พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” – ตอนที่ 69

ตอนที่ 69

Ch.69 – บทที่ 5 ตอนที่ 16

Provider : ความรับผิดชอบอะมีบ้างไหม “ความรับผิดชอบ”

 

บทที่5ตอนที่16

 

 

เมื่อโนโซมุเริ่มต่อสู้กับอันริ จินและเพื่อนๆก็กำลังวิ่งอยู่ในป่าเพื่อไปรวมตัวกับมาร์

 

 

พวกเขากำลังวิ่งอยู่ในป่าเพื่อไปรวมตัวกับมาร์โดยเร็วที่สุด แต่จู่ๆเดร็กก็หยุดลง

 

 

「ฮะ แฮ่ก เดร็กเป็นอะไรไป?」

 

 

「……จิน ข้าจะกลับไป」

 

 

「……หา?」

 

 

「พอมาคิดดูแล้วมันจำเป็นต้องใช้คนเยอะขนาดนั้นเลยเหรอไปเรียกมาร์ให้มารวมตัวกับพวกเราเพื่อไปสู้กับอันริ คนอื่นๆควรจะไปซัพพอร์ตโนโซมุให้ได้มากที่สุดไม่ใช่เหรอ」

 

 

「นั่นสินะ……」

 

 

จินคิดเกี่ยวกับคำพูดของเดร็ก แน่นอนหากให้ใครไปหามาร์คนเดียวก็น่าจะจบแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปด้วยกันทั้งหมดเลย

 

 

「แต่เดร็ก นายบาดเจ็บนะ? ถึงแม้จะไปช่วยก็เถอะ……」

 

 

จินหันไปมองที่แขนของเดร็ก ที่มีสภาพชุดขาดๆ แต่เขายกแขนขึ้นราวกับไม่มีอะไร

 

 

「แผลปิดแล้วและหอกเองก็พร้อมใช้งานนะ มีวิธีอีกตั้งมากมายไม่จำเป็นต้องต่อสู้ระยะประชิดสักหน่อย และ..ข้าไม่เป็นภาระให้หมอนั่นหรอกนะ?」

 

 

สิ่งที่เดร็กจะทำคือจินรู้อยู่แล้วว่าเขาจะทำอะไร

 

 

ปาร์ตี้ของพวกเราพึ่งพามาร์และโนโซมุมากเกินไปจนไม่เป็นตัวของตัวเอง

 

 

การวางแผน การตั้งรกรากและการวางกับดัก คำสั่งต่างๆ และมอบหมายภารกิจต่างๆ โนโซมุเป็นคนทำเองเกือบทั้งหมดเลย

 

 

แน่นอนว่าจินเองก็ทำอะไรไม่ถูกแต่สิ่งที่เขาเสนอมามันก็ดีที่สุดสำหรับพวกเราจริงๆ เขาแสดงความร่วมมือและความไว้วางใจให้กับพวกเราเห็น

 

 

แน่นอนโนโซมุรับผิดชอบแทบจะทุกอย่าง อย่างไรก็ตามก็มีคำถามผุดขึ้นมาในใจ ว่าจะปล่อยเขารับชะตากรรมคนเดียวแบบนี้จะดีจริงๆเหรอ

 

 

「……จินฉันเองก็จะไปด้วย」

 

 

「แฮมเรีย……」

 

 

แฮมเรียเองก็จะไปกับเดร็ก

 

 

เธอยังคงกับคทาของเธอแน่น บางทีเธออาจจะกลัวกับการสู้กับอันริ ถึงยังงั้นเธอก็จ้องมองจินด้วยแววตามุ่งมั่น

 

 

「……ต้องขอบคุณโนโซมุที่ช่วยพวกเราเอาชนะคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมาได้ใช่ไหมล่ะ? สำหรับฉันแล้วแม้ว่าจะเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเราที่จะเอาชนะได้ แต่ว่าพลังของเขาจำเป็นต่อในอนาคตของพวกเรา」

 

 

「นอกจากนี้ยังไม่รู้ว่าโนโซมุจะรับมือกับอาจารย์อันริได้นานแค่ไหน ข้าเองก็ควรจะไปช่วยเขา แม้เพียงเล็กน้อยข้าก็อยากจะช่วยเขาให้ได้ โนโซมุไม่เคยบ่น ไม่เคยขอความช่วยเหลือก็จริง? แต่ว่าอย่างน้อยเขาก็ขอให้ไปเรียกมาร์มาช่วยสนับสนุนเขา……」

 

 

「……อืม เดร็กก แฮมเรีย กลับไปเถอะ เดี๋ยวผมจะไปหามาร์เอง」

 

 

จินพยักหน้ารับคำพูดของเดร็ก รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาและแฮมเรียเองก็มองดูพวกเรา

 

 

「อาาา ฝากด้วยละรีบๆมาก่อนที่พวกข้าจะหมดแรงก่อนล่ะ」

 

 

「จินคุง ฝากด้วยนะ」

 

 

ทั้งสามพยักหน้าให้กันและแยกไปทำในสิ่งที่ควรทำ

 

 

◇◆◇

 

 

「เอ่อ! ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่กันละครับ!?」

 

「ก็มาช่วยไม่ใช่เหรอไง」

 

โนโซมุแปลกใจที่เดร็กและแฮมเรียกลับมา เดร็กบอกว่าจะมาช่วยโดยไม่ลังเลและเขาก็ก้าวเข้ามาข้างโนโซมุถือหอกเพื่อปกป้องเขา

 

「โนโซมุคุง ไม่เป็นไรใช่ไหม?」

 

「อะ อ่า」

 

ขณะที่เดร็กเผชิญหน้ากับอันริ แฮมเรียก็เข้ามาข้างๆผมและคอยซัพพอร์ต

 

 

โนโซมุยืนขึ้น ด้วยท่าทีสับสนและถือดาบอีกครั้ง

 

「อาร่า~。เดร็กกลับมาแล้วเหรอจ้ะ~」

 

อันริวางมือบนแก้มและส่งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์มาพร้อมกับเอียงคอ เป็นท่าที่ทำดาเมจได้พอสมควรเลยล่ะ แต่ว่าสภาพของเธอดันถือแส้ข้างหนึ่งกับแท่งเหล็กอีกข้างหนึ่งน่ะสิ

 

「เดร็ก……」

 

「ตอนนี้จินไปเรียกพวกมาร์มาให้ ขณะเดียวกันพวกเราก็มาถ่วงเวลาไว้เถอะ ไม่เป็นไรนะ?」

 

เขาจ้องมองที่เดร็กราวกับจะพูดอะไรบางอย่างแต่เขาชิงตัดหน้าพูดก่อน

 

 

คำพูดที่ว่า “พวกเรา”หลุดออกมาจากปากเขา มันทำให้จิตใจของโนโซมุรู้สึกอบอุ่น

 

 

โนโซมุไม่สามารถจะแสดงออกมาได้ดีเท่าที่ควร แต่ร่างกายของเขาสั่นสะท้านและหัวใจก็เต้นรัว

 

「……อาาาาา มาถ่วงเวลากันเถอะ!」

 

มือของโนโซมุที่ถือดาบนั้นเต็มไปด้วยพลัง เขาถีบพื้นด้วยเท้าทั้งสองข้างและพุ่งไปทางอันริ อันริเองก็พูดออกมาด้วยท่าทางมีความสุข

 

「……อืมมม! ถ้างั้นเค้าจะลุยแล้วนะ~」

 

อันริปล่อยแรงกดดันมาทางนี้ ร่างกายของเธอเปล่งประกายแสงจางๆและแสงนั่นก็เข้าปกคลุมอาวุธของเธอ เห็นได้ชัดว่าเธอเริ่มเอาจริงแล้วหลังจากเห็นว่ามีคนเริ่มเยอะขึ้น

 

 

โนโซมุและเดร็กพุ่งไปพร้อมๆกัน อันริเองก็ยกแส้ขึ้นมา แฮมเรียถอยหลังไปเพื่อร่ายเวทย์พร้อมกับหลบแส้ของอันริไปด้วย

 

「เดร็ก! อันริเองก็สามารถต่อสู้ระยะประชิดได้ด้วย! อย่าประมาทเชียวนะ!」

 

「อาาา!」

 

แส้ของอันริเข้ามาใกล้พวกโนโซมุ

 

 

พวกเขาวิ่งสุดกำลังพร้อมกับหลบแส้ที่พุ่งเข้ามาแทบจะทุกทิศทาง

 

 

◇◆◇

 

 

เมื่อโนโซมุกับเดร็กมารวมตัวกันอีกครั้ง มาร์และคนอื่นๆเองก็กำลังรอพวกโนโซมุที่จุดนับพบ จี้ของมาร์ส่องแสงแปลว่างานของเขาสำเร็จแล้ว

 

 

ดอกไม้เรจิน่าที่ไปให้ค้นหา มาร์และผองเพื่อนก็เข้าไปบดขยี้ศัตรูที่กำลังเก็บดอกไม้พวกนั้นอยู่

 

 

อย่างแรกมาร์พุ่งเข้าไปเป็นคนแรกและเป่าศัตรูจนกระเด็นไปหลายคน และคามี่เองก็ใช้มีดสั้นโจมตีตอนที่พวกนั้นเปิดช่องว่าง

 

 

แน่นอน แม้พวกนั้นจะตกใจแต่พวกนั้นก็ระดับสูงกว่าพวกเขา สมาชิกที่เหลือรีบรวมทีมกันใหม่และพยายามรุมไปที่มาร์

 

 

อย่างไรก็ตามมาร์เคาน์เตอร์กลับและสะบัดศัตรูกระเด็นด้วย “ค้อนสะบั้นปฐพี” ทำให้รูปแบบของฝ่ายตรงข้ามแตกกระเจิงจนพวกมาร์จัดการพวกนั้นได้จนหมดและได้รับคะแนนมา

 

 

หลังจากนั้นทันทีที่ส่งดอกไม้เรจิน่าที่สำนักงานใหญ่และพยายามไปรวมตัวที่จุดนัดพบเพราะหินแฝดบอกลางส่องแสง

 

 

 

「……โนโซมุเนี่ย ช้าจังเลยนะ」

 

มาร์บ่นด้วยท่าทางกังวล พวกเขาเองก็มาถึงที่นี่นานพอควรแล้ว แต่ว่าพวกโนโซมุก็ยังไม่มา

 

 

ระยะทางจากฐานที่โนโซมุตั้งไว้และจุดนัดพบมันไม่ไกลมากนัก พวกโนโซมุน่าจะมาถึงก่อนเสียด้วยซ้ำ

 

 

แม้ว่าโนโซมุจะใช้เวลาในการหลบหนี แต่ท่าทางมันนานเกินไป

 

 

 

「หรือว่าทุกคนจะโดนจัดการแล้ว……」

 

「ก็เป็นไปได้ พวกนั้นเป็นแค่ห้อง 4 ที่ไล่ตามพวกเรามา ถ้ามันมาถึงฐานแล้วละก็……」

 

ทอมมี่บ่นและแสดงความเห็นออกมา

 

 

ทอมมี่พยักหน้าต่อคำพูดของคามี่แต่มาร์ไม่เชื่อ

 

「แล้วยังไง? ไม่คิดว่าหมอนั่นจะโดนจัดการได้ง่ายๆหรอกนะแม้ว่าจะไม่ชนะศัตรูได้ก็ตาม……」

 

ในขณะนั้นเองก็ได้ยินเสียงบางอย่างมาจากพุ่มไม้ มาร์และคนอื่นๆตั้งท่าพร้อม แต่ว่าคนที่โผล่มาคือจินที่ควรจะอยู่กับโนโซมุ

 

「แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก……」

 

「ฮะ เฮ้ย! เป็นอะไรปะเนี่ย!?」

 

「เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เดร็กละ? แฮมเรียล่ะ?」

 

ทอมมี่จับจินที่กำลังหอบหายใจอย่างรุนแรง คามี่เองก็ถามจินว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

 

「แฮ่ก แฮ่ก……。อาจารย์อันริ……โผล่มาน่ะสิ……แถมเป็นบอสแมพไล่โจมตีฐาน……」

 

「「「!!」」」

 

สิ่งที่พูดออกมาจากปากจินทำให้มาร์และเพื่อนๆต่างตกใจ โนโซมุที่ทำหน้าที่คนกันฐานคอยหยุดการโจมตีของอันริ เดร็กและแฮมเรียเองก็ไปช่วยเขา จินเองก็มาเรียกมาร์และพรรคพวกให้ไปช่วย

 

「……เข้าใจแล้ว จะรีบไปหาพวกโนโซมุเดี๋ยวนี้ล่ะ」

 

「รอก่อนดิ! มาร์คิดว่าโนโซมุยังรอดอยู่อีกเหรอ!? อีกฝ่ายเป็นถึงอาจารย์เลยนะยังไงก็เอาชนะไม่ได้หรอก!?」

 

ทอมมี่พยายามห้ามมาร์ที่จะไปหาพวกโนโซมุคามี่เองก็พยักหน้าเห็นด้วยกับทอมมี่ พวกเขาคิดว่าพวกโนโซมุคงไม่รอดแล้ว

ถ้าเรื่องที่จินพูดเป็นเรื่องจริง ก็นานมากแล้วที่พวกโนโซมุและเหล่าเพื่อนๆรับมือกับอันริ นอกจากนี้ ตอนแรกโนโซมุเองก็สู้ตัวคนเดียวกับอันริแต่เริ่ม ไม่น่าแปลกที่พวกเขาจะสงสัยความสามารถของโนโซมุและคิดว่าเขาคงไม่รอด

 

「ยังไงก็มีสิ่งที่ต้องทำไม่ใช่เหรอไง? ถ้าอยากอยู่ที่นี่ก็เชิญ? ข้าจะกลับไป ข้าไม่คิดว่าหมอนั่นจะโดนจัดการได้ง่ายๆหรอก บางทีหมอนั่นอาจจะกำลังหาทางเอาชนะอันริอยู่ก็ได้」

 

มาร์ยิ้มพร้อมกับยั่วพวกทอมมี่และคามี่ จินเองก็ยังคงหอบหายใจรุนแรง ลุกขึ้นยืนและกลับไปเส้นทางเดิม

 

「……จิน?」

 

「เฮ้ย……」

 

ทอมมี่และคามี่ต่างสับสนเมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้า โดยทิ้งสองคนนี้ไว้เบื้องหลัง จินพยายามกลับไปหาพวกโนโซมุโดยเร็วที่สุด

 

「……เป็นอะไรมากไหมเนี่ย?」

 

「แฮ่ก แฮ่ก……。ไม่เป็นไร ถ้างั้นไปก่อนล่ะ ถ้าพวกนายไม่รีบไปละก็มันจะยิ่งสร้างภาระให้โนโซมุหนักขึ้นนะ……」

 

「ก็บอกแล้วไง! ว่าหมอนั่นอาจจะโดนจัดการไปแล้วก็ได้!」

 

มาร์กังวลเกี่ยวกับจินที่ยังหอบหายใจอยู่ แต่เขาบอกว่าไม่เป็นไรและพยายามกลับไปหาพวกโนโซมุ

ทอมมี่โวยวายเมื่อเห็นเช่นนั้น แต่ท่าทางของจินก็สงบลงตรงกันข้ามกับท่าทางหอบหายใจเหนื่อย

 

「ไม่เป็นไรหรอก บางที โนโซมุ ยังไม่โดนจัดการหรอก……」

 

「เอาอะไรมาพูด……」

 

ทอมมี่ไม่อยากจะเชื่อว่าพวกโนโซมุและคนที่เหลือจะรอด และจ้องมาที่จิน

 

「……ตอนที่กำลังรอพวกนาย ศัตรูที่ไล่ตามพวกเราเป็นห้อง 4 ใช่ไหมล่ะ……」

 

「อะ!」

 

ดูยังไงทอมมี่ก็ยังไม่เชื่อ จินตัดสินใจบอกเหตุการณ์ที่พวกเขาเอาชนะศัตรูที่เหนือกว่าพวกตัวเอง

 

「ถ้าเพียงแค่พวกเราละก็ เราคงโดนจัดการไปแล้ว แต่ว่าพวกเราเอาชนะพวกนั้นมาได้อย่างสบายๆ……เพราะเหตุนั้นละทำไมถึงยังคิดว่าเขายังไม่โดนจัดการ?」

 

「ทำไมล่ะ……」

 

จนถึงตอนนี้ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหมอนั่นช่วยพวกทอมมี่จัดการคนที่แข็งแกร่งกว่าตัวเองได้ จินเองก็ชี้แจงข้อเท็จจริงให้เห็น

 

「ต้องขอบคุณโนโซมุคุงเลยล่ะ เขาสร้างกับดักขึ้นมาและวางแผนต่างๆด้วยตัวเองโดยที่ผมไม่ได้ทำอะไรเลย เขาสามารถเอาชนะศัตรูที่แกร่งกว่าตัวเองได้ ผมมั่นใจว่าเขารับมือกับอาจารย์อันริได้แน่ๆ อาจจะดูไม่น่าเชื่อก็จริงเพราะอีกฝ่ายเป็นถึงอาจารย์ แต่ผมก็คิดว่าเขายังคงรอดอยู่……」

 

「「…………」」

 

「……ถ้างั้นก็ไปเช็คกันเลยไหมล่ะ」

 

「หา?」

 

จินเสนอให้ทั้งสองคนไปดูภาพตรงนั้นกับตา แม้แต่ตอนนี้ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่วิธีเดียวที่จะรู้คือไปให้เห็นกับตา

 

「เพราะงั้นไปเช็คกันเลยไหมล่ะ ให้เห็นกับตาไปเลย ผมเองก็หวังว่าโนโซมุจะปลอดภัยตอนที่ไปถึงที่นั่นนะ?」

 

「แต่ว่า ถ้าพวกนั้นโดนจัดการแล้ว พวกเราอาจจะโดนจัดการไปด้วยก็ได้……」

 

จินเสนอให้ทอมมี่ไปดูด้วยตาตัวเอง แต่ทอมมี่เองก็กังวล

 

「อย่างไรก็ตาม หากเสียโนโซมุและอีกสองคนไปในตอนนี้พวกเราจะอ่อนแอลงเยอะเลยนะ แล้วแบบนั้นคิดว่าจะเอาตัวรอดได้งั้นเหรอ? เขาเป็นมันสมองของปาร์ตี้พวกเราเลยนะในตอนนี้ ดังนั้นการที่เขารับมือกับอันริมันก็เสี่ยงสำหรับเขามากพอแล้ว แถมยังให้ผมมาส่งข่าวให้ ถ้าเสียเขาไปจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ? ถ้าเสียเขาไปพวกเราก็จะโดนจัดการทีละคนได้ง่ายๆเลยนะ?」

 

「อึก……」

 

ฝ่ายของเราด้อยกว่าในด้านความสามารถส่วนบุคคล ในการจะชนะได้จำเป็นต้องมีจำนวนที่แน่นอนและทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี และถ้าโนโซมุกับอีกสองคนหายไปละก็ คนในปาร์ตี้ทั้งหมดก็จะโดนจัดการแน่ๆ เพราะงั้นไม่มีทางที่จะเอาตัวรอดได้แน่ๆ

 

「……ก็เพราะแบบนั้นแหละ ไปกันเหอะ」

 

บางที่เพราะอาจจะเชื่อคำพูดของจิน พวกเขาทำท่าทีสับสนเล็กน้อยแต่ทอมมี่และคามี่เองก็เริ่มตามมาร์และจินที่วิ่งออกไป

 

 

ตอนที่เขาไปหาพวกโนโซมุ พวกโนโซมุก็กำลังประสบปัญหาพอดี

 

 

◇◆◇

 

 

การต่อสู้ระหว่างอันริและพวกโนโซมุ เป็นฝ่ายอันริที่ได้เปรียบอย่างมาก อันริตัดสินใจแล้วว่าเธอจะเอาจริงเพราะพรรคพวกของเขาเริ่มมาแล้ว และเธอก็เริ่มการโจมตีที่รุนแรงไปอีกระดับหนึ่ง

 

 

เธอปล่อยคิไปทั่วทั้งร่างกาย แถมยังปล่อยคิใส่อาวุธอีกด้วย ซึ่งทำให้แส้ของเธอโจมตีได้หนักหน่วงขึ้นและสามารถโจมตีด้วยการสร้างภาพลวงตาได้

 

 

อย่างไรก็ตามพวกโนโซมุไม่นิ่งเฉยให้ยอมโดนโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว โนโซมุและเดร็กใช้ประโยชน์จากจำนวนคนเพื่อหลบแส้เหล่านั้นและพยายามทำให้อันริเปิดช่องว่างเพื่อให้แฮมเรียใช้เวทย์ได้

 

 

อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะหลบการโจมตีและสร้างช่องว่างได้บ้าง แต่ว่าก็มีแท่งเหล็กสีดำที่มาขัดการโจมตีเอาไว้และเวทย์ที่มาจากระยะไกลก็โดนแส้ปัดปลิวไป

 

 

แม้ว่าเดร็กจะมารวมตัวนานพอควรแล้ว แต่พวกโนโซมุก็เริ่มโดนโต้กลับ

 

「บ้าเอ้ย!」

 

แส้ของอันริฟาดโดนไล่ของโนโซมุ เลือดพุ่งออกมาจากจุดที่โดน แต่โนโซมุก็ยังคงเคลื่อนไหว หลบไปทางด้านหลังต้นไม้

 

「ย๊าาาา!」

 

ขณะที่โนโซมุจับแส้ของอันริเอาไว้ เดร็กก็ปิดช่องว่างทันทีเขาถือหอกเข้าด้านข้างของเธอ แต่อันริใช้แท่งเหล็กสีดำรับมือได้อย่างไม่ยากเย็นและเธอก็สะบัดข้อมือข้างที่ถือแส้อยู่

 

「เอ่ย์~!」

 

「อุหวาาา!!」

 

อันริเอาแส้มาพันรอบขาเดร็ก แล้วเธอก็เหวี่ยงร่างของเขาด้วยแรงทั้งหมด

 

 

แฮมเรียเปิดใช้งานเวทย์ในเวลานั้น กระสุนเพลิงพุ่งเข้าใกล้อันริ แต่เธอก็ใช้แส้ฟาดมันออกไป

 

「แย่แล้ว!」

 

กระสุ่นเพลิงที่อันริฟาดใส่ไป นอกจากนี้โนโซมุที่ซ่อนตัวข้างต้นไม้อีก หากไม่ทำอะไรเลยเวทย์มันจะเผาเพื่อนๆไปด้วย

ในเวลาเดียวกันโนโซมุก็กระโดดออกมาจากร่มเงาของต้นไม้ กระสุนเพลิงที่กระทบต้นไม้เองก็ไหม้ต้นไม้รอบๆ

 

「เอ่อ อันตราย…ไม่ใชเหรอไงครับ!!」

 

แส้ของอันริเข้าใกล้โนโซมุอีกครั้ง ซึ่งตัวเขาที่กระโดดออกมาจากต้นไม้ โนโซมุพยายามจะรับแส้ของเธอที่เข้ามาด้วย  “ก้าวพริบตา -ดาบเริงระบำ-” แต่ว่าแส้นั่นแม่นยำมากและจับโนโซมุไว้ขณะที่กำลังพุ่งเข้าช่องว่างระหว่างพุ่มไม้

 

「บ้าเอ้ย!」

 

ท้ายที่สุดโนโซมุไม่สามารถเข้าหาอันริได้และแส้ก็โดนดึงกลับไป ผมเองก็อยู่ข้างๆแฮมเรียซึ่งแส้ฟาดมาไม่ถึง

 

「ไม่เป็นไรนะ?」

 

「อา ช่วยได้มากเลย」

 

แฮมเรียร่ายเวทย์ฟื้นฟูให้โนโซมุ แผลบนไหล่เขาหายไป

เดร็กเองก็กระเด็นมาจนถึงพวกโนโซมุด้วย

 

「……ท้ายที่สุด ก็เสียเปรียบสินะ」

 

「อืม อันริแข็งแกร่งมาก นึกไม่ถึงเลยล่ะ……」

 

เดร็กถอนหายใจขณะจ้องมองอันริ ซึ่งปกติเธอเอาแต่สอนในห้องเรียน

 

 

อันริไม่ไล่ตามพวกโนโซมุที่ถอยออกมา เธอยังคงส่งรอยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์สุดซาดิสต์มาอย่างเคย แต่ว่าไม่มีช่องว่างเลยแม้แต่น้อย

 

 

อันริพยายามเข้าหาด้วยการเดินและฟาดแส้ไประหว่างทางอย่างช้าๆราวกับว่ากำลังเล่นสนุก อันริเองก็ยังคงแสดงรอยยิ้มแสนซาดิสต์เหมือนอย่างเคย

 

「อาาาา แรงค์ของอาจาย์คือ แรงค์ A ใช่ไหมนั่น?」

 

「อาร่า~แรงค์ของเค้าเหรอ~? ใช่แล้วล่ะ~」

 

เมื่อแฮมเรียยืนยันแรงค์ของเธอ อันริก็ตอบกลับว่าเธออยู่แรงค์ A

 

 

เดร็กและแฮมเรียต่างตกใจในข้อเท็จจริงดังกล่าว

 

「เอ่อ แรงค์ A นี่แข็งแกร่งประมาณไหน?」

 

「……ประมาณไหนงั้นเหรอ? ส่วนตัวแล้วแรงค์ A ความแข็งแกร่งมันแตกต่างไปตามตัวบุคคล ผมคิดว่ามันคืออยู่กับความสำเร็จของผลงานที่คนๆนั้นทำด้วย ยกเว้นเหล่านักเรียนที่ได้แรงค์มาด้วยวิธีในแง่ของวิชาการ แต่พวกเธอน่ะได้แรงค์มาด้วยความสามารถ……」

 

เดร็กถามโนโซมุ แต่โนโซมุเองก็ตอบไม่ถูกเหมือนกัน

 

 

หากเป็นนักเรียน แรงค์มันตัดสินจากเกรด พวกเหล่าทหารและนักผจญภัยมาจากความสำเร็จของตนเอง แต่ก็ไม่เสมอไปบางทีความแข็งแกร่งของพวกเขาอาจจะเหนือกว่าแรงค์ของตัวเองที่เป็นอยู่ก็ได้

 

 

ค่อนข้างเป็นไปได้ว่าอันริน่าจะสูงกว่าแรงค์ A แต่เพราะว่าผลงานและความสำเร็จของเธออาจจะไม่เพียงพอในการเลื่อนแรงค์

 

 

เป็นความจริงที่ว่าโนโซมุรู้สึกหวาดกลัวอันริ แต่ว่าเธอก็ไม่น่ากลัวเท่าชิโนะ

 

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงกดดันที่ปล่อยออกมา สำหรับอันริแล้วที่ปล่อยมาเขารู้สึกเฉยๆนะ หากเทียบกับชิโนะที่ดูเหมือนกับยักษ์มารนั่น

 

 

 

「……อันรินั้นอยู่แรงค์ A ไม่ผิดแน่แต่ว่าความสามารถค่อนข้างไปทางเหนือกว่าแรงค์ A ทั่วไป」

 

จากข้อเท็จจริงนั่นโนโซมุคิดว่าอันริน่าจะอยู่เหนือกว่า แรงค์ A อย่างมาก อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าโนโซมุจะวัดความสามารถของเธอยังไง สถานการณ์ก็ไม่ได้ดีขึ้นหรอก

 

 

คนรู้จักของไอริสที่มีแรงค์ A เหมือนกันเช่นไอริสและทิม่า แต่ว่าไอริสน่าจะสู้กับอันริได้อย่างสูสีอยู่นะ

 

 

 

(อย่างไรก็ตามแส้นั่นเป็นปัญหาจริงๆ ถ้าไม่ทำอะไรกับมันเลย……)

 

「……โน โซ มุ คุงงงงงง~。เป็นอะไรไปเหรอค้า~。ถ้าไม่เข้ามาหาเค้า เดี๋ยวเค้าเข้าไปหาเองน้า~」

 

「บ้าเอ้ย!!」

 

อันริยกแส้ขึ้นพร้อมกับพูดเช่นนั้น

 

 

พวกโนโซมุรีบวิ่งออกจากพื้นที่เดิมทันที ทันใดนั้นพื้นที่ตรงหน้าก็แตกกระจุย

 

 

โนโซมุและเดร็กกระโดดแยกทางกันไป และแฮมเรียถอยหลังไป

 

 

อันริเห็นพวกโนโซมุที่แยกทางกันไปก็เล็งเป้าไปที่โนโซมุก่อนเลย

 

 

โนโซมุพยายามหลบด้วย “ก้าวพริบตา -ดาบเริงระบำ-” แต่ทันทีที่โนโซมุเปลี่ยนทิศทางแส้มันก็ไล่ตามมาด้วย

 

 

 

「เวรล่ะ!!」

 

อันริเปลี่ยนทิศทางของแส้ด้วยข้อมือและพลังจากแส้ที่เหวี่ยงมาฟาดเข้าที่ต้นแขนของโนโซมุ แส้ของอันริเริ่มไล่จับโนโซมุ จนไม่เหมือนการต่อสู้ก่อนหน้านี้

 

 

แส้ของอันริและการเคลื่อนไหวของโนโซมุ เหนือกว่ากันอย่างมากทั้งด้านความเร็วที่ดูเรียบง่าย แต่ว่าก็ไล่จับโนโซมุที่เคลื่อนไหวซับซ้อนด้วยความเร็วพอๆกันเลย

 

 

แต่สิ่งที่ทำให้มันเป็นไปได้ก็คือเหตุผลง่ายๆ

 

(เอาล่ะ แล้วโนโซมุคุงจะเอายังไงต่อน้าาา~?ยังพอมีระยะห่างอยู่กระโดดถอยกลับไหมเอ่ย~?)

 

อันริคิดเช่นนั้น เขากระโดดถอยหลังกลับทั้งๆที่ถูกตรึงไว้พอตอนนั้นเองฉันก็ปล่อยแรงออก

 

(แล้วก็ท่าทีต่อไปสิน้า~、แกล้งทำเป็นถอย~、แล้วก็ก้าวมาด้านหน้าทันทีสินะ~~)

 

อันริถือแส้ จุดมุ่งหมายคือพื้นที่ด้านหน้าของเขา ในเวลาต่อมาโนโซมุที่กระโดดไปก็รีบลงจอดทันทีด้วยแรงเต็มที่

 

 

อันริคอยดูเหล่านักเรียนเป็นเวลานานเพราะฉะนั้นเธอเลยอ่านการเคลื่อนไหวของเหล่านักเรียนออก

 

「แบบนี้มัน!!」

 

ผลลัพธ์ก็คือโนโซมุพุ่งเข้าหาแส้ของอันริด้วยตัวเอง โนโซมุพยายามหลบแส้ที่โผล่ขึ้นมาเหนือหัวเขา แต่ว่าแรงดึงดูดนั่นทำให้เขาไม่สามารถหลบได้เขาเอี้ยวหัวหลบเพื่อไม่ให้โดนตรงๆ แต่ว่าแส้นั่นก็ฟาดเข้ามาตรงๆจนกระทบกับไหล่ของเขา

 

「อั่กกกกกกกกก!!」

 

เสียงอันแสนทุกข์ทรมานออกมาจากปากของเขา ความเจ็บปวดอันรุนแรงที่ไหล่ทำให้อันริเริ่มโจมตีต่อ

 

(แล้วก็น้า~、เมื่อพยายามจะโจมตีโนโซมุคุงแล้ว~、เดร็กก็จะโผล่มาจากด้านหลัง~)

 

ทัใดนั้นอันริก็ดึงแส้กลับมา เดร็กที่อยู่ด้านหลังพยายามโจมตีอันริ

 

「บ้าเอ้ย!!」

 

เดร็กที่โดนอ่านการกระทำออกมีสีหน้าบิดเบี้ยวอย่างเห็นได้ชัด อันริผลักหอกนั่นไปด้วยแท่งเหล็กสีดำในมืออีกข้าง และพุ่งเข้าไปเตะใส่เดร็กทันที

 

「อ่อก!!」

 

แรงเตะที่ทรงพลังพัดพาร่างเดร็กกระเด็นไปอย่างง่ายดาย และเดร็กที่ปลิวไปก็กระแทกกับต้นไม้

 

 

อันริหันไปทางด้านข้างของเดร็กที่เธอเตะกระเด็นไป กระสุนเพลิงก็พุ่งมาและตัวเธอก็ชนกับต้นไม้ทางด้านหลัง

 

 

(อืม~。เล่นอีกนิดหน่อยก็ได้~)

 

อันริปัดเวทย์ท่เข้ามาอย่างง่ายดายและยิงกระสุนอากาศ และมันก็เข้ากระแทกกับไม้เท้าของแฮฒเรีย จนทำให้เธอปลิวไป

 

(อย่างน้อยก็ตัดสินใจทำงานเป็นทีมได้ดีและรวดเร็วมากเลยน้า~。การเคลื่อนไหวของโนโซมุเองก็ยอดเลยน้า~、เดร็กและแฮมเรียก็ไม่เลวเลยเน้อ~。ปัญหาก็คือตัวเค้าเริ่มเครื่องติดมาหน่อยๆแล้วสิ~)

 

อันริชื่มชมพวกโนโซมุ

 

 

ความร่วมมือเองก็ไม่ได้แย่เลย เรียกได้ว่าแทบจะสมบูรณ์แบบ จังหวะการโจมตีเองก็ดีมาก และยังสามารถไล่ตามฉันได้ขนาดนี้ นี่ไม่คิดเลยว่าจะตั้งปาร์ตี้ด้วยกันครั้งแรกเลยนะเนี่ย บางทีอาจจะมีอะไรบางอย่างเชื่อมโยงพวกเขาเอาไว้

 

 

อันริดีใจอย่างมากที่โนโซมุผู้โดดเดี่ยวเริ่มร่วมงานกับคนอื่นๆนอกจากมาร์ได้แล้ว แต่ถึงแม้ว่าจะได้รับความร่วมมือ แต่เขาก็ไม่สามารถหลบแส้ของอันริพ้น

 

 

อันริมักจะแสดงท่าทีสบายๆให้พวกเขาเห็น แต่จริงๆแล้วหัวเธอที่ความเข้าใจที่ซับซ้อนหลายอย่าง

 

 

โนโซมุแข็งแกร่งขึ้นมากในแง่ของการตั้งรับ โนโซมุรับบทเป็นแนวหน้า เดร็กเป็นแวนการ์ดระยะกลางและแฮมเรียที่เป็นกองหลัง การเคลื่อนไหวของพวกเขาแม้จะดูอ่านได้ง่ายไปหน่อย แต่สำหรับคนที่ไม่เคยร่วมปาร์ตี้กันเลยก็ถือว่าทำได้ดีมากแล้ว เพราะอันริจับตาดูพวกเขาตลอดมา

 

 

จุดประสงค์ของพวกเขาคือซื้อเวลา แต่ก็ยากเพราะอันริสามารถใช้แส้ได้อย่างอิสระ นอกจากนี้เนื่องจากการกระทำของพวกเขาถูกอ่านจนขาดหมดจด ทำให้อันริรับมือได้ไม่ยากเย็น

 

 

 

(แล้ว พวกโนโซมุคุงคง…อาร่า?)

 

เมื่ออันริโจมตีเหล่าสหายของโนโซมุจนหมด และพยายามจะเข้าหาเดร็กอีกครั้ง โนโซมุก็พุ่งเข้ามาขัดการโจมตีทันที

 

「ก็บอกแล้วไงละน้า~。การเคลื่อนไหวทื่อๆ~、การเคลื่อนไหวแบบนั้นมันอ่านง่ายจะตายไปนะ~」

 

「อะ!!」

 

อันริปรับทิศทางที่จะฟาดแส้ไปทางเดร็กหันไปทางโนโซมุ แส้พุ่งเข้าหาโนโซมุในแนวทแยงมุม ด้วยความเร็วสูงกว่าก่อนหน้านี้เยอะ

 

 

โนโซมุปลดปล่อยคิทั้งหมดของเขา

 

 

การปลดปล่อยคิทั้งหมดทำให้เขาพุ่งมาด้วยความเร็วสูงสุด ความเร็วนั้นโดยส่วนตัวมันไม่เร็วมาก แต่ว่าผมเองก็พยายามจะสลัดแส้อันริด้วยการเร่งความเร็วชั่วขณะ

 

 

อย่างไรก็ตาม วิธีเดิมๆใช้กับเธอไม่ได้ผลถึงสองครั้ง เธอหันแส้กลับมาในทันทีและคราวนี้ฟาดมาทางด้านข้าง

 

 

 

「บ้าเอ้ย!!」

 

โนโซมุกัดริมฝีปากด้วยแส้ที่พุ่งเข้ามา ผมรู้อยู่แล้วว่าไม่สามารถหลบได้หากไม่ขยับเลย และหากใช้แค่ “ก้าวพริบตา -ดาบเริงระบำ-”ก็หลบไม่พ้นอยู่ดี หากจับแส้ด้วยดาบก็จะเจอช่องว่าง

 

(ถ้างั้นละก็!!)

 

โนโซมุเพิกเฉยต่อแส้ที่พุ่งเข้ามาและดันเข้าไป ในขณะเดียวกันมือที่ไม่ได้ถือดาบก็ถูกบีบคิจนแน่นขนัด

 

(อาวุธของอันริมีประสิทธิภาพโดดเด่น ถ้าได้รับคิโดยตรงก็จะเกิดการระเบิดอันรุนแรง!)

 

โนโซมุเมินเฉยก็ต่อแส้ที่ฟาดเข้ามาและพยายามย่นระยะห่าง เขาที่เร่งสมาธิจนถึงขีดสุดหลบผ่านวิถีวงโคจรของแส้ และทำให้แส้นั่นกระทบกันแขนที่อัดคิแน่นขนัด

 

「อ๊ากกกก!!」

 

บู้ม! เสียงกระแทกเข้าที่แขน ความเจ็บปวดแล่นไปทั่วร่างจนถึงสมอง และเสียงของความทรมานก็หลุดมาจากปากของโนโซมุ

 

 

อย่างไรก็ตามโนโซมุยังคงไม่หยุด อยู่ห่างจากปลายวิถีดาบไม่กี่ก้าว

 

 

โนโซมุฟาดดาบด้วยข้างที่โดนแส้อย่างรุนแรง อันริเองก็เตรียมจะรับการโจมตีด้วยแท่งเหล็กสีดำ

 

 

แต่โนโซมุไม่ได้ต้องการฟันอันริ เขาเล็กถึงสถานการณ์ที่เธอไม่สามารถใช้แส้ได้ อย่างไรก็ตาม……。

 

「แบบนี้มัน!!」

 

ดาบของโนโซมุหยุดกระทันหันกลางอากาศ เมื่อมองไปก็พบแส้ที่พันรอบดาบของเขา

 

(เสร็จกัน!พยายามควบคุมแส้อย่างระมัดระวังน่าดูเลยนะ……)

 

แส้ที่เขาคิดว่าพันข้อมือโนโซมุกลับไปพันที่ดาบเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของเขา

 

 

อันริก้าวไปทางโนโซมุ ที่ถูกแส้พันดาบเอาไว้ทำให้ตัวเขาลอยอยู่ อันริพยายามฟาดแท่งเหล็กสีดำไปกลางลำตัวที่ไร้การป้องกัน

 

「บ้าเอ้ย!!」

 

โนโซมุดึงฝักดาบที่ติดอยู่กับเอวเพื่อป้องกัน แต่ว่าก็สูญเสียท่าทางและลูกเตะของอันริก็ฟาดมาอย่างรวดเร็ว

 

「แอ่ก!!」

 

ผมกระเด็นไปกับพื้นและหายใจไม่ออก โนโซมุยืนขึ้นด้วยความเจ็บปวดที่แล่นไปทั่วทั้งร่าง เมื่อมองใกล้ๆเดร็กและแฮมเรียเองก็สามารถลุกได้แล้ว

 

「อั่ก! ทั้งสองคนไม่เป็นไรนะ……?」

 

「อ่า ไม่เป็นไร……」

 

「อะ อืม……」

 

พวกเขาเองก็ตอบรับด้วยน้ำเสียงโอดครวญ ตามจริงแล้วโนโซมุคิดว่าจะซื้อเวลาอีกสักหน่อย

 

(ถอยจากที่นี่คือตัวเลือกที่ดีที่สุดแต่อันริไม่ยอมให้ทำแบบนั้นแน่ๆ)

 

อาวุธของอันริเป็นอาวุธโจมตีระยะกลาง แต่เธอก็สามารถใช้เวทย์ได้เช่นกัน ตอนนี้เธอเองก็กำลังใช้เวทย์อยู่ ผมไม่สามารถใช้เวทย์ได้ แต่ถ้าโนโซมุถอยเมื่อไรเธอใช้แน่ๆ

 

(ถ้าใช้กลยุทธ์เดิมๆมีหวังโดนอ่านทางจนหมดแล้ว เพราะงั้นต้องคิดวิธีที่แตกต่างออกไป……)

 

โนโซมุจำช่วงเวลาที่เขาสู้กับอันริแบบตัวต่อตัวได้ ตอนนั้นเธอไม่ได้เอาจริงแต่ก็มีช่องว่างอยู่บ้าง การเคลื่อนไหวในตอนนั้นคงเกินความคาดหมายของเธอ แม้จะแค่ชั่วคราว แต่ก็สามารถเข้าประชิดเธอได้ แล้วถ้าทำให้อันริแปลกใจได้อีกโอกาสก็จะมีมาอีกรอบ

 

「โนโซมุมีแผนอยู่สินะ?」

 

「เอ๊ะ?」

 

ทันใดนั้นเดร็กที่พูดกับเขา ทำให้โนโซมุตกใจเล็กน้อย เดร็กยิ้มออกมา

 

「ยังไงก็ต้องเผชิญหน้ากับครูเจ้าปัญหานี่ ดังนั้น….คิดว่าจะชนะได้ไหม?」

 

「……ก็อาจจะ」

 

วิธีการของโนโซมุอาจจะดูบ้าบิ่นและไร้สาระ แต่หวังว่าสำหรับคนๆนี้แล้วมันน่าจะใช้ได้ผลแหละ

 

「ถ้างั้นก็มาลองกันเถอะ สำหรับข้าและแฮมเรียยากที่จะสู้ต่อไปแล้ว และก็คิดพร้อมจะสละตัวเต็มที่ เพราะงั้นมาเดิมพันกับแผนของนายเถอะ」

 

เมื่อโนโซมุมองไปทางแฮมเรีย เธอก็พยักหน้าเช่นกัน

 

「……มีวิธีถอยอยู่ แต่ไม่คิดว่าอันริจะไล่ตามเพียงแค่คนๆเดียว」

 

「ไอ้บ้า แบบนั้นก็ไม่สมเหตุสมผลที่พวกข้าท่อมาหาเอ็งสิฟะ!」

 

「นั่นสินะ! พวกเรามาเพราะเป็นห่วงโนโซมุคุง นอกจากนี้อยากเอาชนะอาจารย์อันริด้วย」

 

แฮมเรียจับไม้เท้าแน่น ท่าทางขี้อายหายไปหมดแล้ว

 

「ฉันน่ะมักจะทำพลาดบ่อยๆ ถูกเพื่อนร่วมชั้นเยาะเย้ยและดูถูก ฉันเองก็ได้แต่มองตัวเองที่ตกต่ำ……」

 

แฮมเรียพูดด้วยความเสียใจ

แน่นอนว่านักเรียนห้อง 10 ของโนโซมุเป็นศูนย์รวมความล้มเหลวของสถาบัน โนโซมุเองก็โดนหมายหัวเป็นพิเศษเพราะข่าวลือ แต่ไม่ใช่ว่าเพื่อนๆร่วมชั้นเองจะไม่ประสบปัญหาเดียวกัน

ยามใดที่เดินผ่านผู้คนมักจะได้ยินคำดูถูกเหยียดยาม คำพูดมากมายที่เสียดแทงเข้ามาในใจ

 

「แต่ต้องขอบคุณโนโซมุ ที่ทำให้พวกเราเอาชนะห้องอื่นๆได้ และนายเองก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วแม้ว่าเราจะเป็นห้อง 10 ก็มีสิ่งที่ทำได้อยู่」

 

นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาเชื่อว่า โนโซมุไม่เป็นสองรองใคร มองดูเดร็กและแฮมเรีย ที่มุ่งมั่น เขาเชื่อว่าถ้าตามผมมาจะชนะแน่ๆ

 

「นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเราอยากจะเอาชนะ สำหรับคนในชั้นเรียนอื่นและอาจารย์อันริก็ตาม เหนือสิ่งอื่นใดพวกเราอยากจะพิสูจน์ว่าแม้จะอยู่ห้อง 10 พวกเราก็ไม่ใช่พวกขี้แพ้ที่จมปลักอยู่กับที่」

 

แฮมเรียจ้องมาด้วยสายตาไม่ลังเล เดร็กเองก็มีความมุ่งมั่นเช่นกัน

โนโซมุโดนทั้งสองจ้องมอง

ต่างจากตัวเองที่กังวลพวกเขาตั้งเป้าที่จะชนะ

โนโซมุมองตรงไปที่พวกเขา เหมือนกับไอริสที่เคยบอกเล่าความฝันของเธอให้ผมฟัง

 

「……เข้าใจแล้ว」

 

โนโซมุซึ่งถูกผลักดันโดยพวกเขาเหล่านี้ พวกเขาที่อยากจะเอาชนะและต้องการพิสูจน์ว่าตัวเองไม่ใช่พวกขี้แพ้

 

「……เอ๋?」

 

「……เอาจริงๆดิ?」

 

แฮมเรียและเดร็กที่ได้ยินแผนการของโนโซมุก็เบิกตากว้าง เพราะแผนการมันโครตจะบ้าบิ่น

อย่างไรก็ตาม พวกนั้นช็อคไปชั่วครู่และเหมือนจะเข้าใจแล้ว

 

「จบรึยังจ้ะ~?」

 

อันริส่งเสียงทักมาทางนี้

 

「อาาา ไม่ล้มอาจารย์กันเถอะ」

 

「อาร่าอาร่า~。จะทำได้รึเปล่าน้าาา~」

 

「อาา แน่นอนสิ」

 

「หึ!」

 

โนโซมุและเหล่าผองเพื่อนตอบด้วยท่าทีประชดประชันและส่งรอยยิ้มยั่วโมโหอันริ สีหน้าของอันริที่เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาด้วยท่าทางเหมือนกับมีความสุข

เดร็กเองก็ตั้งท่าพร้อมกับคำพูดของโนโซมุ และแฮมเรียเองก็กำไม้เท้าแน่น

 

「……เข้าใจแล้วล่ะ~、ถ้างั้นแสดงให้อาจารย์คนนี้เห็นหน่อยสิจ้ะ~。”การเติบโต”ของพวกเธอน่ะ~!」

 

อันริถือแส้ แส้ที่เสริมพลังคิเข้าไปพุ่งทะลุผ่านอากาศและเข้าหาพวกโนโซมุ โนโซมุก้าวไปข้างหน้าและเรียกเดร็กมา เผยให้เห็นว่ามีลมกรรโชกแรงตรงนั้น

 

「เดร็ก!」

 

「อา เข้าใจแล้ว!」

 

เดร็กร่ายเวทย์อยู่ด้านหลังโนโซมุ อากาศรอบตัวรวมกันที่ปลายหอก

 

 

ในที่สุดมวลลมขนาดเท่ากำปั้นก็พุ่งเข้าใส่หอกแล้วหอกเองก็มีมวลลมเหล่านั้นปกคลุม

 

 

มวลลมระเบิดออกทำให้พื้นดินแตกกระจายจนทำให้ทัศนวิสัยของพวกเขาถูกบดบัง แส้ของอันริเองก็หายไปในควันและไม่รู้สึกถึงการตอบสนองใดๆ เห็นได้ชัดว่าไม่โดน

 

 

ในเวลาต่อมากระสุนเวทย์จำนวนหนึ่งก็โผล่มาแล้วเข้าโจมตีอันริ เธอสะบัดแส้เพื่อกันกระสุนเวทย์เหล่านั้น มีเงาพุ่งผ่านฝุ่นเหล่านั้นมา

 

「โอ้ววววววววววววววว!!」

 

「รู้อยู่แล้วละน้า~」

 

อันริตอบสนองต่อเดร็กที่พุ่งเข้าหาอย่างรวดเร็ว เธอฟาดแส้ไปที่ขาของเดร็กเพื่อทำให้เคลื่อนไหวช้าลงจากนั้นเธอก็ดึงแส้กลับมา และเหวี่ยงแส้ไปทางเดร็กที่หยุดไปชั่วขณะ

 

 

เดร็กพยายามป้องกันมันด้วยการใช้หอกแต่ว่าก็กันการโจมตีไม่ได้สมบูรณ์ เมื่อแส้ฟาดไปที่หอกของเดร็ก และพันรอบตัวขณะเดียวกันเธอก็อัดคิเข้าไปแล้วฟาดลงพื้นอย่างแรง เดร็กปลิวไปและล้มลงกับพื้น

 

 

 

(ต่อมาก็โนโซมุสิน้า~? หรือจะเป็นเวทย์ของแฮมเรียกันน้อ~? แต่ยังไงก็มาไม่ถึงเค้าหรอก~)

 

เมื่ออันริมองไปที่ควันอีกครั้งก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นและมีคนพุ่งผ่านควันมา

 

 

อันริถือแส้อีกครั้งเพื่อกันการโจมตี

 

「ว่าแล้วเชียวโนโซมุคุงสินะ~。แต่ว่าถ้าแค่ระดับนี้ละก็…เอ๋?」

 

「เอ่ยห์!!」

 

อันริคิดว่าโนโซมุพุ่งเข้ามา แต่เป็นแฮมเรียที่พุ่งเข้ามาแทนเธอรีบพุ่งเข้าหาอันริด้วยความเร็วที่ไม่น่าจะใช่นักเวทย์

 

「เอะ เอ๊ะ~~~!!」

 

อันริไม่คิดว่าแฮมเรียจะพุ่งมาหาเธอ เธอพยายามสะบัดแส้ใส่แฮมเรียแต่ว่าแส้นั่นก็ไม่โดนเธอ

แฮมเรียพุ่งเข้าหาอันริ กอดเธอทั้งๆยังงั้นและกระแทกร่างของอันริเข้ากับต้นไม้ด้วยแรงทั้งหมด

 

「ดะเดี๋ยวสิจ้ะ~。ปล่อยเค้าน้า~~!」

 

อันริเหวี่ยงแท่งเหล็กสีดำและพยายามจะฟาดใส่แฮมเรียที่กอดเธออยู่แต่ว่าแท่งเหล็กนั่นก็ปลิวไปในอากาศ หากมองใกล้ๆมันมีบาเรียบางๆห้อมล้อมตัวเธอ

 

 

และบาเรียนั้นก็เป็นบาเรียที่ปัดแส้ของอันริเช่นกัน

 

 

นอกจากนี้ยังเป็นเวทย์ที่เปิดใช้ก่อนหน้านี้ของแฮมเรียอีกด้วย

 

 

โซ่ดินเข้าพันรอบร่างของอันริ รั้งเธอเอาไว้ โซ่เองก็ยับยั้งแส้ของอันริและผูกแส้ของเธอเข้ากับต้นไม้เพื่อไม่ให้เธอควบคุมมันได้

 

 

 

「เอ๊ะ? เอะ เอะ? เออออออออออออ๋!?」

 

อันริสับสนทันใดนั้นก็มีกระแสลมรุนแรงพัดผ่าน โนโซมุโผล่มาตรงหน้าเธอ

 

 

เขาใส่ดาบลงไปในฝักและแสดงท่าทีสงบนิ่ง

 

 

อันริที่โดนตรึงไปทั้งร่าง ถ้าอยากจะแก้มันออกก็ต้องใช้กำลังทั้งหมด แต่ว่ามันไม่มีเวลาพอ

 

 

ดาบของโนโซมุถูกชักออกมาและฟันเข้าที่จี้ห้อยคอเธอจนขาดครึ่ง

 

「……ก็บอกแล้วนี่คือชัยชนะของพวกผม」

 

โนโซมุประกาศชัยชนะอีกครั้ง เป้าหมายของเขาคือตัดสิทธิ์ของอันริด้วยการทำลายจี้ห้อยคอ

 

 

ทุกคนที่ซ่อนตัวโดนม่านควันที่เดร็กสร้างขึ้น และโนโซมุเองเป็นคนที่ปล่อยกระสุนอากาศออกไปเพื่อถ่วงเวลาและหลบอยู่หลังแฮมเรีย

 

 

จากนั้นเดร็กก็เป็นฝ่ายล่ออันริและแฮมเรียก็ใช้บาเรียเวทย์ป้องกันตัวเอง

 

 

นอกจากนี้แฮมเรียร่ายเวทย์พันธนาการสำเร็จและเตรียมจับอันริ โนโซมุเองก็ผลักแฮมเรียไปด้วยวิชาคิ “ปืนใหญ่”

 

 

และในขณะที่แฮมเรียพุ่งไปกอดอันรินั่นเองและใช้เวทย์ควบคุมเธอไว้ โนโซมุก็จะเป็นทำลายจี้ห้อยคอ

 

 

 

「อา อา~~โดนเล่นซะแล้วค่าาาาาาาา~」

 

อันริทำท่าทางผิดหวังเล็กน้อย แต่ท่าทางของเธอเองก็ดูมีความสุขเช่นกัน

 

「อ่า โดนเล่นซะแล้วสิเนี่ย~。การได้เห็นทุกคนเติบโตแบบนี้อาจารย์มีความสุขมากเลยล่ะ~」

 

อันริยิ้มออกมาด้วยท่าทางพึงพอใจ นักเรียนของเธอเติบโตมากกว่าที่เธอคิด และมันอาจจะเพียงพอแล้วว่าโนโซมุเองทำงานเป็นทีมกับคนอื่นได้ดีพอสมควร

 

(อืม! ถ้าเป็นแบบนี้สบายใจได้แล้วล่ะ! โนโซมุคุงเองก็รู้แล้วสินะว่าควรจะทำยังไงต่อไปดี~)

 

「เฮ้ย โนโซมุ! ปลอดภัยดีเปล่าเนี่ย!?」

 

ในเวลานั้นเองมาร์และเหล่าเพื่อนๆก็มาจากส่วนลึกของพุ่มไม้

 

「โกหกน่า…ชนะอาจารย์ได้เนี่ยนะ……」

 

「……เอาจริงดิ」

 

「ทุกคนสบายดีนะ?」

 

ทอมมี่และคามี่ดูตกใจอย่างมากแต่มาร์เองก็ถามด้วยความเป็นห่วงและจินเองกำลังประครองร่างของเดร็กอยู่

 

「ฉันไม่เป็นไรค่ะ」

 

แฮมเรียบอกเช่นนั้น ร่างกายของเธอไม่มีบาดแผล เพราะเธอใช้บาเรียเวทย์กันเอาไว้

 

「อา ข้าเองก็ยังขยับได้อยู่……แต่ว่าโดนตัดสิทธิ์แล้วอะ……」

 

「อาาาา……」

 

อย่างไรก็ตามเดร็กที่โดนแส้ของอันริจะโดนตัดสิทธิ์ไป

ใบหน้าของโนโซมุบิดเบี้ยวเมื่อรู้เรื่องนี้ น่าเสียดายที่เขาถูกตัดสิทธิ์เพราะมาช่วยผมแท้ๆ

อย่างไรก็ตามเดร็กดูมีความสุข

 

「ไม่ต้องห่วงหรอกโนโซมุ ต้องขอบคุณนายจริงๆ เพราะนายเลยเราสามารถเอาชนะอันริได้……」

 

น่าเสียดายที่เขาโดนตัดสิทธิ์ แต่เขาไม่เสียใจเลยแม้แต่น้อย

 

 

สามารถเอาชนะศัตรูที่แกร่งกว่าตัวเองได้ถึงสองครั้ง ชัยชนะที่เขาไม่เสียใจเลยแม้แต่น้อย เขาคิดว่าเขาภูมิใจกับชัยชนะเหล่านี้ที่เขาได้มันมา

 

 

มันเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากมากสำหรับเด็กห้อง 10 อย่างพวกเรา

 

 

ดังนั้นเขาจึงขอบคุณโนโซมุและไม่โทษใคร

 

「……อาาาาาาา」

 

บางทีเพราะความรู้สึกเหล่านั้นส่งมาถึงเขา โนโซมุเลยโล่งอกเล็กน้อย

 

「ขอแสดงความยินดีกับทุกคนด้วยน้าาาาา~。เค้าเองก็ทำเต็มที่แล้วเหมือนกัน~。เพราะพวกเธอเอาชนะเป้าหมายพิเศษอย่างเค้าได้เค้ามีสิ่งนี้จะให้~」

 

อันริมอบจี้ให้กับพวกโนโซมุมันมีมากกว่า 20 อัน เมื่อพิจารณาจากคะแนนที่พวกมาร์ได้มา มันก็เพียงพอสำหรับการต่อสู้ระดับท็อปในคราวเดียวเลย

 

「……แล้วแบบนี้คะแนนมันเยอะขนาดไหนกันเนี่ย? พวกเราน่ะ」

 

เดร็กกำลังอิจฉาคะแนนที่พวกเขาได้รับ สมาชิกคนอื่นๆเองก็ตกใจเช่นกัน มีเพียงแค่โนโซมุและมาร์ที่ยังคงสงบนิ่ง

 

「ก็ยากที่จะบอกว่าอยู่ระดับท็อปๆแต่ก็คิดว่าเป็นไปได้นะ」

 

「ในขณะนี้ต้องรีบย้ายพื้นที่ก่อนเพราะการต่อสู้กับอันริมันดุเดือดเกินไป……」

 

มาร์และโนโซมุตัดสินใจอย่างใจเย็น และพวกเขาก็ดำเนินตามแผนต่อไป การฝึกยังไม่จบ ระดับของปาร์ตี้หลังจากนี้จะสูงขึ้นอย่างแน่นอน ฝ่ายที่อ่อนแอจะโดนกำจัดจนหมด เหลือเฉพาะผู้แข็งแกร่ง

 

「ข้าโดนตัดสิทธิ์แล้วเพราะฉะนั้นจะกลับไปที่สำนักงานใหญ่ โนโซมุขอบคุณนะ」

 

「ทางนี้ก็เช่นกัน ถ้าเดร็กไม่รีบเข้าไปกัน พวกผมก็คงโดนจัดการแล้ว」

 

โนโซมุและเดร็กกำหมัดแน่นและเอาหมัดชนกัน เป็นเครื่องหมายแห่งความไว้วางใจซึ่งกันและกัน

◇◆◇

「ยังไงก็ตามโนโซมุคุง คือว่า..~」

 

「เอ๊ะ? มีอะไรงั้นเหรอครับอาจารย์อันริ?」

 

ทันใดนั้นอันริเองก็หยุดพวกโนโซมุที่กำลังจากไป ใบหน้าของเธอแดงแจ๋มากเลย นอกจากนี้เธอเองก็จับกระโปรงด้วยท่าทางหงุดหงิด

 

「คือว่าเมื่อก่อนหน้านี้น่ะ~。……เห็นรึเปล่า?」

 

「เห็นสิ…อา」

 

กระโปรงที่อันริจับไว้แน่น ทันทีที่ผมจ้องมองไป ฉากนั้นก็โผล่เข้ามาในหัว ผิวขาวแพรวพราวที่มองเห็นได้หลังกระโปรงนั่น  ขาเรียวยาวอวบอิ่ม และกางเกงในสีชมพูสุดน่ารักนั่น

ใบหน้าของโนโซมุแดงขึ้นทันที แค่นั้นเองอันริก็รู้ทุกอย่างแล้ว

 

「เห็นแล้วสินะ~! ของเค้าอะ ของเค้า เห็นของเค้าแล้ววววววว!!」

 

อันริเริ่มอารมณ์เสียพร้อมกับใบหน้าแดงแปร๋ด บางทีเพราะเธออายมากๆเลยแกว่งมือไปมาเหมือนกับเด็กๆ จนเห็นควันออกหัวเลยอะ

 

「ทะทะทะทะทะทะทำยังไงดีล่เนี่ยยยยย~!ยังไงก็ไม่เคยโชว์ให้ใครเห็นมาก่อนเลยน้าาาาาาาา~! เค้าคิดว่าจะโชว์ให้แค่สามีสุดที่รักของเค้าให้เห็นคนเดียวเท่านั้นเองนะค้าาาาา~~!」

 

「……โนโซมุตอนแกซื้อเวลาทำอะไรลงไปหะ?」

 

「สายตาแบบนั้นมันอะไรกันน่ะ! ไม่ใช่แบบนั้นนะเฟ้ย! ตอนนั้นกำลังซื้อเวลาสุดชีวิตเลยนะขอบอก!!」

 

มาร์จ้องมองโนโซมุ ที่จู่ๆก็พูดอะไรไร้สาระออกมา สำหรับโนโซมุมันช่วยไม่ได้เพราะเธอใส่กระโปรงมาสู้เองนี่หน่า ผมเองก็ขึ้นเสียงโดยไม่ได้ตั้งใจด้วย อย่างไรก็ตามความเข้าใจผิดมันก็มากขึ้นเรื่อยๆ

 

「ทะทะทะทะทะทำยังไงดีละค้าาาา~!! ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้แล้วล่ะก็ โนโซมุคุงต้องรับผิดชอบเค้านะ ห้ามหนีเด็ดขาดเลยนะ~!!」

 

「เดี๋ยวก่อนสิครับ! พูดเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!!」

 

「「โนโซมุคุง……」」「โนโซมุ แก……」

 

ในที่สุดอันริก็ตะโกนถามหา “ความรับผิดชอบ” จากผม จนในที่สุดทุกคนทำสายตาเย็นชาใส่ผมหมดแล้ว

 

「อิจฉาชิบหายเลยโว้ย……ไม่สิไม่ได้ชอบแบบยัยนี่ซะหน่อย! ……ว่าแต่สีอะไรอะ?」「……นะ นี่ข้ากำลังฝันไปใช่ไหม……」

 

อย่างไรก็ตามสายตาของเดร็กและทอมมี่เริ่มเผยรังสีอาฆาตออกมา หึงหวง ปรารถนา และหลงผิดบางอย่างในตัวบุคคล อย่างอาจารย์มันผิดนะโว้ย

 

「เข้าใจผิดกันไปใหญ่แแล้วーーーー!!」

 

โนโซมุกรีดร้องอยู่ในป่า เขาอธิบายเหตุการณ์ทุกอย่างว่ามันเป็นอุบัติเหตุและใช้เวลามากกว่า 30 นาทีในการแก้ไขความเข้าใจผิด

 

 

วันนี้ได้ตอนเดียวนะครับไปฉีดวัคซีนเข็ม 2 มาเพลียๆครับ

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยนำบางส่วนมาจากนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

บทนำ

สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

เรื่องย่อ

สถาบันโซลมินาติ สถานที่ๆคนหนุ่มสาวจากทั่วทุกดินแดนจะมารวมตัวกันเพื่อต่อยอดความฝันและความหวังของตัวเอง ความทะเยอทะยาน สำหรับคนที่ไม่มีอะไรดีสักด้านนั้นจะถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามถูกปฏิบัติแบบไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมโดยสมบูรณ์

เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่ชั้นอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ข้า โนโซมุ เบลาตี้ ซึ่งอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนในช่วงพักกลางวัน

ข้ามาที่นี่เมื่อสองปีก่อน ออกมาจากบ้านเกิดกับเพื่อนสมัยเด็กสองคนเพื่อมายังที่แห่งนี้

คนแรกคือ เคน โนทิส เป็นเพื่อนที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ ลิซ่า เฮาวน์

สาวสวยผู้มีผมหางม้าสีแดง

เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตและเป็นคนรักของข้า

เธอเป็นคนที่เอาชนะคนอื่นได้เสมอ เธอเป็นเหมือนดั่งตัวร้ายที่คอยต่อต้านกับหัวหน้าหมู่บ้าน

ข้าพบกับเธอก็เมื่อตอนอายุ 8 ขวบ ตอนที่ข้ากำลังตกปลาในแม่น้ำใกล้หมู่บ้าน

「อะ เอ่อ อืม ว่างหรือเปล่า?」

เป็นตอนนั้นเองที่เธอเข้ามาพูดกับข้า

ผมสีแดงตัดสั้น ท่าทางที่ดูมั่นใจ ใบหน้าของข้าค่อยๆร้อนรุ่ม…ข้าตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น

พ่อแม่ของเธออาศัยอยู่ในดินแดนที่ห่างไกลออกไป แต่เมื่อพ่อของเธอเสียชีวิตระหว่างเดินทาง เธอจึงตัดสินใจที่จะตั้งถิ่นฐานที่บ้านเกิดของข้า

ตอนเธอยังเด็กมักจะเป็นเด็กที่ซุกซนและอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ข้าก็ไม่ได้รังเกียจอะไร และเธอไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ

แล้วก็เด็กที่ทำให้เธอผิดหวังมากที่สุดก็คือนายพลกาคิกับผมด้วยเหตุผลบางอย่าง

เมื่อสามปีก่อนข้าสารภาพรักกับเธอเพราะว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

รักแรกที่ข้าชอบมาตลอด

เธอตกใจมากกับการสารภาพรักที่กระทันหันของข้า แต่เธอก็ยอมรับข้าและร้องไห้ทั้งน้ำตา

ตอนนั้นเองข้าจึงตัดสินใจที่จะไปสถาบันโซลมินาติกับเธอเพื่อสนับสนุนความฝันของเธอให้เป็นจริง

มันเป็นแรงบัลดาลใจให้ข้า ความฝันของเธอที่บอกข้าตอนยังเด็ก

「ฉันน่ะอยากจะเห็นโลกที่หลากหลายเหมือนกับคุณพ่อ」

ข้ารู้ว่าเธออยากออกไปท่องโลกกว้างเพราะเธอได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นมาจากมารดาของเธอ

ตอนนั้นเองเป็นตอนที่ข้าตัดสินใจไปที่สถาบันโซลมินาติ

หากคนที่ตัวเองรักอยากทำความฝันให้เป็นจริง ข้าก็ควรจะสนับสนุน

ด้วยคำพูดเช่นนั้นข้าตัดสินใจว่าจะสนับสนุนเธอตลอดมา

เธอกอดข้าทั้งน้ำตาพร้อมกับบอกว่า「ขอบคุณนะ……ฉันดีใจจริงๆ」

ท่ามกลางการหลับกลางวันของข้าก็ได้ยินเสียงระฆังที่ส่งเสียงบอกเวลาว่าหมดเวลาพักกลางวันแล้ว

ข้าลุกขึ้นพร้อมกับบิดตัวด้วยความขี้เกียจพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังห้องเรียน

ถูกบังคับให้ไสหัวไปก็ตั้งหลายครั้ง ตัวข้าที่ไม่สามารถทำคำปฏิญาณนั่นได้

ชั้นเรียนของข้าคือ ชั้นเรียนที่สอง ระดับ 10 เป็นห้องที่ต่ำที่สุดในบรรดาชั้นเรียนที่สอง

ในหมู่พวกนั้นข้าเป็นคนที่อยู่ต่ำสุดเรียกได้ว่าเป็นพวกที่ห่วยของโครตห่วย

เมื่อข้าเข้ามาในชั้นเรียนก็โดนต้อนรับด้วยการหัวเราะเยาะเย้ยเป็นเรื่องปกติ

「ยังจะโผล่หัวมาอีกนะ ไอชั้นต่ำ」

「เมื่อไรมันจะหายๆไปสักทีวะ」

「หวังว่าจะลาออกไปไวๆน้า~」

เสียงที่ดูไร้หัวใจเหล่านั้นเสียดแทงเข้ามาในจิตใจของข้า ข้าทำได้แต่เมินต่อไปและนั่งลงบนเก้าอี้

เมื่อข้านั่งลงก็มีนักเรียนสามคนเข้ามาทางข้า

「แกจะมาทำไม ในเมื่อแกมาที่นี่มันก็ไร้ความหมายอยู่ดีไม่ใช่เหรอไงวะ ไอ้เศษเดนเอ้ย」

มาร์ที่ตัวค่อนข้างใหญ่พูดข่มขู่ข้า

「ยอมแพ้ไปสักทีเหอะวะแกไม่คิดว่ามันเสียเวลาชีวิตบ้างเหรอวะ」

「แกโดนแกล้งขนาดนี้ก็เหมาะกับแกดีนี่ เหมาะสมกับเศษสวะอย่างแก」

พวกนั้นก็ยังคงกรนด่าข้าไม่หยุด

「ช่ายๆ โดนเด็กผู้หญิงหัวแดงที่ท่าทางเหมือนเจ้าหญิงนั่นทิ้งแล้ว ไม่มีอะไรให้แกได้ฝันอีกต่อไปแล้วล่ะ」

พวกนั้นทั้งสามคนยังยืนหัวเราะและพยายามยั่วโมโหข้า ไม่มีใครคิดจะห้ามพวกมัน ในท้ายที่สุดพวกมันก็ไม่ยอมหยุดจนกระทั่งอาจารย์ประจำชั้นเข้ามาในห้อง

ใช่แล้วล่ะ ข้าถูกลิซ่าทิ้ง เธอน่ะเป็นนักเรียนห้อง 1 เลยนะ

ทันทีที่เธอทิ้งข้าไปหลังจากกล่าวลาไม่กี่คำ เธอก็ไม่เคยกลับมาพบข้าอีกเลย

ข้าไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ตั้งแต่นั้นมาเธอก็มองข้าเหมือนเศษสวะ

เป็นเพราะข้าเอาแต่สร้างปัญหายังงั้นเหรอ

ลิซ่าเป็นผู้หญิงที่ถูกขนานนามว่า “เจ้าหญิงผมแดง” เพราะหน้าตาและความสามารถ

ในทางกลับกันตัวข้าที่ไม่มีอะไรดีเด่นหน้าตาบ้านๆ

ตลอดช่วงที่ข้าคบกับเธอ เธอมักจะโดนรังควาญอยู่เสมอ บางทีการที่ข้าโดนทิ้งก็เพราะสร้างความยุ่งยากให้เธออยู่เสมอก็ได้

ข้านั้นไร้ซึ่งเพื่อนและกลายเป็นหมาหัวเน่า

ถึงกระนั้นข้าก็พยายามอยากหนักไม่ละเลยสิ่งต่างๆตามหน้าที่ของตน

สักวันหนึ่งถ้าข้าสามารถรักษาคำสาบานที่ให้ไว้ได้ละก็……….ข้าคิดเช่นนั้น

ในขณะเดียวกันนั้นเองเธอก็ไปคบกับเพื่อนสมัยเด็กที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

เธอดูมีความสุขราวกับเธอรักเขาจริงๆ

ในการฝึกซ้อมเป็นคู่พวกเธอสองคนเข้าขากันได้ดีมาก ข้าไม่มีที่ยืนเคียงข้าเธอเลย

ชั่วโมงที่สอง ในช่วงบ่าย

「เฮ้ออ!」

ด้านข้างของดาบจำลองนั่นถูกขว้างมาจากเครื่องยิงดาบจำลอง

เมื่อดาบจำลองที่ถูกยิงมาถูกปากลับไปและแทงเข้าไปที่คอของตุ๊กตา กลไกนั่นก็จะหยุดทำงานลง

หลังจากคาบบรรยายนี่ก็เป็นภาคฝึกปฏิบัติ

นอกจากสนามฝึกซ้อมแล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น สนามทดลองเวทมนตร์ในสถาบันแห่งนี้และนักเรียนที่สามารถศึกษาเรียนรู้ความสามารถของตนตามสถานที่ต่างๆ

สนามฝึกถูกแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่เพื่อให้นักเรียกจากหลายๆชั้นมาเรียนที่เดียวกันได้

วันนี้เป็นการฝึกการต่อสู้ระหว่างบุคคลและแต่ละคนก็จะได้ต่อสู้กับหุ่นยนต์ที่มีดาบจำลองเป็นคู่ซ้อมทำการต่อสู้แบบอิสระ โดยใส่พลังเวทย์เข้าไปเพื่อให้หุ่นยนต์นั้นทำงาน

อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์สำหรับพวกห้อง 10 นั้นมีคุณภาพแย่และเคลื่อนไหวได้แค่บางส่วน

「อืม ต่อไปจะเป็นการต่อสู้เป็นคู่ เลือกคู่หูได้ตามใจชอบ~」

เมื่ออาจารย์อันริ วาร์ อาจารย์ประจำชั้นของพวกห้อง 10 เรียกออกมา หุ่นยนต์ก็หยุดทำงาน ดังนั้นทุกๆคนก็หยุดและรอการจับคู่

อาจารย์อันริมีผมหยักสีน้ำตาล ดวงตาที่ดูสมวัยและใบหน้าที่ออกไปทางดูดีอย่างมาก

อย่างไรก็ตามอาจารย์คนนี้เป็นบุคคลที่ไม่เหมาะกับโรงเรียนแห่งคุณธรรมแห่งนี้เลยเพราะเขาชอบพูดและทำท่าทางแปลกๆราวกับคนบ้า

เรียกได้ว่าคนที่รับผิดชอบนักเรียนห้อง 10 ถูกโยนมาแบบทิ้งขว้างเลยก็ได้

อย่างไรก็ตามการที่เขาสามารถมาเป็นอาจารย์ได้ก็คงมีความสามารถพอตัว

ในที่สุดการจับคู่ก็ถูกตัดสินและแต่ละฝ่ายต่างเริ่มจำลองการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ของตัวเอง แต่ว่าคู่ต่อสู้ของข้าดันเป็น……。

「เอ่อ สำหรับแกแล้ว น่าเสียดายหน่อยนะ」

เป็นมาร์นั่นเองที่กรนด่าข้าเมื่อตอนบ่าย

「มาเริ่มกันเลยดีกว่า เพราะว่าเศษสวะอย่างแกจะทำให้ชั้นเสียเวลา」

มาร์ดึงดาบใหญ่ออกมาจากด้านหลัง

มาร์เป็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมา ความสามารถของเขานั่นของจริง ถึงอย่างนั้นก็ยังได้มาอยู่ในห้องห้อง 10 เช่นนี้เพราะชื่อเสียงแย่ๆนั่นละ

ผมเองก็ดึงดาบจำลองออกมาด้วยเช่นกัน

อาวุธของข้าเป็นดาบที่มาจากทางเกาะตะวันออก เรียกกันว่าคาตานะ เป็นดาบที่มีความคมเป็นอย่างมาก กล่าวได้ว่ามันสามารถตัดทุกอย่าไงได้หากใช้ได้อย่างชำนาญ

ยังไงก็ตาม มันใช้เทคนิตชั้นสูงและความหายากของมันเลยไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนัก

มันเป็นอาวุธที่เหมาะกับข้าที่สุด สำหรับข้าที่ไร้ซึ่งพลัง

「ถ้าอย่างงั้นละก็ เริ่มได้~~~」

การต่อสู้นั่นเต็มไปด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยจากท่าทางของอาจารย์อันริ

「โฮ่ย่าาาาาาาาาาาห์」

มาร์เหวี่ยงดาบใหญ่พร้อมตะโกนก้อง

ผมป้องกันการโจมตีด้วยคาตานะ

ดาบของมาร์ถูกเบี่ยงวิธีและมันก็ฟาดลงทีพื้น

「ฮ่าๆ!」

ก้าวเข้าไปหลังจากมาร์เปิดช่องว่างเล็งไปที่ต้นคอและพยายามจะเอาสันดาบทุบ

「สายไปละโว้ย!」

มาร์เอาถุงมือที่แขนปกป้องดาบของผมไว้ ดาบเลียนแบบที่ไม่มีความคมของดาบดั้งเดิมเหลืออยู่ก็ถูกป้องกันด้วยถุงมือนั่น

มาร์รุดหน้าเข้ามาพร้อมกับยกถุงมือขึ้นป้องกันการโจมตี แต่ข้าก็ก้มลงเพื่อหลบการโจมตี

ข้าพยายามจะโจมตีไปอีกรอบ แต่มาร์นั้นเหวี่ยงดาบใหญ่มาด้วยมือข้างเดียว

ข้าถูกบังคับให้ถอยและกลับไปตั้งหลักใหม่

มาร์ที่ฟาดดาบใหญ่จนพื้นแตกกระจายพยายามมองระหว่างข้าและดาบใหญ่ของมันเอง……。

「อยากโดนหั่นเป็นชิ้นๆเหรอไงวะ」

มาร์พูดเช่นนั้นพร้อมกับรังสีกดดันที่เพิ่มมากขึ้น

“คิ”

เป็นสกิลของทางฝั่งตะวันออกที่จะเพิ่มพลังให้แก่ผู้ใช้งานให้เหนือขีดจำกัดยิ่งขึ้นไป

มาร์พุ่งเข้ามาในคราวเดียว ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นั่นละคือผลลัพธ์จากการใช้ คิ

ราวกับจะจับเหยื่อตรงหน้าฟาดดาบใหญ่นั่นลงมาในทีเดียว

ข้าเองก็ใช้ “คิ”เช่นกันเพื่อหลบการโจมตีของดาบใหญ่นั่น เสียงของเหล็กดังกระทบกันสนั่นหู

「เหอะ!ลังเลอยู่งั้นเหรอ」

มาร์ที่รู้สึกหงุดหงิดนั่นดูมีท่าทีลังเลจึงไม่สามารถจะตัดสินใจจบการโจมตีในทีเดียวได้

เขาดึงดาบใหญ่ที่จมลงไปบนพื้นและเริ่มที่จะฟันมันมาอีกครั้ง

เขาฟาดฟันดาบใหญ่ไปรอบๆด้วยเรี่ยวแรงอันมหาศาลจาก “คิ”

เสียงของเหล็กปะทะกันดังสนั่นไปทั่วบ่งบอกถึงการต่อสู้อันดุเดือด แต่ว่ามีฝ่ายเดียวที่ได้เปรียบ

การเสริมพลังกายของมาร์มีพละกำลังมากกว่าข้า แต่ผลของการเสริมพลังกายของข้าเองก็ได้ผลเพียงครึ่งเดียวด้วยความสามารถของข้า

มาร์มันเป็นคนเก่งแต่เพราะทำแต่เรื่องแย่ๆเลยได้มาอยู่ในห้อง 10

ในทางตรงกันข้ามแม้หมอนั่นจะมีความสามารถสูง แต่มาร์มันกลับพอใจที่จะกดขี่คนที่ต่ำกว่านั่นมันโครตจะแย่

เทคนิคดาบชั้นสูงของมาร์ไม่สามารถใช้จัดการกับโนโซมุตามปกติได้ แต่ว่าพลังกายของโนโซมุที่ได้รับการเสริมแบบครึ่งๆกลางๆมันก็พอเป็นไปได้

พลังที่ได้มานั่นทำให้พอฟัดพอเหวี่ยงกับดาบของโจรสลัดเท่านั้นเอง

「แหลกไปซะเหอะมึง!!」

บางทีอาจจะเป็นเพราะข้าโดนกดดันจนถูกบดขยี้ในพริบตา แต่ว่าข้าก็กันการโจมตีนั่นได้ยิ่งทำให้มาร์มันหงุดหงิดจนพละกำลังมันเพิ่มมากขึ้นไปอีก

「เหอะ คิดว่าจะบดขยี้ข้าได้ง่ายๆงั้นเหรอ!」

ข้ากัดฟันแน่นเพื่อที่จะไม่เดินไปตามเกมส์ของศัตรู

แม้ว่าพลังในการโจมตีจะเพิ่มขึ้น แต่การโจมตีของมันก็ซ้ำซากและจำเจ ทำให้รับมือได้ไม่ยากเย็น

อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถสวนกลับได้ทำได้เพียงแค่ยื้อเท่านั้น

และถ้าโต้กลับไม่ได้ผลมันก็รู้ๆกันอยู่

ในที่สุดก็มาถึงขีดจำกัด

ข้าไม่สามารถรับการโจมตีของมาร์ได้อีกต่อไป การป้องกันของข้าถูกทำลายลงและไม่มีเวลามาตั้งท่าใหม่ ตอนนั้นเองทีข้าถูกดาบใหญ่นั่นฟาดเข้ามากระแทกกับคาตานะของข้าจนกระเด็น

「จะเหนียวได้สักแค่ไหนกันเชียววะ!」

รูปร่างของข้าบิดเบี้ยวเพราะการโจมตีนั่น ข้าตัวกระเด็นจนตัวไปกระแทกกับกำแพงของสนามฝึกซ้อม

ผลกระทบนั่นทำให้ข้าหายใจติดขัดและการมองเห็นของข้าก็มืดดับลง

「เป็นแค่เศษสวะแท้ๆ แต่ยังกล้าขัดขืน โดนดีไปซะเหอะมึง」

ข้าหมดสติไปพรัอมกับคำพูดของมาร์

「โอ้ยยยย เจ็บแหะ!」

ข้าลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับสติที่พร่ามัวลุกขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดไปทั้งตัว

ข้าก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องพยาบาล

「เอ้าๆ รู้สึกตัวแล้วไม่ใช่เหรอไงเนี่ย?」

ผู้หญิงสวมชุดโค้ทสีขาวพร้อมกับใส่แว่นนั่นกำลังทำงานอยู่บนโต๊ะพยาบาล

ชื่อของเธอคือนอร์น อัลทิน่า เป็นหมอประจำโรงเรียนที่สวยเอามากๆ

เธอเดินมาทางนี้และขยับนิ้วมาตรงหน้าผมเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกาย

「อืมม ดูจากสภาพแล้วสติยังคงดีอยู่ แล้วรู้สึกปวดตรงไหนบ้างรึเปล่า?」

「ข้าปวดหลังนิดหน่อยและหัวเองก็ยังคงมึนๆ แต่ว่าไม่มีตรงไหนผิดปกติแล้วล่ะ」

「อืมมเข้าใจแล้ว ฉันทายาไปที่หลังของนายแล้วล่ะ แต่ถ้ารู้สึกเจ็บหรือปวดตรงไหนก็มาได้ตลอดเวลานะ มันจะดีกว่านะที่มาหาฉันมากกว่าที่จะทนเจ็บกับบาดแผลนั่น」


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท