ตอนที่ 443 สมคำร่ำลือ
โพสต์ ‘มีใครเคยฟังเพลงนี้บ้าง’ ของวิเวียนที่โพสต์ลงในบอร์ด ‘เพลงป็อป’ ของฟอรัมเกาะฮ่องกงตอนห้าทุ่มสิบนาที กลายเป็นโพสต์ยอดนิยมหน้าแรกในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ยอดกดไลก์สูงถึงสองหมื่นกว่า ยอดการตอบกลับเกินหนึ่งพันขึ้นไป
ถึงแม้ตัวเลขแค่นี้สำหรับโพสต์ยอดฮิตในฟอรัมยอดนิยมของจีนถือว่าน้อยมากจนไม่ต้องเอ่ยถึง แต่ในฟอรัมเกาะฮ่องกงถือว่าเป็นโพสต์ที่ฮอตมากแล้ว
และการแสดงความคิดเห็นของคนปากร้ายอย่าง ‘ดื่มเหล้าสามชาม’ ก็ถือว่าทำผลงานได้ไม่เลว สมาชิกฟอรัมหลายคนโกรธวาจาร้ายกาจของเขาเป็นอย่างมาก โจมตีด้วยคำพูดที่สกปรกต่ำทรามต่างๆ ไม่หยุด ทำเอาผู้ดูแลบอร์ดต้องออกมาลบโพสต์และตักเตือน
เที่ยงคืนผ่านไป ความนิยมของโพสต์นี้ยังเพิ่มขึ้นไม่หยุด ผู้ที่ร่วมแสดงความคิดเห็นเยอะขึ้นเรื่อยๆ
ในฐานะเจ้าของโพสต์ เห็นได้ชัดว่าวิเวียนคาดไม่ถึงว่าโพสต์ของตัวเองจะเป็นต้นเหตุให้เกิด ‘สงคราม’ หลังจากโพสต์ผ่านไปครึ่งชั่วโมงกว่า เธอถึงลองถามไอดี ‘ดื่มเหล้าสามชาม’ อย่างกล้าๆ กลัวๆ สรุปว่าหนุ่มหล่อคนนี้เป็นใครกันแน่
ตอนนี้ทุกคนเพิ่งพบว่า พวกเขาทะเลาะกันนานครึ่งค่อนวัน ก็ยังไม่รู้ว่าคนผู้นี้เป็นใคร
สำหรับหญิงสาว ไอดี ‘ดื่มเหล้าสามชาม’ แสดงความเป็นมิตรด้วยอย่างเห็นได้ชัด
เขาตอบว่า “หนุ่มหล่อที่เล่นและร้องเองคนนี้ชื่อลู่เฉิน เขาเป็นเด็กรุ่นใหม่ของวงการเพลงป็อปในจีน เดบิวต์หนึ่งปีกว่า ก็ออกแล้วสองอัลบั้ม และยังเล่นละครโทรทัศน์อีกสองเรื่อง ไม่เพียงแต่สร้างสถิติเรตติ้งในจีนเท่านั้น แต่ยังประสบความสำเร็จที่เกาหลีใต้อีกด้วย”
“ดังนั้นฉันถึงบอกว่าพวกคุณไม่ค่อยมีความรู้ มัวแต่ขลุกอยู่ในฟอรัมกับบล็อกเกาะฮ่องกง ไม่รู้ว่าโลกภายนอกมีสีสันสวยงามแค่ไหน ตอนนี้อุตสาหกรรมบันเทิงของจีนแผ่นดินใหญ่ล้ำหน้าฮ่องกงไปนานแล้ว วงการเพลงป็อปและวงการภาพยนตร์โทรทัศน์อัดแน่นไปด้วยคนมีความสามารถ ขนาดของตลาดและศักยภาพในการเติบโตก็มากกว่าฮ่องกงไม่รู้กี่เท่า!”
คำตอบของไอดี ‘ดื่มเหล้าสามชาม’ ต่อโพสต์ของวิเวียน เหมือนกับหินก้อนใหญ่ที่ทุ่มลงไปยังสระน้ำลึก เกิดคลื่นกระเซ็นซ่านเป็นฟองฝอยและระลอกคลื่นมากมายนับไม่ถ้วน เวลาสั้นๆ เพียงสองสามนาทีมีการแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก
และที่น่าตกใจคือ มีคนเห็นด้วย แต่ที่มากไปกว่านั้นคือความเจ็บใจ กระทั่งพูดว่า ‘ดื่มเหล้าสามชาม’ เป็น ‘หนอนบ่อนไส้ฮ่องกง’
การตอบกลับของ ‘ดื่มเหล้าสามชาม’ แทงใจดำใครหลายคน และเป็นจุดที่เจ็บปวดของคนฮ่องกงอีกมากมาย
นั่นก็คือประเทศจีนในตอนนี้ล้วนแซงหน้าฮ่องกงในทุกๆ ด้าน และคนฮ่องกงส่วนใหญ่ยังคงจมปลักอยู่ในยุคที่รุ่งโรจน์ในอดีต ไม่ยอมเผชิญหน้ายอมรับความเจริญก้าวหน้าของประเทศจีน ตั้งแต่ต้นจนจบยังคงนึกถึงความเหนือกว่าในอดีตอยู่เหมือนเดิม
บรรยากาศของสังคมเช่นนี้สะท้อนอยู่บนสื่อ นั่นก็คือไม่ว่าจะเป็นสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น หนังสือพิมพ์ หรือว่านิตยสารต่างก็รายงานข่าวเกี่ยวกับประเทศจีนโดยเน้นความสำคัญในเรื่องการเมืองเป็นส่วนใหญ่ ข่าวสังคมและบันเทิงพบเห็นได้น้อยมาก มีกรณีอุบัติเหตุทางธรรมชาติและหายนะที่มนุษย์สร้างขึ้นอยู่ประปราย ซึ่งคนฮ่องกงคนอื่นไม่ชอบดูสิ่งเหล่านี้
ดังนั้นลู่เฉินที่เดบิวต์แค่หนึ่งปีกว่าและมาฮ่องกงเป็นครั้งแรก คนส่วนใหญ่จึงไม่รู้จักเขา และก็ไม่รู้ประวัติความเป็นมาของเขาเช่นกัน
เห็นได้ชัดว่า ‘ดื่มเหล้าสามชาม’ ไม่ใช่หนึ่งคนในนั้น
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีราวกับคลื่นน้ำ เขากลับนิ่งไม่สะทกสะท้านดุจหินผา แล้วตอบกลับอีกครั้ง
“มีคนบางคนที่แสร้งนอนหลับตลอดเวลา ให้ฉันเป็นคนบอกพวกคุณแล้วกันว่าลู่เฉินคนนี้ประสบความสำเร็จอะไรในจีนบ้าง อัลบั้มแรกของเขาคือ ‘เธอผู้เป็นเพื่อนร่วมโต๊ะของฉัน’ ตอนนี้ยอดขายทะลุสองล้าน อัลบั้มที่สอง ‘เส้นทางธรรมดา’ ยอดขายเกือบสามล้านแล้ว และหวังว่าจะทะลุห้าล้านรับรางวัลอิมพีเรียลคราวน์ดิสก์อวอร์ดส์ได้สำเร็จ!”
“ไม่เพียงเท่านี้ ลู่เฉินยังเป็นคนควบคุมและผลิตอัลบั้ม ‘บุปผานารี’ ให้เฉินเฟยเอ๋อร์แฟนของเขาอีกด้วย ยอดขายทะลุห้าล้าน ผลงานการเขียนบทและแสดงนำในละครเรื่อง ‘ฟูลเฮ้าส์’ ได้เรตติ้งที่เกาหลีใต้ถึง 42%!”
“พวกคุณลองพูดสิว่า ตอนนี้นักร้องฮ่องกงคนไหนบ้างที่มีผลงานได้ขนาดนี้ มีละครโทรทัศน์ที่เอาไปขายที่เกาหลีใต้เรื่องไหนได้รับเรตติ้งแบบนี้บ้างไหม”
“ถ้าไม่เชื่อ งั้นก็ลองเสิร์ชเครื่องมือค้นหาของจีนด้วยตัวเองดู อย่าพูดนะว่าอ่านภาษาจีนตัวย่อไม่เป็น!”
ภาษาที่ใช้สื่อสารของคนฮ่องประกอบด้วยภาษาจีนกลาง ภาษาจีนกวางตุ้ง และภาษาอังกฤษ และสามารถพูดภาษาจีนกลางได้ดีขึ้นมากกว่าสมัยก่อน แต่ตัวอักษรของฮ่องกงยังคงยึดอักษรจีนตัวเต็มตามประเพณีนิยมมาตลอด ไม่ได้ปรับเปลี่ยนมาใช้อักษรจีนตัวย่อเหมือนประเทศจีน
การโต้เถียงเรื่องอักษรจีนตัวย่อและอักษรจีนตัวเต็มของตัวอักษรจีนมีมานานแล้ว คนฮ่องกงโดยทั่วไปยังคงดื้อดึงใช้อักษรจีนตัวเต็มแบบ ‘ดั้งเดิม’ นี่จึงเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ชาวเน็ตฮ่องกงปฏิเสธที่จะท่องเว็บไซต์ของประเทศจีน
แม้ว่าหลายเว็บไซต์และฟอรัมในประเทศจีนจะมีฟังก์ชันให้เปลี่ยนเว็บไซต์เป็นอักษรจีนตัวเต็มก็ตาม
ไอดี ‘ดื่มเหล้าสามชาม’ ปล่อยหมัดหนักออกไป หลายคนจึงเงียบกริบทันที
ยอดขายสองอัลบั้มรวมกันเป็นห้าล้าน ทำอัลบั้มให้คนอื่นก็ยอดทะลุห้าล้าน หากเป็นฮ่องกงเมื่อยี่สิบปีก่อนนักร้องดังของฮ่องกงสามารถครอบคลุมสองตลาดใหญ่ทั้งเกาะฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ได้อย่างสบาย แต่ตอนนี้…
อย่าพูดเลยดีกว่า
ใครก็รู้ว่าวงการเพลงป็อปของฮ่องกงปัจจุบันนี้แย่ลงมาก เด็กรุ่นใหม่มีความสามารถไม่พอ นักร้องดังรุ่นเก๋าก็เริ่มหมดความสามารถ ที่สำคัญที่สุดคือขาดการสนับสนุนจากตลาดใหญ่อย่างจีน อัลบั้มหนึ่งสามารถขายได้สองสามแสนก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว
หนำซ้ำพวกศิลปินนักร้องก็ไม่อาศัยการขายแผ่นเสียงทำรายได้อีก แต่เดินในเส้นทางที่เรียกกันทั่วไปว่าเส้นทางสายบันเทิง ส่วนนักแต่งเพลงเก่งๆ ในอดีตเหล่านั้นถ้าไม่โรยราก็ออกจากวงการไปแล้ว นักแต่งเพลงจึงลดน้อยลงเรื่อยๆ
เพลงป็อปภาษาจีนกวางตุ้งไม่มีเพลงระดับตำนานที่แท้จริงออกมานานแล้ว ผลงานเด่นถึงแม้จะยังมีอยู่ แต่เมื่อเทียบกับยุคที่รุ่งเรืองในอดีต ก็ยังทำให้คนต้องทอดถอนใจอย่างน่าเสียดาย
เพลง ‘รักที่สุดในชีวิต’ ที่ลู่เฉินร้องและเล่นเองนี้ ทำให้ทุกคนตาเป็นประกายอย่างไม่ต้องสงสัย หากพูดอย่างยุติธรรม ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาวงการเพลงป็อปของฮ่องกงไม่มีผลงานที่โดดเด่นมากกว่าเพลงนี้เลย
แต่ทำไมนักร้องนักแต่งเพลงคนนี้ถึงเป็นศิลปินที่มาจากประเทศจีนล่ะ
สมาชิกฟอรัมหลายคนที่ทะเลาะกันจนหัวร้อนได้สติกลับมาในที่สุด เริ่มวิเคราะห์ตัวของผลงานอย่างมีเหตุผลและไม่ถกเถียงกันเรื่องความแตกต่างของฮ่องกงกับประเทศจีนอีก
ค่ำคืนที่ยาวนาน มีบางคนนอนไม่หลับ
ส่วนลู่เฉินนั้นนอนหลับปุ๋ยอยู่ในบ้านหลังใหม่ที่ฮ่องกง นอนหลับยาวและตื่นขึ้นมาตอนหกโมงเช้า
หลังจากล้างหน้าแปรงฟันแล้ว เขาก็เปลี่ยนชุดกีฬากับรองเท้ากีฬา จากนั้นก็เปิดประตูออกจากคอนโดมิเนียม วิ่งทางไกลไปตามริมชายหาดอ่าวน้ำตื้น สุดท้ายก็หาสถานที่สงบไร้ผู้คนฝึกศิลปะป้องกันตัว
ฝึกจนเหงื่อโชกไปทั้งตัวแล้วจึงกลับ ระยะห่างจากคอนโดมิเนียมไม่ไกลนัก ลู่เฉินจึงแวะซื้ออาหารเช้าร้อนๆ หนึ่งชุดจากร้านสะดวกซื้อเตรียมกลับไปกินที่บ้าน
ขณะที่กำลังจะจ่ายเงิน ทันใดนั้นเขามองเห็นชั้นวางหนังสือพิมพ์ตั้งอยู่ข้างๆ เคาน์เตอร์ชำระเงิน บนหน้าหนังสือพิมพ์ที่สีสันสวยงามสะดุดตา มีภาพที่คุ้นตาเป็นอย่างมาก
หนังสือพิมพ์พวกนั้นถูกแขวนเอาไว้ วางซ้อนทับกันเป็นชั้นหนาๆ ลู่เฉินเห็นหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งชื่อว่า ‘หนังสือพิมพ์รายวันโปโล’ รูปภาพที่ลงอยู่ในตำแหน่งหัวรองพร้อมหัวข้อประกอบนั้นสะดุดตามาก
‘ซูจิ้งแอบพบหนุ่มหล่อลึกลับ สงสัยว่าจะเป็นแฟนใหม่!’
แม่ง!
ลู่เฉินอดไม่ได้ที่จะสบถด่าออกมาหนึ่งประโยค
รูปภาพนี้ คือภาพที่เขากับซูจิ้งดื่มกาแฟเสร็จแล้ว จากนั้นจึงไปส่งซูจิ้งขึ้นรถ
ดันถูกปาปารัสซี่แอบถ่ายได้
ปาปารัสซี่ฮ่องกงมีชื่อเสียงสมคำร่ำลือจริงๆ!
…………………………………………………………………………