ตอนที่ 346 ผลของการโฆษณา
วันจันทร์ที่ 25 เมษายน ท้องฟ้าแจ่มใส
ตอนเช้าเวลาเจ็ดโมงสี่สิบห้านาที เมิ่งเจียนเฉิงยืนอยู่หน้าชานชาลาสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน รอคอยพร้อมกับพวกมนุษย์เงินเดือนที่เร่งรีบมุ่งหน้าไปยังสถานที่ทำงาน เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ที่วุ่นวาย
เมืองหลวงกว้างใหญ่มาก แต่ผู้คนก็เยอะกว่า ช่วงเวลาเร่งรีบทุกเช้าเย็น ผู้คนจะอาศัยการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินเยอะเป็นพิเศษ ภายในตู้โดยสารมักจะเบียดเสียดกันเหมือนปลาซาร์ดีนกระป๋องเป็นประจำ ถือว่าเป็นลักษณะเด่นอย่างหนึ่งในเมืองหลวง
เมิ่งเจียนเฉิงคุ้นชินกับชีวิตแบบนี้นานแล้ว เมื่อเจ็ดปีก่อนเขาเรียนจบและตัดสินใจเลือกอยู่ที่เมืองหลวง โชคดีที่เขาได้ทำงานในบริษัทต่างชาติ เงินเดือนและสวัสดิการถือว่าไม่เลว
สามปีก่อน เขาเอาเงินที่เก็บสะสมมาจากการทำงานที่เหน็ดเหนื่อย บวกกับการสนับสนุนของพ่อแม่ กู้เงินซื้อคอนโดมิเนียมสองห้องนอนที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินแถววงแหวนรอบที่ห้า ถือว่าลงหลักปักฐานที่เมืองหลวงแล้ว
ย่างเข้าวัยสามสิบปี เมิ่งเจียนเฉิงหรือจะพูดให้ถูกต้องก็คือความปรารถนาของพ่อแม่ อยากให้เขาแต่งลูกสะใภ้ก่อร่างสร้างตัว มีลูกสืบทอดสกุล
เมิ่งเจียนเฉิงก็อยากเหมือนกัน น่าเสียดายที่ผู้หญิงในเมืองหลวงไม่ไร้เดียงสา เขามีแค่ห้องชุดเล็กๆ หนึ่งห้องแถมยังมีเงินกู้ติดหลังมาอีก เห็นได้ชัดว่าไม่พอที่จะตามหาคู่ชีวิตที่ถูกอกถูกใจตัวเองได้
ด้วยเหตุนี้ เมิ่งเจียนเฉิงจึงมองโลกในแง่ดี เขาเชื่อว่าขอแค่พรหมลิขิตมาถึง คู่ชีวิตในอุดมคติก็จะปรากฏตัว
พรหมลิขิตยังไม่ถึง ฝืนไล่ตามใช่ว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดี
ดังนั้นปกติเวลาพักผ่อน เมิ่งเจียนเฉิงมักจะนัดเพื่อนสนิทสองสามคนขี่รถไปปิกนิกนอกสถานที่
ความจริงเขามีความฝันหนึ่งมาตลอด นั่นก็คืออยากใช้เวลาสองปีหรืออาจจะมากกว่านั้นเป็นผู้พเนจรเที่ยวไปตามภูเขาและสายน้ำทั่วประเทศมาตุภูมิ ซาบซึ้งและสนุกเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่สวยงามในท้องที่ต่างๆ ทั่วทุกสารทิศ จะได้ไม่เสียเปล่าที่เกิดมาในโลกมนุษย์
ทว่าความเป็นจริงกลับกดทับความฝันเอาไว้ และยังกดทับหัวใจศิลปะที่ปั่นป่วนไม่หยุดนิ่งของของเมิ่งเจียนเฉิง
ท่ามกลางกลุ่มผู้คนที่อัดแน่นกัน สายตาของเขามองไปยังหน้าจอแอลซีดีที่แขวนอยู่บนเสาด้านข้าง
หน้าจอแอลซีดีมัลติมีเดียขนาดสิบเก้านิ้วแบบนี้สามารถเห็นได้ทั่วไปในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน เนื้อหาที่เล่นนอกจากความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับความปลอดภัยในรถไฟฟ้าใต้ดินและเกร็ดความรู้ในการใช้ชีวิตแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะเป็นโฆษณา เนื่องจากเป็นช่องทางสำคัญในการสร้างรายได้ของบริษัทรถไฟฟ้าใต้ดิน
ระยะห่างจากตู้โดยสารขบวนถัดไปเหลืออีกสองนาที เมิ่งเจียนเฉิงขี้เกียจหยิบโทรศัพท์ออกมา จึงดูโฆษณาแบบเซ็งๆ
ในหน้าจอมัลติมีเดียเพิ่งจะเล่นโฆษณายาสระผมเสร็จ เมิ่งเจียนเฉิงแค่นหัวเราะใส่นางแบบผมยาวดำขลับเป็นประกายจนเหมือนจะทำให้คนตาบอดได้ที่อยู่ในโฆษณา…แม่งดูแล้วก็มุกเดิมๆ ถ่ายไปถ่ายมาก็แบบเดียวกัน ดูเหมือนว่าครีเอทีฟที่ออกแบบโฆษณาเหล่านั้นจะจบมาจากสถาบันเดียวกัน ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ที่จริงใจเลยสักนิด
จากนั้นหน้าจอก็พลันดับลง เสียงลำโพงที่ดังออกมาก็เงียบเช่นกัน
วินาทีต่อมา ภาพหน้าจอใหม่ก็ปรากฏขึ้นทันที ท้องฟ้าสีคราม ก้อนเมฆสีขาว ทุ่งหญ้ากว้างสีเขียวขจีไร้ที่สิ้นสุด ถนนทอดยาวไปสู่เส้นขอบฟ้าจากเลือนรางถึงชัดเจน เสียงดนตรีประกอบที่ดังขึ้น แม้แต่เสียงคนที่อยู่โดยรอบก็เข้ามาอยู่ในหูของเมิ่งเจียนเฉิง
“ร่อนเร่วนเวียนอยู่บนถนน เธอจะไปไหม via via เย่อหยิ่งถือดี แต่เปราะบาง ฉันเคยเป็นแบบนั้นมาก่อน…”
เสียงเพลงที่ดังขึ้นมา กับรถสเตชันแวกอนสีขาวคันหนึ่งปรากฏขึ้นพร้อมกันในโฆษณา กล้องที่อยู่กลางอากาศถ่ายตามรถไปติดๆ ฉากหลังเริ่มจากทุ่งหญ้าโล่งกว้างเปลี่ยนเป็นภูเขาหิมะ ทะเลทรายโกบี ชายฝั่งทะเล…
“ฉันเคยข้ามผ่านภูเขาและมหาสมุทร เคยพานพบผู้คนนับไม่ถ้วน ฉันเคยมีพร้อมทุกสิ่ง ในพริบตากลับเหลือเพียงควัน ฉันเคยสูญเสีย สิ้นหวัง ไร้ซึ่งหนทางไป จนได้เห็นความธรรมดาเป็นคำตอบเดียว!”
ด้านล่างของภาพหน้าจอมีเนื้อเพลง เมิ่งเจียนเฉิงมั่นใจว่าตัวเองดูโฆษณารถยนต์แบบนี้เป็นครั้งแรก และได้ยินเพลงนี้เป็นครั้งแรกเช่นกัน
ท่ามกลางสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่มีเสียงผู้คนจ้อกแจ้กจอแจ
ทันใดนั้นเขารู้สึกว่าส่วนหนึ่งในใจของตัวเอง ความรู้สึกส่วนลึกบางอย่างที่ซ่อนอยู่ได้ถูกสัมผัส!
เขาจ้องมองหน้าจออย่างตกตะลึง หัวใจดวงนี้เปรียบเสมือนไล่ตามรถสเตชันแวกอนคันนั้นไปจนสุดหล้าฟ้าเขียว จนมาถึงทุ่งหญ้าทะเลทราย วิ่งตามสายลมอย่างอิสระเสรี อิสรภาพเหมือนดั่งฝัน
จากนั้นก็เหมือนมีอะไรโผล่ออกมาจากหัวใจ ต้นอ่อนแตกหน่อเติบโต!
โฆษณายาวมาก ทิวทัศน์ที่ได้จากการถ่ายภาพทางอากาศงดงามยิ่งนัก เพลงประกอบกับเนื้อเพลงและธีมหลักผสมผสานเป็นหนึ่งเดียว มันไม่ใช่การบังคับขายที่หยาบคาย ฝืนกระตุ้นเพื่อดึงดูดสายตา แต่เหมือนดั่งลมใบไม้ผลิแปรสายฝน ที่มีอิทธิพลต่อประสาทสัมผัสของผู้คนอย่างไร้ซึ่งเสียง
เมิ่งเจียนเฉิงจ้องมองหน้าจออย่างตั้งอกตั้งใจ นี่ไม่ใช่โฆษณาที่มีความคิดสร้างสรรค์มากที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมาแต่มีความสมบูรณ์แบบมากที่สุดอย่างแน่นอน!
และคนที่จ้องมองโฆษณาอยู่ไม่ได้มีเพียงเมิ่งเจียนเฉิงเท่านั้น รอบๆ มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่รอรถไฟใต้ดินอยู่ พวกเขาก็กำลังดูและฟังอยู่เหมือนกัน สัมผัสมนต์เสน่ห์ที่มาจากภาพหน้าจอและเสียงเพลง
จนถึงตอนท้าย รถสเตชันแวกอนที่ก้าวข้ามภูเขาและสายน้ำเดินทางผ่านเส้นทางอันยาวไกล แล้วกลับมายังเมืองที่คึกคักและหรูหราอีกครั้ง รถจอดสนิทประตูรถเปิดออก ชายหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่งมุดตัวออกมายืนอยู่ตรงหน้ารถ
เขารูปร่างสูงใหญ่ รอยยิ้มของเขาสดใสมีเสน่ห์ เมื่อเข้าคู่กับรถสเตชันแวกอนคันใหม่เอี่ยมยิ่งเสริมกันให้ดูดียิ่งขึ้น!
ลู่เฉิน!
เมิ่งเจียนเฉิงมองปราดเดียวก็จำคนที่อยู่ในโฆษณาได้ทันที
เขาเป็นคนรักดนตรีป็อปเหมือนกัน จึงรู้จักอัจฉริยะทางดนตรีคนใหม่ที่เกิดขึ้นในวงการเพลงป็อปคนนี้ เขาไม่เพียงแต่เคยฟังเพลงของลู่เฉิน แต่ยังเคยซื้อซีดีตัวจริงของลู่เฉินอีกด้วย
เมิ่งเจียนเฉิงชอบผลงานเพลงบัลลาดของลู่เฉินเป็นอย่างยิ่ง อัลบั้ม ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ เขาได้ฟังซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ ไม่แปลกใจเลยเมื่อครู่ตอนที่ฟังเพลงโฆษณาอยู่ถึงรู้สึกคุ้นหูนัก ที่แท้ก็เป็นสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ที่มาจากนักร้องคนเดียวกัน
ภาพหน้าจอมืดอีกครั้ง ‘เส้นทางธรรมดา’ ตัวหนังสือขนาดใหญ่เรียงกันหนึ่งบรรทัดปรากฏขึ้นมา ด้านล่างก็ปรากฏโลโก้ของรถยนต์จงหวาและสัญลักษณ์ของรถรุ่น ‘R100’ รวมทั้งตัวหนังสือ ‘วันที่ 23 เมษายน ออกวางตลาดอย่างยิ่งใหญ่’
นี่คือโฆษณาที่ไม่เลวจริงๆ!
งานที่เมิ่งเจียนเฉิงทำอยู่เกี่ยวข้องกับงานโฆษณา ดังนั้นเขามีความสามารถในการมองคุณค่าของผลงานโฆษณาที่แข็งแกร่งมากกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย ในสายตาของเขาโฆษณาตัวนี้ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดสร้างสรรค์ การถ่ายทำ รวมทั้งเพลงประกอบล้วนเป็นที่หนึ่ง
โฆษณาดีตัวหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องแหกปากตะโกนต่อผู้คน แบบนั้นเหมือนกับการผ่าสมองของคน แล้วนำเจตนาของโฆษณาใส่เข้าไปในหัวสมองทำให้คนรู้สึกไม่ชอบ
โฆษณาดีตัวหนึ่งน่าจะเป็นเหมือนดั่งสายลมอันชุ่มฉ่ำไร้สุ้มเสียง
เมิ่งเจียนเฉิงอดหยิบโทรศัพท์ออกมาไม่ได้
จากนั้นตอนที่เขาอยากจะค้นหารถยนต์ R100 ในอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือนั้น พลันพบว่าคนที่อยู่รอบๆหายไปไม่น้อย…ที่แท้ตัวเองก็พลาดขบวนรถไฟฟ้าใต้ดินที่เพิ่งมาถึงเมื่อครู่ไปเสียแล้ว
เมิ่งเจียนเฉิงหัวเราะและไม่ได้ใส่ใจมาก เนื่องจากรถไฟฟ้าใต้ดินขบวนถัดไปอีกสิบนาทีก็ถึงแล้ว
เขายังไปทำงานทันเวลาอยู่
ใส่คำสำคัญ แล้วลิงก์โฆษณาในเบราว์เซอร์ก็เด้งออกมาทันที
รถทางไกล R100 คือรถสเตชันแวกอนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวของรถยนต์จงหวา ตอนนี้วางจำหน่ายอยู่ในร้านรถยนต์ครบวงจรของทางจงหวา และสิ่งที่ทำให้เมิ่งเจียนเฉิงใจเต้นก็คือ รถรุ่นนี้ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ภายนอกหรือว่าส่วนประกอบล้วนเป็นรถใหม่ที่ไม่เลว ราคาขายต่ำที่สุดของรุ่นพื้นฐานแค่เพียงหนึ่งแสนสองหมื่นหยวนเท่านั้น
เงินเดือนหนึ่งปีของเขาก็เกินจำนวนนี้แล้ว และ R100 ยังสามารถผ่อนชำระเป็นงวดได้ แถมดอกเบี้ยก็ต่ำมาก!
เมิ่งเจียนเฉิงความจริงก็คิดอยากจะซื้อรถมาตลอด ด้านหนึ่งเพราะความจำเป็นเวลาเข้าออกงาน อีกด้านหนึ่งคือเขาชอบเดินทางไกล มีรถสักคันก็จะสะดวกมาก
ต่อไปเมื่อมีแฟนจะพาไปเที่ยวก็สะดวก อีกทั้งเวลากลับไปฉลองปีใหม่ที่บ้านก็ยังขับรถกลับได้ ตัวของรถสเตชันแวกอนก็ใหญ่มากพอ เบาะหลังสามารถวางรถจักรยานได้ไม่มีปัญหา…
อันที่จริงเมิ่งเจียนเฉิงไม่อยากยอมรับว่า เขาก็ประทับใจโฆษณาตัวนี้อย่างลึกซึ้ง จนเกิดความวุ่นวายขึ้นมาในหัวใจ!
เขาเปิดหน้าลิงก์ แล้วกรอกข้อมูลส่วนตัวของตัวเองกับเบอร์โทรศัพท์เพื่อนัดทดลองขับรถ
ในขณะเดียวกัน ‘เส้นทางธรรมดา’ โฆษณาโปรโมตรถขับทางไกล R100 ก็ได้ปรากฏในสื่อต่างๆ ทั้งสถานีรถไฟความเร็วสูง สถานีรถไฟใต้ดิน ป้ายรถเมล์ หน้าจอทีวี หนังสือพิมพ์ และนิตยสารของเมืองใหญ่ทั่วประเทศ
ไอเดียโฆษณาชิ้นนี้เป็นของลู่เฉิน เพลงประกอบโฆษณาก็เป็นผลงานสร้างสรรค์ของเขาเช่นกัน กุมภาพันธ์เซ็นสัญญาจนถึงป่านนี้เพิ่งได้ออกอากาศ เพราะขั้นตอนการถ่ายทำต้องใช้เวลาถึงหนึ่งเดือนกว่า
รถยนต์จงหวาลงทุนก้อนโตในโฆษณาตัวนี้ แบ่งทีมงานกลุ่มเล็กๆ ไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อเก็บภาพจริง กล้องส่วนใหญ่จะถ่ายภาพทางอากาศโดยใช้โดรนขั้นสูง ถ่ายทำภาพต่างๆ ซึ่งมีความยาวมากกว่าหนึ่งร้อยชั่วโมง
เมื่อถ่ายทำโฆษณาเสร็จก็ถูกตัดต่อออกมาเป็นเวอร์ชันต่างๆ ที่เวลาแตกต่างกัน ตัวที่ฉายบนหน้าจอมัลติมีเดียตามสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินและป้ายรถเมล์เป็นเวอร์ชันสองนาทีครึ่ง ในโทรทัศน์เป็นเวอร์ชันสามสิบวินาทีกับสิบห้าวินาทีเท่านั้น
ทางรถยนต์จงหวาตั้งใจอยากใช้โฆษณาตัวนี้ เปิดกลุ่มตลาดคนเมืองระดับกลาง เล็งเป้าไปที่กลุ่มหนุ่มสาววัยรุ่นที่วิ่งไล่ตามสไตล์ความรู้สึก
โฆษณาตัวเดียวกันปรากฏบนเว็บไซต์ใหญ่ๆ มากมายเช่นเดียวกัน เพลงธีม ‘เส้นทางธรรมดา’ ถูกแพร่กระจายออกมาจากแฟนคลับของลู่เฉินในไม่ช้า
แฟนคลับหลายคนไม่มีความคิดอยากจะซื้อรถ แต่พวกเขาชอบเพลงและโฆษณาตัวนี้มาก
เนื่องจากความสนใจส่วนใหญ่วางอยู่ที่การถ่ายทำละคร ช่วงนี้ลู่เฉินจึงไม่ได้ออกเพลงใหม่ ล่าสุดก็ช่วยผลิตอัลบั้มใหม่ของเฉินเฟยเอ๋อร์ ตัวเองถึงยังไม่มีผลงานอะไรออกมา
‘เส้นทางธรรมดา’ เป็นเซอร์ไพรส์ที่ลู่เฉินมอบให้แฟนๆ อย่างไม่ต้องสงสัย ถึงแม้มันจะเป็นเพลงโฆษณาเพลงหนึ่ง แต่ก็ยังคงสไตล์เพลงบัลลาดที่เข้มข้นเหมือนเดิม ท่วงทำนองสบายๆ บวกกับการแสดงที่ยอดเยี่ยมของลู่เฉิน ทำให้เพลงนี้มีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร เป็นผลงานที่จริงใจอย่างแท้จริงอย่างไม่เป็นที่สงสัย
ในวันเดียวกัน ลู่เฉินได้ปล่อยไฟล์เสียงต้นฉบับคุณภาพของเพลง ‘เส้นทางธรรมดา’ ในบล็อกของตัวเอง เพื่อให้แฟนๆ ดาวน์โหลดไปทดลองฟังฟรี ยอดดาวน์โหลดสองชั่วโมงทะลุถึงหนึ่งแสน!
ในเวลาเดียวกัน อัลบั้มใหม่ของเฉินเฟยเอ๋อร์ ‘บุปผานารี’ ก็ยังพุ่งทะยานอยู่ในเฟยซวิ่นมิวสิคและเว็บไซต์ระดมทุน ยอดขายอัลบั้มทะลุหนึ่งล้านสำเร็จ สร้างสถิติอัลบั้มเพลงที่มียอดขายทะลุล้านเร็วที่สุดในรอบสิบปีที่ผ่านมาของวงการเพลงป็อป!
ทว่าเฉินเฟยเอ๋อร์ไม่พอใจต่อสิ่งนี้อย่างเห็นได้ชัด เธอไม่รีบร้อนจัดงานมีตติ้งฉลองความสำเร็จ แต่ยังคงโปรโมตตามเมืองใหญ่ทั่วประเทศต่อไป เจตนาเพื่อเพิ่มยอดขายของอัลบั้มให้สูงขึ้นจนคนต้องเงยหน้ามอง
อันที่จริงความสำเร็จของเธอในตอนนี้ก็มากพอให้คนต้องชะเง้อมองแล้ว ต่อให้เป็นพวกที่มีอคติ ก็ต้องยอมรับว่าอาศัยอัลบั้ม ‘บุปผานารี’ ชุดนี้ เฉินเฟยเอ๋อร์เปลี่ยนแนวได้ประสบความสำเร็จมาก
ฉายา ‘ราชินีเสียงหวาน’ ของเธอนับจากวันนี้ จะเปลี่ยนเป็น ‘ราชินีเพลงรัก’ อย่างสิ้นเชิง!
ในฐานะขุนนางคนสำคัญที่ทำให้อัลบั้มใหม่ของเฉินเฟยเอ๋อร์ขายดีเช่นนี้ ชื่อของลู่เฉินมีอิทธิพลกว้างขวางและลึกซึ้งยิ่งขึ้นในวงการเพลงป็อปแล้ว
…………………………………………………………………………