ตอนที่ 535 เนื้อหอม
เพลงป็อปฮ่องกงเคยมียุคที่รุ่งโรจน์ถึงขีดสุด
ศตวรรษก่อนช่วงปี 1980-1990 เศรษฐกิจของฮ่องเจริญก้าวหน้ารวดเร็ว ธุรกิจบันเทิงในฮ่องกงผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ทั้งด้านภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ และเพลงป็อปต่างผลิดอกออกผล ไม่เพียงแต่ส่งผลไปถึงจีนแผ่นดินใหญ่ยังไปไกลถึงประเทศแถบเอเชียอาคเนย์ด้วย จนได้ชื่อว่าเป็นฮอลลีวูดตะวันออก
ฮ่องกงในตอนนั้นบังเกิดนักแต่งเพลงชั้นยอดกลุ่มหนึ่ง พวกเขาใช้ความสามารถของตัวเองประคับประคองวงการบันเทิงเอาไว้ ด้วยเหตุนี้จึงเกิดผลงานคลาสสิค ผลงานชิ้นเอกมากมายเป็นที่เล่าขานต่อมาในหมู่คนฮ่องกงจนถึงวันนี้
แต่เมื่อมีรุ่งโรจน์ก็ต้องมีร่วงโรย จนกระทั่งวันนี้ผู้อาวุโสในวงการหากไม่ดับสังขารไปแล้ว ก็เกษียณตัว มีน้อยคนนักที่ยังโลดแล่นอยู่ในวงการ แต่ก็ไม่อาจโด่งดังได้เหมือนวันเก่า คนเราหมดความสามารถเมื่อแก่ตัวเป็นเรื่องธรรมดา
จุดสำคัญคือการสร้างสรรค์ผลงานเพลงป็อปนั้นขาดคนสืบทอด กระแสเพลงเคป็อป เจป็อป เพลงแร็ป เพลงเร็วกำลังมาแรง เพลงป็อปของฮ่องกงเริ่มกลับมาลอกเลียนแบบเพลง หรือก็อปปี้แนวเพลงของเกาหลี ญี่ปุ่น ยุโรป และอเมริกาอีกครั้ง
สถานการณ์ของวงการเพลงฮ่องกงในปัจจุบันคล้ายคลึงกับจีนแผ่นดินใหญ่มาก นั่นคือมาจนถึงจุดที่ไม่แก้ไขไม่ได้แล้ว เมื่อเทียบกับความล้ำลึกของจีนแผ่นดินใหญ่แล้ว วงการเพลงป็อปฮ่องกงจะผงาดขึ้นมาได้ใหม่นั้นเป็นเรื่องยากยิ่งกว่า
เพราะการถือกำเนิดของนักแต่งเพลงดีเด่นนั้นขาดตอนไปแล้ว
และก็เป็นเพราะเหตุนี้ ลู่เฉินที่มาจากจีนแผ่นดินใหญ่ถึงได้เฉิดฉาย
วันนี้คนในวงการบันเทิงฮ่องกงที่ไม่รู้จักชื่อ ไม่เคยได้ยินชื่นลู่เฉินมีเพียงไม่กี่คน เพลง ‘รักที่สุดในชีวิต’ ที่ร้องด้วยภาษากวางตุ้งได้รับเสียงชื่นชมจากซูเปอร์สตาร์หลิวกั่งเซิง จนทำให้เขาเป็นที่จับตามองของสื่อฮ่องกง
เบื้องหลังของความมีชื่อเสียงคือความเก่งกาจในด้านการแต่งเพลงของลู่เฉิน
เพลง ‘ลมฤดูร้อน’ ที่เขาเขียนให้ซูจิ้งเป็นเครื่องยืนยันที่ดีที่สุด
ซูจิ้งจะดังแล้ว!
เมื่อก่อนซูจิ้งเคยโด่งดัง ทว่าหลังจากออกจากวงการแล้วก็ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรอีก การกลับมาครั้งนี้ยากกว่าเด็กใหม่เสียอีก แต่ตอนนี้กลับดูง่ายดาย
มีคนเก่งช่วยเหลือนี่เอง!
คนในวงการจำนวนไม่น้อยรู้ว่าลู่เฉินมีฉายาว่า ‘นักแต่งเพลงมือทอง’ เล่ากันว่าเพลงที่เขาเขียนออกมากับมือ ไม่ว่ามอบให้กับนักร้องคนไหนก็จะโด่งดังอย่างง่ายดาย
เมื่อก่อนอาจมีคนที่ไม่เชื่อคำพูดนี้ ยังข้องใจกับราคาเพลงที่ลู่เฉินแต่งเพลงละล้าน ตอนนี้พวกเขาเชื่อแล้ว
ไม่ใช่แค่เชื่อ ยังมีคนคิดอยากจะขอเพลงจากลู่เฉินด้วย
ราคาค่าตอบแทนเพลงละล้านฟังดูน่าตกใจ แต่คิดดูดีๆ หากอาศัยแค่เพลงเดียวก็ดังได้ ช่างเป็นการซื้อขายที่คุ้มค่า…ซูจิ้งฉลาดขนาดไหน!
เพลงที่เธอขอมาจากลู่เฉินเป็นภาษาจีนกลาง ทั้งยังเป็นเพลงรักโรแมนติกที่ได้รับความชื่นชอบ อัลบั้มใหม่มีโอกาสเผยแพร่เข้าสู่จีนแผ่นดินใหญ่ หรืออาจจะใช้ชื่อเสียงของลู่เฉินมาสร้างกระแสก็ย่อมได้…
แขกในงานไม่ใช่คนโง่ โดยเฉพาะนักร้องสาวหลายคนที่มองดูลู่เฉินด้วยประกายตาวาววับ ถ้าไม่เป็นการเสียมารยาท พวกเธอแทบอยากจะเข้ามาพัวพันกับลู่เฉินทันที
เปิดตัวด้วยเพลง ‘ลมฤดูร้อน’ งานแถลงข่าวอัลบั้มใหม่ ‘วันคืนสงบสุข’ ของซูจิ้งประสบความสำเร็จมาก ทั้งคำอวยพรของแขกเหรื่อ ความเคลื่อนไหวของแฟนเพลง การจับฉลากในงาน จนถึงเวลาสี่ทุ่มงานก็จบลง
หลังจากงานแถลงข่าวสิ้นสุดลง ซูจิ้งเชิญลู่เฉินไปนั่งเล่นที่ร้านกาแฟบนชั้นดาดฟ้าของโรงแรมแชงกรีลา
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซูจิ้งกล่าวเชิญลู่เฉินโดยลำพัง ครั้งก่อนภาพที่ทั้งสองดื่มกาแฟด้วยกันถูกปาปารัสซี่แอบถ่ายไว้ได้ กลายเป็นข่าวซุบซิบแพร่งพรายออกไป
ครั้งนี้เธอจึงระมัดระวังเป็นพิเศษ ถึงกับจองโต๊ะที่จะไม่ถูกคนรบกวน
“ลู่เฉิน ขอบคุณมาก!”
ทั้งสองนั่งลง ซูจิ้งกล่าวคำขอบคุณก่อนเป็นอันดับแรก เป็นคำขอบคุณที่ออกมาจากใจจริง
ซูจิ้งรู้ดีว่าการหวนคืนวงการของเธอนั้นยากเย็น อัลบั้มใหม่ชุดนี้สำคัญกับเธอมาก การเลือกเพลงจะต้องไตร่ตรองให้ดี จึงเลือกออกมาได้ช้า
เพราะเพลงที่เคยขอไป มีคุณภาพใช้ได้ แต่ยังไม่เพียงพอกับการต่อสู้ในตลาดที่ดุเดือดจนเอาชนะได้
อย่างน้อยก็ไม่มีเพลงไหนที่เหมาะจะเป็นเพลงหลักอันสำคัญเลย
ดังนั้นซูจิ้งจึงได้ยืดเวลาหวนคืนวงการของตัวเองออกไปให้ช้าลง ถึงขนาดที่หันไปจดจ่อกับงานมูลนิธิการกุศล ความจริงก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้…เพราะเธอล้มเหลวไม่ได้จริงๆ
โชคดีที่สวรรค์โปรดปราน ส่งตัวลู่เฉินมาถึงตรงหน้าเธอ!
ลู่เฉินแต่งเพลงให้กับอัลบั้มนี้ของเธอสองเพลง ซึ่งเป็นการกำหนดแนวเพลงของอัลบั้มไปในตัว ช่วยจัดการปัญหาที่ยากที่สุดของเธอให้หมดสิ้นไปอย่างง่ายดาย
ที่สำคัญคือทั้งสองเพลงโดดเด่นไม่แพ้กัน ทำให้เธอวางใจที่สุด
สิ่งนี้สำคัญกว่าสิ่งอื่นใด!
ลู่เฉินยิ้ม “พี่จิ้ง พี่ขอบคุณผมไปหลายครั้งแล้ว ความจริงไม่ต้องเกรงใจ พี่จ่ายเงินให้ผมอยู่”
เพราะเฉินเฟยเอ๋อร์เป็นเพื่อนกับซูจิ้ง ลู่เฉินจึงให้ราคามิตรภาพแก่เธอ สองเพลงล้านห้าเท่านั้น
ถูกลงก็จริง แต่เทียบกับงานของนักแต่งเพลงคนอื่นๆ ยังเป็นราคาขั้นสูงสุดอยู่ดี
ซูจิ้งเอ่ยว่า “เรื่องธุรกิจส่วนธุรกิจ มิตรภาพส่วนมิตรภาพ นายช่วยฉันแบบนี้ฉันไม่มีทางลืม”
คนที่อยากได้เพลงจากลู่เฉินมีไม่รู้เท่าไร นักร้องที่เสนอราคาหลักล้านมีถมไป แต่มีเงินลู่เฉินก็ไม่ได้จะทำเพลงให้…เพราะเขาไม่เดือดร้อนเงิน
แต่เป็นเรื่องความสัมพันธ์
ลู่เฉินยิ้ม “พี่จิ้งก็ช่วยผมเหมือนกันนี่ ทำให้ผมได้รู้จักคนตั้งเยอะ”
ถ้าไม่มีซูจิ้งคอยช่วยเหลือ เขาไม่มีทางเข้าสู่วงการของฮ่องกงได้เร็วขนาดนี้
งานแถลงข่าวคืนนี้ ซูจิ้งได้แนะนำคนในวงการหลายคนให้เขารู้จัก
หนึ่งในนั้นไม่แน่อาจจะมีคณะกรรมการโครงการสนับสนุนภาพยนตร์ของรัฐบาลท้องถิ่นฮ่องกงก็เป็นได้
ซูจิ้งหัวเราะ “คืนนี้นายได้นามบัตรมากี่ใบล่ะ เมื่อกี้ฉันเห็นกลุ่มเด็กสาวห้อมล้อมนายอยู่”
ลู่เฉินยิ้มแหย…นี่ไม่ใช่ความผิดของเขานะ
ซูจิ้งพูดทีเล่นทีจริงว่า “นายต้องระวังหน่อย สาวฮ่องกงใจดีและกระตือรือร้นมาก โดยเฉพาะคนในวงการ นายต้องระวังตัวเองด้วย”
คำพูดของเธอแฝงความนัย แต่ลู่เฉินเข้าใจ
ตอนนี้ลู่เฉินเนื้อหอมสุดๆ จุดประสงค์ที่หญิงสาวในวงการห้อมล้อมเขานั้นไม่ธรรมดา บางคนอยากซื้อเพลงจากเขาเท่านั้น บางคนกลับสนใจที่ตัวเขา และบางคนก็เข้าหาเพราะหวังจะสร้างกระแส
อยู่ในวงการบันเทิง ความระมัดระวังตัวเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ไม่อย่างนั้นจะพลาดท่าได้ง่าย
ซูจิ้งเตือนเขาเพราะความหวังดี
ลู่เฉินพยักหน้า “ผมเข้าใจครับ พี่จิ้งวางใจได้”
ซูจิ้งยิ้ม “งั้นก็ดี”
ลู่เฉินหัวเราะ ยกแก้วกาแฟบนโต๊ะขึ้นมาจิบ
ทั้งหวานทั้งขมเมื่อต้องลิ้น
ขณะนี้ ด้านนอกหน้าต่าง ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของฮ่องกงสว่างไสวไปด้วยแสงไฟ อ่าววิคตอเรียที่อยู่ไกลออกไปดูสวยงามเป็นพิเศษ
……………………………………