Perfect Superstar – ตอนที่ 172 ฉันรักคุณประเทศจีน

Perfect Superstar

ตอนที่ 172 ฉันรักคุณประเทศจีน

หลวี่เจิ้งจื๋อลูบผมที่บางตาอยู่บนศีรษะ บิดเอวและสะโพกของเขา เพื่อให้ร่างกายที่ใหญ่โตของตัวเองนั่งพิงเก้าอี้นุ่มๆ ได้อย่างสบาย และการห่อหุ้มของเก้าอี้ที่นุ่มและแข็งกำลังดี ก็ทำให้เขารู้สึกสบายมาก

แต่เหล่าพี่น้องในตอนนั้นต่างก็สะดุ้งสั่นขึ้นมา!

หัวหน้าฝ่ายรายการวัฒนธรรมของสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีนคนนี้แอบถอนหายใจ ได้ยินว่าเก้าอี้ที่อยู่ใต้ก้นของเขามีราคาเกินเจ็ดพันหยวน เป็นผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับสรีระของคนมาก

ภายในห้องถ่ายทำรายการอาคาร T1 ของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง ยังมีเก้าอี้ที่เหมือนกันอีก 2,999 ตัว!

ห้องถ่ายทำรายการห้องนี้ได้ชื่อว่ามีการลงทุนขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ อุปกรณ์ตกแต่งทันสมัยที่สุด กระทั่งหลวี่เจิ้งจื๋อก็ยังแอบอิจฉานิดๆ…ห้องถ่ายทำรายการของสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีนสามารถรองรับผู้ชมได้มากสุดที่เพียงสองพันคนเท่านั้น

ในฐานะบุคคลระดับกลางถึงระดับสูงของสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีนหลวี่เจิ้งจื๋อมาดูการฝึกซ้อมครั้งแรกของงานเลี้ยงวันชาติจีนที่สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งในวันนี้ แน่นอนว่าเขาไม่ได้ว่างมาก แต่เพราะมีภาระหน้าที่ติดตัวจึงต้องมา

หลวี่เจิ่งจื๋อขึ้นตรงกับสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน ซึ่งก็คือสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของจีนนั่นเอง เป็นองค์กรข่าวและหน่วยงานที่รับฟังเสียงของประชาชนที่สำคัญที่สุด เป็นผู้นำในแนวความคิดของวัฒนธรรมที่สำคัญ เป็นสื่อกระแสหลักที่มีการแข่งขันสูงที่สุด มีการทำงานของห้องกระจายข่าว การศึกษาและสังคม สื่อบันเทิงและวัฒนธรรม การบริการข้อมูลข่าวสารเป็นต้น

สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีก่อตั้งขึ้นในปี 1995 เป็นช่องทางหลักที่ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารทั่วประเทศ และยังเป็นหน้าต่างสำคัญที่ทำให้ประเทศจีนเข้าใจโลก และโลกก็เข้าใจประเทศจีน มีอิทธิพลอย่างกว้างขวางในระดับต่างประเทศ

และต้นกำเนิดของสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีก็คือสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง หลังจากมีการปรับเปลี่ยนภายหลังจึงแยกออกเป็นสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีและสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง

ถึงแม้ว่ากระดูกจะหักแต่ก็ยังเชื่อมเส้นเอ็นได้อยู่ ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีกับสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งสามารถเขียนเป็นหนังสือเล่มหนาได้เลย ผู้บริหารระดับสูงของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งล้วนมาจากสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีและคนที่อยู่เบื้องหลังก็มีหน้าที่รับผิดชอบคอยชี้แนะคนที่อยู่เบื้องหน้าโดยตรง

นี่คือผลกระทบต่อทุกด้าน

สาเหตุที่สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งสามารถทำรายการประกวดชิ้นแรกได้ในปีนี้ ก็มีความเกี่ยวข้องกับสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีเป็นอย่างมาก

แม้ว่าสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งจะอาศัยสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีในระดับหนึ่ง แต่จะไม่ยอมเป็นหุ่นเชิดให้ฝ่ายหลัง

ความสำเร็จของเรตติ้งผู้ชมในรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ ยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้พี่น้องจากสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีเกิดความคิดใหญ่ขึ้นมา

ดังนั้นที่หลวี่เจิ้งจื๋อมาในวันนี้ ไม่ได้มาคอยแนะนำงานเลี้ยงวันชาติจีนของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งเพียงอย่างเดียวเท่านั้น!

ขณะที่กำลังครุ่นคิดอะไรต่อมิอะไรอยู่ หลวี่เจิ้งจื๋อก็เริ่มใจลอย

จนกระทั่งเขาเห็นลู่เฉินปรากฏตัวขึ้นบนเวที เขาถึงได้เรียกสติกลับมาดูตารางรายการที่อยู่ในมือ

“รายการนี้คือ…”

เขาจ้องไปที่ตารางรายการในมือและถามขึ้นอย่างสับสน “ยุคใหม่ของจีนโดยหวังปิน ใช่หรือเปล่า”

หลวี่เจิ้งจื๋อจ้องมองตัวหนังสือที่อยู่ในตารางรายการ แต่แว่นตาระดับไฮเอนด์ราคาหลายพันหยวนที่อยู่บนสันจมูกของเขา ใช่ว่าจะมองหน้าตาของคนที่อยู่บนเวทีไม่ชัดเจน…นี่คือหวังปินเหรอ

ล้อฉันเล่นหรือเปล่า!

หลวี่เจิ้งจื๋อกับหวังปินรู้จักกัน และเคยทานข้าวด้วยกันมาก่อน

เกาจื้อเสวี๋ยหัวหน้าบรรณาธิการของสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีที่นั่งอยู่ข้างๆ เขากระแอมขึ้นหนึ่งที กล่าวอย่างเก้ๆ กังๆ ว่า“หวังปิน…รายการของหวังปินถูกเปลี่ยนกะทันหันครับ”

เปลี่ยนรายการของหวังปิน แล้วให้เด็กวัยรุ่นคนนี้ขึ้นมาเหรอ

หลวี่เจิ้งจื๋อไม่ค่อยเข้าใจ

เวลาที่ซ้อมรายการงานเลี้ยงของสถานีโทรทัศน์อาจจะถูกเปลี่ยนบ้าง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร แต่สาเหตุจะค่อนข้างซับซ้อนนิดหน่อย บางครั้งเหตุผลก็คือรายการนั้นใช้ไม่ได้จริงๆ หรือนักแสดงมีปัญหา หรืออาจจะถูกคนที่มาทีหลังเบียดตกไปก็มี

แต่หวังปินเป็นใคร ถึงจะไม่ใช่ศิลปินตัวท็อป แต่ก็เป็นแขกรับเชิญคนสำคัญมากๆ ของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง

เขาจะถูกปัดตกได้อย่างไร

หลวี่เจิ้งจื๋อส่ายหน้า แล้วถามว่า “หวังปินเกิดเรื่องอะไรใช่ไหม”

พูดถูกเผง!

เวลานี้ผู้ช่วยของเขาจึงเข้ามาใกล้ๆ แล้วกระซิบพูดข้างหูเบาๆ สองสามประโยค

ผู้ช่วยของหลวี่เจิ้งจื๋อกับเกาจื้อเสวี๋ยความจริงรู้ข่าวแล้ว แต่เขาไม่ได้พูด เพราะคนหน้าคิดว่าไม่มีความจำเป็นส่วนคนหลังก็ไม่อยากพูด

ตอนนี้หลวี่เจิ้งจื๋อเป็นฝ่ายถามขึ้นมา ผู้ช่วยของเขาคนนั้นจะแสร้งทำเป็นหูหนวกตาบอดไม่ได้ ไม่อย่างนั้นคงจะถูกกล่าวหาว่าไม่เห็นหัวหน้าอยู่ในสายตา

หลวี่เจิ้งจื๋อได้ฟังแล้วจึงตกตะลึง

ผ่านไปสักพัก เขาจึงหันหน้าไปมองเกาจื้อเสวี๋ย ด้วยสายตาที่แปลกมาก

เกาจื้อเสวี๋ยฝืนยิ้มอย่างจนใจ

หลวี่เจิ้งจื๋อถอนหายใจพูด “หวังปินก็ไม่เลวนะ สงสัยคงจะลุ่มหลงงมงายไปชั่วขณะ…แล้วคนนี้เป็นใครล่ะ”

คนที่ถูกเปลี่ยนมาแทนหวังปิน ต้องไม่ใช่ศิลปินธรรมดาแน่นอน

เกาจื้อเสวี๋ยแอบโล่งใจ แล้วรีบแนะนำว่า “นี่คือลู่เฉิน แชมป์ในรายการขับร้องให้ก้องจีนครับ”

“ลู่เฉิน”

หลวี่เจิ้งจื๋อขมวดคิ้ว แล้วจึงยิ้มออกมาโดยพลัน “ผมจำได้แล้ว ลูกชายของผมชอบเพลงของเขามาก”

เขามองเกาจื้อเสวี๋ย เหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม แล้วเอ่ยว่า “เดิมทีหวังปินต้องร้องเพลงธีมหลัก พวกคุณให้ลู่เฉินคนนี้มาแทน เตรียมจะร้องเพลงอะไรล่ะ”

ไม่ว่าจะเป็นสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีหรือสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง รายการของงานเลี้ยงวันชาติจีนจะต้องพูดถึงความถูกต้องทางการเมืองก่อน ซึ่งมีความสำคัญมากกว่าการแสดง และจะต้องยึดเพลงธีมเป็นหลัก เพลงธรรมดาทั่วไปเอามาเสริมให้เด่นขึ้นเท่านั้น

สองรายการก่อนหน้านี้ก็เป็นผลงานเพลงป็อป ตอนนี้แชมป์รายการแข่งขันประกวดก็ขึ้นมาอีกหนึ่งคน…

หัวหน้าหลวี่จึงต้องจับผิด หากไม่ดีจะได้ว่ากล่าวตักเตือน

เกาจื้อเสวี๋ยจึงได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ แล้วพูดต่อ “รองผู้อำนวยการสถานีเฉินกับผู้อำนวยการกู่เป็นคนจัดการครับ พวกเขาต้องมองภาพรวมออกอยู่แล้วครับ”

หัวหน้าบรรณาธิการของสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีคนนี้ก็แอบบ่นเพื่อนร่วมงานของตัวเองอยู่ในใจอยู่เหมือนกัน

ถ้าหากเป็นการร้องเพลงธีมล่ะก็ มีคนให้เลือกเยอะแยะมากมาย ทำไมถึงให้ลู่เฉินขึ้นมาแทน

ก่อนหน้านั้นลู่เฉินมีรายการร้องเพลงประสานเสียงไปแล้ว

หลวี่เจิ้งจื๋อจึงกล่าวแบบมีความหมายแฝงว่า “หวังว่าจะเป็นแบบนั้น”

เขาคิดเรียบร้อยแล้ว ถ้าหากรายการนี้ยังร้องเพลงป็อปอีก อย่างนั้นเขาจะต้องต่อว่าเสียหน่อย

และในเวลานี้ ก็ได้ยินเสียงพิธีกรงานเลี้ยงกล่าวเสียงดังว่า “ต่อไปเป็นรายการร้องเดี่ยวชาย ผู้แสดงคือลู่เฉินแชมป์ซีซันส์แรกในรายการขับร้องให้ก้องจีนของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง!”

“เพลงที่เขานำมามอบให้พวกเราคือ…”

“ฉันรักคุณประเทศจีน!”

พอสิ้นเสียงของพิธีกร ผู้ชมทุกคนต่างก็พูดซุบซิบดังระงมไปทั่ว

การฝึกซ้อมครั้งแรกของงานเลี้ยงวันชาติจีน ผู้ชมในห้องถ่ายทำรายการจึงเต็มไปด้วยทีมงานของสถานีโทรทัศน์

พวกเขารู้เรื่องที่หวังปินถูกจับแล้ว จึงต้องเปลี่ยนรายการอย่างช่วยไม่ได้ แต่ใครก็คาดไม่ถึงว่า ลู่เฉินคือคนที่มาแทนนักร้องรุ่นเก๋า

หลวี่เจิ้งจื๋อตกตะลึง “ฉันรักคุณประเทศจีน ชื่อเพลงไม่เลว เหมือนจะไม่เคยฟังเพลงนี้มาก่อน”

เกาจื้อเสวี๋ยถอนหายใจอย่างโล่งอกเป็นอย่างแรก แต่ก็เริ่มสงสัยขึ้นมาอีก

ฉันรักคุณประเทศจีน…ชื่อเพลงนี้พอฟังก็รู้ว่าเป็นเพลงธีม แต่ในความทรงจำของเขา กลับไม่เคยมีผลงานเพลงนี้มาก่อนไม่รู้ว่ากู่รุ่ยไปหาเพลงนี้มาจากที่ไหน

เหล่ากู่คนนี้ ยังจะเชื่อถือได้อยู่ใช่ไหม!

ความอึดอัดที่อยู่ในใจของเกาจื้อเสวี๋ยแทบจะไม่ต้องพูดจริงๆ

ผลงานเพลงคลาสสิกของเพลงธีมมีตั้งมากมาย ทำไมถึงหาเพลงที่ทุกคนยังไม่เคยฟังมาก่อนแบบนี้หมายความว่าอย่างไร

ร้องเพลง ‘คนจีนมีความสุข’ เพลง ‘ภาวนาขอให้อนาคตมาตุภูมิยิ่งสูงส่ง’ เพลง ‘ธงแดง’ หรือไม่ก็เพลง ‘สดุดีมาตุภูมิ’ ไม่ได้เหรอ

เรื่องอึดอัดก็ส่วนของอึดอัด เกาจื้อเสวี๋ยยังต้องพยายามอธิบายว่า “น่าจะเป็นเพลงที่ไม่เลวมากๆ ครับ”

สวรรค์เห็นยังสงสาร เขายังไม่รู้ทำนองเพลงหลักของเพลงนี้มาก่อนด้วยซ้ำ

วินาทีต่อมา ดนตรีท่อนแรกก็ดังขึ้น

เกาจื้อเสวี๋ยแค่ฟังหัวใจก็เย็นลงไปครึ่งหนึ่ง สีหน้าเปลี่ยนไปเป็นดูไม่ได้

ไม่เคยฟังเพลงนี้มาก่อนก็ไม่เป็นไร แต่ดนตรีประกอบก็ธรรมดามากจนถึงขั้นแย่ เหมือนกับรีบทำออกมาอย่างลวกๆ!

เกาจื้อเสวี๋ยเรียนดนตรีมาก่อนจึงเข้าใจเรื่องดนตรี

มีสิ่งหนึ่งที่เขารู้สึกโชคดี ก็คือหลวี่เจิ้งจื๋อนั้นไม่เข้าใจ อย่างน้อยก็ไม่น่าจะฟังออกทันทีว่าดีหรือไม่ดี

แต่ความคาดหวังกับเพลงนี้ของเกาจื้อเสวี๋ย พลันลดลงไปอยู่ที่จุดเยือกแข็งทันที

และทีมงานของสถานีโทรทัศน์ที่นั่งอยู่ข้างหลังเหล่านั้น ก็มีคนที่เข้าใจเรื่องดนตรีไม่น้อย พวกเขาทำหน้าบึ้ง บางคนก็เผยสีหน้าเยาะเย้ยออกมา บางคนก็รู้สึกตกใจมาก

รายการร้องเดี่ยวที่มีระดับแบบนี้ แต่หาคนมาประสมประเสเพื่อให้ครบจำนวนเท่านั้นใช่ไหม

จากนั้นทุกคนก็มองไปที่ลู่เฉิน ดูว่าเขาจะร้องอย่างไร

ลู่เฉินจับไมค์ ก้มหน้าต่ำลง

แล้วเริ่มร้องเพลงไปตามเสียงดนตรีประกอบ

“ทุกครั้งยามที่ฉันรู้สึกเจ็บปวดอยากให้คุณกอดฉัน

เหมือนกับคุณคอยลูบไล้สัมผัสจิตวิญญาณของฉันมาเสมอ

ทุกครั้งที่ฉันรู้สึกสับสนคุณจะให้ความอบอุ่นบางอย่างกับฉัน

ก็เหมือนกับอ้อมแขนของใครบางคนที่กำลังโอบไหล่ของฉันเอาไว้แน่น!

บางครั้งฉันรู้สึกโดดเดี่ยวไร้เรี่ยวแรงเหมือนก้อนหินที่กลิ้งอยู่บนเนินเขา

แต่แค่นึกถึงชื่อของคุณฉันก็มีความมั่นใจกลับมาอีกครั้งเสมอ

บางครั้งฉันสูญเสียทิศทางเหมือนกับนกนางแอ่นที่หลงฝูงจากฟากฟ้า

แต่แค่นึกถึงตัวตนของคุณก็จะไม่รู้สึกหวาดกลัวอีก

…”

เกาจื้อเสวี๋ยฟังไปฟังมา แล้วคิ้วของเขาก็ขมวดพันกันเหมือนตัวอักษรจีนคำว่า ‘สายน้ำ’ เต็มไปด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจยากที่จะบรรยาย

ถ้าหากหลวี่เจิ้งจื๋อไม่ได้อยู่ตรงนี้ เกรงว่าเขาจะออกมาด่าตอนนี้แล้ว

หัวหน้าบรรณาธิการคนนี้มั่นใจแล้ว ว่าตัวเองไม่เคยฟังเพลงนี้มาก่อน ท่วงทำนองกับเนื้อเพลงท่อนแรกก็ไม่มีจุดเด่นอะไร ทำนองนุ่มลึกสบาย ไม่มีความฮึกเหิมให้ก้าวไปข้างหน้าของผลงานเพลงธีมอะไรแบบนั้น

พลังการร้องเพลงของลู่เฉินดีมาก เส้นเสียงของเขามีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ถึงขั้นยากที่จะเลียนแบบได้ เสียงกลางและเสียงต่ำที่แสดงออกมาไม่เสียแรงที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’

ที่สำคัญที่สุดคือ ท่วงทำนองดนตรีกับเนื้อเพลงแบบนี้เป็นสไตล์เพลงป็อปอย่างเห็นได้ชัด…ไหนบอกว่าเป็นเพลงธีมไงเล่า

เกาจื้อเสวี๋ยทนฟังต่อไปไม่ได้จริงๆ

เขาคิดเรียบร้อยแล้ว รายการร้องเดี่ยวจะต้องเปลี่ยนใหม่อีกครั้ง จะปล่อยให้กู่รุ่ยเอาแต่ใจแบบนี้ไม่ได้

และในตอนนี้เอง ลู่เฉินที่ยืนอยู่บนเวทีพลันเงยหน้าขึ้นมา

สายตาของเขาจ้องมองไปข้างหน้า แววตาเต็มไปด้วยพลังอันแน่วแน่ เสียงเพลงเปลี่ยนเป็นแนวฮึกเหิมขึ้นมาทันที

“…

ฉันรักคุณประเทศจีน แม่สุดที่รักของฉัน

ฉันเสียน้ำตาให้คุณและภูมิใจในตัวคุณ!

ฉันรักคุณประเทศจีน แม่สุดที่รักของฉัน

ฉันเสียน้ำตาให้คุณและภูมิใจในตัวคุณ!

…”

เสียงเพลงที่แฝงไปด้วยพลังที่ไร้จุดสิ้นสุดพุ่งเข้าไปในหูของเกาจื้อเสวี๋ย เขาจึงอดตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้!

ท่อนคอรัสนี้…

ทันใดนั้นก็ยกระดับเพลงธีมท่อนแรกให้สูงขึ้นทันที นอกจากนี้ยังถึงระดับสูงที่สุดอีกด้วย ความแปลกใหม่ของท่อนแรกกับท่อนหลังยากที่จะเปรียบเทียบได้ และท่อนที่ให้ความรู้สึกสุดยอดได้ให้ความรู้สึกที่แข็งแกร่งปลุกเร้าความรู้สึกเฉยชาให้ตื่นขึ้น เหมือนกับส่วนที่นุ่มบางส่วนของหัวใจถูกสัมผัสอย่างกะทันหัน ทำให้คนรู้สึกซาบซึ้ง กระทั่งขนลุกขึ้นมา

“…

สักวันหนึ่งเพลงนี้จะเก่าเหมือนกับดอกตูมที่อยู่บนต้นไม้ที่อายุน้อยที่สุด

แต่ฉันก็จะร้องมันไปเรื่อยๆ เหมือนกับมันเป็นชีวิตของฉัน

คนบางคนค่อยๆ หายไปเหมือนกับความรู้สึกบางอย่างที่แหลกสลายไปอย่างช้าๆ

แต่คุณกลับอยู่ในใจของฉันตลอดไปเหมือนดั่งพระอาทิตย์ที่หาที่เปรียบมิได้

ฉันรักคุณประเทศจีน แม่สุดที่รักของฉัน

ฉันเสียน้ำตาให้คุณและภูมิใจในตัวคุณ!

ฉันรักคุณประเทศจีน แม่สุดที่รักของฉัน

ฉันเสียน้ำตาให้คุณและภูมิใจในตัวคุณ!

…”

ความเงียบปกคลุมไปทั่วห้องถ่ายทำรายการ เสียงวิจารณ์ของทุกคนล้วนมลายหายไป

มีเพียงเสียงร้องเพลงของลู่เฉินที่ดังสะท้อนไปมา ดังกระหึ่ม ซัดเข้ามาเรื่อยๆ…ราวกับเกลียวคลื่นที่อยู่ในทะเลใหญ่

ลูกคลื่นทับกันเป็นระลอกๆ สั่นสะท้านอยู่ในหัวใจของทุกคน!

…………………………………………………………………………

ไอคอนเหรียญทอง

Perfect Superstar

Perfect Superstar

Status: Ongoing
ชีวิตของลู่เฉินดั่งมรสุมรุมเร้า ทว่าสวรรค์ยังคงเมตตาคนสู้ชีวิต ความทรงจำและความสามารถจากในความฝัน จะช่วยปูทางให้เขากลายเป็น Perfect Superstar เอง!ลู่เฉิน ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาวัย 22 ปีจำต้องหยุดเรียนออกมาทำงานหาเงินในเมืองหลวง เพื่อช่วยครอบครัวปลดหนี้จำนวนมหาศาลวันหนึ่งเขาฝัน…เป็นความฝันที่ยาวนานมากโลกแห่งความฝันทั้งคุ้นเคยและแปลกหน้าตัวละครแสดงต่างก็มีสีสันที่ไม่เหมือนกันนักร้อง นักแสดง นักเขียนอิสระเขามีประสบการณ์กับช่วงชีวิตที่ต่างกันทั้งสามนี้ในโลกความฝันเมื่อตื่นขึ้น ลู่เฉินมุ่งหน้าสู่ความฝันของตัวเองพร้อมกับทักษะที่ได้รับมาเป้าหมายคือกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ที่สมบูรณ์แบบ!!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท