Perfect Superstar – ตอนที่ 607 เป็นลม

Perfect Superstar

ตอนที่ 607 เป็นลม

หลิวหมิ่นบีบโทรศัพท์ด้วยสีหน้าตื่นเต้นดีใจ

ภรรยาที่กำลังคิดบัญชีอยู่หลังบาร์ถามว่า “พี่เลี่ยวเจี่ยจะมาเหรอ”

เมื่อครู่ตอนที่หลิวหมิ่นกำลังโทรศัพท์อยู่เธอก็อยู่ข้างๆ ได้ยินสองสามประโยค แต่ไม่ได้ยินทั้งหมด

หลิวหมิ่นหยักหน้าหงึกๆ เอ่ยว่า “ใช่ อีกสักพักพี่เลี่ยวเจี่ยจะพาเพื่อนมาเที่ยวที่ร้านของพวกเรา”

“คุณรีบบอกลูกค้าเก่าในกลุ่มเฟยซวิ่นเดี๋ยวนี้เลย ให้พวกเขามาช่วยกันอวยหน่อย!”

ภรรยารีบหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะ ส่งข้อความอย่างรวดเร็ว

หลิวหมิ่นกำหมัดอย่างแรง เรียกพนักงานเสียงดัง สั่งให้ทุกคนรีบจัดร้านทันที จัดโต๊ะเก้าอี้ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย จากนั้นให้ไปเตรียมต้อนรับที่หน้าประตู

เวลายังไม่ดึกมาก ชีวิตยามค่ำคืนที่แท้จริงยังไม่เริ่มต้น ลูกค้าที่อยู่ในบาร์มีน้อยมากเหลือเกิน

ล้วนเป็นแขกประจำทั้งนั้น เมื่อเห็นหลิวหมิ่นสั่งงานพนักงานยกใหญ่ ท่าทางยุ่งมาก จึงอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสงสัย…เกิดเรื่องอะไรเหรอ

หลิวหมิ่นแน่นอนว่าไม่ปิดบัง “เรื่องดี เลี่ยวเจี่ย พี่เลี่ยวเจี่ยจะมาเที่ยวที่นี่!”

“จริงดิ!”

ลูกค้าที่ถามตกใจมาก “เลี่ยวเจี่ย เลี่ยวเจี่ยจริงๆ เหรอ”

หลิวหมิ่นยิ้มเอ่ยว่า “จริงสิ หลอกคุณแล้วผมจะได้ประโยชน์อะไร เป็นพี่เลี่ยวเจี่ยจริงๆ!”

หลิวหมิ่นเป็นคนจีนทางเหนือ ตอนปี 1990 เข้ามาทำงานที่เมืองหลวง เคยเป็นคนหลงกรุงพักหนึ่ง ต่อมาภายหลังด้วยความบังเอิญ ได้ร่วมสร้างวงดนตรีกับเลี่ยวเจี่ยในฐานะมือเบส สร้างมิตรภาพที่ดีกับศิลปินดังในวงการเพลงร็อกคนนี้

ตอนหลังแยกวง หลิวหมิ่นจึงเดินทางลงใต้มายังฮู่ไห่ ได้รู้จักภรรยาคนปัจจุบัน สุดท้ายตัดสินใจลงหลักปักฐานที่หังโจว

เนื่องจากภรรยาเป็นคนหังโจว

เพื่อการใช้ชีวิต หลิวหมิ่นได้เปิดบาร์แห่งหนึ่งในย่านถนนหนานซาน อาศัยสายสัมพันธ์ที่สะสมตอนอยู่ในวงการและฐานะอดีตสมาชิกของวงดนตรีร็อกชื่อดัง กิจการถือว่าพอใช้ได้

จำนวนของบาร์ที่หังโจวถึงแม้จะเทียบไม่ได้กับเมืองหลวงและฮู่ไห่ แต่การแข่งขันยังคงดุเดือดเหมือนเดิม โดยเฉพาะช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีบาร์เปิดใหม่ไม่น้อย ดึงดูดลูกค้าไปกลุ่มใหญ่ ทำให้บาร์สไตล์ฮิปสเตอร์บรรยากาศย้อนยุคของหลิวหมิ่นต้องเจอกับสถานการณ์ที่ย่ำแย่

ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วกับเงินเดือนพนักงาน ทำให้หลิ่วหมิ่นต้องแบกภาระไม่น้อย การใช้จ่ายต่อคนในบาร์ของเขาไม่สูงมาก พวกลูกค้าเข้ามาสั่งเบียร์นิดหน่อยก็นั่งนานครึ่งค่อนวัน แต่ถึงจะดึกแบบนี้ลูกค้าก็ยังไม่ค่อยเยอะเท่าไร

เดิมทีหลิวหมิ่นคิดว่าจะขายบาร์ทิ้ง เพราะตัวเองสามารถเป็นครูสอนเล่นเบสได้ไม่ต้องกลัวไม่มีข้าวกิน แต่บริหารร้านมาหลายปีขนาดนี้ เขาเริ่มมีความรู้สึกผูกพันกับบาร์แห่งนี้แล้วจริงๆ จึงเสียดายไม่อยากทิ้งไป

เมื่อครู่เลี่ยวเจี่ยจู่ๆ ก็โทรหาเขาบอกว่าจะมาเที่ยวที่บาร์ หลิวหมิ่นตื่นเต้นมากจริงๆ ด้านหนึ่งเขากับเลี่ยวเจี่ยไม่ได้เจอกันนานสองสามปี อีกด้านหนึ่งการมาเยือนของเลี่ยวเจี่ย มีประโยชน์อย่างมากต่อธุรกิจบาร์ของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย

เมื่อได้ยินว่าเลี่ยวเจี่ยจะมา ลูกค้าประจำสองสามคนรู้สึกดีใจไปด้วย หลังจากถามหลิวหมิ่นเพื่อยืนยันอีกครั้งว่าไม่ได้พูดมั่ว พวกเขาจึงทยอยโทรเรียกเพื่อนๆ

“ฮัลโหล เหล่าหู อยู่ไหน รีบมาที่บาร์แบล็กซิกซ์แถวหนานซานเร็ว!”

“ไปทำอะไร เลี่ยวเจี่ยจะมาเหรอ!”

“พี่เฉิน ผมอยู่ที่บาร์แบล็กซิกซ์ เมื่อกี้เถ้าแก่ร้านบอกว่าเลี่ยวเจี่ยที่พี่นับถือมากที่สุดกำลังจะมา!”

“เร็วๆ ตอนนี้ยังมีที่นั่ง!

“ผมจะจองที่นั่งให้พี่ก่อน…”

หนึ่งบอกสิบ สิบบอกร้อย ยุคสมัยนี้การส่งข้อมูลข่าวสารสะดวกมากจริงๆ บวกกับภรรยาของหลิวหมิ่นได้ส่งข้อความบอกในกลุ่มแชตของลูกค้าบาร์แบล็กซิกซ์ ดังนั้นจึงมีลูกค้ามาที่ร้านเป็นกลุ่มๆ อย่างรวดเร็ว

ร้านที่เดิมทีโล่งๆ กลับมีลูกค้าเต็มร้านภายในเวลาสั้นๆ สิบกว่านาที!

ลูกค้าของบาร์แบล็กซิกซ์ส่วนใหญ่มีอายุสามสิบสี่สิบปี พวกเขาโดยพื้นฐานประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานแล้ว มาเที่ยวบาร์ไม่ได้มาหาคู่นอน แต่มาฟังเพลงประเภทเพลงโฟล์ก เพลงแจ๊ส หรือซอฟต์ร็อกเพื่อผ่อนคลายอารมณ์

เลี่ยวเจี่ยนักร้องเพลงร็อกรุ่นเก๋าสำหรับพวกเขา คือไอดอลอันดับหนึ่งอย่างแท้จริง ดังนั้นเมื่อทราบข่าว ใครที่สามารถเจียดเวลามาได้ จะรีบมาที่ร้านทันที เพราะกลัวว่าจะพลาดโอกาสในครั้งนี้

บาร์แบล็กซิกซ์นับตั้งแต่เปิดร้าน ไม่เคยคึกคักแบบนี้มาก่อน!

เถ้าแก่เนี้ยเองก็ตกตะลึง เธอดึงสามีแล้วถามเบาๆ อย่างเป็นกังวล “เลี่ยวเจี่ยจะมาจริงๆ ใช่ไหม”

ถ้าหากเลี่ยวเจี่ยมาไม่ได้ อย่างนั้นก็เท่ากับผิดใจกับลูกค้าตั้งเยอะแยะ ไม่มีใครชอบโดนหลอกใช่ไหมล่ะ สุดท้ายบาร์แบล็กซิกซ์คงเหลืออยู่ทางเดียวคือปิดร้านเลิกกิจการ

หลิวหมิ่นพูดอย่างมั่นใจว่า “พี่เลี่ยวเจี่ยเป็นใคร เขาเป็นคนรักษาสัญญา จะหลอกผมได้ยังไง คุณรออย่างสบายใจได้เลย รีบไปช่วยดูแลทักทายลูกค้าเถอะครับ!”

ถึงแม้จะพูดแบบนี้ อันที่จริงในใจของหลิวหมิ่นก็ไม่ค่อยมั่นใจนัก เมื่อเห็นคนในบาร์ใกล้จะเต็มแล้ว เขารีบวิ่งไปที่หน้าประตู ชะเง้อคอมองอยู่นอกประตูพร้อมกับพนักงาน

เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เมื่อเห็นว่าใกล้จะสามทุ่มกว่าแล้ว บนถนนที่มีคนเดินผ่านไปมายังไม่มีเงาร่างของคนที่หลิวหมิ่นกำลังรอคอย ทำให้หัวใจของเขาดวงนี้รู้สึกกังวลขึ้นมา

หลิวหมิ่นกำโทรศัพท์ กำจนเหงื่อออกฝ่ามือ เขาลังเลคิดว่าจะโทรหาเลี่ยวเจี่ยดีหรือไม่

ในเวลานี้เอง รถเมอร์เซเดสเบนซ์สีดำสองคันทยอยขับตามกันมา จอดข้างทางเท้าหน้าบาร์อย่างมั่นคง ประตูคันหน้าเปิดออก ผู้ชายวัยกลางคนผมยาวหน้าเถื่อนๆ คนหนึ่งได้มุดออกมา

ดวงตาของหลิวหมิ่นได้จ้องมองไปที่รถเมอร์เซเดสเบนซ์แล้ว เมื่อเห็นผู้ชายวัยกลางคนผู้นี้เขาจึงดีใจทันที “พี่เลี่ยวเจี่ย!”

อีกฝ่ายคือเลี่ยวเจี่ยคนที่เขาคิดถึงมานาน!

เลี่ยวเจี่ยได้ยินเสียงทักทายจึงหันมา ยิ้มเอ่ยว่า “เสี่ยวลิ่ว ร้านของนายหายากนิดหน่อย”

เขาไม่ได้มาหังโจวเป็นครั้งแรก แต่มาที่บาร์แบล็กซิกซ์เป็นครั้งแรก และก่อนหน้านั้นได้ยินเพื่อนพูดถึงหลิวหมิ่น ดังนั้นคืนนี้จึงมาเยี่ยมกะทันหัน เพื่อช่วยสนับสนุนน้องชายที่รู้จักกันมานาน

เลี่ยวเจี่ยเป็นคนที่ไม่ลืมมิตรภาพเก่าๆ สำหรับพวกพ้องกันจริงๆ ไม่จำเป็นต้องพูดเยอะ ในแวดวงล้วนยกย่องกล่าวขาน

หลิวหมิ่นเดินไปข้างหน้าสองก้าว อ้าแขนสองข้างกอดเลี่ยวเจี่ยด้วยความดีใจ “พี่เลี่ยวเจี่ย…”

นึกถึงเรื่องในอดีต เบ้าตาของลูกผู้ชายชาวเหนือคนนี้จึงเปียกชื้นเล็กน้อย

เลี่ยวเจี่ยตบไหล่ของหลิวหมิ่นแล้วเอ่ยว่า “ไม่เจอกันนานเลย คืนนี้พวกเรามานั่งคุยกันเถอะ อ้อใช่…”

เขาโอบหลิวหมิ่นแล้วหมุนตัวกลับมา “ฉันพาเพื่อนมาอีกสองสามคน”

หลิวหมิ่นรีบเอ่ยว่า “ยินดีๆ ครับ เพื่อนของพี่เลี่ยวเจี่ยก็คือเพื่อนของผม ค่าใช้จ่ายคืนนี้…”

พูดได้ครึ่งหนึ่ง เขาก็ตกตะลึง

เพราะหลิวหมิ่นเวลานี้ เพิ่งเห็นคนที่เดินลงมาจากรถเมอร์เซเดสเบนซ์ทั้งสองคัน

ลู่เฉิน เฉินเฟยเอ๋อร์…แล้วก็ยังมีอีกคนดูเหมือนจะเป็น…ซือฟาง

ถูกแล้ว คือซือฟางราชินีแห่งฮ่องกง!

หลิวหมิ่นรู้สึกเหมือนมีขนมตกลงมาจากฟ้าในทันที แทบจะเป็นลม!

…………………………………………………………………………

Perfect Superstar

Perfect Superstar

Status: Ongoing
ชีวิตของลู่เฉินดั่งมรสุมรุมเร้า ทว่าสวรรค์ยังคงเมตตาคนสู้ชีวิต ความทรงจำและความสามารถจากในความฝัน จะช่วยปูทางให้เขากลายเป็น Perfect Superstar เอง!ลู่เฉิน ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาวัย 22 ปีจำต้องหยุดเรียนออกมาทำงานหาเงินในเมืองหลวง เพื่อช่วยครอบครัวปลดหนี้จำนวนมหาศาลวันหนึ่งเขาฝัน…เป็นความฝันที่ยาวนานมากโลกแห่งความฝันทั้งคุ้นเคยและแปลกหน้าตัวละครแสดงต่างก็มีสีสันที่ไม่เหมือนกันนักร้อง นักแสดง นักเขียนอิสระเขามีประสบการณ์กับช่วงชีวิตที่ต่างกันทั้งสามนี้ในโลกความฝันเมื่อตื่นขึ้น ลู่เฉินมุ่งหน้าสู่ความฝันของตัวเองพร้อมกับทักษะที่ได้รับมาเป้าหมายคือกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ที่สมบูรณ์แบบ!!!

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท