ตอนที่ 530 เธอคือสิ่งล้ำค่าที่สุด
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนถึงสามทุ่มโดยไม่รู้ตัว
งานมีตติ้งขอบคุณแฟนเพลงของลู่เฉินที่จัดขึ้นในบาร์เดย์ลิลลี่กำลังมาถึงช่วงท้าย แต่ความครึกครื้นไม่ได้ลดน้อยถอยลงเลย เดี๋ยวก็มีเสียงปรบมือ เสียงหัวเราะ เสียงโห่ร้องดังทะลุผนังและบานกระจกออกมาด้านนอกเป็นพักๆ
สายตาของคนที่เดินผ่านไปมาและนักท่องเที่ยวถูกดึงดูดให้หันมามองด้วยความสนใจ มีบางคนพยายามมองเข้ามาดูบรรยากาศในร้าน แต่ถูกป้ายกั้นและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหน้าร้านกันไว้
บนเวทีลู่เฉินเพิ่งดื่มน้ำหมดไปหนึ่งขวด
บนหน้าผากของเขามีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้น ส่งประกายล้อกับแสงไฟ แม้การร้องเพลงและการโต้ตอบกับแฟนเพลงจนถึงตอนนี้จะทำให้เขาเหน็ดเหนื่อย แต่ก็ยังสนุกสนานเหมือนเดิม
เสียงปรบมือดังขึ้นอีกครั้ง ลู่เฉินคว้าไมโครโฟน สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วเอ่ยว่า “ต่อไป ผมยังมีแขกรับเชิญอีกหนึ่งท่าน เป็นแขกรับเชิญที่พิเศษมากๆ เธอเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิตของผม และเป็นคนที่ล้ำค่าที่สุด ขอเชิญ…”
“เฉินเฟยเอ๋อร์!”
ไม่รอให้ลู่เฉินเอ่ยชื่อ แฟนคลับพร้อมใจกันตะโกนออกมา
ลู่เฉินตกใจ “พวกคุณรู้ตั้งแต่แรกแล้วเหรอครับ”
“ฮู่~”
ทุกคนมอบเสียงโห่ให้ลู่เฉินพร้อมกับสายตาดูแคลน…เฉินเฟยเอ๋อร์นั่งอยู่ตรงนั้นมาตลอดนี่นา!
ลู่เฉินยอมแพ้ “เอาเถอะครับ ผมผิดไปแล้ว ตอนนี้ขอเชิญคุณเฉินเฟยเอ๋อร์ครับ!”
“เย้!”
เสียงโห่ร้องดังขึ้นอีกครั้ง
คืนนี้แฟนคลับที่มาร่วมงานขอบคุณมีความสุขที่สุด พวกเขาและพวกเธอไม่ใช่แค่ได้พูดคุยใกล้ชิดกับลู่เฉิน ยังได้ชมการร้องเพลงสดของลู่เฉิน วงเฮสิเทชั่น และวงเอ็มเอสเอ็นด้วย
ตอนนี้ ถึงตาเฉินเฟยเอ๋อร์แล้ว!
การเป็นแขกรับเชิญในงานมีตติ้งขอบคุณแฟนเพลง แสดงให้เห็นว่าวงเฮสิเทชั่นและวงเอ็มเอสเอ็นนั้นมีน้ำหนักความสำคัญมากพอ ไม่ว่าใครก็ตามล้วนเป็นเซอร์ไพรส์ได้ แต่เมื่อเทียบกับเฉินเฟยเอ๋อร์ยังแตกต่างอย่างมาก
ความหมายนั้นไม่เหมือนกัน
เฉินเฟยเอ๋อร์ไม่ได้เป็นเพียงแฟนสาวของลู่เฉิน ยังมีตำแหน่งราชินีแห่งวงการเพลงป็อปของเธอ ที่สำคัญกว่านั้นคือเธอได้รับรางวัลนักร้องหญิงยอดเยี่ยมจากเวที ‘โกลบอลไชนีสมิวสิคโกลเด้นอวอร์ดส์’ อีกด้วย
ลู่เฉินเป็นนักร้องชายยอดเยี่ยม เธอเป็นนักร้องหญิงยอดเยี่ยม ทั้งสองจับมือกันเป็นหนึ่งในใต้หล้า!
ท่ามกลางเสียงตะโกนโห่ร้อง เฉินเฟยเอ๋อร์ก้าวขึ้นสู่เวที
เธออมยิ้ม “ขอบคุณทุกคนค่ะ ไม่รู้ว่าในที่นี้มีแฟนคลับของฉันอยู่บ้างไหม”
เพิ่งพูดจบ มือหลายข้างลอยไสวอยู่กลางอากาศ!
“เยอะขนาดนี้เชียว…”
เฉินเฟยเอ๋อร์หัวเราะจนตาหยี “พวกคุณทำแบบนี้จะดีเหรอคะ คุณลู่เฉินจะเสียหน้าเอาได้น้า”
ลู่เฉินทำหน้าเหนื่อยหน่าย จนทุกคนหัวเราะเสียงดัง
“เธอคือสิ่งล้ำค่าที่สุด หวังว่าทุกคนจะชอบนะคะ!”
พูดจบ เฉินเฟยเอ๋อร์หันหน้าไปหาลู่เฉิน ลู่เฉินพยักหน้า แล้วยื่นมือออกมาให้เธอ
เฉินเฟยเอ๋อร์ยื่นมือออกไปจับกับมือที่ลู่เฉินส่งมา แล้วเสียงดนตรีก็ดังขึ้น
ทั้งสองคนมองตากันอย่างรู้ใจ ความรู้อกรู้ใจกันและความอบอุ่นที่ไร้คำพูดเช่นนี้แผ่กระจายไปถึงแฟนเพลงทุกคนในบาร์ ทั้งบาร์เงียบสนิทอีกครั้ง
ลู่เฉิน “ตอนนี้ของพรุ่งนี้ นัดไว้ที่เดิม”
เฉินเฟยเอ๋อร์ “อย่าลืมปักดอกกุหลาบไว้ที่เน็กไทเพื่อบ่งบอกความคิดถึง”
ลู่เฉิน “ห้วงแห่งความรักสวยงามที่สุด รักแท้ให้ไปไม่เหนื่อยหน่าย”
เฉินเฟยเอ๋อร์ “รักมากไปก็กลัวหลง ไม่มีใครรักใคร่ทะนุถนอม สวยแค่ไหนก็เหี่ยวเฉา”
ลู่เฉิน “ฉันจะมอบกุหลาบแดงให้เธอ!”
เฉินเฟยเอ๋อร์ “เธอรู้ว่าฉันชอบร้องไห้”
ลู่เฉิน “เธออย่าหันหน้าเข้าหาน้ำตาตลอดไป”
“วันข้างหน้าต้องมีเธอถึงจะสวยงาม ความฝันถึงจะเป็นจริง!”
เฉินเฟยเอ๋อร์ “วันข้างหน้าจะสวยงามหรือไม่ ความฝันถึงจะเป็นจริง!”
“ฉันเรียนรู้ที่จะมัวเมาอยู่ในความรักของเธอ…”
ลู่เฉิน “ฉันไม่ยอมถอย”
“ฉันจะอยู่ปกป้องเธอผ่านค่ำคืนอันมืดมิด~”
เสียงประสาน “ฉันขอให้เส้นทางแห่งความรักนี้เคียงคู่ติดตามกันไป…”
“เธอคือสิ่งล้ำค่าที่สุด!”
…
ในวงการเพลงป็อปปี 2016 ที่ผ่านมา ทุกคนยอมรับว่าลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์เป็นคู่รักนักร้องที่ยอดเยี่ยมที่สุด แต่ถึงแม้ทั้งสองจะต่างคนต่างออกอัลบั้มของตัวเองที่ขายดี ผลงานเพลงคู่กันนั้นกลับมีอยู่ไม่กี่เพลง
เพลงที่ดังที่สุดคือเพลง ‘ดวงตาของเธอ’ เพลงหลักจากละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’
เพลงนี้ดังเพราะละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ แล้วยังทำให้คนรู้จักลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์เพิ่มมากขึ้นด้วย เพลงนี้กลายเป็นเพลงคู่ยอดนิยมในคาราโอเกะ แม้กระทั่งนักร้องในประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น และประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ยังนำไปร้องต่อ
แต่เพลง ‘ดวงตาของเธอ’ ทำขึ้นในช่วงปลายปี 2015 ห่างจากตอนนี้ปีกว่าแล้ว
ผ่านช่วงเวลาปีกว่ามานี้ ความรักของลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ยังมั่นคงดังเดิม แฟนเพลงทั้งหลายหวังว่าทั้งสองคนจะปล่อยผลงานเพลงคู่ออกมาให้มากขึ้น
ณ ตอนนี้ บรรดาแฟนเพลงพึงพอใจแล้ว!
ความรักที่ดีต้องข้ามผ่านช่วงเวลาธรรมดาไปหลายๆ ปี บางครั้งความสุขก็เหมือนเม็ดทรายในกำมือ ยิ่งกำแน่นก็ยิ่งหายไปเร็ว บางครั้งความรักกลับเหมือนดอกไม้บนขอบฝั่ง มองเห็นอยู่ไกลๆ แต่ไม่อาจเอื้อมถึง
ความรักระหว่างลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์เกิดจากบุพเพสันนิวาส ไม่ได้มีความรักอันร้อนแรงหวือหวา แต่กลับผ่านห้วงเวลาที่พัดไหล เหมือนสุราที่บ่มเอาไว้นาน ความหอมหวนยิ่งเพิ่มขึ้นตามเวลาที่ผ่านไป
เพราะในหัวใจของพวกเขามีสิ่งล้ำค่าที่สุดอยู่!
ใครหนอคือผู้จุดประกายใฟในค่ำคืนอันมืดมน ใครหนอที่ยืนหยัดปกป้องความรักเอาไว้ท่ามกลางความเดียวดาย ใครกันที่ทำให้ความคิดถึงปลดปล่อยแสงสว่างแห่งความรักออกไปทั้งเช้าค่ำ เพลง ‘เธอคือสิ่งล้ำค่าที่สุด’ นี้ ลู่เฉินเขียนให้เฉินเฟยเอ๋อร์ ถ่ายทอดให้เห็นถึงความมั่นคงดึงดันในความรักของเขา
มีเพียงวิธีนี้ ถึงน่าประทับใจที่สุด!
ในบาร์เดย์ลิลลี่เงียบสงัด มีเพียงเสียงเพลงที่สอดประสานกันลอยอ้อยอิ่งเข้าหูของทุกคนกระทบไปถึงหัวใจ จนสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนและความสวยงามของความรัก
ทำนองเดียวกัน เนื้อเพลงเดียวกัน ถูกร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า อารมณ์ความรักที่ถูกเก็บสะสมเอาไว้จนใกล้จะถึงจุดระเบิดออก ราวกับคลื่นลูกใหญ่ที่ถาโถมใส่เขื่อนกั้นหัวใจ จนถล่มลงมา!
“ฉันขอให้เส้นทางแห่งความรักนี้เคียงคู่ติดตามกันไป เธอคือสิ่งล้ำค่าที่สุด!”
เฉินเฟยเอ๋อร์และลู่เฉินร้องเพลงประโยคสุดท้ายจบลง ทั้งสองส่งสายตาให้แก่กัน เป็นสายตาแห่งความรักที่ลึกซึ้ง อบอุ่น และมั่นคงที่สุด ความรักของทั้งคู่ก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง
ความรู้ใจกันที่ไม่อาจบรรยายได้ด้วยคำพูดเช่นนี้ แผ่ขยายไปสู่ทุกคนในบาร์ ทั้งแฟนคลับ เพื่อนฝูง และแขกรับเชิญ ชั่วขณะนี้หากมีเข็มสักเล่มร่วงหล่นลงบนพื้นก็คงได้ยิน แม้แต่เสียงหายใจยังหยุดนิ่ง
ลู่เฉินเป็นคนทำลายความเงียบลงเอง เขาจับมือเฉินเฟยเอ๋อร์แน่น “คุณเป็นสิ่งล้ำค่าที่สุด”
“ขอบคุณทุกคนครับ!”
วินาทีถัดมา เสียงปรบมือดังสนั่นหวั่นไหว บรรยากาศในงานมีตติ้งขอบคุณแฟนเพลงพุ่งสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง ไม่มีเสียงโห่ร้อง ไม่เสียงเสียงเป่าปาก มีเพียงเสียงปรบมือเท่านั้น
ในมุมหนึ่ง มู่เสี่ยวชูแอบเช็ดน้ำตาอยู่เงียบๆ เธอยิ้มแล้วปรบมือดังๆ
…………………………
หมายเหตุ: เพลง ‘เธอคือสิ่งล้ำค่าที่สุด’ (你最珍贵) เนื้อเพลง: หลินหมิงหยาง (林明阳) ทำนอง: หลิงเหว่ยเหวิน (凌伟文)