ตอนที่ 188 ปาร์ตี้สละโสด
“หมดแก้ว!”
แก้วใสจำนวนนับไม่ถ้วนถูกยกขึ้นสูง ของเหลวสีทองในแก้วสั่นไหวไปมาจนเกิดฟองปุยสีขาวผุดขึ้น ภายใต้แสงไฟส่องยิ่งดูเหมือนกระจกสะท้อนแวววาว อากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นของเบียร์
แขกที่มาในบาร์เดย์ลิลลี่ ยกแก้วยื่นไปทางเฉินเจี้ยนหาวที่มาถึงช้า ยินดีกับเขาที่จะได้สละโสดสักทีตอนที่ก้าวเข้าสู่งานวิวาห์
เคยมีคนกล่าวไว้ว่า ชายหนุ่มที่เคยแต่งงานเคยสร้างครอบครัวถึงจะเข้าใจว่าความรับผิดชอบคืออะไร และเติบโตอย่างสมบูรณ์
บางคนบอกว่าการแต่งงานเหมือนคุกที่ขังชายหนุ่มและเหมือนหลุมฝังศพ อินทรีผยองที่เคยโบยบินบนฟากฟ้าจะถูกรัดปีกเอาไว้
ความหวานและขมในนั้น มีเพียงตัวเองที่เข้าใจ
แต่ไม่ว่าอย่างไร เมื่อเพื่อนฝูงมารวมตัวกันที่นี่เพื่ออวยพรแก่ว่าที่เจ้าบ่าวด้วยความจริงใจ
ลิ้มรสความสุขในความโสดเป็นครั้งสุดท้ายก็แล้วกัน!
เสียงหัวเราะ เสียงปรบมือ เฉินเจี้ยนหาวดื่มเบียร์แก้วใหญ่หมดแก้ว
ความสุข ความยินดีจากการพบปะทำให้อารมณ์สดชื่นแจ่มใส เถ้าแก่แห่งบาร์เดย์ลิลลี่ดูเด็กลงหลายปี พอเหล้าเข้าปากยิ่งรู้สึกคึกคัก คนที่เข้ามาขอชนแก้วแสดงความยินดี เขาไม่มีปฏิเสธ
ปาร์ตี้สละโสดจัดตอนกลางคืน บาร์เดย์ลิลลี่ย้ายโต๊ะส่วนใหญ่ออกไป เปลี่ยนเป็นบาร์อาหารเรียงรายยาวเหยียด บนนั้นวางทั้งเครื่องดื่มมึนเมาและของว่างจนเต็ม ยังมีดอกไม้สดที่ใช้ตกแต่ง
ดนตรีทำนองค่อนไปทางเร็วเปิดดังทั่วทั้งบาร์ บริกรสาวในชุดบันนี่เกิร์ลสีขาวถือถาดอาหารเครื่องดื่มเดินด้วยฝีเท้าบางเบาไปรอบๆฝูงชน ทำให้เพิ่มสีสันความสนุกสนานในงานยิ่งขึ้น
หากเทียบกับสาวๆ บันนี่เกิร์ลตามงานเลี้ยงสละโสดในต่างประเทศ พวกเธอแต่งตัวมิดชิดกว่ามาก แต่ก็ดูน่ารักไม่เบา
ไม่มีระบำเปลื้องผ้า นี่ถือว่าเป็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ ให้แก่ว่าที่เจ้าบ่าวและเพื่อนๆ พอแล้ว
ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง!
ใครบางคนเคาะจาน
ทุกคนหันไปสนใจตามต้นเสียง เห็นเขาปีนขึ้นไปบนเวที คว้าไมโครโฟนพูดว่า “เพื่อนๆ ทั้งหลาย แขกผู้มีเกียรติ ผมขอเสนอให้ว่าที่เจ้าบ่าวพี่เจี้ยนหาวของเราเตรียมการแสดงให้พวกเราชมสักการแสดงหนึ่ง ร้องเพลงหรือเต้นรำ หรือเล่าเรื่องตลกก็ได้ ทุกคนว่าดีไหม?”
“ดี!”
พวกแนวร่วมกลัวว่าโลกนี้จะไม่สงบสุขพากันตะโกนเสียงดัง หรือเป่าปากเสียงแหลม
เฉินเจี้ยนหาวถูกมหาชนผลักดันขึ้นไปบนเวที
เขายิ้มแหย “ผมแก่ปูนนี้แล้วให้เต้นรำ คงต้องแลกกับชีวิตผมเลยทีเดียว? พวกคุณช่างใจร้าย!”
เถ้าแก่บาร์บลูโลตัส ฉางเหว่ยขุดคุ้ยเรื่องอดีต “น้องเฉิน นายอย่าถ่อมตัวเลย ก่อนนั้นนายได้ขึ้นชื่อว่าเจ้าชายแห่งร็อกแอนด์โรล ขอแค่มีแรงเหลือเพียงนิดหน่อย นายก็ยังคุมเวทีได้อยู่!”
เจ้าชายแห่งร็อกแอนด์โรล!
เบียร์ในปากของลู่เฉินเกือบพ่นพรวดออกมา
คิดถึงเฉินเจี้ยนหาววัยหนุ่ม ผมยาวถือกีตาร์ ภาพในหัวดูไม่สวยงามนัก!
ทุกคนหัวเราะฮ่าๆ เสียงดัง ส่งเสียงอย่างพร้อมเพรียง “ร้องเพลงหนึ่ง!”
“นาย นาย นาย…”
เฉินเจี้ยนหาวโกรธจนชี้หน้าเถ้าแก่ฉาง ตอบว่า “ฝากไว้ก่อนเถอะ!”
คำสบถหลังจากนั้นเว้นเอาไว้ ยังไงก็ต้องร้องเพลง
เฉินเจี้ยนหาวไม่ได้เฉไฉ หรืออาจเป็นเพราะฤทธิ์สุรากำลังขึ้น เขาตะโกนเรียกวงเฮสิเทชั่นขึ้นมา
ร้องเพลงร็อกอันเป็นตำนานของวงแบล็คโครว์ชื่อเพลง ‘เกิดใหม่พรุ่งนี้’
วงแบล็คโครว์เป็นวงดนตรีหนึ่งที่โลดแล่นอยู่ในช่วงปลายของยุคปี 80 ถึงต้นยุคปี 90 พวกเขาออกอัลบั้มทั้งหมดสามชุด มูลค่ารวมมากกว่ายี่สิบล้านหยวน ถูกมองว่าเป็นเสาหลักของวงการเพลงร็อกแอนด์โรลในประเทศจีน
โชคร้ายที่เมื่อเดือนกันยายนปี 1993 หัวหน้าวงแบล็คโครว์ผู้มีจิตวิญญาณศิลปินสูงส่งชื่อเกาอี้ ขณะทำการซ้อมงานร้องเพลงแห่งหนึ่งอยู่ ไม่ระวังพลัดตกจากเวที กะโหลกศีรษะได้รับบาดเจ็บ และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเฉาหยาง ในขณะที่อายุเพียง 32 ปี
อุบัติเหตุของเกาอี้ ทำให้เกิดความเสียหายต่อวงการร็อกแอนด์โรลมาก วงแบล็คโครว์ที่ได้เป็นวงชั้นนำไม่อาจยืนหยัดต่อได้หลังจากนั้น สองปีให้หลังได้แยกย้ายกันไป เหลือเพียงแต่ความเศร้าโศกของผู้หลงใหลเพลงร็อกแอนด์โรล
การล่มสลายของวงแบล็คโครว์ กลายเป็นเงามืด เริ่มมีความเสื่อมถอยของวงการเพลงร็อกแอนด์โรลในประเทศจีน เนื่องจากการเฟื่องฟูของธุรกิจเพลงป็อปแนวใหม่ เพลงร็อกแอนด์โรลดั้งเดิมถูกโจมตี ตลาดถดถอยลงเรื่อยๆ ส่งผลให้กระแสน้อยลงเรื่อยๆ
นักร้องเพลงร็อกแอนด์โรลบางคนเลือกที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองและแนวเพลงไปตามกระแส เปลี่ยนเป็นร้องเพลงซอฟท์ร็อกหรือเพลงโฟล์คซอง แต่ยังมีอีกหลายคนยังดึงดันที่จะปกป้องเพลงร็อกแอนด์โรลในห้วงสุดท้ายต่อไป ไม่ยอมก้มหัวให้กับความต้องการของตลาด
แต่ผู้พิทักษ์เหล่านี้ ส่วนใหญ่ไร้นาม
จนถึงปัจจุบัน เพลงร็อกของประเทศเหลือแต่ชื่อเสียงอันห่างไกล มีคนเพียงส่วนน้อยที่ยังยืนหยัดต่อด้วยความยากลำบาก
เพลงที่เฉินเจี้ยนหาวเลือกร้อง เพลง ‘เกิดใหม่พรุ่งนี้’ ไม่เพียงแต่เป็นเพลงดังของวงแบล็คโครว์ ยังเป็นเพลงขั้นสูงสุดของวงการร็อกแอนด์โรล นักร้องเพลงร็อกแอนด์โรลต่างเคยนำมาร้องทั้งนั้น!
ลู่เฉินเพิ่งได้เห็นอีกแง่มุมหนึ่งของเฉินเจี้ยนหาว
ในความทรงจำของลู่เฉิน เถ้าแก่บาร์เดย์ลิลลี่คนนี้สุขุมนุ่มลึกและเย็นชา มีแววฉลาดเฉลียวในแบบนักธุรกิจที่เก่งกาจ ไม่เคยเผยความรู้สึกในใจออกมาให้ใครรู้ได้ง่ายๆ ปกติเก็บอารมณ์ทั้งดีใจและโกรธเกรี้ยวได้ดีมาก
เฉินเจี้ยนหาวบนเวทีวันนี้ เป็นชายวัยกลางคนที่ไม่เสียดายชีวิต กลับยังมีไอความเลือดร้อนของวัยหนุ่ม เขาแหกปากร้องเพลงโดยมีวงเฮสิเทชั่นเป็นผู้บรรเลงดนตรีประกอบ
ใบหน้าของเขาแดงเถือก เส้นเอ็นสีเขียวปูดขึ้นที่คอและหน้าผาก ดวงตาแดงก่ำ ราวกับเพิ่งถูกเปลวไฟแผดเผา แฝงด้วยพลังอันไร้ขีดจำกัด
ด้านฝีมือร้องเพลง เฉินเจี้ยนหาวทำได้ไม่ดีนัก เมื่อถึงตอนสูงสุดของเพลงยังเสียงแตกสั่น แต่เขาใส่อารมณ์เข้าไปในเพลง ทำให้คนฟังคึกคะนองตาม
ทุกคนปรบมือ หรือร้องตะโกนไปพร้อมกับเขา คลื่นเสียงสั่นรุนแรงกระแทกฝ้าเพดานจนแทบจะหลุดออก!
ลู่เฉินอยู่ในนั้น ยังรู้สึกเลือดลมพลุ่งพล่านตาม
เขากำหมัดยกมือขึ้นสูง แหกปากตะโกนร้องเพลงไปด้วย!
“พรุ่งนี้ฉันจะเกิดใหม่ เผชิญหน้ากับวัยเยาว์อีกครั้งหนึ่ง!”
“ขอคุณอย่าได้ลืมชื่อจริงของฉันตลอดไป!”
เพลงจบลง บรรยากาศทั้งร้านปะทุเดือด!
“ขอบคุณ!”
ร้องเพลง ‘เกิดใหม่พรุ่งนี้’ แล้ว เฉินเจี้ยนหาวใช้พลังทั้งหมดที่มีไปไม่เหลือ
เหงื่อออกท่วมหัว หัวเราะไปหอบไปถามต่อว่า “ทุกคนดีใจใช่ไหม? ชอบหรือเปล่า? สุดขีดหรือยัง?”
“ดีใจ!” “ชอบ!” “สุดขีดไปเลย!”
เพื่อนตะโกนตอบ เฉินเจี้ยนหาวในรูปแบบนี้มีไม่กี่คนที่เคยเห็น ดูสดชื่นมีชีวิตชีวา
คนที่เชิญเฉินเจี้ยนหาวขึ้นมาร้องเพลงบนเวทีตะโกนขึ้นมาอีกว่า “พี่เจี้ยนหาว พี่เก็บแรงไว้หน่อย พรุ่งนี้ยังต้องเข้าห้องหออีกนะ ถ้าไม่มีแรง เดี๋ยวพี่สะใภ้จะมาว่าพวกเราได้!”
ทุกคนหัวเราะชอบใจ บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสนุกสนาน
“ฉันจะจำนายไว้!”
เฉินเจี้ยนหาวเอ่ยเสียงโหดถลึงตาใส่ตัวการใหญ่ ยื่นไมโครโฟนให้ฉินฮั่นหยาง
“ต้าฉิน ต่อไปตานายแล้ว!”
บาร์เดย์ลิลลี่จัดงานปาร์ตี้สละโสดไม่เคยขาดนักร้อง แค่วงนักร้องที่มามีถึงสี่ห้าวงแล้ว ยังไม่ต้องพูดถึงนักร้องหน้าเก่าที่ทำงานอยู่ในย่านโฮ่วไห่
ค่ำคืนนี้เป็นวันพิเศษ หลายคนคิดอยากจะหารายได้เล็กน้อย จึงรีบเสนอตัวมาถึงที่นี่
ฉินฮั่นหยางไม่พูดอะไร เขานำพี่น้องสมาชิกของวงร้องเพลง ‘ในฤดูใบไม้ผลิ’
ถ้าลู่เฉินไม่ได้กลายเป็นตำนานของย่านโฮ่วไห่ เพลง ‘ในฤดูใบไม้ผลิ’ ของวงเฮสิเทชั่นก็จะกลายเป็นเรื่องเล่าอภินิหาร เป็นที่เคารพยกย่องของนักร้องในบาร์จำนวนนับไม่ถ้วน!
เพลงนี้ในโลกออนไลน์ยังไม่มีใครมาล้มแชมป์ได้ วันนี้ยังคงรั้งตำแหน่งอันดับหนึ่งของตารางการจัดอันดับเพลงจีนยอดนิยมอยู่ดี ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเป็นแชมป์มากี่สัปดาห์แล้ว คาดว่าจะได้เป็นเพลงในตำนานอีกเพลง
แม้ไม่ใช่เพลงร็อกแอนด์โรลแบบบริสุทธิ์ แต่เพลง ‘ในฤดูใบไม้ผลิ’ ได้ปลุกความทรงจำในช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ของเพลงร็อกขึ้นมาอีกครั้ง วงเฮสิเทชั่นยังคงเป็นวงนักร้องหน้าใหม่ในวงการเพลงป็อป ตารางงานถูกจองยาวไปจนถึงปีหน้า
ตอนนี้บาร์เดย์ลิลลี่ เป็นสถานที่ๆ วงเฮสิเทชั่นเคยต่อสู้ดิ้นรนมาก่อน เมื่อได้ฟังเพลง ‘ในฤดูใบไม้ผลิ’ แบบต้นตำรับแล้ว หลายคนรู้สึกถึงความมีเกียรติ!
ทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นของเพลง ‘ในฤดูใบไม้ผลิ’
ทุกคนไม่ลืมลู่เฉิน เมื่อวงเฮสิเทชั่นร้องเพลง ‘ในฤดูใบไม้ผลิ’ จบลง มีคนตะโกนชื่อของเขาขึ้นมาทันที
นั่นคือบรรดาลูกค้าเก่าแก่ของบาร์เดย์ลิลลี่
ถ้าคิดตามเวลาจริงๆ ลู่เฉินออกจากบาร์เดย์ลิลลี่ไปไม่นาน
แต่สำหรับลูกค้าเหล่านั้น ลู่เฉินจากไปนานแล้ว
พวกเขาคิดถึงชายหนุ่มหน้าตาดีคนนี้ คิดถึงคนที่นั่งร้องเพลงอยู่บนเวที กอดกีตาร์ขับร้องเพลง ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ ความรู้สึกแบบนั้นไม่อาจรับรู้ได้ผ่านหน้าจอโทรทัศน์
ทุกคนรู้ว่าก้าวย่างของลู่เฉินไม่มีทางหยุดอยู่ที่บาร์เดย์ลิลลี่นี้เท่านั้น พวกเขาดีใจที่เห็นลู่เฉินก้าวไปข้างหน้าอย่างใหญ่หลวง เป็นดาวโดดเด่นเจิดจรัสอยู่บนเวที และอวยพรให้แก่อนาคตและหนทางข้างหน้าของลู่เฉิน
ขณะเดียวกัน พวกเขายังหวังจะได้ฟังเพลงที่ลู่เฉินร้องสดอีกครั้ง
วันนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุด
ฉินฮั่นหยางถือไมโครโฟนพูดขึ้น “ถ้าเช่นนั้นต่อจากนี้เชิญเถ้าแก่น้อยแห่งบาร์เดย์ลิลลี่ของเราขึ้นมา ร้องเพลงใหม่สักเพลงให้พวกเราฟังดีไหม? ต้องเป็นเพลงที่ไม่เคยฟังที่ไหนมาก่อน!”
“ดี!”
ทุกคนปรบมือตอบรับฉินฮั่นหยางอย่างคึกครื้น
สำหรับนักร้องคนอื่น หากเกิดสถานการณ์เช่นนี้เกรงว่าจะเป็นการทำให้ลำบากใจ
แต่สำหรับลู่เฉิน…
เขามีความสามารถพิเศษด้านการสร้างสรรค์ผลงานเพลง ในวงการมองเขาว่าเป็นคนมหัศจรรย์ที่คาดไม่ถึง
เพียงไม่กี่เดือน เพลงดังที่ออกมาจากฝีมือการแต่งเพลงของลู่เฉินมีมากถึงยี่สิบกว่าเพลง
แม้มีนักแต่งเพลงบางคนที่อยู่ในยุคทองของการสร้างสรรค์เพลง สามารถออกผลงานดีๆ ในช่วงเวลาอันสั้นได้มากเท่านี้ แต่ไม่มีใครเหมือนลู่เฉิน แต่ละเพลงของเขาเป็นเพลงคลาสสิคทั้งนั้น
สิ่งที่ทำให้คนพูดไม่ออกคือ เขามีความคิดสร้างสรรค์ระดับสร้างเรือบินเลยทีเดียว แนวเพลงครอบคลุมทั้งเพลงโฟล์คซอง เพลงซอฟท์ร็อก เพลงรักหรือแม้แต่ทำนองหลัก ในหัวมีดนตรีมากมายไม่มีหมด!
ในวงการ ลู่เฉินได้รับฉายาว่า ‘ผู้ระเบิดทำนอง’
ดังนั้นเรื่องนี้หรับคนอื่นนั้นยากมาก แต่กับลู่เฉินดูจะตรงไปตรงมา มีเหตุมีผล และมีความจำเป็น!
เพลงใหม่ ต้องเป็นผลงานเพลงใหม่!
“ลู่เฉิน! ลู่เฉิน! ลู่เฉิน!…”
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเริ่ม ทุกคนพร้อมใจกันตะโกนชื่อของลู่เฉินออกมา
นี่เป็นปาร์ตี้สละโสดของเฉินเจี้ยนหาว กลับกลายเป็นเวทีให้ลู่เฉินเสียแล้ว
แต่เฉินเจี้ยนหาวไม่รังเกียจ กลับร่วมตะโกนไปพร้อมกับคนอื่น ทำให้บรรยากาศในบาร์ยิ่งพุ่งถึงขีดสุด!
……………………………………………………………………………