Perfect Superstar – ตอนที่ 294 ตอนจบ

Perfect Superstar

ตอนที่ 294 ตอนจบ

รถไฟใต้ดินเข้าจอดเทียบชานชาลาสถานีตงเหยียนอย่างมั่นคง

ผู้โดยสารเบียดเสียดกันออกมาจากขบวนรถ แต่ที่ว่างที่พวกเขาทิ้งไว้ได้ถูกผู้โดยสารที่ขึ้นไปใหม่จับจองจนเต็ม แล้วรถไฟก็พุ่งทะยานเข้าสู่อุโมงค์อันมืดมิด

เมืองปักกิ่งอันใหญ่โตมีประชากรอยู่อาศัยประมาณสามสิบล้านคน ระบบรถไฟใต้ดินที่ครอบคลุมทั่วเป็นการสัญจรหลักที่ประชาชนเลือกใช้ ทุกวันมีประชาชนนับไม่ถ้วนที่ใช้รถไฟใต้ดินเดินทางไปทำงาน เส้นทางใหม่ล่าสุดได้ถูกเชื่อมโยงไปถึงเขตวงแหวนรอบที่เจ็ดที่กำลังวางแผนสร้าง

หลินอวี๋กับเหล่าเพื่อนสาวไหลไปตามฝูงชน จับราวบันไดเลื่อนออกมาถึงหน้าสถานี

ในอ้อมกอดของเธออุ้มตุ๊กตากระต่ายแบบการ์ตูนตัวใหญ่ขนปุย ทำให้เธอกลายเป็นจุดสนใจของหลายคน แต่แฟนคลับสาวคนนี้ไม่สนใจสายตาแปลกประหลาดที่คนอื่นมองเธอ ใบหน้าหมดจดของเธอยังแดงระเรื่อจากความตื่นเต้นที่เพิ่งเกิดขึ้น

วันนี้คือวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันแห่งความรัก เป็นวันที่พิเศษมาก หลินอวี๋ไม่มีแฟน ตอนแรกเธอคิดอยากจะหลบอยู่ในหอพักเล่นอินเทอร์เน็ตเพื่อข้ามผ่านคืนอันแสนโรแมนติกนี้ แต่ถูกเพื่อนสาวรบเร้าให้ออกไปเดินเล่นในย่านกลางเมืองเพื่อไปดูความคึกคัก

ตอนนี้เธอรู้สึกขอบคุณเพื่อนของเธอมากๆ ถ้าไม่ได้พวกเธอคะยั้นคะยอ ตัวเองคงไม่มีโอกาสได้เห็นลู่เฉินตัวจริงกับตา แถมยังได้ขึ้นไปร้องเพลงรักคู่กับเขาด้วย

นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว หัวใจของหลินอวี๋กระโดดโลดเต้นเหมือนกวางน้อย!

เธอชอบลู่เฉินเพราะละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ แม้ไม่นับว่าเป็นแฟนคลับประเภทบ้าคลั่ง แต่ในบรรดาดาราที่ชอบทั้งหลาย ลู่เฉินเป็นหนึ่งในสามอันดับแรก

แต่ตอนนี้เป็นที่หนึ่งแล้ว!

“พวกเรารีบไปกันเถอะ…”

เพื่อนสาวคนหนึ่งเอ่ยปากเร่งเร้า “รักนี้ชั่วนิรันดร์ตอนจบใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว!”

เพื่อนสาวอีกสองคนรีบสาวเท้าให้เร็วขึ้น หนึ่งคนในนั้นพูดขึ้นว่า “เสี่ยวอวี๋ เธอโชคดีมากเลย ตอนนั้นฉันก็ยกมือ ทำไมไม่เลือกฉันบ้าง”

เพื่อนสาวที่เดินอยู่ข้างหน้าหัวเราะ “เพราะเธอร้องเพลงเพี้ยนน่ะสิ ขึ้นไปคงถูกไล่ลงมา!”

“แหม เธอกล้าประชดฉันเหรอ ดูนี่!”

เพื่อนสาวสองคนหยอกล้อกันไปตามทาง เสียงหัวเราะสดใสเหมือนกระดิ่งเงินดังสะท้อนไปตามท้องถนนไกลๆ

หลินอวี๋อดขำไม่ได้ กอดกระต่ายในอ้อมอกให้แน่นขึ้น

หลินอวี๋เป็นคนเจียงเฉิง หลังจากมาเรียนมหาวิทยาลัยในปักกิ่งแล้วก็อยู่ที่นี่เพื่อทำงาน ตอนนี้เป็นพนักงานของบริษัทแห่งหนึ่ง เพื่อนสาวทั้งสามของเธอเป็นเพื่อนร่วมงาน อยู่ด้วยกันในอพาร์ตเมนต์นอกเขตวงแหวนรอบที่ห้า

เนื่องจากเป็นเด็กสาวที่มีนิสัยเงียบๆ ค่อนข้างเก็บตัว หลินอวี๋ไม่ได้มีงานอดิเรกมากมายนัก เวลาพักผ่อนของเธอส่วนใหญ่ใช้ไปกับการอ่านวรรณกรรม ดูหนังฟังเพลง โดยเฉพาะละครโทรทัศน์ต่างๆ เธอชอบดูอย่างยิ่ง

ไม่เหมือนกับคนรุ่นราวคราวเดียวกันส่วนใหญ่ที่คลั่งไคล้การเข้าอินเทอร์เน็ต หลินอวี๋กลับชอบดูละครผ่านทางจอโทรทัศน์มากกว่า

ด้วยเหตุนี้เมื่อเงินเดือนเดือนแรกของเธอออก จึงซื้อโทรทัศน์จอแอลซีดีมาวางไว้ในห้องรับแขกเล็กๆ ในอพาร์ตเมนต์ ตอนแรกเธอคิดจะดูคนเดียว ต่อมาเพื่อนๆ ของเธอได้รับอิทธิพลจากเธอจึงมาร่วมดูด้วย

ทุกคนมาดูละครร่วมกัน ดูแล้วหัวเราะร้องไห้ไปพร้อมกัน ความสนิทสนมจึงยิ่งมากขึ้น

นี่เป็นสิ่งที่หาไม่ได้จากการเล่นอินเทอร์เน็ตอยู่คนเดียวโดดเดี่ยวเดียวดาย!

และตอนนี้ละครที่ทั้งสี่สาวชอบมากที่สุด ติดตามมากที่สุดก็คือละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ที่ลู่เฉินแสดง

คืนนี้เป็นตอนจบของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ แล้ว!

ทั้งกลุ่มเดินกันอย่างเร่งรีบ กลับมาถึงอพาร์ตเมนต์ที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดินอย่างรวดเร็ว

เมื่อถึงห้องเช่า เปิดประตูแล้วก็พุ่งเข้าไปในห้อง ทุกคนมานั่งกองรวมกันอยู่ที่โซฟา

เปิดทีวีเป็นอันดับแรก!

“เริ่มแล้ว เริ่มแล้ว!”

“เริ่มอะไร ยังโฆษณาอยู่เลย ในที่สุดก็กลับมาทัน”

“วิ่งจนเมื่อยขาไปหมด ใครก็ได้นวดให้ที”

“นวดทีหนึ่งห้าหยวน”

“ไปตายซะ!”

หลินอวี๋กอดกระต่ายนั่งลงบนโซฟา เธอวางคางลงบนขนกระต่ายนิ่มฟู สายตาทอดมองจอโทรทัศน์ ในใจคิดถึงตอนจบของละครในคืนนี้

เพราะตอนจบของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เลือกออกอากาศในคืนวันแห่งความรัก เพื่อรับประกันเรตติ้ง ทางสถานีโทรทัศน์ไห่จินจึงตั้งใจเลื่อนเวลาออกอากาศตอนสุดท้ายออกไปถึงสามทุ่มครึ่ง

หลินอวี๋กับเพื่อนสาวกลับมาไม่สายเกินไป

เมื่อโฆษณาที่ยาวถึงห้านาทีเล่นจบ เพลงเปิดละครอันคุ้นเคยก็ดังไปทั่วทั้งห้องรับแขก

ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ตอนที่ยี่สิบเริ่มต้นขึ้นแล้ว

เอินซีมักจะเก็บงำความเจ็บปวดเพื่อจะได้ใช้เวลาที่เหลือไม่มากอย่างมีความสุขร่วมกับจวิ้นซี

นี่ยิ่งทำให้จวิ้นซีเสียใจ

เอินซีเริ่มอาเจียนเป็นเลือด อาการแย่ลงทุกวัน เธอเริ่มถ่ายภาพเก็บความทรงทำ ทั้งยังแอบเตรียมงานศพ

เอินซีพบขวดยาที่จวิ้นซีเตรียมไว้ให้ตัวเขาเองในห้องของเขาอย่างบังเอิญ จึงเข้าใจจิตใจและความคิดของเขา เธอบังคับเขาให้รับปากว่าจะไม่ตายเพราะเธอ

จวิ้นซีรับปากทั้งน้ำตานองหน้า

สุดท้ายทั้งคู่ไปที่ชายทะเลที่ทั้งสองเคยไปเล่นด้วยกันตอนเด็กๆ เอินซีฟังจวิ้นซีเล่าเรื่องสมัยเด็กให้ฟัง…

ดูถึงตรงนี้ ในห้องรับแขกเงียบจนน่ากลัว ทั้งสี่สาวหน้าซีดเผือด

แม้พวกเธอรู้ดีอยู่แก่ใจว่า ตอนจบของละครจะโศกเศร้า แต่ทุกคนก็ยังหวังในความสุข คิดว่าไม่แน่เรื่องอาจจะหักมุม สุดท้ายพระเอกนางเอกจะได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

เมื่อฉากแห่งความตายมาเยือนจริงๆ พวกเธอทุกคนน้ำตาร่วง

หลินอวี๋น้ำตาคลอจนตาพร่ามัว หัวใจบีบรัดเจ็บปวดสุดแสน เธอพยายามบังคับตัวเองไม่ให้ร้องไห้ออกมา เห็นภาพเอินซีหมดลมหายใจบนแผ่นหลังของจวิ้นซี ดูจวิ้นซีแบกหญิงสาวที่รักเดินไปตามหาดทราย…

น้ำตาแตกทันที!

“ทำไมเป็นแบบนี้”

เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นเบาๆ ใช้กระดาษทิชชู่ซับน้ำตาไม่หยุด

หลินอวี๋อยากถามประโยคนี้เหมือนกัน เธอรู้สึกว่าลู่เฉินโหดร้ายเหลือเกิน!

ทำไมตอนสุดท้ายต้องให้ทั้งสองคนตายจากกัน ทำไมไม่ยอมให้คนที่รักกันด้วยใจจริงได้อยู่ด้วยกัน

ละครยังไม่จบเพียงแค่นี้

เอินซีจบวาระสุดท้ายของชีวิตอย่างสุขสงบ หลังจากเสร็จพิธีศพแล้ว จวิ้นซีขอให้ไท่ซีช่วยนำเถ้ากระดูกของเอินซีไปโปรยลงทะเล ส่วนตัวเองกลับมาอยู่บนทางเล็กๆ ในบ้านเกิดที่เคยอยู่กับเอินซีตอนเด็กๆ คนเดียว

ภาพจำวัยเด็กที่เคยเล่นเกมกับเอินซีผุดขึ้นมา รถบรรทุกคันหนึ่งวิ่งมาบนถนนอย่างเร็ว เมื่อจวิ้นซีย่างเท้าออกไปเตรียมจะให้รถชนนั้น เขานึกถึงคำสัญญาที่เคยมอบให้กับเอินซีว่าจะอยู่ต่อไปอย่างกล้าหาญ

ดูถึงตอนนี้แล้วคนดูก็ไม่รู้ว่า ละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ในโลกแห่งความฝันของลู่เฉินนั้น ตอนจบจวิ้นซีฆ่าตัวตายตามเอินซีไปอยู่ร่วมกันบนสวรรค์ แต่การกระทำของเขาเห็นแก่ตัวเกินไป ละเมิดคำสัญญาที่มีต่อเอินซี

ลู่เฉินจึงดัดแปลงเอง หลายครั้งที่การดำรงชีวิตอยู่ต้องอาศัยความกล้าหาญเป็นอย่างมาก!

เนื้อเรื่องดำเนินมาสิ้นสุดลงเพียงเท่านั้น เพลง ‘ดวงตาของคุณ’ ดังขึ้นอีกครั้ง ละครเรื่องนี้จัดเป็นละครที่จบเศร้า!

ดูจบแล้ว หลินอวี๋กับเพื่อนๆ ของเธอพูดอะไรไม่ออก

หลินอวี๋เข้าห้องของตัวเอง แต่ไม่รู้สึกง่วงเลยสักนิด เธออดไม่ได้ที่จะเปิดคอมพิวเตอร์แล้วเข้าอินเทอร์เน็ต

ในอินเทอร์เน็ตแทบระเบิด!

ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เป็นละครที่ได้รับเรตติ้งสูงสุดในช่วงปลายปี 2015 ถึงต้นปี 2016 มีแฟนละครมากมาย มีทั้งบล็อกทางการ โพสต์ และฟอรัมที่เกี่ยวกับละคร ล้วนเสวนากันถึงเนื้อหาและตัวละครในเรื่อง

เมื่อตอนจบละครถูกปล่อยออกมา เนื้อหานี้ราวกับการปล่อยระเบิดปูพรม ระเบิดแห่งความเศร้ากระจายไปทั่ว

“วันแห่งความรักทั้งทีดูละครตอนจบที่เศร้าขนาดนี้ มันดีแล้วเหรอ”

“ฉันร้องไห้จนตาบวมเลย ตอนดูอยู่ในห้อง แม่ฉันนึกว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉันเสียอีก!”

“ไม่ต้องพูดถึง อย่างน้อยต้องหดหู่ต่อไปอีกสองอาทิตย์!”

“ขอคัดค้านอย่างรุนแรง เอาเอินซีของผมคืนมา!”

“แม้จะเดาออกแต่แรกว่าต้องจบแบบนี้ ไม่เกินความคาดหมาย แต่ก็ยังเสียใจมากอยู่ดี”

“ผมเป็นผู้ชาย ผมยังดูจนร้องไห้เลย”

“ดูจนร้องไห้+1!”

ในบล็อกล่างฉาว บล็อกของลู่เฉินถูกคนด่าระงม น้อยมากที่เขาจะถูกคนด่า

โหดร้ายเหลือเกิน ใจดำที่สุด!

ถึงขั้นว่าศิลปินในวงการหลายคนได้โพสต์บล็อกเหมือนกัน แสดงความหดหู่ที่รู้สึกหลังจากได้ดูละครตอนจบ

ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นแฟนละครจริงๆ หรือมาอาศัยบารมีของละครเรื่องนี้ก็ตาม ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าตอนนี้ละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ส่งผลกระทบไปทั้งในและนอกวงการ

ตอนนี้ในที่สุดละครเรื่องนี้ก็จบฉากลงแล้ว อาจะเป็นเรื่องดีสำหรับคู่แข่ง แต่กับคนดูเป็นพันเป็นหมื่นนั้น ทั้งคิดถึงทั้งเสียดาย

ตอนห้าทุ่ม ลู่เฉินได้รับโทรศัพท์จากเฉินเฟยเอ๋อร์

“นายต้องชดใช้ให้ฉัน!”

ในสาย เสียงของเฉินเฟยเอ๋อร์ฟังดูแหบแห้ง ไม่หลงเหลือเสียงอันไพเราะเสนาะหูเหมือนเสียงทูตสวรรค์

ลู่เฉินอึ้ง “ชดใช้อะไร”

เฉินเฟยเอ๋อร์ตอบ “ฉันดูตอนจบแล้ว เสียน้ำตาไปเยอะมาก ทำให้ฉันเสียใจ ต้องชดใช้ไหม”

ลู่เฉินทั้งอยากหัวเราะและร้องไห้ไปพร้อมกัน “คุณดูไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ”

นอกจากตัวเขาเองแล้ว เฉินเฟยเอ๋อร์ก็รู้ตอนจบตั้งแต่แรก อีกอย่างหลังจากถ่ายทำเสร็จเธอยังได้ดูเนื้อหาก่อนตัดต่อเสียอีก ตอนนั้นไม่เห็นจะเศร้าโศกอะไร

แล้วตัวเธอเองยังเป็นนางเอกของเรื่องด้วย!

“คืนนี้ดูแล้วรู้สึกไม่เหมือนเดิม เหมือนกับตัวเองได้ไปรับรู้ความเศร้าเสียใจนั้นจริงๆ…”

เฉินเฟยเอ๋อร์เล่าถึงความเศร้าสร้อยของเธอ

ลู่เฉินรู้สึกขำนิดๆ พร้อมกันนั้นก็ปลื้มใจมาก “ถ้าอย่างนั้นผมไปอยู่เป็นเพื่อนคุณแล้วกัน!”

“ไม่ต้องหรอก…”

เล่าจบ อารมณ์ของเฉินเฟยเอ๋อร์ดูเหมือนจะดีขึ้น “ดึกมากแล้ว นายรีบพักผ่อนเถอะ…”

ลู่เฉินมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา จึงบอกว่า “อีกสิบนาที พี่คุณเข้ามาอ่านบล็อกของผมหน่อยนะ”

“หา?”

เฉินเฟยเอ๋อร์ตกใจ “นายจะบอกว่าอะไร”

ลู่เฉินหัวเราะ “อีกสิบนาทีแล้วคุณก็จะรู้เอง”

“ทำตัวลึกลับ!”

เฉินเฟยเอ๋อร์ทำเสียงหยอกเย้า “ถ้าอย่างนั้นฉันรออีกสิบนาที ดูซินายจะเล่นอะไร!”

วางสายจากเฉินเฟยเอ๋อร์ ลู่เฉินเปิดคอมพิวเตอร์ ลงทะเบียนเข้าบล็อกล่างฉาวของตัวเอง

เขาอ่านคอมเมนต์ในโพสต์อันล่าสุดคร่าวๆ แล้วอดยิ้มแห้งไม่ได้

สถานีโทรทัศน์ไห่จินเองก็ใช้ลูกไม้ เลือกฉายตอนจบละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ในวันนี้ พวกเขาได้ยอดเรตติ้งที่มากเกินพอและได้เป็นหัวข้อให้คนกล่าวถึง แต่กลับผลักลู่เฉินให้ลงสู่กองไฟ!

คิดแล้วลู่เฉินเปิดหน้าแก้ไขโพสต์ เริ่มพิมพ์หัวข้อลงไปเก้าคำ

ระยะห่างที่ไกลที่สุดในโลก!

…………………………………………………………………..

Perfect Superstar

Perfect Superstar

Status: Ongoing
ชีวิตของลู่เฉินดั่งมรสุมรุมเร้า ทว่าสวรรค์ยังคงเมตตาคนสู้ชีวิต ความทรงจำและความสามารถจากในความฝัน จะช่วยปูทางให้เขากลายเป็น Perfect Superstar เอง!ลู่เฉิน ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาวัย 22 ปีจำต้องหยุดเรียนออกมาทำงานหาเงินในเมืองหลวง เพื่อช่วยครอบครัวปลดหนี้จำนวนมหาศาลวันหนึ่งเขาฝัน…เป็นความฝันที่ยาวนานมากโลกแห่งความฝันทั้งคุ้นเคยและแปลกหน้าตัวละครแสดงต่างก็มีสีสันที่ไม่เหมือนกันนักร้อง นักแสดง นักเขียนอิสระเขามีประสบการณ์กับช่วงชีวิตที่ต่างกันทั้งสามนี้ในโลกความฝันเมื่อตื่นขึ้น ลู่เฉินมุ่งหน้าสู่ความฝันของตัวเองพร้อมกับทักษะที่ได้รับมาเป้าหมายคือกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ที่สมบูรณ์แบบ!!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท