ตอนที่ 628 ความปรารถนา
ดูบ้านใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ก็ทำการซื้อห้องราคาสามสิบกว่าล้านหยวนไปหนึ่งห้องแล้ว ความเร็วและประสิทธิภาพในการทำงานของลู่เฉินนั้นน่าตกใจมาก ให้ความรู้สึกเหมือนกับไปซื้อเสื้อผ้าสักชุดในร้านแบรนด์เนมอย่างนั้นเลย
เมื่อเทียบกันแล้ว เกาเฮ่อและภรรยานั้นต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก พวกเขาดูไปทั้งหมดสี่ห้าหลัง สุดท้ายตัดสินใจซื้อห้องที่มีขนาดสองร้อยกว่าตารางเมตร ลดราคาแล้วเหลืออยู่ที่ประมาณสิบกว่าล้านหยวน
โชคดีที่ลู่เฉินซื้อแล้วก่อนหน้า ไม่อย่างนั้นบ้านราคาแพงอย่างนี้สำหรับพวกเขาแล้ว ไม่มีทางตัดสินใจซื้อไว้แน่ถ้าไม่มีเวลามาพิจารณาให้ถี่ถ้วน
ที่จริงแล้วสำหรับคนส่วนมาก การซื้อบ้านคือหนึ่งในเรื่องใหญ่ที่สำคัญที่สุด
หลังจากเลือกบ้านแล้ว ลู่เฉินก็โทรศัพท์ไปหาลู่ซี เพื่อให้พี่สาวที่อยู่ปักกิ่งจัดการโอนเงินเข้ามา รวมทั้งภาษีและค่าธรรมเนียมที่จำเป็นสำหรับการซื้อ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเกือบห้าสิบล้านเลย
เงินค่าซื้อบ้านของเกาเฮ่อนี้ลู่เฉินจ่ายล่วงหน้าให้ ต่อไปค่อยทำการหักออกจากเงินปันผลของบริษัทแฮปปี้เอนเตอร์เทนเมนต์
โดยใช้เวลาไม่ถึงครึ่งวัน บ้านของทั้งสองก็ซื้อสำเร็จแล้ว ทั้งยังเพียงหิ้วกระเป๋ามาก็เข้าพักได้เลย อย่างมากก็เพียงแค่ซื้อยาสีฟัน แปรงฟัน ผ้าขนหนู และของใช้ในชีวิตประจำวันอื่นๆ เท่านั้น เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านใหม่นั้นพร้อมพรักอยู่แล้ว
เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนการลงนามในสัญญา แม้ว่าหนังสือรับรองการครอบครองกรรมสิทธิ์จะไม่ได้รับในทันที แต่ว่าบัตรผ่านเข้าออกและกุญแจนั้นสามารถใช้ได้ทันที สามารถเข้ามาได้ตลอดเวลา
หวังเสี่ยวหลิงเองตอนนี้ยังไม่อยากเชื่อเลยว่า “นี่พวกเรามีบ้านแล้วจริงๆ เหรอ”
เธอหยิกเกาเฮ่อเข้าเต็มแรง ทำให้อีกฝ่ายถึงกับร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด “เธอหยิกฉันทำไมเล่า”
หวังเสี่ยวหลิงเม้มปากแน่นก่อนจะหัวเราะ “ฉันสงสัยว่าตัวเองฝันไปรึเปล่า”
เกาเฮ่อน้อยใจ “อย่างนั้นเธอก็ควรหยิกตัวเองสิ”
หวังเสี่ยวหลิงพูดออกมาอย่างมั่นอกมั่นใจว่า “ก็ฉันกลัวเจ็บนี่นา หยิกนายก็มีค่าเท่ากันนั่นแหละ”
เกาเฮ่อหมดคำพูดแล้วจริงๆ
ลู่เฉินหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะตบไหล่เขาพลางพูดว่า “พี่ใหญ่ ต่อไปพวกเราก็ไปมาหาสู่กันสะดวกแล้วนะ”
เกาเฮ่อพูดจากใจว่า “พูดจริงๆ นะ ฉันยังรู้สึกเหมือนฝันไปเลย น้องสาม…”
เขาหันกลับไปมองลู่เฉิน แล้วเอ่ยอย่างจริงใจว่า “ขอบใจมาก”
หากไม่มีความช่วยเหลือจากลู่เฉิน เขาจะมีวันนี้ได้อย่างไร จะซื้อบ้านราคาสิบล้านได้อย่างนี้ แปดเก้าในสิบส่วนคงกำลังทำงานอย่างหนักอยู่แน่ๆ ทำงานหนักจนเหนื่อยเจียนตายเพื่อจะซื้อบ้าน
ลู่เฉินเปลี่ยนชีวิตเขาไปเลย และยังเปลี่ยนชะตาชีวิตของเขากับหวังเสี่ยวหลิงไปเลยอีกด้วย
แต่ตอนนี้เขาไม่มีอะไรจะตอบแทนเลย ทำได้เพียงเอ่ยคำขอบคุณ และจดจำไว้ในใจให้แม่น
ลู่เฉินหัวเราะก่อนจะพูดว่า “ขอบคุณอะไรกัน บ้านหลังนี้นายหามาด้วยตัวเองนะ”
เกาเฮ่อส่ายหน้า ในใจยิ่งรู้สึกซาบซึ้งกว่าเดิม
เมื่อได้กุญแจมาแล้ว ลู่เฉินปฏิเสธคำเชิญอันอบอุ่นของเถ้าแก่หลินที่ต้องการเชิญทุกคนร่วมทานมื้อเย็น เขาพาเฉินเฟยเอ๋อร์กลับมายังบ้านใหม่ของทั้งคู่ คราวนี้มีเพียงพวกเขาแค่สองคน
เมื่อมายืนอยู่ตรงดาดฟ้าเปิดกลางแจ้งบนชั้นบนสุดอีกครั้ง มองไปยังทะเลสาบซีหูที่อยู่ห่างไกล ลู่เฉินกอดเฉินเฟยเอ๋อร์ไว้ในอ้อมกอด พลางพูดว่า “คุณรู้ไหม เมื่อก่อนตอนที่มาที่หังโจวเพื่อเรียนหนังสือ ก็อยากที่จะซื้อบ้านและตั้งรกรากที่นี่แล้ว”
เพียงแค่ต่อมาที่บ้านเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ความคิดของเขาเลยต้องล้มไปด้วย เลยไม่มีความปรารถนาที่จะซื้อบ้านอีกต่อไป การที่สามารถคืนหนี้สินของที่บ้านได้ก็ถือว่าเป็นโชคดีครั้งใหญ่แล้ว
ฝันครั้งหนึ่ง เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปตลอดการ และทำให้เขาได้พบเจอและครองรักกับคนในอ้อมกอดนี้
ก็เหมือนกับที่เกาเฮ่อรู้สึกขอบคุณเขาอย่างนั้น ลู่เฉินรู้สึกขอบคุณในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่รู้ว่ามีหรือไม่มีอยู่จริงอย่างที่สุด
เฉินเฟยเอ๋อร์ยื่นมือออกไปลูบไล้ใบหน้าเขา ยิ้มพลางถามว่า “ความปรารถนาที่จะซื้อบ้านตอนนี้ทำสำเร็จแล้ว อย่างนั้นนายยังมีความปรารถนาอื่นอีกไหม”
ลู่เฉินคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “มี”
เฉินเฟยเอ๋อร์สงสัย “ความปรารถนาอะไรเหรอ”
ลู่เฉินหัวเราะ “แค่ซื้อบ้านจะพอได้ยังไง ในบ้านต้องมีคุณผู้หญิงสิ ไหนจะเด็กๆ อีก”
เขาก้มหน้า “คุณช่วยผมทำฝันนี้ให้สำเร็จได้ไหม”
เสี้ยวหน้าของเฉินเฟยเอ๋อร์ถูกย้อมด้วยสีแดงปื้นจางๆ ปากก็เอ่ยว่า “ฝันไปเถอะ”
ลู่เฉินหัวเราะเหอะๆ ก่อนจะจุมพิตลงที่ริมฝีปากเธอ
กริ๊งๆ
เพิ่งจูบได้แค่สามวินาที โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าลู่เฉินก็ดังขึ้น ทำให้เขาต้องหยุดจูบเอาไว้ด้วยความเซ็ง แล้วล้วงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าออกมา
นี่เป็นเบอร์ส่วนตัวของเขา คนที่รู้เบอร์นี้มีน้อยมาก ปกติที่โทรเข้ามาจะเป็นญาติหรือมิตรสหายทั้งสิ้น
ปรากฏว่าเป็นพี่สาว
ลู่เฉินทำหน้าเซ็ง “พี่ มีอะไรหรือครับ เกิดเรื่องอะไรขึ้น”
ทั้งสองเพิ่งจะโทรคุยกันเอง
ลู่ซีพูด “ไม่มีอะไร เมื่อกี้นี้ลู่เสวี่ยโทรหาฉัน บ่นว่าแกเกือบลืมเธอไปแล้ว ใกล้จะปิดเทอมแล้ว ถึงตอนนั้นแกส่งน้องกลับไปที่บ้านได้ไหม”
ลู่เฉินละอายจนเหงื่อตก “อย่างงั้นผมจะโทรหาเธอเอง ถือโอกาสเอากุญแจบ้านให้เธอด้วยอีกดอกหนึ่ง”
ลู่เสวี่ยเข้าร่วมการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเมื่อปีที่แล้ว สอบติดที่มหาวิทยาลัยครูเจ้อตง เมื่อก่อนเธออยากเป็นครู ตอนนี้ก็ถือว่าสมปรารถนาแล้ว
มหาวิทยาลัยครูเจ้อตงอยู่ในเมืองหังโจว ครั้งนี้ที่ลู่เฉินมาถ่ายรายการ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ ก็ได้พบกับลู่เสวี่ยแล้วหนึ่งครั้ง แต่เพราะงานยุ่งมาก ช่วงนี้เลยไม่ได้พบหน้ากันเลย โทรศัพท์ก็ไม่ได้โทรหลายครั้งนัก
ตอนนี้มาคิดดู เขาเองก็ละเลยเธอไปจริงๆ
ตลอดมา ความสัมพันธ์ระหว่างลู่เฉินและลู่เสวี่ยก็ดีที่สุดมาตลอด กีตาร์ที่ลู่เฉินรักมากที่สุดตัวนั้น ก็เป็นลู่เสวี่ยที่เก็บเงินอั่งเปาซื้อให้เขาในวันเกิด
และคนที่ลู่เฉินเอ็นดูมากที่สุด ก็คือน้องสาวคนนี้นี่เอง
ลู่ซีเอ่ยอย่างอิจฉาว่า “จ่ายเงินไปตั้งหลายสิบล้านซื้อบ้าน ตัวเองกลับได้พักอาศัยอยู่ไม่เท่าไร นายนี่สุรุ่ยสุร่ายจริงๆ ฉันตอนนี้ยังอยู่บ้านเช่าอยู่เลย”
ลู่เฉินหัวเราะก่อนจะพูดว่า “อย่างงั้นกลับไปเดี๋ยวซื้อให้พี่หลังหนึ่งด้วย”
หากขายเกม ‘แฮปปี้ฟาร์ม’ ได้อย่างน้อยก็ได้เงินคืนมาหลายร้อยล้านหยวน แม้ว่าส่วนใหญ่จะต้องเริ่มลงทุนใหม่ในบริษัทแฮปปี้เอนเตอร์เทนเมนต์อีกครั้ง แต่ที่เหลือหากนำกลับไปซื้อบ้านสักหลังที่ปักกิ่งต้องไม่มีปัญหาแน่
ต่อให้ราคาบ้านที่ปักกิ่งจะแพงกว่านี้มากก็เถอะ
ลู่ซีไม่ได้หวั่นไหวไปกับเขา “ช่างเถอะ บ้านที่อยู่ตอนนี้ก็ดีอยู่แล้ว ราคาบ้านในปักกิ่งแพงขนาดนั้น ซื้อบ้านไม่สู้เช่าบ้านดีกว่า เอาเงินหลายสิบล้านไว้ในธนาคาร เอาดอกเบี้ยออกมาใช้เช่าบ้านอยู่ได้สบายๆ”
ต่อให้ตอนนี้มีเงินแล้ว แต่ในเรื่องการใช้เงินลู่ซีเองก็ยังคงละเอียดรอบคอบอยู่มาก เธอกุมอำนาจทางการเงินของเฉินเฟยมีเดียอยู่ ฉะนั้นเลยต้องใส่ใจทุกตารางนิ้ว
และที่จริงแล้วเป็นนิสัยที่ปลูกฝังมาจากก่อนหน้าที่ครอบครัวเป็นหนี้มากมายนั่นเอง
แต่อีกด้านหนึ่ง หากลู่เฉินต้องการใช้เงิน ทางพี่สาวคนนี้มีเท่าไรก็ให้ได้เท่านั้น ก่อนหน้าที่โอนเงินหลายสิบล้านมาเพื่อซื้อบ้าน เธอเองก็ถามแค่สองสามคำ ไม่ได้มีเจตนาจะคัดค้านใดๆ เลย
ทว่าพอเป็นเรื่องของตัวเอง กลับไม่ยอมเสียเงินเลย
ลู่เฉินรู้นิสัยพี่สาวดี เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่จดจำไว้ในใจ
เขาโทรหาเกาเฮ่อที่กำลังอยู่ที่บ้านหลังใหม่เช่นกัน และได้เดินทางกลับไปพร้อมกัน
เรื่องสำคัญที่สุดต่อมา เกรงว่าจะเป็นเรื่องการขายเกม ‘แฮปปี้ฟาร์ม’ แล้ว
…………………………………