ตอนที่ 553 ดูอีกรอบ
“เจ้าโจรโอหัง กล้าแย่งเงินของข้ารึ!”
เขตพื้นที่รกร้าง ห่าฝนถล่มลงมาไม่ขาดสาย โจรป่าร่างยักษ์หกเจ็ดคนกำลังวิ่งหนีตายอย่างไม่คิดชีวิต แม้ในมือของพวกเขาจะถืออาวุธ แต่ใบหน้ากลับปิดบังความตกใจกลัวเอาไว้ไม่มิด ราวกับกำลังถูกปีศาจอสูรกายไล่ตามหลังมา
พร้อมกับเสียงสบถเกรี้ยวกราด จอมยุทธ์ชุดดำพุ่งตัวเข้าใส่กลุ่มโจร บุกเข้ามากลางวงของกลุ่มคนที่กำลังวิ่งหนี แต่เมื่อแสงจากกระบี่วาบขึ้น ศีรษะของใครคนหนึ่งลอยขึ้นกลางอากาศ !
เลือดฉีดทะลักสูงสามศอก พ่นใส่หน้าของบัณฑิตหนุ่มที่ตกใจจนหน้าเซ่อพอดี ทำให้เขาตะลึงค้าง
แต่การฆ่ายังดำเนินต่อไป จอมยุทธ์ชุดดำร่อนเพลงกระบี่ซ้ายขวา เด็ดขาดจนศัตรูไม่อาจตอบโต้ ภายใต้ความสิ้นหวังโจรร้ายสองคนที่จนตรอกหันมาสู้ตายเพื่อเอาชีวิตรอด สุดท้ายถูกจอมยุทธ์ชุดดำฟาดฟันกระบี่ใส่คนละทีจนดาวดิ้นลงกับพื้น!
บนที่นั่งผู้ชม ฉีจื่อหาวกำลังดูอย่างเมามัน
เขาเคยดูหนังฮอลลีวูดมาหลายเรื่องแล้ว ฉากฆ่าล้างกันนั้นเลือดสาดกลิ่นคาวคละคลุ้ง แต่เทียบกับฉากสั้นๆเพียงหนึ่งนาทีของ ‘โปเยโปโลเย’ กลับดูหยาบและธรรมดาเกินไป พละกำลังมากก็จริง แต่ไม่ได้อรรถรส
สิบก้าวสังหารหนึ่งคน พันลี้ไม่มีเหลือ จบเรื่องก็ลาจาก เก็บซ่อนตัวตนและชื่อเสียง!
ในสมองของฉีจื่อหาวอดไม่ได้ที่จะผุดบทกวีของหลี่ไป๋บทหนึ่งที่มีชื่อว่า ‘วิถีจอมยุทธ์’ ภาพบนจอเงินและดนตรีประกอบที่จับจิตจับใจ เบื้องหลังของภาพยนตร์ซึ่งเป็นยุทธภพที่วุ่นวายนั้นกลายเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับเขา
ผู้ชมที่อยู่รอบข้างเขาส่งเสียงอุทานอย่างตกใจ
ภาพยนตร์เพิ่งเริ่มต้นไม่นาน ฉากของวัดหลานรั่วและฉากทุ่งหญ้ารกร้าง ได้ฝากฝังลงในความทรงจำของทุกคน ทำให้ทุกคนรู้สึกรอคอยเรื่องราวที่จะดำเนินต่อไป
หรือเรียกได้ว่า หัวใจของคนดูถูกตกไปแล้ว
บนจอเงิน เรื่องราวดำเนินต่อ
บัณฑิตหนิงฉ่ายเฉินเดินทางไปตำบลตุนเป่ยเพื่อเก็บเงิน ระหว่างทางฝนตกจึงต้องไปหลบฝนที่วัดหลานรั่วหนึ่งคืน แต่ถูกนักพรตที่อยู่ในวัดอย่างเยียนชื่อเสียปฏิเสธ เขาจึงต้องแอบเข้าไปด้านในวัด
กลางดึกสงัด หนิงฉ่ายเฉินถูกเสียงพิณดึงดูด จึงได้พบกับสาวน้อยเนี่ยเสี่ยวเชี่ยน เสี่ยวเชี่ยนหวังจะปลิดชีวิตเขา โชคดีที่เยียนชื่อเสียเข้ามาช่วยไว้ทัน
เสี่ยวเชี่ยนซาบซึ้งในความซื่อตรงและความดีงามของหนิงฉ่ายเฉิน จึงเกิดเป็นความรักขึ้น แต่กลับถูกเยียนชื่อเสียขัดขวาง หนิงฉ่ายเฉินคิดว่าเยียนชื่อเสียเป็นฆาตกรจิตใจอำมหิต อยากจะหนีไปพร้อมกับเสี่ยวเชี่ยน สุดท้ายปีศาจแม่เฒ่าที่ควบคุมเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนอยู่กลับต้องการฆ่าหนิงฉ่ายเฉินเพื่อดูดซับพลังหยาง
เสี่ยวเชี่ยนทนดูไม่ได้ ปีศาจแม่เฒ่าโกรธมากต้องการลงมือเอง ขณะที่ทั้งสองคนกำลังตกอยู่ในอันตราย เยียนชื่อเสียโจมตีปีศาจแม่เฒ่าอย่างรุนแรง
ถึงตอนนี้ หนิงฉ่ายเฉินถึงได้รู้ว่าเสี่ยวเชี่ยนเป็นวิญญาณที่โดดเดี่ยว…
บอกตามตรง ฉีจื่อหาวจองตั๋วหนังเรื่อง ‘โปเยโปโลเย’ ผ่านโทรศัพท์มือถือเมื่อวานนี้ ก็เพราะเจียฮุ่ยชอบพระนางของเรื่องนี้ เขาอยากทำให้คนที่เขาชอบพอใจถึงได้นั่งอยู่ตรงนี้
แต่พอดูถึงตรงนี้ ฉีจื่อหาวดูจนเคลิ้มตามไปแล้ว
หนิงฉ่ายเฉินในเรื่องดูอ่อนแอปวกเปียกและซื่อบื้อ แต่ในโลกอันวุ่นวายเขายังคงรักษาจิตใจที่ดีงามเอาไว้ได้ และเพื่อคนที่รัก เมื่อเผชิญหน้ากับอันตรายที่แท้จริง เขาก็เปิดเผยความกล้าหาญเหนือมนุษย์ออกมา
ฉีจื่อหาวมองเห็นเงาของตัวเองในร่างหนิงฉ่ายเฉิน เขาถลำลึกลงไป อารมณ์ความรู้สึกของเขาแปรเปลี่ยนไปตามการโลดแล่นของตัวละครเอก หลงใหลเคลิบเคลิ้มดำดิ่งไปกับเรื่องราว
จนข้างกายมีเสียงร้องอุทานขึ้นมาเบาๆ
“อ๊า!”
ในภาพยนตร์ บอสใหญ่อย่างปีศาจแม่เฒ่าร่ายเวทต่อสู้กับเยียนชื่อเสีย ภาพที่ถูกถ่ายทอดออกมานั้นน่ากลัวเป็นพิเศษ ทำให้คนดูตกใจยกใหญ่ รวมทั้งเจียฮุ่ยด้วย
ทั้งหมดออกมาจากความหวาดกลัวอย่างแท้จริง เธอคว้ามือฉีจื่อหาวอย่างไม่รู้ตัว!
ฉีจื่อหาวอึ้งไป ผ่านไปพักหนึ่งถึงเรียกสติกลับมาได้
มือของเจียฮุ่ยเย็นเล็กน้อย ผิวอ่อนนุ่มลื่น สัมผัสนั้นทำให้เขาหน้าแดงขึ้นมา!
สวรรค์เห็นใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสกับเด็กสาวคนอื่นที่ไม่ใช่น้องสาวของตัวเองอย่าง ‘ใกล้ชิด’ ทั้งยังเป็นคนที่เขาชอบด้วย
เซอร์ไพรส์ใหญ่ครั้งนี้ถาโถมเข้าใส่หัวสมองของฉีจื่อหาวจนมึนงง ทำให้เขางงงวยไปชั่วขณะ แม้แต่หนังที่สนุกอยู่ตรงหน้ายังไม่สนใจ หวังเพียงอยากให้เวลาหยุดเอาไว้ชั่วขณะนี้
น่าเสียดายที่ผ่านไปไม่กี่นาที เจียฮุ่ยรู้สึกตัว รีบชักมือกลับอย่างเขินอาย
ฉีจื่อหาวรู้สึกหดหู่มาก
ยังดีที่มีภาพยนตร์ให้ดู
ในภาพยนตร์ หนิงฉ่ายเฉินรู้ว่าศพของเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนที่ถูกทิ้งเอาไว้ในป่าทำให้ถูกปีศาจแม่เฒ่าควบคุมเอาไว้ ถูกบังคับให้ค้นหาชายชาตรีมาให้ปีศาจแม่เฒ่าเสพพลังหยาง เพื่อให้มีชีวิตเป็นอมตะ
เพื่อไม่ให้เสี่ยวเชี่ยนต้องถูกควบคุมต่อไป หนิงฉ่ายเฉินรับปากจะนำเถ้ากระดูกกลับไปทำพิธีที่บ้านเกิด คิดไม่ถึงว่าเสี่ยวเชี่ยนกลับถูกปีศาจเฒ่าเขาดำแย่งตัวไปเป็นภรรยา หนิงฉ่ายเฉินขอร้องให้เยียนชื่อเสียไปช่วยเหลือเสี่ยวเชี่ยนด้วยกัน เยียนชื่อเสียทัดทานไม่เป็นผล จึงพาหนิงฉ่ายเฉินบุกโลกใต้พิภพ สุดท้ายช่วยเหลือเสี่ยวเชี่ยนออกมาได้ และให้เธอไปกลับชาติมาเกิดใหม่
แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ หนิงฉ่ายเฉินกับเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนต้องอยู่คนละภพ…
เรื่องราวมาถึงตอนอวสาน ตอนจบไม่ได้สวยงามสมบูรณ์ เหลือเพียงความเศร้าโศกเกินบรรยายให้แก่ผู้ชม
ตัวอักษรรายชื่อบนหน้าจอปรากฏขึ้นมา ไฟในโรงหนังสว่าง มาถึงตอนที่ต้องแยกย้ายออกจากโรงแล้ว
แต่ยังมีผู้ชมหลายคนไม่ได้ลุกขึ้นทันที ยังคงดื่มด่ำอยู่กับเรื่องราวในภาพยนตร์
เจียฮุ่ยเช็ดน้ำตาที่หางตา พูดกับฉีจื่อหาวว่า “พวกเราไปกันเถอะ…”
ฉีจื่อหาวจู่ๆ ก็รู้สึกถึงความสุขที่ล้นเอ่อในหัวใจ หรืออาจจะบอกว่าเป็นอารมณ์ชั่ววูบก็ได้ เขาจับมือเจียฮุ่ยเอาไว้ ถามว่า “เจียฮุ่ย หนังเรื่องนี้สนุกไหม พวกเราดูอีกรอบเอาไหม!”
เจียฮุ่ยคิดไม่ถึงว่าฉีจื่อหาวจะใจกล้าถึงขนาดที่กล้าจับมือเธอ ใบหน้ากลมแดงเรื่อขึ้นมา เธอสลัดมือออกตามสัญชาตญาณ
แต่ด้วยแรงที่เบามากๆ
“นี่ๆๆ นายทำอะไรน่ะ!”
หนีฮุ่ยตวาดใส่อย่างจัดจ้าน ตีมือของฉีจื่อหาวอย่างแรง “อย่ามาแต๊ะอั๋งพี่สาวฉันนะ”
ความกล้าหาญของฉีจื่อหาวดับมอดลงทันที เก็บมือของตัวเองมาซ่อนไว้ “แล้ว…”
ในใจของเขาประหม่าเป็นอย่างยิ่ง กลัวว่าเจียฮุ่ยจะโกรธเขาด้วยเหตุนี้
“พวกเราดูอีกรอบแล้วกัน”
เขากำลังจะตอบว่า ‘ช่างมันเถอะ’ คิดไม่ถึงว่าเจียฮุ่ยชิงพูดขึ้นมาว่า “สนุกมากเลย”
เสียงของเธอเหมือนเสียงสวรรค์กังวานในช่องหูของฉีจื่อหาว เขาดีใจจนแทบระเบิดออกมา “ได้…ดีเลย ฉันจะรีบไปซื้อตั๋วข้างนอกก่อน!”
หนีฮุ่ยแค่นเสียง ‘ฮึ’ ครั้งหนึ่ง และถือโอกาสเรียกร้องเพิ่ม “เอาขนมมาเพิ่มด้วย ฉันเอาเนื้อแห้งกลิ่นสมุนไพร แล้วก็ไอศกรีมฮาเกนดาซส์ เอากล่องใหญ่นะ!”
ฉีจื่อหาวไม่สนใจ เพื่อการเดตในวันนี้ เขาได้นำเงินที่เก็บสะสมจากการทำงานออกมาใช้
เพียงเพื่อให้เจียฮุ่ยมีความสุข
บทสนทนาของทั้งสองถูกคนอื่นที่กำลังจะออกจากโรงได้ยินเข้า มีคู่รักหลายคู่ที่ปรึกษากันว่าจะดูเรื่องนี้อีกรอบ
“สนุกมากจริงๆ ฉันอยากดูอีกรอบ!”
“เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนสวยมากเลย”
“เรารีบไปซื้อตั๋วเถอะ เดี๋ยวตั๋วจะหมดเอาได้”
“ไปๆๆ…”
……………………………………