พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” – ตอนที่ 79

ตอนที่ 79

บทที่5ตอนที่26

 

 

เงาสีดำขนาดใหญ่คำรามอยู่กลางท้องฟ้าและพุ่งเข้าหาโนโซมุ

 

 

ด้วยความอ่อนไหวต่อพลังที่โนโซมุปลดปล่อยออกมามันปล่อยคลื่นลมใส่ไอริสและมาร์ที่อยู่ตรงนั้น และพยายามเข้าหาโนโซมุ

 

 

ร่างของโนโซมุปลิวไปเพราะแรงกระแทก เขาพุ่งชนกระท่อมของชิโนะขณะที่ร่างกระแทกกับพื้นไปหลายครั้ง จนเกิดรูขนาดใหญ่บนกำแพง

 

 

วินาทีถัดมากระท่อมก็พังทลายด้วยเสียงอันดัง อาจเป็นเพราะเสาค้ำที่พังลงมา ตัวโนโซมุโดนกระท่อมหล่นทับลงมา

 

 

ไอริสและคนอื่นๆต่างตกตะลึงเพราะไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น

 

 

เมื่อเหล่าสาวๆที่อยู่ด้านหลังจ้องมองเงาขนาดใหญ่ที่พุ่งเข้าหาโนโซมุ มันก็กระทืบเท้าที่เหมือนท่อนซุงลงบนพื้นและกางปีกแสดงให้เห็นถึงความสง่างาม

 

 

มังกรแห่งความตายที่ได้รับการฟื้นฟู มีเกล็ดที่แตกร้าว บาดแผลมากมายและกลิ่นเน่าปกคลุมทั่วทั้งร่าง

 

 

「ทำไม…หมอนี่ถึงมาอยู่ที่นี่ได้……」

 

 

มาร์พึมพำด้วยท่าทางหงุดหงิด

 

 

ข้างหน้าพวกเขา มีมังกรแห่งความตายที่น่าจะโดนจิฮัดจัดการไปแล้วอยู่

 

 

ปีกข้างหนึ่งที่น่าจะหายไปกลับถูกสร้างขึ้นใหม่ แต่ว่าเป็นมังกรแห่งความตายไม่ผิดแน่

 

 

「กูรูลูลู……」

 

 

เมื่อมังอ้าปากค้างและสูดลมหายใจก็มีเพลิงสีแดงรั่วไหลออกมาจากด้านหลังคอของมัน

 

 

ลมหายใจที่แผดเผาที่พ่นออกมาและโจมตีไปทางกระท่อมของชิโนะ

 

 

กระท่อมอันแสนเรียบง่ายถูกไฟนั่นเผาในทันทีและโนโซมุที่อยู่ในนั้นก็โดนเปลวเพลิงเข้าปกคลุม

 

 

「โนโซมุ!!」

 

 

ไอริสส่งเสียงอันแสนเศร้าออกมา

 

 

อย่างไรก็ตามมันไม่ได้สนใจไอริสมันยังคงจ้องไปที่กระท่อมหลังนั้น

 

 

「บ้าเอ้ย!!」

 

 

「แย่แล้ว! ต้องรีบเข้าไปช่วยแล้ว!」

 

 

ไอริส ซีน่า และมาร์พยายามเข้าไปช่วยโนโซมุโดยไม่สนใจมังกรแห่งความตายรีบวิ่งไปยังกระท่อมที่กำลังลุกไหม้

 

 

อย่างไรก็ตามมันป้องกันไม่ให้พวกเขาทำเช่นนั้น และเตรียมพ่นลมหายใจลูกถัดไป

 

 

「กร๊าซซซซซซซซ!」

 

 

ลมหายใจที่แผดเผาที่ปล่อยไปทางพวกไอริส

 

 

อย่างไรก็ตามเกิดบาเรียแห่งแสงบดบังทิศทางของลมหายใจนั่น

 

 

「……ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมแกถึงยังมีชีวิตอยู่ แต่อย่ามาขวางกันสิ!」

 

 

มันเป็นยันต์ของฟีโอเองที่เข้าไปป้องกันลมหายใจของมัน

 

 

บางทีอาจจะใช้อันเดียวไม่ได้ผล ฟีโอเลยใช้ยันต์ทั้งห้าใบในการสร้างบาเรียแห่งแสงขึ้นมา

 

 

อย่างไรก็ตามดูเหมือนขีดจำกัดของบาเรียจะพอแค่กันลมหายใจไว้ได้ บาเรียแห่งแสงหายไปในทันทีหลังจากทำหน้าที่ของมันเสร็จ

 

 

ซื้อเวลาได้เพียงเล็กน้อย แต่เวลานั้นมีค่ามากกว่าสิ่งใด

 

 

「ทุกคนช่วยล่อมังกรตัวนั้นที! คุณทิม่า! ดับไฟด้วยเวทย์ที!」

 

 

「นอร์น~! ไปหาโนโซมุคุงเถอะน้า~。เค้าจะอยู่กับพวกซีน่าตรงนี้เอง~!!」

 

 

「เข้าใจแล้ว! อย่าฝืนเกินไปละอันริ!」

 

 

ในช่วงเวลาสั้นๆที่ฟีโอซื้อเวลาให้ อันริและนอร์นก็ได้สติและส่งคำแนะนำไปให้ทุกคน

 

 

ในขณะที่ให้คำแนะนำแก่ทุกคน ทุกคนก็เริ่มทำตามคำแนะนำที่ได้รับทันที

 

 

เวทย์จำนวนมากถูกยิงใส่มังกรแห่งความตาย และแส้ของอันริก็ฟาดเข้าไปที่มัน

 

 

ในขณะเดียวกัน ฟีโอและมิมุรุก็เข้าใกล้มังกรด้วยความรวดเร็ว ฟาดกระบองและคมดาบใส่เกล็ดที่กำลังจะหลุดออกเผยให้เห็นเนื้อหนัง

 

 

อย่างไรก็ตามมันได้ผลเพียงเล็กน้อย สำหรับมังกรที่ไร้ความเจ็บปวดใดๆ มังกรแห่งความตายสลัดพวกฟีโอและมิมุรุราวกับแมลงวันอันแสนน่ารำคาญ

 

 

กระบองของฟีโอที่เสริมพลังและมีดสั้นของมิมุรุแทงทะลุผิวหนังของมัน เวทย์ของทอมก็เผาไหม้ร่างกายของมัน แต่ก็หยุดมันไม่ได้ แส้ของอันริไม่ได้ผลกับมันเลย

 

 

「โนโซมุ! ได้ยินรึเปล่า!」

 

 

「อึกก! ไฟมันแรงเกินไป!」

 

 

ในขณะเดียวกันไอริสและคนอื่นๆพยายามเข้าไปที่กระท่อม พวกเขาพยายามจะดับไฟ แต่ว่าไปได้ไม่สวย

 

 

ไอริสยังคงสร้างเวทย์ธาตุน้ำออกมาต่อเนื่อง แต่ว่ามันก็ไม่รุนแรงพอที่จะดับไฟได้ และธาตุลมของมาร์ก็ยิ่งทำให้ไฟมันโหมกระหน่ำมากขึ้น

 

 

ซีน่าพยายามใช้เวทย์วิญญาณ แต่ว่ามันใช้เวลามากกว่าที่เธอคิด

 

 

「ทุกคน! ได้โปรดใจเย็นๆก่อนนะ!!」

 

 

เสียงเศร้าๆของซีน่าที่พยายามสื่อถึงเหล่าวิญญาณ เธอพยายามเอาใจเหล่าวิญญาณ แต่พวกเขาก็ทำได้แต่แอบมองและอยู่รอบๆซีน่า พวกเขาไม่ยอมฟังสิ่งที่เธอพูด

 

 

สัญญาณของเทียแมทที่โนโซมุปลดปล่อยออกมา ทำให้พวกเขาหวาดกลัวพลังอันแสนยิ่งใหญ่นั่น ทำให้เหล่าวิญญาณกลัวกันไปหมด

 

 

ในขณะเดียวกันมาร์ก็พยายามฟันหลังคาที่พังทลายและพยายามยกเศษหินขึ้น

 

 

「โอววววววววววววว!!」

 

 

อย่างไรก็ตามตรงกันข้ามกับความต้องการของมาร์ที่จะยกหลังคาเพื่อช่วยโนโซมุ มันไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย

 

 

หลังคาที่ทับโนโซมุที่หมดสติหรือติดอยู่ในนั้นก็ตาม เขาจะต้องได้ยินเสียงระเบิดและเสียงไฟที่กำลังลุกไหม้ แต่ว่าไม่มีร่องรอยของโนโซมุโผล่ออกมาเลย

 

 

ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ก็ทำอะไรไม่ได้ โนโซมุจะถูกเผาตายแน่ๆใต้นั้น

 

 

แม้ว่าจะหนีออกมาจากมันได้แต่อาจจะสูดดมควันและสำลักควันตาย

 

 

สาเหตุการตายส่วนใหญ่ก็เพราะสำลักควันไฟ

 

 

ไม่ว่าโนโซมุจะมีความสามารถมากแค่ไหน หากหายใจได้ลำบาก เขาก็เคลื่อนไหวไม่ได้ และหลังจากนั้นอาจจะถูกไฟคลอกหรือขาดอากาศหายใจ

 

 

「มาร์คุง! อย่าเคลื่อนไหวแบบนั้นสิ!」

 

 

ในเวลาเดียวกันนอร์นก็บอกมาร์แบบนั้นและกระสุนลมที่ถูกบีบอดัดก็พุ่งไปด้านข้างของมาร์

 

 

กระสุนลมนั่นปลิวไสวพุ่งทะลุหลังคาที่ถล่มโดยไม่ทำให้เพลิงไหม้และพังลง

 

 

「เอาล่ะ! ถ้าเป็นแบบนี้!」

 

 

ตกใจอยู่หรอกกับกระสุนลมที่พุ่งมาอย่างกระทันหัน แต่หลังคากระท่อมก็ถูกแบ่งครึ่งแล้ว จึงย้ายมันออกได้

 

 

นอกจากนี้ทิม่ายังสร้างมวลน้ำขนาดใหญ่ด้วยการร่ายเวทย์

 

 

ขนาดของมวลน้ำนั่นใหญ่เท่ากับกระท่อมของชิโนะ

 

 

「มาร์คุง!ฉันจะดับไฟแล้ว หลบไปที!」

 

 

「เข้าใจแล้ว!」

 

 

มาร์ออกจากพื้นที่แห่งนั้นด้วยคำพูดของทิม่า น้ำจำนวนมากเพียงพอที่จะดับไฟ

 

 

ช่วงเวลาที่มวลน้ำกำลังพองตัวในอากาศและกำลังจะตกลงไปที่กระท่อมที่ถูกไฟไหม้

 

 

「ก๊าซซซซซซซซซซซซซซ!!」

 

 

มังกรก็พุ่งเข้าหามวลน้ำนั่น

 

 

ร่างยักษ์กระพือปีกและบินไปตรงนั้น มันไม่สนใจการโจมตีที่มันได้รับเลยแม้แต่น้อย

 

 

「เอ๋!?」

 

 

มวลน้ำที่มีขนาดเท่ากับกระท่อมกระจัดกระจายไปทั่วเพราะร่างของมังกรที่ใหญ่กว่า

 

 

「ไม่จริงน่า……」

 

 

「บ้าเอ้ยยยยยยยยยย!!」

 

 

เสียงตะลึงหลุดออกมาจากปากของทิม่า

 

 

มาร์กัดฟันแน่นเมื่อเห็นการกระทำของมัน และเมื่อเขากลับไปที่กระท่อมก็เอาดาบใหญ่แทงลงไปอีกครั้งและพยายามยกหลังคาที่พังลงมา

 

 

ไอริสยังคงใช้เวทย์ธาตุน้ำอย่างต่อเนื่องแต่ว่าไฟก็ยังไม่ดับลง วิญญาณรอบๆตัวซีน่าเองก็ยังคงหวาดกลัวอยู่

 

 

ไอริสและซีน่าตัดสินใจแล้วว่าคงทำแบบนี้ต่อไปก็เปล่าประโยชน์เลยพยายามช่วยมาร์อีกแรง

 

 

「ฮะเฮ้ย!」

 

 

「อูวววววววววววววววว!」

 

 

「อึกกกกกกกกกกกก!!」

 

 

ความร้อนแผดเผาและความเจ็บปวดก็แล่นไปทั่วทั้งมือ

 

 

มาร์ตกใจที่เห็นพวกไอริสพุ่งเข้ามาด้วยท่าทีอันเลิ่นเลอ ซีน่าเองก็เหมือนกัน

 

 

ในอัตรานี้โนโซมุอาจจะตายได้

 

 

สำหรับไอริสที่กังวลว่าเขาจะหายไป สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้เปรียบเสมือนฝันร้ายนั่น

 

 

สำหรับซีน่าแล้วโนโซมุที่กำลังโดนแผดเผามันทับซ้อนกับภาพของครอบครัวเธอเมื่อ 10 ปีก่อน

 

 

ป่าที่ล้อมรอบไปด้วยเปลวเพลิงและบ้านที่ถูกไฟไหม้ ครอบครัวของเธอที่กลายเป็นโครงกระดูก

 

 

เขาอาจจะเป็นเหมือกับทุกคน……。

 

 

เมื่อคิดอย่างนั้นความเจ็บปวดที่มือมันก็ไม่เท่าไร

 

 

「โนโซมุ โนโซมุ……!」

 

 

「ขอร้องล่ะ……ทันเวลาทีเถอะ……」

 

 

ไอริสและซีน่าพยายามอย่างเต็มที่ที่จะเอาเศษหินและอิฐออกพร้อมกับอธิษฐาน อย่างไรก็ตาม ราวกับว่ากำลังเหยียบย่ำความตั้งใจของพวกเธอ มังกรแห่งความตายก็เข้ามาโจมตี

 

 

「บ้าเอ้ยยยยยยยย! เกิดบ้าอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย!!」

 

 

มาร์เองก็ได้แต่ส่ายหัวมังกรแห่งความตายมันเล็งไปที่ไอริสด้วยเหตุผลบางอย่าง แทนอันริที่โจมตีอย่างหนักหน่วง มันพยายามพุ่งเข้าหาไอริส

 

 

วินาทีถัดมา กรงเล็บของมันก็พุ่งลงมาพัดเอาเศษดินตรงที่ไอริสและคนอื่นๆอยู่ฝังลึกลงไป

 

 

นอกจากนี้หางของมันยังฟาดมาทางไอริสที่กำลังหนี

 

 

「อ๊าาาาาาาาาา!!」

 

 

「ชิ!」

 

 

ตอนนั้นเองมาร์ก็ยกดาบเล่มใหญ่ของเขาไอริสเองก็กางบาเรียเวทย๋ หางของมันก็พุ่งเข้ามาชน

 

 

ไอริสและมาร์พยายามต้านเอาไว้ต่อแรงกดดันมหาศาลอย่างสุดกำลัง

 

 

ทั้งสองคนป้องกันการโจมตีของหางขนาดใหญ่ได้

 

 

「ไอ้นี่!」

 

 

ซีน่าอัดพลังเวทย์เข้าไปในลูกธนูแล้วเล็งไปที่หางของมัน แต่ว่าก็ทำอะไรมันไม่ได้

 

 

「กูรูาาา!」

 

 

อย่างไรก็ตามมันใส่แรงมาที่หางมากขึ้น ไอริสและมาร์ที่รับแรงกดดันมหึมาก็ทนไม่ไหวและทั้งสามคนก็ปลิวไป

 

 

ทั้งสามคนที่ปลิวไปก็พยายามลุกขึ้น อย่างไรก็ตาม มังกรแห่งความตายไม่ได้ไล่ตามพวกเขาไป และยืนนิ่งอยู่ตรงกระท่อมที่ถูกไฟไหม้

 

 

มันเหมือนกับกันไม่ให้เข้าไปช่วยโนโซมุ

 

 

「ฮะ ไม่อยากให้พวกเราเข้าไปช่วยโนโซมุงั้นเหรอ!」

 

 

ด้วยเหตุผลบางอย่าง มังกรแห่งความตายไม่ยอมให้พวกเราไปช่วยโนโซมุ

 

 

ในการต่อสู้ครั้งก่อน มังกรแห่งความตายไร้ซึ่งความคิด ดวงตาสีขาวขุ่น ซึ่งบ่งบอกว่ามันตายแล้ว มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเคลื่อนไหวตามสัญชาตญาณ

 

 

「หนอย!!ทนไม่ไหวแล้วนะ! ทำไมถึงต้องมาขัดขวางกันด้วย!!」

 

 

ไอริสอัดพลังเวทย์ทั้งหมดเพื่อเปิดใช้งาน “คืนจันทร์คราส(月食夜)” ซีน่าเองก็บีบคันธนูแน่นและพยายามจะใช้ “การลงทัณฑ์จากดวงดวงดาวแห่งท้องทะเล(星海の天罰)”

 

 

ดาบนั้นส่องแสงตอบสนองต่อไอริสและลูกศรที่เปรียบเสมือนดาวตก

 

 

ไอริส มาร์  ฟีโอ มิมุรุ รีบวิ่งไปที่มังกรแห่งความตาย ซีน่านำพลังเวทย์ทั้งหมดเพื่อปลดปล่อย”การลงทัณฑ์จากดวงดวงดาวแห่งท้องทะเล” ทิม่า อันริ และทอมก็เริ่มร่ายเวทย์

 

 

มังกรแห่งความตายยังคงยึดมั่นและกางปีกออกเพื่อแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้

 

 

ในเวลาต่อมาไอริสและคนอื่นๆก็พุ่งเข้ามามังกรแห่งความตายในทันที และมังกรก็พุ่งเข้าหาพวกเขา พร้อมกับลมหายใจที่แผดเผา

 

 

◇◆◇

 

 

เมื่อการต่อสู้ระหว่างไอริสและมังกรเริ่มต้นขึ้น ดวงตาของโนโซมุที่ติดอยู่ในกระท่อมที่พังทลาย เห็นเปลวเพลิงสีแดงระยิบระยับตามที่ต่างๆ ในทัศนวิสัยที่มืดมิด เศษหินที่สะท้อนอยู่ในแสงมีเพียงเงาที่สะท้อนออกมา

 

「อาาาาาาาาาาาาาา!! ………อึก!」

 

โนโซมุคร่ำครวญในซากปรักหักพังที่ล้มทับร่างกายเขา

 

 

ร่างกายของเขาถูกหลังคาที่พังทลายกดทับและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

 

 

อย่างไรก็ตาม นอกจากเคลื่อนไหวไม่ได้ ยังมีควันจากเปลวไฟโจมตีโนโซมุอย่างไร้ความปราณี

 

 

โนโซมุพยายามสูดลมหายใจเข้าอย่างสิ้นหวัง แต่ไม่ว่าจะสูดมากแค่ไหน ก็ได้แต่สูดควันเข้าไป และมันก็ทำให้ร่างกายเจ็บปวด

 

 

ความร้อนที่รู้สึกได้ค่อยๆเพิ่มขึ้นและพยายามเผาร่างกายของโนโซมุ

 

 

 

「อั่ก!………อะ แค่ก แค่ก……」

 

ในพื้นที่ๆการมองเห็นค่อยๆมืดลง โนโซมุพยายามยื่นมือไปขอความช่วยเหลือ แต่แขนของเขาที่ประกบระหว่างหินก็ไม่ขยับ

 

 

ภายใต้จิตสำนึกอันเลือนลาง สิ่งที่อยู่ในความคิดของเขาคือภาพของเพื่อนๆที่ยอมรับเขาในตอนนี้

 

 

ความผูกพันที่ได้รับการเติมเต็ม ไม่อยากจะสูญเสียใครไปอีกแล้ว

 

 

มังกรแห่งความตายยังคงอยู่ด้านนอก ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่อย่างน้อยมังกรมันก็ไม่อยู่เฉยแน่ๆ

 

 

ใบหน้าของไอริสและเพื่อนๆ ลอยเข้ามามันหลั่งไหลราวกับความโกรธที่อยู่ด้านหลังเปลือกตาของโนโซมุ ความทรงจำที่ได้ผ่านสิ่งต่างๆมาด้วยกัน

 

 

ภาพแห่งความทรงจำที่จะไม่มีวันลืม ทำให้จิตใจเขายิ่งร้อนรน

 

ในที่สุดก็ได้รับมันมาแล้ว กลัวเหลือเกิน แต่ผมก็ได้แสดงความรู้สึกที่มีทั้งหมดออกไปแล้ว……。

 

ไม่อยากจะตาย! จะตายตอนนี้ไม่ได้!!

 

ด้วยความมุ่งมั่นนั่น ร่างกายของโนโซมุจึงมีพลังมากขึ้น

 

 

เป็นการแสดงสัญชาตญาณการเอาตัวรอดอันแข็งแกร่ง เจตจำนงที่จะมีชีวิตอยู่ ครั้งหนึ่งที่สู้กับชิโนะและเทียแมท

 

 

โนโซมุรวบรวมพลังทั้งหมดไว้ที่มือซ้ายซึ่งโดนซากปรักหักพักประกบอยู่

 

 

กล้ามเนื้อถูกยกขึ้นด้วยเสียงไม่พึงประสงค์ ทำให้เศษหินที่เกาะแขนขยับเล็กน้อย

 

「อ๊าาาาาาา!อั่กกกกกก! ฮึกย๊าหหหหหห์!」

 

อย่างไรก็ตาม จนกระทั่งถึงเวลานั้น โนโซมุหายใจออกลำบากและสติก็ค่อนข้างเลือนรางทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยสบายเท่าไร

 

 

ตรงกันข้ามกับความคิดอันแสนสิ้นหวัง ร่างกายไม่เคลื่อนไหวตามที่ต้องการ ราวกับเป็นท่อนเหล็กอยู่ใต้น้ำ

 

 

ในขณะนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังก้องเข้ามาในหู

 

 

 

“อยากจะรอดยังงั้นเหรอ? อยากจะช่วยคนพวกนั้นใช่ไหม?”

 

เสียงนั้นดังก้องในใจของโนโซมุ โนโซมุได้ยินเสียงของเทียแมทชัดเจนกว่าปกติ อาจเป็นเพราะปลดปล่อย “พันธนาการ”

 

 

เทียแมทที่โนโซมุมองไม่เห็น แต่น้ำเสียงเหล่านั้นกำลังดูถูกโนโซมุที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

 

 

 

“ถ้าช้าเกินไป แม้ว่ามันจะตายไปแล้ว แต่ว่ามนุษย์เหล่านั้นก็ไม่สามารถเอาชีวิตรอดจากมังกรตัวนั้นได้ พอถึงเวลาก็จะถูกบดขยี้และกลายเป็นซากศพที่น่าสมเพช”

 

คำเตือนของเทียแมทดังก้องแทงทะลุหน้าอกของโนโซมุ

 

“และตัวเจ้าที่ทำอะไรไม่ได้เลย ท้ายที่สุดแล้ว นั่นก็คือขีดจำกัดของมนุษย์อย่างพวกเจ้า……”

 

เทียแมทบอกเช่นนั้น คำพูดนั้นกระตุ้นเหตุผลในการต่อสู้ของโนโซมุมากขึ้นไปอีก

 

อย่ามาพูดบ้าๆนะ! อยากจะให้ผมทำแบบนั้นเหรอไง!

 

ชีวิตของเหล่าเพื่อนๆที่อาจจะจากไป ข้อเท็จจริงนั่นยิ่งกระตุ้นความโกรธของโนโซมุและจุดไฟแห่งการเอาชีวิตรอดในตัวเขา

 

 

สิ่งนั้นอยู่เหนือการควบคุมของโนโซมุ

 

「โอววววววววววววววววววววววววววววววววว!!」

 

ประโยคที่แสนโหดร้ายของเทียแมทพุ่งเข้ามาในใจ เขาพยายามปฏิเสธความจริงเหล่านั้นและกรีดร้องออกมาโดยไม่คำนึงถึงตัวเอง

 

 

จิตวิญญาณที่ถูกปลดปล่อยทำให้เกิดช่องว่างเล็กน้อยระหว่างซากปรักหักพังที่กังขังร่างกายโนโซมุเอาไว้

 

 

ก่อนที่ช่องว่างนั้นจะถูกปิดอีกครั้ง โนโซมุดึงมือซ้ายกลับมาและกระแทกมันลงอย่างสุดกำลัง โดยไม่สนใจผิวหนังที่ฉีกขาดและเลือดที่พุ่งออกมา

 

 

เทคนิค คิ“ระเบิดทำลายล้าง”

 

 

ลานสายตาของผมเต็มไปด้วยแสงสว่าง และซากปรักหักพังก็ปลิวไป

 

 

ในขณะเดียวกันด้วยเหตุผลบางอย่างโนโซมุก็ยิ้มขึ้นมา

 

เมื่อถูกปลดปล่อยจากการโดนทับโนโซมุเช็คสภาพร่างกายของตัวเอง

 

 

ความเจ็บปวดที่แล่นไปทั่วร่างและพลังที่ท่วมท้นยังคงไหลเวียนอยู่

 

“……เห็นไหม ว่าได้ผล!”

 

ขาและแขนที่ประกบกันอยู่ระหว่างซากปรักหักพักตอบสนองต่อเจตจำนงของโนโซมุและเคลื่อนไหว

 

 

โนโซมุมองไปข้างหน้าและจดจ่อกับคู่ต่อสู้ตรงหน้า

 

「……เอ๊ะ?」

 

อย่างไรก็ตามเมื่อกระแสพลังที่ปล่อยออกมาจากตัวเขาสงบลงและการมองเห็นก็กลับมา โนโซมุก็ตกตะลึงกับภาพตรงหน้า

 

 

ทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่?

 

 

โนโซมุอยู่ตามลำพังในพื้นที่สีแดงสด

 

 

ในสายตาของเขามีเปลวไฟสีแดงเข้มและเศษซากบ้านเรือนหลายหลังที่กระจัดกระจาย อาคารที่ถล่มลงมา เป็นภาพที่โนโซมุเห็นบ่อยๆ

 

 

ใช่ต่อหน้าเขา ที่ควรจะอยู่ในป่า กลับมายืนตรงหน้าเมืองอาร์คาซัมที่กำลังพังทลายลง

 

 

 

「ทำไมกันล่ะ…ควรจะอยู่ในป่าก่อนหน้านี้นี่……」

 

“ถ้าช้าเกินไป แม้ว่ามันจะตายไปแล้ว แต่ว่ามนุษย์เหล่านั้นก็ไม่สามารถเอาชีวิตรอดจากมังกรตัวนั้นได้ พอถึงเวลาก็จะถูกบดขยี้และกลายเป็นซากศพที่น่าสมเพช”

 

คำพูดของเทียแมทวนกลับมาในใจ

 

 

เมืองอาร์คาซัมที่กำลังถล่มทลายบ้านเรือนลุกไหม้และตรงหน้ามีเปลวเพลิงที่แผดเผา และเสียงของใครบางคนที่ขอความช่วยเหลือ

 

 

ใช่ ไม่มีเวลาแล้ว ต้องกลับไปหาทุกคน!

 

「อา!! ทุกคน! อยู่ที่ไหนกัน!!」

 

โนโซมุตะโกนและพยายามตามหาทุกคน

 

 

แต่ว่าได้ยินแต่เสียงโอดครวญ เสียงของไฟที่ปะทุและเสียงของอาคารที่ถูกเผาไหม้และไม่สามารถหาใครได้เลย

 

「ไอริส! มาร์! ซีน่า!!」

 

ทุกครั้งที่สูดลมหายใจ อากาศร้อนๆจะแผดเผาคอและร่างกายจะร้อนขึ้น จากนั้นส่วนหน้าอกก็จะเย็นลงเรื่อยๆ ตามร่างกายที่ร้อนอบอ้าว และเต็มไปด้วยความรู้สึกสูญเสียราวกับมีรูอยู่ตรงนั้น

 

 

ไม่มีทาง……。

 

 

ราวกับจะสลัดความหวังอันแย่ที่สุดออกไป โนโซมุพยายามตามหาพวกพ้องวิ่งตามหาเต็มที่

 

 

อย่างไรก็ตามเงาดำปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา

 

 

ยิ่งกว่านั้นไม่ใช่เงาเดียว เงาหลายเงาปรากฏขึ้นหน้าโนโซมุ

 

 

เงาขนาดใหญ่เป็นพิเศษ ความสูงกว่าโนโซมุหลายเท่า แขนขาอันทรงพลังที่เหยียบย่ำพื้นดินที่กำลังลุกไหม้ และเงารูปปีกที่งอกขึ้นที่ด้านหลังซึ่งดูเหมือนจะเป็นปีกที่แผ่สยายออกไปอย่างกล้าหาญ

 

 

ความสง่าผ่าเผย เป็นที่สยดสยองให้แก่ผู้คนที่เห็นมัน พูดถึงขนาดและเงาของมัน

 

 

ด้านหลังเงายักษ์นั่นจะเห็นเงาของร่างมนุษย์เกือบ 10 คน

 

 

ขนาดนั้นแตกต่างกันไป แต่ทุกคนที่เป็นเงามีอาวุธครบมือ

 

 

 

「……อย่ามากวนกันจะได้ไหม……」

 

เพราะเขากังวลเรื่องของเพื่อนๆ โนโซมุจึงส่งสายตาอาฆาตไปทางเงามืดนั่น

 

 

เงานั่นดูน่ากลัวมาก มีพลังทางกายภาพ เงานั่นหยุดเล็กน้อยเพราะแรงอาฆาตที่โนโซมุปลดปล่อย

 

 

อย่างไรก็ตาม เงายักษ์ไม่แม้แต่จะถอย และพยายามขู่โนโซมุ

 

 

 

「……ไม่มีเวลามาเล่นด้วยหรอกนะ ถ้ามาขวาง จะจัดการทิ้งเดี๋ยวนี้ล่ะ!!」

 

ในขณะเดียวกันเขาก็เสริมความแข็งแกร่งทางร่างกาย

 

 

พลังที่มากจนเอ่อล้นออกมาจากการปลดปล่อยพันธนาการ

 

 

อย่างไรก็ตามเขาหงุดหงิดและไม่ทันสังเกต

 

 

ที่ด้านหลังเงามนุษย์เหล่านั้นมีบางอย่างที่ผมรู้จักดี

 

 

ปากของเงานั่นพยายามเรียกชื่อใครบางคน

 

 

และก่อนที่จะมาที่แห่งนี้ ปากของหมอนั่นที่อยู่ในใจผมก็บิดเบี้ยว

 

◇◆◇

 

 

ขณะที่การต่อสู้ระหว่างไอริสและคนอื่นๆ พยายามช่วยโนโซมุและมังกรแห่งความตายที่ป้องกันทางนั้นด้วยเหตุผลบางอย่าง ทันใดนั้นเสียงคำรามก็ดังก้องไปทั่ว

 

 

กระแสไฟปะทุขึ้น ควันเองก็ลอยขึ้นมา เมื่อเศษหินและอิฐที่ถูกเผาก็แตกออก ประกายไฟก็ปลิวไปท่ามกลางท้องฟ้า

 

 

ตรงกระท่อมนั้นท่ามกลางเปลวไฟที่กำลังลุกไหม้มีเงาหนึ่งลุกขึ้นยืนท่ามกลางเปลวไฟ

 

「……โน โซมุ?」

 

เสียงของไอริสก้องกังวานราวกับจะยืนยัน

 

 

แน่นอนเป็นโนโซมุที่ค่อยๆลุกขึ้นอย่างช้าๆ อย่างไรก็ตาม ตัวตนเขาดูเปลี่ยนไปอย่างมาก

 

 

เสื้อผ้าที่สวมใส่ไหม้เกรียม และมีร่องรอยบาดแผลทั่วร่างร่วมทั้งมีเลือดไหลออกจากหัว

 

 

ดาบถืออยู่ในมือขวาแกว่งไปมาท่ามกลางเปลวเพลิงที่รายล้อมอยู่

 

 

แต่เหนือสิ่งอื่นใดไอริสสงสัยบรรยากาศของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก

 

 

จิตสังหารที่ปล่อยไปไม่เลือกหน้า บรรยากาศของนักดาบที่ฆ่าทุกคนที่เข้าใกล้ และดวงตาที่ย้อมเป็นสีแดงเข้มที่แทงทะลุหัวใจของทุกคน

 

「อ๊ากกกกกกกก……」

 

ดวงตาสีแดงสดของโนโซมุจ้องไปที่ไอริสและคนอื่นๆ

 

 

จนกระทั่งไม่นานมานี้บรรยากาศที่บ่งบอกว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหน ตอนนี้ไม่เหลืออีกต่อไป แววตานั่นเร่าร้อนพร้อมจะทำลายทุกสิ่ง

 

「กูวววววววววววววววว……」

 

มังกรหันไปหาโนโซมุ

 

 

บางทีมันเลิกสนใจไอริสแล้วและจ้องมองไปที่โนโซมุ

 

 

โนโซมุและมังกรแห่งความตายเผชิญหน้ากัน

 

 

เมื่อประกายไฟระยิบระยับและเปลวเพลิงอันร้อนระอุ ไอริสและคนอื่นๆก็จ้องมองกัน

 

 

สิ่งที่เขาเห็นคือโนโซมุที่ยืนอยู่ในทะเลเพลิง

 

 

วังวนและจิตสังหารของลมที่พัดกระจายไปทั่วทั้งร่างกาย ดวงตาสีแดงเข้มเป็นประกายเจิดจ้าและแววตาที่จ้องมองนั้นทำให้อีกฝ่ายต้องตื่นกลัว

 

「นั่นมันอะไรน่ะ? มีอะไรผิดปกติกับโนโซมุกันแน่……」

 

เสียงของมาร์มลายหายไปแผดเผาทั่วพื้นที่

 

 

เกิดอะไรขึ้นกันแน่

 

 

นั่นคือสิ่งที่ทุกคนรู้สึก

 

「กร๊าซซซซซซซซซซ……」

 

ร่างของซีน่าที่อยู่ถัดจากไอริสก็ทรุดลงทันที

 

 

ไอริสซึ่งอยู่ข้างๆเธอคอยพยุงร่างของเธอเอาไว้ แต่รูปลักษณ์ของซีน่าผิดปกติอย่างชัดเจน

 

 

ผิวของเธอขาวซีดราวกับคนตาย ดวงตากลวงและหมดสติไปแล้ว

 

「ซีน่าา! เป็นอะไรไป……」

 

ไอริสที่เห็นซีน่าทรุดลงไปก็เรียกเธอและพยายามเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ

 

 

ภายใต้สายตาของเธอมีแต่ความฟุ้งซ่าน

 

「โนโซมุ……」

 

ซีน่าตกใจกับพลังของโนโซมุและตอนนี้อาการเธอหนักกว่าเดิม โนโซมุเริ่มมีบรรยากาศแปลกๆต่อหน้าเขา เป็นการมีอยู่ของ “เจตจำนงอื่นที่ไม่ใช่ตัวเขา” ที่โนโซมุบอก

 

「ไม่มีทาง……」

 

สิ่งต่างๆที่เคลื่อนไหวไปเชื่อมต่อกันในหัวของไอริส

 

 

ปากของมังกรแห่งความตายเปิดออกและแสงสีแดงก็ปล่อยออกมา

 

 

「กร๊าซซซซซ!」

 

มังกรแห่งความตายคำรามออกมา มันปลดปล่อยลมหายใจไปทางโนโซมุ

 

「ย๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกห์!!」

 

โนโซมุกรีดร้องออกมา โนโซมุปลดปล่อยพลังงานทั้งหมดที่มีออกไป

 

 

วินาทีถัดมาเท้าของเขาเหยียบพื้นดินและจ้องมองมังกรที่อยู่ข้างหน้าเขาด้วยดวงตาสีแดงเพลิง โนโซมุวิ่งด้วยล้มลุกคุกคลานไปด้วยประกายไฟที่ลุกโชน

 

 

โนโซมุที่วิ่งด้วยความเร็วหลังจากเปิดใช้ ก้าวพริบตา-ดาบเริงระบำ- ทันทีที่เปลี่ยนทิศทางของเขา เลียบพื้นไป วิ่งผ่านด้านข้างของมังกรและแทงลงไปที่ตัวของมัน

 

「โอวววววววววววววววววววว!」

 

โนโซมุเดินลัดเลาะไปทั่วๆร่างของมังกร ขณะที่ใส่พลังคิลงไปบนมีด

 

 

โนโซมุซึ่งเข้ามาใกล้พื้นที่โจมตีของตัวเอง ล้อมรอบด้านข้างของมังกรและฟันมันตามที่เป็นอยู่และฟาดฟันไปทั่วร่างของมังกร

 

 

ใบมีดที่อัดคิแน่นจนถึงขีดสุด เจาะลึกเข้าไปในเท้าขวาของมังกรแห่งความตาย และในขณะเดียวกันก็ใช้เทคนิค คิ “ปัดฝุ่น” ใบมีดจำนวนมากมหาศาลขูดกล้ามเนื้อเท้าขวาของมังกรแห่งความตายและบดขยี้เป็นเสี่ยงๆ

 

「ก๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซ!」

 

มังกรแห่งความตายล้มลงเพราะกล้ามเนื้อเท้าถูกตัดออกไปจนเกือบหมด

 

 

โนโซมุย่องเข้าไปใต้ท้องของมังกรแห่งความตายพยายามฟันผ่านหน้าท้องอันอ่อนนุ่มของมัน

 

 

“ปัดฝุ่น”ที่ใช้ถูกกระตุ้นอีกครั้งและฟันเข้าไปร่างของมังกรจนอวัยวะภายในฉีกขาด

 

「ก๊าซซซซซซซซซซซซซ!!」

 

เสียงกรีดร้องของมังกรดังขึ้นมา

 

 

อวัยวะภายในที่หลุดออกมามีกลิ่นเน่าเหม็น

 

 

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะมีอวัยวะภายในหลุดออกมามันก็ยกหางขึ้นสูงแล้วส่ายหางไปทางโนโซมุที่พุ่งไปอีกฝั่ง

 

 

หางของมังกรแห่งความตายแหวกลมเหมือนกับแส้

 

 

โนโซมุหันร่างและฟันดาบไปหางขนาดใหญ่ที่เข้าใกล้จากด้านข้าง

 

 

โนโซมุฟันใบมีดลงไปอีกครั้งและอัดคิจนแน่นจากนั้นก็ฟันลงที่หางของมัน

 

 

มังกรที่โดดเด่นที่สุดในหมู่สัตว์อสูร

 

 

การดำรงอยู่ของสัตว์อสูรที่มีพลังมากพอจะทำลายป้อมปราการ หางของมันที่สามารถทำลายบ้านเรือนได้เพียงการตะวัดเพียงครั้งเดียว

 

 

เกล็ดมังกรที่เป็นเหมือนกำแพงเหล็กและหางขนาดใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยกล้ามเนื้ออันแข็งแกร่งซึ่งรับการโจมตีรุนแรงได้

 

 

การโจมตีที่เป็นไปไม่ได้ของมนุษย์เพียงคนเดียวที่จะทำบาดแผลให้ศัตรู

 

 

อย่างไรก็ตามโนโซมุตัดหางของมังกรที่ถูกฟันจนขาดสะบั้น

 

 

หางขนาดมหึมาแหลกเป็นชิ้นๆ และลอยไปในอากาศ

 

 

ดาบของโนโซมุที่ใช้ “แฟนท่อม -ชั่วพริบตา-” ฟันเกล็ดหนาๆของมังกรเหมือนกระดาษและการฟันนั่นยืดหยุ่นและตัดผ่านกระดูกได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

 

 

โนโซมุฟัดดาบของเขาและพุ่งต่อไปโดยไม่ปล่อยให้เสียเวลา

 

 

เขาเปิดใช้งานก้าวพริบตาอีกครั้งและขึ้นไปอยู่บนร่างของมังกร

 

 

ขณะที่เขาฟันขาหลังซ้ายของมังกร วิ่งเข้าไปใต้ท้องอีกครั้งและฉีกกระชากเท้าขวาออกไป

 

 

มังกรแห่งความตายที่เสียเท้าขวาไป อย่างไรก็ตามมันพยายามรักษาสมดุลด้วยขาหน้าขวาและขาหลังที่เหลือ

 

 

อย่างไรก็ตาม โนโซมุถอยกลับด้วย “ก้าวพริบตา-โค้งกลับ-”ตามที่เป็นอยู่ขณะวิ่งผ่านดวงตาของมังกรแห่งความตาย ขาหน้าซ้ายที่รับน้ำหนักไม่ไหวก็ลอยไป

 

 

มังกรแห่งความตายที่สูญเสียเท้าข้างหนึ่งไปกำลังเสียปลายเท้าอีกข้าง มีรูปร่างผิดแปลกอย่างมาก

 

 

อย่างไรก็ตาม โนโซมุยังไม่หยุด

 

 

นอกจากนี้เขายังกระโดดไปทางขาหน้าซ้ายของมัน ซึ่งล้มไปแล้วและเหวี่ยงดาบของเขาขณะวิ่งขึ้นไปบนร่างของมันราวกับกระโดดขึ้นไป

 

 

เทคนิค “ปัดฝุ่น”ถูกใช้ออกอีกสองสามครั้งขูดเนื้อและเลือดจนกระจายเหมือนสายฝน

 

 

 

「……นะ โนโซมุ」

 

ไอริสและเหล่าเพื่อนๆต่างจ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้าง

 

 

ต่อหน้าเธอ ร่างของโนโซมุที่กำลังฆ่ามังกรอยู่ฝ่ายเดียว ซึ่งเป็นสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุด มันเป็นภาพที่น่าเหลือเชื่อ

 

 

โนโซมุสะบัดเลือดและเนื้อของมันออกจนปลิวไปรอบๆ

 

「……นี่มัน……สิ่งนั้นมัน……」

 

เมื่อมาถึงจุดนั้นก็เข้าใจได้ถึงความวิตกกังวลที่โนโซมุมี

 

 

มังกรแห่งความตายที่ถูกโนโซมุฉีกกระชากเป็นชิ้นๆ ในแง่ของความจริงโนโซมุควรจะเป็นฝ่ายโดนขยี้

 

“พลังของเทียแมทในตัวผม หากถูกพลังนี้กลืนกิน ตัวผมอาจจะฆ่าทุกคนด้วยมือของตัวเอง……”

 

「อาาา!!」

 

คำพูดของโนโซมุลอยขึ้นมา ไอริสกัดลิ้นของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ มือที่อุ้มซีน่าไว้ก็แข็งขึ้น และนิ้วสีขาวของเธอ ก็เริ่มกลายเป็นสีแดง

 

“……ผมกังวลและไม่สบายใจมากๆ……”

 

โนโซมุสารภาพถึงความแข็งแกร่งของตัวเองในขณะที่ทำใบหน้าบิดเบี้ยว และหงุดหงิดใจ ในเวลานั้น ฉันคิดว่าจะสามารถเริ่มต้นใหม่กับเขาได้แล้ว และดีใจมากที่ได้พบเขาอีกครั้ง

 

 

อย่างไรก็ตาม โนโซมุยังกวัดแกว่งดาบต่อไปในทะเลสีเลือด

 

 

ภาพที่ไอริสและคนอื่นๆเห็นต่างเป็นความเจ็บปวด

 

โนโซมุยังคงแกว่งดาบต่อไปขณะที่ไอริสและเพื่อนๆยังคงเจ็บปวด

 

 

โนโซมุซึ่งแกะสลักร่างของมังกรวิ่งขึ้นไปที่คอของมันและเมื่อมาถึงหัว เขาก็ฟาดฝักไปที่สมองของมันและเก็บดาบไว้ในฝัก

 

 

คลื่นกระแทกทำลายล้างจากเทคนิค “ปืนใหญ่” ทำลายสมองของมังกรแห่งความตายและเป่าหัวไปครึ่งหนึ่ง

 

 

ขณะที่มันกำลังโซเซ โนโซมุกระโดดลงพื้น อย่างไรก็ตามมังกรแห่งความตายจับจ้องไปที่โนโซมุ

 

「กีก้าซซซซซซซซซซซ ก๊าซซซซซซซซซ!!」

 

ปากของมังกรกลายเป็นสีแดง แม้ว่าจะกรีดร้องไม่ได้แล้วก็ตาย

 

 

ลมหายใจสีแดงที่ถูกปล่อยออกมา

 

 

ระเบิดทั้งร่างที่ทุ่มเทชีวิตที่เหลืออยู่เปลวไฟแห่งนรกหลอมละลายแม้กระทั่งเหล็กโจมตีใส่โนโซมุ

 

「โอวววววววววววววววววววววว!!」

 

อย่างไรก็ตามโนโซมุไม่ได้หลีกเลี่ยงเปลวไฟนั่น

 

 

ขณะที่ฟาดดาบที่อยู่ในฝักเต็มกำลังเขาสูดลมหายใจเข้าไปเต็มที่

 

 

หลังจากนั้นก็ชักดาบออกมา

 

 

คมดาบแห่งคิที่ถูกปลดปล่อยออกไป “แฟนท่อม” ตัดลมหายใจของมังกรและเปิดเส้นทางเป็นทางตรงและโนโซมุก็พุ่งเข้าไป

 

 

โนโซมุย่นระยะเข้าหามันในทันที

 

「ย๊ากกกกกกกกกกกกกกกกห์!」

 

ใบมีดสีขาวที่ถูกฟันกลับมา คมดาบที่เปล่งประกายที่เต็มไปด้วยคิเข้าไปในปากของมังกร

 

 

คิ“แฟนท่อม-หวนคืน-”

 

 

ดาบแสงแวววาบเหนือกรามของมังกร

 

 

ร่างของมังกรพังทลายลงมา ในไม่ช้ามันก็หยุดเคลื่อนไหว

 

「…………」

 

โนโซมุชำเลืองมองดูซากศพของมังกรที่กำลังนอนอยู่และจ้องไปที่ไอริสและคนอื่นๆ

 

 

การจ้องมองนั่นแทงทะลุจิตใจพวกเขา

 

 

เขาไม่ได้มุ่งเป้าไปที่เพื่อน มันเป็นแววตาที่เฉียบคมและเป็นนักดาบอย่างแท้จริง ราวกับว่ากำลังเล็งหาศัตรู

 

「อาาา! โนโซมุ!!」

 

เสียงอันแสนเจ็บปวดของไอริสดังก้องไปทั่วป่า

 

 

คำทำนายที่แย่ที่สุดที่คิดไว้ในใจ และเสียงเศร้าๆของฉันที่ไม่อยากยอมรับมัน

 

 

อย่างไรก็ตามความปรารถนาของฉันคงพังทลายไป และเขาก็ก้าวเข้ามาสวมจิตวิญญาณแห่งความอาฆาตที่จะตราตรึงกระดูกสันหลังของทุกคนเอาไว้

 

 

 

 

◇◆◇

 

 

แสงสลัวส่องประกายในป่าที่มืดมิด ราวกับเกาะร้างในมหาสมุทร

 

 

มีคนสวมหมวกคลุมหน้าขณะที่ต้นไม้รอบๆปกคลุม

 

「เริ่มแล้วยังงั้นเหรอ……」

 

บุคคลนั้นพึมพำด้วยน้ำเสียงเล็กๆ ที่แม้แต่แมลงยังไม่ได้ยิน

 

 

โฟโตสเฟียร์ทรงกลมลอยอยู่ตรงหน้าของคนๆนั้น

 

 

ในมุมมองนั่น มีมนุษย์และมังกรกำลังสู้กัน

 

 

เด็กชายถือดาบและฟันมังกรที่อยู่ข้างหน้าด้วยดวงตาสีแดงก่ำ

 

 

เด็กชายคนนั้นเผชิญหน้ากับมังกรแห่งความตายซึ่งเป็นหนึ่งในสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุด

 

 

แม้ว่ามันจะถูกทำลาย แต่มันก็ได้รับการรักษาและลมหายใจที่แผดเผาทุกคนได้

 

 

ถ้าคิดตามปกติเด็กชายนั่นไม่มีทางชนะ

 

 

อย่างไรก็ตาม มันคือฝ่ายมังกร ไม่ใช่ฝ่ายเด็กชาย

 

 

ภาพที่ฉายอยู่บนหลอดไฟที่ลอยอยู่ในอากาศ เป็นเด็กชายที่วิ่งวนไปรอบๆและทุกครั้งที่เขาฟาดฟันดาบ ร่างกายขนาดใหญ่ก็ขาดสะบั้น

 

 

มังกรกลายเป็นซากศพ อย่างไรก็ตามดวงตานั่นจ้องมองเด็กชายอีกครั้ง

 

 

ความหยิ่งทะนงของมังกร ความกลัวต่อสัตว์อสูรรูปร่างมนุษย์ตัวนี้

 

 

ไม่ว่าในกรณีใดมันก็ไม่ยอมตายง่ายๆ

 

 

มันพ่นลมหายใจครั้งสุดท้าย

 

 

อย่างไรก็ตาม การโจมตีครั้งสุดท้ายของซากศพมังกรถูกดาบของเด็กชายฉีกขาด

 

 

เขาจ้องมองโดยไม่แสดงความประหลาดใจใดๆ

 

 

แนวสายตาที่จ้องมองโนโซมุจากโฟโตสเฟียร์ ดวงตาของเขายังแดงก่ำ และรู้สึกหนาวสั่นแม้จะมองผ่านสิ่งนี้ก็ตาม

 

「แต่ว่าต่อจากนี้ไปต่างหาก……」

 

เขาคนนั้นสั่นแขนพร้อมกับหัวเราะ จากนั้นก็เกิดประกายแสงนับไม่ถ้วนที่ปลายเท้าเขา

 

 

วงเวทย์แผ่กระจายไปทั่วพื้นที่และผสมกันเป็นหลายๆชั้นดูเหมือนดาวหกแฉกและมันค่อยๆใหญ่ขึ้น

 

 

ที่ใจกลางวงเวทย์ซึ่งซับซ้อนมีชายคนนั้นยืนอยู่คนเดียว

 

 

ด้วยดวงตาอันเบิกกว้างเขาจ้องมองไปในโฟโตสเฟียร์ข้างหน้าเขา

 

「ไว้จะไปตรวจสอบให้นะ……」

 

เสียงพึมพำละลายเข้าไปในความมืดมิดของป่า

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยนำบางส่วนมาจากนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

บทนำ

สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

เรื่องย่อ

สถาบันโซลมินาติ สถานที่ๆคนหนุ่มสาวจากทั่วทุกดินแดนจะมารวมตัวกันเพื่อต่อยอดความฝันและความหวังของตัวเอง ความทะเยอทะยาน สำหรับคนที่ไม่มีอะไรดีสักด้านนั้นจะถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามถูกปฏิบัติแบบไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมโดยสมบูรณ์

เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่ชั้นอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ข้า โนโซมุ เบลาตี้ ซึ่งอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนในช่วงพักกลางวัน

ข้ามาที่นี่เมื่อสองปีก่อน ออกมาจากบ้านเกิดกับเพื่อนสมัยเด็กสองคนเพื่อมายังที่แห่งนี้

คนแรกคือ เคน โนทิส เป็นเพื่อนที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ ลิซ่า เฮาวน์

สาวสวยผู้มีผมหางม้าสีแดง

เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตและเป็นคนรักของข้า

เธอเป็นคนที่เอาชนะคนอื่นได้เสมอ เธอเป็นเหมือนดั่งตัวร้ายที่คอยต่อต้านกับหัวหน้าหมู่บ้าน

ข้าพบกับเธอก็เมื่อตอนอายุ 8 ขวบ ตอนที่ข้ากำลังตกปลาในแม่น้ำใกล้หมู่บ้าน

「อะ เอ่อ อืม ว่างหรือเปล่า?」

เป็นตอนนั้นเองที่เธอเข้ามาพูดกับข้า

ผมสีแดงตัดสั้น ท่าทางที่ดูมั่นใจ ใบหน้าของข้าค่อยๆร้อนรุ่ม…ข้าตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น

พ่อแม่ของเธออาศัยอยู่ในดินแดนที่ห่างไกลออกไป แต่เมื่อพ่อของเธอเสียชีวิตระหว่างเดินทาง เธอจึงตัดสินใจที่จะตั้งถิ่นฐานที่บ้านเกิดของข้า

ตอนเธอยังเด็กมักจะเป็นเด็กที่ซุกซนและอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ข้าก็ไม่ได้รังเกียจอะไร และเธอไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ

แล้วก็เด็กที่ทำให้เธอผิดหวังมากที่สุดก็คือนายพลกาคิกับผมด้วยเหตุผลบางอย่าง

เมื่อสามปีก่อนข้าสารภาพรักกับเธอเพราะว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

รักแรกที่ข้าชอบมาตลอด

เธอตกใจมากกับการสารภาพรักที่กระทันหันของข้า แต่เธอก็ยอมรับข้าและร้องไห้ทั้งน้ำตา

ตอนนั้นเองข้าจึงตัดสินใจที่จะไปสถาบันโซลมินาติกับเธอเพื่อสนับสนุนความฝันของเธอให้เป็นจริง

มันเป็นแรงบัลดาลใจให้ข้า ความฝันของเธอที่บอกข้าตอนยังเด็ก

「ฉันน่ะอยากจะเห็นโลกที่หลากหลายเหมือนกับคุณพ่อ」

ข้ารู้ว่าเธออยากออกไปท่องโลกกว้างเพราะเธอได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นมาจากมารดาของเธอ

ตอนนั้นเองเป็นตอนที่ข้าตัดสินใจไปที่สถาบันโซลมินาติ

หากคนที่ตัวเองรักอยากทำความฝันให้เป็นจริง ข้าก็ควรจะสนับสนุน

ด้วยคำพูดเช่นนั้นข้าตัดสินใจว่าจะสนับสนุนเธอตลอดมา

เธอกอดข้าทั้งน้ำตาพร้อมกับบอกว่า「ขอบคุณนะ……ฉันดีใจจริงๆ」

ท่ามกลางการหลับกลางวันของข้าก็ได้ยินเสียงระฆังที่ส่งเสียงบอกเวลาว่าหมดเวลาพักกลางวันแล้ว

ข้าลุกขึ้นพร้อมกับบิดตัวด้วยความขี้เกียจพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังห้องเรียน

ถูกบังคับให้ไสหัวไปก็ตั้งหลายครั้ง ตัวข้าที่ไม่สามารถทำคำปฏิญาณนั่นได้

ชั้นเรียนของข้าคือ ชั้นเรียนที่สอง ระดับ 10 เป็นห้องที่ต่ำที่สุดในบรรดาชั้นเรียนที่สอง

ในหมู่พวกนั้นข้าเป็นคนที่อยู่ต่ำสุดเรียกได้ว่าเป็นพวกที่ห่วยของโครตห่วย

เมื่อข้าเข้ามาในชั้นเรียนก็โดนต้อนรับด้วยการหัวเราะเยาะเย้ยเป็นเรื่องปกติ

「ยังจะโผล่หัวมาอีกนะ ไอชั้นต่ำ」

「เมื่อไรมันจะหายๆไปสักทีวะ」

「หวังว่าจะลาออกไปไวๆน้า~」

เสียงที่ดูไร้หัวใจเหล่านั้นเสียดแทงเข้ามาในจิตใจของข้า ข้าทำได้แต่เมินต่อไปและนั่งลงบนเก้าอี้

เมื่อข้านั่งลงก็มีนักเรียนสามคนเข้ามาทางข้า

「แกจะมาทำไม ในเมื่อแกมาที่นี่มันก็ไร้ความหมายอยู่ดีไม่ใช่เหรอไงวะ ไอ้เศษเดนเอ้ย」

มาร์ที่ตัวค่อนข้างใหญ่พูดข่มขู่ข้า

「ยอมแพ้ไปสักทีเหอะวะแกไม่คิดว่ามันเสียเวลาชีวิตบ้างเหรอวะ」

「แกโดนแกล้งขนาดนี้ก็เหมาะกับแกดีนี่ เหมาะสมกับเศษสวะอย่างแก」

พวกนั้นก็ยังคงกรนด่าข้าไม่หยุด

「ช่ายๆ โดนเด็กผู้หญิงหัวแดงที่ท่าทางเหมือนเจ้าหญิงนั่นทิ้งแล้ว ไม่มีอะไรให้แกได้ฝันอีกต่อไปแล้วล่ะ」

พวกนั้นทั้งสามคนยังยืนหัวเราะและพยายามยั่วโมโหข้า ไม่มีใครคิดจะห้ามพวกมัน ในท้ายที่สุดพวกมันก็ไม่ยอมหยุดจนกระทั่งอาจารย์ประจำชั้นเข้ามาในห้อง

ใช่แล้วล่ะ ข้าถูกลิซ่าทิ้ง เธอน่ะเป็นนักเรียนห้อง 1 เลยนะ

ทันทีที่เธอทิ้งข้าไปหลังจากกล่าวลาไม่กี่คำ เธอก็ไม่เคยกลับมาพบข้าอีกเลย

ข้าไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ตั้งแต่นั้นมาเธอก็มองข้าเหมือนเศษสวะ

เป็นเพราะข้าเอาแต่สร้างปัญหายังงั้นเหรอ

ลิซ่าเป็นผู้หญิงที่ถูกขนานนามว่า “เจ้าหญิงผมแดง” เพราะหน้าตาและความสามารถ

ในทางกลับกันตัวข้าที่ไม่มีอะไรดีเด่นหน้าตาบ้านๆ

ตลอดช่วงที่ข้าคบกับเธอ เธอมักจะโดนรังควาญอยู่เสมอ บางทีการที่ข้าโดนทิ้งก็เพราะสร้างความยุ่งยากให้เธออยู่เสมอก็ได้

ข้านั้นไร้ซึ่งเพื่อนและกลายเป็นหมาหัวเน่า

ถึงกระนั้นข้าก็พยายามอยากหนักไม่ละเลยสิ่งต่างๆตามหน้าที่ของตน

สักวันหนึ่งถ้าข้าสามารถรักษาคำสาบานที่ให้ไว้ได้ละก็……….ข้าคิดเช่นนั้น

ในขณะเดียวกันนั้นเองเธอก็ไปคบกับเพื่อนสมัยเด็กที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

เธอดูมีความสุขราวกับเธอรักเขาจริงๆ

ในการฝึกซ้อมเป็นคู่พวกเธอสองคนเข้าขากันได้ดีมาก ข้าไม่มีที่ยืนเคียงข้าเธอเลย

ชั่วโมงที่สอง ในช่วงบ่าย

「เฮ้ออ!」

ด้านข้างของดาบจำลองนั่นถูกขว้างมาจากเครื่องยิงดาบจำลอง

เมื่อดาบจำลองที่ถูกยิงมาถูกปากลับไปและแทงเข้าไปที่คอของตุ๊กตา กลไกนั่นก็จะหยุดทำงานลง

หลังจากคาบบรรยายนี่ก็เป็นภาคฝึกปฏิบัติ

นอกจากสนามฝึกซ้อมแล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น สนามทดลองเวทมนตร์ในสถาบันแห่งนี้และนักเรียนที่สามารถศึกษาเรียนรู้ความสามารถของตนตามสถานที่ต่างๆ

สนามฝึกถูกแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่เพื่อให้นักเรียกจากหลายๆชั้นมาเรียนที่เดียวกันได้

วันนี้เป็นการฝึกการต่อสู้ระหว่างบุคคลและแต่ละคนก็จะได้ต่อสู้กับหุ่นยนต์ที่มีดาบจำลองเป็นคู่ซ้อมทำการต่อสู้แบบอิสระ โดยใส่พลังเวทย์เข้าไปเพื่อให้หุ่นยนต์นั้นทำงาน

อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์สำหรับพวกห้อง 10 นั้นมีคุณภาพแย่และเคลื่อนไหวได้แค่บางส่วน

「อืม ต่อไปจะเป็นการต่อสู้เป็นคู่ เลือกคู่หูได้ตามใจชอบ~」

เมื่ออาจารย์อันริ วาร์ อาจารย์ประจำชั้นของพวกห้อง 10 เรียกออกมา หุ่นยนต์ก็หยุดทำงาน ดังนั้นทุกๆคนก็หยุดและรอการจับคู่

อาจารย์อันริมีผมหยักสีน้ำตาล ดวงตาที่ดูสมวัยและใบหน้าที่ออกไปทางดูดีอย่างมาก

อย่างไรก็ตามอาจารย์คนนี้เป็นบุคคลที่ไม่เหมาะกับโรงเรียนแห่งคุณธรรมแห่งนี้เลยเพราะเขาชอบพูดและทำท่าทางแปลกๆราวกับคนบ้า

เรียกได้ว่าคนที่รับผิดชอบนักเรียนห้อง 10 ถูกโยนมาแบบทิ้งขว้างเลยก็ได้

อย่างไรก็ตามการที่เขาสามารถมาเป็นอาจารย์ได้ก็คงมีความสามารถพอตัว

ในที่สุดการจับคู่ก็ถูกตัดสินและแต่ละฝ่ายต่างเริ่มจำลองการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ของตัวเอง แต่ว่าคู่ต่อสู้ของข้าดันเป็น……。

「เอ่อ สำหรับแกแล้ว น่าเสียดายหน่อยนะ」

เป็นมาร์นั่นเองที่กรนด่าข้าเมื่อตอนบ่าย

「มาเริ่มกันเลยดีกว่า เพราะว่าเศษสวะอย่างแกจะทำให้ชั้นเสียเวลา」

มาร์ดึงดาบใหญ่ออกมาจากด้านหลัง

มาร์เป็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมา ความสามารถของเขานั่นของจริง ถึงอย่างนั้นก็ยังได้มาอยู่ในห้องห้อง 10 เช่นนี้เพราะชื่อเสียงแย่ๆนั่นละ

ผมเองก็ดึงดาบจำลองออกมาด้วยเช่นกัน

อาวุธของข้าเป็นดาบที่มาจากทางเกาะตะวันออก เรียกกันว่าคาตานะ เป็นดาบที่มีความคมเป็นอย่างมาก กล่าวได้ว่ามันสามารถตัดทุกอย่าไงได้หากใช้ได้อย่างชำนาญ

ยังไงก็ตาม มันใช้เทคนิตชั้นสูงและความหายากของมันเลยไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนัก

มันเป็นอาวุธที่เหมาะกับข้าที่สุด สำหรับข้าที่ไร้ซึ่งพลัง

「ถ้าอย่างงั้นละก็ เริ่มได้~~~」

การต่อสู้นั่นเต็มไปด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยจากท่าทางของอาจารย์อันริ

「โฮ่ย่าาาาาาาาาาาห์」

มาร์เหวี่ยงดาบใหญ่พร้อมตะโกนก้อง

ผมป้องกันการโจมตีด้วยคาตานะ

ดาบของมาร์ถูกเบี่ยงวิธีและมันก็ฟาดลงทีพื้น

「ฮ่าๆ!」

ก้าวเข้าไปหลังจากมาร์เปิดช่องว่างเล็งไปที่ต้นคอและพยายามจะเอาสันดาบทุบ

「สายไปละโว้ย!」

มาร์เอาถุงมือที่แขนปกป้องดาบของผมไว้ ดาบเลียนแบบที่ไม่มีความคมของดาบดั้งเดิมเหลืออยู่ก็ถูกป้องกันด้วยถุงมือนั่น

มาร์รุดหน้าเข้ามาพร้อมกับยกถุงมือขึ้นป้องกันการโจมตี แต่ข้าก็ก้มลงเพื่อหลบการโจมตี

ข้าพยายามจะโจมตีไปอีกรอบ แต่มาร์นั้นเหวี่ยงดาบใหญ่มาด้วยมือข้างเดียว

ข้าถูกบังคับให้ถอยและกลับไปตั้งหลักใหม่

มาร์ที่ฟาดดาบใหญ่จนพื้นแตกกระจายพยายามมองระหว่างข้าและดาบใหญ่ของมันเอง……。

「อยากโดนหั่นเป็นชิ้นๆเหรอไงวะ」

มาร์พูดเช่นนั้นพร้อมกับรังสีกดดันที่เพิ่มมากขึ้น

“คิ”

เป็นสกิลของทางฝั่งตะวันออกที่จะเพิ่มพลังให้แก่ผู้ใช้งานให้เหนือขีดจำกัดยิ่งขึ้นไป

มาร์พุ่งเข้ามาในคราวเดียว ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นั่นละคือผลลัพธ์จากการใช้ คิ

ราวกับจะจับเหยื่อตรงหน้าฟาดดาบใหญ่นั่นลงมาในทีเดียว

ข้าเองก็ใช้ “คิ”เช่นกันเพื่อหลบการโจมตีของดาบใหญ่นั่น เสียงของเหล็กดังกระทบกันสนั่นหู

「เหอะ!ลังเลอยู่งั้นเหรอ」

มาร์ที่รู้สึกหงุดหงิดนั่นดูมีท่าทีลังเลจึงไม่สามารถจะตัดสินใจจบการโจมตีในทีเดียวได้

เขาดึงดาบใหญ่ที่จมลงไปบนพื้นและเริ่มที่จะฟันมันมาอีกครั้ง

เขาฟาดฟันดาบใหญ่ไปรอบๆด้วยเรี่ยวแรงอันมหาศาลจาก “คิ”

เสียงของเหล็กปะทะกันดังสนั่นไปทั่วบ่งบอกถึงการต่อสู้อันดุเดือด แต่ว่ามีฝ่ายเดียวที่ได้เปรียบ

การเสริมพลังกายของมาร์มีพละกำลังมากกว่าข้า แต่ผลของการเสริมพลังกายของข้าเองก็ได้ผลเพียงครึ่งเดียวด้วยความสามารถของข้า

มาร์มันเป็นคนเก่งแต่เพราะทำแต่เรื่องแย่ๆเลยได้มาอยู่ในห้อง 10

ในทางตรงกันข้ามแม้หมอนั่นจะมีความสามารถสูง แต่มาร์มันกลับพอใจที่จะกดขี่คนที่ต่ำกว่านั่นมันโครตจะแย่

เทคนิคดาบชั้นสูงของมาร์ไม่สามารถใช้จัดการกับโนโซมุตามปกติได้ แต่ว่าพลังกายของโนโซมุที่ได้รับการเสริมแบบครึ่งๆกลางๆมันก็พอเป็นไปได้

พลังที่ได้มานั่นทำให้พอฟัดพอเหวี่ยงกับดาบของโจรสลัดเท่านั้นเอง

「แหลกไปซะเหอะมึง!!」

บางทีอาจจะเป็นเพราะข้าโดนกดดันจนถูกบดขยี้ในพริบตา แต่ว่าข้าก็กันการโจมตีนั่นได้ยิ่งทำให้มาร์มันหงุดหงิดจนพละกำลังมันเพิ่มมากขึ้นไปอีก

「เหอะ คิดว่าจะบดขยี้ข้าได้ง่ายๆงั้นเหรอ!」

ข้ากัดฟันแน่นเพื่อที่จะไม่เดินไปตามเกมส์ของศัตรู

แม้ว่าพลังในการโจมตีจะเพิ่มขึ้น แต่การโจมตีของมันก็ซ้ำซากและจำเจ ทำให้รับมือได้ไม่ยากเย็น

อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถสวนกลับได้ทำได้เพียงแค่ยื้อเท่านั้น

และถ้าโต้กลับไม่ได้ผลมันก็รู้ๆกันอยู่

ในที่สุดก็มาถึงขีดจำกัด

ข้าไม่สามารถรับการโจมตีของมาร์ได้อีกต่อไป การป้องกันของข้าถูกทำลายลงและไม่มีเวลามาตั้งท่าใหม่ ตอนนั้นเองทีข้าถูกดาบใหญ่นั่นฟาดเข้ามากระแทกกับคาตานะของข้าจนกระเด็น

「จะเหนียวได้สักแค่ไหนกันเชียววะ!」

รูปร่างของข้าบิดเบี้ยวเพราะการโจมตีนั่น ข้าตัวกระเด็นจนตัวไปกระแทกกับกำแพงของสนามฝึกซ้อม

ผลกระทบนั่นทำให้ข้าหายใจติดขัดและการมองเห็นของข้าก็มืดดับลง

「เป็นแค่เศษสวะแท้ๆ แต่ยังกล้าขัดขืน โดนดีไปซะเหอะมึง」

ข้าหมดสติไปพรัอมกับคำพูดของมาร์

「โอ้ยยยย เจ็บแหะ!」

ข้าลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับสติที่พร่ามัวลุกขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดไปทั้งตัว

ข้าก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องพยาบาล

「เอ้าๆ รู้สึกตัวแล้วไม่ใช่เหรอไงเนี่ย?」

ผู้หญิงสวมชุดโค้ทสีขาวพร้อมกับใส่แว่นนั่นกำลังทำงานอยู่บนโต๊ะพยาบาล

ชื่อของเธอคือนอร์น อัลทิน่า เป็นหมอประจำโรงเรียนที่สวยเอามากๆ

เธอเดินมาทางนี้และขยับนิ้วมาตรงหน้าผมเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกาย

「อืมม ดูจากสภาพแล้วสติยังคงดีอยู่ แล้วรู้สึกปวดตรงไหนบ้างรึเปล่า?」

「ข้าปวดหลังนิดหน่อยและหัวเองก็ยังคงมึนๆ แต่ว่าไม่มีตรงไหนผิดปกติแล้วล่ะ」

「อืมมเข้าใจแล้ว ฉันทายาไปที่หลังของนายแล้วล่ะ แต่ถ้ารู้สึกเจ็บหรือปวดตรงไหนก็มาได้ตลอดเวลานะ มันจะดีกว่านะที่มาหาฉันมากกว่าที่จะทนเจ็บกับบาดแผลนั่น」


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท