ตอนที่ 517 ช่วงเวลาแห่งเกียรติยศ (ต่อ)
“ฉันพนันห้าเหมา นักร้องชายหญิงยอดเยี่ยมต้องเป็นของเฉินของฉันกับเฟยของฉันแน่นอน!”
“เก็บเงินห้าเหมาของคุณกลับบ้านไปซื้อไอติมกินเถอะ แรงกดดันเยอะอยู่นะ ฉันว่าน่าจะพลาด!”
“นักร้องชายยอดเยี่ยมของเฉินของฉันน่าเป็นห่วง แต่นักร้องหญิงยอดเยี่ยมของเฟยของฉันน่าจะไม่มีปัญหา”
“ไม่มีอะไรจะพูดกับพวกเธอแล้ว ถ้าหากเอารางวัลนักร้องชายหญิงยอดเยี่ยมให้คนอื่น ฉันสาบานว่าจะไม่ดูโกลเด้นอวอร์ดส์อีกต่อไป!”
“ทุกคนไม่ต้องทะเลาะกัน ผลสรุปยังไม่ออกมาเลยนะ…”
ภายในห้องถ่ายทอดสด ‘จิงอวี๋ทีวี’ คุยกันสนั่น ทะเลาะกันฟ้าดินถล่มทลาย แฟนคลับหลายคนเชื่อมั่นว่ารางวัลนักร้องชายหญิงยอดเยี่ยมไม่มีอะไรให้ต้องกังวล แต่ก็มีแฟนคลับอีกมากมายที่ไม่ค่อยมั่นใจนัก บางคนถึงขนาดเชื่อมั่นว่าทั้งสองคนต้องพลาดแน่นอน
ทำไมน่ะเหรอ
เพราะว่ารางวัลแบบนี้ถ้าไม่มีกลโกงนั้นเป็นไปไม่ได้หรอก และลู่เฉินก็ไม่ได้ถูกคนอื่นบดขยี้แบบนี้เป็นครั้งแรก
หากได้รับรางวัลก็เป็นเรื่องที่ดี หากไม่ได้ก็ไม่ต้องผิดหวังเสียใจ ความสามารถและศักยภาพของลู่เฉินไม่จำเป็นต้องใช้รางวัลมาเป็นตัวพิสูจน์ ดังนั้นทุกคนรักษาจิตใจให้สงบจะดีกว่า
ขณะที่พูด แฟนคลับจำนวนไม่น้อยก็ได้รับผลกระทบนี้ รู้สึกว่าควรจะวางเป้าหมายให้ต่ำลงอีกนิด
อย่างเช่นทำนองยอดเยี่ยมหรือเนื้อเพลงยอดเยี่ยมก็ไม่เลวเหมือนกัน
เหมือนอย่างที่ลู่เฉินกล่าวไว้ ไม่ได้ไข่กลับบ้านไปก็ดีแล้ว ไม่อย่างนั้นเสนอชื่อเข้าชิงตั้งหกรายการกลับไม่ได้สักรางวัลคงขายหน้าเกินไป
ขณะที่การอภิปรายในอินเทอร์เน็ตกำลังดุเดือด ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ได้จูงมือกันเข้าไปในห้องโถงใหญ่ของโรงละครแห่งชาติจีน นั่งตรงที่นั่งซึ่งเป็นของตัวเอง
เดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ลู่เฉินเคยมาที่โรงละครแห่งชาติจีนแห่งนี้แล้ว
ตอนนั้นเขามาร่วมงานมอบรางวัล ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ ถูกเสนอชื่อเข้าชิงสี่รายการ สุดท้ายเขาได้รับรางวัลนกกระจาบทองคำสาขาศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมกับทำนองเพลงยอดเยี่ยมรวมสองรางวัล
และ ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ ปีนี้ก็เป็นปีสุดท้าย เพราะรวมกับงานมอบรางวัล ‘โกลบอลไชนีสมิวสิคโกลเด้นอวอร์ดส์’ เรียบร้อยแล้ว แต่เกียรติศักดิ์ในคืนนั้นลู่เฉินยังจำได้เหมือนเพิ่งเกิดขึ้น
และด้วยรางวัลนกกระจาบทองคำทั้งสองรางวัลนี้ ลู่เฉินจึงมีตำแหน่งในวงการเพลงป็อปจีนเป็นของตัวเอง
ซึ่งในตอนนั้น ความสัมพันธ์ของเขากับเฉินเฟยเอ๋อร์ยังไม่เปิดเผยอย่างเป็นทางการ
ฉะนั้นความหมายในอีกแง่มุมหนึ่ง โรงละครแห่งชาติจีนจึงเป็นสถานที่แห่งความโชคดีของเขา
ครั้งนี้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงถึงหกรางวัล สุดท้ายจะได้รับกี่รางวัลกันแน่
ลู่เฉินเองก็รอดูผลลัพธ์อยู่เช่นกัน
ห้องโถงหลักของโรงละครแห่งชาติจีนมีทั้งหมดห้าพันที่นั่ง ที่นั่งของลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์อยู่ด้านขวาของแถวที่สอง คนที่นั่งแถวนี้ล้วนเป็นคนคุ้นหน้าคุ้นตากัน
ถานหง เลี่ยวเจี่ย หลี่ซิ่ง ซูอิ๋งอิ๋ง…ล้วนเป็นคนดังของวงการเพลงจีน
ลู่เฉินยังมองเห็นหลิวกั่งเซิง คนหลังก็ยิ้มโบกมือทักทายเขา ดึงดูดสายตาจากคนข้างๆ เป็นอย่างมาก
คืนนี้เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งของวงการเพลงป็อปจีนอย่างไม่ต้องสงสัย!
เวลาหนึ่งทุ่มครึ่ง ห้องโถงใหญ่ของโรงละครแห่งชาติจีนทั้งหมดห้าพันที่นั่งมีแขกนั่งเต็มจนไม่มีที่ว่างแล้ว แสงไฟสว่างจ้า กล้องแต่ละตัวบันทึกภาพจริงที่เกิดขึ้นที่นี่ในมุมที่ต่างกัน
หน้าจอขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอยู่บนเวทีค่อยๆ สว่างขึ้น บนนั้นมีตัวหนังสือสีทองขนาดใหญ่ส่องแสงระยิบระยับ ‘พิธีมอบรางวัลโกลบอลไชนีสมิวสิคโกลเด้นอวอร์ดส์’ กลุ่มหมอกควันที่เกิดจากน้ำแข็งแห้งลอยฟุ้งไปทั่ว เข้ากับแสงไฟเอฟเฟกต์พิเศษในงาน ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน
เสียงเพลงบรรเลงอย่างนุ่มนวล ภายในห้องโถงใหญ่เงียบลงอย่างรวดเร็ว พิธีกรปรากฏตัวบนเวทีอย่างเป็นทางการ
ตามประเพณีนิยมเหมือนอย่างเคย พิธีกรที่รับหน้าที่ในงานพิธีมอบรางวัล ‘โกลบอลไชนีสมิวสิคโกลเด้นอวอร์ดส์’ยังคงเป็นคนดังของสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีเหมือนเดิม กลุ่มสี่คนแบ่งเป็นผู้ชายสองคนกับผู้หญิงสองคนมีความคุ้นเคยกับผู้ชมเป็นอย่างมาก
“สวัสดีท่านผู้บริหารและแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน!”
“รวมทั้งเพื่อนๆ ผู้ชมที่อยู่ในงานและที่นั่งดูอยู่หน้าจอทีวี!”
“สวัสดีตอนเย็นค่ะทุกท่าน!”
“…”
ยังคงเป็นเสียงที่คุ้นเคยเหมือนเดิม ผู้ชมในงานจำนวนห้าพันคน รวมทั้งพวกคนดังของวงการเพลงป็อปที่อยู่ด้านหน้าเหล่านี้ล้วนฟังอย่างตั้งใจ ฟังพิธีกรทั้งสี่คนพูดเปิดงานราวกับการท่องบทกวี
พอสิ้นประโยคสุดท้าย เสียงปรบมือจึงดังสนั่นไปทั่วงาน
พิธีมอบรางวัล ‘โกลบอลไชนีสมิวสิคโกลเด้นอวอร์ดส์’ เริ่มต้นอย่างเป็นทางการท่ามกลางการแสดงร้องเพลงและเต้นรำ
และที่น่าสนุกก็คือ ในฐานะการแสดงร้องเพลงและเต้นรำรายการแรกของการเปิดงาน ดันใช้เพลง ‘ฉันรักเธอประเทศจีน’ ของลู่เฉินเป็นเพลงประกอบหลัก ผู้ทำการแสดงคือนักร้องที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง
การร้องเพลงของเธอแข็งแกร่งไม่ต่างจากลู่เฉิน วิธีการร้องเพลงที่ไพเราะผลักดันแก่นแท้ของผลงานเพลงนี้ออกมาได้อย่างเข้มข้น ดึงผู้ชมเข้าสู่บรรยากาศที่สุดยอด
“เพลงนี้นายเขียนได้เยี่ยมมาก…”
ถานหงจู่ๆ ก็หันหน้ามาพูดกับลู่เฉิน “ต่อไปเขียนเพลงประเภทนี้อีกเยอะๆ มันจะเป็นผลดีกับนาย”
คราวที่แล้วในงาน ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ ถานหงได้รับรางวัลความสำเร็จสูงสุดของชีวิต ตอนนี้โดยพื้นฐานเขาได้อำลาวงการเพลงไปแล้ว ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนน้อยมาก
พิธีมอบรางวัล ‘โกลบอลไชนีสมิวสิคโกลเด้นอวอร์ดส์’ ครั้งแรกนี้ ถานหงไม่ได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงเลย แต่ก็ยังเชิญเขาให้มาร่วมงาน ที่นั่งก็อยู่ถัดไปจากลู่เฉิน
สำหรับคำเตือนที่หวังดีของถานหง ลู่เฉินรีบตอบทันที “ผมทราบแล้วครับ พี่ถาน”
ช่วงนี้ลู่เฉินถ่ายภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ ร้องเพลงน้อยแต่งเพลงก็น้อย แต่เขาไม่เคยลืมรากเหง้าของตัวเองและกะว่าจะออกอัลบั้มชุดที่สามของตัวเองตอนกลางปีหน้า
แล้วก็ยังมีงานคอนเสิร์ตส่วนตัวอีก ถูกจัดอยู่ในแผนการทำงานของสตูดิโอเรียบร้อยแล้ว
ถานหงยิ้มเล็กน้อยตบไหล่ของเขาแล้วกล่าวว่า “นายทำดีมาตลอด ต้องรักษาต่อไปนะ!”
ลู่เฉินพยักหน้าอย่างแรง
ขณะที่พูด การแสดงร้องเพลงและเต้นรำก็จบลง พิธีกรทั้งสี่ท่านปรากฏตัวบนเวทีอีกครั้ง เตรียมประกาศรางวัลแรก
รางวัลแรกของ ‘โกลบอลไชนีสมิวสิคโกลเด้นอวอร์ดส์’ คือรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งปี ผู้ที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงมีทั้งหมดห้าคน ประกอบไปด้วยนักร้องหน้าใหม่ของวงการที่เพิ่งได้โชว์ความสามารถทั้งในประเทศจีน ฮ่องกง และไต้หวัน
หลังจากฟังข้อคิดเห็นที่ชวนให้ลุ้นระทึกแล้ว สุดท้ายเยวี่ยเจ้าอันนักร้องชื่อดังก็เป็นคนคลายปมปริศนา
“ผู้ที่ได้รับรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งปีของโกลบอลไชนีสมิวสิคโกลเด้นอวอร์ดส์คือ…”
“เซียวเหยา!”
เพิ่งจะสิ้นเสียงของเขา ผู้ที่ถูกคัดเลือกทั้งห้าคนที่อยู่ในหน้าจอใหญ่ข้างหลังพลันหายไปสี่คนทันที ภาพของคนที่เหลืออยู่ถูกขยายให้ใหญ่ขึ้น ดอกไม้โปรยลงราวสายฝน เสียงเพลงแสดงความยินดีดังไปทั่วงาน
“ขอแสดงความยินดีกับเซียวเหยา!”
มุมหนึ่งของที่นั่งผู้ชม มีสองสามคนกระโดดขึ้นมาด้วยความดีใจ สวมกอดกันและกันพลางร้องตะโกน
เลนส์กล้องจับภาพไปที่หญิงสาวที่สวยงามคนหนึ่ง จากนั้นปรากฏภาพบนหน้าจอขนาดใหญ่
ซูมภาพโคลสอัพที่มีน้ำตาไหลอาบหน้าของตัวเอก
เสียงปรบมือคึกคักดั่งสนั่นทั่วงาน
ขึ้นเวที รับรางวัล กล่าวคำปราศรัย และขอบคุณ…รางวัลที่สองเป็นรางวัลศิลปินกลุ่มหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งปี
ในห้ากลุ่มที่ถูกเสนอชื่อ มีวงเสียวหู่ถวนที่เพิ่งตั้งขึ้นในปีนี้ด้วย
พี่หลีพาลูกชายกับสมาชิกของวงเสียวหู่ถวนนั่งอยู่แถวที่สาม ห่างจากที่นั่งของลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์สิบกว่าเมตรมองออกว่าพี่หลีตื่นเต้นมากแค่ไหน ดังนั้นจึงสังเกตไม่เห็นว่าทั้งสองคนมองมาด้วยความเป็นห่วง
ผู้ที่รับหน้าที่ประกาศรางวัลคือเลี่ยวเจี่ย พี่ใหญ่ของวงการเพลงที่ขึ้นชื่อว่ามีนิสัยโผงผางตรงไปตรงมาคนนี้ไม่ได้เล่นลูกไม้อะไร ฉีกซองจดหมายดึงรายชื่อผู้ที่ได้รับรางวัลออกมา
สายตาของเขาจ้องมองอยู่บนกระดาษบางๆ
จากนั้นก็เอ่ยพูดออกมาสามคำ “เสียวหู่ถวน!”
…………………………………………………………………………