Perfect Superstar – ตอนที่ 619 หันมา

Perfect Superstar

ตอนที่ 619 หันมา

ขณะที่อันซินเอ่ยปากร้องเพลงประโยคแรก สีหน้าของลู่เฉินขยับเล็กน้อย

ผู้เข้าแข่งขันคนนี้เลือกร้องเพลง ‘บุปผานารี’ จึงทำให้เขาเผยสีหน้าประหลาดใจออกมา

ถูกแล้ว ประหลาดใจ

เทคนิคการร้องเพลงของอันซินไม่นับว่ายอดเยี่ยมที่สุด แต่เส้นเสียงของเธอมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เสียงแหบเล็กน้อยเป็นพลังแม่เหล็กดึงดูด ร้องเพลง ‘บุปผานารี’ ได้ไพเราะน่าประทับใจมาก มีเสน่ห์ที่ต่างจากเพลงต้นฉบับ แต่เป็นเสน่ห์ที่ไม่ทำให้ผลงานเพลงต้องเสียหาย สำหรับผู้ชมที่ได้ฟังเป็นความเพลิดเพลินอย่างหนึ่งที่หาได้ยากมาก

ที่สำคัญที่สุดคือ อันซินใส่อารมณ์ของตัวเองลงไปขณะร้องเพลง

เพลงเดียวกัน คนร้องคนเดียวกัน ทำนองเพลงเหมือนกันอย่างสิ้นเชิง แต่หากไม่ใส่อารมณ์เข้าไปในนั้น ผู้ชมจะฟังออกได้อย่างง่ายดาย

ดังคำกล่าวว่าคำพูดสื่อความคิด เพลงสื่ออารมณ์ ถ้าหากร้องเพลงไม่ใส่อารมณ์เข้าไปด้วย ต่อให้มีเทคนิค มีเส้นเสียงที่โดดเด่นเพียงใด กลับให้ความรู้สึกเย็นชาบางอย่างแก่ผู้คน

นักร้องหลายคนไม่เข้าใจความลับที่อยู่ในนี้ หรือเข้าใจแต่ไม่ใส่ใจ ผลที่ได้คือไม่สามารถพัฒนาตัวเองได้ตลอดไป

อันซินไม่มีชื่อเสียงใดๆ แต่เพลงของเธอทำให้โค้ชทั้งสี่คนรู้สึกสนใจมาก

เลี่ยวเจี่ยหันไปยิ้มพูดกับเฉินเฟยเอ๋อร์ “ผมรู้สึกว่าเธอร้องดีกว่าคุณอีก!”

เฉินเฟยเอ๋อร์ไม่ตอบ ทันใดนั้นเธอยื่นมือขวาออกไป กดปุ่มสีแดงตรงหน้าเก้าอี้หมุนอย่างแรง!

ปึง!

ตามด้วยเสียงเอฟเฟกต์ที่สั่นสะเทือนหัวใจ เก้าอี้หมุนของเฉินเฟยเอ๋อร์หมุนกลับมาอย่างรวดเร็ว

ขณะเดียวกัน แสงไฟแอลอีดีสี่แถวส่องประกายระยิบระยับที่อยู่ใต้เก้าอี้ของเธอสว่างไปถึงเวที เสียงปรบมือดังสนั่นไปทั่วห้องส่ง มีผู้ชมสองสามคนถึงขนาดลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้น!

ลู่เฉินกับซือฟางสบตาแล้วยิ้มให้กัน ซือฟางยกมือขึ้นอย่างลังเลไม่ได้กดทันที กล้องจับภาพนิ่งไปที่เธอ

“ฉันมีดอกไม้ดอกหนึ่ง ส่งกลิ่นหอมฟุ้งทุกก้านใบ จะมีผู้ใดค้นหามันด้วยใจ”

“บุปผาเบ่งบานไม่นานนัก ฮา~ ไยไม่หักเด็ดดอมก่อนจะสาย นารีราวบุปผาในความฝัน!”

ตอนที่อันซินร้องจบสองท่อนนี้ ซือฟางไม่ลังเลอีกต่อไป ใช้แรงกดปุ่ม

และเกือบจะพร้อมกัน ลู่เฉินก็กดปุ่มเช่นกัน

โค้ชหันมาสามคนแล้ว!

ในห้องอัดรายการหมายเลขหนึ่งของสถานีโทรทัศน์เจ้อตง ผู้ชมหนึ่งพันสองร้อยห้าสิบคนปรบมือพร้อมกัน เพื่อให้กำลังใจการร้องเพลงของอันซิน!

ขณะเดียวกันก็ส่งเสียงโห่ร้องให้โค้ชที่หันมา!

เวลานี้ผู้ชมที่กำลังดูรายการอยู่ตรงหน้าจอโทรทัศน์ หน้าคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือเชื่อว่าน่าจะมีน้อยคนที่ไม่เข้าใจกฎเกณฑ์การคัดเลือกแบบคนตาบอดของโค้ช ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’

นั่นก็คือใช้เพลงที่ไพเราะ เอาชนะใจคน!

อันซินหน้าตาธรรมดามาก รูปร่างไม่สูงและหุ่นไม่ดี สามารถพูดได้ว่าอยากได้หน้าตาไม่มีหน้าตา อยากได้หุ่นก็ไม่มีหุ่น สภาพแบบเธอถ้าอยากจะอยู่ในวงการบันเทิง เว้นเสียแต่ว่ามีภูมิหลังหรือกำลังที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น

เธอเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ที่นี่ บนเวที ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ ไม่สำคัญเลยด้วยซ้ำ เพราะโค้ชทั้งสี่คนมองไม่เห็นใครเลย ต่อให้ผู้เข้าแข่งขันจะมีหน้าตาสวยเหมือนดอกไม้หรือหล่อสะเทือนฟ้าดิน สำหรับพวกเขาไม่มีความหมายแต่อย่างใด

ที่นี่ สู้กันด้วยความสามารถ ใครแข็งแกร่งกว่าคนนั้นก็จะทำให้โค้ชระดับซูเปอร์สตาร์หันมาได้!

ดังนั้นสำหรับผู้ชมที่เป็นคนธรรมดาเสียส่วนใหญ่ กฎเกณฑ์ของ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ ทำให้พวกเขารู้สึกได้ถึงความจริงใจของรายการได้อย่างแท้จริง ต่อให้เป็นคนธรรมดาแค่ไหนก็มีโอกาสทำให้ความฝันของตัวเองเป็นจริง

คราวนี้ อันซินได้รับการยอมรับจากโค้ชทั้งสามคน

ไม่สิ ทั้งสี่คน!

เลี่ยวเจี่ยก็กดปุ่มสีแดงเพื่อเลือกเธอเช่นกัน โค้ชทั้งสี่คนหันมาเพื่อเธอ

วินาทีนี้ อันซินที่ยืนอยู่บนเวทีกลายเป็นจุดเด่นไปทั่วทั้งโลกอย่างไม่ต้องสงสัย!

มุมตาของเธอส่องประกายระยิบระยับ เธออาศัยพลังที่แน่วแน่ทั้งหมดไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมาบนเวที และร้องเนื้อเพลงประโยคสุดท้ายจนจบ

“นารีราวบุปผาในความฝัน~”

เสียงดังอ้อยอิ่งหมุนเป็นเกลียวขึ้นไป อันซินวางไมค์ลง นัยน์ตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา พร้อมกับสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ

กฎเกณฑ์ของ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ เธอจำได้ขึ้นใจนานแล้ว รู้ว่าพวกลู่เฉินทั้งสี่คนหันมาทั้งหมดไม่เพียงแต่หมายความว่าเธอมีสิทธิ์เลือกโค้ชคนไหนก็ได้เท่านั้น แต่ยิ่งหมายความว่าตัวเองได้รับการยอมรับสูงสุดแล้ว

นี่คือสิ่งที่เธอไม่เคยคาดฝันก่อนที่จะมาร่วมรายการนี้

วันนี้ความฝันกลายเป็นจริงแล้ว แถมยังดีมากอีกด้วย!

เฉินเฟยเอ๋อร์ลุกขึ้นยืน ใบหน้าของเธอมีรอยยิ้มเล็กน้อย ใช้สองมือปรบมืออย่างแรง

ภายใต้การนำของเธอ ผู้ชมในห้องส่งทยอยลุกขึ้นปรบมืออย่างพร้อมเพรียงกัน ภาพเช่นนี้ทำให้คนรู้สึกขนลุกจริงๆ เลือดลมพลุ่งพล่านจากหัวใจทะลักขึ้นไปที่สมองและใบหน้า

“ขอบคุณค่ะๆ!”

อันซินร้องไห้สะอึกสะอื้น สองขาสั่นเล็กน้อย

เมื่อก่อนตอนที่เธอร้องเพลงในบาร์ ก็เคยได้รับคำชมและเสียงเชียร์จากลูกค้า แต่จะเอามาเทียบกับเหตุการณ์ในตอนนี้ได้อย่างไร ทำให้เธอทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย

เฉินเฟยเอ๋อร์นั่งลงอีกครั้ง ลู่เฉินยกมือขึ้นเพื่อให้ทุกคนเงียบก่อน จากนั้นจึงถามอย่างนุ่มนวลว่า “สวัสดีครับช่วยแนะนำตัวเองหน่อยได้ไหมครับ”

อันซินรีบเช็ดน้ำตา ยกไมค์ขึ้นมาแล้วตอบว่า “ฉันชื่ออันซิน…”

หลังจากแนะนำตัวคร่าวๆ แล้ว โค้ชทั้งสี่คนจึงเริ่มประเมิน หรือจะพูดว่ากำลังแย่งนักเรียนก็ได้

เฉินเฟยเอ๋อร์เอ่ยก่อนว่า “คุณร้องเพลงเพราะมาก ลุงคนนี้บอกว่าร้องดีกว่าฉันอีก ฉันเห็นด้วยมากๆ ค่ะ”

เธอชี้ไปที่เลี่ยวเจี่ยที่นั่งติดกับตัวเอง

เลี่ยวเจี่ยทำหน้าบึ้ง…ลุงเหรอ ผมดูแก่ขนาดนั้นเหรอ

ผู้ชมมากมายอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ และยังช่วยกันปรบมือเชียร์เฉินเฟยเอ๋อร์

อันซินก็อดไม่ได้หัวเราะพรืดออกมา

เฉินเฟยเอ๋อร์ถามว่า “ทำไมคุณถึงเลือกเพลงนี้คะ”

อันซินตอบว่า “เพราะว่าฉันขอบเพลงนี้มากๆ ค่ะ ฉันเองก็เป็นแฟนคลับที่ตัวยงของคุณเหมือนกัน”

เฉินเฟยเอ๋อร์ยิ้มเอ่ยว่า “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นคุณก็มาอยู่ในทีมของฉันดีกว่าค่ะ ฉันชอบเสียงของคุณ และหวังว่าคุณเสียงของคุณจะได้อยู่บนเวทีตลอดไป!”

อันซินยังไม่ทันตอบ เลี่ยวเจี่ยก็ชิงพูดก่อน “งั้นผมขอพูดสองประโยค ผมคิดว่า การเลือกโค้ชจะต้องเลือกผู้อาวุโสที่มีประสบการณ์เยอะ คุณมองผมก็รู้ว่าเป็นผู้อาวุโส…”

ผู้ชมในห้องส่งหัวเราะอีกครั้ง ใครก็คาดไม่ถึงว่าเลี่ยวเจี่ยจะมีมุมตลกแบบนี้

ผู้ชมที่นั่งดูอยู่หน้าโทรทัศน์ก็รู้สึกสนุกไปด้วย รู้สึกว่ารายการนี้น่าสนใจกว่าที่คิดไว้ ที่แท้ระหว่างโค้ชด้วยกันยังต้องแย่งนักเรียน ต่างจากรายการประเภทที่คล้ายกันอย่างสิ้นเชิง

ที่ผ่านมากรรมการทำหน้าที่วิจารณ์และให้คะแนนเท่านั้น

นี่ทำให้คนจำนวนไม่น้อยเอาตัวเองเข้าไปแทนที่อันซิน ถ้าหากตัวเองยืนอยู่บนเวที ควรจะเลือกอย่างไร

เฉินเฟยเอ๋อร์ เลี่ยวเจี่ย ซือฟาง และลู่เฉิน แต่ละคนล้วนเป็นคนดัง ถูกโค้ชทั้งสี่หมายปอง แต่จำเป็นต้องเลือกแค่หนึ่งคน รู้สึกยุ่งยากลำบากใจจริงๆ!

การเลือกหนึ่งคนก็เท่ากับทิ้งอีกสามคนที่เหลือ ใครจะรู้ว่าการเลือกของตัวเองจะถูกต้องหรือไม่ และด้วยเหตุนี้จะสามารถเดินไปถึงตอนสุดท้ายได้หรือไม่

เลือกยากมากจริงๆ!

…………………………………………………………………………

Perfect Superstar

Perfect Superstar

Status: Ongoing
ชีวิตของลู่เฉินดั่งมรสุมรุมเร้า ทว่าสวรรค์ยังคงเมตตาคนสู้ชีวิต ความทรงจำและความสามารถจากในความฝัน จะช่วยปูทางให้เขากลายเป็น Perfect Superstar เอง!ลู่เฉิน ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาวัย 22 ปีจำต้องหยุดเรียนออกมาทำงานหาเงินในเมืองหลวง เพื่อช่วยครอบครัวปลดหนี้จำนวนมหาศาลวันหนึ่งเขาฝัน…เป็นความฝันที่ยาวนานมากโลกแห่งความฝันทั้งคุ้นเคยและแปลกหน้าตัวละครแสดงต่างก็มีสีสันที่ไม่เหมือนกันนักร้อง นักแสดง นักเขียนอิสระเขามีประสบการณ์กับช่วงชีวิตที่ต่างกันทั้งสามนี้ในโลกความฝันเมื่อตื่นขึ้น ลู่เฉินมุ่งหน้าสู่ความฝันของตัวเองพร้อมกับทักษะที่ได้รับมาเป้าหมายคือกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ที่สมบูรณ์แบบ!!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท