวิ่งออกจากที่แห่งนั้นทันที

 

 

ช่วงเวลาที่การสนับสนุนของซีน่าและทอมหยุดลง มาร์ที่กลับเข้าสู่สภาพเดิมแล้วก็ใช้ดาบใหญ่ไล่ต้อนมิมุรุ อย่างไรก็ตามมิมุรุก็ปลิวไปในอากาศพร้อมกับหมุนตัวไปนอกระยะ

 

 

ระหว่างนี้เองทอมมี่ก็เริ่มเข้าไปช่วยจินและพรรคพวกที่สู้กับนักเรียนหญิงถือหอก

 

 

 

「หนอยยยยยยยยยย!!」

 

นักเรียนหญิงพยายามสู้แต่ว่าโดนทั้งสามคนลุมทืบ

 

 

นักเรียนคนนั้นเสียท่าเพราะการฟันของทอมมี่

 

 

 

「คิย๊าาาาาาาาาาาาาาาา!」

 

จินฟันเข้าไปในช่องว่างตรงนั้น นอกจากนี้คามี่ก็เข้าโจมตีจากด้านข้าง ทันใดที่โดนทั้งสองฟันจี้สร้อยคอก็เป็นสีแดง

 

 

มาร์พยายามพุ่งเข้าหาซีน่า ในขณะที่จินและเพื่อนๆเอาชนะผู้ใช้หอกได้แล้ว มิมุรุหยุดมาร์ได้ แต่ก็ไม่สามารถหยุดเทคนิคผสานของเขาได้

 

 

อย่างไรก็ตาม มาร์สลัดมิมุรุออกไป ฟีโอก็วิ่งเข้ามา

 

 

อาจจะเป็นเพราะเทคนิคของมาร์เครื่องแบบของเขาขาดรุ่งริ่งและบาดแผลมากมาย

 

「คิดจะทำอะไรกัน! ถ้าข้าน้อยใช้ยันต์ไม่ได้มันก็เป็นเหมือนเศษกระดาษเลยไม่ใช่เหรอไง!!」

 

「ไม่คิดว่าเป็นแบบนั้นหรอกนะ ฮะฮะ แล้วเกิดอะไรขึ้นกับไอ้หมาบ้านั่นละ?」

 

「เอ๋? ไม่รู้หรอกนะ」

 

บางทีเควินโดนเมินไปเรียบร้อยแล้ว ฟีโอก็ได้แต่ทำท่างงๆ

 

 

เป็นผลให้ฟีโอเข้ามาหยุดมาร์ระหว่างนั้นซีน่าและทอมเองก็ฟื้นตัวกลับมาแล้ว และสถานการณ์กำลังจะกลับมาเป็นระหว่างทีมมาร์และซีน่า

 

 

◇◆◇

 

 

โนโซมุวิ่งไปรอบๆพร้อมกับมองภาพทางด้านหน้าที่มาร์สร้างสภาพขึ้นมา มาร์และซีน่าเผชิญหน้ากัน ผมเองก็รีบเข้าไปช่วยไอริสเป้าหมายคือคามิลล่าซึ่งเป็นแนวหลังของพวกลิซ่า

 

(เทคนิคhit and run (ฟันแล้วหนี) นั้นสำคัญที่สุด หลังจากนั้นค่อยเข้าร่วมกับทุกคนและจัดการซีน่า!)

 

เป้าหมายของโนโซมุคือการทิ้งระเบิดลงในสนามรบแห่งนี้ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าป่วนสถานการณ์รบของพื้นที่โดยรอบ

 

 

คามิลล่าเปลี่ยนเป้าหมายจากไอริสเป็นพวกโนโซมุและโจมตีเขาด้วยหอกน้ำแข็ง

 

「หวาา!」

 

โนโซมุพุ่งผ่านช่องว่างระหว่างหอกน้ำแข็งด้วยขาของเขา หอกน้ำแข็งพุ่งผ่านร่างกายของโนโซมุ แต่โนโซมุก็ยังรุดหน้าต่อไป

 

「หึ!เกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย!!」

 

คามิลล่าไม่พอใจอย่างมากที่ตัวเองหยุดโนโซมุไม่ได้และเธอก็ยิงหอกน้ำแข็งต่อไปอีก

 

 

โนโซมุเหวี่ยงดาบลงไปในขณะนั้นเองก็มีเงาพุ่งเข้ามาขวาง

 

「คิดจะทำอะไรงั้นเหรอ โนโซมุ」

 

「ชิ!!」

 

เคนพุ่งเข้ามาและฟันดาบยาวมาทางโนโซมุ โนโซมุเอาดาบมากันแต่ก็ปลิวไป

 

「เวรเอ้ย!」

 

โนโซมุฟื้นกลับขึ้นมาทันที

อย่างไรก็ตาม เคนยิงหอกน้ำแข็งตามมา โนโซมุลังเลว่าจะปัดหอกน้ำแข็งออก แต่ทันใดนั้นเคนก็พุ่งเข้ามาใกล้แล้ว

 

「บ้าเอ้ย!!」

 

โนโซมุยกดาบขึ้นและบิดตัวปัดป้องดาบของเคนสุดกำลัง และฟันดาบที่ย้อนตามมา

 

 

เคนบิดตัวหลบดาบของโนโซมุ แต่โนโซมุไม่สนใจและฟันเข้าไปอีกครั้ง อย่างไรเคนก็ปัดออกด้วยการฟันไปที่ปลายดาบ

 

 

ทั้งสองคนเข้าประทะกันเหมือนเดิมอย่างไรก็ตาม โนโซมุที่ด้อยกว่าคือโดนไล่ต้อน

 

「หนอยยยยยยยยยย!」

 

「หวาาาา…………」

 

เคนยิ้มให้กับความพยายามอย่างสิ้นหวังของโนโซมุที่จะสวนกลับ ความแตกต่างที่ต่างกันเกินไประหว่างทั้งสอง ความเสียใจและความหงุดหงิดพุดขึ้นมาในใจของโนโซมุ

 

ทำไมวะ ทำไม! ทำไมต้องทำแบบนี้!!

 

ความเสียใจต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อเหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมดมันผุดขึ้นมาอีกครั้ง

 

 

คิสำหรับใช้โจมตีเช่น แฟนท่อมและการปลดพันธนาการเรื่องเล่านี้มันเริ่มเข้ามาในหัว

 

 

ปล่อยพลังของตัวเองออกมาและจัดการมันให้ราบคาบ

 

“ไม่ดียังงั้นเหรอ! จัดการมันให้หมอบไปเลย ไอ้เศษสวะเช่นนี้ปล่อยตัวไปตามอารมณ์ของแกไง……”

 

「อั่ก!!」

 

เสียงที่ดังก้องอยู่ภายในหัวกลายเป็นสิ่งล่อใจและกำลังทำลายเหตุผลและความคิดของโนโซมุ

 

 

โนโซมุพยายามอดทนต่อสิ่งล่อใจเหล่านั้นกัดริมฝีปากแน่น รสชาติของเลือดแล่นไปทั่วทั้งปาก

 

 

บางทีเพราะเห็นท่าทางอันแสนเวทนาของโนโซมุเคนยิ้มออกมาราวกับคนบ้า จ้องมองเข้าไปในดวงตาของโนโซมุราวกับกำลังเยาะเย้ย

 

 

 

「โนโซมุ…สภาพแกมันทุเรศวะ。」

 

「หะ!!」

 

「แต่ว่าประหลาดใจจริงๆวะ ที่แกยังรอดมาได้เช่นนี้……」

 

เคนอาจจะแปลกใจที่โนโซมุยังรอดมาได้จนถึงตอนนี้ อย่างไรก็ตามใบหน้าของเขายังคงบิดเบี้ยวและน่าเกลียดน่าชังเช่นเดิม

 

「ไม่ใช่แกที่ควรเคียงข้างลิซ่า แกไม่สามารถจะอยู่ข้างเธอได้ แกมันอ่อนแอเกินไปเป็นแค่ไอ้เศษสวะชั้นต่ำและน่าสมเพช」

 

「อึก! เคนนนนนนนนนนนนนน! แกกกกกก……!!!」

 

「ไว้ค่อยมาตัดสินกันใหม่ ข้าต้องรีบกลับไปหาลิซ่าแล้ว ข้าคิดว่าไม่มีเวลามาเล่นกับแกตลอดหรอกนะ ข้าอยากจะอยู่กับเธอนานๆว่ะ แล้วเจอกันนะ โนโซมุเอ๋ย รีบกลับบ้านไปนอนน่ะ นี่น่ะคำแนะนำจาก “เพื่อนสนิทคนสำคัญ”……」

 

ทันทีที่ได้ยินคำนั้นบางอย่างก็ผุดขึ้นมาในใจผม

 

 

ความโกรธและเพลิงแค้นที่เผาไหม้ในจิตใจเริ่มกลับลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง

 

「ย๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกห์!!!」

 

โนโซมุกระโดดถอยหลังพร้อมกับยืดแขนออกไปอย่างสุดกำลัง เคนกระโดดถอยกลับพร้อมกับรอยยิ้มร่า

 

「แล้วจะเอายังไงตัวแกเองก็ใช้เวทย์ไม่ได้นี่?」

 

เคนคิดว่าสิ่งที่โนโซมุทำมันเปล่าประโยชน์และร่ายเวทย์ราวกับเยาะเย้ยเขา

 

 

สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าคือหอกน้ำแข็งขนาดใหญ่ หอกน้ำแข็งยักษ์ที่สูงกว่าตัวของเคนปรากฏขึ้นมาและหันไปทางโนโซมุ

 

โนโซมุกระโดดถอยหลังและบีบอัดคิไปที่ดาบ กิเลสและความโกรธาของเขาพุ่งขึ้นจนถึงขีดสุด เขาใส่มันสุดแรง

 

 

เปิดใช้งานก้าวพริบตาทันทีพร้อมกับพุ่งเข้าหาเคนตรงๆ

 

「ฮะฮ่าฮ่าฮ่า! สุดท้ายคิดจะมาตายที่นี่งั้นเหรอ!? ……ก็ดี หากอยากจะจบเรื่องตรงนี้ ก็เอาสิวะ」

 

เคนยิงหอกน้ำแข็งออกไปด้วยท่าทีเคร่งขรึม หอกน้ำแข็งพุ่งเข้าไปหาโนโซมุ

 

「ย๊าหหหหหหหหห์!」

 

โนโซมุพุ่งเข้าไปโดยไม่สนอีกต่อไป หลังจากสร้างคมดาบเสร็จแล้วเขาก็จ้องแท่งน้ำแข็งด้านหน้า

 

 

วินาทีถัดมาภาพที่มองเห็น ก็เปลี่ยนไปกลายเป็นภาพไร้สี

 

 

โนโซมุเพ่งสมาธิอย่างเต็มที่และเมื่อเขาฟันใส่โลกที่ไร้สีสัน เขาชักดาบออกมาพุ่งเข้าใส่หอกน้ำแข็งที่พุ่งเข้าหาเขา

 

「เห้ย!!」

 

วินาทีถัดมาเคนก็ส่งเสียงตกใจ

 

 

หอกน้ำแข็งที่สร้างมาแตกกระจายไม่มีชิ้นดี

 

 

โนโซมุไม่ได้จ้องมองหอกน้ำแข็งแม้แต่น้อย และพุ่งเข้าหาเคนพร้อมกับน้ำแข็งที่แตกเป็นเสี่ยงๆ

 

 

 

「ไอ้เวรเอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยย!!」

 

เคนฟันดาบใส่โนโซมุ

 

 

แม้ว่าจะไม่พอใจกับสถานการณ์ที่เกิดคาด ร่างกายของเขาก็ขยับโดยไม่รู้ตัว เข้าไปกันดาบของโนโซมุ

 

 

บางทีเพราะกันไม่ทัน เคนหน้าซีด และปากสั่น

 

 

อย่างไรก็ตามระยะห่างที่ถูกย่นเข้าและการฟันก็ทำให้เขาปลิวไปทันที

 

 

โนโซมุกระแทกเท้าขวาลงกับพื้นแล้วบิดตัว วินาทีถัดมาร่างกายที่หมุนด้วยความเร็วสูงก็เกิดการระเบิดจากแรงกระแทกอันน่าตกใจ

 

 

 

「ได้ไงวะ!」

 

ดาบของโนโซมุฟันไปด้วยความเร็วเหนือแสง ฟันผ่านร่างของเคนไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดาบของเคนที่ฟันออกมาไม่โดนเขาเลยแม้แต่น้อย

 

 

เสียงระเบิดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้คือเสียงระเบิดของคิที่โนโซมุอัดแน่นอารมณ์ทุกอย่างไว้ในดาบจนแน่นขนัดมันเป็นคิที่บริสุทธิ์อย่างมาก เพราะแบบนั้นดาบของโนโซมุเลยเร็วกว่าแสงซึ่งโนโซมุที่ปล่อยอารมณ์ทั้งหมดลงไปที่ดาบทำให้เกิดการฟันเหนือแสงขึ้นมา

นอกจากนี้โนโซมุยังเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงพร้อมกับฟาดฟันดาบไปพร้อมๆกัน

 

 

ใบมีดของโนโซมุฟาดเข้าไปใกล้ดวงตาของเคน ถ้าปล่อยไปทั้งแบบนั้นคอของเคนขาดกระจุยแน่นอน

 

 

 

โนโซมุกำลังมองเคนที่สภาพทรุดโทรมลงไปเรื่อยๆ

 

ถ้ายังทำแบบนี้ต่อไปก็จัดการได้แน่ แต่……。

 

สิ่งที่เข้ามาในหัวคือภาพอันน่าสะอิดสะเอียน เป็นโศกนาฏกรรมที่เขาสร้างขึ้นเพราะใช้พลังอันมหาศาล และฝันร้ายที่หวนคืนนึกถึงในทุกๆวัน ใบมีดที่ตัดร่างของคนรู้จักมากมาย จนสุดท้ายก็เผาพวกเขาทั้งเป็น

 

「อ๊ากกกกกกกกก!! อ่าาาาาาาาาาาาาาาาา!!」

 

เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ โนโซมุก็กระแทรกใบมีดไปที่คอของเคนนั้นพยายามบิดหนีออกแต่ว่ามันก็ลบแรงออกไม่หมดจนฟันแก้มของเคนไป

 

「อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!」

 

「อาาาาา! เคนนนนนนนนน!!」

 

ใบหน้าของเคนบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด เลือดอาบแก้มของเขา ลิซ่าที่สู้กับไอริสอยู่ได้ยินเสียงกรีดร้องของเคน เธอก็พุ่งเข้าหาโนโซมุทันที ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเกลียดชังที่มีต่อเขา จ้องมองไปด้วยความโกรธ

 

「ถอยไปให้ห่างจากเคนนะ!!」

 

ลิซ่าใช้เวทย์ที่เสริมพลังด้วยแม่มดเนวี่สร้างเปลวไฟขนาดใหญ่และยิงไปทางโนโซมุโดยไร้ซึ่งความลังเล

 

「บ้าเอ้ย!」

 

โนโซมุหลบไปด้านข้างเพื่อหลบเปลวเพลิง แต่ไฟที่ลุกโชนมันราวกับจะกลืนกินโนโซมุทั้งๆยังงั้น

 

「โนโซมุ!」

 

อย่างไรก็ตามก็มีเวทย์ลมพุ่งมาจากด้านข้างพัดเปลวเพลิงเหล่านั้นไปจนหมด นอกจากนี้ทิม่ายังใช้เวทย์สร้างบาเรียกันระหว่างโนโซมุและเวทย์ไฟนั่น ไอริสรีบวิ่งเข้าไปหาโนโซมุทันที

 

「เป็นอะไรไหมคะ?」

 

「อาาา ไม่เป็นไรหรอกครับ」

 

ไอริสกังวลเป็นห่วงโนโซมุอย่างมาก โนโซมุก็ตอบกลับด้วยท่าทีสบายๆ ใบหน้าที่ขาวผุดผ่องและดวงตาสีดำมันไม่เข้ากับสนามรบแห่งนี้เลย

 

 

โนโซมุที่มองไม่เห็นแววตาของเธอก็รีบเบือนหน้าหนี

 

「…………」

 

「…………」

 

โนโซมุและไอริสไม่ได้พูดอะไรกันอีก

 

 

ขณะนั้นเองกำแพงเวทย์ก็พังทลาย ลิซ่าและเพื่อนๆก็ลุกขึ้นจากเปลวไฟ ณ แห่งนั้น

 

「อาาาาาาาาาา!!」

 

ลิซ่าจ้องโนโซมุด้วยความเกลียดชัง เบื้องหลังของลิซ่าก็มีสิ่งที่โนโซมุนั่นเกลียดชังอยู่เช่นกัน

 

 

เมื่อเห็นดวงตาที่โกรธจัดของลิซ่าและอดีตเพื่อนสนิทที่ชวนน่าหงุดหงิด หน้าอกของโนโซมุก็เจ็บแปล๊บขึ้นมา อารมณ์มากมายไหลเวียนเข้ามาในใจ

 

“คุรุรูรุรูรู……”

 

「อาา!!」

 

อย่างไรก็ตาม “หมอนั่น” ทำเสียงก้องกังวาลอยู่ในตัวเขา อารมณ์ด้านมืดเริ่มพวกพุ่งเข้ามากลืนกินตัวตนของโนโซมุ ในเวลานั้นไอริสเองก็ยื่นมือเข้ามาช่วย

 

「โนโซมุรอบนี้มาร่วมกันสู้ด้วยกันไหมคะ?」

 

「เอ๋?」

 

โนโซมุอายกับข้อเสนอของไอริสที่ยื่นมากระทันหัน ซึ่งสัญญากันไว้แล้วว่าจะปาร์ตี้ด้วยกันในวันที่สอง แต่วันนี้เป็นศัตรูกัน

 

 

อย่างไรก็ตามไอริสบอกให้ร่วมมือกันเพื่อจัดการลิซ่าและซีน่า

 

「……ได้งั้นเหรอ?」

 

โนโซมุถามไอริสให้แน่ใจ เธอพยักหน้าโดยไม่ลังเล

 

「……เข้าใจล่ะ ฝากตัวด้วยนะไอริส」

 

โนโซมุตอบรับข้อเสนอของไอริส ไอริสเองก็ยิ้มด้วยท่าทางมีความสุข

 

 

โนโซมุรู้สึกทึ่งกับรอยยิ้มเมื่อครู่ อารมณ์ด้านมืดค่อยๆหายไปและกลับไปเป็นเหมือนปกติ

 

 

 

ลิซ่าและคนอื่นๆต่างถือดาบขึ้นมา ไอริสเองก็ถือดาบและเข้ามาเคียงข้างโนโซมุ

 

 

ในขณะนั้นเองโนโซมุก็รู้สึกว่าจิตใจของเขาอบอุ่นขึ้นมา รู้สึกได้ถึงอุณหภูมิร่างกายของไอริส ความร้อนในร่างกายที่กำลังพุ่งสูงขึ้นแปรเปลี่ยนเป็นความอบอุ่นภายในใจ

 

 

 

โนโซมุถือดาบขณะที่ผ่อนคลายท่าทางลง แต่ในขณะนั้นเกิดการระเบิดพลังขึ้นมา

 

「อะไรกัน!?」

 

โนโซมุและเพื่อนๆตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน แต่ว่ามีความรู้สึกแปลกๆที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากทางมาร์และซีน่า พวกมาร์เองก็ต่างจ้องมองไปทางนั้น

 

「……หนอยแน่ ทำกันได้นะโว้ย……」

 

สิ่งที่เข้ามาคือเควินซึ่งน่าจะโดนมาร์จัดการไปแล้ว

 

 

เขาโกรธมากและปลดปล่อยคิออกมามากเกินกว่าจะควบคุม จนทำให้เกิดความรู้สึกแย่ๆได้เลย

 

「เล่นเอาไว้แสบเลยนะมึง……」

 

เขารวบรวมพลังไว้ในฝ่ามือ แขนของเขาส่องแสงและส่งเสียงแหลมและสั่นสะเทือน มันเหมือนกับภูเขาไฟที่กำลังประทุออกมา

 

 

ดวงตาของเควินที่โกรธจัดจ้องมองมาทางโนโซมุ

 

「ก่อนอื่นไอ้เศษสวะแบบแก ถัดมาก็เป็นไอ้คนใจเสาะ จะขยี้แม่งให้เละเลย!」

 

วินาทีถัดมาร่างกายของเควินเปลี่ยนไป ขนเริ่มงอกตามร่างกายและกล้ามเนื้อก็เปล่งปลั่ง ปากยื่นออกมาและแปลงร่างเป็นหมาป่าอย่างแท้จริง

 

ความสามารถเดียวกับมิมุรุ “แปลงร่างสัตว์ป่า”

 

 

การทำให้ตัวตนของตัวเองกลับเป็นเผ่าดั้งเดิมเพิ่มความสามารถทางกายภาพเหมือนกับเผ่าแมวป่า

 

 

อย่างไรก็ตามกลายเป็นสัตว์โดยสมบูรณ์ และเกิดการสั่นสะเทือนที่พื้นอย่างรุนแรง

 

「หวาาาาาาาาา!!」

 

「อะไรกัน!? แผ่นดินไหวงั้นเหรอ!?」

 

ทุกคนที่อยู่ที่นั่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เควินที่กำลังจะแปลงร่างก็หยุดลงทันที

 

 

ทันทีนั้นก็เกิดรอยแตกบนพื้นดินและกลิ่นเหม็นเน่าเริ่มโชยมา

 

 

วินาทีถัดมาก็มีบางอย่างผุดขึ้นมาจากพื้นดินมันพุ่งทะยานออกมาจากพท้น กรงเล็บและเขี้ยวที่ใหญ่พอๆกับต้นไม้รกรากขนาดใหญ่ เพียงพอที่จะฉีกกระชากภูเขาไฟคองโก

 

「กรอดดดดดดดดดดดดดดดด……」

 

เป็นภัยคุกคามโดยทันที การดำรงอยู่ของสัตว์อสูรที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในย่านนี้

 

「มังกร……」

 

ใครบางคนพึมพำออกมา

 

 

แต่มังกรตัวนี้มันดูแปลกๆ ปีกข้างหนึ่งหายไปแล้วและปีกอีกข้างที่แทบจะมลายหายไปจนสิ้น ร่างกายที่ดูเหมือนกับเหล็กที่ถูกหลอมในส่วนต่างๆ และกล้ามเนื้อโผล่ให้เห็นออกมา

 

 

ในเวลานั้นเอง ดวงตาของมังกรก็จับจ้องพวกโนโซมุ ตาของมันเป็นสีขาวขุ่นมัวและไม่ใช่ดวงตาของมังกรที่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว

 

「กร๊าซซซซซซซซซซซซซซซซ!!!」

 

และเสียงคำรามก็ดังก้อง มังกรที่กางปีกแสนเน่าเปื่อย มีกลิ่นแก๊สเน่าและกลิ่นซากสัตว์

 

 

สิ่งที่เคยเห็นมันเคยเป็นมังกรมาก่อน สิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นมังกรที่ตายไปแล้วกล่าวอีกนัยหนึ่งคือมังกรแห่งความมรณา มันพุ่งเข้าโจมตีพวกโนโซมุเพื่อดับความกระหายที่ไม่มีวันรักษาได้ แม้พวกมันจะตายไปแล้วก็ตามที

 

 

ก็มีคนหลายคนถามคนแต่งไม่อัพเดทต่อแล้วเหรอ ผมตอบได้ว่าผมไม่รู้ครับผมจะแปลยันตอนล่าสุดแต่ว่าผมก็แอบถามเจ้าตัวคนแต่งแล้วหวังว่าเขาจะตอบกลับนะครับ

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยนำบางส่วนมาจากนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

บทนำ

สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

เรื่องย่อ

สถาบันโซลมินาติ สถานที่ๆคนหนุ่มสาวจากทั่วทุกดินแดนจะมารวมตัวกันเพื่อต่อยอดความฝันและความหวังของตัวเอง ความทะเยอทะยาน สำหรับคนที่ไม่มีอะไรดีสักด้านนั้นจะถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามถูกปฏิบัติแบบไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมโดยสมบูรณ์

เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่ชั้นอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ข้า โนโซมุ เบลาตี้ ซึ่งอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนในช่วงพักกลางวัน

ข้ามาที่นี่เมื่อสองปีก่อน ออกมาจากบ้านเกิดกับเพื่อนสมัยเด็กสองคนเพื่อมายังที่แห่งนี้

คนแรกคือ เคน โนทิส เป็นเพื่อนที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ ลิซ่า เฮาวน์

สาวสวยผู้มีผมหางม้าสีแดง

เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตและเป็นคนรักของข้า

เธอเป็นคนที่เอาชนะคนอื่นได้เสมอ เธอเป็นเหมือนดั่งตัวร้ายที่คอยต่อต้านกับหัวหน้าหมู่บ้าน

ข้าพบกับเธอก็เมื่อตอนอายุ 8 ขวบ ตอนที่ข้ากำลังตกปลาในแม่น้ำใกล้หมู่บ้าน

「อะ เอ่อ อืม ว่างหรือเปล่า?」

เป็นตอนนั้นเองที่เธอเข้ามาพูดกับข้า

ผมสีแดงตัดสั้น ท่าทางที่ดูมั่นใจ ใบหน้าของข้าค่อยๆร้อนรุ่ม…ข้าตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น

พ่อแม่ของเธออาศัยอยู่ในดินแดนที่ห่างไกลออกไป แต่เมื่อพ่อของเธอเสียชีวิตระหว่างเดินทาง เธอจึงตัดสินใจที่จะตั้งถิ่นฐานที่บ้านเกิดของข้า

ตอนเธอยังเด็กมักจะเป็นเด็กที่ซุกซนและอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ข้าก็ไม่ได้รังเกียจอะไร และเธอไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ

แล้วก็เด็กที่ทำให้เธอผิดหวังมากที่สุดก็คือนายพลกาคิกับผมด้วยเหตุผลบางอย่าง

เมื่อสามปีก่อนข้าสารภาพรักกับเธอเพราะว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

รักแรกที่ข้าชอบมาตลอด

เธอตกใจมากกับการสารภาพรักที่กระทันหันของข้า แต่เธอก็ยอมรับข้าและร้องไห้ทั้งน้ำตา

ตอนนั้นเองข้าจึงตัดสินใจที่จะไปสถาบันโซลมินาติกับเธอเพื่อสนับสนุนความฝันของเธอให้เป็นจริง

มันเป็นแรงบัลดาลใจให้ข้า ความฝันของเธอที่บอกข้าตอนยังเด็ก

「ฉันน่ะอยากจะเห็นโลกที่หลากหลายเหมือนกับคุณพ่อ」

ข้ารู้ว่าเธออยากออกไปท่องโลกกว้างเพราะเธอได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นมาจากมารดาของเธอ

ตอนนั้นเองเป็นตอนที่ข้าตัดสินใจไปที่สถาบันโซลมินาติ

หากคนที่ตัวเองรักอยากทำความฝันให้เป็นจริง ข้าก็ควรจะสนับสนุน

ด้วยคำพูดเช่นนั้นข้าตัดสินใจว่าจะสนับสนุนเธอตลอดมา

เธอกอดข้าทั้งน้ำตาพร้อมกับบอกว่า「ขอบคุณนะ……ฉันดีใจจริงๆ」

ท่ามกลางการหลับกลางวันของข้าก็ได้ยินเสียงระฆังที่ส่งเสียงบอกเวลาว่าหมดเวลาพักกลางวันแล้ว

ข้าลุกขึ้นพร้อมกับบิดตัวด้วยความขี้เกียจพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังห้องเรียน

ถูกบังคับให้ไสหัวไปก็ตั้งหลายครั้ง ตัวข้าที่ไม่สามารถทำคำปฏิญาณนั่นได้

ชั้นเรียนของข้าคือ ชั้นเรียนที่สอง ระดับ 10 เป็นห้องที่ต่ำที่สุดในบรรดาชั้นเรียนที่สอง

ในหมู่พวกนั้นข้าเป็นคนที่อยู่ต่ำสุดเรียกได้ว่าเป็นพวกที่ห่วยของโครตห่วย

เมื่อข้าเข้ามาในชั้นเรียนก็โดนต้อนรับด้วยการหัวเราะเยาะเย้ยเป็นเรื่องปกติ

「ยังจะโผล่หัวมาอีกนะ ไอชั้นต่ำ」

「เมื่อไรมันจะหายๆไปสักทีวะ」

「หวังว่าจะลาออกไปไวๆน้า~」

เสียงที่ดูไร้หัวใจเหล่านั้นเสียดแทงเข้ามาในจิตใจของข้า ข้าทำได้แต่เมินต่อไปและนั่งลงบนเก้าอี้

เมื่อข้านั่งลงก็มีนักเรียนสามคนเข้ามาทางข้า

「แกจะมาทำไม ในเมื่อแกมาที่นี่มันก็ไร้ความหมายอยู่ดีไม่ใช่เหรอไงวะ ไอ้เศษเดนเอ้ย」

มาร์ที่ตัวค่อนข้างใหญ่พูดข่มขู่ข้า

「ยอมแพ้ไปสักทีเหอะวะแกไม่คิดว่ามันเสียเวลาชีวิตบ้างเหรอวะ」

「แกโดนแกล้งขนาดนี้ก็เหมาะกับแกดีนี่ เหมาะสมกับเศษสวะอย่างแก」

พวกนั้นก็ยังคงกรนด่าข้าไม่หยุด

「ช่ายๆ โดนเด็กผู้หญิงหัวแดงที่ท่าทางเหมือนเจ้าหญิงนั่นทิ้งแล้ว ไม่มีอะไรให้แกได้ฝันอีกต่อไปแล้วล่ะ」

พวกนั้นทั้งสามคนยังยืนหัวเราะและพยายามยั่วโมโหข้า ไม่มีใครคิดจะห้ามพวกมัน ในท้ายที่สุดพวกมันก็ไม่ยอมหยุดจนกระทั่งอาจารย์ประจำชั้นเข้ามาในห้อง

ใช่แล้วล่ะ ข้าถูกลิซ่าทิ้ง เธอน่ะเป็นนักเรียนห้อง 1 เลยนะ

ทันทีที่เธอทิ้งข้าไปหลังจากกล่าวลาไม่กี่คำ เธอก็ไม่เคยกลับมาพบข้าอีกเลย

ข้าไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ตั้งแต่นั้นมาเธอก็มองข้าเหมือนเศษสวะ

เป็นเพราะข้าเอาแต่สร้างปัญหายังงั้นเหรอ

ลิซ่าเป็นผู้หญิงที่ถูกขนานนามว่า “เจ้าหญิงผมแดง” เพราะหน้าตาและความสามารถ

ในทางกลับกันตัวข้าที่ไม่มีอะไรดีเด่นหน้าตาบ้านๆ

ตลอดช่วงที่ข้าคบกับเธอ เธอมักจะโดนรังควาญอยู่เสมอ บางทีการที่ข้าโดนทิ้งก็เพราะสร้างความยุ่งยากให้เธออยู่เสมอก็ได้

ข้านั้นไร้ซึ่งเพื่อนและกลายเป็นหมาหัวเน่า

ถึงกระนั้นข้าก็พยายามอยากหนักไม่ละเลยสิ่งต่างๆตามหน้าที่ของตน

สักวันหนึ่งถ้าข้าสามารถรักษาคำสาบานที่ให้ไว้ได้ละก็……….ข้าคิดเช่นนั้น

ในขณะเดียวกันนั้นเองเธอก็ไปคบกับเพื่อนสมัยเด็กที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

เธอดูมีความสุขราวกับเธอรักเขาจริงๆ

ในการฝึกซ้อมเป็นคู่พวกเธอสองคนเข้าขากันได้ดีมาก ข้าไม่มีที่ยืนเคียงข้าเธอเลย

ชั่วโมงที่สอง ในช่วงบ่าย

「เฮ้ออ!」

ด้านข้างของดาบจำลองนั่นถูกขว้างมาจากเครื่องยิงดาบจำลอง

เมื่อดาบจำลองที่ถูกยิงมาถูกปากลับไปและแทงเข้าไปที่คอของตุ๊กตา กลไกนั่นก็จะหยุดทำงานลง

หลังจากคาบบรรยายนี่ก็เป็นภาคฝึกปฏิบัติ

นอกจากสนามฝึกซ้อมแล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น สนามทดลองเวทมนตร์ในสถาบันแห่งนี้และนักเรียนที่สามารถศึกษาเรียนรู้ความสามารถของตนตามสถานที่ต่างๆ

สนามฝึกถูกแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่เพื่อให้นักเรียกจากหลายๆชั้นมาเรียนที่เดียวกันได้

วันนี้เป็นการฝึกการต่อสู้ระหว่างบุคคลและแต่ละคนก็จะได้ต่อสู้กับหุ่นยนต์ที่มีดาบจำลองเป็นคู่ซ้อมทำการต่อสู้แบบอิสระ โดยใส่พลังเวทย์เข้าไปเพื่อให้หุ่นยนต์นั้นทำงาน

อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์สำหรับพวกห้อง 10 นั้นมีคุณภาพแย่และเคลื่อนไหวได้แค่บางส่วน

「อืม ต่อไปจะเป็นการต่อสู้เป็นคู่ เลือกคู่หูได้ตามใจชอบ~」

เมื่ออาจารย์อันริ วาร์ อาจารย์ประจำชั้นของพวกห้อง 10 เรียกออกมา หุ่นยนต์ก็หยุดทำงาน ดังนั้นทุกๆคนก็หยุดและรอการจับคู่

อาจารย์อันริมีผมหยักสีน้ำตาล ดวงตาที่ดูสมวัยและใบหน้าที่ออกไปทางดูดีอย่างมาก

อย่างไรก็ตามอาจารย์คนนี้เป็นบุคคลที่ไม่เหมาะกับโรงเรียนแห่งคุณธรรมแห่งนี้เลยเพราะเขาชอบพูดและทำท่าทางแปลกๆราวกับคนบ้า

เรียกได้ว่าคนที่รับผิดชอบนักเรียนห้อง 10 ถูกโยนมาแบบทิ้งขว้างเลยก็ได้

อย่างไรก็ตามการที่เขาสามารถมาเป็นอาจารย์ได้ก็คงมีความสามารถพอตัว

ในที่สุดการจับคู่ก็ถูกตัดสินและแต่ละฝ่ายต่างเริ่มจำลองการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ของตัวเอง แต่ว่าคู่ต่อสู้ของข้าดันเป็น……。

「เอ่อ สำหรับแกแล้ว น่าเสียดายหน่อยนะ」

เป็นมาร์นั่นเองที่กรนด่าข้าเมื่อตอนบ่าย

「มาเริ่มกันเลยดีกว่า เพราะว่าเศษสวะอย่างแกจะทำให้ชั้นเสียเวลา」

มาร์ดึงดาบใหญ่ออกมาจากด้านหลัง

มาร์เป็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมา ความสามารถของเขานั่นของจริง ถึงอย่างนั้นก็ยังได้มาอยู่ในห้องห้อง 10 เช่นนี้เพราะชื่อเสียงแย่ๆนั่นละ

ผมเองก็ดึงดาบจำลองออกมาด้วยเช่นกัน

อาวุธของข้าเป็นดาบที่มาจากทางเกาะตะวันออก เรียกกันว่าคาตานะ เป็นดาบที่มีความคมเป็นอย่างมาก กล่าวได้ว่ามันสามารถตัดทุกอย่าไงได้หากใช้ได้อย่างชำนาญ

ยังไงก็ตาม มันใช้เทคนิตชั้นสูงและความหายากของมันเลยไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนัก

มันเป็นอาวุธที่เหมาะกับข้าที่สุด สำหรับข้าที่ไร้ซึ่งพลัง

「ถ้าอย่างงั้นละก็ เริ่มได้~~~」

การต่อสู้นั่นเต็มไปด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยจากท่าทางของอาจารย์อันริ

「โฮ่ย่าาาาาาาาาาาห์」

มาร์เหวี่ยงดาบใหญ่พร้อมตะโกนก้อง

ผมป้องกันการโจมตีด้วยคาตานะ

ดาบของมาร์ถูกเบี่ยงวิธีและมันก็ฟาดลงทีพื้น

「ฮ่าๆ!」

ก้าวเข้าไปหลังจากมาร์เปิดช่องว่างเล็งไปที่ต้นคอและพยายามจะเอาสันดาบทุบ

「สายไปละโว้ย!」

มาร์เอาถุงมือที่แขนปกป้องดาบของผมไว้ ดาบเลียนแบบที่ไม่มีความคมของดาบดั้งเดิมเหลืออยู่ก็ถูกป้องกันด้วยถุงมือนั่น

มาร์รุดหน้าเข้ามาพร้อมกับยกถุงมือขึ้นป้องกันการโจมตี แต่ข้าก็ก้มลงเพื่อหลบการโจมตี

ข้าพยายามจะโจมตีไปอีกรอบ แต่มาร์นั้นเหวี่ยงดาบใหญ่มาด้วยมือข้างเดียว

ข้าถูกบังคับให้ถอยและกลับไปตั้งหลักใหม่

มาร์ที่ฟาดดาบใหญ่จนพื้นแตกกระจายพยายามมองระหว่างข้าและดาบใหญ่ของมันเอง……。

「อยากโดนหั่นเป็นชิ้นๆเหรอไงวะ」

มาร์พูดเช่นนั้นพร้อมกับรังสีกดดันที่เพิ่มมากขึ้น

“คิ”

เป็นสกิลของทางฝั่งตะวันออกที่จะเพิ่มพลังให้แก่ผู้ใช้งานให้เหนือขีดจำกัดยิ่งขึ้นไป

มาร์พุ่งเข้ามาในคราวเดียว ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นั่นละคือผลลัพธ์จากการใช้ คิ

ราวกับจะจับเหยื่อตรงหน้าฟาดดาบใหญ่นั่นลงมาในทีเดียว

ข้าเองก็ใช้ “คิ”เช่นกันเพื่อหลบการโจมตีของดาบใหญ่นั่น เสียงของเหล็กดังกระทบกันสนั่นหู

「เหอะ!ลังเลอยู่งั้นเหรอ」

มาร์ที่รู้สึกหงุดหงิดนั่นดูมีท่าทีลังเลจึงไม่สามารถจะตัดสินใจจบการโจมตีในทีเดียวได้

เขาดึงดาบใหญ่ที่จมลงไปบนพื้นและเริ่มที่จะฟันมันมาอีกครั้ง

เขาฟาดฟันดาบใหญ่ไปรอบๆด้วยเรี่ยวแรงอันมหาศาลจาก “คิ”

เสียงของเหล็กปะทะกันดังสนั่นไปทั่วบ่งบอกถึงการต่อสู้อันดุเดือด แต่ว่ามีฝ่ายเดียวที่ได้เปรียบ

การเสริมพลังกายของมาร์มีพละกำลังมากกว่าข้า แต่ผลของการเสริมพลังกายของข้าเองก็ได้ผลเพียงครึ่งเดียวด้วยความสามารถของข้า

มาร์มันเป็นคนเก่งแต่เพราะทำแต่เรื่องแย่ๆเลยได้มาอยู่ในห้อง 10

ในทางตรงกันข้ามแม้หมอนั่นจะมีความสามารถสูง แต่มาร์มันกลับพอใจที่จะกดขี่คนที่ต่ำกว่านั่นมันโครตจะแย่

เทคนิคดาบชั้นสูงของมาร์ไม่สามารถใช้จัดการกับโนโซมุตามปกติได้ แต่ว่าพลังกายของโนโซมุที่ได้รับการเสริมแบบครึ่งๆกลางๆมันก็พอเป็นไปได้

พลังที่ได้มานั่นทำให้พอฟัดพอเหวี่ยงกับดาบของโจรสลัดเท่านั้นเอง

「แหลกไปซะเหอะมึง!!」

บางทีอาจจะเป็นเพราะข้าโดนกดดันจนถูกบดขยี้ในพริบตา แต่ว่าข้าก็กันการโจมตีนั่นได้ยิ่งทำให้มาร์มันหงุดหงิดจนพละกำลังมันเพิ่มมากขึ้นไปอีก

「เหอะ คิดว่าจะบดขยี้ข้าได้ง่ายๆงั้นเหรอ!」

ข้ากัดฟันแน่นเพื่อที่จะไม่เดินไปตามเกมส์ของศัตรู

แม้ว่าพลังในการโจมตีจะเพิ่มขึ้น แต่การโจมตีของมันก็ซ้ำซากและจำเจ ทำให้รับมือได้ไม่ยากเย็น

อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถสวนกลับได้ทำได้เพียงแค่ยื้อเท่านั้น

และถ้าโต้กลับไม่ได้ผลมันก็รู้ๆกันอยู่

ในที่สุดก็มาถึงขีดจำกัด

ข้าไม่สามารถรับการโจมตีของมาร์ได้อีกต่อไป การป้องกันของข้าถูกทำลายลงและไม่มีเวลามาตั้งท่าใหม่ ตอนนั้นเองทีข้าถูกดาบใหญ่นั่นฟาดเข้ามากระแทกกับคาตานะของข้าจนกระเด็น

「จะเหนียวได้สักแค่ไหนกันเชียววะ!」

รูปร่างของข้าบิดเบี้ยวเพราะการโจมตีนั่น ข้าตัวกระเด็นจนตัวไปกระแทกกับกำแพงของสนามฝึกซ้อม

ผลกระทบนั่นทำให้ข้าหายใจติดขัดและการมองเห็นของข้าก็มืดดับลง

「เป็นแค่เศษสวะแท้ๆ แต่ยังกล้าขัดขืน โดนดีไปซะเหอะมึง」

ข้าหมดสติไปพรัอมกับคำพูดของมาร์

「โอ้ยยยย เจ็บแหะ!」

ข้าลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับสติที่พร่ามัวลุกขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดไปทั้งตัว

ข้าก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องพยาบาล

「เอ้าๆ รู้สึกตัวแล้วไม่ใช่เหรอไงเนี่ย?」

ผู้หญิงสวมชุดโค้ทสีขาวพร้อมกับใส่แว่นนั่นกำลังทำงานอยู่บนโต๊ะพยาบาล

ชื่อของเธอคือนอร์น อัลทิน่า เป็นหมอประจำโรงเรียนที่สวยเอามากๆ

เธอเดินมาทางนี้และขยับนิ้วมาตรงหน้าผมเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกาย

「อืมม ดูจากสภาพแล้วสติยังคงดีอยู่ แล้วรู้สึกปวดตรงไหนบ้างรึเปล่า?」

「ข้าปวดหลังนิดหน่อยและหัวเองก็ยังคงมึนๆ แต่ว่าไม่มีตรงไหนผิดปกติแล้วล่ะ」

「อืมมเข้าใจแล้ว ฉันทายาไปที่หลังของนายแล้วล่ะ แต่ถ้ารู้สึกเจ็บหรือปวดตรงไหนก็มาได้ตลอดเวลานะ มันจะดีกว่านะที่มาหาฉันมากกว่าที่จะทนเจ็บกับบาดแผลนั่น」


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท