ตอนที่ 659 เปิดกล้อง ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’(1)
วันที่ 25 กรกฎาคม เฉินเฟยมีเดีย สถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง สถานีโทรทัศน์เจ้อตง และองค์กรอื่นๆ ที่ร่วมมือกัน ได้จัดงานเปิดกล้องละครแนวความรักในเมืองเรื่อง ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ขึ้นที่โรงแรมแชงกรีลา ณ นครปักกิ่ง
แม้จะใช้ชื่อว่างานเปิดกล้อง ความจริงคือการประชุมพบปะของคณะผู้จัดกับสื่อแขนงต่างๆ เพราะความนิยมของ ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ในโลกออนไลน์นั้นสูงมาก ดังนั้นงานพบปะครั้งนี้จึงได้ดึงดูดสื่อน้อยใหญ่ทั่วประเทศเป็นหลักร้อยเข้ามา นักข่าวมาถึงพรักพร้อมกันบนชั้นดาดฟ้าของโรงแรมแชงกรีลาจนแน่นไปหมด
สื่อมวลชนเหล่านี้ร่วมเป็นสักขีพยาน ลู่ซีผู้จัดการใหญ่แห่งเฉินเฟยมีเดียได้ประกาศเปิดกล้องละคร ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ อย่างเป็นทางการ พร้อมด้วยพิธีเปิดผ้าคลุมสีแดงของกล้องถ่ายทำโดยบุคคลสำคัญทั้งหลาย
ผู้ที่เข้าร่วมงานเปิดกล้องครั้งนี้นอกจากลู่เฉิน ลู่ซี และเฉินเฟยเอ๋อร์จากเฉินเฟยมีเดียแล้ว ยังมีผู้บริหารระดับสูงของสองสถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่ รวมถึงผู้กำกับอย่างฟางฮุ่ยและนักแสดงอีกสิบกว่าคน
พิธีการอันสำคัญเสร็จสิ้นลงแล้ว ลู่เฉินผู้ซึ่งเป็นแกนนำหลักของละครเรื่องนี้ถูกเหล่านักข่าวรุมล้อมทันที ไมโครโฟนที่มีตราโลโก้ติดอยู่ถูกยื่นเข้ามาจนบดบังตัวเขาเกือบมิด
ลู่เฉินที่ช่วงก่อน ‘หายตัว’ ไปจากสื่อ ยิ้มเล็กน้อยและตอบคำถามพวกเขาอย่างอดทน
“คุณลู่เฉิน ละคร ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ วางแผนจะถ่ายทำนานแค่ไหนคะ”
คำถามแรกมาจากนักข่าวของ ‘นิตยสารเอนเตอร์เทนเมนต์วีกลี’
ลู่เฉินตอบโดยไม่ต้องคิด “คาดการณ์ว่าประมาณสองถึงสามเดือนก็จะถ่ายทำเสร็จครับ ละครเรื่องนี้ไม่เหมือนกับสองเรื่องก่อน ต้องมีสเปเชียลเอฟเฟกต์หลายอย่าง ดังนั้นเงินลงทุนจึงค่อนข้างสูง ระยะเวลาการถ่ายทำก็ค่อนข้างนาน”
ฝ่ายนั้นถามต่อว่า “แล้วผู้ชมในประเทศต้องรอถึงเดือนตุลาถึงจะได้ชมเหรอคะ”
“ไม่ครับ…”
ลู่เฉินส่ายหน้าตอบ “ถ้าการถ่ายทำราบรื่น ผู้ชมจะได้ชม ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ตอนแรกเร็วที่สุดประมาณวันที่ 15 สิงหาคม พวกเราใช้วิธีถ่ายทำไปออกอากาศไปเพื่อนำเสนอละครเรื่องใหม่แก่ผู้ชมทั้งประเทศครับ!”
‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ เป็นละครรายสัปดาห์!
นี่เป็นจุดเด่นที่ยิ่งใหญ่จุดหนึ่ง โดยเฉพาะสำหรับผู้ชมละครโทรทัศน์จำนวนมาก นี่ถือเป็นข่าวดี
เพราะพวกเขาไม่ต้องรอให้ ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ถ่ายทำเสร็จทั้งหมดก่อนถึงจะได้ดู!
การถ่ายทำรายสัปดาห์นิยมทำกันมากในประเทศอเมริกาและยุโรป ‘ละครรายสัปดาห์’ ไม่เพียงแต่หมายถึงการออกอากาศรายสัปดาห์เท่านั้น ทั้งการถ่ายทำ การตัดต่อ การโปรโมต รวมไปถึงวงจรการออกอากาศนั้นต่างจากละครรายวันโดยสิ้นเชิง
ทุกคนต่างเข้าใจง่ายๆ ว่าละครรายสัปดาห์นั้นคือ ละครที่ ‘ออกอากาศรายสัปดาห์ ’ความจริงไม่ใช่อย่างนี้ ‘ถ่ายไปออกอากาศไป’ ถึงจะเป็นความหมายที่แท้จริงของ ‘ละครรายสัปดาห์’
เพราะอิทธิพลจากละครอเมริกาและยุโรปทำให้ละครในประเทศเกิด ‘ละครรายสัปดาห์’ ขึ้น แต่ ‘ละครรายสัปดาห์’ ที่หลายพื้นที่ในประเทศได้นำเสนอออกไปนั้นเป็นเพียงการ ‘ออกอากาศรายสัปดาห์’ ประการเดียวเท่านั้น ความจริงแล้วเป็นเหมือนกับแขวนหัวแพะไว้หน้าร้านแต่ความจริงขายเนื้อหมา หรือก็คือถ่ายทำจบแล้วถึงออกอากาศ ตั้งใจยืดเวลาออกอากาศให้นานออกไป
การถ่ายทำละครรายสัปดาห์ที่แท้จริงนั้น ฝ่ายผลิตต้องใช้พลังและความพยายามอย่างยิ่ง ระหว่างการออกอากาศก็ต้องติดตามทิศทางของตลาดและความคิดเห็นของผู้ชม เนื้อเรื่องต้องจัดให้เป็นไปอย่างที่ผู้ชมต้องการ ทุกตอนต้องหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ ‘มีแต่น้ำไม่มีเนื้อ’
ความจริงความคุ้นเคยของผู้ชมในประเทศตอนนี้กำลังเปลี่ยนไป ละครรายสัปดาห์ตั้งแต่ไม่เคยมีจนถึงมี คนที่กล้าลองมีมากขึ้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะกลายเป็นกระแสละครโทรทัศน์ของประเทศในอนาคต
แต่สำหรับตอนนี้ การถ่ายทำ ‘ละครรายสัปดาห์’ ไม่เพียงแต่ต้องใช้ความสามารถ สิ่งที่สำคัญกว่าคือความเชื่อมั่นและความกล้าหาญ
คนอื่นหากบอกว่าเป็นละครรายสัปดาห์ นักข่าวอาจจะสงสัย แต่ถ้าเป็นคำพูดของลู่เฉิน พวกเขาเชื่อถือ เพราะละครเรื่องแรกของลู่เฉิน ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ก็เป็นละครรายสัปดาห์
ตอนนั้นเขายังถูกคนในวงการไม่น้อยหัวเราะเยาะเอา ถูกคนมองว่าไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ
สุดท้ายถูกตบหน้าหันกันหมด!
ในทางกลับกัน ละครเรื่องที่สองอย่าง ‘ฟูลเฮ้าส์’ ลู่เฉินเปลี่ยนเป็นใช้การถ่ายทำแบบดั้งเดิม คือถ่ายทำจบแล้วค่อยออกอากาศ
ตอนนี้ ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ย้อนกลับมาเป็นละครรายสัปดาห์อีกครั้ง ข่าวนี้ทำให้แฟนคลับของพวกเขาตื่นเต้น!
นักข่าวที่ถือไมโครโฟนของ ‘เดลี่ควิกส์นิวส์’ ถามว่า “คุณลู่เฉินครับ เปิดเผยได้ไหมครับว่าค่าตัวของคุณในละคร ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ประมาณเท่าไหร่”
คำถามนี้ทำให้นักข่าวคนอื่นๆ หูผึ่งทันที
ในฐานะศิลปินหน้าใหม่ที่กำลังมาแรงที่สุดของวงการบันเทิงในประเทศ ค่าตัวของลู่เฉินเป็นหัวข้อสนทนาของคนในวงการอยู่เสมอ
ค่าตัวเป็นตัวแทนของตำแหน่งในวงการ สถานการณ์ของลู่เฉินกลับไม่เหมือนคนอีกหลายคน เพลงที่เขาร้องนั้นเขาเขียนเอง ละครโทรทัศน์ที่เขาเล่นนั้นเขาเขียนบทเอง แม้แต่เงินลงทุนก็ยังลงเอง
ราคามาตรฐานที่เขาสามารถบอกได้อย่างชัดเจน เกรงว่าคงมีแค่ค่าเพลงที่เขาแต่งกับค่าพรีเซ็นเตอร์โฆษณา อย่างแรกเพลงละหนึ่งล้าน อย่างหลังเริ่มที่ห้าล้าน
สำหรับการแสดงเชิงพานิชย์ ตอนนี้ลู่เฉินแทบไม่รับงานออกรายการและการแสดงเชิงพานิชย์อื่น แม้แต่คอนเสิร์ตส่วนตัวยังไม่เคยเปิดเลยสักครั้ง
ค่าตัวยิ่งเป็นปริศนา ต่อให้ละครสองเรื่องการกับภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องจะขายดีแค่ไหน ค่าตัวของเขาก็ไม่เคยเปิดเผยออกมา แม้จะมีนักข่าวหลายคนที่ลองประมาณดู แต่เชื่อได้หรือไม่นั้นคงมีแค่ลู่เฉินคนเดียวที่รู้
จุดนี้ เชื่อว่าหลายคนสนใจ
กับคำถามที่ล่อแหลมเช่นนี้ ลู่เฉินคิดเล็กน้อยแล้วตอบว่า “เรื่องนี้ผมขอสารภาพกับทุกคนเลยว่า ค่าตัวของผมกับคุณเฉินเฟยเอ๋อร์ที่แสดงละคร ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ คือหนึ่งล้านต่อหนึ่งตอน”
หนึ่งล้านต่อหนึ่งตอน!
‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ มีทั้งหมดสามสิบห้าตอน เรื่องนี้ในบัญชีทางการของละครได้เคยประกาศไว้ใครๆ ก็รู้
แม้จะบอกว่าจำนวนตอนของค่าตัวและจำนวนตอนทั้งหมดไม่เท่ากัน ยังมีการคิดแบบเหมารวม แต่ถ้าอ้างอิงจากอัตราส่วนปกติ ทั้งลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ได้รับค่าตัวจากละคร ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ อยู่ที่ระหว่าง 25-30 ล้านหยวน!
ค่าตัวของทั้งสองคนรวมกัน เกือบเท่ากับครึ่งหนึ่งของเงินที่ลงทุนในละครเรื่องนี้แล้ว!
ฟังดูน่าตกใจ แต่ไม่มีใครคิดว่ามันสูงเกินไป เพราะด้วยชื่อเสียงของลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ในตอนนี้ ยังมีเรตติ้งของละครสองเรื่องก่อน ค่าตัวเท่านี้ไม่ถือว่าแพงเกินไป
ต้องรู้ว่านักแสดงที่มีค่าตัวสูงที่สุดในประเทศตอนนี้ ละครเรื่องหนึ่งเปิดราคาที่ร้อยล้าน แม้จะมีการบอกราคาสูงเกินจริง แต่ค่าตัวที่แท้จริงนั้นสูงกว่าค่าตัวของทั้งสองคนอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ถ้าพูดถึงเรื่องเรตติ้ง ใครจะกล้าไปเทียบกับ ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ที่ยังไม่เริ่มถ่ายทำได้
ละครเรื่องนี้ต้องดังแน่นอน มีปัญหาเพียงจะดังได้แค่ไหน
ลู่เฉินยังบอกอีกว่า “ค่าตัวของผมกับคุณเฉินเฟยเอ๋อร์ ได้หัก 50% ไปลงทุนในละครเรื่องนี้แล้ว เพื่อการันตีคุณภาพของผลงาน!”
ค่าตัวของนักแสดงนำไปลงทุนในเรื่อง เป็นวิธีที่นิยมทำในกิจการละครโทรทัศน์ แต่ไม่ค่อยได้รับการยอมรับจากผู้จัด เพียงแต่ผู้จัดของ ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว
……………………………………