Perfect Superstar – ตอนที่ 382 เหยียบย่ำ

Perfect Superstar

ตอนที่ 382 เหยียบย่ำ

เซียวไห่เฉาเก่งมากจริงๆ

นี่คือข้อสรุปที่ได้ หลังจากที่ลู่เฉินอ่านแผนการผลิตรายการที่เขาเขียนทั้งหมด

ลู่เฉินไม่ใช่นักทำรายการวาไรตี้มืออาชีพ ความคิดสร้างสรรค์ของรายการที่เขาเสนอให้เถียนเถียนมาจากความทรงจำในโลกของความฝัน เขาบอกแนวคิดและขั้นตอนการผลิต ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ ให้กับคนหลังเพียงคร่าวๆ ส่วนใหญ่แล้วเป็นแค่เค้าโครงเท่านั้น

ลู่เฉินจึงเปรียบเหมือนคนที่สร้างโครงกระดูก แล้วเซียวไห่เฉาก็เพิ่มเลือดเนื้อเข้าไปให้โครงกระดูกนี้ สร้างคนออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ ขอเพียงยึดตามแผนงานก็สามารถผลิตและถ่ายทำได้เลย

มีเพียงรายละเอียดบางส่วนเท่านั้นที่แตกต่างจากความทรงจำของลู่เฉินเล็กน้อย แต่ความแตกต่างนี้ไม่มีผลกระทบต่อรายการนี้อย่างสิ้นเชิง แถมยังพิจารณาถึงสถานการณ์ความเป็นจริงในปัจจุบัน อย่างน้อยลู่เฉินก็รู้สึกว่าไร้ที่ติ

คนเขียนสคริปต์ที่สามารถทำได้ถึงขนาดนี้ แต่ยังไม่ได้เป็นพนักงานประจำของสถานีโทรทัศน์หังโจว เป็นเรื่องตลกที่ไม่ตลกเลย และใครก็ขำไม่ออก

แน่นอนว่าสำหรับเยวี่ยต้งมีเดียแล้วกลับเป็นเรื่องที่ดี มีคนเก่งมาร่วมงานรับหน้าที่ผู้อำนวยการผลิต เช่นนั้นลู่เฉินก็วางใจ ปล่อยให้เถียนเถียนลงมือทำอย่างเต็มที่ ผลิตรายการเรียลลิตี้ชื่อดังในโลกแห่งความฝันออกมา

หลังจากเยี่ยมชมบริษัท รู้จักพนักงาน และเซ็นเอกสารแล้ว งานเลี้ยงข้าวกลางวันได้จัดที่ภัตตาคารไป๋ลู่ริมทะเลสาบซีหู

ภัตตาคารไป๋ลู่ลู่เฉินคุ้นเคยดี เขายังมีบัตรวีไอพีอีกด้วย คราวที่แล้วตอนที่มาทัวร์คอนเสิร์ตของรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ เขาได้เชิญมู่เสี่ยวชูและคนอื่นๆ มากินข้าวที่นี่

นอกจากเฉินเฟยเอ๋อร์กับเจ้าภาพเถียนเถียน เซียวไห่เฉากับภรรยาของเขาก็ตามมาด้วย

ภรรยาของเซียวไห่เฉาชื่อว่าจูลี่ เป็นเพื่อนนักเรียนสมัยมัธยมปลายของเซียวไห่เฉา หน้าตากลางๆ ค่อนไปทางดี นิสัยค่อนข้างปากจัดอารมณ์ร้าย และยังเป็นนักบัญชีควบตำแหน่งพนักงานรับจ่ายเงินของเยวี่ยต้งมีเดียอีกด้วย ถือว่ามีอำนาจใหญ่ควบคุมการเงินของบริษัทใหม่

เมื่อมาถึงภัตตาคารไป๋ลู่ เถียนเถียนก็พาลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์เดินไปยังห้องวีไอพีที่จองไว้ ตอนที่เซียวไห่เฉาจะเดินตามไปกลับถูกจูลี่ดึงเอาไว้

เขาตกตะลึงทันที “มีอะไรเหรอ”

จูลี่รู้สึกไม่สบอารมณ์กับสามีของตัวเองจริงๆ “คุณโง่เหรอ ไปสั่งอาหารสิ!”

เถียนเถียนเป็นเถ้าแก่ ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์เป็นแขก แถมยังเป็นดาราดัง งานสั่งอาหารต้องให้พวกเขาทำด้วยเรอะ

หากเป็นคนที่รู้จักสังเกต ก็จะรับงานนี้มาไว้ที่ตัวเอง

เซียวไห่เฉาเข้าใจแล้ว “อ้อๆ งั้นเดี๋ยวผมสั่งเอง”

จูลี่หยิกสามีที่ไม่ได้เรื่องของตัวเองหนึ่งที “สั่งดีๆ หน่อย แต่ไม่ต้องเยอะมาก ฉันจะเข้าไปก่อน”

เซียวไห่เฉาได้แต่ครับผม

แต่ก่อนตอนที่เขาทำงานอยู่ที่สถานีโทรทัศน์หังโจว เคยออกมากินดื่มกับหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานไม่น้อย เรื่องสั่งอาหารจึงไม่มีปัญหา

พอจูลี่เดินไปแล้ว เซียวไห่เฉาก็เรียกพนักงานแล้วเริ่มสั่งอาหาร

“เอ๊ะ นี่เสี่ยวเซียวไม่ใช่เหรอ”

ปรากฏว่าเขาเพิ่งจะสั่งอาหารไปห้าหกอย่าง ทันใดนั้นเสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นข้างๆ…เสียงคุ้นเคยที่ไม่ชอบนัก

เซียวไห่เฉาหันไปมอง ก็เห็นคนตัวอ้วนหน้ามันแผล็บคนหนึ่งยืนอยู่ด้านนอกห่างออกไปสองสามก้าว หัวเราะเหอะๆ แล้วถามว่า “อ้าว ตอนกลางวันนายก็มากินข้าวที่นี่ด้วยเหรอ”

เซียวไห่เฉาตกตะลึงไปชั่วครู่ ก่อนจะพยายามฝืนยิ้มออกมา “หัวหน้าเกา…”

เจ้าอ้วนเกาคนนี้คือหัวหน้าตอนที่เขาทำงานอยู่ที่สถานีโทรทัศน์หังโจว ทั้งสองคนเดิมทีเป็นเพื่อนร่วมงานระดับเดียวกัน แต่เจ้าอ้วนเการู้หลักการเป็นคนมากกว่าเซียวไห่เฉา รู้จักเอาใจและประจบสอพลอหัวหน้า เหยียบเซียวไห่เฉาเลื่อนตำแหน่งขึ้นไปได้อย่างสบายๆ

ตอนที่เซียวไห่เฉาทำงานเป็นลูกน้องของเขาถูกระบายอารมณ์ใส่ด้วยเรื่องไร้สาระไม่น้อย ตอนนี้พอเจอหน้าเขาจะทำสีหน้าดีได้อย่างไร

“เมื่อกี้เหมือนจะเห็นเสี่ยวลี่ของนายด้วย…”

แต่เจ้าอ้วนเกาเหมือนจะไม่สังเกตเห็นสีหน้าของเซียวไห่เฉาเลยด้วยซ้ำ เดินเข้ามาหาโดยตรง ชะโงกหน้ามองรายการอาหารที่อยู่ในมือของพนักงาน “กินที่ห้องไหนเหรอ ว้าว!”

“ห้องเหมยหลันครับ!”

ดวงตาเล็กของเขาพลันกลมโต ยื่นมือตบไหล่ของเซียวไห่เฉาแล้วเอ่ยว่า “เก่งจริงๆ ตอนนี้สามารถกินข้าวในห้องเหมยหลันได้ มิน่าล่ะคนอื่นถึงพูดว่านายเล่นของสูง!”

เรื่องที่เซียวไห่เฉาลาออกจากสถานี ทำให้เจ้าอ้วนเกาไม่พอใจมาก เพราะเขาขาดลูกไล่ไว้กดขี่ระบายอารมณ์ และอีกฝ่ายก็เก่งมีความเป็นมืออาชีพมาก

ที่สำคัญที่สุดคือ เซียวไห่เฉาเพิ่งจะลาออกก็ดูเหมือนจะได้งานที่ไม่เลวแล้ว สามารถมาเจอหน้ากันที่ภัตตาคารไป๋ลู่ได้

ห้องอาหารเหมยหลันของภัตตาคารไป๋ลู่เป็นห้องอาหารระดับสุดยอดวีไอพี ห้องอาหารที่เขานั่งกินอยู่ยังแย่กว่านิดหน่อย!

เซียวไห่เฉาขมวดคิ้ว ขยับขาก้าวออกมาเพื่อเว้นระยะห่างกับเจ้าอ้วนเกา แล้วสั่งอาหารกับพนักงานต่อจนเสร็จ จากนั้นก็หมุนตัวเดินออกไป ไม่มีความถ่อมตัวหรือพูดจาเกรงใจกับเจ้าอ้วนเกาอีก

เขาเป็นคนซื่อที่ถูกรังแกง่าย แต่ไม่ใช่คนอ่อนแอ อีกทั้งตอนนี้ก็ไม่ได้ทำงานที่สถานีโทรทัศน์หังโจวแล้ว ดังนั้นไม่จำเป็นต้องพะวงไม่กล้าพูดอะไรกับเจ้าอ้วนเกาอีก ด้วยความเกลียดชังที่อยู่ในใจเขาจึงไม่สนใจดีกว่า

คนซื่อก็โมโหเป็นนะ!

เจ้าอ้วนเกาคิดไม่ถึงว่าเซียวไห่เฉาจะสะบัดหน้าใส่ตัวเอง รอยยิ้มเสแสร้งจึงนิ่งทื่อทันที

ผ่านไปสักพักหนึ่ง เขาก็ทำเสียงเชอะ แล้วหันหน้ากลับไปที่ห้องวีไอพีของตัวเอง

ในห้องอาหารทุกคนต่างยกเหล้าให้อีกฝ่ายกันอย่างสนุกสนาน คนที่นั่งกับเจ้าอ้วนเกามีเพื่อนร่วมงานสถานีเดียวกับเขาและหัวหน้า แล้วก็ยังมีหัวหน้าของสถานีโทรทัศน์เจ้อตงอีกหนึ่งคน

เมื่อเทียบกับสถานีโทรทัศน์เจ้อตง งานของสถานีโทรทัศน์หังโจวน้อยกว่ามาก ปกติแล้วแค่จะดึงโฆษณาเข้ามาก็ไม่ง่ายนัก จึงหวังว่าจะได้แบ่งผลประโยชน์จากสถานีโทรทัศน์เจ้อตงบ้างเพื่อความอิ่มท้อง ดังนั้นถึงได้เชิญหัวหน้าออกมาดื่มเหล้ากินข้าวเพื่อสร้างความสัมพันธ์อยู่หลายครั้ง ไม่หยุดแม้แต่วันหยุดสุดสัปดาห์

เมื่อเห็นเจ้าอ้วนเกากลับมาด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ เพื่อนร่วมงานของเขาจึงถามว่า “เหล่าเกา เกิดเรื่องอะไรเหรอหรือว่าวันนี้ไม่ได้ออกไปเที่ยวกับเมียน้อยเลยโดนด่าเหรอ”

คำล้อเล่นนี้ทำให้ทุกคนหัวเราะกันอย่างครื้นเครง

เจ้าอ้วนเกายิ้มเจื่อนๆ แล้วเอ่ยว่า “เหล่าจางอย่าพูดทำร้ายจิตใจกันนักสิ ถ้าหากอีแก่ของฉันได้ยินเข้าคงซวยแน่ เมื่อกี้ฉันเจอเซียวไห่เฉาข้างนอก แล้วก็เมียของเขาด้วย”

“เซียวไห่เฉา?”

เพื่อนร่วมงานของเขาตกใจ “มากินข้าวที่นี่ด้วยเหรอ”

เจ้าอ้วนเกาพูดอย่างอิจฉา “เขาจองห้องอาหารเหมยหลันด้วยนะ!”

ห้องอาหารเหมยหลัน?

ทุกคนต่างมองหน้ากัน เพราะรู้ว่าห้องอาหารเหมยหลันหมายความว่าอะไร นั่นไม่ใช่ห้องวีไอพีที่คนธรรมดาจะจองได้

“เซียวไห่เฉาเล่นของสูงจริงๆ…”

เพื่อนร่วมงานของเจ้าอ้วนเกาเบิกตาโต แล้วหัวเราะออกมาทันใด “ในเมื่อเจอกันแล้ว งั้นพวกเราก็ไปดูที่ห้องเหมยหลันกันหน่อยสิ ให้เขามาดื่มเหล้าคารวะหัวหน้าฉางของเรา ถือว่าให้เกียรติเขา ไม่ว่ายังไงก็เคยเป็นเพื่อนร่วมงานกันมาก่อน”

ข้อเสนอของเขาเห็นได้ชัดว่าแฝงไปด้วยเจตนาที่ไม่ดี

หัวหน้าฉางที่พวกเขาเชิญมาเลี้ยงข้าวในวันนี้เป็นผู้บริหารระดับสูงของสถานีโทรทัศน์เจ้อตง เว้นเสียแต่ว่าเซียวไห่เฉาเปลี่ยนอาชีพไปแล้ว ไม่อย่างนั้นหากเขายังอยู่ในวงการนี้ การผิดใจกับหัวหน้าฉางจะเท่ากับทุบหม้อข้าวของตัวเอง

ถ้าไม่อยากผิดใจ งั้นก็ต้องมาให้ทุกคนเหยียบย่ำแต่โดยดี…อย่าคิดว่าลาออกได้งานใหม่แล้วจะหาเรื่องไม่ได้

หัวหน้าฉางคนนั้นหัวเราะอย่างมีมารยาท

เจ้าอ้วนเการู้สึกสนใจขึ้นมาทันที จึงยิ้มแล้วเอ่ยว่า “งั้นพวกเราไปเรียกเซียวไห่เฉาด้วยกัน วันนี้ถือว่าเขาโชคดีมาก อย่างน้อยก็ต้องดื่มสามแก้ว!”

ดังนั้นทั้งสองคนจึงออกจากห้องวีไอพีของตัวเอง รีบวิ่งไปที่ห้องอาหารเหมยหลันทันที

เจ้าอ้วนเกาไม่รอให้พนักงานเปิดประตู เดินไปข้างหน้าผลักประตูห้องวีไอพี แล้วพูดกลั้วหัวเราะเสียงดังว่า “เสี่ยวเซียว นายอยู่ที่นี่ต้อนรับแขกวีไอพีคนไหนเหรอ หัวหน้าฉางของพวกเราอยากเจอนายน่ะ!”

…………………………………………………………………………

Perfect Superstar

Perfect Superstar

Status: Ongoing
ชีวิตของลู่เฉินดั่งมรสุมรุมเร้า ทว่าสวรรค์ยังคงเมตตาคนสู้ชีวิต ความทรงจำและความสามารถจากในความฝัน จะช่วยปูทางให้เขากลายเป็น Perfect Superstar เอง!ลู่เฉิน ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาวัย 22 ปีจำต้องหยุดเรียนออกมาทำงานหาเงินในเมืองหลวง เพื่อช่วยครอบครัวปลดหนี้จำนวนมหาศาลวันหนึ่งเขาฝัน…เป็นความฝันที่ยาวนานมากโลกแห่งความฝันทั้งคุ้นเคยและแปลกหน้าตัวละครแสดงต่างก็มีสีสันที่ไม่เหมือนกันนักร้อง นักแสดง นักเขียนอิสระเขามีประสบการณ์กับช่วงชีวิตที่ต่างกันทั้งสามนี้ในโลกความฝันเมื่อตื่นขึ้น ลู่เฉินมุ่งหน้าสู่ความฝันของตัวเองพร้อมกับทักษะที่ได้รับมาเป้าหมายคือกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ที่สมบูรณ์แบบ!!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท