พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” – ตอนที่ 81

ตอนที่ 81

บทที่5บทส่งท้าย 1

 

 

「ก๊าซซซซากกกกกกกกกกกกห์!」

 

 

รูปปั้นมังกรคำรามเหมือออกมาและบินขึ้นไปบนท้องฟ้า

 

 

รูปปั้นมังกรโบยบินไปยังดวงจันทร์ที่ส่องแสงอยู่บนท้องฟ้าและทะยานสู่ท้องฟ้าที่มนุษย์ไม่อาจเอืัอมมือไปถึงได้ คราวนี้มันพุ่งเป็นเส้นตรงเข้าหาพวกโนโซมุและคนอื่นๆ

 

 

「ก๊าซซซซซซซซซซซ……」

 

 

แสงสีขาวเล็ดลอดออกมาจากปากของรูปปั้นมังกรที่โบยบินลงมาในขณะที่แสงนั่นออกมาจากปาก ก็มีกระสุนขนาดใหญ่ถูกยิงออกมาจากปากของมัน

 

 

โนโซมุและเหล่าเพื่อนๆเห็นภาพตรงหน้าก็เตรียมตัวในทันใด

 

 

「อันตราย!!」

 

 

「ชิ!」

 

 

「เอ๋~!!」

 

 

ทิม่า ฟีโอ และอันริออกมาข้างหน้าเพื่อกางบาเรียเวทย์ด้วยกันสามคนหลังจากนั้นเองกระสุนก็กระแทกเข้ากับบาเรีย

 

 

「อึก……」

 

 

「อ่าาาาาาาาาาาาาา!」

 

 

「คิย๊าาาาาาาาาาห์!」

 

 

เสียงคำรามและแสงจากการระเบิดออกมา

 

 

ทั้งสามคนสร้างบาเรียขึ้นมพร้อมกับการกันระเบิดมาร์และมิมุรุที่อยู่แนวหน้าปลิวไป และบาเรียเวทย์ก็แตกกระจายราวกับเสียงกระจกแตก

 

 

บนท้องฟ้า มีรูปปั้นมังกรที่ลอยตระหง่านกำลังพุ่งมาทางนี้ และกระสุนแบบเมื่อกี้ก็ถูกยิงออกมาอีกครั้ง

 

 

「มาอีกแล้วนะโว้ย!」

 

 

มาร์ตะโกนบอกเพื่อนๆ แสงแห่งการทำลายล้างพุ่งเข้าหาโนโซมุอีกครั้ง

 

 

「แย่แล้ว…อั่ก!」

 

 

โนโซมุพยายามจะลุกขึ้นในทันที แต่เขาก็ครวญครางออกมาด้วยความเจ็บปวดอันรุนแรงที่ไหลไปทั่วร่างกาย และเมื่อถึงเวลาที่เขาสังเกตเห็นก็พลาดโอกาสที่จะหลบไปแล้ว

 

 

กระสุนปืนนั่นเข้ามาด้วยความเร็วสูง การหลีกเลี่ยงก็ไม่ทันและบาเรียเวทย์เองก็ไม่ทันเหมือนกัน เดิมทีเขาเองก็ใช้เวทย์ไม่ได้ และตอนนี้เป็นไปได้ยากที่จะกันการโจมตีนั่น เพราะร่างกายเขาเต็มไปด้วยแผล

 

 

ไอริสและซีน่าที่ยืนขวางตรงหน้าผม พยายามกางแขนและพยายามผลักผมออกจากวิถีของกระสุนนั่น

 

 

「บ้าเอ้ย……!!」

 

 

โนโซมุพยายามบังคับร่างกายของเขาให้เข้าสู่ระยะของกระสุนนั่นด้วยการทำร้ายร่างกายตัวเองเพื่อกระตุ้น

 

 

มังกรแห่งความตายที่ฟื้นคืนชีพโดยไม่มีใครรู้ ร่างกายของมันเคลือบด้วยโลหะ และลมหายใจที่พ่นออกมาก็เปลี่ยนไป มันกลายเป็นมวลแสงแทนที่จะเป็นเปลวเพลิง

 

 

ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ถึงยังงั้นก็ยัง……。

 

 

โนโซมุพยายามขยับร่างกายอย่างสิ้นหวังเพื่อจะได้ขับเคลื่อนร่างกายต่อไป

 

 

แต่ว่าไอริสนั้นเร็วกว่าและเข้ามาบังโนโซมุเอาไว้

 

 

「ซีน่าคุง!」

 

 

「รู้แล้วน่า!」

 

 

ซีน่าพยายามเคลื่อนที่ให้เร็วกว่าไอริสที่เรียกเธอ ดึงลูกศรออกมาจากกระบอกอย่างรวดเร็วและตั้งคันธนูพร้อมกับอัดพลังเวทย์ลงไป

 

 

ไอริสยังคงเพิ่มพลังเวทย์และสร้างเวทย์ขึ้นมาด้วยการปรับใช้ทันที สร้างหอกแห่งความมืดขึ้นมาในมือ

 

 

“หอกแห่งขุมนรก([深淵の投槍] Abyss Javelin)”

 

 

เวทย์ที่เปลี่ยนพลังของผู้ร่ายให้กลายเป็นหอกแห่งความมืดที่ควบแน่นจนถึงขีดสุดและปล่อยมันออกไป

 

 

จุดที่ควบแน่นมันคล้ายกับ “หอกน้ำแข็ง”และอย่างที่เห็นรูปร่างของมันเหมาะกับการเจาะทะลวงเป็นอย่างดี

 

 

แสงเวทมนตร์ยังคงสาดส่องไปที่ลูกศรของซีน่าที่อยู่ข้างๆไอริสและเธอกำลังเล็งไปทางกระสุนแสงที่พุ่งเข้ามา

 

 

「ฮ่าหหหหหหหหหหหหหห์!」

 

 

「ฟู่ววววววววว!」

 

 

ไอริสปาหอกแห่งขุมนรกออกไป ซีน่าเองที่ได้รับหอกของไอริสมาก็ยิงผสานเข้าไปกับลูกศรแห่งแสงของเธอมันปะทะกันกลางอากาศและพุ่งเข้าชนกับกะสุนแสงของมังกร

 

 

หอกแห่งขุมนรกและการลงทัณฑ์จากดวงดวงดาวแห่งท้องทะเลพังทลายกระสุนแสงของมังกร ในวินาทีต่อมาหอกก็ระเบิดออกพร้อมกับพลังเวทย์ที่กระจายไปทั่ว

 

 

ขณะที่ความมืดและแสงสว่างเข้าปะทะกัน กระสุนแสงของมังกรก็หายไปและมันก็กลายเป็นละอองแสงไป……。

 

 

「กร๊าซซซซซซซซซซ!!」

 

 

「เอ่อ!」

 

 

「ชิหายแล้ว……!」

 

 

มังกรเหล็ก(ถ้าแปลตรงๆก็รูปปั้นมังกรแต่ขก.เรียกแบบนั้น)นั่นพุ่งเข้าหาโนโซมุเป็นเส้นตรง บีบผ่านอนุภาคแสงที่กระจัดกระจายไปทั่วในอากาศ มังพยายามเข้ามากินโนโซมุด้วยกรามโลหะของมัน

 

 

ทั้งสองที่เปิดช่องว่างเพราะใช้ท่าใหญ่ไปไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลา โนโซมุนั้นกำลังติดอยู่ และนอร์นเองที่กำลังรักษาเขาก็เช่นกัน

 

 

「ไปกันเถอะ!」

 

 

「เทททททท ย๊ากกกกกกกห์!」

 

 

อย่างไรก็ตามตอนนั้นเองมาร์และมิมุรุก็พุ่งเข้ามาพร้อมกับตะโกนลั่น พวกเขากลับมาตั้งท่าได้แล้วและพุ่งเข้าหามังกรเหล็ก อยู่ข้างบนและรอพวกไอริสฟื้นสภาพดี

 

 

มาร์ฟาดดาบขนาดใหญ่ที่มีคมดาบวายุเข้าไปที่ปีกของมันและมิมุรุก็เตะซ้ำเข้าไปด้วย

 

 

ในขณะเดียวกันมาร์ก็ปล่อยคมดาบวายุ มิมุรุก็ร่ายเวทย์ลมใส่เท้าทั้งสองข้าง

 

 

ลมที่โหมพัดกระหน่ำพัดมังกรยักษ์ที่ตัวใหญ่เท่าบ้านไปด้านข้าง กรามของมังกรเหล็กถูกเบี่งออกไปและร่างยักษ์นั่นก็กระแทรกเข้ากับพื้น กวาดลานพื้นดินและไถลเข้าไปในป่า

 

 

มังกรเหล็กที่ปลิวไปฝังอยู่ใต้ต้นไม้เพราะมาร์ มันกำลังดิ้นรนในขณะที่พยายามจะลุกขึ้น

 

 

「ทิม่า! ฟีโอ!」

 

 

เพื่อตอบสนองต่อเสียงของมาร์ ฟีโอและทิม่าไล่ตามมังกรเหล็กที่ล้มลง

 

 

ฟีโอหยิบยันต์ออกมาจากอกและใส่พลังเวทย์ลงไป ทิม่าเองก็อัดพลังเวทย์ลงไม้เท้า

 

 

สายฟ้ากระจายไปทั่วทั้งอากาศและเปลวไฟก็ได้หลอมรวมกัน

 

 

ฟีโอสร้างบอลสายฟ้าขึ้นมาห้าลูก และทิม่าสร้างบอลเพลิงขนาดใหญ่

 

 

「กร๊าซซซซซซซซซซซซซซซซ……」

 

 

ขณะที่ส่งเสียงครวญครางแสบหู มังกรเหล็กก็ลุกขึ้นมาจากต้นไม้ที่ทับร่างของมัน ดวงตาสีฟ้าของมังกรเหล็กจับจ้องไปที่บอลสายฟ้าและบอลเพลิง

 

 

มังกรเหล็กการปีกออกทันทีและพยายามบินขึ้นไปบนท้องฟ้าที่เป็นที่ๆจุดยุทธ์ศาสตร์ของมัน

 

 

ภายใต้ท้องฟ้าสามารถใช้พื้นที่ได้อย่างเสรี ทำให้การโจมตีของฟีโอและทิม่าไปไม่ถึงได้

 

 

มันกางปีกออกมาและพยายามจะโบยบินออกไป

 

 

 

 

「ไม่ยอมหรอกน่า!」

 

 

「อยู่นิ่งๆหน่อยนะจ้ะ~」

 

 

มันลอยอยู่ในอากาศครู่หนึ่งและเมื่อมันกำลังจะบิน โซ่ดินก็ปรากฏขึ้นจากวงเวทย์สองอันและพันธนาการมันไว้

 

 

นั่นคืออันริและทอมที่เข้ามาขัดขวาง แม้ว่าจะหยุดมันได้ไม่นาน แต่ก็สามารถซื้อเวลาให้ร่ายเวทย์ทันได้

 

 

「ไปเลย!」

 

 

ก่อนอื่นฟีโอยิงบอลสายฟ้าห้าลูกไปที่มังกรเหล็ก

 

 

ฟ้าร้องที่ส่งเสียงเปรี๊ยะๆตกลงบนร่างของมัน

 

 

「กร๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซ!」

 

 

มังกรเหล็กที่โดนพันไว้กรีดร้องออกมาและพยายามดิ้นรนมากขึ้น อย่างไรก็ตามสายฟ้าของฟีโอนั้นไม่ค่อยได้ผลมากนัก

 

 

ยิ่งกว่านั้นเวทย์พันธนาการมาถึงขีดจำกัดแล้ว และโซ่ก็แตกกระจายออกในขณะที่โซ่แตกกระจายมันก็กางปีกออกอีกครั้งและพยายามจะบินขึ้นไป

 

 

「ยังหรอกน่า!」

 

 

ทิม่าปล่อย”ภัยพิบัติแห่งลางร้าย” ซึ่งพลังเวทย์ถูกบีบอัดจนถึงขีดสุด

 

 

มวลเพลิงแผดเผาร่างที่ใหญ่กว่าคนทั่วไป บินไปเป็นเส้นตรงพุ่งเข้าหามังกรเหล็กและระเบิดออกจนเกิดควันจำนวนมาก

 

 

พลังเวทย์ที่เทียบเท่ากับแรงค์ S ? อากาศร้อนๆผุดขึ้นมาทำให้แม้แต่โซเมียที่อยู่ห่างไกลที่สุดก็รู้สึกได้ถึงความร้อนที่แผดเผา ปริมาณความร้อนของบริเวณที่ระเบิดออกน่าจะสูงมาก

 

 

ถ้าโดนตรงๆมังกรตัวนั้นจบไม่สวย….บอลเพลิงแห่งหายนะที่ถูกปลดปล่อยออกไปมันมีความร้อนถึงเพียงนั้น ควันยังฟุ้งกระจายไปทั่วและไม่สามารถมองเห็นร่างของมันได้เลย

 

 

บางทีอาจจะเอาชนะมันได้แล้ว…เมื่อความคิดดังกล่าวผุดขึ้นมาในหัว เงาขนาดใหญ่ก็โผบินขึ้นสู่ท้องฟ้า

 

 

มังกรเหล็กหนีขึ้นไปในอากาศด้วยความเร็วสูง มันหลีกเลี่ยงการโจมตีโดยตรงแต่เปลวไฟที่แม้แต่จะละลายเหล็กได้ก็ทำได้แค่สร้างรอยและเขม่าควันบนร่างกายของมันเท่านั้นเองและมีส่วนที่หลอมละลายไปด้วยนิดๆหน่อยๆ

 

 

「บ้าเอ้ย!」

 

 

「ไอ้หมอนี่!」

 

 

ไอริสและซีน่ายิงกระสุนเวทย์และศรเวทย์ออกไปที่มังกรเหล็กกำลังโบยบิน แต่มังกรนั้นว่องไวเหมือนกับนกหลบหลีกการโจมตีได้อย่างง่ายดาย

 

 

มังกรบินขึ้นไปสูงอีกครั้งและพุ่งลงมาอีกรอบ คราวนี้มันยิงกระสุนแสงเข้าไปทางโนโซมุอย่างรวดเร็ว

 

 

「แย่แล้ว!」

 

 

「โนโซมุคุง!」

 

 

ไอริสและคนอื่นๆกำลังยิงธนูและเวทย์ใส่มังกรที่บินอยู่ก็หยุดทันทีและวางบาเรียเวทย์เพื่อป้องกันการโจมตีกระสุนแสงของมัน

 

 

การระเบิดของกระสุนแสงทำให้บาเรียเวทย์ของไอริสและซีน่าแตกออกราวกับเศษกระดาษและการระเบิดนั้นก็ไม่สามารถป้องกันผลกระทบที่เข้าสู่ร่างกายได้เลย

 

 

「อั่ก!!」

 

 

「ไอริส! ซีน่า!」

 

 

ไอริสและซีน่าปลิวไปขณะที่กระแทกไปกับพื้น เสียงครวญครางนั่นมันทะลุเข้ามาในใจของเขา มังกรเหล็กยังคงยิงกระสุนแสงใส่โนโซมุต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

 

 

「จงตอบสนองต่อความปราถนาของข้าผู้พิทักษ์จากทั่วทุกด้านเอ๋ย จงปฏิเสธทุกสิ่งที่เข้ามาหาตัวข้าและเพื่อนพ้อง ด้วยวงแหวนเวทย์เหล่านั้น!」

 

 

เสียงร่ายเวทย์ของทิม่าดังก้อง

 

 

รอบตัวเธอมีวงเวทย์สี่เหลี่ยมสี่สีและบาเรียก็ปรากฏขึ้นห้อมล้อมเพื่อนๆทั้งหมด กระสุนแสงนั่นถูกปิดกั้นด้วบบาเรียเหล่านั้นและระเบิดออกไป

 

 

เวทมนตร์“สวนกล่องสี่ทิศ(四廻の箱庭)”

 

 

เวทย์บาเรียที่มีพลังป้องกันสูงสุดในบรรดาเวทย์ของทิม่า

 

 

คล้ายกับเวทย์ “ผนึกสี่ทิศ(四廻の封縛陣)”ที่ใช้ตอนสู้กับรูกาโต้แต่เป็นสเกลที่ใหญ่กว่า มีเพียงไม่กี่คนในทวีปที่สามารถใช้เวทย์นี้ได้

 

 

ดังที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้พลังป้องกันของมันสามารถป้องกันกระสุนแสงที่พุ่งเข้ามาได้

 

 

อย่างไรก็ตาม……。

 

 

「กูอ่อก……!」

 

 

ทิม่ากัดฟันแน่นกับการโจมตีอันหนักหน่วงของมัน วงเวทย์ที่กางออกเริ่มไม่มั่นคงและเกิดแสงสว่างและวูบดับบ่อยครั้งจนมันพร่ามัวเกือบจะหายไปจนหมด

 

 

เวทย์บาเรียที่ขยายขอบเขตออกไปนั้นมันเป็นเวทย์ขั้นสูงแถมยังควบคุมได้ยาก นอกจากนี้เวทย์นี่แทบจะสุดความสามารถของเธอเลยก็ว่าได้ สำหรับเธอแล้วเธอมีปัญหาในการควบคุมพลังเวทย์มันเป็นเวทย์ที่ยากมากสำหรับเธอ การจะคงสภาพเวทย์ไว้เป็นไปได้ค่อนข้างยาก

 

 

นอกจากนี้ราวกับจะกดดันเธอหนักไปอีก มันปล่อยกระสุนแสงออกมาอีกครั้งและพุ่งเข้าไปที่บาเรีย

 

 

「อ๊าาาาาาาาาาาาาาา!」

 

 

ทิม่าร้องออกมาอย่างทุกข์ทรมาน

 

 

กระสุนแสงที่มีพลังทำลายน้อยกว่าก่อนหน้านี้ แต่โจมตีไม่มีเว้นช่วง มังกรเหล็กยังคงรักษาระดับความสูงของมันและยิงกระสุนอย่างต่อเนื่อง

 

 

เม็ดฝนห่ากระสุนโปรยปรายลงมา ทิม่าถูกต้อนให้จนมุมอย่างรวดเร็ว

 

 

และทิม่าก็ถึงขีดจำกัดจากการโดนกดดันอย่างต่อเนื่อง

 

 

「ฮึกกกก……!」

 

 

เวทย์บาเรียแตกเป็นเสี่ยงๆอีกครั้งด้วยเสียงระเบิดดังก้องกังวาน ในเวลาเดียวกันทิม่าก็ทรุดลงทันที

 

 

มังกรเหล็กไม่ได้สนใจทิม่าและยิงกระสุนแสงเข้าหาโนโซมุอย่างไม่ลดละราวกับว่าเป้าหมายมันมีหนึ่งเดียว

 

 

「อึก…ทุกคน! สร้างวงเวทย์รอบโนโซมุเร็วเข้า! ในเวลาเดียวกันก็รีบสร้างบาเรียขึ้นมา! ป้องกันโนโซมุจากทุกทิศทางซะ」

 

 

ทันทีที่ทิม่าสั่งการไอริสและคนอื่นๆก็ลงมือทันที

 

 

เมื่อมาร์อุ้มทิม่าที่ล้มลงและหาอาจารย์นอร์ฯ แต่ละคนก็เริ่มรวมตัวเป็นวงกลมและสร้างบาเรียล้อมรอบโนโซมุอย่างสุดความสามารถ โดยไม่ปล่อยให้กระสุนเหล่านั้นเล็ดลอดมาได้

 

 

「อั่ก!」

 

 

「หนอยยยยยย!」

 

 

「อืมมมมมมมมม~~!」

 

 

ประกายไฟระเบิดออกอย่างรวดเร็ว และความกดดันก็พุ่งเข้าใส่บาเรียที่ถูกสร้างขึ้น

 

 

ไอริสครวญครางออกมาและแขนพวกเขาก็สั่นทุกครั้งที่โดนแรงกระแทกเหล่านั้น

 

 

ไอริสและคนอื่นๆต่างกัดฟันแน่นและอดทนต่อลมหายใจที่ยังถูกปล่อยออกมาต่อไป อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่เคยพูดคำว่า “หนี”ออกมาเลยแม้แต่ครั้งเดียวและพยายามรักษาบาเรียเอาไว้

 

 

「ทุกคน ผมสบายดีรีบๆพาทิม่าและคนอื่นๆหนีไปเถอะ! ถ้าเข้าไปในป่าน่าจะรอด!」

 

 

โนโซมุร้องขอให้ทุกคนหนีไป เห็นได้ชัดว่ามันเล็งโนโซมุคนเดียวและตัดสินใจให้คนอื่นๆหนีไป หากเขาอยู่ตัวคนเดียวก็ไม่ต้องมาเป็นภาระให้คนอื่นๆ เขาทนไม่ได้ที่ต้องเห็นพวกพ้องต้องบาดเจ็บเพราะตัวเอง

 

 

แน่นอนแม้ว่าโนโซมุจะสู้ได้แต่ก็ไม่มีโอกาสชนะเลย

 

 

แผลฉีกขาดทั่วทั้งร่างกายและสูญเสียเลือดจำนวนมาก เป็นร่างกายที่แค่ยืนยังลำบาก

 

 

นอกจากนี้มันยังบินอยู่บนท้องฟ้าตลอดเวลา ดาบของโนโซมุไปไม่ถึงมังกรที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า และถ้าเขาสู้ทั้งๆแบบนี้ ก็ไม่น่าจะรอดอยู่ดี

 

 

「หา! ขอชกสักหมัดได้ปะ!?」

 

 

「ทิมาอาจจะทำได้แต่มันก็เป็นไปไม่ได้หรอก ตอนนี้ถ้าบาเรียพังละก็โนโซมุตายแน่!ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากอดทนต่อไป」

 

 

「ถ้างั้นก็ต้องทนต่อไป! ไอ้กิ้งก่ามีปีกนี่มันตื้อชะมัด!」

 

 

อย่างไรก็ตามไอริสและคนอื่นๆเพิกเฉยต่อคำพูดของโนโซมุและปกป้องเขาต่อไป

 

 

ความคิดต่างๆไหลเข้ามาในอกของพวกเขาขณะป้องกันกระสุนที่ร่วงหล่นลงมา

 

 

ดาบเล่มนั้นที่โหยหา ตัวเขาที่ช่วยจิตวิญญาณของฉัน ตัวฉันที่มีน้องสาวแสนรัก เขาช่วยน้องสาวและเพื่อนรักของฉัน เขาช่วยฉันโดยเสียสละตัวเองทั้งๆที่โดยคำพูดแย่ๆมากมาย เขาให้โอกาสฉันกับเพื่อนสนิท ตัวฉันที่อยากรู้อยากเห็นในเรื่องของเขา ดังนั้นเมื่อยามต่อสู้ก็ยิ่งสงสัยมากขึ้นไปอีก ไม่อยากให้เขาเสียเพื่อนคนแรก ยังอยากให้เขาอยู่เคียงข้างฉัน ฉันอยากจะเป็นพลังให้กับเขา

 

 

ความคิดซับซ้อนภายในใจก่อตัวขึ้น พันเป็นเกลียวจนไม่สามารถถ่ายทอดมันออกมาในคราวเดียวได้

 

 

อย่างไรก็ตามมีความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัวของฉัน ฉันต้องการปกป้องแผ่นหลังของเขาและเดินเคียงข้างเขาอีกครั้ง

 

 

ด้วยความคิดเช่นนี้จึงจ้องมองมังกรที่อยู่บนฟากฟ้า

 

 

「ไอ้นั่นมันตัวอะไรฟะ เอาแต่หนีอยู่ได้!?」

 

 

「อย่ามาพูดบ้าๆนะ! จะให้ทิ้งโนโซมุไปน่ะเหรอ……มาอีกแล้ว!」

 

 

มาร์พูดแบบนั้นกับซีน่าในทันที

 

 

การแสดงออกทางสีหน้าของไอริสที่ยังอดทนอย่างสิ้นหวังนั้นแข็งแกร่งและไม่รู้สึกถึงความรู้สึกอะไรเลย แต่พวกเขาก็พยายามรักษาขวัญกำลังใจของกันและกันขณะที่เปล่งเสียงออกมาด้วยความสิ้นหวัง

 

 

「หนอยยยย……」

 

 

ใบหน้าของโนโซมุบิดเบี้ยวจากความเจ็บปวดที่เห็นเพื่อนๆต้องทุกข์ทรมาน

 

 

ทันใดนั้นเมื่อโนโซมุมองไปด้านข้างก็เห็นโซเมียมาอยู่ข้างๆเขา

 

 

「โซเมียจัง อย่างน้อยก็ขอแค่เธอ……」

 

 

「อาจารย์นอร์น! หนูควรจะทำยังไงดีคะ!?」

 

 

อย่างน้อยแค่เธอคนเดียว…เมื่อคิดเช่นนั้นโนโซมุก็พยายามบอกให้โซเมียหนีไป

 

 

แต่คำพูดของเขาก็โดนเสียงโซเมียกลบไปหมด

 

 

「จับโนโซมุไว้ไม่ให้ขยับ ถ้าขยับตัวได้จะไม่ดีต่อตัวเขาและทำให้การรักษาไม่ราบรื่น」

 

 

「ค่า!」

 

 

โซเมียเข้ามาจับร่างของโนโซมุไว้ทันที

 

 

นอร์นรีบรักษาต่อไปขณะที่เห็นสภาพของโซเมียที่เปื้อนเลือด เวทย์รักษาช่วยหยุดอาการเลือดไหลจากพื้นที่ไม่ได้ถูกพันผ้าพันแผลไว้

 

 

「คุณโนโซมุอยู่นิ่งๆเลยนะคะ ไม่งั้นเดี๋ยวตีเลย!」

 

 

「โซเมียจัง ทำไมล่ะ……」

 

 

「แม้ว่าหนูพยายามจะเรียนเวทย์ทั้งหมดแล้ว แต่ก็ยังสู้แบบพี่สาวไม่ได้หรอกค่ะ มันน่าหงุดหงิดและน่าเศร้า แต่การยืนอยู่ข้างๆคุณก็เป็นเพียงแค่สิ่งกีดขวางอย่างน้อยก็ต้องทำสิ่งที่ทำได้ในตอนนี้……」

 

 

มือของเธอที่จับร่างกายผมเริ่มส่องแสงจางๆ ในขณะเดียวกันความเจ็บปวดก็ค่อยๆลดลงจากร่างกายของโนโซมุ เป็นเวทย์รักษาขั้นต้น

 

 

เสียงคำรามยังคงดังก้องไปทั่วแต่เธอไม่สนใจและมุ่งเน้นไปที่การรักษาแผล แม้ว่าจะไม่ได้ดีเด่นอะไรก็ตาม

 

 

โซเมียพยายามอย่างสุดความสามารถในสถานการณ์เช่นนี้ บางทีเพราะเป็นพี่น้องกัน การแสดงออกของพวกเธอเลยเหมือนๆกัน

 

 

โนโซมุรู้สึกเหมือนโดนดึงดูดโดยทั้งสองคนที่แสดงความจริงใจออกมา ซึ่งเขาไม่สามารถต้านทานมันได้เลย

 

 

ในขณะนั้นเองเสียงระเบิดก็ดังขึ้น

 

 

「คิย๊าาาาาาาาาาา!」

 

 

「หนอยยยย!」

 

 

ร่างเล็กๆของมิมุรุปลิวไปตามแรงระเบิดที่ไม่สามารถป้องกันได้ มาร์วิ่งตามไปอุดรูรั่วตรงมิมุรุทันที

 

 

「เป็นไรมากไหม!?」

 

 

「อะอืม ไม่เป็นไร! มาร์คุงละ!?」

 

 

「ทนได้อีกสักพัก! ถ้าแย่ก็มาช่วยผลัดกันหน่อย!」

 

 

มาร์และมิมุรุซึ่งเดิมทีไม่เก่งเรื่องเวทย์ พยายามป้องกันกระสุนลมหายใจด้วยการผลัดเปลี่ยนกัน

 

 

ไอริส ใช้บาเรียหลายชั้นทันที และฟีโอก็เอายันต์ออกมาเพื่อสร้างบาเรีย ทอมยังคงใช้ตัวเสริมปฏิกิริยาเร่งผลของบาเรียเอาไว้ และอันริพยายามลดภาระทุกคนด้วยการสร้างบาเรียคลุมพื้นที่แม้จะไม่ใหญ่เท่าทิม่าก็ตาม

 

 

「อึกกกกก!」

 

 

「โอวววววววววว!」

 

 

「โฮววววววว!」

 

 

เสียงคำรามดังขึ้นและแสงมากมายก็ปรากฏขึ้น ทุกครั้งที่กระสุนแสงนั่นตกลงมาที่บาเรียดินจะกระเด็นและกระแทกเข้าปกคลุมไอริส

 

 

บางคนปลิวไปตามแรงระเบิดและไม่สามารถกันกระสุนแสงที่ตกลงมาได้ แต่พวกเขาก็พยายามสร้างบาเรียเวทย์ต่อไปและช่วยกันผลัดกัน

 

 

โนโซมุราวกับว่าหน้าอกกำลังเจ็บปวด

 

 

ไม่รู้ว่าทำไมมังกรที่เคยเป็นซากศพมันเล็งมาที่ผม แต่สำหรับโนโซมุที่เพิ่งฟันพวกไอริสไป แต่มันก็เล็งมาที่ผมคนเดียวที่บาดเจ็บจากการต่อสู้ มันเหมือนกับกำลังจะเผาไหม้ร่างกายนี้ด้วยไฟทั้งเป็น

 

 

「ทำไมล่ะ ทำไมทุกคนถึงไม่หนีไป?!」

 

 

เสียงร้องอันโศกเศร้าของโนโซมุถูกกลั่นออกมาจากจิตวิญญาณ

 

 

「คุณโนโซมุ……」

 

 

「จะหนีไปก็ได้……。แค่ทิ้งผมไว้และวิ่งหนีไปซะ……」

 

 

โซเมียที่วางมือบนไหล่โนโซมุและใช้เวทย์รักษากำลังจ้องมองเขาด้วยความรู้สึกเอ่อล้น และหยดน้ำตาก็ไหลออกมาจากแววตาของเขา

 

 

ไม่ว่าเทียแมทจะสร้างภาพหลอนให้กับเขามากแค่ไหน พวกเขาก็ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับเขา

 

 

แน่นอนว่าโนโซมุเองก็มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบ แต่ตัวเขาเองก็พยายามหนีแรงกดดันจากเทียแมทให้มากที่สุด รู้สึกว่าต้องรับผิดชอบต่อสถานการณ์ในตอนนี้เป็นพิเศษ

 

 

「อั่ก……」

 

 

「โนโซมุคุง……」

 

 

และก็ล้มลงไปอีกครั้ง น้ำตาไหลไม่หยุดและหลังจากนั้นดวงตาที่เปล่งประกายดั่งดวงดาวก็มีหยดน้ำตามากมาย

 

 

การแสดงออกของไอริสและคนอื่นๆยังคงปรากฏต่อหน้าเขามันบีบคั้นหัวใจของเขามากเข้าไปอีก อย่างไรก็ตามในขณะเดียวกัน ความรู้สึกเสียใจและอยากกลับใจก็ผุดขึ้นที่อกของเขา

 

 

「คึกกก!」

 

 

「ไอริสดิน่า! เป็นอะไรไหม!?」

 

 

「อาา! ทนต่อไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว!」

 

 

ด้านหลังของไอริสมีเหล่าสหายที่ปลิวไปที่ทะลุผ่านอุปสรรคมากมาย แต่ก็อดทนด้วยการกัดฟันแน่น เสียงของการต่อสู้มาถึงหูของพวกเขา

 

 

เสียงและรูปลักษณ์เริ่มผุดขึ้นและความคิดที่เริ่มผุดขึ้นมาทีละนิดละหน่อยค่อยๆแทรกซึมเข้าไปในจิตใจเนื่องจากความกลัว ความเสียใจ และความวิตกกังวล

 

 

「อาหหหหห์!!」

 

 

「อ้าว ผลัดกันได้แล้ว! มาร์ไปพักก่อน!」

 

 

「ขอโทษนะมิมุรุ ขอเวลาสักครู่!」

 

 

แทนที่จะเป็นมาร์ที่ถึงขีดจำกัดของการรักษาบาเรียเอาไว้ และมิมุรุกำลังไปเติมแทนนั้นเอง

 

 

「ฟีโอคุง… ไม่เป็นไรน้า~?」

 

 

「ข้าน้อยบ่เป็นไรดอก! แต่ว่าถ้ามากกว่านี้มันอันตรายเน้อกระเป๋าตังข้าน้อยได้เป็นรูพุนแน่ๆ……อาจารย์อันริฝากด้วยเน้อ!」

 

 

「ขอโทษน้า~。ตอนนี้เค้าเองก็วุ่นง่า~。เพราะงั้นเรื่องเงินเดือนอาจารย์ก็ช็อตเหมือนกัน~、เพราะงั้นหาทางออกด้วยตัวเองน้า~」

 

 

ฟีโอร้องไห้กับการใช้ยันต์ราคาแพงจำนวนมากออกไป ยันต์กระดาษค่อนข้างมีราคาแพงเพราะผ่านพิธีกรรมพิเศษมา

 

 

แน่นอนว่าเรากำลังพยายามใช้เทคนิคของตัวเองเพื่อมาทดแทนค่าใช้จ่ายเหล่านั้น แม้จะได้รับค่าตอบแทนแต่การใช้ยันต์ไปจำนวนมากก็ทำให้ฟีโอหมดเงินมหาศาล

 

 

「พูดอะไรกันนะ! เงินเดือนอาจารย์น่าจะสูงกว่าพวกอัศวินไม่ใช่เหรอไง! ซีน่า มาร์! ฝากด้วยนะ! ถ้าเสียอีกมากกว่านี้ละก็เดือนนี้ข้าน้อยกินแกลบแหงๆ!」

 

 

「ซีน่า!ทางนั้นไม่เป็นไรนะ!?」

 

 

「ไม่เป็นไรแล้ว ตอนนี้มีอีกคนที่มาเสียสละแทนได้น่ะ!」

 

 

「เดี๋ยว! เห้ยๆ!? เดี๋ยวเถอะ!? ข้าน้อยจะอดตายเอาน้าาา!? อย่างแรกเลยใช้พลังเวทย์เพื่อใช้วิชาและตอนนี้ถึงขีดจำกัดแล้วนะ!」

 

 

ซีน่าและมาร์ฟังคำโอดครวญของฟีโออย่างเฉยเมย เขารับฟังข้อเสนอของฟีโอแบบหูทวนลม และมุ่งไปปกป้องทางด้านหลังของโนโซมุ

 

 

ความคิดค่อยๆเริ่มแทรกซึมและทำให้เริ่มปวดหัว

 

 

「ผม ผม……」

 

 

ความอบอุ่นที่ด้านหน้าอก เมื่อเขารู้สึกถึงความอบอุ่นเหล่านั้นโนโซมุก็ตระหนักได้ว่าอารมณ์ที่ผุดขึ้นมานั้นเป็นความสุข

 

 

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ไอริสและเพื่อนๆของเขาพยายามปกป้องตัวเองด้วยดาบของตัวเองทั้งสิ้น

 

 

ความรู้สึกนั้นทำให้โนโซมุตระหนักว่าคำพูดที่พวกเขาพูดว่า “อยากจะเป็นเพื่อนกับนายอีกครัง”ยังคงสถิตย์อยู่ในตัวพวกเขา

 

 

หากพวกเขาไม่คิดว่าโนโซมุเป็นเพื่อน เขาก็คงไม่ต้องลงทุนสู้กับสัตว์ประหลาดขนาดนี้

 

 

ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยเหงื่อและคราบสกปรกมากมายและเสื้อผ้าก็ขาดวิ่น ตัวพวกเขาเองก็กระแทกบินไปตามลมหลายครั้งเห็นได้ว่ามีบาดแผลเต็มไปทั่วไปหมด แต่พวกเขาก็ยังคงยืนหยัดและปกป้องโนโซมุ

 

 

ไม่ใช่เพราะหน้าที่ ใบหน้าที่สิ้นหวังและไม่หยุดความคิดเหล่านั้น เพราะผมคิดว่ามันมาจากใจจริง

 

 

แม้ว่าจะจำความรู้สึกเหล่านั้นได้ แต่ความพยายามอย่างหนักของพวกไอริสและคนอื่นๆยังคงสร้างความร้อนระอุใจให้โนโซมุ

 

 

ความร้อนที่สะสมในใจทำให้หัวใจของโนโซมุลุกเป็นไฟและเริ่มเผาไหม้บางอย่างที่ยึดติดในใจเขา

 

 

พวกเพื่อนๆที่กำลังจริงจังจนถึงตอนนี้ยังพูดคุยกันอย่างสนุกนานแลกเปลี่ยนคำมากมายมากกว่าพันๆคำ

 

 

ไม่ว่าจะพูดอะไรยังไงนายก็เป็นเพื่อนของเรา

 

 

โนโซมุที่โดดเดี่ยวมาตลอด ได้รับคำพูดเพียงแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

 

 

「อะ! อาจารย์นอร์นผมขอขยับร่างกายเต็มกำลังจะได้ไหมครับ!?」

 

 

ท่าทางของนอร์นนั้นประหลาดใจและหยุดนิ่งกับคำพูดของโนโซมุ

 

 

ไม่น่าแปลกใจเลย ร่างกายของโนโซมุในวันนี้เจ็บหนักมากต้องนอนบนเตียงเพื่อพักผ่อน

 

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดาบที่แทงทะลุแขนซ้ายยังคงติดอยู่ และหากดึงมันออกมาทางอ้อมอาจจะทำให้หลอดเลือดแดงเสียหายและทำให้เลือดออกมาก

 

 

หากเสียเลือดจำนวนมากในคราวเดียว จะทำให้เกิดอาการช็อคได้ หากทำไม่ดีชีวิตโนโซมุจะตกอยู่ในอันตราย

 

 

มันเป็นไปไม่ได้ที่จะต่อสู้อีกครั้ง และมันเป็นเรื่องที่ฉันยอมให้ไม่ได้กับคนไข้ของฉันเอง

 

 

「นี่…นายรู้สภาพของตัวเองไหมเนี่ย!? น้ำตาและกล้ามเนื้อที่แตกร้าวไปทั้งตัว ปริมาณเลือดที่เสียไปจากดาบที่เจาะที่แขนซ้ายมันเมินไม่ได้เลยนะ! เหนือสิ่งอื่นใดหากปล่อยพลังเทียแมทต่อจากนี้ มันพยายามกลืนกินนายอีกแน่!」

 

 

ใช่ เหนือสิ่งอื่นใด ถ้าโนโซมุปลดปล่อยพันธนาการ เทียแมทจะเข้ามายึดร่างเขาอีกครั้ง สถานการณ์นี้จะเป็นไปตามจุดประสงค์ของมันอย่างชัดเจนคือการชุบชีวิตตัวเองขึ้นมาและพยายามทำลายโนโซมุจากภายใน

 

 

「นายคิดจะทำลายความรู้สึกของไอริสยังงั้นเหรอ!?」

 

 

ขณะที่นอร์นดุว่าโนโซมุส่ายหัวช้าๆเพื่อปฏิเสธคำพูดของเธอ

 

 

ผมไม่มีความตั้งใจจะทำแบบนั้น ผมไม่ต้องการเช่นนั้น อย่างไรก็ตามผมต้องการตอบสนองต่อความคิดต่อบุคคลที่เชื่อมั่นในตัวผม

 

 

「……ไม่หรอกครับ ไม่ใช่แบบนั้น เพราะไม่อยากทำร้ายความรู้สึกของเธอไปมากกว่านี้ ผมเลยต้องทำมันและจบเรื่องราวนี้ลง!」

 

 

ไอริสพยายามปกป้องผมอย่างสุดชีวิตแม้จะรู้ตัวว่าอาจจะตายได้

 

 

ผมต้องการตอบสนองความรู้สึกที่พวกเขาส่งมาให้ผม ผมอยากบอกกับพวกเขาว่า “อยากจะเป็นเพื่อนกันอีกครั้ง”

 

 

โนโซมุวางมือลงบนดาบที่แทงแขนซ้ายและดึงมันออกมา

 

 

「อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก………!」

 

 

เสียงตะโกนและดาบที่ถูกดึงออกมาและเลือดไหลออกมาจำนวนมาก

 

 

 

 

โชคดีหลอดเลือดแดงไม่เสียหายแต่นอร์นและโซเมียพยายามรักษาแผลให้ทันที

 

 

「ผมหนีมาตลอดเวลา และมันยังคงเป็นแบบนั้นต่อไป ทุกคนกลับเข้าหาผม แต่ผมกลัวและไม่อยากจะเชื่อใจใคร ดังนั้นเลยเบือนหน้าหนีมาตลอด……」

 

 

เมื่อมองดูบาดแผลที่ค่อยๆสมานตัวโนโซมุมองลงมาที่ตัวเอง ผมหนีอีกแล้ว กลัวการอยู่คนเดียว หัวใจที่หวาดกลัวและหวาดหวั่น

 

 

แม้ว่าจะเป็นคนขี้ขลาดถึงขนาดนี้ แต่ทุกคนก็ยังอยากจะเป็นเพื่อนกับผม

 

 

ผมไม่รู้หรอกว่าทุกคนทำลายภาพลวงตาของมันได้ยังไง และสิ่งที่เขาได้ยินตอนที่ถูกเทียแมทแทรกแซง ผมได้ยินพวกเขาเรียกชื่อผม

 

 

ผมสามารถกลับมาได้หากพวกเขาเรียกหาผมอีกครั้ง

 

 

จนถึงตอนนี้ผมละเลยสิ่งรอบข้างและแม้ว่าจะรู้ว่ากำลังหนี ผมก็ไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าเพราะความรู้สึกที่กดทับมันอยู่……。

 

 

「แต่ผมเองก็อยากจะจบมันเหมือนกัน และอยากจะยืนเคียงข้างทุกคนอีกครั้ง……」

 

 

「คุณโนโซมุ……」

 

 

โซเมียรู้สึกทึ่งกับดวงตาของโนโซมุที่จับจ้องไป นอร์นเองก็มองเขาแบบเงียบๆ

 

 

「อึก……!」

 

 

ครั้งนั้นเองทิม่าที่หมดสติก็ตื่นขึ้นมา

 

 

เธอได้สติและมีสีหน้าเฉยเมย อย่างไรก็ตามสติค่อยๆชัดเจนขึ้นและเข้าใจสถานการณ์รอบข้าง

 

 

「อะ!ต้องรีบไปช่วยทุกคนแล้ว!」

 

 

ทิม่าพยายามกลับไปแนวหน้าและมือเปื้อนเลือดของโนโซมุก็จับไหล่เธอเอาไว้

 

 

「โนโซมุคุง……?」

 

 

「มีเรื่องอยากจะขอครับ…อยากจะให้ช่วยหน่อย」

 

 

เมื่อมองตรงไปยังทิม่า นอร์น และโซเมีย โนโซมุแสดงความตั้งใจจริงอีกครั้งที่อยากจะ “ยืนเคียงข้าง” ทุกคน ขณะที่ไอริสและคนอื่นๆก็แสดงให้ผมเห็นแล้ว

 

 

◇◆◇

 

 

ไอริสและเพื่อนๆพยายามป้องกันโนโซมุจากมังกรเหล็ก แต่พวกเขาก็ถูกเริ่มต้อนให้จนมุมเพราะไม่สามารถโต้กลับได้เลย

 

 

ฝ่ายตรงข้ามบินอยู่สูงมากและยิงกระสุนแสงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้แต่ป้องกัน

 

 

ตราบใดที่ฝ่ายตรงข้ามอยู่บนท้องฟ้า วิธีเดียวที่จะจัดการก็คือเวทย์หรือธนูของซีน่า และคู่ต่อสู้คือมังกรแห่งความตายที่ฟื้นคืนชีพมาในร่างของจักรกล ทำให้โจมตีไม่ได้ประสิทธิภาพมากนัก

 

 

ถ้าทิม่าไม่หมดสติไป เธออาจจะจัดการมันด้วยเวทย์ซึ่งเธอเองก็มีคุณสมบัติของนักเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปนี้ก็ว่าได้ คาดได้ว่าอาจจะได้ผลกับมัน ผิวของมันโดย “ภัยพิบัติแห่งลางร้าย”จนเป็นรอยไหม้และเหลวแหลก

 

 

อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่พวกเขาไม่สามารถโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็ไม่มีทางเลือกนอกจากตั้งรับ

 

「อั่ก!」

 

「ไม่เป็นไรนะ ไอ้หมาจิ้งจอก!」

 

「แน่นอนอยู่แล่ว! ข้าน้อยเสียเงินไปมากเท่าใดแล้วน้อจากการต่อสู้ครั้งนี้!? ไม่ว่าจะเป็นมังกร วิญญาณ หรือปีศาจก็เข้ามาเลย!」

 

ฟีโอไม่สนใจและยังคงสร้างบาเรียต่อไปด้วยยันต์ของเขา

 

 

เขานำยันต์ออกมาห้าใบและสร้างบาเรียขึ้นมาใหม่ตรงกันข้ามกับน้ำเสียงแสนเศร้าของเขา อาจจะเป็นเพราะกระเป๋าตังถูกถลุงครั้งใหญ่

 

「ถ้ากลับบ้านได้ จะยอมแพ้กับเรื่องเมื่อวานให้ก็ได้ฟะ แทนคำขอโทษเลี้ยงไม่อั้น!」

 

「เอาจริง! ถ้างั้นข้าน้อยก็ขอหมูย่างที่ปรุงด้วยเครื่องเทศทางใต้ และเหล้าวาฬจากทางทิศตะวันออกและตะวันตก……」

 

「เห้ย อย่าเยอะนักสิวะ! อย่างน้อยก็สั่งของในร้านตรูหน่อยเหอะ!」

 

มาร์และฟีโอยังคงอยู่ในสถานการณ์คับขัน แต่พวกเขาก็ยังยิงมุขใส่กัน

 

 

อาจเป็นเพราะเคยต่อสู้กับมังกรมาแล้ว มาร์ก็เลยไม่ค่อยกังวลอะไรมากนัก และเมื่ออยู่ในสถานการณ์ลำบาก เขาก็ยังมีจิตวิญญาณนักสู้ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสู้ในสถานการณ์แบบนี้

 

 

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ฟีโอขอมันมีราคาแพงพอสมควรในเมืองอาร์คาซัม ถ้าตามทั่วไปแล้ว ถ้ายอมรับคำขอของฟีโอ กระเป๋าเงินของมาร์ก็แฟ่บแน่ๆ มันจะเป็นความฟุ่มเฟือยครั้งใหญ่

 

 

 

「อั่ก…มิมุรุอย่าหักโหมมากเกินไปนะ! ถ้ามันลำบากละก็ให้มาร์เข้ามาแทนที่เลย!」

 

「รู้แล้วละน่า! ไม่ต้องห่วงหรอกนะทอม」

 

「แฮ่ก แฮ่ก …แล้วจะเอาไง? ทางไหนก็จนไปหมด?」

 

「หลังจากที่นอร์นรักษาโนโซมุเสร็จ จะแยกตัวเข้าไปในป่า! ฉัน ซีน่า และ อาจารย์อันริ จะเป็นตัวหลัก!?」

 

「แน่นอนจ้า~。ไม่เป็นไรหรอกน้า ฝากอาจารย์ได้เลย~」

 

ทอมและมิมุรุคุยกัน ไอริสและคนอื่นๆตัดสินสถานการณ์อย่างใจเย็นและคิดเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปและพยายามดำเนินการ

 

 

การต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งซ้ำแล้วซ้ำเล่าอาจส่งเสริมการเติบโตทางด้านจิตใจของพวกเขา ในสถานการณ์ตึงเครียด แต่ไม่มีใครยอมแพ้และแสดงท่าทีสงบนิ่ง

 

 

 

อย่างไรก็ตาม นั่นก็ถึงขีดจำกัดเช่นกัน

 

 

บางทีฉันอาจจะเหนื่อยกับมัน แสงที่แรงกว่าเล็ดลอดเข้ามาจากปากของมังกร ในเวลาเดียวกันสี่เหลี่ยมดาวหกแฉกก็ปรากฏขึ้นหน้ามังกร โฟโตสเฟียร์ส่องแสงประกายปรากฏขึ้นตรงกลาง

 

 

อนุภาคของแสงที่หายใจอย่างต่อเนื่องส่องประกายอยู่ด้านหน้ามังกรเหล็ก และกลายเป็นกระสุนขนาดใหญ่ ขนาดของมันใหญ่กว่าหัวของมังกรหลายเท่า

 

 

 

「แย่แล้ว! ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม!」

 

 

 

พร้อมกับเสียงของไอริสทุกคนตั้งท่าถ่ายพลังเวทย์ไปที่บาเรียอย่างสุดกำลัง บาเรียส่องสว่างเจิดจ้า

 

 

วินาทีถัดมากระสุนลูกใหญ่ก็ยิงมาทางไอริส

 

 

มวลแสงมหาศาลตกลงมาจากฟากฟ้าราวกับอุกาบาตที่พุ่งชนโลกในชั่วพริบตา มันกระจัดกระจายส่งเสียงและแสงวูบวาบมากมาย และทำลายบาเรียเวทย์ของไอริสด้วยพลังทั้งหมดในทันที

 

「คิย๊าาาาาาาาา!」

 

「อั่ก!」

 

ไอริสและคนอื่นๆปลิวไปกับแรงระเบิด พลังเวทย์ของพวกเขาถูกทำลายจนหมดและทำให้พวกเขาล้มลงบนพื้น ราวกับว่าทุกอย่างถูกตัดสิน

 

「บ้าเอ้ย!!」

 

ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังลุกขึ้นมาได้

 

 

มังกรเหล็กที่เห็นได้จากบนท้องฟ้า มันส่องแสงท่ามกลางแสงจันทร์เหมือนผู้ส่งสารจากพระเจ้า ไม่ใช่สัตว์อสูรน่าเกลียด

 

 

ปากของมังกรเริ่มเปล่งแสงอีกครั้ง ไอริสพยายามสร้างบาเรียขึ้นอีก แต่พวกเขาก็ถึงขีดจำกัดแล้วกับการต่อสู้กับมังกรแห่งความตายและโนโซมุ

 

 

ฉันลุกขึ้นมาและพยายามใช้บาเรีย แต่มือที่ยื่นออกไปก็ห้อยลงอย่างช้าๆและมันก็เริ่มคลุมเครือเหมือนหมอกปรากฏขึ้นในหัว เท้าของฉันไม่รู้สึกถึงอะไรอีกต่อไป

 

 

 

「กร๊าซซซซซซซซซซซซ……」

 

มังกรยืดอกและสูดลมหายใจเข้าลึกๆไอริสและคนอื่นๆพยุงร่างของตัวเองอย่างสิ้นหวัง แต่นั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาทำได้ในตอนนี้

 

 

ในขณะนั้นกระสุนแสงก็ถูกยิงออกมาและมีบางอย่างพุ่งเข้าหาไอริสด้วยความเร็วสูง

 

「กาซาสสสสสสสสสสสสสสส!」

 

「เอ๋え?」

 

「อะไรน่ะ!?」

 

ก้อมลมที่ไหลเป็นเส้นตรงไปยังมังกรเหล็กที่บินอยู่บนท้องฟ้ามันเป็น “มวลลมพัดผ่าน”ที่ถูกบีดอัดจนถึงขีดสุด มังกรที่กำลังพ่นลมหายใจออกมา และในวินาทีต่อมามวลอากาศก็ขยายออกอย่างรวดเร็วและเข้าโจมตีมังกร

 

 

รูปปั้นมังกรที่สูญเสียการทรงตัวจากการระเบิดของมวลลม ตกลงสู่พื้นพร้อมกับคร่ำคราวญ

 

 

ไอริสและซีน่าตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อตอนที่ฉันกำลังหมดแรง ฉันไม่สามารถพยุงร่างกายได้ในที่สุดและเกือบจะล้มลง

 

 

อย่างไรก็ตามมีใครบางคนมาพยุงร่างของฉันเอาไว้ ซึ่งกำลังจะล้มลง

 

 

 

「ขอบคุณนะทั้งสองคน……」

 

「เอ๋……」

 

เสียงที่อ่อนโยนตรงกันข้ามกับสนามรบที่กำลังเต็มไปด้วยเสียงดัง

 

 

เมื่อจู่ๆฉันก็เปล่งเสียงออกไป ไอริสและซีน่าก็เห็นโนโซมุพุ่งเขามาในสายตา

 

 

 

「กร๊าซซซซซซซซซซซซ!」

 

มังกรที่ตกมาจากความสูงกระแทกลงกับพื้น เพราะเวทย์ของทิม่า และเมื่อมันตั้งท่าได้ก็พยายามจะบินขึ้น

 

 

ในสายตาของมังกรมันเห็นโนโซมุวิ่งมาหาพวกเรา ห่างจากเพื่อนของพวกเขา

 

 

หลังจากยืนยันเป้าหมายที่มีลำดับสำคัญสูงสุด มังกรก็ตัดสินใจโจมตีเต็มกำลังทันที มันสร้างโฟโตสเฟียร์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่สามารถสร้างขึ้นมาได้

 

 

 

「แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก……」

 

โนโซมุยังคงวิ่งต่อไปอย่างเต็มกำลัง

 

 

วงกลมเวทย์ถูกสร้างขึ้นและโฟโตสเฟียร์ที่ใหญ่กว่าเมื่อก่อนก็ปรากฏขึ้นมา

 

 

การโจมตีที่ทุ่มเทด้วยกระสุนลมหายใจ แต่ไม่ว่ามันจะเคลื่อนไหวยังไง โนโซมุก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะอีกฝ่ายบินอยู่

 

 

แต่ว่ามันก็ไม่ได้ไร้ความหมายเสมอไป

 

 

นั่นเป็นเหตุผลที่ขอให้ทิม่าทำให้มันบินต่ำๆ

 

 

เงื่อนไขเดียวที่เหลืออยู่ก็คือสิ่งที่โนโซมุต้องทำ

 

 

เขาสัมผัสห่วงโซ่ที่มองไม่เห็นที่ผูกมัดพลังและเทียแมทเอาไว้ หากลบล้างมันออกมา ฉากนั้นก็จะย้อนกลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง เมืองอาร์คาซัมที่ลุกไหม้ กลิ่นแห่งความตาย มันจะเข้ามาแทรกแซงโนโซมุอย่างแน่นอน แต่ว่า……。

 

 

โนโซมุมองไปที่ไอริสและคนอื่นๆที่อยู่ด้านหลังเขา

 

 

พวกเขาไม่เคยละทิ้งเขาเลย แม้ว่าจะเป็นเหมือนการฆ่าตัวตายก็ตามที

 

 

แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว

 

 

เหมือนกับตอนที่ผมต่อสู้กับอาจารย์ครั้งสุดท้าย ก้าวไปข้างหน้าเพื่อเริ่มความสัมพันธ์ครั้งใหม่

 

 

หลังจากได้พบเจอกับพวกเขา ก็ปลดพันธนาการของตัวเองออกมา

 

 

 

「อั่กกกกกกกก!」

 

ความเจ็บปวดจำนวนมากวิ่งไปทั่วทั้งร่างกายที่กำลังแตกสลาย และเลือดก็เริ่มไหลออกมาอีกครั้ง

 

 

ป่าที่แผ่ไปทางด้านหน้าหายไปและโลกที่แผดเผาอยู่ตรงหน้าก็เผยกลับมา

 

 

 

「ฮ่าฮ่า…หลังจากนั้นทั้งหมด」

 

ฉากฝันร้ายแพร่กระจายไปทั่วอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม โนโซมุพึมพำเพื่อไม่ให้ถูกหลอกหลอนอีกต่อไป

 

 

เขาทำเป็นมองไม่เห็นต่อฉากตรงหน้า จ้องมองท้องฟ้าที่มืดมิดด้วยประกายไฟและพูดออกไป และเขายังคงไม่รู้ว่าจะสื่อไปถึงมันไหม……。

 

“อย่างที่คิดแกนี่มันเลวจริงๆ……”

 

เสียงของเขาสะท้อนออกมาจากความว่างเปล่า โนโซมุมั่นใจว่ากำลังจ้องมองตัวเองอยู่

 

 

ขณะที่บีบฝ่ามือที่เปียกโชก ผมพูดกับเทียแมทที่มองมาที่ผม

 

 

 

「ผมจะไม่ยอมโดนภาพลวงตาของแกหลอกอีกต่อไปแล้ว อย่างน้อยเวลานี้ก็ช่วยๆเงียบหน่อยได้ไหมวะ!」

 

แรงกดดันจากเทียแมทเพิ่มขึ้นราวกับประกาศสงครามกับโนโซมุ ในเวลาเดียวกัน โลกทั้งใบก็ส่งเสียงดังเอี๊ยดและสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของโนโซมุก็ถูกบีบจนถึงขีดสุด

 

 

กระดูกสันหลังแข็งราวกับถูกหอกน้ำแข็งแทง เหงื่อเย็นไหลออกมาพร้อมกัน

 

 

วินาทีถัดมา ความเจ็บปวดก็เข้าแทรกแซง เทียแมทพยายามยึดร่างของเขา ขณะที่หมอบลงและก้ม โนโซมุพยายามขัดขืนมันอย่างเต็มที่

 

 

 

「บ้าเอ้ยยยยยยยยยยยย!」

 

“ครั้งนี้แหละเจ้าจะต้องแหลกสลาย……”

 

「อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!」

 

เสียงกรีดร้องของโนโซมุก้องกังวานอยู่ในเมืองที่ถูกทำลาย

 

 

ความตายรูปแบบต่างๆไหลเวียนเข้ามาในหัว ทั้งหมดอยู่ในอ้อมมือของเขา

 

 

ร่างของโนโซมุที่ฟันไอริส

 

 

ร่างของโนโซมุที่แทงทะลุซีน่า

 

 

ร่างของมาร์ที่ถูกบดขยี้กะโหลก

 

 

ร่างของโนโซมุที่เปลี่ยนร่างของอันริกลายเป็นเศษเนื้อ

 

 

และร่างของลิซ่าที่โดนโนโซมุบีบคอ

 

 

ภาพนั้นเข้าแทรกในร่างของโนโซมุซ้ำแล้วซ้ำเล่า วนเวียนอยู่ในหัวของเขา

 

「อะ! อั่ก! อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก!!」

 

โนโซมุทนอยู่ในความทุกข์ทรมานเพราะเขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป ถึงกระนั้นก็ยังต่อต้านต่อไป และจิตใจก็ค่อยๆว่างเปล่า

 

“ทุกคน……”

 

 

 

ชั่วขณะหนึ่งก็มีเสียงสะท้อนอยู่ในหัวของเขา

 

 

สถานที่ๆกลับไปเป็นตัวของตัวเองได้ ฟื้นขึ้นมาต่อหน้าผมในเวลานั้น สถานที่ๆได้รับอนุญาตให้กลับไป

 

 

ในขณะนั้นเองโนโซมุก็ได้ยินเสียงหยดน้ำดังขึ้นในความมืดมิด

 

 

เสียงนั่นแผ่ซ่านดังไปทั่วราวกับอยู่ในถ้ำมันสะท้อนซ้ำแล้วซ้ำเล่า และในขณะเดียวกันจิตสำนึกของโนโซมุก็กลับมา

 

「อั่ก! ไม่กลัวหรอก! แกน่ะ!!」

 

“ัอั่ก!”

 

โนโซมุตะโกนและกระแทกศีรษะลงกับพื้น ราวกับว่ากำลังสัมผัสกับภาพแห่งความตาย

 

 

แสงสว่างวาบมาตรงหน้าของผม ความเจ็บปวดทื่อๆวิ่งเข้ามาและในขณะเดียวกันก็รู้ตัวแล้วว่าหลุดพ้นการแทรกแซงของเทียแมท

 

“ไม่จริงน่า! ทำไมถึงสลัดการแทรกแซงของข้าได้!”

 

เสียงอันน่าหงุดหงิดของเทียแมทที่ได้ยินเป็นครั้งแรก

 

 

ขณะนั้นที่เลือดไหลทั่วหน้าผาก โนโซมุจ้องมองไปที่ซากปรักหักพังตรงหน้ามัน

 

 

นี่คือเมืองอาร์คาซัมจอมปลอม เป็นโลกที่สร้างขึ้นมาของมันเพื่อทำลายโนโซมุ

 

 

จากนั้นเขาทำลายโลกใบนี้และขับไล่การแทรกแซงของเทียแมทจริงๆ ตอนนี้เขามีสิ่งที่เขาต้องทำ

 

 

โนโซมุยกมือขวาขึ้นและหายใจออกมา และตัดสินใจเจาะหน้าอกของตัวเอง

 

 

 

「กัฟฟู!」

 

โนโซมุหลับตาและค้นหาตัวเองต่อไป พ่นเลือดออกจากปากของเขา

 

 

รู้สึกเหมือนกำลังตกลงไปในหุบเหวที่มองไม่เห็นไปยังก้นบึ้งของความมืด

 

 

ลึกลงไป ลึกขึ้นไปอีก โนโซมุดำดิ่งสู่นรกอันไร้สิ้นสุด

 

 

เมื่อตกลงมาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตกลงมาลึกแค่ไหน แต่ก็มีแสงทรงกลมเล็กๆปรากฏขึ้นต่อหน้าผม

 

 

ลูกบอลที่ส่องประกายแสงห้าสีผสมกัน ราวกับเป็นตัวแทนแห่งความโกลาหล ไม่ต้องสงสัยเลยมันเป็นพลังของเทียแมทที่โนโซมุเข้ามาในร่างของมัน

 

 

โนโซมุค่อยๆดึงมีดออกจากอก โฟโตสเฟียร์ส่องแสงสว่างเจิดจ้าในมือของเขา

 

“นั่นมันหรือว่า…แก!!”

 

เขาบีบโฟโตสเฟียร์ด้วยมือขวา

 

 

แสงห้าสีส่องจากหมัดโอบรอบแขนเขา ทำให้แขนของโนโซมุแน่นขึ้น

 

 

 

「โอววววววววววววววววววว!」

 

เขาทุบมือขวาลงที่พื้น

 

 

วินาทีแสงห้าสีที่วุ่นวายก็พุ่งขึ้นมาจากแขนที่ผมต่อยลงไปที่พื้น

 

 

ทุกสิ่งที่กระแสแสงกระทบเข้าจะกลับคืนสู่เถ้าถ่าน

 

 

เกิดรอยร้าวบนท้องฟ้าซี่งเป็นประกายไฟและเปลือกนอกก็ยุบตัวลงเหมือนกับหลุดออกมา และอาร์คาซัมจอมปลอมก็พังทลาย

 

 

ในขณะที่โลกที่เทียแมทสร้างขึ้นพังทลายหายไปเพราะแสงทั้งห้า โนโซมุมองตรงไปข้างหน้าและออกวิ่งไปสุดกำลัง กระโดดข้ามรอยแยกของโลกที่แตกร้าว

 

ข้างหน้านั้นเป็นโลกแห่งความเป็นจริงที่สามารถเห็นมังกรเหล็กทะยานอยู่บนท้องฟ้า

 

 

ข้างหน้ามังกรเหล็กมีกระสุนขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นมาส่องแสงระยิบระยับรอเวลาที่ปลดปล่อย

 

「กร๊าซซซซซซซซซซซ!」

 

จากนั้น กระสุนแสงขนาดใหญ่ถูกปล่อยออกมาพร้อมกับเสียงคำรามของมังกรเหล็ก

 

 

ลูกกระสุนปืนใหญ่แสง ใหญ่กว่าตัวโนโซมุ ฉีกผ่านชั้นบรรยากาศและเข้าใกล้เหมือนอุกกาบาต

 

 

 

「อึก!!」

 

การปลดพันธนาการสิ้นสุดลง ไม่มีวี่แววจะถูกแทรกแซง

 

 

โนโซมุอัดพลังทั้งหมดลงไปที่ดาบของเขา ดึงครึ่งตัวของเขาแล้วยกขึ้นเพื่อให้ดาบแทงเข้าไปและตัดมันออกเป็นวงกลม

 

คิ“พัดใบบัว(扇帆蓮)”

 

วินาทีถัดมาฟิล์มทรงกลมขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้นมาไล่ตามวิถึดาบที่เจียระไน

 

 

มันเป็นบาเรียที่สร้างขึ้นด้วยแรงป้องกันสูงสุด? ขณะที่ไอริสและคนอื่นๆกำลังจ้องมองกระสุนลมหายใจก็ชนเข้ากับกำแพงคิที่สร้างขึ้น

 

 

ในเวลานั้นคินั้นโค้งงอเหมือนกับใบเรือที่รับลม และได้รับกระสุนของมันและห่อมันไว้

 

 

 

「โอววววววววววววววว!」

 

โนโซมุยกมือขวาขึ้นและกระแทกหมัดเข้าไปในกระสุนลมหายใจของมังกร

 

 

จากนั้นกระสุนลมหายใจที่โค้งงอและคิที่เป็นตัวซับพลังไว้ก็โค้งเป็นดั่งคันธนูและลูกธนู

 

 

กระสุนลมหายใจถูกยิงกลับเข้าหามังกร

 

 

บางทีไม่คิดว่าจะโดนสวนกลับมา มังกรไม่สามารถหลบเหตุการณ์กระทันหันได้และถูกกระสุนลมหายใจของตัวเองกลืนกิน

 

「กร๊าซซซซซซซซซซซ!」

 

เสียงคำรามดังก้องไปทั่ว

 

 

มังกรที่ปรากฏตัวผ่านควันที่ระเบิดออกได้รับบาดเจ็บหนัก

 

 

เกราะสีเงินขาวที่ปกคลุมผิวหนังนั้นหลุดออก และแสงสีน้ำเงินที่เต้นเหมือนหัวใจรั่วไหลออกมาจากท่อที่แผ่ออกไปราวกับเส้นเลือดทางด้านหลัง

 

 

ตาข้างหนึ่งถูกบดขยี้ไปและไม่ส่องแสง และปีกที่เหมือนมัดดาบก็เกิดรอยแตกไปทั่ว

 

 

 

「กร๊าซซซซซซซซซซซ!」

 

ถึงกระนั้นมันยังไม่ยอมแพ้และใช้กรามยักษ์เป็นอาวุธพุ่งเข้าหาโนโซมุ

 

 

มันพยายามจะบดขยี้โนโซมุด้วยร่างกายของตัวเอง

 

 

โนโซมุและมังกรจ้องตากัน ดวงตาของมันที่ฉายแสงสีฟ้าแทนที่จะเป็นสีขาวขุ่น บอกโนโซมุว่ามันยังมีเจตจำนงของตัวเองอยู่

 

 

 

「ฟู่……」

 

โนโซมุวางดาบที่เขาดึงออกมาจากฝักและถอนหายใจ จากนั้นก็คิที่อัดลงไปในดาบก็สลายไปในทันใด

 

 

ไอริสและคนอื่นๆต่างร้อนรนกับท่าทีของโนโซมุที่เปลี่ยนไป

 

 

อากาศจำนวนมากยังคงไหลเวียน แต่มันช่างลึกลับ เขาไม่หวาดกลัวกับมันเลยแม้แต่น้อย

 

 

เขายังคงตั้งสมาธิกับโลหะขนาดใหญ่ที่พุ่งเข้าหาเขาด้วยความตั้งใจที่ไร้ซึ่งความหมกมุ่นอีกต่อไป

 

 

 

「โนโซมุ!」

 

「อา!!」

 

หากไม่ทำอะไรจะโดนโลหะนั่นกดทับ! ไอริสตะโกนก้อง ดวงตาของโนโซมุก็เบิกออก

 

 

ในเวลานั้นเองคิก็ถูกอัดแน่นไปที่ดาบจนถึงขีดสุดและปลดปล่อยไปที่มังกรเหล็ก

 

 

โนโซมุปลดปล่อยคลื่นที่หนาแน่นราวกับกำแพงสีดำที่เข้ามาใกล้ ด้วยดาบที่รู้สึกได้ถึงแรงกดดันมหาศาล นั่นคือพลังของเทียแมทที่ได้รับมาอย่างแท้จริง

 

 

พลังอันล้นหลามถูกย้อมเป็นสีห้าสีและกระแทกเข้ากับมังกรเหล็ก

 

 

โนโซมุที่ปลดปล่อยคมดาบอันแรงมหาศาลก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับกระแทกเท้าขวาลงไป

 

 

เท้าขวาเสริมพลังอย่างยิ่งจนเหยียบพื้นดินจนเป็นรอยเท้า

 

 

ขณะที่เชื่อมกล้ามเนื้อทั่วร่างและเคลื่อนไหวโดยไม่สูญเปล่า แม้แต่การเสริมความแข็งแกร่งยังเชื่อมต่อกันทั่วทั้งร่าง

 

 

ร่างกายของมนุษย์ที่ประสานเป็นหนึ่งเดียว มนุษย์ที่สามารถระเบิดคิออกมาและควบคุมโดยประสานมันเข้ากับร่างกายได้อย่างเสถียร

 

 

นอกจากนี้ยังใช้พลังคิขั้นสุดที่ใช้กล้ามเนื้อผสานกัน พลังนั้นวัดไม่ได้เลย

 

 

อย่างไรก็ตามคิที่ปกคลุมทั่วทั้งร่างกายและการเคลื่อนไหวของพวกมันซับซ้อนเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะเชื่อมโยงกล้ามเนื้อได้มากขึ้น แต่ก็เป็นไปไม่ได้ตามปกติที่จะเคลื่อนไหวพร้อมกับควบคุมคิให้เป็นไปตามต้องการ แม้แต่การเชื่อมโยงร่างกายและจิตใจยังเข้าท่ากัน

 

 

อย่างไรก็ตามสมาธิของเขาถูกเร่งจนถึงขีดสุดของร่างกายจนทำให้มันเป็นไปได้

 

 

ในโลกนี้สำหรับเขาภาพตรงหน้ามันเฉื่อยชาเป็นภาพสโลว์โมชั่นภายใต้สมาธิที่เด้งไปถึงขีดสุด โนโซมุเคลื่อนไหวโดยไร้ซึ่งความสูญเปล่า

 

 

เสียงแตกของกล้ามเนื้อที่ดังเปรี๊ยะๆก้องยู่ในหูของโนโซมุ

 

 

ร่างกายของโนโซมุบอบบางเกินจะรับพลังของเทียแมทไหว ร่างกายมันมาถึงขีดจำกัดอย่างง่ายดาย และขอบเขตการมองเห็นก็มืดลง

 

 

 

「ย๊ากกกกกกกกกก!!」

 

ในความรู้สึกมัวหมองโนโซมุพยายามปลดปล่อยคิพร้อมกับกัดริมฝีปากแน่น

 

 

เทคนิคที่ดีที่สุดที่สืบทอดมาจากอาจารย์

 

 

เสริมความแข็งแกร่งให้ทุกการเคลื่อนไหวให้เหมาะสมและยิงคลื่นระเบิดอันรุนแรงที่สุดที่ทำได้

 

 

ตามความประสงค์นั้นโนโซมุบีบอัดคิทั้งหมดลงในดาบ

 

 

แสงห้าสีหมุนวนอยู่และรวมตัวกันบนดาบของโนโซมุ

 

 

ดาบของโนโซมุเรืองแสงสีแดงพร้อมกับแสงที่วุ่นวายผสมปนเปกันไป เขาดึงดาบออกมาทันที มองไปยังมังกรเหล็กที่เข้ามาใกล้

 

「ย๊ากกกกกกกกกกกกกกห์!」

 

คิ“แฟนท่อม-ชั่วพริบตา-”

 

เทคนิคที่ดีที่สุดถูกปลดปล่อยออกมา

 

 

ดาบของโนโซมุระเบิดออกในขณะที่ดึงออกมาเพราะมันไม่สามารถต้านทานพลังของเทียแมทได้ อย่างไรก็ตาม ใบมีดพลังที่ถูกบีดอัดอย่างมากนั้นติดตามวิถีโคจรของแขนตามที่เป็นอยู่ และลอกเขี้ยวของมังกรออกไป

 

 

ดาบแห่งคิเข้ากัดกร่อนร่างกายของมังกรอย่างเงียบๆและดาบแห่งความโกลาหลก็เหวี่ยงไปมาราวกับแสงวูบวาบที่สาดส่องไปโดยไร้ซึ่งการต่อต้าน

 

 

นอกจากนี้ผลพวงจากพลังอันล้มหลามออกมาดาบนั้นหักและลบร่างของมังกรเหลือเพียงส่วนของคอ ขา และ ปีก ร่างของมังกรหายไปโดยสมบูรณ์โดยไม่เหลือแม้แต่ฝุ่น

 

 

เงียบไปชั่วครู่หนึ่ง โนโซมุยืนนิ่งต่อหน้าเศษซากขณะที่มีเสียงซากของมังกรที่กระทบลงพื้น

 

 

ดาบที่ไร้ใบมีดถูกใส่เข้าไปในฝักโดยมีเพียงด้ามเท่านั้น และโนโซมุก็หันกลับมาพร้อมกับโค้งคำนับ

 

 

สักการะซากศพมังกรที่ต่อสู้จนวาระสุดท้ายที่อยู่บนจุดสูงสุดของบรรดาสัตว์อสูร

 

 

ดวงตาของมังกรไม่ส่องแสงอีกต่อไป ยกย่องชายผู้ดุร้ายที่เอาชนะเขาได้

 

 

◇◆◇

คนสวมผ้าคลุมกำลังจ้องมองภาพที่สะท้อนอยู่ในโฟโตสเฟียร์ตรงหน้าเขา

 

「ไม่มีทาง หมอนั่นใช้พลังของเขาโดยตรงเลยงั้นเหรอ……」

 

คำพูดที่ในที่สุดก็ออกมาเป็นคำพูดแสนอัศจรรย์สำหรับโนโซมุที่ดึงพลังของเทียแมทออกมาได้โดยตรง

 

 

เวลาที่จะใช้พลังของเขาเป็นเพียงครู่เดียว ยิ่งกว่านั้น พลังนั่นยังเป็นเศษเสี้ยวของพลังทั้งหมดที่เขามี ถึงกระนั้นก็ยังเป็นความจริงที่น่าอัศจรรย์ที่มนุษย์คนๆเดียวจะควบคุมพลังนั่นได้อย่างมั่นคง

 

「นอกจากนี้ข้อเท็จจริงที่ว่าสลัดการแทรกแซงของเขาได้ ท้ายที่สุดการเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นขึ้นแล้ว……」

 

โนโซมุที่ยืนอยู่ก็ทรุดลงทันทีขณะจ้องมองไปที่บุคคลที่สวมผ้าคลุม

อย่างไรก็ตามการใช้พลังของเทียแมทเป็นภาระต่อร่างกายมากเกินไป เลือดจำนวนมากออกจากร่างกาย โดยเฉพาะแขนขวาที่ใช้เทคนิควาดดาบที่ถูกไฟไหม้

 

「อย่างไรก็ตามสถานการณ์คาดเดาไม่ได้ มันจำเป็นขนาดนั้นเลยเชียวรึ……」

 

บุคคลนิรนามนั่งสมาธิแตะคาง

 

 

ในขณะนี้เหมือนกับบรรลุวัตถุประสงค์บางอย่าง แต่ยังไม่สามารถกล่าวได้ว่าบรรลุทั้งหมดแล้ว

 

 

ในขณะนั้นเองก็มีบอลแสงเล็กๆปรากฏขึ้นบนหน้าเขา

 

 

ทรงกลมของแสงส่องสว่างเหมือนเปลวเทียน มันเป็นโฟโตสเฟียร์ที่ปรากฏขึ้นเมื่อศพถูกเปลี่ยนเป็นมังกรเหล็ก

 

 

 

「ขอบคุณสำหรับการทำงานอย่างหนัก ขอโทษที่ทำจนเกินไป……」

 

ชายสวมผ้าคลุมถือลูกบอลไฟด้วยมือทั้งสองข้าง พร้อมกับพูดกับมัน

 

“กร๊าซซซ……”

 

โฟโตสเฟียร์คำรามออกมา บอกว่า “ไม่ต้องกังวล”

 

 

มังกรพยายามเอาชีวิตรอดขณะที่มีเพื่อนทั้งหมดตายจากแม้ว่าอยากจะมีชีวิตอยู่ก็ตาม

 

 

อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้ว่าเขาตายไปแล้ว และไม่สามารถบอกได้เลยว่าคิดยังไงกับมังกรตัวนี้ ซึ่งเกิดจากความกระหาย การปรากฏตัวของมัน มันบอกว่าการพ่ายแพ้ของตัวเองเป็นที่น่าพอใจ

 

 

ชายสวมผ้าคลุมยิ้มที่ปากราวกับว่าจะขอบคุณเขา

 

 

 

「เอาล่ะ กลับบ้านเถอะนะ ไปหาเหล่าเพื่อนๆที่รอคอย……」

 

ในเวลาต่อมาวิญญาณมังกรแห่งความตายที่เขาเลี้ยงดูมาก็กระจัดกระจายไปและแตกออกกลายเป็นเม็ดแสงกระจายไปในอากาศ

 

 

ชั่วขณะหนึ่งอนุภาคของแสงที่บินออกไป ถูกลมพัดนำทางและหายไปในที่สุด

 

 

ฮู้ดนั่นถูกถอดออกมาเผยให้เห็นเคราสีขาวและผมหงอกภายใต้แสงจันทร์ รอยย่นที่แก้มเพื่อบอกเล่าเรื่องราวหลายปีที่สะสมมาและดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยปัญญาจะหันไปหาโนโซมุที่คาดการณ์ไว้อีกครั้ง

 

「อย่างที่คิดละสายตาจากเจ้าไม่ได้เลย มีข้อกังวลมากมาย ยังเร็วไปที่จะโล่งใจ……」

 

ชายชราจ้องมองโนโซมุด้วยท่าทีเคร่งขรึม

 

 

อย่างไรก็ตามเขาถอนหายใจออกด้วยความโล่งใจ และหน้าก็มีรอยย่น

 

「อย่างไรก็ตาม แม้จะชั่วขณะหนึ่ง เขาก็ควบคุมพลังและเอาชนะผู้พิทักษ์ได้…มังกรที่เป็นเปลือกนอกเอ๋ย ช่วงนี้ต้องบอกว่าสุดยอดมาก ข้าเองก็ทำกับเด็กคนนั้นเกินไป……」

 

ข้างหน้าของฉันคือเพื่อนของเขาที่กำลังวิ่งไปหาโนโซมุที่ร่วงหล่น ไม่ชายชราคนนั้น ซอนเน่ลบภาพที่ฉายไป และหันหลังกลับและออกจากสถานที่แห่งนี้ และคิดจะเลิกแอบดู

ใบหน้าที่สะท้อนผ่านแสงจันทร์ค่อนข้างพึงพอใจ

 

 

หายไปหลายวันก็ไปรักษาตัวมา ตอนนี้ยาวกว่าตอนที่แล้วมาก

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยนำบางส่วนมาจากนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

บทนำ

สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

เรื่องย่อ

สถาบันโซลมินาติ สถานที่ๆคนหนุ่มสาวจากทั่วทุกดินแดนจะมารวมตัวกันเพื่อต่อยอดความฝันและความหวังของตัวเอง ความทะเยอทะยาน สำหรับคนที่ไม่มีอะไรดีสักด้านนั้นจะถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามถูกปฏิบัติแบบไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมโดยสมบูรณ์

เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่ชั้นอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ข้า โนโซมุ เบลาตี้ ซึ่งอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนในช่วงพักกลางวัน

ข้ามาที่นี่เมื่อสองปีก่อน ออกมาจากบ้านเกิดกับเพื่อนสมัยเด็กสองคนเพื่อมายังที่แห่งนี้

คนแรกคือ เคน โนทิส เป็นเพื่อนที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ ลิซ่า เฮาวน์

สาวสวยผู้มีผมหางม้าสีแดง

เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตและเป็นคนรักของข้า

เธอเป็นคนที่เอาชนะคนอื่นได้เสมอ เธอเป็นเหมือนดั่งตัวร้ายที่คอยต่อต้านกับหัวหน้าหมู่บ้าน

ข้าพบกับเธอก็เมื่อตอนอายุ 8 ขวบ ตอนที่ข้ากำลังตกปลาในแม่น้ำใกล้หมู่บ้าน

「อะ เอ่อ อืม ว่างหรือเปล่า?」

เป็นตอนนั้นเองที่เธอเข้ามาพูดกับข้า

ผมสีแดงตัดสั้น ท่าทางที่ดูมั่นใจ ใบหน้าของข้าค่อยๆร้อนรุ่ม…ข้าตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น

พ่อแม่ของเธออาศัยอยู่ในดินแดนที่ห่างไกลออกไป แต่เมื่อพ่อของเธอเสียชีวิตระหว่างเดินทาง เธอจึงตัดสินใจที่จะตั้งถิ่นฐานที่บ้านเกิดของข้า

ตอนเธอยังเด็กมักจะเป็นเด็กที่ซุกซนและอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ข้าก็ไม่ได้รังเกียจอะไร และเธอไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ

แล้วก็เด็กที่ทำให้เธอผิดหวังมากที่สุดก็คือนายพลกาคิกับผมด้วยเหตุผลบางอย่าง

เมื่อสามปีก่อนข้าสารภาพรักกับเธอเพราะว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

รักแรกที่ข้าชอบมาตลอด

เธอตกใจมากกับการสารภาพรักที่กระทันหันของข้า แต่เธอก็ยอมรับข้าและร้องไห้ทั้งน้ำตา

ตอนนั้นเองข้าจึงตัดสินใจที่จะไปสถาบันโซลมินาติกับเธอเพื่อสนับสนุนความฝันของเธอให้เป็นจริง

มันเป็นแรงบัลดาลใจให้ข้า ความฝันของเธอที่บอกข้าตอนยังเด็ก

「ฉันน่ะอยากจะเห็นโลกที่หลากหลายเหมือนกับคุณพ่อ」

ข้ารู้ว่าเธออยากออกไปท่องโลกกว้างเพราะเธอได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นมาจากมารดาของเธอ

ตอนนั้นเองเป็นตอนที่ข้าตัดสินใจไปที่สถาบันโซลมินาติ

หากคนที่ตัวเองรักอยากทำความฝันให้เป็นจริง ข้าก็ควรจะสนับสนุน

ด้วยคำพูดเช่นนั้นข้าตัดสินใจว่าจะสนับสนุนเธอตลอดมา

เธอกอดข้าทั้งน้ำตาพร้อมกับบอกว่า「ขอบคุณนะ……ฉันดีใจจริงๆ」

ท่ามกลางการหลับกลางวันของข้าก็ได้ยินเสียงระฆังที่ส่งเสียงบอกเวลาว่าหมดเวลาพักกลางวันแล้ว

ข้าลุกขึ้นพร้อมกับบิดตัวด้วยความขี้เกียจพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังห้องเรียน

ถูกบังคับให้ไสหัวไปก็ตั้งหลายครั้ง ตัวข้าที่ไม่สามารถทำคำปฏิญาณนั่นได้

ชั้นเรียนของข้าคือ ชั้นเรียนที่สอง ระดับ 10 เป็นห้องที่ต่ำที่สุดในบรรดาชั้นเรียนที่สอง

ในหมู่พวกนั้นข้าเป็นคนที่อยู่ต่ำสุดเรียกได้ว่าเป็นพวกที่ห่วยของโครตห่วย

เมื่อข้าเข้ามาในชั้นเรียนก็โดนต้อนรับด้วยการหัวเราะเยาะเย้ยเป็นเรื่องปกติ

「ยังจะโผล่หัวมาอีกนะ ไอชั้นต่ำ」

「เมื่อไรมันจะหายๆไปสักทีวะ」

「หวังว่าจะลาออกไปไวๆน้า~」

เสียงที่ดูไร้หัวใจเหล่านั้นเสียดแทงเข้ามาในจิตใจของข้า ข้าทำได้แต่เมินต่อไปและนั่งลงบนเก้าอี้

เมื่อข้านั่งลงก็มีนักเรียนสามคนเข้ามาทางข้า

「แกจะมาทำไม ในเมื่อแกมาที่นี่มันก็ไร้ความหมายอยู่ดีไม่ใช่เหรอไงวะ ไอ้เศษเดนเอ้ย」

มาร์ที่ตัวค่อนข้างใหญ่พูดข่มขู่ข้า

「ยอมแพ้ไปสักทีเหอะวะแกไม่คิดว่ามันเสียเวลาชีวิตบ้างเหรอวะ」

「แกโดนแกล้งขนาดนี้ก็เหมาะกับแกดีนี่ เหมาะสมกับเศษสวะอย่างแก」

พวกนั้นก็ยังคงกรนด่าข้าไม่หยุด

「ช่ายๆ โดนเด็กผู้หญิงหัวแดงที่ท่าทางเหมือนเจ้าหญิงนั่นทิ้งแล้ว ไม่มีอะไรให้แกได้ฝันอีกต่อไปแล้วล่ะ」

พวกนั้นทั้งสามคนยังยืนหัวเราะและพยายามยั่วโมโหข้า ไม่มีใครคิดจะห้ามพวกมัน ในท้ายที่สุดพวกมันก็ไม่ยอมหยุดจนกระทั่งอาจารย์ประจำชั้นเข้ามาในห้อง

ใช่แล้วล่ะ ข้าถูกลิซ่าทิ้ง เธอน่ะเป็นนักเรียนห้อง 1 เลยนะ

ทันทีที่เธอทิ้งข้าไปหลังจากกล่าวลาไม่กี่คำ เธอก็ไม่เคยกลับมาพบข้าอีกเลย

ข้าไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ตั้งแต่นั้นมาเธอก็มองข้าเหมือนเศษสวะ

เป็นเพราะข้าเอาแต่สร้างปัญหายังงั้นเหรอ

ลิซ่าเป็นผู้หญิงที่ถูกขนานนามว่า “เจ้าหญิงผมแดง” เพราะหน้าตาและความสามารถ

ในทางกลับกันตัวข้าที่ไม่มีอะไรดีเด่นหน้าตาบ้านๆ

ตลอดช่วงที่ข้าคบกับเธอ เธอมักจะโดนรังควาญอยู่เสมอ บางทีการที่ข้าโดนทิ้งก็เพราะสร้างความยุ่งยากให้เธออยู่เสมอก็ได้

ข้านั้นไร้ซึ่งเพื่อนและกลายเป็นหมาหัวเน่า

ถึงกระนั้นข้าก็พยายามอยากหนักไม่ละเลยสิ่งต่างๆตามหน้าที่ของตน

สักวันหนึ่งถ้าข้าสามารถรักษาคำสาบานที่ให้ไว้ได้ละก็……….ข้าคิดเช่นนั้น

ในขณะเดียวกันนั้นเองเธอก็ไปคบกับเพื่อนสมัยเด็กที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

เธอดูมีความสุขราวกับเธอรักเขาจริงๆ

ในการฝึกซ้อมเป็นคู่พวกเธอสองคนเข้าขากันได้ดีมาก ข้าไม่มีที่ยืนเคียงข้าเธอเลย

ชั่วโมงที่สอง ในช่วงบ่าย

「เฮ้ออ!」

ด้านข้างของดาบจำลองนั่นถูกขว้างมาจากเครื่องยิงดาบจำลอง

เมื่อดาบจำลองที่ถูกยิงมาถูกปากลับไปและแทงเข้าไปที่คอของตุ๊กตา กลไกนั่นก็จะหยุดทำงานลง

หลังจากคาบบรรยายนี่ก็เป็นภาคฝึกปฏิบัติ

นอกจากสนามฝึกซ้อมแล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น สนามทดลองเวทมนตร์ในสถาบันแห่งนี้และนักเรียนที่สามารถศึกษาเรียนรู้ความสามารถของตนตามสถานที่ต่างๆ

สนามฝึกถูกแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่เพื่อให้นักเรียกจากหลายๆชั้นมาเรียนที่เดียวกันได้

วันนี้เป็นการฝึกการต่อสู้ระหว่างบุคคลและแต่ละคนก็จะได้ต่อสู้กับหุ่นยนต์ที่มีดาบจำลองเป็นคู่ซ้อมทำการต่อสู้แบบอิสระ โดยใส่พลังเวทย์เข้าไปเพื่อให้หุ่นยนต์นั้นทำงาน

อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์สำหรับพวกห้อง 10 นั้นมีคุณภาพแย่และเคลื่อนไหวได้แค่บางส่วน

「อืม ต่อไปจะเป็นการต่อสู้เป็นคู่ เลือกคู่หูได้ตามใจชอบ~」

เมื่ออาจารย์อันริ วาร์ อาจารย์ประจำชั้นของพวกห้อง 10 เรียกออกมา หุ่นยนต์ก็หยุดทำงาน ดังนั้นทุกๆคนก็หยุดและรอการจับคู่

อาจารย์อันริมีผมหยักสีน้ำตาล ดวงตาที่ดูสมวัยและใบหน้าที่ออกไปทางดูดีอย่างมาก

อย่างไรก็ตามอาจารย์คนนี้เป็นบุคคลที่ไม่เหมาะกับโรงเรียนแห่งคุณธรรมแห่งนี้เลยเพราะเขาชอบพูดและทำท่าทางแปลกๆราวกับคนบ้า

เรียกได้ว่าคนที่รับผิดชอบนักเรียนห้อง 10 ถูกโยนมาแบบทิ้งขว้างเลยก็ได้

อย่างไรก็ตามการที่เขาสามารถมาเป็นอาจารย์ได้ก็คงมีความสามารถพอตัว

ในที่สุดการจับคู่ก็ถูกตัดสินและแต่ละฝ่ายต่างเริ่มจำลองการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ของตัวเอง แต่ว่าคู่ต่อสู้ของข้าดันเป็น……。

「เอ่อ สำหรับแกแล้ว น่าเสียดายหน่อยนะ」

เป็นมาร์นั่นเองที่กรนด่าข้าเมื่อตอนบ่าย

「มาเริ่มกันเลยดีกว่า เพราะว่าเศษสวะอย่างแกจะทำให้ชั้นเสียเวลา」

มาร์ดึงดาบใหญ่ออกมาจากด้านหลัง

มาร์เป็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมา ความสามารถของเขานั่นของจริง ถึงอย่างนั้นก็ยังได้มาอยู่ในห้องห้อง 10 เช่นนี้เพราะชื่อเสียงแย่ๆนั่นละ

ผมเองก็ดึงดาบจำลองออกมาด้วยเช่นกัน

อาวุธของข้าเป็นดาบที่มาจากทางเกาะตะวันออก เรียกกันว่าคาตานะ เป็นดาบที่มีความคมเป็นอย่างมาก กล่าวได้ว่ามันสามารถตัดทุกอย่าไงได้หากใช้ได้อย่างชำนาญ

ยังไงก็ตาม มันใช้เทคนิตชั้นสูงและความหายากของมันเลยไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนัก

มันเป็นอาวุธที่เหมาะกับข้าที่สุด สำหรับข้าที่ไร้ซึ่งพลัง

「ถ้าอย่างงั้นละก็ เริ่มได้~~~」

การต่อสู้นั่นเต็มไปด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยจากท่าทางของอาจารย์อันริ

「โฮ่ย่าาาาาาาาาาาห์」

มาร์เหวี่ยงดาบใหญ่พร้อมตะโกนก้อง

ผมป้องกันการโจมตีด้วยคาตานะ

ดาบของมาร์ถูกเบี่ยงวิธีและมันก็ฟาดลงทีพื้น

「ฮ่าๆ!」

ก้าวเข้าไปหลังจากมาร์เปิดช่องว่างเล็งไปที่ต้นคอและพยายามจะเอาสันดาบทุบ

「สายไปละโว้ย!」

มาร์เอาถุงมือที่แขนปกป้องดาบของผมไว้ ดาบเลียนแบบที่ไม่มีความคมของดาบดั้งเดิมเหลืออยู่ก็ถูกป้องกันด้วยถุงมือนั่น

มาร์รุดหน้าเข้ามาพร้อมกับยกถุงมือขึ้นป้องกันการโจมตี แต่ข้าก็ก้มลงเพื่อหลบการโจมตี

ข้าพยายามจะโจมตีไปอีกรอบ แต่มาร์นั้นเหวี่ยงดาบใหญ่มาด้วยมือข้างเดียว

ข้าถูกบังคับให้ถอยและกลับไปตั้งหลักใหม่

มาร์ที่ฟาดดาบใหญ่จนพื้นแตกกระจายพยายามมองระหว่างข้าและดาบใหญ่ของมันเอง……。

「อยากโดนหั่นเป็นชิ้นๆเหรอไงวะ」

มาร์พูดเช่นนั้นพร้อมกับรังสีกดดันที่เพิ่มมากขึ้น

“คิ”

เป็นสกิลของทางฝั่งตะวันออกที่จะเพิ่มพลังให้แก่ผู้ใช้งานให้เหนือขีดจำกัดยิ่งขึ้นไป

มาร์พุ่งเข้ามาในคราวเดียว ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นั่นละคือผลลัพธ์จากการใช้ คิ

ราวกับจะจับเหยื่อตรงหน้าฟาดดาบใหญ่นั่นลงมาในทีเดียว

ข้าเองก็ใช้ “คิ”เช่นกันเพื่อหลบการโจมตีของดาบใหญ่นั่น เสียงของเหล็กดังกระทบกันสนั่นหู

「เหอะ!ลังเลอยู่งั้นเหรอ」

มาร์ที่รู้สึกหงุดหงิดนั่นดูมีท่าทีลังเลจึงไม่สามารถจะตัดสินใจจบการโจมตีในทีเดียวได้

เขาดึงดาบใหญ่ที่จมลงไปบนพื้นและเริ่มที่จะฟันมันมาอีกครั้ง

เขาฟาดฟันดาบใหญ่ไปรอบๆด้วยเรี่ยวแรงอันมหาศาลจาก “คิ”

เสียงของเหล็กปะทะกันดังสนั่นไปทั่วบ่งบอกถึงการต่อสู้อันดุเดือด แต่ว่ามีฝ่ายเดียวที่ได้เปรียบ

การเสริมพลังกายของมาร์มีพละกำลังมากกว่าข้า แต่ผลของการเสริมพลังกายของข้าเองก็ได้ผลเพียงครึ่งเดียวด้วยความสามารถของข้า

มาร์มันเป็นคนเก่งแต่เพราะทำแต่เรื่องแย่ๆเลยได้มาอยู่ในห้อง 10

ในทางตรงกันข้ามแม้หมอนั่นจะมีความสามารถสูง แต่มาร์มันกลับพอใจที่จะกดขี่คนที่ต่ำกว่านั่นมันโครตจะแย่

เทคนิคดาบชั้นสูงของมาร์ไม่สามารถใช้จัดการกับโนโซมุตามปกติได้ แต่ว่าพลังกายของโนโซมุที่ได้รับการเสริมแบบครึ่งๆกลางๆมันก็พอเป็นไปได้

พลังที่ได้มานั่นทำให้พอฟัดพอเหวี่ยงกับดาบของโจรสลัดเท่านั้นเอง

「แหลกไปซะเหอะมึง!!」

บางทีอาจจะเป็นเพราะข้าโดนกดดันจนถูกบดขยี้ในพริบตา แต่ว่าข้าก็กันการโจมตีนั่นได้ยิ่งทำให้มาร์มันหงุดหงิดจนพละกำลังมันเพิ่มมากขึ้นไปอีก

「เหอะ คิดว่าจะบดขยี้ข้าได้ง่ายๆงั้นเหรอ!」

ข้ากัดฟันแน่นเพื่อที่จะไม่เดินไปตามเกมส์ของศัตรู

แม้ว่าพลังในการโจมตีจะเพิ่มขึ้น แต่การโจมตีของมันก็ซ้ำซากและจำเจ ทำให้รับมือได้ไม่ยากเย็น

อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถสวนกลับได้ทำได้เพียงแค่ยื้อเท่านั้น

และถ้าโต้กลับไม่ได้ผลมันก็รู้ๆกันอยู่

ในที่สุดก็มาถึงขีดจำกัด

ข้าไม่สามารถรับการโจมตีของมาร์ได้อีกต่อไป การป้องกันของข้าถูกทำลายลงและไม่มีเวลามาตั้งท่าใหม่ ตอนนั้นเองทีข้าถูกดาบใหญ่นั่นฟาดเข้ามากระแทกกับคาตานะของข้าจนกระเด็น

「จะเหนียวได้สักแค่ไหนกันเชียววะ!」

รูปร่างของข้าบิดเบี้ยวเพราะการโจมตีนั่น ข้าตัวกระเด็นจนตัวไปกระแทกกับกำแพงของสนามฝึกซ้อม

ผลกระทบนั่นทำให้ข้าหายใจติดขัดและการมองเห็นของข้าก็มืดดับลง

「เป็นแค่เศษสวะแท้ๆ แต่ยังกล้าขัดขืน โดนดีไปซะเหอะมึง」

ข้าหมดสติไปพรัอมกับคำพูดของมาร์

「โอ้ยยยย เจ็บแหะ!」

ข้าลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับสติที่พร่ามัวลุกขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดไปทั้งตัว

ข้าก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องพยาบาล

「เอ้าๆ รู้สึกตัวแล้วไม่ใช่เหรอไงเนี่ย?」

ผู้หญิงสวมชุดโค้ทสีขาวพร้อมกับใส่แว่นนั่นกำลังทำงานอยู่บนโต๊ะพยาบาล

ชื่อของเธอคือนอร์น อัลทิน่า เป็นหมอประจำโรงเรียนที่สวยเอามากๆ

เธอเดินมาทางนี้และขยับนิ้วมาตรงหน้าผมเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกาย

「อืมม ดูจากสภาพแล้วสติยังคงดีอยู่ แล้วรู้สึกปวดตรงไหนบ้างรึเปล่า?」

「ข้าปวดหลังนิดหน่อยและหัวเองก็ยังคงมึนๆ แต่ว่าไม่มีตรงไหนผิดปกติแล้วล่ะ」

「อืมมเข้าใจแล้ว ฉันทายาไปที่หลังของนายแล้วล่ะ แต่ถ้ารู้สึกเจ็บหรือปวดตรงไหนก็มาได้ตลอดเวลานะ มันจะดีกว่านะที่มาหาฉันมากกว่าที่จะทนเจ็บกับบาดแผลนั่น」


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท