ตอนที่ 625 เงินก้อนใหญ่
ซื้อบ้านที่เมืองหังโจวหรือ
ลู่เฉินชะงักไป ก่อนจะยกยิ้มพลางถามกลับไปว่า “พี่ใหญ่ นี่นายคิดจะซื้อบ้านใช่ไหมล่ะ”
เกาเฮ่อที่ถูกพูดแทงใจดำเข้าเขินอายจนยกมือขึ้นเกาศีรษะ พลางพูดว่า “นายรู้ได้ยังไง ฉันอยากซื้อบ้านสักหลังจริงๆ นั่นแหละ ถ้านายก็อยากซื้อด้วย อย่างงั้นพวกเราก็ซื้อในละแวกเดียวกันได้”
หวังเสี่ยวหลิงออกแรงหยิกสามีตนทันที ก่อนจะพูดอย่างโกรธๆ ว่า “ธุรกิจเพิ่งเริ่มต้นก็คิดอยากอวดเก่งแล้วเหรอ”
แม้คำพูดจะกล่าวว่าอย่างนั้น แต่ในใจเธอกลับรู้สึกหวานนัก
เกาเฮ่ออยากซื้อบ้านในเมืองหัวโจวมาตั้งแต่แรกแล้ว
เนื่องจากเกี่ยวพันถึงอนาคตของเขากับหวังเสี่ยวหลิง แม้ว่าจะแต่งงานกันแล้ว แต่แม้แต่บ้านก็ยังไม่มี ทั้งสองจะลงหลักปักฐานในเมืองนี้ต่อไปอย่างไร จะทำให้พ่อแม่ของหวังเสี่ยวหลิงพอใจได้อย่างไร
ดังนั้นตั้งแต่ก่อตั้งแฮปปี้เอนเตอร์เทนเมนต์ เกาเฮ่อก็ขยันทำงานมาก มักจะทำงานดึกติดต่อกันหลายอาทิตย์ นำทีมพี่น้องที่มีอุดมการณ์เดียวกันร่วมกันทำเกมอินเทอร์แอคทีฟที่โด่งดังที่สุดอยู่ในตอนนี้
ความคิดสร้างสรรค์และเงินทุนส่วนใหญ่ของเกม ‘แฮบปี้ฟาร์ม’ แม้จะมาจากลู่เฉิน แต่หากไม่มีหยาดเหงื่อที่เกาเฮ่อลงแรงไป ก็คงไม่มีทางสำเร็จอย่างทุกวันนี้ได้
การซื้อบ้านในหังโจวถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ผลักดันให้เขาทำงานหนักอย่างไม่ต้องสงสัย
ลู่เฉินหันไปมองเฉินเฟยเอ๋อร์ “ซื้อบ้านที่เมืองหังโจวก็ไม่เลว คุณคิดว่าไง”
เฉินเฟยเอ๋อร์หัวเราะแล้วเอ่ยว่า “ได้แน่นอน”
หากว่ากันเรื่องลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ เฉินเฟยเอ๋อร์ถือว่าเป็น ‘ผู้เชี่ยวชาญ’ ในวงการบันเทิงเลยก็ว่าได้ ความมั่งคั่งในปัจจุบันของเธอส่วนใหญ่มาจากการเก็งกำไรในอสังหาริมทรัพย์ หากว่ากันตามจริง มันดูไม่เหนื่อยเท่าออกงานโชว์ตัว เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้า และออกอัลบั้มเลย
แต่การลงทุนของเฉินเฟยเอ๋อร์ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ปักกิ่ง ทางใต้นั้นไม่มีอสังหาริมทรัพย์อะไรมาก ไม่อย่างนั้นเวลามาหังโจวคงไม่ต้องพักบ้านเถียนเถียนหรือว่าโรงแรมหรอก
เถียนเถียนต้องเต็มใจแน่นอน แต่ตอนนี้เธออยู่กับลู่เฉินด้วย หากพักที่บ้านของเถียนเถียนต่อไปอย่างไรก็ไม่สะดวกเท่าใดนัก
ดังนั้นการซื้อบ้านที่หังโจวเหมาะสมมาก อีกอย่างเมืองหังโจวก็ห่างจากบ้านเกิดของลู่เฉินไม่ถึงสองชั่วโมงเท่านั้น
ลู่เฉินคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “งั้นไปวันนี้เลย ดูเสร็จก็ซื้อเสียเลย พวกนายไปดูทำเลมาแล้วหรือยัง”
เขาถามเกาเฮ่อ เกาเฮ่อเองคิดไม่ถึงว่าลู่เฉินจะรวดเร็วอย่างนี้ ไปดูบ้านตอนนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะเกาศีรษะอีกครั้ง
เกาเฮ่อแค่มีความคิดจะซื้อบ้าน แต่เพราะงานยุ่งมาก เขาจะเอาเวลาที่ไหนไปวิ่งดูบ้าน ดังนั้นเขาแทบจะไม่รู้เลยว่าในเมืองหังโจวมีทำเลไหนดีๆ บ้าง
แต่เป็นหวังเสี่ยวหลิงที่ตอบคำถามนี้ “ช่วงนี้ที่ทำเลดีก็มีแมนชั่นซีจื่อ แถวสะพานหลงเสียง พื้นที่หอพักเก่าของสำนักงานสรรพากรเดิมถูกรื้อถอนและสร้างแมนชั่นหรูขึ้นใหม่ ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณเจ็ดหมื่น พื้นที่ของอาคารสูงขนาดเล็กอย่างน้อยหนึ่งร้อยเจ็ดสิบตารางเมตร ฉันได้ยินมาว่าพื้นที่สีเขียวมีขนาดใหญ่มากและมีต้นไม้อายุเป็นร้อยปีอยู่ในนั้นด้วย . . ”
เธอพูดด้วยดวงตาเป็นประกาย ไม่ทันสังเกตว่าทุกคนกำลังจ้องตนอยู่
หวังเสี่ยวหลิงที่มีนิสัยร้อนแรง อดไม่ได้ที่จะหน้าแดง “พวกเธอจ้องฉันทำไมเล่า”
เฉินเฟยเอ๋อร์เม้มปากหัวเราะเบาๆ ก่อนหน้านี้หวังเสี่ยวหลิงยังเพิ่งพูดเองว่าเกาเฮ่ออวดเก่ง ที่จริงในใจเธอคงมีความคิดอย่างนี้ตั้งนานแล้ว ไม่อย่างนั้นจะรู้ดีเรื่องอสังหาริมทรัพย์ในเมืองหังโจวได้ยังไง
“ราคาเฉลี่ยคือเจ็ดหมื่นเหรอ”
เกาเฮ่ออดไม่ได้ที่จะกัดลิ้น “อย่างนั้นหนึ่งห้องก็ตั้งสิบกว่าล้าน พวกเราจะซื้อไหวได้ยังไง”
หวังเสี่ยวหลิงอดไม่ได้ที่จะกลอกตามองบนใส่เขา “แล้วนายจะให้ลู่เฉินไปซื้อห้องราคาหมื่นสองหมื่นเหรอ”
หลายปีมานี้บ้านในเมืองหังโจวราคาแพงขึ้นอย่างมาก ขึ้นไปไม่รู้กี่เท่า บ้านในเขตใจกลางเมืองปกติราคาทั่วไปก็ประมาณสี่หมื่น ที่อยู่ในเขตที่ดีก็ยิ่งแพงกว่าเดิม แมนชั่นซีจื่อถือว่าอยู่ในโซนตึกหายากริมทะเลสาบซีหู บ้านหลังละสิบกว่าล้านก็เป็นราคาปกติแล้ว
ก็มีเพียงบ้านราคาเท่านี้แหละ ถึงจะเหมาะสมกับสถานะทางสังคมของลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์
แต่สำหรับเกาเฮ่อแล้ว นั่นแพงไปมาก
ลู่เฉินหัวเราะพลางตบไหล่เขาก่อนจะพูดว่า “แค่สิบกว่าล้านเท่านั้น ตอนนี้นายยังกลัวซื้อไม่ได้อีกเหรอ บ้านนั้นต้องซื้อที่ดีหน่อย ใหญ่หน่อย มีศักยภาพเหมาะสำหรับการขึ้นราคาและอยู่ในเขตการศึกษาที่ดี อีกหน่อยนายกับเสี่ยวหลิงคงไม่ได้มีลูกคนเดียวแน่ใช่ไหม หากมีห้องไม่เพียงพอจะทำยังไงล่ะ”
ก่อนที่ลู่เฉินจะเสนอให้ก่อตั้งแฮปปี้เอนเตอร์เทนเมนต์ ไม่ต้องพูดถึงบ้านที่มีราคามากกว่าสิบล้านหยวน แม้แต่บ้านที่มีมูลค่ามากกว่าหนึ่งล้านหยวนก็ยังต้องให้ครอบครัวของเขาและครอบครัวของเสี่ยวหลิงนำเงินออมทั้งหมดมาใช้เป็นเงินดาวน์ จากนั้นเขาก็ต้องทำงานหนักในเมืองเพราะเงินกู้ก้อนโต ต้องทำงานหนักหลายสิบปีเพื่อชำระคืน
แต่รายรับเดือนหนึ่งของแฮปปี้เอนเตอร์เทนเมนต์ในตอนนี้เกินร้อยล้านไปแล้ว หุ้นของเขากับหวังเสี่ยวหลิงต่อให้มีเพียงสิบเปอร์เซ็นต์ ก็ได้ส่วนแบ่งตั้งหลายล้าน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าอีกไม่นานจะขายเกม ‘แฮบปี้ฟาร์ม’ ได้
เกาเฮ่อเพียงแต่สมองยังคิดไม่ทันเท่านั้นเอง
หวังเสี่ยวหลิงถูกลู่เฉินถามเสียจนหน้าแดงก่ำ เธอเองก็ตอบกลับอย่างไม่ยอมแพ้ว่า “อย่างนั้นนายกับเฟยเอ๋อร์วางแผนจะมีลูกกี่คนล่ะ”
ลู่เฉินส่งเสียงเหอะๆ “มีเท่าไหร่ก็เกิดมาเท่านั้น ทีมบาสเกตบอลหนึ่งทีมคงไม่น้อยไป ทีมฟุตบอลหนึ่งทีมก็ไม่มากไป”
เฉินเฟยเอ๋อร์หน้าแดงกว่าหวังเสี่ยวหลิงแล้ว อดไม่ได้ที่จะหยิกลู่เฉินเสียที “นายคิดว่าฉันเป็นแม่หมูเหรอ!”
เรื่องให้กำเนิดลูก เธอยังไม่เคยคิดมาก่อน แต่อนาคตแน่นอนว่าต้องมีหลายคนแน่ เพียงแค่หัวข้อนี้ช่างน่าอายเสียจริง
ทุกคนหัวเราะพร้อมกัน ในห้องทำงานนั้นบรรยากาศชื่นมื่นมาก
ลู่เฉินถามหวังเสี่ยวหลิง “แถวปินเจียงตอนนี้ราคาเท่าไหร่ แล้วอาคารสำนักงานและอาคารพาณิชย์ล่ะ”
หวังเสี่ยงหลิงคิดก่อนตอบ “หากเป็นอาคารพาณิชย์ละก็ ถ้าดีหน่อยก็สองหมื่นกว่า สามหมื่นก็มี ไกลหน่อยก็ประมาณหนึ่งหมื่นห้าถึงสองหมื่น อาคารสำนักงานส่วนใหญ่ก็เหมือนกันหมด มีตึกที่พัฒนาขึ้นมาใหม่เยอะมาก”
ลู่เฉินพยักหน้า แล้วพูดว่า “พื้นที่ของบริษัทเราตอนนี้เล็กไปแล้ว ผมคิดว่ารอให้ขายเกม ‘แฮบปี้ฟาร์ม’ ได้แล้ว ก็ซื้ออาคารสำนักงานที่นี่สักชั้นหนึ่ง แน่นอนว่าจะให้ดีก็ต้องอยู่ในศูนย์ไอที อีกอย่าง…”
“ซื้อที่อยู่อาศัยเชิงพาณิชย์อีกยี่สิบห้อง ใช้วิธีลงนามในสัญญาระยะยาวเพื่อมอบเป็นรางวัลสำหรับพนักงานหลักที่มีส่วนร่วม ตอนแรกให้อยู่ฟรี แล้วค่อยโอนกรรมสิทธิ์ให้หลังจากทำงานครบปีหรือคุ้มค่ากับที่ทุ่มเทไป”
นี่มันเงินก้อนใหญ่มาก!
เกาเฮ่อและหวังเสี่ยวหลิงอดไม่ได้ที่จะมองสบตากัน
เรื่องที่ลู่เฉินจะซื้อห้องเพื่อเป็นรางวัลให้แก่พนักงานที่ทำงานระยะยาวไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร หลายบริษัทเองก็ทำแบบนี้เพื่อจะรั้งพนักงานที่สำคัญๆ เอาไว้ มักจะใช้วิธีการให้รางวัลเป็นอสังหาริมทรัพย์หรือไม่ก็หุ้นของบริษัท
ภายใต้สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในตอนนี้ บ้านใหม่หลังหนึ่งจะทำให้พนักงานชั้นดีคนหนึ่งไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง พร้อมจะทำงานเพื่อบริษัท ในขณะเดียวกันก็เป็นเหมือนแส้และแรงขับดันสำหรับพนักงานคนอื่นด้วย
ลู่เฉินก่อตั้งบริษัทแฮปปี้เอนเตอร์เทนเมนต์ไม่ใช่เพื่อต้องการให้เป็นงานอดิเรกหรือว่าเพื่อหาเงินก้อนใหญ่สักก้อน แต่เขามุ่งมั่นที่จะทำให้บริษัทแฮปปี้เอนเตอร์เทนเมนต์เป็นส่วนสำคัญของโครงการผลงานลิขสิทธิ์ขนาดใหญ่ของเขา การลงทุนมีแต่จะมากขึ้นไปเรื่อยๆ เท่านั้น
เมื่อเทียบกับแผนการอันทะเยอทะยานของเขา เงินทุนที่จำเป็นในการซื้อบ้านหลายสิบหลังและอาคารสำนักงานชั้นเดียวนั้นแทบจะไม่ถือว่าสำคัญอะไรเลย แต่ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้นั้นยอดเยี่ยมมาก
บริษัทแฮปปี้เอนเตอร์เทนเมนต์ไม่ไร้เงิน แต่ที่ขาดก็คือ คนมีความสามารถที่จะทำให้บริษัทขึ้นไปถึงจุดสุดยอดได้ และคนมีความสามารถนั้นก็ต้องมีหลายคนด้วย
เขาเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นเกาเฮ่อหรือว่าหวังเสี่ยวหลิง ต้องเข้าใจในเจตนาของเขาแน่ๆ
……………………………………….