ตอนที่ 590 ขอโทษอย่างจริงจัง
ก่อนหน้า ‘โปเยโปโลเย’ สินค้าที่ระลึกโดยพื้นฐานแล้วเป็นเขตต้องห้ามของภาพยนตร์ที่ผลิตในประเทศ รวมทั้งภาพยนตร์ฮ่องกงด้วย
สินค้าที่ระลึกของภาพยนตร์ส่วนใหญ่เป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูดของอเมริกาที่ได้ผลประโยชน์เพียงฝ่ายเดียว มีทั้งภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนิยาย การ์ตูน และเกม ยอดขายของสินค้าที่ระลึกถึงกับล้ำหน้ารายได้บ็อกซ์ออฟฟิศ ผลประโยชน์มหาศาลเช่นนี้ใครเห็นเป็นต้องอิจฉาตาร้อน
ผู้ผลิตภาพยนตร์และนักลงทุนภาพยนตร์ของประเทศจีนใช่ว่าไม่เคยทดลอง พวกเขาอยากจะกินเค้กส่วนนี้เหมือนกัน แต่ผลปรากฏว่ามักต้องหัวร้างข้างแตกอยู่ร่ำไป สุดท้ายต้องยอมแพ้อย่างท้อแท้ใจ
สาเหตุของเรื่องนี้มีความซับซ้อนมาก ระดับการเติบโตของตลาด การยอมรับของคนดู กระทั่งตัวของสินค้าที่ระลึกล้วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ภาพยนตร์จากนิยายยอดนิยมที่ผลิตในประเทศก็ขาดแนวคิดสร้างสรรค์กับความสมัครใจในการผลิตสินค้าที่ระลึกขึ้นมา มักจะอาศัยของจำพวกโปสเตอร์มาทบๆ ให้ครบจำนวนก็เท่านั้น
ในอดีตสินค้าที่ระลึกของภาพยนตร์จีนที่ขายดีมากที่สุด ว่ากันว่ามียอดขายเกินสิบล้าน แต่ข้อมูลมีความน่าสงสัยอย่างยิ่งว่าจะมีส่วนอื่นผสมอยู่ด้วย
‘โปเยโปโลเย’ ทำยอดขายสินค้าที่ระลึกในวันแรกพุ่งกระฉูดถึง 25.98 ล้านหยวน ถึงแม้ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ดาราทั้งสองจะรู้ดีว่าเป็นผลมาจากแฟนคลับ ทว่าในสายตาของผู้เชี่ยวชาญในวงการ ยังคงเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก
เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ในวงการต่างเงียบกริบ
แต่การตอบสนองของพวกแฟนๆ ลู่เฉินกลับไม่เหมือนกัน ตอนที่บล็อกทางการของ ‘โปเยโปโลเย’ เปิดเผยรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศกับยอดขายสินค้าที่ระลึก แฟนคลับจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนต่างวิ่งกรูเข้าไปที่บล็อกของวังเสี่ยวซวี่เพื่อเยาะเย้ยถากถาง
คุณพูดว่า บ็อกซ์ออฟฟิศของ ‘โปเยโปโลเย’ ไปไม่รอดไม่ใช่เหรอ รายได้วันแรกเกือบสี่สิบล้าน!
คุณพูดว่าสินค้าที่ระลึกของ ‘โปเยโปโลเย’ ปลอมแปลงขึ้นมาไม่ใช่เหรอ ยอดขายวันแรกเกินยี่สิบห้าล้าน!
วังเสี่ยวซวี่ที่ไม่เคยยอมแพ้สงครามมาก่อนเลือกที่จะเงียบเป็นครั้งแรก ไม่มีการโต้กลับแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน
เนื่องจากตอนนี้เขาไม่แน่ใจว่าที่ตัวเองวิเคราะห์และทำนายก่อนหน้านี้ถูกต้องหรือไม่ รายได้วันแรกของ ‘โปเยโปโลเย’ ไม่สามารถยืนยันได้ทันที การโปรโมตประชาสัมพันธ์และการสร้างกระแสในช่วงแรกของภาพยนตร์เรื่องนี้ทำได้ดีมาก ทั้งยังมีความนิยมของดาราดังสองคนเป็นส่วนสนับสนุน รายได้บ็อกซ์ออฟฟิศสูงจึงสมเหตุสมผล
ภาพยนตร์บางเรื่องรายได้วันแรกสูงมาก แต่ผ่านไปสองสามวันก็เผยตัวตนที่แท้จริงออกมา หลังจากจำนวนผู้ชมภาพยนตร์เพิ่มขึ้น คำชื่นชมกลับลดลงอย่างรวดเร็ว สุดท้ายต้องจบลงอย่างน่าเศร้า
‘โปเยโปโลเย’ จะเป็นหนึ่งในนั้นหรือไม่ วังเสี่ยวซวี่ไม่แน่ใจเหมือนกัน แม้ว่าเขาจะทำนายล่วงหน้าโดยอ้างอิงจากความเข้าใจตลาดของตนเอง แต่ยอดขายสินค้าที่ระลึกของ ‘โปเยโปโลเย’ น่าสะดุดตายิ่งนัก
ไม่น่าเชื่อจริงๆ!
ในฐานะนักวิจารณ์ภาพยนตร์ชื่อดังในวงการ วังเสี่ยวซวี่มีช่องทางและแหล่งข้อมูลเป็นของตัวเอง เข้าใจเบื้องลึกเบื้องหลังไม่มากก็น้อย
รายได้วันแรกและยอดขายสินค้าที่ระลึกของ ‘โปเยโปโลเย’ มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นของจริง!
นี่ทำให้วังเสี่ยวซวี่รู้สึกว่าความรู้ของตัวเองกลับตาลปัตรไปหมด เขาหลบอยู่ในบ้านหนึ่งวันเต็มๆ นั่งเฝ้าคอมพิวเตอร์ค้นข้อมูลหน้าเว็บ สูบบุหรี่หมดไปสองซอง
สุดท้าย วังเสี่ยวซวี่ตัดสินใจไปชม ‘โปเยโปโลเย’ ที่โรงภาพยนตร์ด้วยตัวเอง เพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์ที่เป็นจริง
หากไม่ตรวจสอบก็ไม่มีสิทธิ์พูด เขาเตรียมเขียนบทวิจารณ์ ‘โปเยโปโลเย’ อย่างจริงจัง!
วังเสี่ยวซวี่จองตั๋วภาพยนตร์ออนไลน์ได้ตอนเย็นวันที่ 4 เมษายน
ตอนเย็นก่อนหน้านั้นหนึ่งวันเขาก็ว่าง แต่อาจเป็นเพราะว่าดึกมากแล้ว โรงภาพยนตร์ใกล้ๆ สองสามแห่งที่ไปบ่อยกลับไม่มีตั๋วให้จอง ตลาดมืดก็ขายหมดเกลี้ยง!
วันที่ 4 เมษายน เวลาสองทุ่ม วังเสี่ยวซวี่อยู่ในโรงฉายภาพยนตร์หมายเลขสามของโรงภาพยนตร์ต้าตี้แถววงแหวนรอบที่สามของเมืองหลวง ดูภาพยนตร์เรื่องที่เคยถูกเขาสงสัยมาก่อนจนจบ
ดูจบออกมาก็เป็นเวลาสามทุ่มครึ่งพอดี วังเสี่ยวซวี่อยู่ท่ามกลางผู้คนที่แออัด สีหน้าดูไม่ได้เล็กน้อย
จากนั้นเขาก็มาถึงร้านค้าที่ขายสินค้าที่ระลึกของภาพยนตร์ที่ตั้งอยู่ข้างขวาของห้องโถงใหญ่
ภายในโรงภาพยนตร์ที่มีพื้นที่อันแสนแพง แน่นอนว่าขนาดของร้านขายสินค้าที่ระลึกไม่ใหญ่มาก ตำแหน่งส่วนใหญ่เว้นให้กับเคาน์เตอร์ขายตั๋วกับขนมและเครื่องดื่ม..ยอดขายป็อปคอร์นยึดครองรายรับของโรงภาพยนตร์แห่งหนึ่งมากถึงยี่สิบสามสิบเปอร์เซ็นต์!
ตอนที่วังเสี่ยวซวี่มา ในร้านมีลูกค้าประมาณสิบกว่าๆ ถึงยี่สิบคน ทั้งหมดเป็นเด็กวัยรุ่น และส่วนใหญ่เป็นคู่รักเดินจูงมือกัน
ในนี้แขวนโปสเตอร์ภาพยนตร์ขนาดใหญ่เต็มไปหมด บนเคาน์เตอร์เต็มไปด้วยสินค้าที่ระลึกของภาพยนตร์หลายอย่าง โมเดล ชุดเครื่องประดับตกแต่ง อุปกรณ์เสื้อผ้า ของใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นต้น แสงไฟส่องสว่างละลานตา
วังเสี่ยวซวี่สังเกตเห็นว่า สินค้าที่ระลึกของโรงภาพยนตร์ต้าตี้ที่จัดแสดงบนเคาน์เตอร์แบ่งเป็นสองส่วน ครึ่งหนึ่งเป็นสินค้าของ ‘สงครามเทพอัคคี’ อย่างเช่นโมเดลยานอวกาศ ฟิกเกอร์โมเดลพระเอกนางเอก สัตว์ประหลาด เป็นต้น ให้ความรู้สึกถึงความล้ำหน้าเต็มไปด้วยเทคโนโลยี และขายในราคาที่สูงลิ่ว
ได้ยินว่าสินค้าที่ระลึกของภาพยนตร์ฮอลลีวูด ส่วนใหญ่สั่งผลิตและแปรรูปในประเทศอเมริกา ดังนั้นเป็นสินค้านำเข้าเสียส่วนใหญ่ ราคาจึงแพงเป็นเรื่องปกติ
ส่วนอีกครึ่งหนึ่งล้วนเป็นสินค้าที่ระลึกของ ‘โปเยโปโลเย’ โมเดลตัวละครฉบับย่อส่วนเวอร์ชันต่างๆ โปสเตอร์ภาพยนตร์และดีวีดีเพลงประกอบ รวมถึงชุดเครื่องประดับตกแต่งที่ระลึก วังเสี่ยวซวี่เห็นแม้กระทั่งดาบวิเศษแวววับ…ซึ่งเป็นโมเดลดาบวิเศษของเยียนชื่อเสีย
ดาบเล่มนี้ที่แขวนอยู่บนกำแพงทำมาจากโลหะจริง ถึงแม้จะไม่ถูกลับให้คมกริบ แต่ผลิตได้อย่างประณีตมากรายละเอียดเหมือนในภาพยนตร์ไม่ผิดเพี้ยน พื้นผิวของดาบมองเห็นตัวอักษรสีแดงเข้มแปดตัวเลือนราง…ใช้พลังฟ้าดินคืนสู่สุญตายืมพลังแห่งฟ้าดิน!
วังเสี่ยวซวี่รู้สึกคุ้นเคยตัวอักษรทั้งแปดนี้มาก เยียนชื่อเสียที่คลุ้มคลั่งในภาพยนตร์ ร่ายคาถานี้ตอนที่ต่อสู้ทำให้คนรู้สึกเลือดลมพลุ่งพล่านเป็นอย่างมาก
แต่ในมุมมองของวังเสี่ยวซวี่ เยียนชื่อเสียเป็นบุคคลที่มีนิสัยสะดุดตามากที่สุดในภาพยนตร์ และภาพยนตร์ที่ผลิตในประเทศก็ไม่เคยมีตัวละครที่ทำให้คนรู้สึกติดตราตรึงใจแบบนี้นานแล้ว!
เขาหยิบตุ๊กตาโมเดลเยียนชื่อเสียที่วางอยู่บนตู้กระจกขึ้นมา มีขนาดเท่าฝ่ามือเท่านั้น แต่ผลิตได้อย่างมีชีวิตชีวาเสมือจริงทั้งจิตใจ สีหน้า และอารมณ์ ไม่ด้อยไปกว่าตุ๊กตาโมเดลของ ‘สงครามเทพอัคคี’ แม้แต่นิดเดียว กระทั่งมีลักษณะที่โดดเด่นกว่า
วังเสี่ยวซวี่รู้ดี ของแบบนี้ไม่ได้ผลิตขึ้นมาวันสองวันแน่นอน การออกแบบ การพิมพ์ การผลิตล้วนใช้เวลาทั้งสิ้น ฝ่ายผลิตภาพยนตร์จะต้องเริ่มแผนงานนี้แต่เนิ่นๆ อย่างไม่ต้องสงสัย
และราคาของมัน ก็ถูกกว่าคู่แข่งเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น!
กล้ามากจริงๆ!
วังเสี่ยวซวี่แอบถอนหายใจ เขาวางตุ๊กตาโมเดลเยียนชื่อเสียกลับไป แต่ลังเลพักหนึ่งแล้วจึงหยิบขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะเดินไปที่เคาน์เตอร์เก็บเงิน
ห้าสิบแปดหยวนไม่แพงจริงๆ และเขาก็ชอบมาก
มีคู่รักสองคู่ยืนต่อแถวอยู่ตรงเคาน์เตอร์เก็บเงินแล้ว พวกเขาซื้อของเยอะกว่าวังเสี่ยวซวี่เสียอีก
วังเสี่ยวซวี่รอคอยอย่างอดทน เมื่อจ่ายเงินแล้วก็ไม่รั้งอยู่ต่อ
กลับถึงบ้าน เขาวางตุ๊กตาโมเดลที่เพิ่งซื้อมาไว้บนโต๊ะหนังสือ สูบบุหรี่ไปสามมวน
วังเสี่ยวซวี่ไม่ใช่สิงห์อมควัน แต่เมื่อวานจนถึงวันนี้เขาสูบหนักมาก
พอสูบเสร็จ ควันบุหรี่ยังคงลอยอ้อยอิ่งอยู่ภายในห้องหนังสือ วังเสี่ยวซวี่เหมือนกำลังตัดสินใจสิ่งสำคัญบางอย่างอยู่ในใจ เขานั่งตัวตรงในทันใด สองมือกดแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว
บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ตัวหนังสือหัวข้อเรื่องสีดำแถวหนึ่งปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว ‘ขอโทษ ‘โปเยโปโลเย’ อย่างจริงจัง…’
…………………………………………………………………………