พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” – ตอนที่ 85

ตอนที่ 85

บทที่6ตอนที่2

มีสาวน้อยสองคนกำลังเดินไปตามถนนเมืองอาร์คาซัมทึ่มีคนพลุกพล่าน

หนึ่งในนั้นเป็นสาวผมสีแดงเพลิง มีดาบและมีดสั้นคาดอยู่ที่เอว ส่วนอีกคนเป็นนักเวทย์ ถือไม้เท้าไว้ในมือ

พวกเธอแต่งกายด้วยเครื่องแบบสีขาวอันโดดเด่น และกำลังมุ่งหน้าไปยังสถาบันโซลมินาติที่อยู่ใจกลางเมือง

สาวน้อยผมแดงมีนามว่า ลิซ่า・เฮาวน์ ส่วนสาวน้อยที่เหมือนกับนักเวทย์นั้นชื่อว่าคามิลล่าเป็นเพื่อนสนิทของลิซ่า

ปกติเธอเป็นคนร่าเริง และมีชื่อเสียงเรื่องด้านการเข้าหาคนง่าย

การแสดงออกที่มีความมั่นใจและผมสีแดงเพลิงสดใสทำให้คนรอบๆต่างมีความประทับใจ ความกล้าหาญของเธอ แต่ตอนนี้ตัวเธอมีแต่สีหน้าที่หม่นหมอง

「เฮ้ออ……」

เธอถอนลมหายใจออกมา

ความรู้สึกแปลกๆในอกของลิซ่า มันรบกวนจิตใจเธอมาทั้งวันแล้ว

「ลิซ่า เป็นไรไหมเนี่ย? สภาพแบบนี้ดูยังไงก็แย่น่าดูเลยนะ……」

「อ่า อืม ไม่เป็นไรหรอกนะ ขอบคุณที่เป็นห่วง คามิลล่า」

คามิลล่าพูดกับลิซ่าด้วยท่าทางกังวล

เธอยังคงเป็นห่วงลิซ่าที่ท่าทางแปลกไป

คามิลล่านึกขึ้นได้ เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อสองสามสัปดาห์ก่อน ในระหว่างการฝึกพิเศษ ตอนที่พวกเธอพบเจอกับคนที่ไร้มนุษย์ธรรม โนโซมุ・เบลาตี้

บางทีหมอนั่นคงจะทำอะไรบางอย่างกับเธอ คามิลล่าคิดแบบนั้นและพุ่งเข้าหาลิซ่าด้วยท่าทางหนักแน่น

「นี่ หมอนั่นทำอะไรเธออีกรึเปล่า?」

「เอ๊ะ?」

「หมอนั่นไง ไอ้คนที่เห็นผู้หญิงเป็นของเล่น กล้าทรยศตัวเธอน่ะ ตั้งแต่พบกันที่การฝึกพิเศษ สภาพของเธอก็เปลี่ยนไป…ลิซ่า หรือว่าหมอนั่น!」

「เอ่อ อืม ไม่ใช่แบบนั้นหรอกนะ เมื่อวานฉันก็แค่นอนไม่หลับ ขอโทษนะที่ทำให้เป็นห่วง……」

ลิซ่าและคามิลล่า นึกถึงการพบกันอันแสนเลวร้ายของพวกเธอกับเขาที่สถาบันโซลมินาติแห่งนี้

นักเรียนที่มาเรียนในสถาบันโซลมินาติส่วนใหญ่เป็นเด็กจากนอกเมือง

สภาพของคนหนุ่มสาวจะเปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อได้เข้าเรียนในสถาบันแห่งนี้ ก็ยังคงหวังไว้อยู่หรอก แต่ว่าก็มีความกังวลเช่นกัน

ผู้ที่เริ่มใช้ชีวิตในโรงเรียนและเริ่มหาเพื่อนฝูงยังคงพอมีเรื่องให้พูดคุยเพื่อคลายความกังวล เพราะมีคนวัยเดียวกันก็มักจะมีปัญหาคล้ายๆกันให้ปรึกษากันได้

อย่างไรก็ตามคามิลล่าไม่สามารถจะหาเพื่อนใหม่ได้เลย

ในตอนแรก เธอมีความเชื่ออย่างแรงกล้าว่าจะหาเพื่อนได้ และเธอรู้สึกประหม่ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เป็นคนที่พูดไม่ค่อยเก่ง

ลิซ่าเป็นคนเดียวที่คามิลล่าสามารถพูดคุยได้โดยไร้ซึ่งความประหม่า

ลิซ่าและคามิลล่า พวกเธอเมื่ออยู่ด้วยกันจะดูแลซึ่งกันและกัน แม้จะมีการทะเลาะกันบ้างแต่ก็เข้ากันได้ดีเลย

ทั้งสองมักจะทะเลาะกันในเรื่องต่างๆและก็ค่อยๆแก้ไปทีละเรื่อง ในตอนนั้นเองก็ได้พบกับโนโซมุ คนรักของลิซ่าและเป็นเพื่อนสมัยเด็กของลิซ่าและเคน

สำหรับคามิลล่า ลิซ่าคือเพื่อนคนแรกและเพื่อนรักในสถาบันแห่งนี้ นั่นเป็นเหตุผลที่เธอไม่สามารถให้อภัยคนทรยศแบบนั้นได้

เพราะอะไรกันนะหมอนั่นถึงได้ทรยศลิซ่า หมอนั่นคิดอะไรกันแน่? ณ ตอนนี้ทุกวันนี้เธอยังคงเจ็บปวดจากบาดแผลที่หมอนั่นสร้างเอาไว้……。

「ไม่เป็นไรหรอก อย่าคิดมากน่า อย่างแรกฉันเองก็คอยรบกวนลิซ่ามาตลอดเลยใช่ไหมละ? ดังนั้นลิซ่าไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ」

「……ขอบคุณนะ คามิลล่า」

ลิซ่ายิ้มออกมาอย่างโล่งใจให้กับคามิลล่าที่โบกมือราวกับบอกว่าอย่าใส่ใจ

「และก็อย่าหลับระหว่างคาบเรียนของอาจารย์อินด้าละ ถ้าเกิดหลับขึ้นมาจะแกล้งทำเป็นไม่เห็นเลยคอยดู」

「เดะ เดี๋ยวสิ! นี่เธอห่วงฉันจริงปะเนี่ย!?」

“ตอนนี้เธอรู้สึกไม่สบายนิดหน่อย” ลิซ่าคิดว่าโอเคที่จะช่วยเธอสักหน่อย แต่ผู้หญิงตรงหน้านี่ดูเหมือนจะไร้ความปราณีเลยนะ。

「ก็แบบว่าดูเอาการเอางานมากเกินไปละมั้ง? และก็ไม่รู้ทำไมกันน้อพวกผู้ชายถึงได้หลงกันหัวปักหัวปำ~」

อาจารย์คนนั้นเป็นคนจริงจังและมักจะไม่สบอารมณ์กับคนที่ไม่ตั้งใจเรียน

และเธอก็มักจะบอกว่า “เธอจะเรียนได้ยังไง หากสภาพร่างกายไม่พร้อมแบบนี้?”

หน้าตาของเธอจัดได้ว่าเป็นคนสวย และจากมุมมองของผ.อ.อย่างจิฮัดแล้วเธอเป็นคนที่เอางานเอาการสุดๆ อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้ชายคนไหนกล้าเข้าใกล้เธอมากนักเพราะไม่ค่อยเปิดช่องว่างเลย

「แล้วแบบนี้อาจารย์อินด้าจะหาแฟนได้ไหมเนี่ย? ช่างเถอะยังไงก็เรื่องของเขา เราไม่เกี่ยว~! แต่ว่าแบบนั้นก็ดูเหมือนแก้ตัวปะที่หาผู้ชายไม่ได้……」

「แล้ว……」

ลิซ่ายิ้มขมขื่นเพราะท่าทางของเพื่อนสนิทคนนี้

ทั้งสองยังคงเดินต่อไปที่สถาบัน พร้อมกับหัวเราะคิกคัก

ฉันพยายามอย่างมากที่จะโยนความรู้สึกเหล่านี้ออกไป และพยายามไม่คิดถึงเขา

◇◆◇

โซเมียกำลังมุ่งหน้าไปยังสถาบันอีคอร์สผ่านทางสวนสาธารณะกลาง พวกโนโซมุและมาร์เองก็แยกทางกับพวกไอริสและซีน่าที่หน้าประตูหลัก กำลังเดินไปที่ห้องเรียนห้อง 10 แต่หลังจากเข้ามาในสถาบัน พวกเขาก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศแปลกๆ

「……นี่ โนโซมุ แกคิดว่าบรรยากาศในสถาบันมันแปลกไปปะ?」

「อา ทั้งสถาบันเลยล่ะ แทนที่จะเป็นแค่พื้นที่ของพวกปี 3 เท่านั้น แต่ดูเหมือนมันจะเป็นไปทั้งสถาบันเลย อะไรกันละเนี่ย?」

บรรยากาศที่ชวนกดดันนี่มันอะไรกัน นักเรียนทุกคนที่สอบผ่านต่างจ้องมองพวกโนโซมุและมาร์

จนถึงตอนนี้ อย่างน้อยก็เคยถูกแววตาแห่งความเกลียดชังพุ่งเข้าใส่จนเป็นเรื่องปกติและมักจะโดนรังสีอาฆาตอยู่บ่อยๆ แต่ถึงแม้จะมีมาร์อยู่ข้างๆตอนนี้ ก็รู้สึกได้ว่ามันไม่ใช่บรรยากาศแบบนั้น

โนโซมุและมาร์เข้ามาในห้องเรียนห้อง 10 และเปิดประตู เอนเอียงมาสภาพรอบๆตัว

ในห้องเรียนเพื่อนร่วมชั้นต่างก็ใช้ช่วงเวลาพูดคุยกับเพื่อนๆตามปกติ

อย่างไรก็ตามเมื่อโนโซมุเข้ามาในห้องสายตาของเหล่านักเรียนก็พุ่งเข้ามาที่เขาโดยทันที

ความสงสัย ความอับอาย ความรู้สึกไม่ไว้วางใจ ความอยากรู้ โนโซมุถูกจ้องมองด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย

「เอ๊ะ?」

โนโซมุตกใจเล็กน้อยกับสายตาเหล่านั้นที่จับจ้องมาที่เขา

ในตอนนี้โนโซมุกำลังเดินไปที่โต๊ะเรียนของตัวเอง ขนสัมภาระขึ้นไปและมองรอบๆตัว

เพื่อนร่วมชั้นต่างมองโนโซมุ ยามที่สบตากันพวกเขาก็เบือนหน้าหนีและทำท่ากลับไปเรียนต่อหรือเริ่มพูดกับเพื่อนๆเหมือนอย่างเคย

แต่รู้สึกว่ามีอะไรกวนใจผมหน่อยๆ ขณะพูด เพื่อนร่วมชั้นก็เหลือบมองโนโซมุ

「เกิดบ้าอะไรกันแน่เนี่ย……」

「นั่นสิ ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น……」

โนโซมุและมาร์เอนศีรษะไปทางเพื่อนร่วมชั้นที่แปลกประหลาด

จนถึงขณะนี้ สายตาที่มุ่งเป้าไปที่โนโซมุมีเพียงอารมณ์ด้านลบ เช่น การดูถูกและการเยาะเย้ยแต่ความรู้สึกเหล่านั้นไม่ได้รู้สึกมากนักในวันนี้

「นี่…ผมทำอะไรลงไปงั้นเหรอ?」

「ไม่หรอก ไม่น่าจะใช่หรอกนะ……」

โนโซมุไม่รู้ว่าทำไมสายตาเหล่านั้นถึงเปลี่ยนไปหรือเพราะมีมาร์อยู่ข้างๆรึเปล่า

โนโซมุรู้ดีว่าเพื่อนร่วมชั้นไม่เคยสนใจเขาเลยและจนกระทั่งเมื่อวันก่อน สายตามันก็ควรจะเหมือนเดิม

โนโซมุและมาร์ ต่างเอียงคอเพราะไม่เข้าใจว่าทำไมสายตาของเพื่อนร่วมชั้นถึงเปลี่ยนไป

ในขณะนั้นเองก็มีคนๆหนึ่งเรียกหาพวกเขา

「อรุณสวัสดิ์ทั้งสองคน」

「จินและก็พวกเดร็ก……」

เมื่อพวกโนโซมุหันไปทางเจ้าของเสียงก็พบกับจิน แฮมเรีย เดร็ก ทอมมี่ และ คามี่

คู่ต่อสู้ที่เคยอยู่ฝ่ายเดียวกันในการฝึกพิเศษในครั้งก่อน นับตั้งแต่การฝึกครั้งนั้นพวกเขาก็ต่างเริ่มเปิดใจกันและกัน

จินและคนอื่นๆที่เผชิญหน้ากับมังกรแห่งความตาย ไม่สามารถช่วยต่อสู้ได้ก็ได้ช่วยเหลือพวกเควินออกจากพื้นที่ตรงนั้น

ดังนั้นไม่เหมือนกับโนโซมุและคนอื่นๆ พวกเขาสามารถเข้าเรียนได้ตามปกติหลังจากจบเหตุการณ์นั้น

「โนโซมุคุง แผลเป็นยังไงบ้าง?」

「อา ไม่เป็นไรแล้วล่ะ ต้องขอบคุณอาจารย์นอร์นเลยล่ะ หายดีแล้วครับ」

「งั้นเหรอ ทางนี้เป็นห่วงแทบแย่เพราะได้ยินว่าต้องพักฟื้นถึงสองสัปดาห์ แต่เห็นกลับมาขยับตัวแบบนี้ได้ก็ดีใจด้วยนะคะ」

แฮมเรียและโนโซมุต่างถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เธอที่ได้ยินเช่นนั้นก็โล่งใจ

ดูเหมือนว่าพวกจินจะเป็นห่วง

「เอ้อ จิน ที่ห้องเรียนมีบรรยากาศแปลกๆ รู้ไหมอะว่าสาเหตุมันมาจากอะไร?」

「อ๋อ คงเป็นเพราะการฝึกพิเศษครั้งก่อนละมั้ง」

「เอ๊ะ? ฝึกพิเศษ? ……หมายความว่าไง?」

จินตอบคำถามของมาร์ แต่ว่าก็ยังเต็มไปด้วยคำถามชวนงงที่เต้นอยู่ในหัวของโนโซมุ

อย่างแรกเลย การฝึกถูกยกเลิกเพราะการปรากฏตัวของมังกรแห่งความตายอย่างกระทันหัน ตั้งแต่วันแรก การฝึกก็ยังไม่เสร็จแถมผลก็ยังไม่ออกด้วย

ยิ่งกว่านั้นผ่านไปแล้วสามสัปดาห์ตั้งแต่เหตุการณ์นั้น

เนื่องจากการฝึกพิเศษที่ได้ทำไปได้ครึ่งเดียวและระยะเวลาที่พวกเขาได้สูญเสียไปนั้น พวกโนโซมุก็คิดว่าการฝึกพิเศษคงไม่ผ่านแน่ๆ

「โฮร่า ดูนั่นสิ!」

จินชี้ไปที่มุมหนึ่งของห้องเรียน มีกระดาษขนาดใหญ่ที่เขียนไว้ว่า “ผลคะแนนการฝึกพิเศษ”

「นั่นแหละ ผลประกาศออกมาแล้วไงล่ะ! ปาร์ตี้ของพวกเราติดท็อป 10 ของชั้นปีเชียวนะ!」

โนโซมุและมาร์จ้องมองไปยังผลการฝึกพิเศษตามคำพูดของจินที่ดูตื่นเต้น

เมื่อดูรายชื่อทีมที่ติดท็อป 10 ก็มีชื่อโนโซมุเขียนไว้ด้วย

「ที่ 6 งั้นเหรอ……」

「ใช่แล้วล่ะ! ที่ 6 เชียวนะ! ผลลัพธ์นี่มันสุดยอดไปเลยล่ะ แซงหน้าห้องอื่นๆด้วย!」

เสียงตะลึงเหล่านั้นออกมาจากปากของโนโซมุด้วยผลลัพธ์อันแสนเหลือเชื่อ

เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนที่นักเรียนห้อง 10 จะติดท็อป 10 ในการฝึกพิเศษ

นอกจากนี้ยังมีเหล่านักเรียนที่ถูกกล่าวขานว่าอ่อนแออยู่ในปาร์ตี้ด้วย

ปกติแล้วการสอบเหล่านี้พวกนักเรียนชั้นล่างๆ แทบจะทำอะไรไม่ได้เลย โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเจ้าปัญหา

「……เข้าใจแล้วว่าทำไมบรรยากาศของห้องเรียนถึงแปลกตั้งแต่เช้า」

มาร์พึมพำด้วยท่าทางมั่นใจ

ด้วยชื่อเสียงและผลงานของโนโซมุ จึงไม่น่าแปลกที่เหล่านักเรียนจะไม่เชื่อผลลัพธ์เหล่านี้

นักเรียนรอบตัวยังคนเบือนหน้าหนีและแอบฟังสิ่งที่พวกเรากำลังคุยกัน

「อืม….แล้วโนโซมุจะทำยังไงต่อไปล่ะ?」

「เอ๊ะ? ทำอะไรงั้นเหรอ……」

โนโซมุมองไปรอบๆแต่เพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆที่สบตากันก็ยังจ้องอย่างไม่ลดละ

เป็นการยากที่จะเลี่ยงการถูกความเกลียดชังและการดูถูก แต่ว่าบรรยากาศเหล่านี้มันก็เต็มไปด้วยความหงุดหงิดที่อธิบายไม่ถูกและหากใจร้อนไปก็จะส่งผลเสียเช่นกัน จนไม่รู้จะโต้ตอบยังไง

「บอกตรงๆเลยว่าช่วยไม่ได้ละนะ……」

「ม่าาา นั่นสินะ」

แน่นอนว่าพวกเขาทำอะไรกับเรื่องนี้ไม่ได้

โนโซมุเองก็ไม่ได้คาดหวังถึงผลลัพธ์ดังกล่าว

เนื่องจากระหว่างการฝึกพิเศษ ปัญหามันก็ยังเกิดขึ้นระหว่างฝึกและหลังการฝึก

ตอนเช้าก็ทำคะแนนได้ค่อนข้างดี แต่ในตอนบ่ายมีการต่อสู้มากมายเช่นการต่อสู้ครั้งใหญ่กับปาร์ตี้ของพวกระดับท็อปๆและถูกมังกรแห่งความตายเข้าโจมตี ดังนั้นเลยไม่ค่อยกังวลเกี่ยวกับผลการสอบเท่าไรนัก

ยิ่งไปกว่านั้น แม้หลังจากการฝึกพิเศษ เขาก็ประสบปัญหาต่างๆมากมาย ติดต่อกันนับไม่ถ้วน และได้รับบาดเจ็บสาหัสจนนอนซมไปสองสัปดาห์ติด

ด้วยเหตุผลดังกล่าว ตัวเขาเองก็ไม่คิดว่าผลการฝึกพิเศษจะทำให้บรรยากาศในห้องเรียนเปลี่ยนแปลงไป

「บางคนคงทำใจเชื่อไม่ลงละนะ……」

เมื่อคนที่ด้อยกว่าตัวเองได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเกินคาด ทำให้บางคนเกิดความอิจฉา

แน่นอนบางคนก็แสดงความยินดี แต่ชื่อเสียงของโนโซมุมันตกต่ำและแย่มากจนทำให้ความประทับใจเหล่านั้นแปรเปลี่ยนเป็นความสงสัยจนหมดความน่าเชื่อถือ

อันที่จริงเพื่อนร่วมชั้นของผมมากกว่าครึ่งสงสัยเกี่ยวกับตัวผมอยู่แล้ว บางคนก็ยังทำตัวเป็นปรปักษ์

「……ช่วยไม่ได้ละนะ」

เขารู้สึกเศร้าเล็กน้อย แต่โนโซมุก็ได้แต่บ่นอุบออกมา

ก็นะชื่อเสียงแย่ๆมันจะเปลี่ยนแปลงง่ายๆได้ยังไงกันล่ะ

เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าเราเป็นเวลานาน ในไม่ช้าคนเหล่านั้นก็ไม่ได้ตระหนักดี จนเป็นเหมือนมันกลายเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป

และเมื่อความเชื่อมั่นเหล่านั้นมันเอนเอียง ผู้คนก็จะคิดว่ามันมาถึงจุดที่ตกอับจริงๆ

พฤติกรรมของมนุษย์ในการเผชิญกับสถานการณ์ดังกล่าวมักจะแตกต่างกันไป

จะกู่ร้องออกมาด้วยความกังวล แสวงหาหนทางการเป็นที่หนึ่ง หรือหลับตาเพื่อหนีความจริงตรงหน้า เช่นเดียวกับโนโซมุในอดีต

นั่นเป็นเหตุผลที่โนโซมุ ไม่หงุดหงิดหรือรำคาญพวกเขาแต่อย่างใดเพราะสิ่งเหล่านั้นมันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ ตัวเขาเองก็ฆ่าเหล่าไซคลอปส์ ด้วยเหตุผลที่ว่าเพราะถูกเพื่อนรักหักหลัง

อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ไม่ได้รับการยอมรับจากผู้คนรอบข้าง ตราบใดที่ผมยังหนีจากการทำปฏิสัมพันธ์กับผู้คน และมัวแต่ทำตัวอิสระเหมือนอยู่คนเดียว สถานการณ์จะไม่เปลี่ยนไป

「โนโซมุ……」

「ไม่เป็นไรหรอกน่า มันช่วยไม่ได้ อย่าคิดมากน่า」

ขณะที่จับตาดูความกังวลของมาร์และจิน โนโซมุก็ปลอบพวกเขาและบอกว่าไม่เป็นไร

ถึงจะน่าเศร้าแต่ก็มีคนอย่างจินที่เชื่อมั่นในตัวเขาอยู่

นั่นเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้จิตใจของโนโซมุเริ่มเปล่งประกาย

「นอกจากนี้ โฮมรูมตอนเช้าจะเริ่มแล้ว」

ขณะที่พูดเช่นนั้นเอง โนโซมุก็หันไปมองที่ทางเข้าห้องเรียน เมื่อมาร์และเพื่อนๆหันไปมองก็พบว่าประตูถูกเปิดออกอย่างแรง

「ทุกโคนนนนนนน~、อรุณสวัสดิ์จ้าาาาา~~。ยังไงก็วันนี้พยายามให้เต็มที่น้า~~!」

อาจารย์อันริเข้ามาในห้องเรียน

บางทีเธอเองก็รู้สึกร่าเริงตามปกติแล้ว บรรยากาศในห้องเรียนก็กลับมาสดชื่นทันที

ก็อย่างที่เห็นโนโซมุและมาร์ต่างหัวเราะออกมา และกลับไปนั่งที่

ไม่มีอารมณ์ใดเป็นพิเศษแสดงออกทางสีหน้า และไม่จำเป็นต้องแสร้งทำตัวว่าไม่เป็นไรเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป

ในที่สุดพวกเขาก็ได้ผ่อนคลาย เพราะโนโซมุกลับมาร่าเริงตามปกติ

มาร์พยักหน้าด้วยท่าทางอันพึงพอใจ อันริเองก็ยังคงร่าเริงตามปกติ และจินกับเพื่อนๆ ก็กลับมานั่งที่ด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ

ขณะเฝ้าดูพวกเขา โนโซมุก็กลับมานั่งที่ของเขาและมีรอยยิ้มเล็กน้อยปรากฏที่มุมปาก

◇◆◇

หลังจากโฮมรูมคาบเช้า ชั้นเรียนตอนเช้าก็เริ่มต้นขึ้น แต่ชั้นเรียนในตอนเช้าก็คือการฝึกต่อสู้ที่สนามฝึกนั่นเอง

ในชั้นเรียนปี 3 หลังจากการฝึกเป็นคู่ๆในตอนแรก จะเริ่มฝึกรับมือตามสถานการณ์ต่างๆที่สมมติขึ้น

โนโซมุที่มีเพื่อนไม่กี่คน เพิ่งได้พบกับมาร์ได้ไม่นาน แต่ตอนนี้มันต่างออกไปจากเดิมเล็กน้อย

「เอย์!」

จินที่ก้าวเข้ามา เหวี่ยงดาบใส่โนโซมุ

「หวาาาาาาาาา!」

โนโซมุบิดตัวและฟาดดาบออกไปอย่างแม่นยำ ในขณะที่ฟาดดาบไปตรงส่วนท้องของจินด้วยแรงที่มี หลังจากปัดการโจมตีเขาก็อ้อมไปที่ด้านหลังของคู่ต่อสู้ด้วยความรวดเร็ว

「หนอย!」

จินชักดาบกลับและพยายามฟันใส่โนโซมุเพื่อพยายามสกัดกั้นโนโซมุที่เล็งหาจุดบอด

อย่างไรก็ตาม โนโซมุก้าวไปอีกขั้นเพื่อเข้าหาจิน และหันหลังกลับอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จินจะทันได้หันดาบกลับ

ตำแหน่งของโนโซมุอยู่ในระยะโจมตีของคู่ต่อสู้ที่ห่างเพียงก้าวเดียวและดาบที่จินฟาดลงก็กระเด็นออกจากแรงผลัก

โนโซมุบิดร่างกายตามข้อเท้า และใช้แรงหมุนเพื่อสกัดกั้นดาบของจินที่เหวี่ยงออกมาด้วยท่าทางอันไม่มั่นคง

ดาบนั้นไม่สามารถป้องกันแรงกระแทกได้ ท่วงท่านั่นทำให้ไม่สามารถยืนหยัดได้ ดาบของจินถูกปัดออกพร้อมกับเสียงแหลมสูงที่ดังขึ้นและโนโซมุก็พุ่งเข้าไปตามที่เป็นอยู่

「อุหวาาาาาาาาาาาาาา!」

ร่างของจินล้มลงกับพื้น ขณะที่เขาขมวดคิ้วด้วยท่าทางไม่พอใจ โนโซมุก็เอาปลายดาบไปจิ้มที่ท้ายทอยของจิน

「……จบเกมส์แล้วล่ะนะ」

「……อ่าแพ้แล้วล่ะ」

โนโซมุลดดาบลงพร้อมกับจินที่ประกาศยอมแพ้ และจินก็ยืนขึ้นขณะที่เช็ดเศษดินออกจากตัว

คราวนี้โนโซมุกับจินเผชิญหน้ากันแทนที่จะเป็นมาร์ที่จะสู้กับเขาตลอดเวลา

ข้างหลังเขาคือเพื่อนของจิน แฮมเรียและเดร็ก

ห่างจากโนโซมุเล็กน้อยมี ทอมมี่และคามี่ที่พุ่งเข้าหามาร์ด้วยดาบและมีดสั้นในมือ

「 เท่ย์ ย๊ากห์!」

「โอวววววววววววววววววววววววว!」

ทั้งสองคนปล่อยทักษะพิเศษใส่มาร์ขณะที่ME่ร้องไปด้วย

มาร์เองก็รับมือด้วยแสงที่ปรากฏขึ้นบนใบดาบพร้อมกับดาบขนาดใหญ่ที่ฟาดออกไป

「อืมมมมมมมมม!!」

ดาบที่เคลือบแสงทำให้เกิดสายลมตัดผ่านบรรยากาศโดยรอบและทำให้ทอมมี่และคามี่ที่เข้ามากระเด็นออกไปตามแรงลม

「คิย๊าาาาาาาาาาาาห์!」

「อึกกก!」

ทั้งสองคนถูกพัดปลิวไปและกลิ้งไปบนพื้น ผมสงสัยว่าควรจะตะโกนเรียกมาร์ดีไหม เนื่องจากนี่เป็นการดวลกัน และผลลัพธ์คือความห่างชั้นที่เกินไป

โนโซมุและเพื่อนๆของเขากำลังพูดถึงวิธีต่อสู้ของพวกจิน ในขณะที่มองดูสถานการณ์ปัจจุบัน

「อืมมม ท้ายที่สุดแล้ว หากใส่แรงไม่พอก็จะโดนปัดออกได้ง่าย」

「ก็ใช่อยู่หรอก แต่คิดว่าสิ่งที่แย่จริงๆ คืออย่างอื่นที่ควรทำหลังจากหมดสภาพไปแล้วต่างหากนะ」

「หมายความว่าไง?」

「หลังจากหมดสภาพ ก็ใจร้อนและพยายามไล่ตาม นั่นเป็นการเคลื่อนไหวที่สุ่มเสี่ยงเกินไป」

ตามคำกล่าวของโนโซมุ หลังจากรับมือไม่ได้แล้ว ก็ควรจะรักษาท่วงท่าเพื่อให้สวนกลับได้ ดีกว่าปล่อยให้ล้มไปเลย

ตราบใดที่ความสามารถทางกายภาพแตกต่างกัน โนโซมุก็ไม่สามารถไล่ตามได้หากพวกเขาโฟกัสไปที่การหลบหนี

นอกจากนี้ ปริมาณของคินั้นมีจำกัด โนโซมุจะเสียเปรียบหากเป็นเกมส์ยื้อเวลา

「อืม โนโซมุคุง ก็คิดอยู่หรอกว่าน่าจะทำได้ทัน แต่เพราะว่าความคิดมันตามไม่ทันการกระทำต่างหาก……」

「ไม่ว่าจะช้าแค่ไหน ถ้ามีดาบคู่กายที่จับแล้วถนัดมือก็จะสามารถใช้งานมันได้ดีเหมือนอย่างมาร์……」

「ตอนแรกก็ตกใจเลยล่ะที่เห็นปัดการโจมตีด้วยดาบเล่มนั้นได้……」

ขณะที่จินทำท่าทีเคร่งเครียดเล็กน้อย เขาเหลือบมองมาร์และทอมมี่ที่มองไปทางด้านข้าง

หยาดเหงื่อเย็นๆไหลอยู่บนหลังของจินขณะที่เพื่อนคนหนึ่งซัดคนสองคนปลิวได้ในดาบเดียว

สีหน้าของจินเริ่มแย่ลง คราวนี้แฮมเรียที่อยู่ข้างหลังก็พูดกับโนโซมุ

「อย่างไรก็ตาม การที่โนโซมุรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นแสดงว่ามีวิธีรับมืองั้นเหรอ?」

「อ่า ก็พอมีบ้าง……」

ในตอนนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีทางไล่ตามคู่ต่อสู้ที่พยายามจะหนีจากโนโซมุ

ในกรณีนั้น แน่นอนว่าร่างกายของอีกฝ่ายได้กลายเป็นสองส่วน แต่เทคนิคนั้นไม่สามารถใช้ในคาบเรียนได้หรอก

「ถึงอย่างนั้นก็เถอะนะแต่มันก็ดูไม่เข้าท่า……」

เมื่อเดร็คมองไปรอบๆ ด้วยท่าทางตกตะลึง เพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆก็มองโนโซมุเหมือนในตอนเช้า

「อ่า มันจะเป็นแบบนี้แหละนะ ถูกแล้วที่บอกว่าช่วยไม่ได้ มันดีกว่าที่จะมุ่งเน้นไปที่ตัวเองตอนนี้มากกว่าน่ะ ตามที่อาจารย์อันริกล่าวในตอนเช้า ว่าชั้นเรียนร่วมจะเริ่มในวันพรุ่งนี้เพราะการฝึกพิเศษจบลงแล้ว」

ชั้นเรียนร่วม

ก็ตามชื่อที่บ่งบอก ชั้นเรียนนี้เป็นชั้นเรียนที่ร่วมกับการฝึกชั้นเรียนอื่นๆ

เนื่องจากชั้นเรียนของโรงเรียนกำหนดขึ้นตามคะแนนสอบของผู้เข้าเรียนและถูกแบ่งออกไปเป็นห้องต่างๆ ผู้คนในระดับเดียวกันก็จะได้ฝึกด้วยกันในการต่อสู้จำลอง

อย่างไรก็ตาม มันหายากที่สำหรับความสามารถเดียวกันจะต่อสู้กันในสนาม ในกรณีส่วนใหญ่ ความสามารถของคู่ต่อสู้จะแตกต่างกันอยู่แล้ว และปัจจัยรวมถึงคนและอุปกรณ์จะเปลี่ยนไป

ถ้าเป็นเช่นนั้นชั้นเรียนร่วมนี้เริ่มต้นด้วยแนวคิดที่ว่าควรจะทำการจำลองการฝึกที่แตกต่างกันให้มากที่สุด

แม้แต่ในการฝึกพิเศษ ในวันที่สองก็จะได้ให้ฝึกอยู่ร่วมกับห้องอื่นเพื่อสร้างความเคยชิน

แน่นอน ไม่เพียงแต่การต่อสู้จำลอง เช่นการต่อสู้แบบปาร์ตี้เท่านั้น แต่ยังมีการต่อสู้ตัวต่อตัวด้วย

「นั่นสิน้า ตอนนี้ก็แค่ต้องทำความเข้าใจความสามารถของกันและกันก่อน」

มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะร่วมมือกันโดยไม่รู้ความสามารถของกันและกัน เพราะมันมีการต่อสู้แบบเป็นปาร์ตี้ด้วย

ในการฝึกพิเศษ ผมเองก็ได้ร่วมทีมกับจินและคนอื่นๆ แต่เวลาฝึกมันน้อยกว่าครึ่งวัน และผมเองก็มีอย่างอื่นที่ต้องทำ ไม่ว่าจะเป็นโนโซมุหรือจินก็ไม่มีเวลาพอจะทำความเข้าใจกันและกันเลย

ขณะนั้นเพื่อนร่วมชั้นที่อยู่รอบตัวผมก็กำลังพูดคุยกัน

「โฮ่ย」

「เอ๊ะ? เป็นอะไรไป?」

「ไม่ใช่นาย มีธุระบางอย่างจะคุยกับไอ้พวกชั้นล่างโว้ย」

เพื่อนร่วมชั้นพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเล็กน้อย

เมื่อจินถามว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาก็ผลักจินและมาเผชิญหน้ากับโนโซมุ

「เฮ้ย แกน่ะทำอะไรกันแน่ในการฝึกพิเศษ?」

「อะไรละนั่น……」

「เฮ้ ซิมนัล ใจเย็น」

เพื่อนร่วมชั้นคนนั้นพุ่งเข้ามาและเข้ามาถามโนโซมุด้วยน้ำเสียงหยาบกร้าน

ในสายตาของชายหนุ่มที่ชื่อซิมนัล มีความสงสัยอย่างมากเกี่ยวกับโนโซมุ โนโซมุเข้าใจดีว่าพวกเขาคงคิดว่าโนโซมุนั้นโกงและได้ผลคะแนนดีกว่าคนอื่นๆ

บางทีซิมนัลเป็นคนเดียวที่คิดว่าโนโซมุนั้นโกงการสอบ เพื่อนที่อยู่ด้านหลังก็พยายามบอกให้เขาใจเย็น

「ผลคะแนนของการฝึกพิเศษน่ะเหรอครับ?」

「ใช่แล้ว! คะแนนแบบนั้นคนอย่างแกไม่มีทางได้มันมาหรอก! ใช้วิธีสกปรกแบบไหนกันวะ!?」

ซิมนัลกล่าวหาโนโซมุด้วยน้ำเสียงที่ทำให้เหมือนดูเป็นความจริง

จินและเพื่อนๆที่ร่วมมือกับโนโซมุก็พยายามปฏิเสธ

「เดี๋ยวก่อนสิ! พวกเราไม่ได้โกงสักหน่อย!」

「ใช่แล้วพวกเราไม่ได้โกง! และต้องขอบคุณโนโซมุด้วยที่ทำให้การฝึกของพวกเราก้าวหน้า ส่วนใหญ่เพราะได้เขาช่วยไว้แท้ๆจึงได้รอดมาได้ เขาจะโกงได้ยังไงเขาสู้จนเจ็บหนักขนาดนั้น และไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ถึงสองสัปดาห์?」

แฮมเรียโต้เถียงซิมนัลด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

「แล้วพวกแกเอาชนะพวกนั้นมาได้ยังไง! ฝ่ายตรงข้ามที่แพ้เป็นพวกห้อง 4 เลยนะ ถ้าเป็นพวก ห้อง 8 ห้อง 9 น่ะ ไม่เท่าไร แต่นี่มันผิดปกติโว้ย!」

「อย่างที่บอกหลายๆครั้งแล้ว พวกเราไม่ได้โกง ผมเข้าใจภูมิประเทศ และยุทธ์ศาสตร์ภายในป่าเป็นอย่างดี และต่อสู้ตามแผน」

ดูเหมือนว่าทุกคนที่สอบตกก็สงสัยโนโซมุที่โนโซมุสามารถไปติดท็อป 10 ได้ยังไง

โนโซมุและคนอื่นๆต่างปฏิเสธข้อกล่าวหา

ไม่ว่าซิมนัลจะเร่งเร้ามากแค่ไหน พวกโนโซมุก็ได้แต่บอกปัด แต่ดูท่าทำยังไงก็ไม่เชื่อ

ตรงกันข้าม เขากำลังคิดจะกลบเกลื่อนต่อไปและระบายความโกรธออกมาเรื่อยๆ

「หนอยแน่ โกหกจนถึงที่สุดเลยนะ……」

บางทีความโกรธมาถึงขีดสุดแล้ว ซิมนัลชักดาบที่เอวออกมา

「ฮะ เฮ้ย ซิมนัล!」

พฤติกรรมของซิมนัลนั้นไม่สนใจคนรอบข้างอีกต่อไป แต่ว่าต่อให้สงสัยมากแค่ไหนแต่การใช้ความรุนแรงก็เป็นเรื่องที่ผิด

อย่างไรก็ตามซิมนัลไม่ได้รู้สึกถึงความผิดพลาดนั้นเลย เขาปล่อยตัวเองไปตามความโกรธอันไร้เหตุผล

「ย๊ากกกกกกกกกห์!!」

เมื่อซิมนัลโกรธจัด โนโซมุก็เคลื่อนไหวเพราะสัมผัสได้ถึงจิตสังหาร

ในไม่ช้า เขาก็กระทืบเท้าลงบนพื้น

เขาก้าวออกไปตามธรรมชาติและเกิดการฟันออกมาด้วยแสงวูบเพียงครั้งเดียว และดาบก็เข้ากระแทกกับดาบที่ซิมนัลพยายามจะชักดาบออกมา

「ฮึก!」

「…………」

ซิมนัลคร่ำครวญด้วยแสงจากดาบที่โนโซมุชักออกมาในชั่วพริบตา ดาบของเขาไม่ได้ถูกดึงออกมาจากฝักใบมีดมันออกมาจากฝักได้ไม่ถึงครึ่งก็โดนดาบของโนโซมุหยุดเอาไว้และซิมนัลก็แข็งทื่อทันทีจากการโจมตีของโนโซมุ

「……อาาา! ขะขอโทษครับ」

โนโซมุรีบชักดาบออกมาด้วยเหตุผลบางอย่าง

เห็นได้ชัดว่าเขาตอบสนองต่อจิตสังหารได้ไวแค่ไหน

อย่างไรก็ตามเนื่องจากซิมนัลเป็นคนแรกที่ชักดาบออกมา โนโซมุไม่จำเป็นต้องขอโทษ

คำขอโทษที่ไร้ซึ่งความจำเป็น ทำให้บรรยากาศโดยรอบตึงเครียดก่อนหน้านี้กลายเป็นบรรยากาศสบายๆอย่างน่าประหลาด

ซิมนัลที่พยายามดึงดาบก็ตกใจ

「โนโซมุ ขอโทษด้วยนะ หมอนี่มันเป็นคนใจร้อน เพราะผลการฝึกครั้งก่อนไม่ค่อยดีน่ะ」

ในขณะที่ดึงหัวของซิมนัลให้ก้มลงนั้นเองพวกเขาก็เดินจากไป

ตามที่เขาพูดเลยปาร์ตี้ที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ตอนต้นเกมส์ของการฝึกพิเศษจะโดนคัดออกง่ายๆ

เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เนื่องจากระบบของสถาบันนี้ แต่ซิมนัลเองก็ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเรียนที่นี่อีกต่อไป และเขาเองก็ค่อนข้างจะใจร้อนเพราะผลการสอบออกมาไม่ได้อย่างที่หวัง

เมื่อโนโซมุจ้องมองไปทางซิมนัล เขาก็แสดงท่าทีเคอะเขิน ดูเหมือนว่าหัวจะเย็นลงจากการโดนโนโซมุกดดัน

「โนโซมุ ทำไมถึงไม่พูดวิธีที่เอาชนะพวกนั้น่ละ ? คิดว่าพูดแบบนั้นจะดีกว่านะ……」

「นั่นสินะ ถ้าพูดออกไปก็ดีแล้วแท้ๆ? มาพูดคุยกับพวกเราหน่อยไหมพวกเราสงสัยน่ะว่านายเอาชนะพวกห้องสูงๆได้ยังไง」

「เข้าใจแล้ว เอางั้นก็ได้」

มาร์ที่เฝ้าดูสถานการณ์เบื้องต้น ก็แนะนำโนโซมุให้พูดคุยกับทุกคนเรื่องวิธีการเอาชนะพวกนักเรียนห้องสูงๆ

ไม่ใช่สิ่งที่ต้องปิดบังดังนั้นโนโซมุจึงตัดสินใจเล่าเรื่องในวันนั้น

เริ่มต้นด้วยการแบ่งปาร์ตี้ออกเป็นสองส่วนเพื่อเก็บคะแนน

นอกจากนี้ ยังพูดถึงกับดักต่างๆ รอบๆตัวเขา และเขาก็แยกคู่ต่อสู้ไม่ให้รวมกลุ่มกันได้

และเมื่อฝ่ายตรงข้ามโจมตีในที่สุด ก็ให้แนวหน้าพุ่งเข้าโจมตีกองหลังของคู่ต่อสู้และให้แนวหน้าของฝ่ายตรงข้ามมาติดกับดักที่วางไว้และกองหลังก็จะเอาชนะแนวหน้าของฝ่ายตรงข้ามได้

「อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการเดินบนเส้นด้าย……」

「มันช่วยไม่ได้มันยากสำหรับเราที่จะชนะ ไม่ต้องพูดถึงคนเดียวเลย ถึงแม้ว่าจะสู้แบบตัวต่อตัวกับคนจำนวนเท่าๆกัน ถ้าทำแบบนั้นมันมีหลายปัจจัยที่ต้องพึ่งอย่างมาก」

「แน่นอน……」

「เน่ อยากฟังอีกเรื่องหนึ่งน่ะ……」

โนโซมุตอบอย่างสุภาพกับทุกคนที่ถามคำถามเข้ามา

ก่อนที่จะรู้ตัว ประมาณครึ่งหนึ่งของห้อง 10 ก็มารวมตัวกันรอบๆโนโซมุ และมันก็กลายเป็นความทรงจำดีๆเล็กน้อย

พวกเขายังถูกกล่าวขานว่าเป็นพวกตัดหางปล่อยวัด

ดังนั้นความจริงทีว่าโนโซมุที่อยู่จุดต่ำสุดกลับเอาชนะพวกห้องสูงๆได้จึงเหมือนเรื่องเหลือเชื่อ

จนถึงตอนนี้ก็ไม่อยากจะเชื่อเลยเพราะว่าไม่เคยไว้ใจโนโซมุ แต่ถ้าได้ยินเรื่องราวอย่างละเอียดในขนาดนี้ละก็ ความจริงนั่นก็จะเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาและเชื่อได้ว่ามันคือเรื่องจริง

「นี่ แล้ววางกับดักเหล่านั้นได้ยังไงกันน่ะ!?」

「นอกจากนี้ยังเอาชนะเป้าหมายพิเศษได้อีก!? มีพวกรึเปล่า? แล้วพวกนั้นแพ้ได้ยังไง!?」

สายตาของเพื่อนร่วมชั้นต่างจ้องมองมาด้วยแววตาเปล่งประกาย และจำนวนคำถามก็มากขึ้นเรื่อยๆ

ตอนแรกก็มีคนจำนวนน้อย แต่ตอนนี้มันเยอะราวกับพายุ

「เดี๋ยวก่อนนะ! ไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนดีเลยอะครับ!」

คำถามที่ถามมันเยอะเกินไป และในที่สุดโนโซมุก็ตอบไม่ทัน

เขาขอความช่วยเหลือ แต่จิน เดร็ค และ แฮมเรียที่ทำงานร่วมกันก็เลี่ยงที่จะเป็นจุดสนใจ

「มาร์! ช่วยด้วยยยยยยยย!」

「อย่าหักโหมจนเกินไปล่ะ ตอนนั้นข้าไม่อยู่ด้วยไม่รู้ด้วยหรอกนะ ไม่ค่อยรู้รายละเอียดด้วยสิ……」

มาร์ทำหน้ายิ้มด้วยเหตุผลกรุ่มกริ่ม

แน่นอน ตอนที่เผชิญหน้ากับอาจารย์อันริ มาร์ไม่ได้อยู่ที่นั่น จึงอาจจะตอบคำถามไม่ได้ แต่เธอก็อยู่ในการต่อสู้ครั้งใหญ่ไม่ใช่เหรอไง!

เห็นได้ชัดว่าพยายามจะแกล้งกัน โนโซมุที่รู้ตัวแบบนั้นก็จ้องกลับไปด้วยความแค้น

อย่างไรก็ตามพายุคำถามมากมายก็ไม่บรรเทาลงเลย และโนโซมุไม่มีทางเลือกนอกจากทำได้แต่เล่าไปทั้งหมดด้วยตัวเอง

แต่ว่าก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดแล้ว แม้จะผิดหวังที่ลากมาร์มาช่วยไม่ได้ แต่การจ้องมองของเหล่าเพื่อนร่วมชั้นในตอนนี้ไม่มีความเกลียดชังปะปนอยู่เลย

มันอาจจะแค่ชั่วคราว อาจจะต้องแยกจากกันอีกครั้ง อันที่จริงเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆที่ไม่เคยได้ยินก็ยังคงสงสัย

ถึงกระนั้น ผมก็ดีใจที่ความพยายามในการฝึกพิเศษครั้งนี้ของผมได้รับการยอมรับ

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยนำบางส่วนมาจากนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

บทนำ

สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

เรื่องย่อ

สถาบันโซลมินาติ สถานที่ๆคนหนุ่มสาวจากทั่วทุกดินแดนจะมารวมตัวกันเพื่อต่อยอดความฝันและความหวังของตัวเอง ความทะเยอทะยาน สำหรับคนที่ไม่มีอะไรดีสักด้านนั้นจะถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามถูกปฏิบัติแบบไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมโดยสมบูรณ์

เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่ชั้นอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ข้า โนโซมุ เบลาตี้ ซึ่งอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนในช่วงพักกลางวัน

ข้ามาที่นี่เมื่อสองปีก่อน ออกมาจากบ้านเกิดกับเพื่อนสมัยเด็กสองคนเพื่อมายังที่แห่งนี้

คนแรกคือ เคน โนทิส เป็นเพื่อนที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ ลิซ่า เฮาวน์

สาวสวยผู้มีผมหางม้าสีแดง

เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตและเป็นคนรักของข้า

เธอเป็นคนที่เอาชนะคนอื่นได้เสมอ เธอเป็นเหมือนดั่งตัวร้ายที่คอยต่อต้านกับหัวหน้าหมู่บ้าน

ข้าพบกับเธอก็เมื่อตอนอายุ 8 ขวบ ตอนที่ข้ากำลังตกปลาในแม่น้ำใกล้หมู่บ้าน

「อะ เอ่อ อืม ว่างหรือเปล่า?」

เป็นตอนนั้นเองที่เธอเข้ามาพูดกับข้า

ผมสีแดงตัดสั้น ท่าทางที่ดูมั่นใจ ใบหน้าของข้าค่อยๆร้อนรุ่ม…ข้าตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น

พ่อแม่ของเธออาศัยอยู่ในดินแดนที่ห่างไกลออกไป แต่เมื่อพ่อของเธอเสียชีวิตระหว่างเดินทาง เธอจึงตัดสินใจที่จะตั้งถิ่นฐานที่บ้านเกิดของข้า

ตอนเธอยังเด็กมักจะเป็นเด็กที่ซุกซนและอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ข้าก็ไม่ได้รังเกียจอะไร และเธอไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ

แล้วก็เด็กที่ทำให้เธอผิดหวังมากที่สุดก็คือนายพลกาคิกับผมด้วยเหตุผลบางอย่าง

เมื่อสามปีก่อนข้าสารภาพรักกับเธอเพราะว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

รักแรกที่ข้าชอบมาตลอด

เธอตกใจมากกับการสารภาพรักที่กระทันหันของข้า แต่เธอก็ยอมรับข้าและร้องไห้ทั้งน้ำตา

ตอนนั้นเองข้าจึงตัดสินใจที่จะไปสถาบันโซลมินาติกับเธอเพื่อสนับสนุนความฝันของเธอให้เป็นจริง

มันเป็นแรงบัลดาลใจให้ข้า ความฝันของเธอที่บอกข้าตอนยังเด็ก

「ฉันน่ะอยากจะเห็นโลกที่หลากหลายเหมือนกับคุณพ่อ」

ข้ารู้ว่าเธออยากออกไปท่องโลกกว้างเพราะเธอได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นมาจากมารดาของเธอ

ตอนนั้นเองเป็นตอนที่ข้าตัดสินใจไปที่สถาบันโซลมินาติ

หากคนที่ตัวเองรักอยากทำความฝันให้เป็นจริง ข้าก็ควรจะสนับสนุน

ด้วยคำพูดเช่นนั้นข้าตัดสินใจว่าจะสนับสนุนเธอตลอดมา

เธอกอดข้าทั้งน้ำตาพร้อมกับบอกว่า「ขอบคุณนะ……ฉันดีใจจริงๆ」

ท่ามกลางการหลับกลางวันของข้าก็ได้ยินเสียงระฆังที่ส่งเสียงบอกเวลาว่าหมดเวลาพักกลางวันแล้ว

ข้าลุกขึ้นพร้อมกับบิดตัวด้วยความขี้เกียจพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังห้องเรียน

ถูกบังคับให้ไสหัวไปก็ตั้งหลายครั้ง ตัวข้าที่ไม่สามารถทำคำปฏิญาณนั่นได้

ชั้นเรียนของข้าคือ ชั้นเรียนที่สอง ระดับ 10 เป็นห้องที่ต่ำที่สุดในบรรดาชั้นเรียนที่สอง

ในหมู่พวกนั้นข้าเป็นคนที่อยู่ต่ำสุดเรียกได้ว่าเป็นพวกที่ห่วยของโครตห่วย

เมื่อข้าเข้ามาในชั้นเรียนก็โดนต้อนรับด้วยการหัวเราะเยาะเย้ยเป็นเรื่องปกติ

「ยังจะโผล่หัวมาอีกนะ ไอชั้นต่ำ」

「เมื่อไรมันจะหายๆไปสักทีวะ」

「หวังว่าจะลาออกไปไวๆน้า~」

เสียงที่ดูไร้หัวใจเหล่านั้นเสียดแทงเข้ามาในจิตใจของข้า ข้าทำได้แต่เมินต่อไปและนั่งลงบนเก้าอี้

เมื่อข้านั่งลงก็มีนักเรียนสามคนเข้ามาทางข้า

「แกจะมาทำไม ในเมื่อแกมาที่นี่มันก็ไร้ความหมายอยู่ดีไม่ใช่เหรอไงวะ ไอ้เศษเดนเอ้ย」

มาร์ที่ตัวค่อนข้างใหญ่พูดข่มขู่ข้า

「ยอมแพ้ไปสักทีเหอะวะแกไม่คิดว่ามันเสียเวลาชีวิตบ้างเหรอวะ」

「แกโดนแกล้งขนาดนี้ก็เหมาะกับแกดีนี่ เหมาะสมกับเศษสวะอย่างแก」

พวกนั้นก็ยังคงกรนด่าข้าไม่หยุด

「ช่ายๆ โดนเด็กผู้หญิงหัวแดงที่ท่าทางเหมือนเจ้าหญิงนั่นทิ้งแล้ว ไม่มีอะไรให้แกได้ฝันอีกต่อไปแล้วล่ะ」

พวกนั้นทั้งสามคนยังยืนหัวเราะและพยายามยั่วโมโหข้า ไม่มีใครคิดจะห้ามพวกมัน ในท้ายที่สุดพวกมันก็ไม่ยอมหยุดจนกระทั่งอาจารย์ประจำชั้นเข้ามาในห้อง

ใช่แล้วล่ะ ข้าถูกลิซ่าทิ้ง เธอน่ะเป็นนักเรียนห้อง 1 เลยนะ

ทันทีที่เธอทิ้งข้าไปหลังจากกล่าวลาไม่กี่คำ เธอก็ไม่เคยกลับมาพบข้าอีกเลย

ข้าไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ตั้งแต่นั้นมาเธอก็มองข้าเหมือนเศษสวะ

เป็นเพราะข้าเอาแต่สร้างปัญหายังงั้นเหรอ

ลิซ่าเป็นผู้หญิงที่ถูกขนานนามว่า “เจ้าหญิงผมแดง” เพราะหน้าตาและความสามารถ

ในทางกลับกันตัวข้าที่ไม่มีอะไรดีเด่นหน้าตาบ้านๆ

ตลอดช่วงที่ข้าคบกับเธอ เธอมักจะโดนรังควาญอยู่เสมอ บางทีการที่ข้าโดนทิ้งก็เพราะสร้างความยุ่งยากให้เธออยู่เสมอก็ได้

ข้านั้นไร้ซึ่งเพื่อนและกลายเป็นหมาหัวเน่า

ถึงกระนั้นข้าก็พยายามอยากหนักไม่ละเลยสิ่งต่างๆตามหน้าที่ของตน

สักวันหนึ่งถ้าข้าสามารถรักษาคำสาบานที่ให้ไว้ได้ละก็……….ข้าคิดเช่นนั้น

ในขณะเดียวกันนั้นเองเธอก็ไปคบกับเพื่อนสมัยเด็กที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

เธอดูมีความสุขราวกับเธอรักเขาจริงๆ

ในการฝึกซ้อมเป็นคู่พวกเธอสองคนเข้าขากันได้ดีมาก ข้าไม่มีที่ยืนเคียงข้าเธอเลย

ชั่วโมงที่สอง ในช่วงบ่าย

「เฮ้ออ!」

ด้านข้างของดาบจำลองนั่นถูกขว้างมาจากเครื่องยิงดาบจำลอง

เมื่อดาบจำลองที่ถูกยิงมาถูกปากลับไปและแทงเข้าไปที่คอของตุ๊กตา กลไกนั่นก็จะหยุดทำงานลง

หลังจากคาบบรรยายนี่ก็เป็นภาคฝึกปฏิบัติ

นอกจากสนามฝึกซ้อมแล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น สนามทดลองเวทมนตร์ในสถาบันแห่งนี้และนักเรียนที่สามารถศึกษาเรียนรู้ความสามารถของตนตามสถานที่ต่างๆ

สนามฝึกถูกแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่เพื่อให้นักเรียกจากหลายๆชั้นมาเรียนที่เดียวกันได้

วันนี้เป็นการฝึกการต่อสู้ระหว่างบุคคลและแต่ละคนก็จะได้ต่อสู้กับหุ่นยนต์ที่มีดาบจำลองเป็นคู่ซ้อมทำการต่อสู้แบบอิสระ โดยใส่พลังเวทย์เข้าไปเพื่อให้หุ่นยนต์นั้นทำงาน

อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์สำหรับพวกห้อง 10 นั้นมีคุณภาพแย่และเคลื่อนไหวได้แค่บางส่วน

「อืม ต่อไปจะเป็นการต่อสู้เป็นคู่ เลือกคู่หูได้ตามใจชอบ~」

เมื่ออาจารย์อันริ วาร์ อาจารย์ประจำชั้นของพวกห้อง 10 เรียกออกมา หุ่นยนต์ก็หยุดทำงาน ดังนั้นทุกๆคนก็หยุดและรอการจับคู่

อาจารย์อันริมีผมหยักสีน้ำตาล ดวงตาที่ดูสมวัยและใบหน้าที่ออกไปทางดูดีอย่างมาก

อย่างไรก็ตามอาจารย์คนนี้เป็นบุคคลที่ไม่เหมาะกับโรงเรียนแห่งคุณธรรมแห่งนี้เลยเพราะเขาชอบพูดและทำท่าทางแปลกๆราวกับคนบ้า

เรียกได้ว่าคนที่รับผิดชอบนักเรียนห้อง 10 ถูกโยนมาแบบทิ้งขว้างเลยก็ได้

อย่างไรก็ตามการที่เขาสามารถมาเป็นอาจารย์ได้ก็คงมีความสามารถพอตัว

ในที่สุดการจับคู่ก็ถูกตัดสินและแต่ละฝ่ายต่างเริ่มจำลองการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ของตัวเอง แต่ว่าคู่ต่อสู้ของข้าดันเป็น……。

「เอ่อ สำหรับแกแล้ว น่าเสียดายหน่อยนะ」

เป็นมาร์นั่นเองที่กรนด่าข้าเมื่อตอนบ่าย

「มาเริ่มกันเลยดีกว่า เพราะว่าเศษสวะอย่างแกจะทำให้ชั้นเสียเวลา」

มาร์ดึงดาบใหญ่ออกมาจากด้านหลัง

มาร์เป็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมา ความสามารถของเขานั่นของจริง ถึงอย่างนั้นก็ยังได้มาอยู่ในห้องห้อง 10 เช่นนี้เพราะชื่อเสียงแย่ๆนั่นละ

ผมเองก็ดึงดาบจำลองออกมาด้วยเช่นกัน

อาวุธของข้าเป็นดาบที่มาจากทางเกาะตะวันออก เรียกกันว่าคาตานะ เป็นดาบที่มีความคมเป็นอย่างมาก กล่าวได้ว่ามันสามารถตัดทุกอย่าไงได้หากใช้ได้อย่างชำนาญ

ยังไงก็ตาม มันใช้เทคนิตชั้นสูงและความหายากของมันเลยไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนัก

มันเป็นอาวุธที่เหมาะกับข้าที่สุด สำหรับข้าที่ไร้ซึ่งพลัง

「ถ้าอย่างงั้นละก็ เริ่มได้~~~」

การต่อสู้นั่นเต็มไปด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยจากท่าทางของอาจารย์อันริ

「โฮ่ย่าาาาาาาาาาาห์」

มาร์เหวี่ยงดาบใหญ่พร้อมตะโกนก้อง

ผมป้องกันการโจมตีด้วยคาตานะ

ดาบของมาร์ถูกเบี่ยงวิธีและมันก็ฟาดลงทีพื้น

「ฮ่าๆ!」

ก้าวเข้าไปหลังจากมาร์เปิดช่องว่างเล็งไปที่ต้นคอและพยายามจะเอาสันดาบทุบ

「สายไปละโว้ย!」

มาร์เอาถุงมือที่แขนปกป้องดาบของผมไว้ ดาบเลียนแบบที่ไม่มีความคมของดาบดั้งเดิมเหลืออยู่ก็ถูกป้องกันด้วยถุงมือนั่น

มาร์รุดหน้าเข้ามาพร้อมกับยกถุงมือขึ้นป้องกันการโจมตี แต่ข้าก็ก้มลงเพื่อหลบการโจมตี

ข้าพยายามจะโจมตีไปอีกรอบ แต่มาร์นั้นเหวี่ยงดาบใหญ่มาด้วยมือข้างเดียว

ข้าถูกบังคับให้ถอยและกลับไปตั้งหลักใหม่

มาร์ที่ฟาดดาบใหญ่จนพื้นแตกกระจายพยายามมองระหว่างข้าและดาบใหญ่ของมันเอง……。

「อยากโดนหั่นเป็นชิ้นๆเหรอไงวะ」

มาร์พูดเช่นนั้นพร้อมกับรังสีกดดันที่เพิ่มมากขึ้น

“คิ”

เป็นสกิลของทางฝั่งตะวันออกที่จะเพิ่มพลังให้แก่ผู้ใช้งานให้เหนือขีดจำกัดยิ่งขึ้นไป

มาร์พุ่งเข้ามาในคราวเดียว ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นั่นละคือผลลัพธ์จากการใช้ คิ

ราวกับจะจับเหยื่อตรงหน้าฟาดดาบใหญ่นั่นลงมาในทีเดียว

ข้าเองก็ใช้ “คิ”เช่นกันเพื่อหลบการโจมตีของดาบใหญ่นั่น เสียงของเหล็กดังกระทบกันสนั่นหู

「เหอะ!ลังเลอยู่งั้นเหรอ」

มาร์ที่รู้สึกหงุดหงิดนั่นดูมีท่าทีลังเลจึงไม่สามารถจะตัดสินใจจบการโจมตีในทีเดียวได้

เขาดึงดาบใหญ่ที่จมลงไปบนพื้นและเริ่มที่จะฟันมันมาอีกครั้ง

เขาฟาดฟันดาบใหญ่ไปรอบๆด้วยเรี่ยวแรงอันมหาศาลจาก “คิ”

เสียงของเหล็กปะทะกันดังสนั่นไปทั่วบ่งบอกถึงการต่อสู้อันดุเดือด แต่ว่ามีฝ่ายเดียวที่ได้เปรียบ

การเสริมพลังกายของมาร์มีพละกำลังมากกว่าข้า แต่ผลของการเสริมพลังกายของข้าเองก็ได้ผลเพียงครึ่งเดียวด้วยความสามารถของข้า

มาร์มันเป็นคนเก่งแต่เพราะทำแต่เรื่องแย่ๆเลยได้มาอยู่ในห้อง 10

ในทางตรงกันข้ามแม้หมอนั่นจะมีความสามารถสูง แต่มาร์มันกลับพอใจที่จะกดขี่คนที่ต่ำกว่านั่นมันโครตจะแย่

เทคนิคดาบชั้นสูงของมาร์ไม่สามารถใช้จัดการกับโนโซมุตามปกติได้ แต่ว่าพลังกายของโนโซมุที่ได้รับการเสริมแบบครึ่งๆกลางๆมันก็พอเป็นไปได้

พลังที่ได้มานั่นทำให้พอฟัดพอเหวี่ยงกับดาบของโจรสลัดเท่านั้นเอง

「แหลกไปซะเหอะมึง!!」

บางทีอาจจะเป็นเพราะข้าโดนกดดันจนถูกบดขยี้ในพริบตา แต่ว่าข้าก็กันการโจมตีนั่นได้ยิ่งทำให้มาร์มันหงุดหงิดจนพละกำลังมันเพิ่มมากขึ้นไปอีก

「เหอะ คิดว่าจะบดขยี้ข้าได้ง่ายๆงั้นเหรอ!」

ข้ากัดฟันแน่นเพื่อที่จะไม่เดินไปตามเกมส์ของศัตรู

แม้ว่าพลังในการโจมตีจะเพิ่มขึ้น แต่การโจมตีของมันก็ซ้ำซากและจำเจ ทำให้รับมือได้ไม่ยากเย็น

อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถสวนกลับได้ทำได้เพียงแค่ยื้อเท่านั้น

และถ้าโต้กลับไม่ได้ผลมันก็รู้ๆกันอยู่

ในที่สุดก็มาถึงขีดจำกัด

ข้าไม่สามารถรับการโจมตีของมาร์ได้อีกต่อไป การป้องกันของข้าถูกทำลายลงและไม่มีเวลามาตั้งท่าใหม่ ตอนนั้นเองทีข้าถูกดาบใหญ่นั่นฟาดเข้ามากระแทกกับคาตานะของข้าจนกระเด็น

「จะเหนียวได้สักแค่ไหนกันเชียววะ!」

รูปร่างของข้าบิดเบี้ยวเพราะการโจมตีนั่น ข้าตัวกระเด็นจนตัวไปกระแทกกับกำแพงของสนามฝึกซ้อม

ผลกระทบนั่นทำให้ข้าหายใจติดขัดและการมองเห็นของข้าก็มืดดับลง

「เป็นแค่เศษสวะแท้ๆ แต่ยังกล้าขัดขืน โดนดีไปซะเหอะมึง」

ข้าหมดสติไปพรัอมกับคำพูดของมาร์

「โอ้ยยยย เจ็บแหะ!」

ข้าลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับสติที่พร่ามัวลุกขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดไปทั้งตัว

ข้าก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องพยาบาล

「เอ้าๆ รู้สึกตัวแล้วไม่ใช่เหรอไงเนี่ย?」

ผู้หญิงสวมชุดโค้ทสีขาวพร้อมกับใส่แว่นนั่นกำลังทำงานอยู่บนโต๊ะพยาบาล

ชื่อของเธอคือนอร์น อัลทิน่า เป็นหมอประจำโรงเรียนที่สวยเอามากๆ

เธอเดินมาทางนี้และขยับนิ้วมาตรงหน้าผมเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกาย

「อืมม ดูจากสภาพแล้วสติยังคงดีอยู่ แล้วรู้สึกปวดตรงไหนบ้างรึเปล่า?」

「ข้าปวดหลังนิดหน่อยและหัวเองก็ยังคงมึนๆ แต่ว่าไม่มีตรงไหนผิดปกติแล้วล่ะ」

「อืมมเข้าใจแล้ว ฉันทายาไปที่หลังของนายแล้วล่ะ แต่ถ้ารู้สึกเจ็บหรือปวดตรงไหนก็มาได้ตลอดเวลานะ มันจะดีกว่านะที่มาหาฉันมากกว่าที่จะทนเจ็บกับบาดแผลนั่น」


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท