ตอนที่ 122 ทางสะดวก
ปัง!
ปึกกระดาษหนาถูกตบลงบนโต๊ะทำงานและถูกม้วนถือขึ้นมาใหม่
ซูชิงเหมยใช้ปึกกระดาษนั้นมาพัดแทนพัด ลมอ่อนๆ พัดโบกยังไงก็ไม่อาจปัดเป่าอารมณ์อันหงุดหงิดร้อนรุ่มของเธอได้
พัดไป เธอกัดฟันพูดไป
“ฉันจะโมโหตาย ห้องของพี่ไม่มีแอร์เหรอไง”
คุณผู้หญิงคนนี้รู้สึกว่าร่างกายร้อนผ่าวไปหมด ราวกับกำลังถูกแดดร้อนแรงแผดเผา
ต่งอวี่มองซูชิงเหมยด้วยสายตาขบขัน ถามต่อว่า “เป็นอะไรอีกล่ะ”
ข้างนอกอากาศร้อนขนาดนี้ ในห้องทำงานของผู้บริหารบริษัทชิงอวี่จะปิดเครื่องปรับอากาศได้ยังไง
อารมณ์ของซูชิงเหมยต่างหากที่มีปัญหา!
ซูชิงเหมยสบถอย่างหงุดหงิด “ก็เพราะนายนั่นต่างหาก!”
“วันนี้ฉันอุตส่าห์ถ่อไปหาเขาถึงศูนย์การเรียนรู้หลันเทียน กว่าจะหาออฟฟิศเน่าๆ ของเขาเจอก็ยากเย็น คิดไม่ถึงว่าเขายังหาใครก็ไม่รู้มาเป็นผู้จัดการส่วนตัว ชื่อลู่ซีอะไรนั่นมาคุยเงื่อนไขกับฉัน”
เธอบีบสัญญาในมือ คิ้วเรียวยาวของเธอแทบจะตั้งตรง
“เพลงๆ หนึ่งราคาสองแสนยังไม่ว่า ยังไม่ให้ลิขสิทธิ์ทั้งหมดอีก สัญญามีอายุแค่ 5 ปี มันจะมากเกินไปแล้วนะ!”
คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในออฟฟิศของลู่เฉินแล้ว ซูชิงเหมยเกิดบันดาลโทสะขึ้นมา
ฝ่ายนั้นอายุไม่ห่างจากเธอนัก แม้สีหน้าท่าทางจะดูรักษามารยาทเกรงอกเกรงใจ และเห็นด้วยกับการขายลิขสิทธิ์ แต่ทั้งหมดเธอไม่ยอมอ่อนข้อถอยให้แม้แต่น้อย ท่าทีแข็งกร้าวมากเป็นพิเศษ
คุณหนูซูเองก็ไม่ใช่คนอะลุ้มอล่วย เมื่อเจรจาตกลงกันไม่ได้ก็โมโหสะบัดหน้ากลับมา
เพลงบินให้สูงขึ้น จ่ายราคาสองแสนพร้อมกับกรรมสิทธิ์ในเพลงทั้งหมดเธอยังพอทนรับได้ เพลงนี้เป็นเพลงที่ลู่เฉินเคยร้องออกสู่สาธารณะมาก่อน ทั้งเว็บไซต์เฟยซวิ่นยังให้ดาวน์โหลดไฟล์เสียงดั้งเดิมฟรีอีก
ราคาของมันต้องต่ำกว่าเพลงในฤดูใบไม้ผลิอยู่แล้ว ฝ่ายนั้นยังยึดถือเอาไว้อย่างดื้อดึง
ยิ่งคิดยิ่งโมโห!
“อ้อ?”
แต่สิ่งที่ทำให้ซูชิงเหมยยิ่งผิดหวังก็คือ ท่าทีของต่งอวี่ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ไม่มีทั้งความตื่นเต้นและความโกรธ
ราวกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เธอได้คาดการณ์เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว
“ทำไมพี่ไม่โกรธเหรอ”
ต่งอวี่หลุดขำออกมา เธอเปิดลิ้นชักหยิบกระดาษใบหนึ่งส่งให้ซูชิงเหมย
“อะไร”
ซูชิงเหมยรับมาอย่างไม่เข้าใจ
เมื่ออ่านอย่างละเอียดแล้ว นี่เป็นข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับมูลค่าการซื้อขายอัลบั้มในฤดูใบไม้ผลิที่จัดทำโดยเว็บไซต์เพลงเฟยซวิ่น
จนถึงวันที่ 1 สิงหาคม อัลบั้มในฤดูใบไม้ผลิมียอดดาวน์โหลดทั้งอัลบั้มทั้งหมด: 110,560 ครั้ง
ยอดดาวน์โหลดเพลงในฤดูใบไม้ผลิเพลงเดียวคือ: 250150 ครั้ง
เพลงเหตุผลที่มั่นคงเพลงเดียว: 97,803 ครั้ง
เพลงฉันอยากมีบ้านเพลงเดียว: 72,610 ครั้ง
จำนวนรวมทั้งหมด มากกว่าห้าแสนครั้ง!
เว็บไซต์เพลงเฟยซวิ่นเป็นบริษัทออนไลน์ที่เปิดบริการดาวน์โหลดเพลงลิขสิทธิ์โดยชำระเงินเป็นเจ้าแรกของประเทศ การจ่ายเงินดาวน์โหลดเพลงติดอันดับของมันถือว่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่กำหนดทิศทางของวงการเพลงสมัยใหม่
อัลบั้มในฤดูใบไม้ผลิของวงเฮสิเทชั่นถือเป็นอัลบั้มเล็กๆ มีทั้งหมดแค่ห้าเพลง มีในเว็บไซต์เฟยซวิ่นมาช่วงเวลาหนึ่งแล้ว ตอนนี้ยอดการซื้อขายอยู่ในอันดับแรก
ในบรรดาเพลงเดี่ยว เพลงในฤดูใบไม้ผลิอยู่ในอันดับแรกเช่นกัน ติดอันดับหนึ่งทั้งสองอย่าง
คะแนนแบบนี้ สำหรับวงน้องใหม่ที่เพิ่งทำอัลบั้มแรก ถือว่าเหนือเมฆมากแล้ว!
นอกจากชื่อเสียงเกียรติยศ ยอดการจ่ายเงินดาวน์โหลดมากกว่าห้าแสนครั้งเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์
เว็บไซต์เฟยซวิ่นดาวน์โหลดเพลงลิขสิทธิ์เพลงเดี่ยวหนึ่งครั้งราคา 1หยวน ถ้าดาวน์โหลดพร้อมกันทั้งอัลบั้มจะลดราคา 20%
ถ้าเช่นนั้นอัลบั้มในฤดูใบไม้ผลิ ดาวน์โหลดทั้งอัลบั้มราคา 4 หยวน มีการดาวน์โหลดทั้งหมดหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นครั้ง คิดเป็นรายได้สี่แสนสี่หมื่นหยวน
เพลงสามเพลงถูกดาวน์โหลดทั้งหมดสี่แสนสองหมื่นครั้ง บวกเข้าไปก็เป็นรายได้เกือบเก้าแสนหยวน!
หลังจากเข้าสู่ยุคออนไลน์ เกิดบริษัทสื่อมีเดียขึ้นใหม่ๆ และเกิดการขโมยลิขสิทธิ์จำนวนมาก อุตสาหกรรมการบันทึกเสียงรูปแบบเดิมถูกโจมตีอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ยอดขายแผ่นซีดี ลดลงรายปี จนถึงตอนนี้แทบจะเป็นจุดสิ้นสุดเลยก็ว่าได้
ทุกวันนี้วงการเพลงสมัยใหม่ นอกจากคนดนตรีจำนวนมากแล้ว ไม่มีนักร้องหรือบริษัทไหนอาศัยแผ่นเสียงของตัวเองหากินหรอก ทั้งหมดทุ่มเทไปที่การเพิ่มจำนวนแฟนคลับ ผ่านโฆษณา และการเพิ่มอุปกรณ์เสริมอื่นๆ เพื่อทำเงิน
ดาราออกอัลบั้ม ออกแผ่นเสียง การขาดทุนสูญเปล่าก็เพื่อการติดตารางจัดอันดับและเพื่อความพอใจของแฟนคลับเท่านั้น
การนำเสนอของเว็บไซต์เพลงที่ต้องจ่ายเงินดาวน์โหลด เป็นการจุดประกายการซื้อขายเพลงที่ผลิตขึ้น แต่ตอนนี้แหล่งข้อมูลที่มีการขโมยลิขสิทธิ์ทางออนไลน์ ยอมจ่ายเงินซื้อเพลงของแท้ แสดงว่ายอมเป็นแฟนคลับตัวจริงแล้ว
ดังนั้นอย่ามองว่าเป็นแค่การดาวน์โหลดเพียงไม่กี่พันไม่กี่หมื่นครั้ง ความจริงเป็นตัวเลขที่สวยงามมากแล้ว
เพลงในฤดูใบไม้ผลิ ขึ้นมาเป็นผู้นำโดยตลอด เพียงพอแล้วที่จะภูมิใจ!
บริษัทชิงอวี่ที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ไม่อาจได้รับผลประโยชน์ทุกอย่าง ยังต้องแบ่งบางส่วนให้กับเว็บไซต์เฟยซวิ่นด้วย
นอกจากนี้ยังมีค่าการตลาดที่สูงมาก อาศัยแค่รายได้จากส่วนแบ่งยังไม่เพียงพอกับต้นทุน
แต่ต้องรู้ว่า เว็บไซต์เพลงเฟยซวิ่นเป็นเพียงช่องทางขายเพลงช่องทางหนึ่งเท่านั้น และยังไม่ใช่จุดสำคัญ
มองดูเอกสารในมือแล้วซูชิงเหมยชั่งน้ำหนักทั้งหมดออกมาได้
ไฟโทสะของเธอค่อยๆ บรรเทาลง
เธอเข้าใจในความหมายของต่งอวี่…ราคาที่สำนักงานของลู่เฉินเตรียมไว้เหมาะสมแล้ว!
ยอดขายเพลงเดี่ยวของอัลบั้มแบอยู่ตรงหน้า ใครก็ตามสามารถเข้าอินเทอร์เน็ตไปตรวจเช็คดูได้ ถ้าเป็นซูชิงเหมยเอง มีเหตุผลอะไรจะไม่ยืนหยัด ไม่แข็งกร้าว?
ตอนนี้ลู่เฉินและออฟฟิศของลู่เฉินยังไม่มีชื่อเสียง ผู้ร่วมธุรกิจหลายเจ้ายังไม่รู้จัก แต่จะดูถูกความว่องไวของพวกเขาก็คงจะดูไร้เดียงสาเกินไป
เพียงได้กลิ่นเงินและผลประโยชน์ บริษัทพวกนั้นต้องบินเข้าไปรุมตอมเหมือนฝูงแมลงวัน เข้าไปแก่งแย่งกัน!
ไม่แน่ว่าราคาจะยิ่งสูงขึ้นกว่านี้อีก!
ซูชิงเหมยแทบนั่งไม่ติด “ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปคุยกับเขาใหม่เดี๋ยวนี้เลย…”
ต่งอวี่ทำท่าละเหี่ยใจ “จะยิ่งให้เขาเรียกราคาสูงขึ้นกว่านี้ใช่ไหม”
ซูชิงเหมยหน้าแดง แล้วนั่งลงใหม่
ต่งอวี่ทนไม่ไหวพูดขึ้นว่า “ต่อไปการเจรจากับออฟฟิศลู่เฉิน ให้ผู้จัดการซ่งฝ่ายจัดการเป็นคนไปเถอะ”
เกือบจะต้องวิจารณ์การทำงานไม่เป็นของซูชิงเหมย…เธอเป็นผู้จัดการฝ่ายดนตรี อย่าไปแย่งงานของคนอื่น
ซูชิงเหมยกัดริมฝีปาก เธอกลอกตาไปมา โพล่งออกมาว่า “ถ้าอย่างนั้นเราดึงตัวลู่ซีมาเถอะ ฉันรู้สึกว่าเธอคนนั้นเก่งกาจมาก ให้เธอมาเป็นผู้จัดการด้านธุรการ ต่อไปทำหน้าที่เจรจากับเจ้าหนุ่มนั่น!”
นี่ไม่ได้ฟังดูขัดแย้งกันหรอกเหรอ ลู่เฉินเก่งนักไม่ใช่เหรอ ลองให้มาคุยกับคนของตัวเองดูเป็นยังไง!
ซูชิงเหมยยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นความคิดที่ดีมาก
ส่วนจะดึงตัวลู่ซีมาได้ไหม นั่นไม่ใช่ปัญหา
ทั้งสถานะ ศักยภาพ และแนวโน้มในการเติบโตของบริษัทชิงอวี่ ยังไงก็ดีกว่าออฟฟิศเล็กๆ แห่งนั้นเป็นล้นพ้น!
ดีกว่าหลายขุม!
เมื่อเห็นใบหน้าอันได้ใจของซูชิงเหมย ต่งอวี่จับหน้าผากของตัวเองอย่างพูดไม่ออก
เธอดึงลิ้นชักออกมาอีกครั้งหยิบเอกสารขึ้นมาส่งให้ซูชิงเหมย
ซูชิงเหมยหันกลับ รับมาดู เห็นว่าเป็นข้อมูลส่วนตัวของลู่เฉิน
ซูชิงเหมยทึ่ง นี่ต่งอวี่หมายความว่ายังไง
ต่งอวี่พูดเสียงเหนื่อยว่า “เธออ่านให้ละเอียดสิ สถานภาพครอบครัวของลู่เฉิน”
เธอกล่าวเตือน สายตาซูชิงเหมยไปหยุดอยู่ที่ข้อมูลสมาชิกครอบครัว
บิดา: ลู่ชิ่งเซิง (เสียชีวิต) /มารดา: ฟางอวิ๋น (พนักงานบัญชีแผนกภาษีที่ดินเมืองปินไห่มณฑลเจ๋อตง)
พี่สาว: ลู่ซี / น้องสาว:ลู่เสวี่ย
ลู่ซี? ลู่ซี!
ซูชิงเหมยสะดุ้งโหยง ผู้จัดการของออฟฟิศลู่เฉินควบตำแหน่งผู้จัดการส่วนตัวของลู่เฉิน ไม่ใช่ลู่ซีเหรอ
ในกระเป๋าแชนแนลใบน้อยของเธอยังมีนามบัตรของฝ่ายนั้นอยู่เลย!
ช่างน่าขายหน้าสิ้นดี!
ซูชิงเหมยหน้าแดง ไม่กล้าหันไปมองต่งอวี่
เสียทีชมว่าเธอฉลาดหลักแหลม แต่เธอกลับทำพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยังคิดจะไปดึงตัวพี่สาวแท้ๆ ของลู่เฉินมาต่อกรกับลู่เฉินเอง
ถ้าไม่ได้ต่งอวี่เตือน เธอคงลงมือทำไปแล้ว ยังต้องกลายเป็นเรื่องให้คนอื่นหัวเราะเยาะ!
“โอ๊ย! ฉันไม่สนแล้ว!”
ซูชิงเหมยโยนข้อมูลในมือลง แล้วคว้ากระเป๋า หนีเอาตัวรอดออกไป
ต่งอวี่หุบยิ้ม เธอหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะขึ้นมา ติดต่อสายในของบริษัทหาซ่งซิ่นเหว่ยให้เขาเข้ามาหาเธอที่ห้องทำงาน
ซ่งซิ่นเหว่ยอายุประมาณ 30 ชุดสูทพอดีตัวเข้ากับแว่นตากรอบทอง ผมหวีเรียบเป็นระเบียบ หน้าตาไม่ได้หล่อเหลาแต่ก็บอกได้ว่าดูดีไม่น้อย มองเผินๆ ก็รู้ว่าเป็นคนเก่งในงานเฉพาะด้าน
เขาเป็นรองผู้จัดการใหญ่ควบตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการจัดการของบริษัทชิงอวี่ และเป็นผู้ช่วยอันคล่องแคล่วของต่งอวี่
ต่งอวี่มอบข้อมูลของลู่เฉินพร้อบกับตารางคะแนนของวงเฮสิเทชั่นให้กับซ่งซิ่นเหว่ย พร้อมกับบอกเขาให้รู้ถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ว่าซูชิงเหมยได้เข้าไปเจรจากับออฟฟิศลู่เฉินแล้ว
ต่งอวี่บอกต่อว่า
“นอกจากเรื่องลิขสิทธิ์เพลง ลิขสิทธิ์ของเพลงนี้ต้องเอามาให้ได้ นี่เป็นเงื่อนไขอันดับแรก แต่ค่าใช้จ่ายในการมอบให้นั้นเราคุยกันได้ ฉันให้อำนาจนายสูงสุดไม่เกินห้าแสน”
ซ่งซิ่นเหว่ยตกใจ “มากเกินไปไหมครับ”
เพลงหนึ่งราคาห้าแสน ดูเกินความจำเป็นมากเกินไป ผลงานของซูเปอร์สตาร์ที่เขียนออกมาอย่างยากเย็นยังไม่ได้เท่านี้!
ต่งอวี่ยิ้มเล็กน้อย
“ถ้าอย่างนั้นต้องขอดูความสามารถในการเจรจาของผู้จัดการซ่งแล้ว เพลงบินให้สูงขึ้นนี้เหมาะกับวงเข็มทิศมาก ฉันไม่อยากให้คนอื่นได้ไป ต้องมีคนมาแย่งด้วยแน่นอน”
ซ่งซิ่นเหว่ยตระหนักอยู่ในใจ ตอบอย่างหนักแน่นว่า “ผมเข้าใจแล้วครับ”
ต่งอวี่เอนตัวพิงพนักเก้าอี้
“คุณไปเถอะ จำไว้ว่าอย่าให้ฝ่ายนั้นรู้สึกว่าเรารีบร้อน”
ด้วยความไม่ตั้งใจ เธอเปิดเผยรูปร่างอันงดงามของตัวเองออกมา
ซ่งซิ่นเหว่ยพยักหน้า ในดวงตาฉายแววเร่าร้อนออกมา
วันรุ่งขึ้น เขาพาผู้ช่วยมาถึงออฟฟิศลู่เฉิน เพื่อเจรจาเพลงบินให้สูงขึ้นอีกครั้ง
แต่ตอนนี้ลู่เฉินไม่อยู่ในปักกิ่งแล้ว
เขาออกเดินทางไปกับทีมรายการขับร้องให้ก้องจีนไปที่เมืองเซิ่งจิง เริ่มการทัวร์การแข่งขันทั่วประเทศ
วันที่ 5 สิงหาคม เริ่มศึกการแข่งขันที่เมืองเซิ่งจิง ลู่เฉินใช้เพลงธุลีรักในสายลมมาต่อกรกับคู่ต่อสู้
วันที่ 8 สิงหาคม เขาย้ายสมรภูมิไปที่เมืองฮู่ไห่ ลู่เฉินเฉือนเอาชนะจางซิ่วหมิ่นเป็นอันดับหนึ่งจาก 10 คนด้วยเพลงวัยเจิดจรัส
ตอนนั้นคะแนนรวมของทั้งสองต่างกันเพียง 1.75 คะแนน!
วันที่ 11 สิงหาคม มาถึงสมรภูมิที่เมืองหางโจว
บนเวทีครึ่งหนึ่งแทบเป็นของเขา ลู่เฉินใช้เพลงดอกไม้เหล่านั้นกวาดชัยชนะของเขตหางโจว เป็นเมืองต่อไป
เส้นทางของเขาผ่านสะดวก ไปสู่ความรุ่งโรจน์!
………………………………………………..