ตอนที่ 678 ปิดฉากลงอย่างสวยงาม
“ผู้ชนะของพวกเรา ได้รับคะแนนโหวตทั้งหมด 8,715,402 ใบจากทั่วประเทศ…”
ไฉ่เจี๋ยหนีบการ์ดรายชื่อใบสุดท้ายไว้ในมือ ริมฝีปากหยักขึ้นเป็นรอยยิ้มลึกลับ ดวงตาของเขากวาดมองบนการ์ด พูดใส่ไมโครโฟนว่า “จากการคำนวณด้วยคอมพิวเตอร์ได้คะแนนรวมทั้งสิ้น 127.55 คะแนน!”
ก่อนหน้านี้หลี่เข่อเหยียนได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง ได้รับคะแนนโหวตจากทั้งประเทศเจ็ดล้านกว่าใบ ห่างจากผู้ชนะล้านกว่า บัตรโหวตทั้งประเทศทางสถิติคิดเป็น 40% ดังนั้นสูงกว่าอย่างชัดเจน
ส่วนผู้ที่ได้เป็นแชมป์คืออันซินหรือจางเยี่ยกันแน่
ผู้เข้าแข่งขันสองคนสุดท้ายยืนตรงกลางเวทีกลั้นลมหายใจ อันซินหลับตาปี๋ จางเยี่ยกำหมัดแน่นอย่างลุ้นระทึก
ทั้งห้องส่งเงียบกริบ ราวกับโลกทั้งใบกำลังตั้งตารอผลการประกาศอยู่!
อาจเพราะบรรยากาศที่กดดัน ไฉ่เจี๋ยที่ชอบแกล้งให้คนลุ้นก็ยังไม่กล้าเล่นจนถึงที่สุด เขาร้องตะโกนชื่อแชมป์ผู้ชนะ
“อันซิน!”
อันซินลืมตา ทำท่าราวกับไม่อยากจะเชื่อ
เสียงประกาศของไฉ่เจี๋ยยังก้องอยู่ข้างหู แต่เธอรู้สึกเหมือนฝันอยู่ ทุกอย่างเลื่อนลอยเหมือนไม่เป็นความจริง แม้ความดีใจจะกระโดดโลดเต้นอยู่ในอก แต่ยังมีความกลัวว่าฝันหวานตรงหน้าจะมลายหายไป
ตอนนั้นเพื่อนสาวของเธอยุยงให้เธอมาลงชื่อสมัครรายการ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ รอบออดิชัน อันซินไม่เคยคิดว่าจะได้เป็นแชมป์ เพราะเธอไม่มีทั้งอำนาจและเงินทอง ยิ่งไม่ได้หน้าตาสะสวยแบบฟ้าประทาน
อันซินเคยคิดว่า คนธรรมดาอย่างเธอหากไปเข้าประกวดรายการแข่งขันอะไรก็แล้วแต่คงไม่มีทางได้รับรางวัล
สิ่งที่เธอใฝ่ฝันก็แค่การได้ออกรายการโทรทัศน์ ต่อไปงานร้องเพลงในบาร์ของเธอจะสร้างรายได้มากขึ้น
แต่แล้วเธอก็ได้เดินทางผ่านอุปสรรคจนมายืนอยู่บนจุดสูงสุดในตอนนี้!
ขอบคุณโชคชะตา!
อันซินกัดริมฝีปากแน่น น้ำตาเอ่อล้นไหลลงมา
ไฉ่เจี๋ยกล่าวต่อว่า “ยินดีกับคุณอันซินด้วยครับ ยินดีที่เธอได้เป็นแชมป์ของรายการ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ คนแรก…”
ปัง!
ตามมาด้วยเสียงระเบิด สายรุ้งนับไม่ถ้วนร่วงหล่นลงมาจากเบื้องบน
เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วทั้งห้องส่ง พวกผู้ชมตะโกนโห่ร้องดังขึ้นเป็นระลอก
ผู้เข้าแข่งขันอีกคนผิดหวังมาก แต่เขายังอวยพรให้กับอันซินตามมารยาท
เฉินเฟยเอ๋อร์ขึ้นไปบนเวที ยิ้มและโอบกอดเด็กสาวผู้โชคดีคนนี้
ยังมีโล่รางวัลที่เป็นตัวแทนแห่งเกียรติยศ!
กล้องทุกตัวในห้องส่งจับไปที่คนทั้งสอง จากนั้นกล้องตัวหนึ่งหันไปจับที่ลู่เฉิน
เหมือนกับตอนที่ลู่เฉินกอดถงซินเหยา
“ขอบคุณ! ขอบคุณค่ะ!”
อันซินกล่าวคำขอบคุณไม่หยุด กอดเฉินเฟยเอ๋อร์แน่น น้ำตาไหลพราก
ฉากนี้จะถูกบันทึกเอาไว้ในกล้องตลอดไป
ตอนนี้ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ ซีซันแรก ได้ปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์ ไม่มีเรื่องให้ต้องเสียดายอีก!
ครึ่งเดือนหลังจากนั้นยังจะมีการจัดคอนเสิร์ตเดอะวอยซ์ขึ้นในเมืองหังโจวด้วย
…
ฮัดเช้ย!
กลิ่นประหลาดเข้ามาเตะจมูกทำให้ลู่เฉินคันจมูกยุบยิบจนต้องจามออกมา สะดุ้งตื่นจากความฝันทันที
เขาลืมตาขึ้นก็เห็นรอยยิ้มอันชั่วร้ายของเฉินเฟยเอ๋อร์ ยังมีเส้นผมในมือ
ลู่เฉินหงุดหงิดทันที รีบยื่นมือออกไปคว้าใบหน้าของแฟนสาวเอาไว้ แล้วกดตัวเธอลงนอนคว่ำบนตักทั้งสองข้างของตัวเอง สะบัดมือฟาดลงไปบนก้นงอนของเธอสองที
“โอ๊ย…ฉันผิดไปแล้ว”
เฉินเฟยเอ๋อร์ยิ้มอ้อนขอให้ไว้ชีวิต ท่าทียั่วยวนนั้นทำให้ไฟของลู่เฉินยิ่งปะทุแรงขึ้น!
เฉินเฟยเอ๋อร์รับรู้ได้ถึงความแข็งของเขา ดิ้นรนให้หลุดหนีมา “รีบมากินอาหารเช้าเร็ว!”
อาหารอันโอชะที่มาเสิร์ฟถึงปากกลับหนีไป ลู่เฉินส่ายหน้าอย่างหดหู่
หลังจากอาบน้ำชำระร่างกายแล้ว เขาออกมาจากห้องนอน เฉินเฟยเอ๋อร์ตั้งอาหารเช้าไว้บนโต๊ะพร้อมแล้ว
ตอนนี้ทั้งสองอยู่ที่บ้านใหม่ในเมืองหังโจว บ้านหลังนี้เพิ่งซื้อไม่นาน ยังอยู่ไม่ค่อยคุ้นชิน
ลู่เฉินเดินมานั่งประจำที่ ยกแก้วนมสดขึ้นดื่ม คว้าหนังสือพิมพ์ที่วางอยู่ข้างๆ ขึ้นมา
หนังสือพิม์น่าจะเป็นเฉินเฟยเอ๋อร์ซื้อมาตอนที่ออกไปซื้ออาหารเช้า วันนี้เป็นหนังสือพิมพ์รอบเช้าของเมืองหังโจว มีหนังสือพิมพ์ ‘ซิตี้เอ็กซ์เพรส’ และ ‘เดลี่มอร์นิ่งนิวส์’ ที่เขาคุ้นเคย
หนังสือพิมพ์ทั้งสองฉบับนี้มียอดขายสูงมากในแถบเจ้อเจียงตะวันออก พาดหัวข่าวเกี่ยวกับรายการ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’
‘ซิตี้เอ็กซ์เพรส’ พาดหัวว่า ‘‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ ซีซันแรกสิ้นสุดลง ยอดเรตติ้งทะลุ 10%!’
ตัวเลข ‘10%’ ในนั้นถูกทำเป็นตัวอักษรหนาสะดุดตา
ในเนื้อหาข่าวกล่าวถึงตอนสุดท้ายของรายการ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ ที่ถ่ายทอดสดไปเมื่อคืนนี้ ทำสถิติเรตติ้งสูงสุดครั้งใหม่ ที่สูงถึง 10.05% สร้างสถิติใหม่ของรายการวาไรตี้ประเภทเดียวกัน
นอกจากนี้ยังแนะนำผู้เข้าแข่งขันคนเก่งทั้งสี่คน
แต่ข่าวพาดหัวของ ‘เดลี่มอร์นิ่งนิวส์’ ให้ความสนใจที่แชมป์ผู้ชนะเลิศจากรายการ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ อย่างอันซิน โดยใช้หัวข้อว่า ‘อันซินคนธรรมดา แชมป์ไม่ธรรมดา’ เป็นบทความสัมภาษณ์เธอโดยเฉพาะ
ด้วยบทความนี้ทำให้ลู่เฉินเข้าใจในตัวอันซินมากขึ้น รู้เรื่องราวของเธอมากขึ้น
‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ ไม่เหมือนกับรายารประกวดแข่งขันส่วนใหญ่ โค้ชทั้งสี่คนที่รวมลู่เฉินอยู่ในนั้นไม่ชอบให้ผู้เข้าแข่งขันมาเล่าเรื่องของตัวเอง บทในรายการก็ไม่มีการเตรียมการในเรื่องที่คล้ายกันนี้ ทั้งยังบอกกล่าวแก่ผู้เข้าแข่งขันทุกคนล่วงหน้าอย่างชัดเจน
รายการ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ ไม่ต้องอาศัยสิ่งเหล่านี้มาดึงดูดผู้ชม แต่อาศัยความสามารถในการร้องเพลงของผู้เข้าแข่งขัน!
ดังนั้นทั้งลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ต่างรับรู้เรื่องราวของผู้เข้าแข่งขันในทีมตัวเองอย่างจำกัด รู้เพียงชื่อ อายุ สัญชาติ ประสบการณ์ในการร้องเพลงและการแสดง อย่างอื่นก็ไม่รู้แล้ว
“นายคิดว่าเธอเป็นยังไง”
เฉินเฟยเอ๋อร์ส่งขนมปังทาแยมให้ลู่เฉิน แล้วถามต่อ “ฉันว่าเธอไม่เลวเลยนะ”
ลู่เฉินเข้าใจความหมายของเฉินเฟยเอ๋อร์ “คุณอยากจะให้เธอเซ็นสัญญากับเรา?”
เฉินเฟยเอ๋อร์กลอกตาใส่เขา “ทำไม ไม่ได้เหรอ ตอนนี้เธอไม่ขาดคนทำสัญญา”
‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ ทำเรตติ้งได้สูงขนาดนี้ ความนิยมของแชมป์ยิ่งไม่ต้องสงสัยเลย เฉินเฟยมีเดียไม่จับเซ็นสัญญาด้วย ต้องมีคนมาแก่งแย่งชิงตัวไปแน่นอน
เฉินเฟยเอ๋อร์เสริมต่อ “เธอฉลาดมาก เมื่อวานเธอแอบคุยกับฉันว่าอยากจะเซ็นสัญญากับเรา”
ลู่เฉินยิ้มเล็กน้อย
เฉินเฟยเอ๋อร์พูดไม่ผิด อันซินฉลาดมาก เธอรู้ดีถึงเงื่อนไขของตัวเอง ถ้าเซ็นสัญญากับบริษัทอื่นคงไม่ได้มีผลงานดีๆ ออกมา ความนิยมของแชมป์นั้นเป็นสิ่งที่เสื่อมคลายลงได้อย่างง่ายดาย
รูปลักษณ์ธรรมดาของอันซินทำให้เธอไม่มีทางได้เดินบนเส้นทางของการเป็นนักร้องไอดอลวัยรุ่น
แต่ถ้าเรื่องความสามารถ ก็ต้องอาศัยผลงานเพลงที่โดดเด่นผลักดันขึ้นมา
ดังนั้นด้วยสติปัญญาของเธอจึงเลือกเฉินเฟยมีเดีย เพราะเฉินเฟยมีเดียมีลู่เฉินอยู่ทั้งคน!
“ถ้าอย่างนั้นก็เซ็นเถอะ”
ลู่เฉินยัดขนมปังเข้าปาก แล้วเริ่มดื่มด่ำกับอาหารเช้าอย่างสบายใจ
เซ็นสัญญากับอันซินแล้ว การเดินทางมาเมืองหังโจวของเขาและเฉินเฟยเอ๋อร์ครั้งนี้ก็สามารถสรุปผลสำเร็จได้แล้ว
………………………………