Perfect Superstar – ตอนที่ 603 ปลงอนิจจังเป็นอย่างยิ่ง

Perfect Superstar

ตอนที่ 603 ปลงอนิจจังเป็นอย่างยิ่ง

“ผู้อำนวยการลู่ คุณไม่ยุติธรรมเลยนะ!”

ณ ศูนย์ศิลปะยุคใหม่ในเมืองหลวง ภายในห้องผู้อำนวยการศิลป์ของสำนักงานใหญ่เฉินเฟยมีเดีย ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งพูดกับลู่เฉินด้วยความไม่พอใจ “เรื่องดีขนาดนี้ ทำไมไม่ร่วมมือกับสถานีปักกิ่งของพวกเรา”

ลู่เฉินถึงแม้จะเป็นตัวแทนทางกฎหมายของเฉินเฟยมีเดีย ถือหุ้นส่วนสี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์ แต่หน้าที่ในบริษัทของเขาคือผู้อำนวยการศิลป์เท่านั้น ตำแหน่งประธานและผู้จัดการใหญ่ของบริษัทคือเฉินเฟยเอ๋อร์และลู่ซี

เนื่องจากได้เช่าอาคารส่วนที่เคยเป็นของอวี๋จี้จงอาร์ตสตูดิโอมาแล้ว ตอนนี้เฉินเฟยมีเดียจึงได้ครอบครองอาคารที่มีพื้นที่ทำงานถึงหนึ่งพันแปดร้อยตารางเมตร ดังนั้นลู่เฉินจึงเปลี่ยนห้องทำงานเป็นห้องที่กว้างและสบายขึ้น

ลู่เฉินเพิ่งจะชงกาแฟหนึ่งถ้วยยกมาวางตรงหน้าของอีกฝ่าย ยิ้มแล้วเอ่ยว่า “รายการนั้นเพื่อนของผมเป็นคนตัดสินใจเอง เธอเลือกที่จะร่วมงานกับสถานีเจ้อตง อย่างนั้นผมจะพูดว่าไม่ได้ได้ยังไงครับ”

ตอนที่ลู่เฉินย้ายห้องทำงานใหม่ เฉินเฟยเอ๋อร์ซื้อเครื่องทำกาแฟราคาสูงลิ่วและชุดเครื่องดื่มให้เขา พร้อมกับเมล็ดกาแฟที่นำเข้าจากแหล่งผู้ผลิต เพื่อให้เขาชงกาแฟด้วยตัวเองผ่อนคลายจิตใจยามที่ทำงานยุ่งๆ

แน่นอนว่าคนที่สามารถทำให้ลู่เฉินลงมือชงกาแฟด้วยตัวเอง ต้องไม่ใช่คนธรรมดาเช่นกัน

แขกที่กำลังบ่นเขาอยู่ก็คือเฉินฉีรองผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง ทั้งสองคนรู้จักกันนานแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาดีมากๆ ดังนั้นพูดจาล้อเล่นแบบนี้จึงไม่มีปัญหา

เฉินฉียกกาแฟขึ้นมาดื่มหนึ่งที ดวงตาเป็นประกายทันที “รสชาติดั้งเดิมแท้ๆ! คิดไม่ถึงว่าฝีมือชงกาแฟของผู้อำนวยการลู่จะเยี่ยมขนาดนี้ นับถือๆ!”

ลู่เฉินยิ้มเจื่อนๆ แล้วเอ่ยว่า “ผู้อำนวยการเฉิน คุณเรียกผมว่าเสี่ยวลู่ดีกว่าครับ”

รองผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งคนนี้วิ่งมาที่ออฟฟิศของเขาในวันนี้ ถือว่าเป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญ ทั้งสองคนกำลังพูดถึงงานออดิชันของ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ ที่กำลังเป็นที่ฮือฮาอยู่ในขณะนี้

“แม่หนูเถียนเถียนคนนั้นผมเคยเจอ เธอเจอผมยังต้องเรียกผมว่าลุงเชียวนะ!”

เฉินฉีวางถ้วยกาแฟลงแล้วกล่าวว่า “เธอทำบริษัทมีเดียนั่น นายต้องมีหุ้นส่วนด้วยแน่ๆ ใช่ไหม นายช่วยเหลือตัวเองก็สมควรแล้ว แต่จะปล่อยให้สถานีเจ้อตงกินคนเดียวไม่ได้นะ!”

ตอนนี้ในวงการโทรทัศน์ของประเทศจีน ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ เป็นรายการประกวดที่ได้รับความสนใจจากผู้คนมากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย เหตุผลนั้นง่ายมาก เพราะว่าโค้ชหรือกรรมการที่ได้รับเชิญมาร่วมรายการประกวดร้องเพลงที่เพิ่งจะเปิดตัวนี้ ถูกกำหนดว่าเป็นลู่เฉิน เฉินเฟยเอ๋อร์ และเลี่ยวเจี่ยสามคน และยังมีบุคคลแถวหน้าคนสำคัญอีกคนหนึ่งที่ยังไม่ได้ประกาศ

แต่ลำพังแค่สามคนนี้ก็สามารถสร้างความฮือฮาได้มากพอแล้ว ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ไม่ต้องพูดเยอะ ความนิยมของทั้งสองคนในตอนนี้สูงมาก เข้าไปดูในบล็อกล่างฉาวก็รู้แล้ว มีแฟนคลับเพิ่มขึ้นเกินร้อยล้าน!

ส่วนเลี่ยวเจี่ย นักร้องเพลงร็อกชื่อดังคนนี้ถึงแม้หลายปีที่ผ่านมาจะไม่ได้ออกอัลบั้มใหม่ แต่ตำแหน่งในวงการของเขาไม่เคยถูกสั่นคลอน

และในอดีตเลี่ยวเจี่ยก็ไม่เคยร่วมรายการประกวดประเภทนี้

ยังไม่ต้องพูดถึงโค้ชคนสำคัญสุดลึกลับคนสุดท้าย แค่น้ำหนักของทั้งสามคนนี้รวมกันก็มากพอที่จะบดขยี้รายการประกวดสุดยิ่งใหญ่ได้ ทำให้สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งที่จะผลิตและออกอากาศรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ ซีซันสามช่วงปลายเดือนมิถุนายนรู้สึกถึงแรงกดดันที่หนักอึ้ง

ดังนั้นเฉินฉีจึงต้องวิ่งมา ‘ซักถามเพื่อเอาผิด’ กรณีที่ปล่อยให้สถานีโทรทัศน์เจ้อตง ‘กินคนเดียว’

ลู่เฉินรู้สึกขำ ‘ความไร้เหตุผล’ ของรองผู้อำนวยการสถานีคนนี้จริงๆ “ผู้อำนวยการเฉิน เถียนเถียนมาจากสถานีโทรทัศน์เจ้อตง บริษัทก็เปิดที่หังโจว ไม่ร่วมงานกับสถานีเจ้อตงแล้วยังมีตัวเลือกอื่นอีกไหมครับ”

“อีกอย่าง ไม่สามารถร่วมงานกับสถานีปักกิ่งได้ พวกคุณมี ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ อยู่แล้ว”

สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งที่เปิดตัว ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ ในปี 2015 ประสบความสำเร็จและจัดมาสองซีซันแล้ว ได้เรตติ้งผู้ชมสูงทั้งสองซีซัน เพราะได้รับอิทธิพลจากการเข้าร่วมรายการของดาราดังอย่างลู่เฉิน เสี่ยวหู่ถวน เป็นต้น

รายการวาไรตี้รายการนี้ สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งไม่ยอมปล่อยมือเด็ดขาด

เฉินฉีแน่นอนว่าเข้าใจเป็นอย่างดี จุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาไม่ได้อยากเข้ามาแทรกใน ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ “ถ้าอย่างนั้นก็ช่างเถอะ แต่ ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ จะทิ้งพวกเราไม่ได้นะ”

หางของสุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์โผล่ออกมาในที่สุด!

ข่าวที่ลู่เฉินจะถ่ายทำ ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ละครแนวรักของคนเมืองเรื่องที่สามซึ่งเป็นเรื่องสุดท้ายของแนวนี้ถูกโพสต์ในบล็อกนานแล้ว แต่เนื่องจากผู้ที่อยากร่วมงานด้วยมีเยอะเกินไป บวกกับงานของตัวเองที่ยุ่งมาก ดังนั้นตอนนี้จึงยังไม่ได้เคาะผู้ร่วมงานด้วย

เรื่องที่แล้ว ‘ฟูลเฮ้าส์’ ได้แบ่งให้สถานีโทรทัศน์เจ้อตงกับสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง ทั้งสองสถานีได้กำไรล้นหลาม คราวนี้สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งแน่นอนว่าไม่ยอมพลาดอยู่แล้ว ถือว่าอยู่ใกล้กว่าต้องได้ประโยชน์ก่อน

แต่ไม่ได้เซ็นสัญญาหนึ่งวัน เรื่องราวสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ในประเทศจีนมีสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมหลายแห่ง แม้แต่พวกที่มีกำลังและความทะเยอทะยานเล็กน้อย ใครบ้างไม่อยากได้รับสิทธิ์ออกอากาศ ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ เป็นเจ้าแรก

ไม่เหมือนกับสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีที่ไม่ต้องกังวลอะไร ผลงานของสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นต้องสู้ด้วยตัวเอง

ลู่เฉินยิ้มเอ่ยว่า “ผู้อำนวยการเฉิน ผมร่วมงานกับสถานีปักกิ่งอย่างมีความสุขมาโดยตลอด ผมคิดว่าครั้งนี้ก็เหมือนกันครับ”

ถึงแม้จะครอบครองความทรงจำที่มั่งคั่งในโลกของความฝัน ลู่เฉินก็ไม่คิดที่จะฮุบผลประโยชน์เพียงคนเดียวเพราะเขาเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่า คนที่ไม่ยอมเสียผลประโยชน์เลยสักนิดเดียว ถูกกำหนดให้ต้องพ่ายแพ้

ดังนั้นเขาจึงสร้างเส้นสายของตัวเองจากใจจริงอยู่เสมอ แบ่งปันผลประโยชน์อย่างใจกว้าง แบบนี้จะทำให้การขยายธุรกิจของเขาราบรื่นเป็นอย่างมาก และลดความยุ่งยากไปได้เยอะ

คนในวงการมีทั้งคนดีและคนไม่ดี โดยเฉพาะดาราที่โด่งดังมากๆ ปกติไม่รู้ว่าถูกสายตากี่คู่คอยจ้องมองอยู่ ถ้าหากไม่สร้างกำลังและรากฐานเพื่อสยบคนเลวเหล่านั้น ไม่แน่ว่าแค่ออกไปกินข้าวก็อาจกลายเป็นข่าวฉาวได้

ลู่เฉินหาความก้าวหน้าในเมืองหลวง สำนักงานใหญ่ของเฉินเฟยมีเดียก็อยู่ที่นี่ สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งก็เป็นงูเจ้าถิ่นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีจึงเป็นสิ่งจำเป็น อันที่จริงต่อให้เฉินฉีไม่วิ่งมาที่นี่ ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ก็ต้องให้สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งได้สิทธิ์ออกอากาศเป็นเจ้าแรก

แน่นอนว่า สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งต้องการมากกว่านี้ แต่ท้ายที่สุดแล้วการเจรจาก็ผ่านไปอย่างราบรื่นมีความสุข

“งั้นก็ดี…”

ได้รับคำมั่นสัญญาจากลู่เฉิน เฉินฉีจึงวางใจในที่สุด

เขายกถ้วยกาแฟขึ้นมาอีกครั้ง ชิมรสชาติที่แสนอร่อย พร้อมกับในใจที่รู้สึกปลงอนิจจังเป็นอย่างยิ่ง

ตอนที่เฉินฉีเพิ่งจะรู้จักลู่เฉิน ลู่เฉินยังเป็นเพียงผู้เข้าแข่งขันในรายการประกวดหนึ่งของสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งเท่านั้น เขาเป็นคนที่ลู่เฉินต้องแหงนมอง

แต่วันนี้ภายในเวลาไม่ถึงสองปี ลู่เฉินมีคุณสมบัติที่จะนั่งในระดับเดียวกันกับเขาได้อย่างสิ้นเชิง

อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง ลำพังแค่ค่าตัวของลู่เฉินต้องคำนวณเป็น ‘ร้อยล้าน’ ทั้งวงการบันเทิงมีใครบ้างที่ตั้งตัวได้เร็วเท่าลู่เฉิน

คนหนุ่มสาวสมัยนี้ เก่งมากจริงๆ!

ลู่เฉินไม่รู้ความคิดของรองผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งคนนี้ หลังจากส่งเฉินฉีแล้ว เขาสั่งให้ผู้ช่วยจองตั๋วเครื่องบินให้ตัวเองหนึ่งใบบินไปหังโจว

เฉินเฟยเอ๋อร์อยู่ที่หังโจวสองวันแล้ว ทั้งสองคนจะอัดรายการ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ อย่างเป็นทางการในวันที่ 15ด้วยกัน

…………………………………………………………………………

Perfect Superstar

Perfect Superstar

Status: Ongoing
ชีวิตของลู่เฉินดั่งมรสุมรุมเร้า ทว่าสวรรค์ยังคงเมตตาคนสู้ชีวิต ความทรงจำและความสามารถจากในความฝัน จะช่วยปูทางให้เขากลายเป็น Perfect Superstar เอง!ลู่เฉิน ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาวัย 22 ปีจำต้องหยุดเรียนออกมาทำงานหาเงินในเมืองหลวง เพื่อช่วยครอบครัวปลดหนี้จำนวนมหาศาลวันหนึ่งเขาฝัน…เป็นความฝันที่ยาวนานมากโลกแห่งความฝันทั้งคุ้นเคยและแปลกหน้าตัวละครแสดงต่างก็มีสีสันที่ไม่เหมือนกันนักร้อง นักแสดง นักเขียนอิสระเขามีประสบการณ์กับช่วงชีวิตที่ต่างกันทั้งสามนี้ในโลกความฝันเมื่อตื่นขึ้น ลู่เฉินมุ่งหน้าสู่ความฝันของตัวเองพร้อมกับทักษะที่ได้รับมาเป้าหมายคือกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ที่สมบูรณ์แบบ!!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท