ตอนที่ 689 ไม่กลัวการอวย
วันถัดมา สื่อบันเทิงออนไลน์ใหญ่ๆ ในประเทศเต็มไปด้วยข่าวของ ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’!
สื่อแบบดั้งเดิมอย่างเช่นนิตยสารยังคงสงวนท่าทีอยู่บ้าง บวกกับมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับลักษณะของไทม์ไลน์ของข่าว ดังนั้นจึงออกข่าวไม่เยอะมาก แต่สื่อออนไลน์ต้องการเรียกสายตาคนดู จึงต้องทำให้โอเวอร์หน่อย ช่องบันเทิงของเว็บท่าหลายเว็บต่างพาดหัวข่าวที่น่าสะดุดตา
4.42%!
เรตติ้งตอนแรกของ ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ เรียกได้ว่าล้ำมากทำให้คนมากมายต้องคุกเข่าขอร้องกันเลยทีเดียว หากไม่พาดหัวข่าวใหญ่คงรู้สึกผิด คนอื่นจะสงสัยถึงความเชื่องช้าและเฉื่อยชาของเว็บไซต์เอาได้
คนทั่วไปอาจจะไม่ค่อยเข้าใจความหมายที่อยู่ในนี้ แต่สำหรับคนในวงธุรกิจ เหมือนเกิดแผ่นดินไหวสะเทือนเลื่อนลั่น
ที่แท้เรตติ้งละครเรื่องหนึ่งสมัยนี้สามารถบรรลุขั้นสูงได้ขนาดนี้!
สิ่งที่สำคัญที่สุด นอกจากเรตติ้งที่น่าตกใจแล้ว ตอนแรกของ ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ก็ได้รับคำวิจารณ์ที่ดี
และเป็นคำชมที่มาเอง
การชมปากต่อปากของเหล่าผู้ชมมีความตรงไปตรงมามากที่สุด ชอบก็คือชอบ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ พวกเขาวิจารณ์ภาพยนตร์หรือละครเรื่องหนึ่งจากความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ ดังนั้นสามารถได้รับการยอมรับเป็นเสียงเดียวกันจากผู้ชมทั้งหลายจึงไม่ง่ายนัก และการช่วยโปรโมตให้ก็ถือว่าเป็นคำชมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
คำชมของแฟนคลับและผู้ชมล้นหลาม บุคคลในวงการและผู้เชี่ยวชาญก็ไม่มีใครคัดค้าน บล็อกเกอร์ชื่อดังน้อยใหญ่จำนวนไม่น้อยรวมถึงศิลปินดาราดัง ก็ยังเข้ามาวิจารณ์ ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ เช่นกัน
นักวิจารณ์ภาพยนตร์และคนโทรทัศน์ชื่อดังท่านหนึ่งระบุว่า “เป็นผลงานที่มีความจริงใจมากเรื่องหนึ่ง สามารถทำให้คนมองเห็นความตั้งใจและความทุ่มเทของผู้แต่ง”
ผู้กำกับชื่อดังบางท่านระบุว่า “เทียบกับ ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ และ ‘ฟูลเฮ้าส์’ ผมชอบ ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ เรื่องนี้ สามารถมองเห็นถึงการพัฒนาของคุณฟางฮุ่ย ผมขอแสดงความนับถือต่อเพื่อนสายอาชีพเดียวกันไว้ ณ ที่นี้”
สื่อบางแห่งกล่าวว่า “เป็นความคิดสร้างสรรค์ที่แปลกใหม่และมีเอกลักษณ์มาก เรื่องราวสามารถดึงดูดความปรารถนาในการรับชมของคนดูได้ และฝีมือการแสดงของดาราดังทั้งสองคนนี้นับวันยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ต้องสำเร็จแน่นอนอยู่แล้ว”
คนเขียนบทท่านหนึ่ง “‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ฉากซีจีตอนเริ่มทำให้ฉันตาลุกวาวมาก ได้ยินว่าเฉินเฟยมีเดียสร้างทีมสเปเชียลเอฟเฟกต์ขึ้นมาเอง ขอกดไลก์ให้เยอะๆ เลย!”
นักแสดงบางคน “…”
…
“นี่ถือว่าเป็นการอวยหรือเปล่า”
หลังจากดูคำวิจารณ์และเสียงสะท้อนที่บริษัทจัดแจงรวบรวมมาให้ในคอมพิวเตอร์เรียบร้อยแล้ว ลู่เฉินจึงขำก๊าก
‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ประสบความสำเร็จขนาดนี้ เขาก็มีความมั่นใจอยู่แล้ว ทว่ามีแต่คำชมอย่างเดียวนั้นผิดปกติอย่างไม่ต้องสงสัย โดยเฉพาะสื่อบางเจ้าที่ชมละครเรื่องนี้จนลอยขึ้นฟ้า มีบางคำที่ใช้แล้วทำให้ลู่เฉินรู้สึกขนลุกขนพองไปทั้งตัว
การออกอากาศครั้งแรกของ ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ครั้งนี้เฉินเฟยมีเดียไม่ได้ทุ่มเงินค่าโฆษณามากนัก สื่อเหล่านี้ไม่ได้รับเงินของเขาแน่นอน แต่โม้เยอะขนาดนี้มันดูแปลกมากเกินไป
ควรทราบว่ามีคำชมก็ต้องมีคำด่า ต่อให้เป็นศิลปินหรือภาพยนตร์โทรทัศน์ที่ดังมากแค่ไหน ก็ต้องมีแอนตี้แฟนกับผู้ติเตียนมากมายอยู่เสมอ ต้องมีคนแสดงตัวว่าตัวเองไม่เหมือนกับคนอื่น พยายามขุดคุ้ยจุดด้อยและประโคมโจมตี
แม้แต่ในไข่ก็ยังหากระดูกเจอ จุดบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ ถ้าหากยอมหาก็จะเจอ หากไม่เจอก็บิดเบือนเล็กน้อย เกิดการโต้เถียงใหญ่โตอย่างไรเสียก็ได้เกาะกระแส โดยไม่กลัวคนด่าทอเลยด้วยซ้ำ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของเฉินเฟยมีเดียก็สังเกตเห็นถึงความผิดปกติตรงนี้ จึงให้ความสนใจเป็นพิเศษ
เฉินเฟยเอ๋อร์ที่อยู่ข้างๆ ตอบแบบเหยียดหยาม “ยังต้องพูดอีกเหรอ…”
‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ เพิ่งจะออกอากาศตอนแรก ตามแผนการถ่ายทำที่วางไว้เหลืออีกสามสิบสี่ตอน แค่ตอนแรกก็ถูกอวยยศสูงขนาดนี้ เช่นนั้นแรงกดดันจึงมากมหาศาล
และละครเรื่องนี้ก็เป็นละครออกอากาศรายสัปดาห์ ใช้รูปแบบถ่ายทำไปพร้อมกับออกอากาศ ทางกองละครเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เห็นคอมเมนต์เหล่านี้ จึงมีผลกระทบอย่างแน่นอน
ถ้าหากผลิตและปิดกล้องเรียบร้อยแล้ว คนอื่นจะพูดวิจารณ์อย่างไรก็ไม่สำคัญ และยังประหยัดค่าโฆษณาอีกด้วย
เฉินเฟยเอ๋อร์เข้าวงการมาสิบกว่าปี กลอุบายที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งชื่อเสียงลาภยศเหมือนหมากับแมลงวันในวงการบันเทิง เธอได้ยินและได้เห็นมาเยอะแล้ว มองปราดเดียวก็รู้ถึงเจตนาและจุดประสงค์ด้านมืดของสื่อเหล่านี้
สื่อที่ชมจนเวอร์วังอลังการพวกนี้ไม่ได้มีบุญคุณความแค้นอะไรกับเฉินเฟยมีเดียโดยตรง คนที่สั่งให้พวกเขาทำเช่นนี้ ต้องเป็นคนสายอาชีพเดียวกันในวงการแน่นอน
4.42% เรตติ้งนี้ใครเห็นเป็นต้องกลัว จะไม่มีใครอิจฉาได้อย่างไรเล่า และสถานีโทรทัศน์อื่นๆ ก็ออกอากาศละครในช่วงเวลาเดียวกัน ดังนั้นเรตติ้งเรื่องอื่นถึงได้ถูกเบียดอย่างหนัก แล้วจะไม่มีศัตรูได้อย่างไรกัน
สู้กันซึ่งๆ หน้าคงทำไม่ได้ เช่นนั้นฉันจะช่วยชื่นชมคุณให้ตัวลอยไปเลย หากตอนหลังของละครมีปัญหา จะได้เหยียบย่ำให้เต็มที่ จุดประสงค์ของพวกเขาเป็นอันบรรลุผลสำเร็จ
และทางด้านสื่อ ก็อยากจะเห็นทั้งสองฝ่ายสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย ยิ่งสู้กันรุนแรงพวกเขาก็ยิ่งได้กำไร
อย่างเช่นเฉินเฟยมีเดียรู้สึกกดดันอยากจะผ่อนไฟลง ขอเพียงยอมทุ่มเงินให้พวกเขา ก็ไม่ใช่ปัญหา
มีคนหน้าใหม่เพิ่งเข้าวงการไม่เข้าใจความลับข้อนี้ ดังนั้นจึงเสียเปรียบอยู่เสมอ
“ไม่สนใจพวกเขาหรอก…”
ลู่เฉินเอ่ยต่อว่า “พวกเขาอยากอวยก็เรื่องของเขา พวกเราถ่ายทำของพวกเราต่อไป!”
เจอเรื่องแบบนี้ยากที่จะถือสาเอาความ จะฟ้องสื่อเหล่านี้ว่าชมเกินไปก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ
ถ้าไม่จ่ายเงินกลบข่าว งั้นก็ไม่ต้องสนใจ ปล่อยให้ปลิวไปตามสายลม ทำเป็นหูทวนลม!
ลู่เฉินเลือกอย่างหลังอย่างแน่นอน
การเลือกของเขามีความมั่นใจมาก ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ตั้งแต่ทำโปรเจกต์นี้ขึ้นมา ลำพังแค่บทละครอย่างเดียวก็ใช้เวลาขัดเกลามากกว่าครึ่งปี บนพื้นฐานจากความทรงจำของอีกโลกหนึ่งได้เพิ่มและปรับปรุงให้ดีขึ้นทุกด้าน
ขอพูดแบบไม่เกรงใจว่า บทละครใหม่ทิ้งห่างจากต้นฉบับพอสมควร นอกจากยังคงเซ็ตติ้งและโครงเรื่องส่วนใหญ่เอาไว้แล้ว ลู่เฉินได้เพิ่มตัวละครและเรื่องราวอีกมากมาย ทำให้เนื้อเรื่องมีสีสันเยอะขึ้น
สำหรับด้านการถ่ายทำ งบลงทุน ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ เกินร้อยล้าน ตอนถ่ายทำได้เรียกต้นทุนคืนกลับมาหมดแล้ว ดังนั้นไม่มีปัญหาใดๆ เกี่ยวกับเงินทุน การเพิ่มงบประมาณถือเป็นเรื่องที่ง่ายมาก
ที่สำคัญที่สุดคือ พลังของทีมละคร ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ แข็งแกร่งมาก ทีมงานส่วนหนึ่งเป็นทีมงานชุดเดิมจาก ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ผู้กำกับฟางฮุ่ยได้ร่วมงานกับลู่เฉินมาสองเรื่องก่อนหน้านั้น ทั้งสองฝ่ายจึงรู้ใจกันเป็นอย่างยิ่ง
ความสามัคคีกันในกองถ่ายไม่มีปัญหาใดๆ ตอนนี้เป็นเวลาที่มีขวัญและกำลังใจเยอะมาก
นอกจากนี้เดิมทีการทำฉากซีจีที่ดูอ่อนแอ เนื่องจากเฉินเฟยมีเดียลงทุนเงินมหาศาลสร้างทีมสเปเชียลเอฟเฟกต์ถือว่าได้รับการชดเชยกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ ถึงแม้จะไม่ถึงระดับชั้นนำ อย่างน้อยก็ผ่านระดับมาตรฐานไม่เป็นตัวถ่วง
ด้วยเหตุผลนานาประการ ถ้าหากลู่เฉินยังกลัว ‘การอวยเวอร์’ นั่นเป็นเรื่องที่ตลกมาก!
เรื่องราวของ ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ยิ่งถึงตอนหลังเรื่องยิ่งสนุก
และคนที่คอยก่อกวนลับหลังคงต้องมีจุดจบน่าอนาถเป็นฝ่ายเสียเปรียบเอง เสียเวลาวางแผนเปล่าๆ
เฉินเฟยเอ๋อร์โอบกอดลู่เฉิน จูบใบหน้าของเขาหนึ่งที
เธอชื่นชมและชอบมากที่สุด ก็คือความมั่นใจอันยิ่งใหญ่ที่ออกมาจากใจของลู่เฉิน
รองลงมาก็คือความสามารถของลู่เฉิน
…………………………………………………………………………