แอนนาพยักหน้า
ภายใต้การจัดเตรียมของมาร์วินพวกกองกำลังทั้งหมดของเขาจะได้รับการอพยพออกจากเมืองริเวอร์ชอว์ การป้องกันของเมืองริเวอร์ชอว์ค่อนข้างแน่นหนาแต่ก็ยังมีส่วนที่หละหลวมอยู่บ้าง มีเส้นทางลับที่คนทั่วๆไปสามารถเข้าไปได้ อันที่จริงมาร์วินได้ซื้อข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางหลบหนีลับจากสถานกอบลินเเก่ก่อนที่หน่วยลาดตระเวนจะรีบกลับจากท่าเรือเมื่อคืนวานนี้
หลังจากการกวาดล้างมอนเตอร์กัดกร่อนที่เคยอยู่ในท่อระบายน้ำในตอนเหนือของเมืองหน่วยลาดตระเวนไม่ได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับสถานที่นี้มากนักซึ่งเป็นผลให้ส่วนที่มีอุโมงค์มีพื้นที่เพียงพอสำหรับผู้ใหญ่ที่จะเข้าหรือออกจากเมืองได้ หอคอยสีดำของเบนได้เข้าควบคุมเส้นทางดังกล่าวนี้ เขาและมาร์วินทำงานร่วมกันและทำให้ยามของมาร์วินสามารถออกจากริมฝั่งแม่น้ำได้
พวกเขาแบกสัมภาระที่มีน้ำหนักเบาและสะดวกสบายแต่มีของมีค่าอยู่ภายในและเดินกลับไปที่หมู่บ้านสีเขียวและที่อื่นๆ มาร์วินและแอนนาไม่ตั้งคำถามถึงความจงรักภักดีของพวกเขาโดยเฉพาะภายใต้การนำของอังเดร กองทหารเหล่านี้พึ่งพาได้มาก
…
“การทำแบบนั้นเป็นเรื่องที่อันตรายเกินไป!” แอนนาดุมาร์วิน “ข้ารู้ว่าท่านเกลียดเขา เขาฆ่าลอร์ดและสมควรตาย แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากพ่อมดหาเราเจอหล่ะ? “
พ่อบ้านครึ่งเอลฟ์เป็นกังวลมาก แอนนาเองได้นำลูกสาวของมิโรกลับบ้านเมื่อเช้านี้ เป็นผลให้แต่ละสมาคมใหญ่ให้ความสนใจกับหน้ากากมีดคู่ในช่วงบ่ายวันนี้ มันค่อนข้างที่จะชัดเจนหลังจากประสบปัญหานี้ครอบครัวของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเมืองก็เพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น
“ไม่น่า”. มาร์วินหัวเราะเบา ๆ
เขาไม่ได้อธิบายอะไรมากนักคนในยุคนี้ยังคงนับถือพ่อมด พวกเขาตามกลุ่มนี้ทั้งหมดปกครองโลกในยุคนี้ นี่เป็นเหตุผลที่เมืองริเวอร์ชอว์มีระบบการรักษาความปลอดภัยที่ดี แต่นั่นก็มีอยู่แล้วในอดีต มาร์วินจำได้อย่างชัดเจนว่าบรรดาพ่อมดทั้งหมดจะสูญเสียความสามารถของตนไปในช่วงหกเดือนก่อนการเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่
นี่เป็นสัญญาณเตือนแต่พ่อมดไม่ใส่ใจ หลังจากนั้นการทำนายทั้งหมดใช้เพียงเเค่เพื่อหากินเท่านั้น เหตุผลที่แท้จริงคือพระเจ้าแห่งกาลเวลาจะได้รับพลังเวทมนตร์จากบ่อเวทมนต์จักรวาล สิ่งที่เกิดขึ้นจะเริ่มเชื่อมต่อกับการทำนาย พระเจ้าได้เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว เป็นเพราะเหตุนี้มาร์วินจึงกล้าที่จะเดิมพัน เขารู้ว่าพวกพ่อมดไม่สามารถหาเขาเจอได้ นั่นคือความเป็นจริง
ส่วนเรื่องมิโรเขาเป็นคนที่มีส่วนช่วยในการระบุตัวตนของมาร์วิน หน่วยลาดตระเวนย้ายออกไปเนื่องจากใบแสดงสิทธิที่เขียนด้วยลายมือของเขา เขาไม่สามารถปรากฏตัวออกมาได้ เขาจะใช้กองกำลังบางส่วนเพื่อแอบตรวจสอบ เพียงเเต่ว่ามาร์วินรู้สึกประหลาดใจบ้างเมื่อเดินไปหาข้อมูลในโรงเตี๊ยมเมื่อตอนเที่ยง เขาได้ยินมาว่าหน่วยลาดตระเวนได้จับกุมผู้ศรัทธาลัทธิลัทธิได้ที่บริเวณท่าเรือ
“เห็นได้ชัดว่าพวกเขาแอบส่งสาวกถวายบูชาให้กับ [เทพเเห่งภัยพิบัติ] เเต่หน่วยลาดตระเวนเหล่านั้นมาขัดขวางไว้ทัน คนเหล่านั้นโชคไม่ดีจริงๆ
แน่นอนการส่งหน่วยลาดตระเวนไปยังท่าเรือเป็นส่วนหนึ่งในแผนของมาร์วิน แต่ใครจะคิดหล่ะว่าพวกเขาจับผู้ศรัทธาได้จริงๆแต่นี่ก็ทำให้มาร์วินได้รู้ว่าไม่ว่าจะเป็น [ลัทธิงูเเฝด] หรือ [เทพเเห่งภัยพิบัติ] ทั้งสองคนเริ่มมีบทบาทแล้วตอนนี้ นั่นหมายความว่ายุคของความวุ่นวายที่สุดกำลังจะเริ่มขึ้น!
ตอนนี้มาร์วินไม่สามารถหยุดพักได้ เขาต้องรีบฟื้นฟูหุบเขาริเวอร์ไวท์! แต่ก่อนหน้านั้นเขายังคงต้องทำหน้าที่เป็น “เหยื่อ” ของครอบครัวของเขาหลังจากการตายของมิลเลอร์มาร์วินจะเป็นญาติเพียงคนเดียวของเขา นั่นหมายความว่าเขาจะได้รับมรดกของมิลเลอร์ แต่มาร์วินรู้ดีว่าแม้ว่าเมืองหลวงจะส่งหนังสือแจ้งมา แต่มรดกส่วนใหญ่ของเขาจะถูกปล้นโดยพวกมันและเขาจะได้รับเพียงของเหลือเท่านั้น
‘คนเหล่านี้เจ้าเลห์ยิ่งนัก ข้าเดาว่าพวกเขาตั้งใจจะหาข้ออ้างที่จะบอกว่าบ้านของมิลเลอร์ถูกโจรปล้นไปหมดเเล้วหรือไม่ก้คงอ้างว่าถูกเผาจนหมด
…
ช่วงบ่ายมาร์วินเปลี่ยนเสื้อผ้าของเขาเป็นชุดขุนนาง ดูเหมือนว่าถึงเวลาแล้วที่จะหันกลับเข้าสู่วัยหนุ่มที่อ่อนแอและไร้ความสามารถ เขาเดินเข้าไปในศาลากลางเมืองกับแอนนา ตามที่คาดไว้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลในเรื่องนี้มอบโฉนดที่ดิน โฉนดบ้านของมิลเลอร์ที่ซื้อในย่านคนรวย 31 แปลงให้มาร์วิน ส่วนที่เหลือไม่ว่าจะเป็นไข่มุกหรืออัญมณีไม่มีเลย
“ท่านมาร์วินกระผมขอโทษสำหรับความสูญเสียของท่าน” เจ้าหน้าที่กล่าวอย่างไม่เต็มใจ
มาร์วินแกล้งทำเป็นอ่อนแอและถามว่า “ตอนที่ลุงของข้าเสียชีวิต เมืองริเวอร์ชอว์สามารถส่งกองกำลังไปช่วยกำจัดพวกโนลล์ได้หรือไม่? ข้าจำเป็นต้องเอาดินแดนของข้ากลับมา “
เจ้าหน้าที่ยังคงตั้งคำถามอย่างจริงจังว่า “นี่เป็นเรื่องที่ยากมาก ท่านมาร์วินท่านเห็นผู้ศรัทธาในลัทธิที่ชั่วร้ายกำลังสัญจรอยู่ในเมืองริเวอร์ชอว์พร้อมกับฆาตกรอำมหิตที่เป็นคนที่ฆ่าครอบครัวของลุงของท่านเจ้าหน้ากากมีดคู่ … เรากำลังขาดกองกำลังอย่างมากกระผมคิดว่าการรอดทนรอในเมืองนี้อีกสักพักนึง “
ใบหน้าของมาร์วินแสดงความผิดหวังเล็กน้อย เขารู้สึกแปลกใจ หลังจากการตายของมิลเลอร์เจ้าหน้าที่ผู้ติดสินบนคงไม่มีเหตุผลที่จะไม่ส่งกองกำลังไปจัดการกับพวกโนลล์ ทุกคนในเมืองรู้ดีว่าเมืองริเวอร์ชอว์และหุบเขาริเวอร์ไวท์ไม่ได้ห่างไกลจากกันมากนัก ด้วยเหตุทำให้พวกโนลล์อาจจะเป็นภัยคุกคามกับเมืองริเวอร์ชอว์ได้ แต่เจ้าหน้าที่พวกนี้ก็ยังคงหลีกเลี่ยงการจัดการกับเรื่องนี้
มาร์วินอัจฉริยะมากเขาสามารถเดาเหตุผลล่วงของเจ้าหน้าที่ได้ แต่เขาไม่ได้วางแผนที่จะพึ่งพาหน่วยลาดตระเวนของเมืองริเวอร์ชอว์ การถามอย่างนี้เพื่อที่จะรู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อเเละต้องการสอบสวนเจ้าหน้าที่คนนี้ ดูเหมือนว่ายังคงมีบางคนที่ต้องการครอบครองหุบเขาริเวอร์ไวท์มาร์วินแอบมองเมนูเควสอย่างรวดเร็วและเห็นว่าภารกิจหลักไม่ได้เปลี่ยนไปมันยังคงเป็น [ทวงคืนอาณาจักรของท่าน] แต่เขามีเวลาเหลือเพียง 18 วัน
…
ออกจากศาลากลางเมืองมาได้มาร์วินวางแผนขั้นต่อไปทันที หลังจากการลอบฆาตกรรมและการลอบวางเพลิงเมื่อวันที่ผ่านมามาร์วินได้เก็บทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาลจากบ้านของมิลเลอร์ เขามีเงินมากกว่า 100,000 เหรียญเงิน!
กองทหารของมาร์วินทิ้งไว้เกือบ 1 ใน 3 ของของมีค่าที่เก็บได้เขาขายส่วนที่เหลือให้กับเบนเเห่งหอคอยสีดำโดยใช้บัตรประจำตัวของหน้ากากมีดคู่ ก๊อบลินเเก่เป็นคนที่ฉลาดแกมโกง เขารู้ว่าใครจะขัดขืนและใครจะร่วมมือมาร์วินได้ทำการเเก้เเค้นเรียบร้อยเเล้วนั่นทำให้เขารู้สึกคุ้มค่ามาก
นอกจากนี้เมื่อคืนเขายังเข้าใจว่าลูกน้องสองคนของมาร์วินคือนักฆ่าปีศาจที่เเข็งเเกร่งมาก ทำให้รู้ว่าไม่ควรเล่นลิ้นกับกับนักฆ่ามากเกินไปนัก ก๊อบลินเเก่แสดงความกระตือรือร้นให้ท่านหน้ากากมีดคู่เป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจที่สำคัญของหอคอย แม้ว่าจะมีใบตามจับที่มีเงินรางวัลจำนวนมากบนหัวของเขาก็ตาม มาร์วินมียอดรวมประมาณ 50 เหรียญทอง เป็นเหรียญเงินประมาณ 50000 เหรียญเงิน เงินนี้เพียงพอสำหรับเขาที่จะจ้างพวกของนักผจญภัย!
“นี่ 30000 เหรียญเงิน”
มาร์วินมอบกระเป๋าให้แอนนาและทำหน้าเคร่งขรึมว่า “ไปที่สมาคมนักผจญภัยเพื่อเลือกใครบางคนมา พวกเขาต้องมีคลาสที่เเน่นอน เอาพวกที่มีประสบการณการต่อสู้ที่มากพอเเละมีประสบการณ์ต่างๆมา ใช้ประมาณยี่สิบคน เงินนี่น่าจะเพียงพอ “
ลูกครึ่งเอลฟ์พยักหน้า
มาร์วินค่อนข้างมั่นใจในความสามารถของแอนนา เธอสามารถทำงานของเธอให้ออกมาได้ดี มาร์วินต้องการที่จะกลับหุบเขาริเวอร์ไวท์ดังนั้นเขาจึงต้องการกองกำลัง การพึ่งพาเพียงทหารยามนั้นไม่เพียงพอ
“นายน้อยมาร์วินท่านคิดอะไรอยู่?” แอนนาถาม
“ข้า?” มาร์วินยิ้ม “ข้าจะไปตรวจสอบหุบเขาริเวอร์ไวท์ก่อน เราจำเป็นต้องมีใครไปสอดแนมไม่ใช่หรือ? “
…
ดวงอาทิตย์ที่กำลังส่องอยู่ด้านบนของหอคอยศักดิ์สิทธิ์ฝั่งตะวันออก บนชั้นลับที่สูงที่สุดศพหนึ่งนั่งอยู่ข้างชายแก่ที่ห้อยขาลงนอน ถึงแม้ว่าพ่อมดในตำนานจะมีสุขภาพที่ไม่ดีแต่เขาก็ยังแข็งแก่รงอยู่ แม้ว่าเขาจะค่อนข้างลำบากในการทำนายการโจมตีแต่เขาก็ยังสามารถฆ่าลูกศิษย์คนนี้ที่ถูกควบคุมโดยลัทธิงูเเฝดได้ แต่เพียงแค่นั้นเขาก็เกือบตายได้
แม้ว่าเจ้าชายแห่งเงาเป็นพระเจ้าที่อ่อนแอแต่เขาก็เคยเป็นมือสังหารที่มีพลังอย่างมากก่อนที่จะขึ้นไปสู่ความเป็นพระเจ้า แอนโธนีปิดตาทั้งสองข้างของเขาที่เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ เสียงที่มาจากตราของดวงอาทิตย์ที่สว่างสไวขึ้นราวกับว่ามีบางสิ่งรบกวน นอกจากนี้เขายังพยายามที่จะติดต่อกับพ่อมดแม่มดคนอื่นๆในภูมิภาคนี้ด้วย
นี่เป็นการสมรู้ร่วมคิด
แอนโธนีเดินโผงไปที่ขอบของชั้นลับ จากมุมมองนี้ไม่ว่าจะเป็นท่าเรือทางตอนเหนือหรืออ่าวอัญมณีในตอนใต้ก็สามารถที่จะมองเห็นได้
‘ทัศนียภาพนี้ช่างงดงามจริงๆ’
ชายชรายืนนิ่งอยู่ที่นั่นและเริ่มสวดมนต์ 30 วินาทีต่อมาร่างของเขาตกลงมาจากชั้น
และเมฆเริ่มมืดครึ้มขึ้นอย่างรวดเร็วในท้องฟ้า ในช่วงเวลาสั้น ๆ สิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่อาศัยอยู่ในชายฝั่งตะวันออกของชายฝั่งทิศตะวันออกก็รู้สึกเจ็บปวดเฉียบพลัน
ผู้หญิงที่มีจิตอ่อนก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้และเริ่มร้องไห้ ทุกคนหันไปทางทิศตะวันออก
พ่อมดในตำนานตายแล้ว!