ตอนที่ 660 เปิดกล้อง‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ (2)
นักข่าวตั้งมากมายลู่เฉินไม่อาจตอบคำถามทุกคำถามของพวกเขาได้หมด หลังจากแบ่งรับแบ่งสู้กับนักข่าวสำนักใหญ่หลายสำนักแล้ว เขาก็ขอตัวออกไป
‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ กำลังจะเปิดกล้อง วันนี้เขายังมีงานสำคัญมากมายที่ต้องทำให้เสร็จสิ้น
ในห้องเลี้ยงรับรองของโรงแรมแชงกรีลาที่เช่าไว้ ลู่เฉินได้พบกับศิลปินชาวเกาหลีสองคน
คนหนึ่งเป็นนักแสดงเกาหลีที่ได้รับการแนะนำจากเอสพีจี ส่วนอีกคนสถานีโทรทัศน์เคจีเอสเป็นผู้แนะนำมา เป็นนักแสดงสมทบชายลำดับสองและนักแสดงสมทบหญิงลำดับสาม ซึ่งล้วนเป็นบทที่มีความสำคัญ
เหตุผลที่รับนักแสดงชาวเกาหลีสองคนนี้มา หลักๆ ก็เพื่อตลาดในประเทศเกาหลี เพื่อเพิ่มยอดเรตติ้งของละครเรื่องใหม่เมื่อออกฉาย พร้อมกับตอบรับคำร้องขอของบริษัทที่ร่วมมือด้วย
ทั้งสองคนบินมาจากกรุงโซลประเทศเกาหลีเมื่อวานนี้ วันนี้ได้พบกับลู่เฉิน
ชายที่รับบทนักแสดงสมทลำดับสองชื่อว่าเจิ้งไท่ ปีนี้อายุยี่สิบเอ็ดปี รูปร่างสูงใหญ่หน้าตาหล่อเหลา เปล่งประกายเหมือนแสงอาทิตย์
เขาเป็นนักแสดงที่ทางเอสพีจีบ่มเพาะมาเป็นอย่างดี ปีนี้เพิ่งได้เดบิวต์ มีชื่อเสียงอยู่บ้างในประเทศเกาหลี แต่ช่วงนี้ยังไม่มีผลงานที่โดดเด่นอะไรเลย
ดังนั้นทางเอสพีจีจึงใช้ความพยายามอย่างถึงที่สุดในการผลักดันให้เขาร่วมแสดงในละคร ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ หวังว่าเจิ้งไท่จะได้โด่งดังจากละครเรื่องนี้ กลายเป็นนายทัพรุ่นใหม่ให้กับทางเอสพีจี
นอกจากร่วมถ่ายทำละคร ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ แล้ว บริษัทเอสพีจียังขอซื้อผลงานเพลงหลายเพลงของลู่เฉินจากเฉินเฟยมีเดียในราคาสูงลิ่ว ทั้งหมดเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเจิ้งไท่
บริษัทเอเจนซี่ค่ายใหญ่ที่มีชื่อเสียงของเกาหลีมาขอซื้อลิขสิทธิ์เพลงในประเทศจีนเป็นเรื่องที่มีให้เห็นน้อยมาก เพราะปกติแล้วมีแต่ค่ายเพลงของจีนที่ไปขอซื้อลิขสิทธิ์เพลงจากประเทศเกาหลีเพื่อให้นักร้องในสังกัดนำมาร้อง
ในด้านเพลงป็อป คนเกาหลีค่อนข้างภาคภูมิใจมาก แม้ว่าในอดีตพวกเขามีการเลียนแบบและร้องคัฟเวอร์เพลงฝั่งยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่นเหมือนกัน แต่ตอนนี้กิจการบันเทิงของเกาหลีนำหน้าญี่ปุ่นไปไกล ทั้งยังแผ่อิทธิพลไปทั่วทั้งทวีปเอเชีย
ดังนั้นคำร้องขอของเอสพีจี สำหรับลู่เฉินและเฉินเฟยมีเดียแล้วเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจ
เจิ้งไท่ที่ทางเอสพีจีแนะนำมานั้นก็ไม่ใช่คนธรรมดา เขาพูดภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่ว ต่อหน้าลู่เฉินเปี่ยมไปด้วยมารยาท มองลู่เฉินเป็นเหมือนอาจารย์คนหนึ่งของเขา
เทียบกับจินเจียน่านักแสดงสาวที่ทางสถานีโทรทัศน์เคจีเอสแนะนำมาแล้วแตกต่างกันมาก เธอสวยมาก รูปร่างก็ไม่เลว แต่ภาษาจีนกลับพูดติดขัดไม่คล่องแคล่ว เวลาพูดคุยกับลู่เฉินเธอมักเกร็งตลอดเวลา
หลังจากพูดคุยกับนักแสดงเกาหลีทั้งสองแล้ว ลู่เฉินก็นำทีมงานละคร ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ เข้าสู่โรงถ่ายในเขตไหวโหรวทันทีโดยไม่หยุดพัก และเริ่มต้นงานถ่ายทำในวันนั้นเลย
โรงถ่ายไหวโหรว เป็นโรงถ่ายภาพยนตร์และโทรทัศน์ที่ใหญ่ที่สุดในปักกิ่ง ลงทุนสร้างโดยไชน่าฟิล์มกรุ๊ปในปี 2010 แม้ขนาดจะใหญ่ไม่เท่าโรงถ่ายขนาดใหญ่ที่สุดทั้งสามแห่ง แต่อุปกรณ์นั้นดีใช้ได้
ที่สำคัญคือทำเลที่ตั้งนั้นดีมาก นั่งรถไฟใต้ดินสายที่เจ็ดก็มาถึงที่นี่ได้โดยตรง ทั้งยังเชื่อมต่อกับทางด่วนของเขตวงแหวน รอบด้านรายล้อมไปด้วยโรงแรมห้าดาวหลายแห่ง ห่างจากเขตเศรษฐกิจใจกลางเมืองไม่ไกล
ฉากส่วนใหญ่ในละคร ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ จะถ่ายทำในเมืองปักกิ่ง
การถ่ายทำละครเรื่องใหม่นี้ ทีมงานจะต้องมีความแข็งแกร่งสูง เป็นทีมงานเดิมจากละคร ‘ฟูลเฮ้าส์’ และได้รับการเพิ่มเติมเข้าไปอีกหลายส่วน อีกทั้งมีสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งคอยช่วยเหลือ การเตรียมการในช่วงแรกก็เต็มที่ ดังนั้นการถ่ายทำจึงเริ่มต้นอย่างราบรื่น
ลู่เฉิน เฉินเฟยเอ๋อร์ และทีมงานเฉินเฟยมีเดียทั้งหมดทุ่มเทให้กับการถ่ายทำละคร ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’
ขณะเดียวกัน รายการ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ ที่ทั้งสองร่วมผลิตด้วย ยังคงกวาดคะแนนไม่หยุดหย่อน ทั้งยังสร้างกระแส ‘เดอะวอยซ์’ ให้กับวงการรายการบันเทิงของประเทศอีกด้วย
รายการประกวดร้องเพลงนี้เริ่มออกอากาศครั้งแรกวันที่ 19 พฤษภาคม เรตติ้งเรียกได้ว่าสูงขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้เรตติ้งเฉลี่ยอยู่ที่ 6.7% กดข่มรายการบันเทิงอื่นที่ออกอากาศในช่วงเวลาเดียวกันไปเสียสิ้น ติดอันดับเรตติ้งชนิดที่เรียกได้ว่าสูงสุดอย่างไม่มีใครเทียบ
มีนักร้องหน้าใหม่มาแสดงความสามารถในรายการ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ มากมาย ทั้งอันซิน หลี่เข่อเหยียน จางเยี่ย…ล้วนโด่งดังจากการเป็นผู้เข้าแข่งขันในรายการเดอะวอยซ์อย่างรวดเร็ว และโลดแล่นอยู่ในวงการเพลงป็อปต่อไป
…
“คัต!”
ฟางฮุ่ยออกแรงโบกมือ สีหน้าที่ดูเคร่งเครียดเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม “ผ่าน”
ในที่สุดก็ผ่านแล้ว!
ตอนนี้ทีมงานละครทุกคนโล่งใจ ฉากนี้ได้ถ่ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าสิบกว่ารอบแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะนักแสดงท่องบทผิดหรือหลุดหัวเราะ ก็เพราะแสงไฟหรือภาพไม่ดีพอ ผู้กำกับฟางฮุ่ยไม่พอใจ เคี่ยวเข็ญทุกคนจนแทบกระอักเลือด
ลู่เฉินเองก็ถอนใจโล่งอก เขายื่นมือไปคลายปมเน็กไทที่คอออก บนหน้าผากมีเม็ดเหงื่อผุดออกมา รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกนึ่งอยู่บนซึ้ง เหงื่อท่วมเหนียวเหนอะหนะไปหมดทั้งตัว
เป็นนักแสดงก็เป็นแบบนี้ คนอื่นมองเห็นแต่ภาพที่ดี การทำงานกลับเหน็ดเหนื่อยยากลำบาก ความยากเข็ญที่เขาเผชิญอยู่ตอนนี้ยังถือว่าเด็กๆ
ฉากวันนี้ถ่ายทำที่มหาวิทยาลัยภาษาต่างชาติแห่งปักกิ่ง
เขารับบทเป็นพระเอกผู้เป็นมนุษย์ต่างดาวที่มาจากนอกโลก ปกปิดตัวตนมาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ดังนั้นต้องถ่ายหลายฉากในมหาวิทยาลัย
ฉากในสถานศึกษาทั้งหมดถ่ายทำที่มหาวิทยาลัยภาษาต่างชาติแห่งปักกิ่ง รีบถ่ายทำในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน
“อาจารย์ลู่เฉิน…”
ลู่เฉินเพิ่งได้นั่งพักบนเก้าอี้ของตัวเอง หญิงสาวสวยสวมชุดกระโปรงสั้นสีขาวเดินเข้ามา ยื่นน้ำดื่มให้ขวดหนึ่งอย่างเคารพ
เธอพูดติดอ่าง “ขอ…ขอโทษจริง…จริงค่ะ ฉันทำผิดพลาดไปเยอะมาก”
หญิงสาวคนนี้คือจินเจียน่านักแสดงจากเกาหลี วันนี้เธอต้องแสดงร่วมกับลู่เฉิน
บทที่จินเจียน่าแสดงคือนักศึกษาสาวที่ชื่นชอบพระเอก ประสบการณ์การแสดงของเธอยังไม่เพียงพอ ทั้งยังเคร่งเครียดง่าย การถ่ายใหม่หลายครั้งที่ผ่านมาเป็นเพราะความผิดพลาดของเธอห้าถึงหกครั้งไปแล้ว
ลู่เฉินรับน้ำดื่มมาจากเธอ ยิ้มให้เล็กน้อย “ไม่เป็นไรครับ ใครก็ทำผิดพลาดได้ เพียงแต่ต้องปรับปรุงครั้งหน้าอย่าให้ผิดอีกก็พอ วันนี้คุณทำได้ไม่เลว”
ลู่เฉินให้กำลังใจจนจินเจียน่าหน้าแดงขึ้นมา เธอมองลู่เฉินอย่างเขินอาย ค้อมตัวแล้วกระซิบว่า “อาจารย์ลู่เฉินคะ ฉันอยากเลี้ยงอาหารเย็นคุณสักมื้อหนึ่งค่ะ ไม่รู้ว่า…”
เสียงหวานๆ ของนักแสดงสาวชาวเกาหลี แม้ภาษาจีนของเธอยังไม่ดีนัก แต่เสียงอ่อนเสียงหวานของเธอแสดงถึงการยั่วยวน ทำให้คนฟังรู้สึกสยิวใจ
สายตาที่เธอมองลู่เฉิน มีความชื่นชอบโดยไม่ปิดบัง
ลู่เฉินไม่ใช่ผู้ชายซื่อบื้อ มีหรือจะมองไม่ออกว่าจินเจียน่ารู้สึกดีกับเขาและอยากใกล้ชิดเขา
ถ้าจะบอกว่าไม่หวั่นไหวเลยสักนิดจะเป็นการหลอกลวง แต่นั่นก็เป็นเพียงแรงกระตุ้นตามสัญชาตญาณ
เขายิ้มตอบ “ขอบคุณครับ แต่คืนนี้ผมมีนัดแล้ว”
………………………………